คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : [OS ALLBAM] INTERNATIONAL KISSING DAY FICTION (แก้คำผิด)
- INTERNATIONAL KISSING DAY
[OS ALLBAM]
Wednesday,
July 6
ร่างโปร่งบางของสมาชิกชาวไทยนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงกับชุดไปรเวทเสื้อยืดกางเกงลำลองสบายตัว ถือเป็นภาพหายากที เดียวสำหรับบุคคลถูกยกให้เป็นแฟชั่นนิสต้าของวง แต่วันนี้เป็นวันพักผ่อนที่เขาคิดว่าจะนอนโง่ทั้งวันบนเตียง ดังนั้นการใส่อะไรที่สบายตัวจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
สองมือบางถือโทรศัพท์ในมือแน่น ใบหน้าใสไร้เครื่องอำอางแบบทุกที เผยผิวสีอ่อนละมุนแม้ไม่ขาวจัดแต่ดูสุขภาพดี ตากลมไล่ดูหน้าจอ นิ้วมือก็ทำหน้าที่ไถได้อย่างคล่องแคล่ว พลันสายตาเหลือบเห็นแฮชแท็กที่กำลังเป็นเทรนในโซเชี่ยลขณะนี้
#InternationKissingDay
มันคือวันอะไร ?
แต่ยังไม่ทันที่นิ้วจะแตะเข้าไปดูกลับมีเสียงเรียกทานข้าวจากนอกห้องเสียก่อน
แบมแบมลุกจากเตียงอย่างว่าง่าย แล้วรีบวิ่งออกไปตามเสียงเรียก
แหงสิ ถ้าช้าก็แย่สิ
ถ้ามีเป็นแย่งเซ็ตอาหารของเขาไปจะทำยังไงเล่า
ร่างโปร่งรีบวิ่งออกมาบริเวณครัว
เห็นสมาชิกที่เหลือมุงโต๊ะอาหารอยู่
บางคนที่หยิบอาหารของตนได้แล้วอย่างยองแจก็รีบเดินไปจับจองที่นั่งหน้าทีวีอย่างกลัวใครจะแย่งมุมพิโปรดของตนไป
“นายออกมาทันเวลาพอดีแบมแบม
แจ็คสันกำลังจะแย่งเซ็ตเนื้อย่างที่นายสั่งเพิ่มไปแล้ว”ทันทีที่แบมแบมเดินเข้าไปร่วมวงด้วย
จินยองที่กำลังที่กำลังเดินออกมาจากโต๊ะทำท่ากระซิบกระซาบลับๆล่อๆบอกเขา
แบมแบมได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งไปฟาดมือใส่พี่ชายจากฮ่องกงดังเพี๊ยะ จนแจ็คสันสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“อะไร!!? นายตีฮยองทำไมเนี่ย!? เววว๊?”
แบมแบมที่เห็นว่าแจ็คสันโวยวายท่าทางไม่รู้เรื่องก็เหวอไปนิดๆ
โดนจินยองฮยองต้มอีกแล้ว
“ก็จินยองฮยอบอกว่าฮยองจะแย่งเซ็ตเนื้อย่างผมอ่ะ”แก้ตัวพร้อมส่งเสียงหัวเราะแห้งๆไปให้คนที่กำลังตาวาว
“ย่าห์ ปาร์คจินยอง!! นายใส่ร้ายฉันเหรอ แล้วนายก็เชื่อเหรอแบมแบม ฉันพี่นายนะ!!”
“จินยองฮยองก็พี่ผมนะ..”คนที่กำลังโวยวายพอได้ยินคำตอบอ้อมแอ้มแบบนั้นก็ชะงักไปอย่างคนพูดต่อไม่ถูก กลับมีเเสียงหัวเราะจากเมมเบอร์คนอื่นดังลั่นห้อง และแน่นอนเสียงดังสุดมาจากนักแสดงปาร์คผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
แบมแบมที่เหมือนรู้ตัวว่าตัวเองคงพูดผิดมหันไปเสียแล้ว หัวเราะก่อนเอ่ยออดอ้อนขอโทษพี่ชายคนสนิท
ปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะง้อยากแล้วลำบากกว่าเดิม
“ฮยองง ผมขอโทษ ผมล้อเล่น อ่ะๆ นี่ผมยกเซ็ตเนื้อย่างให้ฮยองเลยก็ได้”ว่าไปด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างคนง้อแล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากอารมณ์ดี สองมือยกเซ็ตเนื้อย่างขึ้นมาจ่อหน้าแจ็คสันที่ยกมือกอดอกแน่น แต่พอเห็นน้องชายง้อก็ยิ้มกริ่ม พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ไม่เป็นไร เพราะว่านายคือน้องรักของฮยอง ฉะนั้นฮยองจะให้นายกินให้อิ่ม” ว่าแล้วก็เดินหยิบเซ็ตอาหารของตัวเองตามคนอื่นไปหน้าทีวี พร้อมตะโกนลั่น
“ย่าห์ปาร์คจินยอง!”
แบมแบมหัวเราะอย่างคนรอดตัวก่อนจะหยิบมื้อกลางวันของตัวเองตามเมมเบอร์ที่เหลือไปหน้าที่ด้วย
วันนี้เป็นวันหยุดของพวกเขา
และสมาชิกทุกคนกลับพร้อมใจกันอยู่หออย่างพร้อมเพรียง
พวกเขาขี้เกียจจะออกไปผจญภัยข้างนอกหลังจากทำงานหนักมาตลอดหลายเดือน
ส่วนเมเนเจอร์ฮยองที่เห็นว่าเป็นวันพักผ่อนก็ปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเอง ส่วนเจ้าตัวถ้าไม่เข้าบริษัทก็คงออกไปที่ไหนสักแห่ง
ดังนั้นยามนี้จงเหลือเพียงพวกเขาเจ็ดคนเท่านั้น และในเมื่อไม่มีคนออกไปซื้อมื้อกลางวันดังนั้นทางเลือกเดียวของพวกเขาคือเดลิเวอรี่
แต่กว่าจะตกลงกันได้เวลาก็ล่วงเลยเข้ายามบ่ายพอดี
ส่วนตอนนี้พวกเขาก็พากันมากระจุกอยู่หน้าทีวี
ล้อมวงทานอาหารกลางวันของใครของมันพรางดูหนังจากทีวีช่องดังไปด้วย
เมื่อทานเสร็จหลังจากทำความสะอาดกันเรียบร้อยแล้วก็เกิดจราจลชิงโซฟาขึ้น เมื่อทุกคนยังคงพร้อมใจกันอยู่ดูหนังที่กำลังเล่นเข้าถึงช่วงไคลแมกซ์
ไม่มีเมมเบอร์คนไหนกลับเข้าห้องของตน
ต่างรีบวิ่งมานอนแผ่อยู่บนโซฟาทั้งเจ็ดคนแบบที่ไม่มีใครยอมใคร
อันที่จริงนั่งพื้นก็ได้หรอก
แต่เมื่อเห็นว่าทุกคนพากันแย่งนั่งโซฟากลับไม่มีใครยอมใคร
ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีไปเสียแล้ว
แม้กระทั่งมาร์ค พี่ชายผู้ที่เคย‘อะไรก็ได้’ ยามนี้กลับงัดบัญญัติพี่ใหญ่ขึ้นมา ผลักแบมแบมผู้ที่แรงน้อยที่สุดออกจากโซฟาแล้วตนเองจึงเข้ามาปักหลักเอนตัวนิ่ง
สุดท้ายแล้วมีเพียงแบมแบมที่หลุดออกมาจากโซฟา คนโดนผลักหน้ายู่อย่างหัวเสียเล็กน้อย ถอนลมหายใจฮึ่ม ริมฝีปากอิ่มเบะจนแก้มพองขึ้นไปจับเป็นลูก
เขายืนขวางหน้าจอทีวีนิ่งไม่ขยับอย่างไม่ยอมแพ้
แต่เมื่อเห็นว่าคนอื่นกลับไม่สะเทือนแม้เพียงนิดจึงได้แต่ไล่ส่งสายตาไปทีละคน
แน่นอนว่าไม่ได้ผล
แม้แต่คิมยูคยอมเพื่อรักของเขายังหลบสายตามองบนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
แบมแบมหรี่ตา
ได้ เอางี้ก็ได้
สุดท้ายแล้ววแบมแบมผู้ไม่ชอบสกินชิพหรือนัวเนียกับใครกลับกระโดเข้ากลางโซฟาแลวยัดเยียดเบียดตัวเองเข้ากลุ่ม
แม้ไม่เหลือเบาะให้นั่งก็ไม่มีปัญหา แบมแบมฝังตัวเองลงซอกระหว่างแจ็คสันและยูคยอม
ขายาวพาดทับไปทั้งมาร์คและเจบี ลำตัวฝังแน่นพิงเบาะโซฟา ชุลมุนกันอยู่สักพักแบมแบมก็ทำสำเร็จ
ไม่มีใครลากเขาลงจากโซฟาได้
ดังนั้นภาพที่คนนั้นเกาะเกี่ยวนั่งทับคนนี้จึงดูวุ่นวายอยู่ไม่น้อย
และพวกเขาทั้งเจ็ดก็นั่งดูทีวีด้วยท่านี้ไปเรื่อยชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมลุกจากที่นั่งของตัวเองไปไหนเลยทีเดียว
“ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนโซฟามันกว้างกว่านี้เหรอ” ยองแจเปรยขึ้นเมื่อทีวีพักโฆษณา
“เพราะแบมแบมกับยูคยอมนั่นแหละตัวใหญ่ขึ้น” มาร์คเอ่ยสมทบแล้วโบ้ยความผิดให้สองน้องเล็กทันที
“ใช่ โดยเฉพาะยูคยอม สูงขึ้นไม่พอ ตัวใหญ่ขึ้นด้วย” จินยองสมทบอีกเสียง
“เพราะว่าเมื่อก่อนแบมแบมสูงเพราะเสริมส้น แต่เดี๋ยวนี้เริ่มสูงจริงๆแล้วล่ะนะ” เจบีว่าพรางเหลือบสายตามองแบบคนตั้งใจแซว
แบมแบมร้องเรียกเจบีเสียงหลงเมื่อตนเองโดนแซวถูกจุด
“อย่าไปสนใจเลยแบมแบม
ก็ไม่ใช่พวกเค้าพูดเพราะตัวเองหยุดสูงแล้วเลยอิจฉาหรอกเหรอ” ยูคยอมว่าใส่เรียบๆแล้วหันไปตีไม้ตีมือหัวเราะคิกคักกับแบมแบม
จนเรียกเสียงฮือจากพวกคนหยุดสูง และสุดท้ายสองมังเน่ก็ต้องเงียบลงอย่างยอมจำนน
ทุกคนหันกลับไปตั้งใจดูหนังกันอีกครั้ง แบมแบมที่เริ่มเบื่อเลยหยิบมือถือขึ้นมาเช็คโซเชี่ยลอีกรอบ เห็นแฮชแท็กที่ตัวเองคาใจอยู่เลยกดเข้าดู เข้าไปก็ได้แต่ตาวาวเมื่อเนื้อหาในแท็กสมนั้นกับชื่อแท็กจริง มีแต่ทวิตเกี่ยวกับจูบเต็มไปหมด แบมแบมหัวเราะคิกคคักอย่างนึกสนใจตามวัยรุ่นวัยอยากรู้
“ฮยอง International Kissing Day คืออะไรอ่ะ” เจ้าตัวเปรยถามง่ายๆมือก็ยังไถหน้าจอสายตาไล่ดูไปเรื่อยอย่างสนอกสนใจ
คนได้ยินก็เลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อย
“แปลตรงตัวมันก็ไม่ใช่วันจูบแห่งชาติเหรอ” มาร์คถามกลับเบาๆ
“เหรอ แปลกดีอ่ะ
แล้วเกาหลีมีไหมอ่ะ” รับคำมาร์คก่อนจะเอ่ยถามต่อทั้งทีสายตายังไล่ดูทวิตคนจูบกัน
ด้วยท่าทีคิกคักขำขันผิดปกติจนแจ็คสันที่นั่งอยู่ด้านข้างแบมแบม
เห็นหน้าจอมือถือของเจ้าตัวถึงได้เข้าใจ
นึกหมั่นเขี้ยวคนที่ซุกตัวอยู่ในช่องนิดเดียวข้างกายเขาแล้วยิ้มกริ่ม ยูคยอมที่หันมามองเห็นแจ็คสันยิ้มประหลาดก็นึกแปลกใจ แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถาม
“International Kissing Day is something like.. มวั๊ะ”ยูคยอมชะงักค้างกับภาพที่พี่ชายชาวฮ่องกงก้มตัวลงไปจุ๊บข้างแก้มเพื่อนสนิทดังมั๊วะ เขาหดคอหนีอย่างตกใจก่อนร้องถามลั่นพร้อมแบมแบมที่โดนขโมยจุ๊บแก้มไปนั้น
“ฮยองทำอะไรเนี่ยย!!”สองเสียงประสานดังลั่นจนคนอื่นๆต้องหันมาสนใจ
แบมแบมถูแก้มตัวเองด้วยอารมตกใจ แต่แจ็คสันจื่อปากอย่างไม่แคร์
ไอหอมแก้มเนี่ยไม่แปลกใจ
แต่อยู่ๆก็หอมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเนี่ยออกจะน่าตกใจแทนแบมแบมไปเสียหน่อยนะ
“อะไรอ่ะ แจ็คสันทำอะไร”จินยองที่อยู่อีกฟากเอ่ยถาม
“เมื่อกี้แจ็คสันจุ๊บแก้มแบมแบมอ่ะฮยอง”ยูคยอมเอ่ยฟ้องพรางชี้หน้าบอกตัวคนร้ายราวตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ
แจ็คสันยิ้มไม่สนใจ
ฉกโทรศัพท์ในมือแบมแบมมาแล้วโยนไปให้คนถามอย่างไม่ให้เจ้าของโทรศัพท์ได้ตั้งตัว
จินยองรับไปดูแล้วก็แสร้งเบิกตากว้างก่อนจะยิ้มล้อเลียน
“อา
มังเน่เราโตเป็นหนุ่มแล้ว”
ว่าก่อนจะส่งต่อให้เพื่อนคนอื่นดู
แล้วเจ้าตัวก็ยอมลุกจากที่นั่งที่ตนเองไม่ยอมสละไปไหนเป็นชั่วโมง
สองเท้าก้าวเข้าหาแบมแบม ใบหน้านักแสดงปาร์คยังฉายรอยยิ้ม
รอยยิ้มที่แบมแบมนึกหวั่นใจ
คนตัวบางพยายามจะลุกจากที่นั่ง แต่เพราะเขาฝังตัวลงซอกระหว่างยูคยอมและแจ็คสัน และเพราะอีกสองคนไม่ขยับเขาจึงลุกออกไปได้อย่างยากลำบาก และแน่นอน ปาร์คจินยองไม่ปลอยให้เวลานี้หลุดมือไป
จินยองพุงตัวเข้าหาแบมแบมที่ร้องลั่นอย่างรู้ตัว ก่อนที่คนโตกว่าจะจับสองแขนไว้แล้วแล้วกดริมฝีปากลงซอกคอ
กลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวคนในการควบคุมที่ไม่ใช่กลิ่มน้ำหอมนั้นทำเอาเขายิ่งนึกอยากแกล้งเจ้าตัวมากขึ้น จินยองผละออกมา สองมือยังคงตรึงแบมแบมไว้แน่น สายตาไล่มองตั้งแต่ลำคอขึ้นมายังใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอาง
ใบหน้าใสแม้โตมขึ้นมากแต่ยังคงความละมุนนุ่มนิ่มให้เห็น
อดใจไม่ไหวก่อนกดจะก้มลงหวังกดริมฝีปากตน แต่ยังไม่ทันได้สมหวัง
ยูคยอมที่อยู่ด้านข้างกลับผลักพี่ชายร่วมวงปลิวไปไกล
“ฮยองจะทำอะไรแบมแบมเล่า!”ว่าเสียงหลงก่อนดึงเพื่อนตัวเองเข้ามาใกล้
จินยองลอบจิ๊ปาก แอบนึกผิดหวังเล็กน้อย
“ก็แค่จะช่วยอธิบายไงว่า International Kissing Day คืออะไร” ว่าไปอย่างไม่ทุกร้อนจนคนเอาคนอื่นหัวเราะขำ
“ฮยองเป็นคนเกาหลี ไม่ได้มีวัฒนธรรมแบบวันนี้เสียหน่อยนี่!”
“ทำไมจะไม่มี เกาหลีก็มีนะ” เจบีแทรกตอบแบมแบม ส่วนยองแจพยักหน้าหงึกๆยิ้มๆสนับสนุน
“คิสเดย์ไง เกาหลีก็มี”
“แต่ผมเป็นคนไทย!”
“ก็นายสงสัยเองนี่ว่ามันคือวันอะไร พวกฮยองก็ช่วยบอกนี่ไง” แจ็คสันว่าเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นอีกรอบ
“ผมก็ถามเฉยๆไงเล่า!”
“แต่นายอยู่เกาหลีไงต้องทำตัวแบบคนเกาหลีสิ!” ยองแจช่วยเถียงอีกคนเมื่อเห็นเจ้าตัวแสบเริ่มจนมุม
มาร์คหัวเราะคิกคักอย่างนึกสนุก
เขาจับขาแบมแบมที่อยู่บนตักออกก่อนปีนขึ้นคล่อมขาเล็กบนโซฟา
พร้อมทั้งผลักยูคยอมที่นั่งขวางอยู่ออกแบบไม่ให้เด็กหนุ่มได้ตั้งตัว
มาร์คค่อยๆคลานเข้าหาแบมแบมท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาอย่าสงสัยและนึกสนุก ยกเว้นก็แต่แบมแบมที่นิ่งไปอย่างระแวง เจ้าตัวพยายามทั้งผลักทั้งเขย่ามือตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุมของจินยอง แต่ยิ่งยากเข้าไปอีกเมื่อแจ็คสันเข้ามาร่วมวงช่วยจับกดเขาไว้ด้วยอีกคน
แบมแบมร้องโวยวายลั่น เรียกให้พี่คนอื่นๆช่วยไม่ได้ผลก็เรียกเพื่อนสนิท แต่จินยองหันกลับมามองยูคยอมแล้วเอ่ยถาม
“นายไม่เสียดายเหรอ
นานๆทีมีโอกาสแกล้งหมอนี่แบบนี้น่ะ เห็นมะ ไร้พิษสงเลยนะ” ว่าไปก็บุ้ยไปทางแบมแบมที่ทั้งหัวเราะทั้งร้องโวยวาย
และได้ผล แม้จะยอมจะนึกลังเลแต่ร่างสูงกลับหยุดชะงัก ไม่ได้ก้าวเข้าไปหาแบมแบมต่อ
มาร์คหัวเราะในลำคอ
สบสายตาคนใต้ร่างที่มองขึ้นมา แม้จะพยายามยิ้มหัวเราะ แสร้งทำเป็นไม่จริงจัง แต่แววตาหวาดหวั่นนั้นกลับถูกปิดไม่มิด
“มาร์คฮยอง ไม่เอาน่า ไม่เล่นแบบนี้ดิ
ฮยองก็รู้ว่าผมไม่ชอบ” กล่อมคนข้างบนอย่างมีความหวัง
มาร์คมองริมฝีปากอิ่มบวมที่เขาชอบเอ่ยแซวบ่อยๆนั้นขยับไปตามจังหวะการพูด
แววตาพลันฉายประกายคึกคักสนุก
และแววตาแบบนี้แหละที่แบมแบมนึกกลัวที่สุด
มาร์คเวลาคึกคักนั้นอะไรก็หยุดไม่ได้
และเขารู้เรื่องนี้ดี
สิ้นความคิดแบมแบมรู้สึกได้ถึงแรงกดนุ่มที่ข้างริมฝีปาก
ใจคนตัวแสบกระตุกวูบ
“ฮยอง!! เล่นอะไรเนี่ย เกือบโดนปากผมแล้วเนี่ย!”โวายวายไปก่อนหน้าดำหน้าแดง มาร์คเลิกคิ้ว แววตายังฉายความสนุกตื่นเต้น
“อ้าว ยังไม่โดนเหรอ” แสร้งเอ่ยถามเสียงนุ่ม “งั้นก็ยังไม่ถือว่าเป็น Kissing dayสิ” ว่าจบเสียงหัวเราะก็ดังลั่นห้องอย่างที่ทุกคนเข้าใจความหมายของคนพูด
“แบบไหนมันก็kissทั้งนั้นแหละน่า ก็บอกแล้วไงว่าผมเป็นคนไทย! I’m from Thailand You
know THAILAND!!” ตะเบ็งว่าเสียงดังอย่าทีเล่นทีจริง แต่ใจแบมแบมรู้ดีว่าแบบนี้เริ่มไม่สนุกแล้ว
มาร์คยังจ้องคนใต้ล่างนิ่ง รอยยิ้มกริ่มวาดขึ้นมาบนใบหน้าอีกครั้ง
“I’m from LA, you know? so.. ” แบมแบมเบิกตากว้างกับคำตอบของพี่ชายจากLA ก่อนจะทันได้รู้ตัว มาร์คก้มหน้าลงมาจุ๊บเร็วๆที่ริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง ก่อนจะดันตัวเองขึ้นแล้วหัวเราะร่าอย่างชอบใจกับการได้แกล้งคน
สมาชิกที่เหลือร้องอู้ว ส่งเสียงแซวไม่หยุด แบมแบมพยามทั้งเตะขาสะบัดแขนหวังให้ตัวเองหลุดออกไปเสียที เขาจะได้จัดการทุกคนเรียงตัว แต่ยังไม่ทันที่แบมแบมจะได้มีโอกาสพักหายใจ ยองแจที่นั่งหัวเราะอยู่เฉยๆกลับร่วมขบวนการด้วยอีกคน
เขาลุกขึ้นมาแล้วเดินดุ่มเข้าหาร่างที่ถูกกดอยู่บนโซฟา เสียงหัวเราะลั่นตามแบบฉบับทำให้แบมแบมหน้าเหวอไปอีกรอบเมื่อรู้ว่าพี่ชายจากมกโพก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน
ยองแจแสร้งยิ้มร้ายแยกเขี้ยวแสยะให้แบมแบมจนอีกฝ่ายจะหัวเราะก็ไม่กล้าจะร้องโวยวายก็ดี
แต่ไม่ทันได้ร้องขอความเห็นใจ
ยองแจกลับฉวยโอกาสนี้กดริมฝีปากตนลงใบหน้าใสแรงๆตั้งแต่แก้มซ้าย หน้าผาก
และแก้มขวา
มั๊วะ! มั๊วะ! มั๊วะ!
เสียงจุ๊บติดกันดังลั่นเรียกเสียงเฮได้จากคนมองได้ชะงัด รวมถึงยูคยอมที่ตอนแรกมองเพื่อนด้วยสายตาสงสารตอนนี้กลับหัวเราะเฮลั่น
“ยูคยอมอา! ยูคยอมอา!” แจ็คสันเอ่ยเรียกน้ำเสียงสนุกสนาน ยูคยอมเลิกคิ้วยิ้มค้าง ก่อนเม้มปากครุ่นคิด
ไอ้สกินชิพแบบจับมือ กอด โอบ เขาก็ทำบ่อยเป็นปกติอยู่หรอก แต่ขนาดจุ๊บเนี่ย...
ถ้าหากแบมแบมไม่ชอบแบบนี้ เป็นอันดับที่1 เคียงคู่มากับแจบอมฮยอง เขาก็คงเป็นอันดับ2รองลงมา แล้วโดยเฉพาะกับแบมแบมเนี่ย…
คิดไปคิดมาพลันทำท่าคล้ายคิดอะไรออก แววตาลังเลเปลี่ยนเป็นประกายยิบยับ ริมฝีปากยิ้มกว้าง ตาหยี
อา ใช่ ปกติก็ไม่ได้มีโอกาสอะไรแบบนี้นี่นา ทำไมครั้งนี้ต้องพลาดด้วยล่ะ
คิดเสร็จก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ จนแบมแบมที่จ้องมาอย่างหวาดระแวงต้องตะโกนลั่นเป็นการเตือนสติ
“คิมยูคยอม!!
นี่ฉันเพื่อนนายนะ!” ยูคยอมไม่สนใจแล้า
เขาเดินยิ้มตาหยีเข้าหาเพื่อนสนิท นั่งลงข้างคนที่ถูกจับเขา
มือหนาจับสองข้างแก้มย้อยเบา ส่งยิ้มตาหยีให้
แต่ก็ต้องหลุดหัวเราะ เมื่อแบมแบมพยายามหันซ้ายหันขวางับมือเขาที่จับอยู่บนแก้มยุ้ย
หวงเนื้อหวงตัวเสียจริง
“ไม่ต้องห่วงนะแบมแบม
ฉันจะอ่อนโยนกับนาย” ว่าไปก็หัวเราะเขินตัวเองไปพร้อมกับสมาชิกที่เหลือ
ก่อนจะจับสองแก้มไว้แล้วไล่พรมจูบหนักๆบนหน้าผากใสก่อนจะทุบอกแบมแบม แล้วรีบผละออกมา
หัวเราะเสียงสูงปิดหน้าปิดตาตัวเองด้วยความเขิน
เสียงโห่หัวเราะแซวยังคงดังอย่างต่อเนื่อง มีเพียงแบมแบมที่ตะโกนไล่หลังด่าเพื่อนสนิทด้วยความเจ็บใจ
“คิมยูยอม! ไอ้เพื่อนบ้า! ไอ้คนทรยศ!”
ทำคนอื่นเองแล้วยังมีหน้ามาเขินทุบอกเบาอีก
มันเจ็บนะโว้ย
คราวนี้เสียงหัวเราะเริ่มเงียบ
สายตาทุกคู่มองไปยังบุคคลสุดท้ายที่เหลือ
เจบีที่รู้ตัวว่าถูกมองก็คลี่ยิ้มบาง สบสายตาสมาชิกชาวไทยที่ตอนนี้ยังถูกกักตัวไว้บนโซฟา ใบหน้าใสไร้เครื่องสำอางในวันว่างบัดนี้เริ่มขมวดมุ่นน้อยๆ ความไม่ชอบใจเริ่มแผ่ออกมาจางๆ แม้ดูหงุดหงิดแต่ใบหน้ากลับแดงก่ำ อาจจะทั้งอาย ทั้งเขิน และโมโห แต่ใบหน้าแบบนั้นแหละที่มันทำให้พวกเขายิ่งนึกอยากแกล้งขึ้นไปอีก ปากอิ่มๆที่มักจะพูดไร้สาระหาเรื่องชาวบ้านเขาไปทั่วยามนี้กลับเม้มแน่นอย่างเก็บอารมณ์ ตากลมโตจ้องเขม็งมาทางเขานั้นมีความหวาดระแวงแฝงมาด้วย
เขารู้ว่าแบมแบมไม่ค่อยชอบแบบนี้นักหรอก
โดยปกติแล้วเด็กนี่เป็นคนหวงตัว ไม่ค่อยชอบสัมผัสคนอื่นก่อนมากนัก
มีบ้างที่ทำเพื่อเซอร์วิสแฟนๆ แต่หน้ากล้องว่าน้อยแล้ว หลังกล้องนี่แทบนับนิ้วได้
ตัวเขาเองก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้พอๆกับเด็กนี่นี่แหละ
แต่เพราะแบบนั้น เพราะพวกเขารู้ว่าแบมแบมจะไม่ชอบใจนั่นแหละ..
ร่างสูงของลีดเดอร์ประจำวงเริ่มสาวเท้าเข้าใกล้โซฟา ยิ่งระยะห่างน้อยลงเท่าไหร่แบมแบมยิ่งเริ่มหวาดหวั่นมากขึ้นเท่านั้น
“ฮยอง-” และเจบีไม่รอให้แบมแบมเอ่ยค้าน
ร่างสูงก้มตัวลงกดไล่บางไว้ก่อนจะกดริมฝีปากลงปลายจมูกใสอยู่ชั่วครู
สัมผัสเริ่มเบาบางลง แล้วก่อนที่ร่างสูงจะผละตัวเองออกมา เจบีกัดเข้าที่ปลายจมูกของคนใต้ร่างเบาๆอย่างหยอกล้อ
เขาผละขึ้นมาแล้วยิ้มมุมปาก
“บอกแล้วไงว่าเกาหลีก็มีนะ Kiss Day
น่ะ”
ว่าจบก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่แซว และหัวเราะจากสมาชิกที่เหลือ บ้างปรบมือหนักๆอย่างชอบใจ แบมแบมนิ่งไปพักนึงก่อนตั้งสติได้แล้วโวยวายลั่น
“ผมก็บอกแล้วไงว่าผมคนไทย! ผมเป็นคนไทยไงไม่ได้ยินหรือไง! แล้วไอ้Kiss Dayของเกาหลีที่ว่าน่ะมันวันไหน! มันวันนี้หรือไงเล่า!!” โวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำ ยิ่งเจ้าตัวโวยวายมากเท่าไหร่ สมาชิกที่เหลือกลับหัวเราะดังมากขึ้นอย่างชอบใจเท่านั้น
เจบีที่ได้ยิน ก็หันกลับมาตอบ
“อ้อ มันวันที่ 14 มิถุนาน่ะ” ว่าด้วยท่าทีเรียบๆไม่แยแสก่อนจุดรอยยิ้มมุมปากขึ้นอีกครั้ง
แบมแบมอึ้งเงียบไปอย่างพูดไม่ออกกับตลกร้ายของลีดเดอร์
รู้ตัวดีว่ากำลังถูกปั่นหัวเล่น ทั้งเกาหลี ทั้งฮ่องกง ทั้งแอลเอ พอกันทั้งนั้น
ร่างเล็กถูกปล่อยจากการเกาะกุม สมาชิกช่วยเข้ามาดึงเจ้าตัวลุกขึ้นนั่งดีๆ แล้วทั้งโอบกอด ทั้งปลอบใจ แต่ยังส่งเสียงหัวเราะร่ากันทุกคน และแบมแบมก็คล้ายจะกลายร่างเป็นตุ๊กตาไปเสียแล้ว ถูกดึงไปทางไหนก็ไป ถูกดันไปทางไหนก็ไป ไร้เสียงแย้ง ไร้คำค้าน ยอมถูกทุกคนจับนั่งนิ่งดูหนังด้วยกันต่ออย่างยอมแพ้กับทุกสิ่ง
วันนี้เป็นวันหยุดที่เป็นที่สุดแห่งปี
เป็นวันที่ 6 กรกฏา
ที่คงต้องจดจำไปตลอด
แล้วก็ทีหลังเขาจะไม่แย่งใครนั่งโซฟาอีกแล้ว..
อา ชีวิตมันยากจริงๆ
.
.
.
เมื่อตาคู่เรียวเล็กที่มีที่ถูกสวมทุบด้วยแว่นกรอบโต ไล่สายตาตรวจทานคำผิดและและเรียบเรียงเนื้อเรื่องของตนจนมั่นใจดีแล้ว มืออวบกดเซฟอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ก่อนจะกดคลิ๊กปุ่มเผยแพร่
อา โพสไปแล้ว
ดวงตารีเล็กจ้องเขม็งที่หน้าจอคอมอย่างคนรอคอย ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองไปที่ผนังด้านหลังคอมพิวเตอร์ แสงจากโคมไฟที่โต๊ะหนังสือแม้ไม่สว่างทั่วห้อง แต่ยังส่องให้เห็น เป็นโปสเตอร์และรูปภาพของศิลปินในดวงใจเธอเป็นสิบๆใบที่ถูกติดอยู่ตามที่ว่างของผนัง ถัดไปด้านบนอีกหน่อยเป็นชั้นวางของยาว มีหลายชั้นจนจรดเพดานห้อง ทุกชั้นถูกวางแน่นไปด้วยตลับแผ่นซีดีหลายสิบแผ่น รวมถึงตุ๊กตา พัด ฟิกเกอร์ แท่งไฟ หรือแม้แต่กระดาษโน๊ตก็ถูกวางเรียงโชว์อย่างสวยงาม และทั้งหมดล้วนเป็นศิลปินกลุ่มเดียวกันทั้งสิ้น GOT7
อา ใช่แล้ว เธอเป็นแฟนคลับพวกเขา
ดวงตาคู่นั้นกวาดมองอย่างหลงไหลอยู่หลายนาที วาดรอยยิ้มเคลิบเคลิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เสียงดังจากคอมพิวเตอร์ตรงหน้าจะเรียกความสนใจของเธอคืน
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
เสียงเตือนดังขึ้นถี่ พร้อมกับข้อความคอมเม้นหลั่งไหลขึ้นมากมาย เธอเริ่มไล่สายตาอ่าน
‘อาาา บทนี้ก็สุดยอดอีกแล้ว!
เธอแต่งได้ยอดเยี่ยมสุดๆไปเลย อ่านแล้วฟินขึ้นสวรรค์เลย ><’
‘กรี๊ดดดดด ตอนนี้น่ารักมาก สุดยอด
สุดยอดๆๆ แต่งเก่งอย่างนี้ เจ๋งที่สุด’
‘รอรวมเล่มไม่ไหวแล้ว จะทำหนังสืออีกไหมคะ ฮือออ ฉันอยากได้จังเลย’
อา ใช่แล้ว เธอเป็นนักเขียน
หรือใครจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ เธอเขียนเรื่องราวของพวกเขาที่เธอหลงไหล แล้วแชร์ลงบนบล็อกของเธอ บางคนเรียกมันว่านิยาย บางคนเรียกมันว่าฟิคชั่น
แม้บล็อกของเธอจะเป็นบล็อกที่ต้องใช้รหัสในการเข้าอ่าน
ผู้คนจึงรู้เพียงการบอกปากต่อปาก แต่เพียงไม่นาน บล็อกของเธอก็ดังติดเป็นกระแสบนโลกโซเชี่ยลอย่างลับๆ
ทุกครั้งที่เธอลงสักเรื่องหรือสักตอน จนตอนนี้เธอมีผู้ติดตามมากมาย เธอถูกแฟนบล็อกคะยั้นคะยอให้ทำหนังสือออกขายอยู่นาน
จนเธอได้ตีพิมพ์มาแล้วสองสามครั้ง แม้ยอดสั่งหนังสือมีมากมายแต่เธอกลับทำออกมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น
ก็ของหายากมากเท่าไหร่ ยิ่งน่าสนใจมากเท่านั้นนี่นา และแน่นอน
ยอดขายทั้งหมด เธอทุ่มไปกับการซื้อเพลงพวกเขาเพื่อเพิ่มยอดชาร์ต
ทุ่มไปการโหวตในแต่ละครั้ง มีบ้างที่เธอเจียดไปซื้ออัลบั้มเก็บไว้ รวมถึงของออฟฟิเชียลต่างๆด้วย
แหมๆ อย่างน้อยเธอก็อยากให้รางวัลตัวเองบ้างสิ อีกอย่าง
อุปกรณ์พวกนี้ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น
เมื่อเธออ่านคอมเมนต์มากมายจนพอใจแล้ว เธอคิดว่าเธอจะไปแช่น้ำอุ่นๆก่อนเข้านอน เธออยู่ในชุดวอร์มตัวนี้มาหลายวันเกินไปแล้ว
อืม แต่ขอเวลาบอกลาอปป้าอีกหน่อยแล้วกัน
คิดได้ดังนั้น มืออวบอ้วนนั้นกดปิดหน้าบล็อกของตน ก่อนจะกดคลิ๊กหน้าต่างอื่นขึ้นมาแทน
พลันรอยยิ้มประหลาดผุดผาดบนใบหน้าอวบที่ถูกล้อมกรอบด้วยทรงผมหน้าม้า ผมสีดำสนิทที่ไม่เคยผ่านการทำสีใดๆจับตัวเป็นก้อนๆ มันเยิ้ม แนบลงข้างแก้มอวบ ดวงตารีเล็กที่ถูกซ่อนอยู่หลังแว่นกรอบหนาเทอะทะมองจ้องหน้าจอนั้นอย่างไม่ละสายตา แววตาประหลาดที่บ่งบอกความหลงไหลฉายประกายจนน่ากลัว มืออวบละมือจากเมาส์แล้วหยิบแท่งไฟรูปทรงนกทีฉายแสงสีเขียวชาร์ทรุสเจิดจ้ามากำไว้
อา
เธอไม่เคยโบกแท่งไฟนี้ในคอนเสิร์ตหรือการแสดงของพวกเขาเลยสักครั้ง เธอไม่ใช่จำพวกที่ตามศิลปินไปทุกที่หรอกนะ
แม้จะอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน แต่ตลอดสามปีที่ฝ่านมานี้
เธอเคยเจอพวกเขาเพียงสองสามครั้งเท่านั้น และแน่นอน
เธอเฝ้ามองอยู่ไกลระยะเกือบ 10 เมตร
คอยมองพวกเขาที่ถูกล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยพวกสติคลั่ง
คอยแต่จะพันแข้งพันขาให้ศิลปินของเธอล้มได้ทุกเมื่อ
เธอเกลียดที่พวกเขาต้องคอยเอ่ยขอโทษทุกครั้งที่จะเดินไปทางไหน
เธอเกลียดที่ยัยชะนีสติคลั่งพวกนั้นคอยแต่จะเอามือถือหรือบ้องปืนใหญ่ของพวกล่อนวิ่งไล่ตามจนกระแทกพวกเขาเจ็บก็มี
เธอเกลียดที่ยัยพวกนั้นชอบทำให้พวกเขาอึดอัดเวลาไปไหน แม้เวลาไปเที่ยวส่วนตัว
หรือเวลาเข้าร้านสะดวกซื้อ รวมถึงเวลาเข้าร้านอาหารด้วย
ไปนั่งจ้องยืนจ้องแบบนั้นพวกเขาจะสบายใจได้อย่างไร
เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่ และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยคิดที่จะตามไปเจอพวกเขาข้างนอกนั่นเลย
เธอน่ะ ชอบตอนที่พวกเขาอยู่กันเองสบายๆ นั่งเล่น นอนเล่น พูดคุย หรือเล่นกันเป็นปกติโดยที่ไม่มีชะนีสติเสียคอยวิ่งตาม ตอนที่พวกเค้าอยู่กันเองเจ็ดคนคือช่วงเวลาที่เธอรักที่สุด
มืออวบขยับกำแท่งไฟในมือแน่น
โยกตัวไปเบาๆกับเพลงที่เปิดจากโน๊ตบุ๊คอีกเครื่องที่ตั้งอยู่ข้างกัน
พลันแขนอวบเผลอกดโดนคีบอร์ดโน๊ตบุ๊คจนคลิปที่กดค้างไว้นั้นเล่นต่อ เสียงเพลงจากเพลย์ลิสอัลบั้มล่าสุดหยุดไป
เธอเหลือบมอง ก่อนที่แววตาจะฉายประกาย
พร้อมกับเสียงจากคลิปที่กำลังเล่นต่อจากเดิมดังขึ้นอีกครั้ง
“แต่ผมเป็นคนไทย!”
เธอเอ่ยออกมาพร้อมกันกับเสียงจากคลิปวิดีโอนั่น เธอเปิดวนดูเป็นสิบๆรอบระหว่างเขียนเรื่องลงบล็อกจนเธอจำคำพูดของทุกคนได้หมดแล้ว
อาว่าแต่เสียงแบมแบมนี่น่ารักจริงๆเลยน้า เธอคิดพร้อมยิ้มระไม
ก่อนจะกดหยุดคลิปวิดีโอไว้อีกครั้ง แล้วหันกลับไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดวงตาเรียวเล็กหยีลงตามรอยยิ้มเมื่อมองดูสิ่งที่เคลื่อนไหวบนหน้าจอ
เธอมองเห็นมาร์คที่วันนี้นั่งเล่นโน๊ตบุ๊ตอยู่บนโซฟานั่งห้องนั่งเล่น ทั้งที่ปกติแล้วจะเล่นอยู่ในห้องนอนคนเดียว รวมถึงจินยองที่นั่งเลื่อนไอแพดด้วยท่าทีสงบนิ่งแม้มีแบมแบมกับยูคยอมประกบสองข้างคอยแลบลิ้นปลิ้นตา ส่งเสียงกวนอารมณ์ไม่หยุด จนแจบอมที่นั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่กับแจ็คสันต้องโยนหมอนใส่มังเน่ทั้งสองเป็นการสั่งให้ปิดปากเงียบ
อา ดูเหมือนพวกเขาพึ่งกลับมาจากข้างนอกได้ไม่นาน ตอนนี้ทุกคนอยู่ในห้องนั่งเล่นกันหมดแล้ว แล้วยองแจล่ะ สายตาเธอกวาดมองไปยังช่องที่แสดงภาพห้องนอนที่มีคอมพีซีตั้งอยู่ แต่กลับว่างเปล่า
ปกติต้องนั่งเล่นเกมอยู่นี่สิ
เธอเลื่อนสายตาหาอีกครั้ง
อา มาหาอะไรกินที่ครัวนี่เอง
เธอมองตามยองแจที่ปิดตู้เย็นหยิบขนมขบเคี้ยวแล้วมานั่งรวมกลุ่มกับคนอื่นๆที่หน้าทีวี
วันนี้อยู่รวมตัวกันหน้าทีวีหมดเลย คิคิคิ ดีจัง
เธอน่ะ ชอบช่วงเวลาแบบนี้ที่สุด
คิดพลางฉายรอยยิ้มประหลาด
ดวงตาเรียวเล็กยิ่งหยีลงตามอารมณ์ยินดี
อา ใช่แล้ว ใช่แล้ว เธอไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าเธอแต่งนิยาย ไม่เคยพูดสักครั้งว่าเขียนฟิคชั่น เธอเพียงแค่นำเรื่องราวที่เธอเห็นแชร์บอกเล่าผ่านบล็อกของเธอเพียงเท่านั้นเอง
ร่างอวบนั่งโยกตัวโบกแท่งไฟเบาๆ ปากหนาพึมพัมเพลงไตเติ้ลล่าสุดออกมาอย่างถูกเนื้อร้องและทำนองแม้ไร้เสียงเพลงเปิดคลอ สายตาก็จ้องมองคนทั้งเจ็ดที่เคลื่อนไหวอยู่บนจอด้วยความหลงไหล
เป็นอีกครั้งที่เธอลืมไปเสียสนิทว่าเธอจะอาบน้ำและแช่น้ำอุ่น
เป็นอีกครั้งที่เธอเผลอจ้องมองพวกเขาอยู่แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อ
คุยกันหน่อยน้า
คิดถึงฉันไหมคนดี 5555555 คือพล็อตเรื่องบอกความเก่าแก่ของวันที่คิดพล็อตได้เลยอ่ะ ก็ดองไม่นานมากหรอก แค่ข้ามปีเอง 5555555
สำหรับosนี้ก็เงิบแล้วเงิบอีก 555 มีใครงงเนื้อเรื่องไหมคะ อ่ะเราจะขยายความไว้เผื่อมีคนงง
- ทุกคนจับยัยแบมจุ๊บ > สรุปเป็นการเขียนฟิคงบล็อกของฟค > สรุปสุดท้ายนังเป็นซาแซงติดกล้องไว้แล้วเขียนจากเรื่องจริง
ตั้งใจจะเขียนตอนนี้ออกมาให้แหยงหน่อยๆในพาร์ทของซาแซง
ส่วนฉากจุ๊บก็ไม่ขนาดเป็นdeep kiss แต่ละคนก็มีโอกาสมากน้อยไปตามโอกาสและวาระ 5555555
เชียร์ใครเป็นพิเศษไหมคะเผื่อมีเป็นspecial kiss dayครั้งต่อไป 55555555
*6 กรกฎาคม วันจูบโลก (World Kissing Day)
ในหลายวัฒนธรรมได้ผสานการจูบเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงมิตรภาพ นอกจากจูบของคนรัก แต่ไม่ว่าจะความหมายใด การจูบนั้นก็ได้มอบความรู้สึกดี ๆ แก่กันระหว่างคนสองคนเสมอ
อ้างอิงจาก http://hilight.kapook.com/view/139124
**14 มิถุนายน เป็น Kiss Day ของเกาหลี
ความคิดเห็น