ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF/OS GOT7] COME AND GET GOT7 MOMENTS ! [Status : JackBam]

    ลำดับตอนที่ #20 : [OS YUGBAM] FOREVER FRIENDS BY KIMYUGYEOM (แก้คำผิด)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.34K
      13
      2 ก.พ. 60

         

    FOREVER FRIENDS

    [OS YUGBAM]



    ความสุขคืออะไร

    ใครเป็นคนนิยาม

    ความทุกข์คืออะไร

    ใครเป็นคนจำกัดความ


    แล้วการที่มีความสุขแต่กลับมีความทุกข์ด้วย สิ่งนี้มันคืออะไร

    บางคนบอกผมว่ามันคือความรัก


    แล้วความรักคืออะไร


    รักแบบไหนทำไมถึงสุข

    รักแบบไหนทำไมถึงทุกข์

    รักแบบไหนทำไมถึงทั้งทุกข์และสุข


    ใช่แบบนี้หรือเปล่า… เรารักคนนั้นมาก และเขาก็ขาดเราไม่ได้

    ผมรักเขามาก รักแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่มีคำจำกัดความ

    เขารักผมมาก เขารักผมแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ภายใต้คำว่าเพื่อน


    เพื่อนกันตลอดไปนะ  ยูคยอมอา


    อา ใช่ แบบนี้นี่แหละที่มันทั้งทุกข์และสุข


    ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเริ่มขึ้นที่ตรงไหน บางทีอาจจะเป็นตอนที่ครูสอนเต้นเอาคลิปนั้นมาให้ผมดู หรืออาจจะเป็นตอนที่เราเจอหน้ากันครั้งแรก


    หรือบางทีอาจจะเป็นตอนนั้น


    นี่ นายว่าเราจะได้เดบิวท์หรือเปล่าผมยังจำคำถามนั้นได้ดี คืนนั้นเรานอนแผ่กันอยู่โถงกลางห้องนั่งเล่นของหอพักเด็กฝึก คืนนั้นเด็กฝึกส่วนมากกลับบ้านกันเกือบหมด เหลือผมกับแบมแบมเราเลยลากฟูกมาปูกลางห้องหน้าโทรทัศน์


    ผมจำได้ว่าเขาถามผมแบบนั้น สายตาของเขาทอดมองไปที่ท้องฟ้านอกระเบียงห้อง


    บางทีแบมแบมก็ชอบลุกขึ้นมาทำอะไรประหลาดๆเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แบมแบมพูดแค่ว่าคืนนี้ท้องฟ้าสวยแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูระเบียง ไม่สนใจคำทักผมที่บอกว่าอากาศมันเย็น ไม่ได้สนใจว่าผมต้องเสียโอกาสในการดูหนังช่วงไคลแมกซ์ไปหอบผ้านวมในห้องมาให้เจ้าตัวที่นอนสั่นงึกๆ


    ทำไมอยู่ๆก็ถามเรื่องนี้ล่ะผมถามเขากลับด้วยความสงสัย ปกติแล้วเราไม่ค่อยมานั่งพูดกันเรื่องนี้สักเท่าไหร่หรอก เด็กฝึกแต่ละคนต่างเก็บความรู้สึกนั้นไว้กับตัวเอง ต่างคนต่างรู้ว่าลึกๆแล้วทุกคนมีความรู้สึกนี้อยู่กับตัว ไม่มีใครรู้ว่าวันหนึ่งเราจะเป็นคนทำได้ หรือคนข้างตัวเราจะทำได้ หรือถ้าทำไม่ได้แล้วพวกเขาจะหายไปไหม


    มันต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะต้องเกิดขึ้น


    ก็เปล่าหรอก แค่สงสัยผมเอียงหน้ามองเขา เห็นเสี้ยวหน้าของคนข้างกายยังมองไปยังท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย


    ไม่รู้สิ ก็หวังว่าเราจะทำได้แล้วตอนนั้นเองที่ผมก็เกิดคำถาม ถ้าทำไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ตอนนั้นผมไม่ได้มีความสงสัยในเรื่องของตัวเองหรอก แต่ผมสงสัย ถ้าเกิดเราทำไม่ได้ ถ้าเขาทำไม่ได้..


    คำถามที่ผมไม่ต้องถามก็พอจะรู้คำตอบได้ บ้านเกิดเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ทางเลือกมีอยู่ไม่มากนัก แต่ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเขาคงต้องกลับไป


    ผมไม่เคยรู้สึกกลัวที่จะไม่ได้เดบิวท์เลยสักครั้ง ผมแค่มีความสุขกับทุกวันนี้จนเกือบลืมไปเสียแล้วว่าเราอยู่ที่นี่เพื่ออะไร


    แล้ววินาทีนั้นเอง มันเป็นครั้งแรกที่ผมเกิดความกลัวขึ้นมา


    กลัวว่าผมจะไม่ได้เดบิวท์…

    กลัวว่าเขาจะไม่ได้เดบิวท์

    กลัวว่าเขาจะต้องกลับไป

    ความกลัวเหนือสิ่งอื่นใดคือผมจะไม่ได้เจอกับเขาอีก


    ถ้าเรื่องนั้นมันไม่เกิดขึ้น.. นาย จะกลับไปไหมเขาเข้าใจความหมายดีว่าเรื่องนั้นที่ผมถามคืออะไร และผมจำได้ดีว่าผมกลัวคำตอบมากแค่ไหน ไม่ใช่สิ กลัวการยืนยันคำตอบที่ผมรู้ดีอยู่แล้วต่างหาก


    แบมแบมเงียบไปครู่เดียวก่อนเอ่ยยืนยันสิ่งที่ผมคิด


    ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละเขาตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่เจือความขำขันในน้ำเสียง

    ผมขมวดคิ้วมุ่น ไม่ได้นึกสนุกด้วยเลยสักนิด ไม่เข้าใจด้วยว่าเขาหัวเราะทำไม


    ฉุนจนอยากไล่ให้กลับบ้านเกิดไปซะ


    แต่พอคิดว่าถ้าจะต้องเป็นเรื่องจริง.. ใจเขาก็กระตุกวาบ สมองและจิตใจสั่งการปฎิเสธว่าต้องไม่ให้มันเกิดขึ้น คิดจนเผลอสะบัดหัวแรงๆเพื่อไล่เรื่องราวเหล่านั้นออกไป


    นายเป็นอะไรยูคยอมคำถามพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักถูกส่งมา จนผมต้องหันไปมอง เห็นแบมแบมตะแคงข้างเข้ามา ตัวเล็กๆของเขายิ่งดูกระจิ๋วหลิวลงไปอีกเมื่อเขานอนคุดคู้ตะแคงข้างแบบนี้ ดวงตาใสแจ๋วคู่นั้นสบกับผม แววระยิบระยับในดวงตาคู่นั้นยังคงสดใสเสมอ รอยยิ้มกว้างดันแก้มตุ่ยจนขึ้นก้อนกลมๆสองลูก


    แล้วตอนนั้นผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งพวกนี้แหละที่ผมขาดไปไม่ได้


    ใบหน้านี้

    แววตานี้

    รอยยิ้มนี้

    คนคนนี้

    ยังไงก็ไม่อยากให้หายไป


    ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเราจะได้เดบิวท์ไหมผมสบตาคู่นั้นกลับไป  แบมแบมเลิกคิ้วประหลาดใจแต่นายคือคนที่ฉันอธิษฐานกับพระเจ้าเสมอว่า ขอให้ผมได้เดบิวท์กับเขา ขอให้เราได้เดบิวท์ด้วยกัน


    ก็ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าตอนนั้นผมแสดงสีหน้าแบบไหน น้ำเสียงเป็นอย่างไร แบมแบมถึงได้หัวเราะใส่ผมไม่หยุดจนหอบแฮ่ก ก่อนสุดท้ายน้ำเสียงสดใสนั้นดังขึ้นอีกครั้ง


    เดบิวท์ด้วยกันนะเขาว่าพร้อมยกมือแบขึ้นตรงหน้า ผมยิ้มรับก่อนจะประกบตีมือข้างนั้นแล้วกุมไว้แน่น


    มือนี้นี่แหละที่ผมจะไม่ปล่อยให้หายไป


    เพื่อนคนสำคัญของผม


    เหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ผมจำได้ดี เพราะหลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็หวัดกินกันไปตามระเบียบ โดยเฉพาะแบมแบมที่เสียงแหบแห้งไม่มีแรงเต้นจนต้องหยุดพักไปเกือบอาทิตย์เลยทีเดียว


    และหลังจากนั้น เราก็ทำได้ คำอธิษฐานของผมเป็นจริง ผมและเขาเดบิวท์ร่วมวงกับสมาชิกอีก5คนที่ผมคอยภาวนาอยู่เสมอว่าขอให้เราได้เดบิวท์ด้วยกัน พวกเราทั้งเจ็ดรวมตัวกันเป็นGOT7


    หลังจากนั้นผมกับแบมแบมยิ่งสนิทกันมากขึ้น เรากินด้วยกัน นอนด้วยกัน เต้นด้วยกัน แสดงด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน แบ่งปันเรื่องราวระหว่างกัน


    เขาคอยอยู่เคียงข้างผม ผมคอยซัพพอร์ตเขา คอยแหย่เขา คอยให้กำลังใจเขา


    นายน่ะไม่เท่เลยสักนิด

    เพราะนายน่ารักหรอก

    โอ้ แบมแบมเก่งที่สุด

    แบมแบมเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมครับ

    ผมโชคดีที่มีเขา

    เขาเป็นเพื่อนที่ผมขาดไม่ได้ครับ


    คอยปฎิบัติแบบที่เพื่อนหนึ่งคนควรจะมี


    จากตอนนั้นนั่นแหละที่ผมรู้สึกว่าสนิทสนมของเรามันเป็นเรื่องผิดพลาด เมื่อความกระหายของผมมันสวนทางกับสิ่งที่ควรเป็น มันเกินความพอดีที่ควรมี


    ผมเหมือนกลายเป็นคนตะกละ

    ผมกระหายความไว้วางใจจากแบมแบม

    กระหายความสนิทสนมจากเขา

    กระหายสัมผัสจากเขา

    กระหายรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขา

    กระหายที่จะได้อยู่เคียงข้างเขา

    กระหายที่จะอยู่กับเขาตลอดเวลา

    แย่ที่สุดคือ.. ผมกระหายในตัวเขา


    ผมเที่ยวถามกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าผมเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับผม ความรู้สึกของผมคืออะไร แต่เหมือนสิ่งนี้มันฝังรากลึกมานานเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจมันเสียแล้ว


    ผมตอบตัวเองไม่ได้


    หรือไม่ก็บางที ผมกลัวที่จะตอบ


    ผมไม่ได้กลัวที่จะยอมรับหรอก แต่ผมกลัวในความเป็นจริง


    ความเป็นจริงที่เรารู้กันดีว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ได้


    ดังนั้นผมจึงได้แต่ปล่อยให้มันฝังลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม และนับวันผ่านไปสิ่งนั้นมันก็ลึกลงไปพร้อมๆกับความเป็นเพื่อนของเรา อยู่ลึกจนยากจะถอดรากถอนโคนความรู้สึกนี้เสียแล้ว


    แต่ผมโอเคกับมันนะ

    ผมยังมีความสุขดี


    ถ้าถามว่าในหนึ่งวัน ช่วงเวลาไหนที่ผมชอบที่สุด นอกจากตอนที่ได้เต้นและแสดงแล้ว ยังมีอีกช่วงเวลาที่ผมชอบคือตอนที่ผมได้มองเขายิ้มหัวเราะ และเล่นสนุกไปทุกที


    รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่มาจากคนอื่นน่ะเหรอ..? ทำไมผมจะต้องไม่ชอบด้วยล่ะ ในเมื่อมันเป็นรอยยิ้มของเขา เขาจะยิ้มจะหัวเราะเพราะใคร มันก็ดีแล้วที่ผมยังได้เห็นสิ่งเหล่านั้น แม้มันไม่ได้มาจากผม ผมก็ยังยินดีที่จะได้เห็นมัน


    และแน่นอนยังมีอีกเวลาหนึ่งที่ผมโปรดปราน นั่นคือช่วงเวลาก่อนนอน มันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด


    มันเป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับเขา เป็นช่วงเวลาที่ผมได้ครอบครองเขาคนเดียว


    ผมชอบตอนนี้เราชวนกันไปแกล้งสมาชิกคนอื่น

    ผมชอบมองเวลาที่เขาเดินวนไปวนมาเลือกรองเท้าให้เข้าคู่กับชุด

    ผมชอบเวลาเขาเข้ามาส่งเสียงออดอ้อนขอยืมเสื้อผ้า


    แน่นอนว่ามีบางครั้งผมจะตอบว่าไม่ให้

    เพราะผมรู้นิสัยเขาดีว่า หากผมให้จนเขาเคยชินแล้ว การอ้อนแบบนั้นของเขาจะหายไปแน่นอน

    ดังนั้นการตอบปฎิเสธในบางครั้งก็เป็นตัวเลือกที่ดี

     

    ผมชอบเวลาที่เราบอกฝันดีกันในบางครั้ง

    ผมชอบเวลาที่ได้มองเห็นเขาในสายตาตอนเวลา


    สิ่งเหล่านั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ผมได้ครอบครองเขาคนเดียว


    เห็นไหมว่าผมเป็นคนตะกละแค่ไหน ความตะกละในเรื่องของเขาผมมีได้ไม่หมดสิ้น


    ซึ่งในฐานะเพื่อนสนิทและสมาชิกร่วมวง ก็สนับสนุนความตระกะนี้ของผมได้เป็นอย่างดี ผมได้เข้าใกล้เขา ได้อยู่ด้วยกัน เพราะฐานะเหล่านี้ทั้งนั้น


    แค่สมาชิกร่วมวง


    เป็นเพื่อนสนิท…


    ก็แค่นั้นแหละ มาได้แค่นี้แหละ


    ถ้ามากกว่านี้จะเป็นฐานะอะไรเหรอ ก็คงมีหรอก แต่คงไม่ใช่สำหรับผม


    แค่นี้มันก็ดีแล้ว อย่างน้อย ผมได้อยู่กับเขา จะในฐานะอะไรก็ตามผมขอเก็บเกี่ยวมันไว้ก่อน



    กลัว

     

    กลัวเสมอว่าวันหนึ่งมันจะมีอะไรมาทำให้เราเปลี่ยนไป กลัวเสมอว่าสัญญาของบริษัทจะหมดลง กลัวเสมอว่าเขาจะต้องไปกลับไปเร็วขึ้น กลัว...ว่าช่วงเวลาของเราจะลดน้อยลง


    ดังนั้นไม่ว่าจะความรู้สึกหรือการกระทำอะไรที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งเหล่านี้แล้วล่ะก็

    ผมขอเลือกที่จะเก็บมันไว้กับตัวเองเสียดีกว่า




    ผมนอนอยู่บนเตียง มองดูเขาที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งหัวเราะคิกคักกับหน้าจอมือถือของตน แม้มองเห็นไม่ชัดเจน มีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยจากหน้าจอมือถือของเขาที่กระทบส่องกับใบหน้าพอให้ผมได้เห็นเสี้ยวหน้าที่ผมคอยมองมาตลอดหลายปี รอยยิ้มของเขายังคงสดใสเสมอสำหรับผม


    เขายังคงเป็นแบมแบมเพื่อนตัวน้อยจากประเทศไทย


    ผมก็คาดไม่ถึงเหมือนกันนะว่าครั้งหนึ่งคนที่ผมเคยนึกไม่ชอบหน้านักหนากลับเป็นคนที่ผมอยากมอบให้เกือบทุกสิ่ง ยินยอมที่จะแลกกับทุกอย่างเพียงเพื่อได้อยู่กับเขา


    ด้วยคำว่าเพื่อนที่เขามอบให้ผมก็เพียงพอแล้ว


    ขอให้ผมได้ประคองเขา เป็นที่พักพิงยามที่เขาเหนื่อยหรือไม่สบายใจ


    ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกัน





    แบมแบมขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง เสียบที่ชาร์ตแบตกับมือถือ นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขากำลังจะเข้านอนแล้ว


    ยังไม่นอนอีกเหรอเขาทักขึ้นเมื่อเห็นว่าผมยังนอนเล่นมือถืออยู่ ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วจะมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มเหลือหัวกลมๆกับดวงตาใสแจ๋วที่มองมาทางผมอย่างรอคำตอบ


    อือ เดี๋ยวอีกแปปนึงก็นอนแล้ว นายนอนก่อนเถอะผมตอบเขาพร้อมรอยยิ้มบาง เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าหงึกๆใต้ผ้าผมก่อนจะปิดตาลง เห็นแบบนั้นผมจึงหันกลับมาดูมือถือต่อแต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาราวกับรับรู้การรอคอยของผม


    ฝันดีนะ คิมยูคยอมคำที่ได้ยินก็พลันทำให้จิตใจอบอุ่น ผมยิ้มรับบางเบาแม้เขาไม่เห็น


    ฝันดีแบมแบมอ่า


    ตอบกลับก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อย แบมแบมพยักหน้ารับทั้งรอยยิ้มแม้เปลือกตาปิดสนิท


    ผมหันกลับมาสนใจมือถืออีกครั้ง กดเข้าแอพริเคชั่นหนึ่ง เลื่อนไปสักครู่ถึงเห็นรูปเดิมที่ผมเห็นเมื่อราวสักชั่วโมงก่อนจากแอคเคาท์ของคนที่นอนอยู่ข้างกัน


    รูปที่เขาลงเป็นรูปของเราสองคน อยู่บนเวที  พร้อมแคปชั่นที่อ่านอีกครั้งก็ยังคงทำให้ใจผมลอยวูบ หัวใจเต้นระรัว


    ถ้าไม่มีนายฉันอยู่ไม่ได้จริงๆยูคยอมอา คิคิ เสตจวันนี้เราสองคนตั้งใจมากเลยนะรู้สึกโลดโผนอยู่ชั่วขณะก่อนจะอ่านมาถึงประโยคสุดท้าย…


    เพื่อนกันตลอดไปนะยูคยอมอา


    คล้ายถูกดึงจากที่สูงอีกครั้ง หัวใจเย็บวูบเหมือนถูกสาดด้วยน้ำแข็ง


    ถามตัวเองว่ากำลังผิดหวังอยู่หรือเปล่า



    ผมตอบไม่ได้หรอก


    แต่แค่นี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เขาขาดผมไม่ได้ เขาอยากให้เราอยู่ด้วยกันตลอดไป ผมควรดีใจด้วยซ้ำที่แบมแบมทำอะไรแบบนี้ เมื่อก่อนน่ะเหรออย่าหวังเลยว่าจะมีคำพูดอะไรแบบนี้ออกมาจากคนปากแข็งแบบเขา


    ใช่ แบบนี้มันดีแล้ว


    ผมมีความสุขดีหรือเปล่าน่ะเหรอ..?


    ร่างสูงยกมือขึ้นกุมหน้าอก รู้สึกถึงก้อนเนื้อที่ยังเต้นระรัวแต่ในขณะเดียวกันเขากลับรู้สึกวูบที่อก มันคล้ายโดนบีบแบบหาคำอธิบายที่มาและเหตุผลไม่ได้


    ไม่เป็นไร ผมไม่หาเหตุผลหรอก


    ขอแค่ยังมีเขาอยู่ข้างๆ อยู่ด้วยกันตรงนี้


    มือหนาตัดสินใจกดพิมพ์ที่หน้าจอ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มจาง


    ได้เลย เพื่อนกันตลอดไปเลยนะ คิคิคิ


    เป็นเพื่อนกันตลอดไปเลยนะ อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ


    พิมพ์เสร็จจึงกดปิดหน้าจอมือถือของตนก่อนจะวางมันไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อหันไปมองเตียงด้านข้าง  เหลือเพียงแสงไฟเลือนลางจากหน้าต่างบนหัวเตียงเพียงเล็กน้อยที่ส่องเข้ามาให้เขาพอได้มองเห็นใบหน้าคุ้นเคยในเงามืด ตั้งแต่หน้าผากใสไล่มาจนจมูกลั้น จรดริมฝีปากอิ่มเป็นเอกลักษณ์


    ทุกอย่างเงียบสงัดจนเสียเขากลัวว่าจะมีใครได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เริ่มเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง


    ยูคยอมตะแคงข้าง ศีรษะหนุนสองมือของตน จดจ้องภาพนั้นอยู่ชั่วครู่


    นายอย่าผิดสัญญาล่ะเอ่ยคล้ายขอคำสัญญาที่คงต้องฝากไว้กับสายลม


    นายพูดแล้วนะแบมแบม


    อย่าหนีจากฉันไปไหน


    เพื่อนกันตลอดไปเลยนะ…


    คิดในห้วงคำนึงของตนก่อนจะค่อยปิดตาลงพร้อมกับภาพของเพื่อนสนิทในครองสายตา ดวงหน้าหล่อเหลาหลับตาพริ้ม ค่อยๆปล่อยให้จิตใจของตนสงบลงอย่างช้าๆตามบรรยากาศของห้องที่เงียบสงัด ไร้เสียงรบกวน มีเพียงดวงจันทร์และดวงดาวบนฟากฟ้าที่ยังส่องแสงสว่างนวลท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืนคล้ายรับการเป็นพยานในความสัมพันธ์และการกระทำของคนทั้งคู่


    คู่หูเพื่อนสนิท


    คิมยูคยอม - แบมแบม



    I really can't live without you

    My forever friend


     

    คุยกันแปปนึงน้า

    แฮะๆ วันนี้มาดึกๆ มาวูบแบบสายลมและแสงแดด โมเม้นอาจจะช้าไปหน่อยอย่าว่ากัน นี่ก็มาลงแบบไม่ได้ตรวจทานสักเท่าไหร่ด้วยค่ะ โปรดให้อภัย แบบว่าช่วงนี้เครียดเรื่องเรียน (ไม่)เล็กน้อย ใครฟอลเราอยู่บ้างอาจจะเป็นว่าบ่นเป็นอิผีบ้าเลยค่ะ ฮืออออ เครียดมากเลยมาหาอะไรทำให้สบายใจก่อน

    คือเขียนไปเองก็รู้สึกว่าคิมยูพระเอ๊กพระเอกอ่ะแก คือขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน พูดวนไปวนมาแค่นั้นว่าขอแค่อยู่ด้วยกัน อย่าจากกัน แค่เพื่อนก็โอเค เอ๊าะ คนดีโน๊ะ 5555555555

    Forever friend นี่อาจมีภาคต่อหรือเปล่าไม่แน่ใจ ต้องรอดูจังหวะอีกที เพราะตอนนี้เครียดเรื่องเรียนม๊ากกกกกค่ะ ฮืออออออออออ 

    มันแปลกๆหรือประหลาดสามารถบอกกล่าวกันได้ค่ะ

    ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

     

    เม้นวันละนิด จิตแจ่มใส

    คิดจะมุ้งมิ้งลงทวิต โปรดติดแท็ก #ficgetgot7

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×