ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF/OS GOT7] COME AND GET GOT7 MOMENTS ! [Status : JackBam]

    ลำดับตอนที่ #21 : [OS JACKSON] I MISS YOU

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 881
      16
      12 ธ.ค. 60

    I MISS YOU

    [OS JACKBAM]




    ผมคิดถึงฮยองมากเลยล่ะ


    มันเป็นข้อความที่ถูกพิมพ์ลงบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรู ก่อนที่มือเรียวของเจ้าของจะกดลบตัวอักษรออกที่ละตัวจะเหลือเพียง


    ผมคิดถึง


    คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยก่อนตัดสินใจลบทั้งหมดแล้วพิมพ์ใหม่อีกครั้ง


    ฮยองทำอะไรอยู่? ผมคิดถึง


    คิ้วเรียวขมวดมุ่นอีกครั้ง กดลบตัวอักษรที่ตนพิมพ์ทิ้งอีกรอบแล้วตัดสินใจพิมพ์ประโยคใหม่อีกสองสามรอบ


    What’s up Bro!? Miss you


    JACK! how you doing MANNNN!?


    ฮยอง! แจ็คสัน! กากา!


    ก่อนสุดท้ายแล้วตัวอักษรทั้งหมดจะถูกลบออกเกลี้ยง ร่างโปร่งทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่ม ตาจ้องมองเพดานห้องของตนอย่างเหม่อลอย


    บรรยากาศในห้องนอนของเขาเงียบสงบ อากาศที่เริ่มเย็นขึ้นจากช่วงปลายปีทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ แสงไฟสีส้มจากดาวน์ไลท์ยิ่งสร้างบรรยากาศภายในให้ดูสงบมากยิ่งขึ้น เครื่องเงินที่เป็นของประดับตกแต่งตามสไตล์ที่เจ้าตัวชอบล้อกับแสงไฟเป็นประกายวิบวับ เสียงดังจากโทรทัศน์ที่เขาเปิดทิ้งไว้คลอไปกับเสียงร้องเบาๆของสัตว์เลี้ยงตัวจิ๋วสองตัวที่กำลังเล่นกันอยู่ที่เบาะมุมห้องยามนี้ก็ไม่สามารถสร้างความรื่นเริงใจหรือกระเตื้องให้เจ้าตัวอยากลุกขึ้นไปกับตัวจิ๋วของเขาได้


    ร่างโปร่งละสายตาจากเพดานห้อง พลิกตัวตะแคงข้างมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนโต สายตาปะทะกับโทรศัพท์มือถือที่อยู่ด้านข้าง หน้าจอยังเปิดแชทเมสเสสของใครบางคนทิ้งไว้อยู่ บทสนทนาครั้งสุดท้ายของพวกเขาสิ้นสุดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


    ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะเปลี่ยนข้อความไปกี่แบบ แต่ความหมายของข้อความนั้นที่เขาต้องการสื่อก็จับใจความได้เพียง


    ความคิดถึง


    แบมแบมคิดถึงแจ็คสัน


    พวกเขาไม่ได้คุยกันเกือบสัปดาห์แล้ว


    ตัวแบมแบมก็ยุ่งกับงาน ส่วนตัวแจ็คสันเองก็บินว่อนข้ามประเทศเป็นนก งานที่มากขึ้นบ่งบอกถึงความนิยมของพี่ชายร่วมวงว่าถีบตัวสูงขึ้นมากเพียงใด และมันมาพร้อมกับเวลาพักผ่อนที่น้อยลงรวมถึงเวลาส่วนตัว ดังนั้นการติดต่อของพวกเขานับวันยิ่งน้อยลงตามไปเท่านั้น


    แน่นอนว่าแจ็คสันคือแจ็คสัน เขาพยายามส่งข้อความหาทุกคนเท่าที่จะทำได้ แต่งานของเขาไม่เคยปราณีใคร แค่จะหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว การติดต่อโดยส่วนตัวของเขากับแจ็คสันลดลงเรื่อยๆด้วยตัวแบมแบมเองก็อยากให้พี่ชายได้พักผ่อน แต่ทุกครั้งที่ทุกคนคุยกันในกลุ่มแชท ถ้าหากแจ็คสันว่าง เจ้าตัวไม่พลาดที่จะตอบกลับมาทันที


    แต่ถ้าหากจะให้ยอมรับตรงๆ นอกจากการพูดคุยติดต่อในกลุ่มแล้ว ในความคิดแบมแบม แจ็คสันคล้ายกับค่อยๆลอยหายไปทุกที


    ชื่อเสียง


    ภาระหน้าที่


    ความฝัน


    ความตั้งใจ


    สิ่งเหล่านี้มันเป็นแรงผลักดันให้พี่ชายของเขาต้องก้าวต่อไป และเขาก็ไม่คิดขัดขวางหรือน้อยใจใดๆทั้งสิ้น แบมแบมยินดีที่เห็นพี่ชายก้าวหน้ามากขึ้นขนาดนี้ เขากับสมาชิกมักหัวเราะสนุกสนาน ตื่นเต้นและชื่นชมแจ็คสันทุกครั้งที่เห็นข่าวคราวความก้าวหน้าของเพื่อนร่วมวง


    พวกเขารู้ว่าแจ็คสันตั้งใจและพยายามหนักมากเพียงใด ดังนั้นเพื่อนสมาชิกถึงมีแต่ความยินดี รวมถึงเขาด้วย และนอกจากความยินดีที่มีต่อแจ็คสัน สิ่งที่แบมแบมมีมันมากไม่แพ้กันคือ


    ความคิดถึง


    นับวันยิ่งมากขึ้นผกผันกับการติดต่อที่ลดน้อยลง


    ร่างโปร่งเหยียดขายาวๆของเขาก่อนพลิกตัวอีกรอบ เสียงดังจากโทรทัศน์เล่นเพลงที่เริ่มเข้าช่วงเทศกาลคริสต์มาส ยิ่งบรรยากาศใกล้วันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาลแบบนี้ทีไร มันชวนให้ใจของเขายิ่งพาลเหงาหงอยไปเสียทุกที


    เสียงเตือนข้อความจากแชทกลุ่มดังขึ้นอีกครั้ง แบมแบมปลายตามองมือถือที่อยู่อีกฝั่งของเตียงเล็กน้อย อึดใจเดียวก่อนจะกลิ้งตัวไปคว้ามาเปิดดู ข้อความในกลุ่มเป็นของยูคยอมที่ส่งรูปแจ็คสันตอนขึ้นเวทีรับรางวัลเมื่อวันก่อนลงกลุ่มแชทพร้อมคำแซว ถึงจะแซวไปอย่างนั้น แต่เรารู้ดีว่าเราภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้มากเพียงใด


    รอยยิ้มบางเบาฉายขึ้นบนใบหน้า ก่อนจะเริ่มหัวเราะคิกเมื่อยูคยอมแคปหน้าแจ็คสันประหลาดๆตอนแสดงงานเดี่ยวบนเวทีส่งมา แต่ยังไม่มีวีแววจากคนที่ถูกแซวถึง ซึ่งยูคยอมชอบนักล่ะ เป็นเวลาที่เขาจะแซวได้อย่างถึงพลิกถึงขิงก่อนเจ้าตัวจะมา


    แบมแบมร่วมวงสนทนาด้วยอีกพักใหญ่ก่อนตัดสินใจจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็แวะเล่นกับตัวจิ๋วทั้งสองครู่ใหญ่ กล่อมเข้านอนก่อนย้ายตัวเองมาบนเตียงของตน ปิดไฟทั้งหมดเหลือเพียงไฟประดับที่หรี่ลงเกือบมืดเพื่อสร้างบรรยากาศคลอไปกับเสียงเพลงจากลำโพงที่เปิดตามเพลย์ลิสที่เขาชอบฟัง


    บรรยากาศคล้ายกับมาเงียบสงบอีกครั้ง ทำให้เขามีเวลาทำความเข้าใจกับความคิดของตนเอง


    แม้จะอาบน้ำแล้ว แต่มันยังไม่หายไป


    ความคิดถึง… ยังไม่หายไป


    ให้ตายเถอะ


    สบทอย่างหัวเสียเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดมุ่น คว้ามือถือขึ้นมาอีกรอบก่อนเปิดแชทพร้อมพิมพ์ข้อความ


    มหกรรมพิมพ์แล้วลบเกิดขึ้นอีกครั้ง


    เขาสรรหาคำพูดที่ดีๆส่งไปไม่ได้ ถ้าหากจะให้พิมพ์ตามความรู้สึกตอนนี้คงมีเพียงคำว่า


    ‘คิดถึง’


    และพิมพ์ไปร้อยคำพันคำก็คงไม่พอ


    แบมแบมอยากติดต่อ อยากพูดคุยเล่นกับพี่ชายคนสนิท แต่กลัวจะรบกวนเวลาพักผ่อนของอีกฝ่าย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เวลาล่วงเลยผ่านเข้าเช้าวันใหม่


    ถ้าไม่พักผ่อนอยู่ ก็คงทำเพลงอยู่นั่นแหละ


    คิดได้ดังนั้นก่อนตัดสินใจวางมือถือลง ปล่อยให้ตัวอักษรไม่กี่ตัวยังคงค้างอยู่บนหน้าจอโดยไม่ได้กดส่งไป


    พลิกตัวเข้าด้านข้างของเตียงก่อนตัดสินใจปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้ความคิดไหลรินไปกับทำนองและบทเพลงรื่นหู


    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ แบมแบมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเขาหลับไปหรือยัง เมื่อความคิดของตนขาดหายเป็นระยะสลับกับเสียงเพลงที่ดังกล่อมเบาๆแว่วเข้ามาในโสตประสาท จนกระทั่งรับรู้ถึงแรงยวบบนที่นอนของตน วูบแรกใจเกิดนึกพลั่นพึงกับสิ่งที่มองไม่เห็น ก่อนครู่ต่อมาจะรู้สึกถึงน้ำหนักที่พาดกดทับลงบนลำตัว ความอบอุ่นแนบชิดที่ด้านหลัง กลิ่นบางเบาที่คุ้นเคยลอยเตะจมูก


    แต่กลิ่นนั้นกลับรวบรวมความคิดที่ยุ่งเหยิงของเขาให้สงบลงอย่างแท้จริง ไม่แม้กระทั่งลืมตาหรือหันกลับมามอง แต่รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม


    “ฉันเตือนนายเสมอนะ ถึงจะไม่เปิดฮีทเตอร์แต่นายก็ควรเปิดเครื่องทำความชื้น อากาศเย็นไม่ดีต่อลำคอ” เสียงแหบดังกระซิบขึ้นด้านหลัง สัมผัสอุ่นจากลมหายใจรินรดใบหู


    คนในอ้อมกอดพรูลมหายใจหัวเราะกับประโยคดุที่อีกฝ่ายมอบให้


    “นี่คือคำพูดของคนที่ไม่ได้คุยกันร่วมอาทิตย์เหรอฮยอง”ถามกลับไปเสียงเรียบคล้ายคนที่กำลังเคลิ้มใกล้หลับแต่น้ำเสียงมีแววหยอกเย้า


    “ฮยองรอนายส่งเมสเสสไปหาตลอดนั่นแหละ แต่นายก็ไม่ส่งไปเสียที” คำตอบที่ได้รับกลับมากลับเปลี่ยนประเด็นไปเสียแล้ว ไหนจะยังน้ำเสียงที่แข็งขึ้นนั้นมีแววไม่ชอบใจอยู่มากโขพอที่จะบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวไม่พอใจขนาดไหน


    “นี่ถ้าฉันไม่ส่งหานายก่อน นายก็ไม่คิดจะส่งหาฉันเลยหรือไงแบมแบม”


    “ทีฮยองยังไม่บอกผมเลยว่าจะกลับวันนี้”


    “ก็เซอร์ไพรซ์ไง! เซอร์ไพรส์ นี่นายกำลังเปลี่ยนเรื่องอยู่นะ! ไม่คิดถึงฉันเลยหรือไงกัน ทำไมไม่เมสเสสหากันบ้าง!?” เสียงเข้มที่เริ่มดังขึ้นอย่างไม่พอใจ เจ้าตัวพยายามชะโงกหน้าข้ามมาดูคนในอ้อมแขน ทั้งยังพยายามพลิกตัวอีกฝ่ายให้กลับมาทางตน แต่แบมแบมยังคงปิดเปลือกตาสนิท ไม่ขืนตัวแต่ก็ไม่ยอมหันกลับไปทางอีกฝ่าย ปล่อยให้คนขี้น้อยใจเขย่าตัวเองอยู่แบบนั้น


    “ฮยองเบาๆสิ เดี๋ยวลูกผมตื่น” ได้ยินคนปรามดังนั้น คนที่กำลังโวยวายอยู่ก็ได้แค่อ้าปากค้างพะงาบๆอย่างต่อความไม่ถูก ใจอยากโวยวายดังขึ้นอีก ปรายตามองผ่านแสงสลัวเห็นลูกรักที่ว่านอนกองเป็นก้อนอยู่ที่มุมห้อง ความไม่พอใจพาดผ่านดวงตาคม


    “อ๋อใช่สิ เดี๋ยวนี้ฉันก็สู้แมวสองตัวนั่นไม่ได้แล้วสิ ไหนนายเคยบอกว่าฉันเป็นเหมือนขนที่ปกคลุมร่างกายนาย คอยปกป้องนายไง! แล้วทำไมตอนนี้นายเห็นแมวไม่มีขนนั่นดีกว่าฉันได้กัน! มันไม่มีขนนะ!”สะบัดเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ หน้าตาว่าอย่างเอาเรื่อง จนแบมแบมที่ถึงหลับตาก็พอจะจินตนาการหน้าตาใส่อารมณ์ของคนเล่นบทโศกได้จนหลุดหัวเราะเบาๆ


    “ไม่เอาน่า ฮยองอย่าพาลสิ มันไม่ได้ไร้ขนนะ แค่ขนมันน้อย พวกมันน่ารักจะตายไป”


    “นายยังไม่แก้อีกว่านายไม่ได้เห็นพวกมันดีกว่าฉัน แถมนายยังปกป้องพวกมันอีกแบมแบม! นายไม่คิดถึงฉันจริงๆเหรอไง!?”ว่าอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นด้วยทั้งหมั่นเขี้ยวทั้งแสดงความไม่พอใจ


    “ฮยองเข้าห้องผมมาได้ยังไงน่ะ ขอคีย์การ์ดเมเนฮยองมาเหรอ”คนถูกคาดคั้นยังคงไพร่ตอบไปอีกเรื่อง ไม่มีใครมีคีการ์ดห้องเขา เว้นแต่เมเนเจอร์ของพวกเขา


    “ใช่ แต่ช่างมันเถอะ จะตอบได้หรือยังว่าคิดถึงฉันหรือเปล่า แบมแบม”เสียงโวยวายกระเง้ากระงอดเริ่มเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นอย่างจริงจัง


    ร่างโปร่งผ่อนลมหายใจแผ่วเบา รอยยิ้มบางๆยังคงฉายบนดวงหน้าใส แบมแบมขืนตัวในอ้อมแขนของพี่ชายเล็กน้อยเพื่อพลิกตัวกลับมานอนตรง


    มือเรียวยัดโทรศัพท์ที่ตนพึ่งคว้ามาให้อีกฝ่าย ก่อนจะโกยผ้าห่มมากองกอดไว้ที่อกแล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง


    แจ็คสันแม้จะยังงงๆกับการกระทำของคนในอ้อมแขน แต่ยังลอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ สายตามองโทรศัพท์ของอีกฝ่ายที่เขาถือไว้อย่างุนงงแล้วกดพาสเวิสที่ตนรู้เพื่อปลดล็อก ก่อนที่หน้าจอจะฉายขึ้นเรียกรอยยิ้มกว้างได้จากคนที่เหนื่อยจากการเดินทางข้ามประเทศเป็นว่าเล่น


    ดวงตาคมมองหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงเป็นโปรแกรมแชทที่ถูกเปิดไว้ ในช่องพิมพ์ข้อความยังมีตัวอักษรไม่กี่ตัวที่เหมือนเจ้าของเครื่องพิมพ์ค้างไว้


    คำที่พิมพ์ค้างไว้นั้นสั้น กระชับ แต่อ่านแล้วได้ใจความชัดเจนแน่นอน เหลือเพียงอย่างเดียวคือเจ้าของไม่ได้กดส่งข้อความนั้นไป


    ข้อความที่สร้างรอยยิ้มกว้างให้แจ็คสัน แล้วยังลบความขุ่นข้องหมองใจที่มีก่อนหน้าไปหมดสิ้นด้วยตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวบนหน้าแชทข้อความของเขา


    ‘คิดถึง’


    “คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงมาก”เสียงเข้มติดแหบก้มกระซิบแผ่วเบาบริเวณใบหู แต่น้ำเสียงที่แผ่วเบานั้นกลับฟังหนักแน่นจริงจัง


    แจ็คสันไม่เห็นใบหน้าของตัวแสบได้ชัดเจนนักเพราะผ้าห่มผืนโตที่เจ้าตัวดึงมากองไว้ที่หน้าอกแล้วยังแทบปิดไปทั้งหน้า แขนแกร่งกระชับคนด้านข้างให้แน่นขึ้นอีกครั้ง ปลายจมูกก้มลงได้กลิ่นหอมประจำตัวจากอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เผลอสูดหายใจลึกรับกลิ่นหอม ความเหนื่อยล้าที่มีในช่วงเวลาที่ผ่านมาคล้ายสลายไปหมดสิ้น


    บรรยากาศเงียบสงบที่มีเพียงเสียงเพลงขับกล่อมเบาๆ แสงมืดสลัวแต่ยังทำให้พอมองเห็นสองร่างที่นอนซุกกันอยู่บนเตียงใหญ่ คนตัวบางกว่าจากตอนแรกที่ยอมอยู่ในอ้อมกอดเพื่อรับไออุ่นของคนมาใหม่ยามนี้เริ่มยุกยิกอยู่ภายใต้อ้อมแขนเดิม แจ็คสันที่พึ่งรู้สึกตัวว่าตนเองเผลอเคลิ้มคล้ายใกล้หลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เริ่มรู้สึกตัวจากแรงยุกยิก ออกแรงรัดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงเตือนให้อยู่นิ่งๆ


    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปแล้วแจ็คสันกระชับแขนตนอีกครั้ง รับรู้ถึงไออุ่นของเด็กแสบในอ้อมแขน สูดกลิ่นหอมอ่อนๆที่ราวกับเป็นยากล่อมประสาทให้เขาเคลิ้มไปสงบได้อีกครั้ง และมันไม่ยากเลยที่จะทำให้คนที่เหนื่อยจากการเดินทางไกลเคลิ้มกึ่งหลับกึ่งตื่นได้อีกครั้ง


    ได้ผลแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นที่ร่างโปร่งจะอดที่ขยับยุกยิกไม่ได้จนเป็นการปลุกเพื่อนร่วมเตียงอีกรอบ


    “จะอยู่นิ่งๆไม่ได้รึไงฮึ ฮยองง่วง”เสียงทุ้มเปรยขึ้น แบมแบมยุกยิกอีกเล็กน้อย ยู่หน้า


    “ผมอึดอัดอ่ะฮยอง”ว่าเสียงแผ่วเบาอย่างรับรู้ผลที่จะตามมา ครู่เดียวก่อนที่คนที่รัดเขาอยู่จะผละตัวออกพรวดแต่ไม่ยอมปล่อยวงแขนที่ยังรัดเขาอยู่


    “อะไรนะ! นายพูดอีกทีสิ พูดมันอีกรอบสิ!”


    เป็นดังคาด พี่ชายของเขาโวยวายใหญ่โต สีหน้าคาดคั้นเอาเรื่อง แต่แบมแบมกลับหัวเราะร่ากับสิ่งที่ตนคาดไว้


    เดาผิดเสียทีไหน แต่ทำไงได้


    “ไม่เอาซี่ อย่าพึ่งงอน ก็ผมอึดอัดนี่ฮยอง มันเบียดอ่ะ”ประโยคสุดท้ายเริ่มแผ่วลงเมื่อเห็นประกายคมในแววตาของอีกฝ่ายได้ชัดแม้ในแสงสลัว


    “ทีกับไอ้โล้นสองตัวนั้นมันนอนทับทั้งวันทั้งคืนไม่กล้าขยับ แต่กับฉันนายบอกว่าอึดอัดงั้นเหรอ!? How can you do this to me!? I’m your brother, your family, your group member, I’m YOUR JACK!”


    สลดไปได้ไม่ถึงสิบวินาที พอแจ็คสันเริ่มร่ายมหากาพย์ความสำคัญที่ตนเองมีก็ทำเอาแบมแบมหลุดหัวเราะคิกคักอีกรอบกับความช่างน้อยใจและสรรหาคำพูดของอีกฝ่ายก่อนเอ่ยแย้งให้ลูกรัก


    “มันไม่โล้นเสียหน่อยนะฮยอง พวกมันน่ารักจะตาย!”


    แจ็คสันที่เห็นว่าแบมแบมไม่ยอมหยุดขำเสียทีแถมยังพลอยแก้ตัวให้ไอ้ก้อนเหี่ยวๆสองก้อนนั่นอีกก็ชักไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ ใบหน้าคมมุ่นหัวคิ้ว ปล่อยแขนที่รัดอีกคนไว้ออกแล้วพลิกตัวกลับไปอีกฝั่งก่อนจะแน่นิ่งไปครู่หนึ่ง เห็นดังนั้นแบมแบมถึงได้รู้สึกว่าชักท่าไม่ดีเสียแล้ว


    ยันตัวชะโงกหน้าดูอีกฝ่าย เห็นว่าหลับตาสนิทแต่คิ้วเข้มๆนั้นกลับขมวดมุ่นก็ชักเริ่มหนักใจ ตัดสินใจใช้นิ้วจิ้มๆเขี่ยๆแผ่นหลังอีกฝ่ายเบาๆอยู่ครู่หนึ่งแต่แจ็คสันยังคงนอนแน่นิ่ง


    “ฮยอง”เรียกเสียงแผ่วเบาพร้อมยื่นใบหน้าไปเกยไว้บนไหล่กว้าง เหลือบดูใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายยังสงบนิ่งถึงได้ร้องเรียกอีกรอบ


    “Jackson”แจ็คสันยังคงนิ่งเฉยอีกเช่นเคย แบมแบมเขยิบใบหน้าเข้าใกล้มากขึ้นอย่างตั้งใจก่อกวน เรียกชื่ออีกครั้งช้าๆ แผ่วเบา เป็นจังหวะอย่างจงใจพ่นลมหายใจให้อีกฝ่ายจั๊กจี้


    “Jackson, Come on”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มหลุกหลิกเล็กน้อย พร้อมท่าทางที่ดูคล้ายกำลังกลั้นยิ้มอยู่ คนง้อถึงได้เริ่มยิ้มออก เอ่ยแก้ตัวเสียงเบากึ่งออดอ้อน


    “ก็พี่รัดผม แอร์ไม่ได้เปิด แล้วยังห่มผ้าอีก มันเลย.. โธ่ Come on, Mann”


    “What!? อะไร หลังจากที่นายพูดกับฉันแบบนั้นแล้วตอนนี้ยังทำเหมือนฉันเป็นคนผิดอีกเหรอ!”


    “ไม่เอาน่าฮยอง”แบมแบมร้อง แต่ยังไม่วายหัวเราะเอิ๊กอ๊ากตามประสาเมื่อพี่ชายยอมพูดกับเขาแล้ว แขนเรียวเอื้อมกอดคนตัวโตกว่าแล้วเขย่าเชิงหยอกล้อออดอ้อน


    “งั้นบอกมาว่าระหว่างฉันกับเจ้าพวกหนังเหี่ยวนั่นอะไรสำคัญกว่ากัน! You have to choose, just one, only one!”


    “Come on ฮยอง! I can’t choose! มันไม่เหมือนกันสักหน่อย”แบมแบมโวยวายกลับบ้าง “คำถามแบบนี้ก็เหมือนให้ผมเลือกระหว่างแขนซ้ายหรือขาซ้ายอ่ะ”


    แจ็คสันจิ๊จ๊ะในลำคอ ปรายตาปรามาสคนที่เลือกไม่ได้ระหว่างเขาที่อยู่ด้วยกันมา7ปีกับแมวที่พึ่งมาอาศัยได้เดือนสองเดือน ขยับตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียงพร้อมกอดอกมาดมั่น


    “งั้นบอกมาว่า ฉันเป็นอะไรสำหรับนาย”


    “What are you to me?”แบมแบมชะงักทวนคำถามกลับ


    “Don’t ask me! Just say it!”


    “ผมก็เคยบอกไปแล้วนี่”


    “บอกอะไร”


    แบมแบมถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายตีหน้าซื่อ


    “My Bro, My homie”


    “แล้วไงอีก”


    “My family, My Jack,”


    “เป็นคนสำคัญใช่ไหม”


    “ยังต้องตอบอีกเหรอฮยอง”โอดครวญใส่อีกฝ่ายเสียงเบา


    “นายจะไม่ตอบ?”


    “ก็ไม่เห็นต้องตอบเลย รู้ๆกันอยู่”เสียงแผ่วว่าอย่างยอมจำนน จนคนที่กอดอกอยู่เริ่มยิ้มกริ่มเมื่อต้อนตัวแสบได้อย่างพอใจ เปรยถามเชิงหยอกเย้า


    “สำคัญมาก”


    “อือ”


    “สำคัญที่สุด”


    “อื้อ”


    “แบมแบมอ๊าาาา”แจ็คสันร้องเสียงสูงอย่างสุขใจ รอยยิ้มกว้างกระจายเต็มใบหน้าหล่อเหลา โถมตัวเข้าใส่คนด้านข้างที่ตอนนี้ตัวชักจะสูงกว่าเขาไปเสียแล้ว แต่คงต้องบอกว่าขนาดตัวนั่นยังห่างกันอีกหลายขุม


    “อะไรของฮยองเนี่ย ไหนว่าง่วงไง นอนได้นอนแล้ว”แบมแบมว่าพรางเขยิบตัวหลบแจ็คสันที่อีรุงตุงนังอยู่ด้านข้างไปมา กว่าจะพากันนอนสงบเรียบร้อยกันได้ เหงื่อชื้นก็เริ่มขึ้นตามไรผมกันเสียแล้ว สุดท้ายก็พากันกลับมานอนโดยท่าไม่ต่างจากเดิมมากนัก แบมแบมนอนตรงศีรษะหนุนแขนของแจ็คสันที่เจ้าตัวมายกศีรษะของเขาไปหนุนไว้เอง ส่วนแขนอีกข้างของแจ็คสันก็พาดกระชับไปบนร่างผอมของคนเด็กกว่า


    “นายทำเหมือนไม่คิดถึงฉันเลยนี่”


    “ผมให้ฮยองดูมือถือไปแล้วนี่”


    “แต่นายไม่ได้กดส่ง”


    “คราวหน้าผมจะกด”


    “ดีมาก”


    “งั้นหมายความว่าฮยองจะไม่ส่งหาผมใช่ไหม”


    คำถามที่แจ็คสันชะงักไป ตาเบิกกว้าง ยกแขนที่จับให้หัวทุยของอีกฝ่ายหนุนขึ้นเพื่อให้แบมแบมหันมามองหน้า


    “ฮยองจะส่งแล้วให้นายส่งตอบต่างหาก!”ตอบเสียงขึงขังไปก่อนยิ้มประหลาด นัยน์ตาวิบวับเจ้าเล่ห์


    “ไหน ฮยองยังไม่ได้ยินนายบอกคิดถึงเลยนี่”


    “แบมแบม”


    “แบมอ่า”


    “คิดถึงฉันจริงหรือเปล่าเนี่ย ไหนพูดให้ฟังหน่อย”


    แบมแบมที่ถูกวอแวอยู่พักใหญ่ ถอนหายใจเหนื่อยอ่อน รอยยิ้มเฝื่อนผุดขึ้นอย่างอดทนอดกลั้นกับคนที่ถึงแม้จะเหนื่อยจากการเดินทางแต่ยังอุตส่าห์แบ่งพลังที่เหลือน้อยนิดมาก่อกวนไม่เลิก


    ขยับพลิกตัวตะแคงเข้าหาร่างใหญ่ ใบหน้าเรียวผินมองคนที่อยู่ด้านข้าง ดวงหน้าหล่อของอีกฝ่ายอยู่ใกล้เพียงคืบ ใบหน้าที่แม้จะนอนตะแคงมองก็ยังดูหล่อ ยิ่งเวลาไร้เมคอัพยิ่งดูดิบสมวัยของเจ้าตัว เสียแต่มีรอยวิบวับในดวงตาคมที่โดดเด้งในแสงสลัวจนน่าหมั่นไส้


    “แบมอา”


    ดวงตามองสบกับตาคมของอีกฝ่าย สีหน้าคาดหวังนั้นทำเอาแบมแบมพรูลมหายใจระบายรอยยิ้มจางๆอีกครั้ง ก่อนสุดท้ายจะยอมเอ่ยคำพูดไม่กี่ตัวอักษรที่เคยอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของเขา


    “I miss you” เสียงใสเอ่ยขึ้นมันคล้ายดังใกล้ชิดใบหู รับรู้ถึงไออุ่นจากลมหายใจเล็กน้อย เสียงนั้นแผ่วเบาท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลง แต่มันกลับดังชัดใจในจิตใจของคนฟัง


    แจ็คสันยิ้มกว้างตอบรับดวงตาคู่นั้นที่มองสบเขา


    “ภาษาเกาหลีล่ะ”ร้องขออีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ แต่คราวนี้แบมแบมไม่ต่อความยาว ยอมเอ่ยตามใจคนอยากฟัง


    “보고싶어”

    (โพโกชิพอ)


    “ภาษาไทย”


    “คิดถึง”


    “ภาษาจีนกลาง”


    “想你喔”

    (เสียง หนี่ โอ)


    “จีนกวางตุ้ง”


    “我掛住你”


    “พอแล้วนะฮยอง ผมพูดภาษาได้แค่นี้”ร้องค้านก่อนอีกฝ่ายจะสรรหาภาษาอะไรมาทดสอบความสามารถของเขาอีก


    แจ็คสันยิ้มกว้าง หรี่ตาลงอย่างหยอกล้อก่อนคว้าอีกฝ่ายเข้ามาซุกกับตัวเอง ซึ่งแบมแบมก็ยอมแต่โดยดี เสียงหัวเราะใสดังขึ้นบางเบา


    บรรยากาศเริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง ทั้งคู่ปิดเปลือกตาสนิท หลับตาฟังเสียงดนตรีที่ดังแผ่วเบาล่องลอยในแสงสลัว อากาศที่เริ่มเย็นมากขึ้นอีกในยามค่ำคืนทำให้แบมแบมไม่ผละตัวออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย แต่เลือกที่จะซุกตัวเข้ากับร่างหนาที่แผ่ไออุ่นออกมาจางๆ


    ศีรษะทุยขยับไปมาเล็กน้อยเพื่อหามุมสบายของตนบนท่อนแขนแกร่งของพี่ชายอย่างไม่นึกเกรงใจว่าอีกฝ่ายจะเมื่อยหรือไม่ในยามเช้า พวกเขาทำแบบนี้จนคล้ายกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้วในตอนที่ยังอยู่หอพักเก่า


    “แค่นี้ก็พอแล้ว”


    แบมแบมเลิกคิ้วทั้งที่ยังหลับตาแปลกใจกับประโยคที่ดัวขึ้นเหนือศีรษะ ครู่เดียวก่อนจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงหมายถึงคำบอกคิดถึงหลากหลายภาษาที่พึ่งทดสอบตนไป


    นึกได้ดังนั้นก่อนรอยยิ้มจางจะระบายเต็มดวงหน้าใส คงมีแต่ตัวเขาเองที่รู้ว่าคำบอกคิดถึงหลายภาษาแค่นั้นไม่เท่าความคิดถึงที่เขามีในตอนแรกด้วยซ้ำ


    แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้อีกฝ่ายอยู่นี่ ความคิดถึงอะไรนั่นไม่จำเป็นแล้ว เขาแทบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าคิดถึงคืออะไร ขอแค่ยังอยู่ตรงนี้


    บุคคลที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของเขาได้ คนที่ขอแค่อยู่ด้วยก็สบายใจ คนที่ปัดเป่าความคิดถึงให้หายไปได้


    คนสำคัญของเขา


    แจ็คสัน หวัง


    ผมไม่คิดถึงฮยองแล้วล่ะ








    I Miss You


     


    [12/12/60]


    กรั๊ซซซ มาแบบล่องลอย 55555555 พอดีคิดถึงคู่นี้ค่ะ เลยมาเขียนสนองตัวเองเสียหน่อย อาจจะมีอะไรผิดแปลกประหลาดไปบ้างก็ให้อภัยกันเน๊าะ ฮือออ ไม่ได้มาอัพนานมากเลย และคงจะแบบนี้แหละค่ะ มาๆไปๆ 55555


    เราอยากให้เรื่องนี้ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนคิดถึงก็กลับมาอ่านได้ และกลับมาอ่านทีไรขอแค่มีรอยยิ้มน้อยๆเราก็ดีใจแล้วค่ะ


    เรื่องนี้ไม่ได้หวือหวาหรือตื่นใจอะไร มาแบบล่องลอยและหายไปแบบล่องลอยค่ะ 5555


    ถ้ายังมีคนติดตามอยู่ เราขอบคุณมากๆเลยนะคะ เห็นนานๆทีมีคอมเม้นต์ว่ากลับมาอ่านซ้ำ เราก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ มันมีความหมายกับเรามาก


    ขอบคุณมากจริงๆค่ะ


    รัก








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×