คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER : 1
CHAPTER 1
ที่ทำเป็นเข้มแข็ง
ไม่ใช่ไม่อ่อนไหว
แต่ถ้า ‘ฉัน’ ร้องไห้
จะมีใครเช็ดน้ำตา
แสงแดดอ่อนๆ ที่กำลังสาดส่องเข้ามาพร้อมกับความเย็นจากธรรมชาติเพราะใครบางคนเปิดหน้าต่างระเบียงห้องนอนทิ้งไว้ส่งผลให้ผมที่กำลังนอนเอกขเนกอยู่บนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์นั้นรู้สึกตัวตื่นทันที
ผมพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นพร้อมกับพยุงร่างสูงของตัวเองลุกขึ้นนั่งได้เป็นผลสำเร็จ
“ปวดหัวชิบ” นั่นคือความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นมาทันทีที่ผมรู้สึกตัว
เมื่อคืนผมดื่มหนักมากไปหน่อยเลยส่งผลให้เช้านี้มีอาการอย่างที่เห็น เมื่อสายตาเริ่มชินกับแสงสว่างสายตาผมก็ไปสดุดเข้ากับบางอย่งที่อยู่ถัดไปซ้ายมือและนั่นคือหัวเตียง
มีรูปของผู้หญิงคนนึงที่อยู่ในอากัปกิริยาต่างๆ ไม่ว่าจะยิ้ม ทำหน้าเหวอ เดินกินไอศครีม หรือแม้กระทั่งท่าหลับ คิ้วหนาของผมเริ่มขมวดเข้าหากันทีละน้อยๆ จนเป็นปม พร้อมกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในความทรงจำเป็นฉากๆ
“ชิบหายแล้ว” ผมอุทานออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มสีฟ้าลายโดราเอมอนออกจากเตียงพร้อมกับปรากฎร่องรอยบางอย่างแบบที่ผมรู้ดีแก่ใจอยู่แล้ว
“เชี ยแล้วไอ้เต” ผมก่นด่าตัวเองอีกหลายคำพร้อมกับควานหาเสื้อผ้าที่ถอดตั้งแต่เมื่อคืนขึ้นมาใส่อย่างลวกๆ แล้วรีบสาวเท้าออกจากห้องนี้ทันทีโดยไม่คิดที่จะทำความสะอาดหรือแม้แต่จะเก็บผ้าห่มที่หล่นลงไปจากเตียงเพราะฝีมือของผมขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะตอนนี้สิ่งที่ผมจะต้องทำต่อไปนี้มันสำคัญกว่ามากเลยทีเดียว
End Talk
ทำไมวันนี้อากาศมันร้อนแบบนี้นะ ฉันคิดพลางยกแขนว้ายขึ้นเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผากพร้อมกับมือขวาที่ทำหยิบสมุดเล่มเล็กที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาโบกสะบัดพัดไปมาอย่างบ้าคลั่ง
ออสก้ากับแคนนอลมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนที่แคนนอลจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวแล้วตัดสินใจถามคำถามที่ดูเหมือนจะคาใจเขาอยู่นานออกมา
“ร้อนไหม”
“อือ” ฉันเพียงแต่พยักหน้ารับเพราะไม่อยากพูดเดี๋ยวจะเป็นการใช้พลังงานสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุเพราะถ้าเราใช้พลังงานมากไปความร้อนก็จะมีมากไปตามมาเป็นลำดับ
“แล้วใส่เพื่อ” สายตาสงสัยส่งมาที่เสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีดำที่ฉันสวมอยู่ตอนนี้
“ประสาท” นั่นคือเสียงของออสก้า ไอ้บ้านี่ถ้าเปิดปากพูดทีไรฉันนึกว่าเลี้ยงหมาไว้สักสิบตัวกัดได้เจ็บแสบจริงๆ ไม่เยอะ แต่เจ็บ เคไหม
อ้อ ลืมแนะนำตัว ฉันชื่อ ไวโอเลต อยู่ปี3 คณะสถาปัตยกรรม ส่วนสองคนนี้คือ แคนนอล และ ออสก้า เป็นเพื่อนสนิทฉันเองแล้วยังมีอีกคน เตกีล่า แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากพูดถึง
คงสงสัยว่าทำไมฉันถึงมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายถึงสามคนอาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของฉันที่เป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยแสดงออก อาจจะดูเย็นชาในบางครั้งด้วยซ้ำเลยทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงอยากคบกับฉันสักเท่าไหร่ เอ้อ ลืมไปยังมีอีกคน นิวยอร์ก ยัยนั่นคือเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวที่ฉันมีเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมแต่พอขึ้นมหาวิทยาลัยเราเรียนคนละคณะกันเลยไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันสักเท่าไหร่แต่ก็ยังโทรคุย ปรึกษาสารทุกข์สิบดิบกันตลอด
“แกยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยว่าใส่มาทำไม ร้อนจะตายชัก คนหล่องง” แคนนอลยังไม่เลิกพยายามที่จะเค้นเอาคำตอบกับฉัน
“อบผิวเดี๋ยวไม่ขาว จบไหม” ฉันตอบส่งๆ ไปเพื่อตัดความรำคาญ
“ขาวกว่านี้ก็จูออนแล้วไหม” และคำตอบนี้ก็ยังคงเป็นออสก้าอีกเหมือนเดิม นี่ชาติที่แล้วฉันเป็นชู้กับพ่อมันรึไงนะชาตินี้มันถึงตามมากัดฉันขนาดนี้
“เห็นด้วยอย่างแรง” แคนนอลพยักหน้าเออออว่าเห็นด้วย
ยอมรับก็ได้ว่าที่ฉันตอบไปมันค่อนข้างที่จะแถไกลออกไปจากความเป็นจริงมากพอดูเพราะนอกจากฉันจะไม่ดำ ไม่คล้ำแล้วเนี่ย ฉันยังขาวมาดอีกต่างหากเรียกได้ว่าขาวจนสามารถมองทะลุเข้าไปเห็นตับ ไต ใส้พุง ม้าม ยันเซี่ยงจี้เลยก็ว่าได้
“ฉันว่าถอดออกเหอะวะ เห้นแล้วแม่ งร้อนตามเลย ถอดเหอะๆ” แคนนอลทำท่าจะเข้ามาช่วยฉันถอดเสื้อจริงๆ ตามที่พูด
“ไม่ได้” ฉันตะคอกกลับไปโดยไม่ต้องคิด ก็จะให้ถอดได้ไงละในเมื่อตอนนี้ตามร่างกายของฉันมันมีร่องรอยบางอย่างที่ฉันไม่สามารถที่จะเปิดเผยให้สาธารณะชนเห็นได้
“เฮ้ย ตะคอกทำไมวะทำยังกับฉันจะปล้ำแกไปได้”
ความคิดเห็น