{ปรมาจารย์ลัทธิมาร} พลิกลิขิตเปลี่ยนชะตาชีวิต (OC)
'ยามสตรีที่อดีตเคยถูกพลัดพรากจากไป เมื่อหวนคืนกลับมายังที่ที่ควร จักทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงของโชคชะตาครั้งยิ่งใหญ่'
ผู้เข้าชมรวม
12,577
ผู้เข้าชมเดือนนี้
63
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ในเมืองเเห่งหนึ่งใกล้ๆอวิ๋นเมิ่ง มีคำกล่าวขานกันว่าชะตาของบุตรสาวของตระกูลอี้นั้นโชคร้ายเหลือเกิน นางมีรูปร่างหน้าตาสละสลวยงดงามเท่าที่หญิงคนนึงจะงามได้ แต่ไฉนเลยโชคชะตาจึงเล่นตลกร้ายกับนางซะเหลือเกิน ตอนนางเกิดมาได้ไม่กี่เดือนผู้เป็นเเม่ก็ดันเป็นโรคร้ายรักษาไม่หายเเละเสียไปภายในไม่กี่เดือน ประมุขอี้ผู้เป็นพ่อก็เศร้าโศกเสียใจนานอยู่หลายเดือนกว่าจะกลับมาตั้งหลักได้ ระหว่างนั้นก็ได้สาวใช้มาคอยช่วยเลี้ยงในตอนที่ทุกอย่างยังไม่เข้าที่ไม่เข้าทาง
จวบจนผ่านมาหลายปีหนูน้อยในตอนนั้นเติบโตมาเป็นเด็กสาววัย11หนาว ที่น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูนิสัยนางถึงเเม้จะกระโดกกระเดกเกินหญิงไปบ้างเเต่นางก็อัธยาศัยดีเเละนอบน้อมเเก่ผู้ใหญ่ ชาวบ้านในเมืองที่เห็นเวลานางมาเดินเล่นที่ตลาดพร้อมกับพี่เลี้ยงเป็นประจำก็อดที่จะหยิบยื่นขนมต่างๆให้ไม่ได้ ภาพที่ชาวเมืองต่างเห็นก็มักจะเป็นภาพที่หนูน้อยวิ่งไปมาภายในตลาด พอวิ่งเล่มจนทั่วก็จะกลับมาโดนพี่เลี้ยงของนางดุอยู่เสมอ เป็นภาพที่เห็นเเล้วอดยิ้มตามไม่ได้เลยทีเดียว
เเต่แล้วจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของตระกูลอี้นั้นก็มาถึง เมื่อวันนึงในฤดูหนาวปีนั้นมีคนของสกุลใหญ่สกุลนึงนำคนเข้ามามากมาย ปิดล้อมเมืองนี้เสียจนทั่ว ชายอาภรณ์สีเเดงที่ดูจะเป็นผู้นำก็เดินเข้าไปยังบ้านตระกูลอี้ หลายเพลาผ่านไปชายผู้นั้นก็เดินออกมาพร้อมประกาศตนว่าเป็นไม่มีตระกูลอี้อีกแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ถามไถ่ว่าเกิดอันใดขึ้น ชายผู้นั้นไม่ตอบเเล้วเดินไปหาชายคนนึงที่ตะโกนขึ้นมา ก่อนจะซัดพลังปราณไปยังชายคนนั้นทันที ชายคนนั้นกล่าวว่าใครตั้งคำถามกับเขาอีกจะต้องโดนเเบบมันผู้นี้ หลังจากนั้นชายผู้นั้นเเละคนอื่นๆก็พากันออกไป ชาวบ้านได้ทีก็วิ่งเข้าไปดูที่บ้านตระกูลอี้ทันที
พอเข้าไปชาวบ้านต่างก็ตกใจกันทันที เพราะพอเข้าไปในอนาเขตบ้านตระกูลอี้ก็เห็นศพคนในตระกูลเป็นจำนวนมาก ถัดจากทางเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าวก็เจอกับศพของพี่เลี้ยงของคุณหนูประจำตระกูล ถัดไปอีกนิดก็พบประมุขอี้นอนจมกองเลือดอยู่ ที่หน้าอกมีเเผลฉกรรจ์จากการถูกแทง ชาวบ้านต่างรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
‘ละ…ลูกข้า เหลียนเอ๋อร์ นาง นางอยู่ไหน’ ประมุขหนุ่มพูดออกมาเเผ่วเบา เหมือนพร้อมจะจากไปทุกเมื่อ คนที่อยู่ใกล้ๆเมื่อได้ยินก็ลุกไปเดินหาเด็กสาวทันที จนเมื่อวิ่งไปหลังจวนก็เจอเข้ากับเด็กสาวนั่งหันหลังสะอึกสะอื้นร้องไห้อยู่ ชายที่มาตามหาก็เดินเข้าไปหาเด็กสาวทันที พลันมือที่จับไหล่กำลังจะอุ้มหนูน้อยก็ชะงักทันที สิ่งที่ชายหนุ่มเห็นจะว่าน่ากลัวก็ใช่ เเต่ใดๆล้วนสยดสยองมากกว่าเมื่อหันมาเเทนที่จะเจอกับใบหน้าน่าเอ็นดูที่เคยเห็นประจำ เเต่เมื่อนางหันมากลับกลายเป็นใบหน้าของเด็กสาวที่ไม่มีลูกตา เเละเลือดไหลนองเต็มใบหน้านวลอยู่ ‘คะ….คุณหนู!!?’
‘ฮึก…พี่ชาย..พะ..พาข้าไปหาท่านพ่อที…ฮึก ….ข้ามองไม่เห็นอะไรเลย’ สิ้นเสียงหนูน้อยเหมือนเรียกสติชายหนุ่มตรงหน้าได้จึงรีบอุ้มหนูน้อยไปหาประมุขอี้ทันที เเต่ในใจก็คิดไปด้วยว่าคนพวกนั้นเป็นใครกันถึงได้ลงมือโหดเหี้ยมกับเด็กน้อยขนาดนี้ พอมาถึงตัวประมุขทุกๆคนที่อยู่รอบๆต่างก็ปิดปากกลั้นน้ำตากันทันทีเมื่อเห็นสภาพของเด็กสาว
‘หละ…เหลียนเอ๋อร์…คะ…ใครทำเจ้าขนาดนี้’ ประมุขอี้น้ำตานองหน้าทันทีที่เห็นแก้วตาดวงใจของตนในสภาพไร้ดวงตา พลันนึกเจ็บใจ ถ้าเขาแข็งแกร่งเเละมีพลังอำนาจมากกว่านี้ก็คงไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น
‘ท่านพ่อ ท่านอยู่ไหน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าเจ็บเหลือเกิน….ชายชุดเเดงคนนั้นเขาบอกข้า บอกว่าข้ารู้เห็นมากเกินไป เขาควักลูกตาข้าไป ท่านพ่อท่านเป็นอะไรรึไม่ ….ฮึก’ เวินรั่วหาน!! ไอ้สุนัขชาติชั่ว ข้าขอสาปแช่งเจ้า ให้ตายอย่างทรมาน เเม้ตายก็ไร้ดินกลบฝังร่าง!
เด็กสาวคลำมือหาผู้เป็นพ่อจนผู้เป็นพ่อต้องยกมือขึ้นมาจับทันที
‘เหลียนเอ๋อร์…พ่ออยู่นี่…ถ้าพ่อไม่อยู่เเล้ว ดูเเลตัวเองให้ดีนะ พ่อ…อึก!…เเค่ก เเค่ก!!’ ยังไม่ทันเอ่ยจบประมุขอี้ที่นอนอยู่ก็สำลักออกมาเป็นเลือด
‘ทะ…ท่านพ่อ ไม่เอา ท่านพ่ออย่าอย่าจากไปไหนนะ ท่านพ่อต้องอยู่กับข้าสิ ข้าอยากอยู่กับท่านพ่อ ท่านพ่ออย่าทิ้งข้า…’
‘เหลียนเอ๋อร์…เจ้าต้องอยู่ให้ได้…พ่ออยู่กับเจ้าไปตลอดไม่ได้หรอกนะเหลียนเอ๋อร์….อย่าร้องไห้ เจ้าจะเจ็บกว่าเดิม’
‘ฮึก…ไม่เอา…ข้าไม่อยากอยู่คนเดียว ท่านอย่าทิ้งข้าไปไหนนะ ฮึก…ข้ายอมเเลกกับอะไรก็ได้ท่านพ่ออยู่กับข้านะ’
‘เจ้า…ต้อง….ใช้ช้วิตให้ดีนะเหลียนเอ๋อร์ พ่อ..รักเจ้านะ…’ ว่าจบมือที่กุมมือเด็กสาวอยู่ก็พลันล่วงลงข้างกาย พร้อมกับชีวาที่จากไป
‘ไม่เอา ….ไม่…ไม่!!!!’ เด็กสาวที่รับรู้ถึงมือที่ปล่อยตนไปก็ใจเสียอย่างหนัก สะอึกสะอื้นร้องไห้ปานจะขาดใจ ชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เสียใจ ช่วยกันปลอบเด็กสาวตรงหน้า นางร้องไห้จนสลบไป
สองปีผ่านไป
เด็กน้อยที่เคยสดใสร่าเริงเมื่อครั้งกาลก่อน บัดนี้กลับกลายเป็นเด็กเงียบขรึม เก็บตัว ไม่พูดไม่จา ชาวบ้านต่างก็ว่าว่านางอาจจะสติฟั่นเฟือนไปแล้วจากการสูญเสียในครั้งนั้น ไม่เพียงเเค่ประมุขอี้ที่นางเสียไปแต่รวมถึงดวงตาของนางด้วย ยามนี้จะบอกว่านางดีขึ้นหมอที่รักษาก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก เพราะดวงตาของนางมักจะเจ็บขึ้นมาทุกครั้งที่นางร้องไห้ หมอที่รักษาต่างก็ท้อใจไปตามๆกัน เเม่นางผู้นี้ไม่ได้บาดเจ็บที่กายเเล้ว เเต่จิตใจของนางยังคงบอบช้ำยิ่งนัก
‘เหลียนเหลียน ข้าเอาข้าวมาให้ เจ้ามาทานเสียหน่อยเถิด’ อ้ายฉี เด็กสาวที่เป็นเพื่อนกับเเม่นางน้อยในอดีต นางมักจะเอาข้าวมาให้นางเสมอถึงเเม้จะกินหรือไม่กินบ้างก็ตาม
‘เหลียนเหลียน เจ้าได้ยินข้ารึไม่’ เด็กสาวรู้สึกเเปลกๆกับความเงียบจนเกินไปครั้งนี้นางจึงผลักประตูเข้าไปดู ก็พบกับร่างบางผิวซีดนอนอยู่ พร้อมกองเลือดที่เจิ่งนองอยู่ตรงเเขนข้างซ้าย
‘เหลียนเหลียน!!’ อ้ายฉีรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างหญิงสาวทันที
‘เหลียนเหลียน ทำไมเจ้าทำเเบบนี้ ฮึก’
‘อ้ายฉี ข้าเพียงอยากไปหาท่านพ่อเท่านั้น เจ้าเห็นรึไม่ท่านพ่อยืนรอข้าอยู่ตรงนั้น…’ เด็กสาวใช้มือชี้ไปมุมห้องมุมนึงที่ว่างเปล่า
‘ข้า ข้าไม่เห็นอะไรเลย เจ้าจะมองเห็นได้อย่างไรกันเหลียนเหลียน เจ้าตาบอดนะ ’ อ้ายฉีส่ายหน้า พร้อมตอบเด็กสาวในอ้อมเเขน
‘อาาา เยี่ยงนั้นคงเป็นท่านพ่อที่มารับข้าจริงๆเเล้วหล่ะ ข้ากำลังไปหาท่านเเล้วนะท่านพ่อ…’ ลมหายใจอันรวยรินของหญิงสาวก็ค่อยๆเเผ่วเบาจนหายไป…..
ผลงานอื่นๆ ของ Mrs.P ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mrs.P
ความคิดเห็น