ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #23 : บ้านเริ่มเป็นบ้าน 30%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.2K
      37
      13 ส.ค. 60


    บ้านเริ่มเป็นบ้าน

              ตอนเช้าของหนึ่งสัปดาห์ต่อมานายเริ่มพาภรรยาและลูกคือนางพิศอายุราวสี่สิบต้น ๆ รูปร่างผอมผิวสองสีผมยาวตรงรวบแบบง่าย ๆ ไว้ด้านหลัง และสุรเชษฐ์เด็กชายที่กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นอายุสิบสี่ปีเข้ามาทำงานที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นอดีตบ้านของตระกูลราชวัฒโยธินที่เขาเคยทำมาตั้งแต่เด็กจนราวอายุยี่สิบห้าปี

              ชายวัยกลางคนนั่งอยู่ต่อหน้าผู้เป็นนายคนใหม่ ในขณะที่เจ้านายคนเก่านั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามส่วนเขาและลูกเมียนั่งอยู่บนพื้น นายเริ่มยังน้ำตารื้นเมื่อได้กลับเข้ามาที่เดิมอีกครั้ง และมีคุณหนูของเขานั่งอยู่ด้านหลัง แม้เธอจะไม่ได้เป็นเจ้านายเขาอย่างเมื่อก่อนแล้ว และยังมาอยู่ในตำแหน่งแม่บ้าน ซึ่งเมื่อรู้เรื่องที่อดีตเจ้านายเล่าให้ฟัง นายเริ่มถึงกับพูดไม่ออก

              “เอาเป็นว่าผมรับนายเริ่มและลูกเมียให้มาทำงานที่นี่นะครับ มีอะไรขาดเหลือก็บอกกับคุณเบญได้ เธอเป็นที่ปรึกษาและช่วยผมดูแลบ้านหลังนี้” ธนดลเอ่ยกับนายเริ่มด้วยน้ำเสียงสุภาพ โดยแนะนำว่าแม่บ้านของเขาคือที่ปรึกษาด้วยความรู้สึกส่วนลึกที่ต้องการจะให้คนในบ้านให้เกียรติเธอเท่าเทียมกับที่เขาให้เกียรติ

              “ขอบคุณครับคุณท่าน” น้ำเสียงและกิริยาที่นอบน้อมของนายเริ่มทำให้คนเป็นนายต้องรีบยับยั้ง

              “คุณท่านอะไรกัน เรียกผมว่าดลก็พอ” ชายหนุ่มแย้งอย่างรู้สึกประดักประเดิดกับคำเรียกขานที่ดูเป็นทางการราวกับเจ้าขุนมูลนายสมัยก่อน

              “ครับ คุณดล”

              “นายเริ่มคงต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อน ส่วนบ้านคนงานที่เคยอยู่ คุณเบญบอกแล้วใช่ไหมครับว่ามันทรุดโทรมมาก อยากให้นายเริ่มช่วยซ่อมแซมก่อน ค่อยย้ายเข้าไปอยู่ นายเริ่มต้องใช้คนงานมาช่วยสักกี่คนล่ะ จะพาเพื่อน ๆ นายเริ่มมาช่วยกันซ่อมก็ได้ ผมจะจ่ายค่าแรงให้” ธนดลกล่าวเสียงเนิบ เขาถูกฝึกมาอย่างดีเสมอในการพูดจากับคนที่อยู่ในปกครอง จนเบญจาที่ฟังอยู่อดนิยมในตัวเขาไม่ได้

              “ไม่ต้องใช้ใครหรอกครับ แค่ไอ้เชษฐ์ลูกชายผมคนเดียวก็พอแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือผมก็มีติดตัวอยู่บ้าง แค่ซื้ออุปกรณ์มาก็พอแล้วครับ อย่าต้องเปลืองเงินค่าแรงไปจ้างใครมาช่วยเลย” นายเริ่มสรุปอย่างง่าย ๆ

              “ส่วนน้าพิศมาช่วยคุณเบญทำงานบ้านก็แล้วกันนะครับ ผมจะจ่ายเงินเดือนให้”

              “โอ๊ย ไม่ต้องแล้วครับคุณดล เงินเดือนที่ให้ผมมาก็เยอะมากแล้ว แม่พิศเนี่ยให้เขาช่วยงานแลกข้าวแลกน้ำไปก็พอ แค่ผมได้มาอยู่ที่นี่ ไม่ต้องระเหเร่ร่อนหอบลูกหอบเมียไปอยู่ตามไซด์งานก่อสร้างก็ดีถมแล้ว” นายเริ่มว่า

              “งั้นก็ตามใจนายเริ่มเถอะ เอาเป็นว่าค่าอยู่ค่ากินของนายเริ่มกับลูกเมีย รวมทั้งค่าเล่าเรียนของลูกนายเริ่มผมจะช่วยก็แล้วกัน ถือว่าอยู่กันเหมือนญาติพี่น้องก็แล้วกันนะครับ”

              “ขอบคุณครับ คุณดล คุณใจดีเหมือนนายท่านคนก่อนเลย” นายเริ่มน้ำตาซึมอีกรอบ

              “งั้นคุณเบญพานายเริ่มกับน้าพิศไปดูห้องพักเถอะ ผมคงต้องออกไปทำงานก่อน” เขาก้มมองนาฬิกาซึ่งเกินเวลาเข้าทำงานไปเกือบชั่วโมงแล้ว  

              “ค่ะ คุณดล” หญิงสาวเอ่ยตอบเสียงเบา เขายิ้มให้ มองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความอิ่มเอมใจ

    เมื่อมีคนมาอยู่ร่วมบ้านมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าบ้านเป็นบ้าน และเขาก็หายกังวลสักทีที่ไม่ต้องทิ้งเธอให้อยู่บ้านตามลำพัง แม้จะรู้ว่าเธออยู่ละแวกนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันก็อดห่วงไม่ได้

              เพราะตอนนี้เขาไม่ได้อยากให้เธอมาเป็นแม่บ้านอย่างเมื่อก่อนแล้ว ความรู้สึกลึก ๆ นั้น...อยากมีเธอมาอยู่ร่วมบ้านตลอดไปต่างหาก

                           

    เบญจาละสายตาจากธนดลเมื่อเห็นว่าเขาเดินขึ้นรถขับออกไปแล้ว เธอหันมาทางนายเริ่มและลูกเมียที่ลุกขึ้นยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางห้อง

    “ข้าวของนายเริ่มมีแค่นี้หรือจ๊ะ” เบญจามองกระเป๋าใบใหญ่สองใบกับกล่องใบย่อม ๆ สามใบ

    “ครับ ผมมีแค่นี้แหละ เราต้องย้ายบ้านบ่อย ๆ เลยไม่ได้ซื้ออะไรเก็บไว้มาก มีแค่ทีวีเล็ก ๆ เครื่องเดียว เครื่องครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเสื้อผ้านี่ละครับ” นายเริ่มว่าพลางกวาดตามองข้าวของของตัวเอง

    “งั้นนายเริ่มขนของตามมาเลยนะจ๊ะ” เบญจาเดินนำไปยังห้องที่เตรียมไว้ให้ ซึ่งอยู่ตรงทางก่อนเข้าครัว มีสองห้องอยู่ตรงข้ามกัน

    “นายเริ่มกับน้าพิศอยู่ห้องนี้นะคะ ส่วนเชษฐ์อยู่ห้องตรงข้ามละกัน พอซ่อมบ้านพักคนงานเสร็จค่อยย้ายออกไปอยู่ที่โน่น” เธอว่าพลางเปิดประตูห้องให้นายชิดดู ซึ่งมีเตียงนอนปูด้วยชุดเครื่องนอนพร้อม เพราะเป็นห้องสำหรับไว้ต้อนรับแขกเหรื่ออยู่แล้ว ก่อนจะเดินไปเปิดอีกห้องหนึ่งแล้วเรียกหนุ่มน้อยที่ยังยืนมองห้องพ่อแม่อยู่

    “นี่ห้องเชษฐ์จ้ะ”

    “ขอบคุณครับ” เชษฐ์หันมายกมือไหว้ก่อนจะมองเข้าไปยังห้องชั่วคราวของตัวเอง ซึ่งตกแต่งไว้อย่างเรียบร้อยเหมือนกับห้องพ่อแม่ เด็กหนุ่มยืนมองค้างอยู่ครู่หนึ่ง เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีห้องแบบนี้สักที ปกติแล้วจะพักอยู่กับพ่อแม่ในไซด์งานก่อสร้างซึ่งต่อด้วยกระดานอัดหรือไม่ก็กั้นและมุงด้วยสังกะสีที่ง่ายต่อการรื้อถอนเมื่อก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เสร็จแล้ว

    “อยู่ที่นี่ดีไหมล่ะ ไอ้ตัวแสบ จะได้ไม่ต้องขาดโรงเรียนบ่อย ๆ ตอนย้ายไซด์งาน ตอนนี้ทนนั่งรถเมล์ไกลหน่อย เทอมหน้าพ่อจะย้ายมาเข้าโรงเรียนแถวนี้” นายเริ่มพูดกับลูกชายแล้วลูบศีรษะเบา ๆ

    “ครับ” เชษฐ์ตอบเพียงประโยคเดียวก่อนจะหิ้วกระเป๋าของตัวเองเข้าไปในห้อง ท่าทางของเชษฐ์ไม่ใช่เด็กช่างคุยแต่ดูอ่อนน้อมถ่อมตนดี

    “งั้นเบญไปทำงานต่อนะจ๊ะนายเริ่ม” เบญจาบอกก่อนจะปล่อยให้ทั้งสามคนได้มีเวลาจัดข้าวของและพักผ่อน

    --------------------------------------------------

    มีสมาชิกในบ้านเพิ่มอีกแล้ว พี่ดลจะได้อบอุ่นไม่ต้องกลัวผีมากเหมือนเมื่อก่อน ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และทุกคนที่แอดแฟนเข้ามานะคะ เมื่อวานเรตติ้งดีทีเดียวมีคนคอมเมนต์ให้พี่ดล น้าเบญและเจ้านิลเยอะเลย กราบขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ วันนี้ก็ขอให้อ่านกันอย่างมีความสุขนะคะ...ทิพย์ทิวา 7/3/2016 20.01

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×