ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta_X] Same Time

    ลำดับตอนที่ #15 : Same Time : C H A P T E R 1 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 439
      9
      15 มี.ค. 60

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ wonho charisma ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ hyungwon ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ wonho charisma


    C H A P T E R  1 4

     

                วอนโฮกลับมาที่บ้านหลังจากที่เอาของใช้ส่วนตัวบางส่วนไปให้กับแม่ของเขาที่บริษัท บวกกับขับรถไปให้แล้วตัวเขานั่งรถเมล์กลับมาเองด้วย เพราะว่าวันนี้แม่ของเขามีประชุมเลิกค่อนข้างจะดึก ก็เลยจะนอนที่บริษัทเลย รถของวอนโฮก็ยังซ่อมไม่เสร็จ น่าจะอีกนานกว่าจะถึงคิวซ่อม ระหว่างนี้ถ้ารถของแม่ไม่ว่าง เขาก็คงต้องใช้บริการรถประจำทางอย่างนี้ไปก่อน


                ตอนนี้เป็นเวลาจะสี่ทุ่มแล้ว บ้านเงียบอย่างที่คาดเอาไว้ ฮยองวอนมีเรียนเลิกสามทุ่ม กลับดึกพอสมควร โฮซอกก็คงออกไปรับ เพราะแบบนั้นวอนโฮก็เลยไม่ต้องห่วงอะไร ทว่า..


                “ทำไมนายอยู่นี่ แล้วฮยองวอนล่ะ”


                “ฮยองวอนยังไม่กลับครับ”


                “ฉันรู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมนายถึงไม่ไปรับฮยองวอนวะ”


                “ก็ฮยองวอนบอกว่าเขากลับเองได้ ไม่ต้องไปรับนี่ครับ”


                โฮซอกตอบหน้าตาย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น และนั่นทำให้วอนโฮรู้สึกหัวร้อนขึ้นมา เดินไปกระชากคอเสื้อคนที่นั่งดูทีวีสบายใจอยู่


                “ที่ฮยองวอนพูดแบบนั้นก็เพราะว่าเกรงใจ แต่ไม่จำเป็นที่แกจะต้องทำตามหรือเปล่า นี่มันดึกแล้ว มหาลัยมาบ้านมันไม่ใช่ถนนเส้นหลัก แกก็น่าจะรู้ ว่ามันอันตราย”


                “ก็ผม..”


                “ฉันอยากจะต่อยหน้าแกสักที แต่เอาไว้ก่อนเถอะ”


                วอนโฮชี้หน้าคาดโทษ แล้วหันไปคว้าเสื้อโค้ทที่เพิ่งจะถอดออกมาใส่ วิ่งออกไปนอกบ้านเพื่อตรงไปยังมหาลัย โชคดีที่พอออกมาถึงถนนก็มีรถผ่านมาพอดี คงใช้เวลาไม่นาน น่าจะทันฮยองวอนอยู่


                มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาคนที่กำลังจะไปหา แต่กลับไม่มีสัญญาณเหมือนว่าแบตโทรศัพท์หมด เลยได้แต่นั่งร้อนใจอยู่บนรถ และเพราะเป็นเวลากลางคืนแล้วรถเลยไม่เยอะมาก ทำให้มาถึงในเวลาไม่นานนัก วอนโฮวิ่งไปหน้ามหาลัยเพราะคิดว่าฮยองวอนน่าจะอยู่แถวนี้ ตอนนี้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว แต่รออยู่สักพักก็ไม่เห็นออกมาสักที จนเกือบจะถอดใจเลิกรอเพราะคิดว่าคงกลับไปแล้ว


                “น่ากลัวมากเลยเน๊อะ แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีล่ะ”


                “จะแจ้งตำรวจก็ไม่กล้า เมื่อกี้ได้ยินไหมล่ะ เขาบอกว่าเรื่องของพ่อลูก พอเคลียร์กันได้ เดี๋ยวเรานี่แหละจะซวย”


                “นั่นสิ ก็ได้แต่หวังอ่ะนะ ว่าจะไม่เป็นอะไร ตรงนั้นก็เปลี่ยวซะด้วยสิ คงไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นใช่ไหม”


                วอนโฮมองผู้หญิงสองคนที่เดินคุยกันผ่านหน้าเขาไป สังหรณ์ใจบางอย่าง ก่อนจะตัดสินใจวิ่งไปยังทางที่ทั้งสองคนเดินมา


                ขอให้ไม่ใช่อย่างที่คิดทีเถอะนะ


                “กูบอกให้มึงหุบปากไง!!!


                “ปล่อย!! ช่วยด้วย ช่วย..”


                “ถ้ามึงไม่หยุด กูทะ..”


                “ไอ้เวรเอ๊ย!!!!!!


                ทำไมกันนะ ไม่ว่าจะขออะไรมันก็ไม่เคยเป็นอย่างที่หวังเลยสักอย่าง วอนโฮกระโดดถีบมีดปลายแหลมที่ถูกจ่ออยู่ตรงหน้าของฮยองวอนได้ทันเวลา มือสากเผลอปล่อยจากแขนของฮยองวอนออก วอนโฮเลยได้ทีตามไปเตะซ้ำจนอีกฝ่ายทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะจุก


                “พะ พี่โฮซอก”


                “หน็อย มึงมาเสือกอะไรด้วยวะ นี่มันเรื่องของพ่อลูกโว้ยยยย”


                “อ๋อ งั้นเหรอ กูควรต้องเชื่อไหมล่ะ พ่อฮยองวอนตายไปตั้งนานแล้ว ไอ้สารเลว”


                ฮยองวอนมองภาพการตะลุมบอนเล็กๆตรงหน้าด้วยความตกใจ ยันตัวลุกขึ้นยืนช้าๆ มองคนที่เข้ามาช่วยตัวเองอีกที แล้วก็พบว่าไม่ใช่โฮซอกอย่างที่คิดในตอนแรก


                จู่ๆก็รู้สึกผิดขึ้นมา


                “ไม่เป็นไรใช่ไหม”วอนโฮหันไปถามฮยองวอนหลังจากจัดการจนอีกฝ่ายหมอบลงไปแล้ว “บ้าชะมัด ดีนะที่ฉันมาทัน”


                “พี่.. พี่วอนโฮ ผม..”


                “กลับบ้านเถอะ มันยังไม่ได้ทำอะไรนายใช่ไหม”


                “..ครับ”


                “อือ ไปเหอะ”


                วอนโฮตัดบทแล้วดันฮยองวอนให้เดินออกมาจากที่เกิดเหตุ ทำเหมือนว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นทั้งที่ความจริงได้ยินทุกๆอย่างชัดเจน ได้ยินว่าฮยองวอนเรียกเขาว่าโฮซอก


                แม่งเอ๊ย


                “มึง..”


                “เฮ้ย!!!!!


                “พี่วอนโฮ!!!!


                ฉึก


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ฮยองวอนเดินตามร่างหนาที่เดินนำเข้าไปภายในบ้านช้าๆ ตลอดทางจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้าน ไม่มีบทสนทนาใดๆออกมาเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่เหมือนว่าวอนโฮจะไม่อยากฟังต่างหาก..


                วอนโฮได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพราะถูกมีดเฉี่ยวที่แขน ดีที่มันไม่ลึกมาก หลังจากนั้นวอนโฮก็หันไปถีบอีกฝ่ายซะจนคราวนี้ได้สลบจริงๆ จากตอนแรกจะไม่เอาเรื่อง ฮยองวอนก็เลยโทรหาจูฮอน และเขาก็มาจัดการให้ หลังจากนั้นก็พาวอนโฮไปโรงพยาบาล ได้ยามาแล้วก็กลับบ้าน


                ภายในบ้านมืดสนิท เหมือนไม่มีคนอยู่เลย พอไฟเปิดฮยองวอนก็มองไปรอบๆ วอนโฮที่หันมามองพอดี แค่นหัวเราะก่อนจะพูดนิ่งๆ


                “หามันเหรอ ..คงขึ้นไปนอนแล้วมั้ง”


                “ผมไม่ได้..”


                “คราวหลังถ้าจะกลับดึกๆ ก็บอกให้หมอนั่นไปรับสิ จะเกรงใจกันไปทำไม ก็รู้อยู่แล้วว่ามันอันตราย ถ้าหากวันนี้ฉันไปไม่ทัน นายคงแย่”


                “..ขอบคุณครับ”


                “ช่างเถอะ”วอนโฮยักไหล่ จะเดินขึ้นไปข้างบน แต่ข้อมือกลับถูกรั้งเอาไว้ก่อน “...”


                “พี่วอนโฮ ผม ..ขอโทษนะครับ”


                “...”


                “ผมไม่รู้จริงๆว่าเป็นพี่ ผมนึกว่าจะเป็นพี่โฮ..”


                “ช่างมันเหอะ”


                ฮยองวอนรู้ วอนโฮคงเสียความรู้สึกมากๆ แต่จะทำยังไงฮยองวอนก็ย้อนกลับไปแก้ไขมันไม่ได้ เพราะตอนนั้นเข้าใจว่าเป็นโฮซอกจริงๆ


                “ถ้างั้นพี่หิวไหมครับ เดี๋ยวผมทำ..”


                “นายไม่ต้องมาทำดีกับฉันเพราะอยากขอโทษหรือขอบคุณหรอก ฉันไม่ต้องการ”


                “...”


                “ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ตัวฉัน ฉันดูแลตัวเองได้ ..มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่ฉันไม่มีนาย”


                “แต่พี่วอนโฮครับ ผมแค่อยากจะดูแลพี่ ผม..”


                “นายไม่จำเป็นต้องมีฉันก็ได้นี่ฮยองวอน”


                “...”


                “ในเมื่อตัวฉันเองมันก็ไม่ได้จำเป็นอะไรสำหรับนายอีกแล้ว การที่นายเข้ามาทำดีกับฉัน ก็เพราะนายคิดว่าฉันเป็นใครสักคน แต่เพราะฉันไม่ใช่ ฉันก็คงต้องไป”


                “พี่วอนโฮ”         


                “ขอบให้มีความสุขกับคนที่นายรอคอยเขามาทั้งชีวิตก็แล้วกันนะ แชฮยองวอน”


                พูดจบวอนโฮก็ดึงมือตัวเองออกแล้วเดินขึ้นข้างบน ทิ้งฮยองวอนให้ยืนน้ำตาคลออยู่ที่เดิม ไม่ใช่แค่วอนโฮที่เจ็บปวด ไม่ใช่ว่าฮยองวอนไม่รู้สึกอะไรเลย เขาก็เป็นคนเหมือนๆกัน และก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกับวอนโฮนี่ เพราะงั้นเลยอยากจะคุยกับวอนโฮอย่างจริงจัง อย่างน้อยแค่เวลาสักนิดก็ได้


                “พี่วอนโฮครับ ผมจะ..”


                “ฮยองวอน”


                ก่อนที่จะได้เดินตามวอนโฮขึ้นไป เสียงที่เรียกก็ดึงรั้งให้ฮยองวอนต้องหยุดแล้วหันกลับไปมองก่อน “พะ พี่โฮซอก”


                “โล่งอกไปทีที่กลับมาถึงแล้ว”


                “..พี่โฮซอกไปไหนมาครับ”


                “ก็ออกไปรับเราน่ะสิ พี่ขอโทษด้วยนะ”โฮซอกยิ้มบางๆ เดินเข้ามาใกล้แล้วลูบหัวฮยองวอนเบาๆ “พอมาคิดดูแล้วพี่ก็น่าจะออกไปรับฮยองวอนให้เร็วกว่านี้ กลับบ้านมานานหรือยัง”


                “สะ สักพักครับ”


                “งั้นก็ดีแล้วล่ะ”


                “ครับ”


                “ขึ้นนอนเถอะ มันดึกแล้ว”


                สุดท้าย ..ก็ไม่ได้คุยอยู่ดี










    50%









     

     

                วอนโฮตื่นขึ้นมาในตอนสายๆ เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ มีเรื่องให้คิดเยอะมากเกินไป คิดมากจนรู้สึกปวดหัว ต้องกินยาถึงได้หลับลง


                วันนี้ฮยองวอนไม่มีเรียน วอนโฮรู้ดี หากเป็นปกติเมื่อก่อนก็คงจะพากันออกไปที่ไหนสักที่ ที่นั่นก็คงไม่พ้นพวกพระราชวังต่างๆเพราะฮยองวอนชอบ และตัววอนโฮเองก็รู้สึกดีที่ได้ไปเหมือนกัน


                มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน พอได้ไปพระราชวังนั่น มันก็เหมือนกับว่าวอนโฮได้กลับบ้านเก่า ซึ่งมันตลกดี ในอดีตเขาอาจจะเคยเป็นพระราชา หรือองค์ชายรัชทายาทอะไรเทือกๆนั้นก็ได้นะ


                “หึ ..ไร้สาระ”


                พึมพำด่าตัวเองแล้ววอนโฮก็หยิบกล้องมาสะพาย เพื่อเตรียมจะออกไปข้างนอก ..ตามลำพัง


                “ได้แล้วครับพี่โฮซอก”


                “ขอบคุณครับ”


                วอนโอถอนหายใจพร้อมกับกลอกตาเล็กน้อย พอลงมาก็เจอภาพบาดตาขึ้นมาทันที เห็นฮยองวอนยกชามที่มีควันลอยออกมา ให้เดาก็คงไม่พ้นรามยอนหรอก วอนโฮทำเป็นไม่สนใจ เดินเลยเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นแล้วหยิบขวดน้ำออกมา


                “แค่กๆๆ ฮยองวอน ทำไมมันเค็มแบบนี้ล่ะ”


                “เอ่อ..”


                “พี่กินไม่ได้หรอกนะแบบนี้น่ะ มันเค็มเกินไปแล้ว”


                “น่ารำคาญ”วอนโฮพูด จงใจพูดดังพอให้ได้ยิน เมื่อถูกหันมามองเขาก็ยักไหล่แล้วหยิบตะเกียบกับช้อนอันใหม่ไปแถมยังถือวิสาสะฉวยเอารามยอนถ้วยนั้นมา “กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน ฉันกินเอง”


                “คุณเอาไปเถอะครับ ผมไม่กินหรอก”


                ฮยองวอนเงียบ มองวอนโฮที่เอารามยอนไปกินโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ในขณะที่โฮซอกเอาแต่พูดว่ามันเค็ม และชวนออกไปหาอะไรกินข้างนอกอยู่ตลอด สายตาของฮยองวอนที่ใช้มองโฮซอก จู่ๆมันก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่โกรธที่เขาเอาแต่บอกว่าฝีมือการทำอาหารของฮยองวอนมันห่วย แต่แค่รู้สึกแปลก..


                เขาเหมือนไม่ใช่พี่โฮซอกคนเดิม


                โฮซอกไม่เคยบ่นเรื่องฝีมือการทำอาหารของฮยองวอน แม้ว่ามันจะห่วยแค่ไหนก็ตาม


                โฮซอกเป็นห่วงทั้งร่างกายและความรู้สึกของฮยองวอนอยู่เสมอ เลยไม่เคยมีสักครั้งที่จะทำให้ฮยองวอนต้องลำบากใจ


                แต่ทำไมตอนนี้ถึง..


                ...


                ทำไมถึงได้กลายเป็นวอนโฮ ที่เป็นคนทำสิ่งเหล่านั้น


                พอรู้สึกตัวว่าถูกมองอยู่ วอนโฮที่กำลังกินรามยอนเค็มๆก็เงยหน้ามองไปยังสายตาคู่นั้นก่อนจะกระแอมเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืน


                “ฝากเก็บด้วยแล้วกัน ฉันรีบ”


                “เอ่อ พี่วอนโฮครับ”


                “...”


                “พี่จะไปไหนเหรอครับ”


                “..สักที่”วอนโฮตอบสั้นๆแล้วเดินออกมา แต่ก็หยุดก่อนเพราะนึกขึ้นมาได้ “วันนี้แม่ชวนออกไปหาอะไรกินข้างนอก ยังไงเดี๋ยวแม่ก็คงบอกอีกทีว่าที่ไหน ทำตัวให้ว่างกันด้วยล่ะ”


                ฮยองวอนมองวอนโฮที่เดินออกไป ก่อนจะหันไปมองโฮซอกที่ตอนนี้เดินไปที่หน้าทีวีแล้ว..


                “พี่เปลี่ยนไปมากเลยนะครับพี่โฮซอก”


                อย่างกับไม่ใช่คนเดิม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                -WONHO-


                ช่วงนี้ชีวิตประจำวันผมมันน่าเบื่อนะคุณว่าไหม ไปแต่ที่เดิมๆ ทำอะไรก็ซ้ำแบบเดิม แถมยังต้องอยู่ตัวคนเดียวอีก แต่จะให้ทำไงล่ะ ผมมันก็แค่คนมาทีหลัง หรือไม่ก็เป็นแค่ตัวสำรองอะไรทำนองนั้น ก็ต้องยอมรับสภาพอยู่แล้ว ถูกไหม..


                ผมมาที่เดิม ที่ที่เคยได้เจอกับฮยองวอนเป็นครั้งแรก จู่ๆก็คิดถึงที่นี่ขึ้นมา ความจริงก็อยากชวนฮยองวอนให้มาด้วยกันแหละ แต่เขาคงไม่มา ในเมื่อมีโฮซอกอยู่แล้ว


                โอ๊ย นี่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน จะมาคิดอะไรที่ทำร้ายใจตัวเองไปทำไม ผมควรเลิกคิด แล้วก็ตั้งสมาธิอย่างจริงจังสักที ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปพวกนี้ไปลงในคอลัมน์ใหม่ของหนังสือแม่ จะได้เลิกบ่นผมสักทีว่าผมไม่ยอมทำอะไรให้มันจริงจัง


                แต่ดูสิ พอผมคิดจะทำอะไรให้มันจริงจังขึ้นมา ก็มีอะไรมาขัดผมอยู่เรื่อยเลย กะว่าจะหามุมสวยๆแล้วถ่ายรูปไปเลือกเยอะๆ แต่ว่าวันนี้เหมือนจะมีกองถ่ายอะไรสักอย่างมาถ่ายซะได้


                “อ๊ะ! คุณ”


                “...”


                ผมหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อถูกชี้หน้า ไม่ใช่เชิงหาเรื่องหรอก แต่ว่าผมไม่รู้จักคนๆนี้สักหน่อย ถ้ามาชี้หน้ากันโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ก็เท่ากับหาเรื่องกันชัดๆเลยนะ


                “จำผมไม่ได้เหรอ วันนั้นคุณยังทำหน้าเหมือนจะต่อยผมอยู่เลย”


                “- -“ผมพยายามเพ่งมองใบหน้าของคนๆนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นดาราของกองถ่ายนี้แหละ จากการแต่งตัวที่ไม่น่าจะใช่ยุคสมัยนี้น่ะนะจะว่าไปพอเริ่มมองแบบนี้ก็เริ่มจะคุ้นละ “..คุณรู้จักกับฮยองวอน”


                “ใช่แล้ว ผมชางกยุน ถึงแม้ผมจะเฟลนิดๆก็เถอะที่คุณจำผมได้เพราะพี่ฮยองวอน ไม่ใช่เพราะผมเป็นดารา”


                “- -


                “แต่เอาเถอะ คือคุณว่างหรือเปล่า”


                “..ก็ว่าง”


                “งั้นช่วยผมหน่อยนะ ขอร้อง พอดีมันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ขอบคุณมาก”


                สุดท้ายผมก็ถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยอยากจะทำมาก่อนในชีวิต พอนายชางกยุนนี่ลากผมเข้าไปในกอง พูดในสิ่งที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ หลังจากนั้นผมก็ถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องซะเต็มยศ กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงพวกนี้เฉย


                แม้จะเป็นแค่ตัวประกอบก็เถอะ


                “นี่นายจะให้ฉันทำอะไรกันแน่”ผมถามอย่างหงุดหงิด เมื่อถูกยัดดาบใส่มือ


                “ไม่ยากๆ คุณก็แค่รับบทเป็นองครักษ์มือขวาของผมที่เป็นองค์รัชทายาท คุณก็แค่แกว่งดาบเฉยๆก็พอ เดี๋ยวคนอื่นเขาจัดการตามคิวเอง”


                “แต่ฉันไม่..”


                “ไม่ทำเพื่อผมก็ถือซะว่าทำเพื่อพี่ฮยองวอนแล้วกันนะครับ แฮ่ๆ”


                “- -


                ทำไมต้องเอาฮยองวอนมาอ้าง


                ..เออ แล้วทำไมผมต้องยอมวะ


                “เอาล่ะ ทุกคนพร้อมนะ..”


                หัวสมองผมมันเบลอๆไปหมด ได้ยินเสียงผู้กำกับสั่ง หลังจากนั้นทุกคนก็เล่นกันตามคิวไป ส่วนผมก็แค่ยืนนิ่งๆ มองดูทุกคนตรงหน้ากำลังสู้กันไป ก่อนที่ชางกยุนจะแอบส่งสัญญาณให้ผม มันเป็นจังหวะที่มีคนจะเข้ามาลอบทำร้ายเขาและผมต้องช่วย แต่ช่วยยังไงวะ ผมเคยจับดาบซะที่ไหน


                “องค์รัชทายาท!!!!!


                เสียงดาบโลหะกระทบกันดังไปทั่วบริเวณ ตามมาด้วยการสู้รบของทั้งสองฝั่ง ส่วนผมเหมือนห้ามร่างกายตัวเองไม่อยู่ ขยับไปตามสัญชาตญาณที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมี ทุกคนรอบข้างต่างพากันเงียบ ก่อนที่สุดท้ายผู้กำกับจะสั่งคัท แล้วทุกคนก็ลุกขึ้นยืนปรบมือ รวมถึงชางกยุนก็ด้วย


                “เฮ้ย พี่เคยเรียนดาบมาเหรอ ทำไมเก่งจัง”


                “..ฉะ ฉันก็ไม่รู้”


                “เจ๋งอ่ะ นี่ผมถูกส่งไปเรียนตั้งสามเดือนยังได้ไม่เท่าพี่เลยเนี่ย”


                ผมส่ายหน้าช้าๆ เหมือนคนสติหลุด ผู้กำกับเดินเข้ามาตบบ่าผม พูดอะไรสักอย่างซึ่งผมแทบจับใจความไม่ได้ จู่ๆก็มีอาการปวดหัวจนต้องรีบปลีกตัวออกมาหาที่นั่งเงียบๆแล้วกุมหัวตัวเองเอาไว้


                มีภาพเหตุการณ์ชุลมุนไหลเวียนเข้ามาไม่ขาด ผมไม่เห็นหน้าของคนที่อยู่ในความคิดเหล่านั้น อาการปวดหัวทวีความรุนแรงขึ้นจนผมต้องหันไปควานหากระปุกยาในกระเป๋าเป้ของตัวเอง แต่เพราะมือผมมันสั่นมากเกินไปเลยหยิบไม่ได้สักที


                “อึก..”

     



                “ทำได้ดีมากองครักษ์ชิน ครั้งนี้ถ้าไม่ได้เจ้า องค์รัชทายาทคงตกที่นั่งลำบาก ข้าจะให้รางวัลเจ้า มีสิ่งใดที่เจ้าปรารถนาหรือไม่ จะเป็นยศ หรือเงินทอง ข้าสามารถให้เจ้าได้ทั้งหมด”


                “ข้าไม่ปรารถนาสิ่งเหล่านั้น เพียงแต่มีสิ่งเดียวที่ข้า..”


                “งั้นเจ้าก็พูดมาเลย ในฐานะของพระราชา ข้าจะหามาให้”


                “ข้า.. กับอินฮยอง..”

     



                “โอ๊ย..”ผมร้องออกมาภาพพวกนั้นถูกตัดไปก่อนกลายเป็นความมืด รู้สึกสูญเสียการควบคุมตัวเองจนต้องลงไปนอนอยู่กับพื้น จากการกุมหัวเปลี่ยนมากุมที่หน้าอกของตัวเอง มันจุกแล้วก็รู้สึกเหมือนหัวใจของผมกำลังถูกบีบ ผมหายใจไม่ออก..


                เหมือนกำลังจะตายเลย



























    ฟีดแบคดีก็มาต่อเร็วอ่ะค่าาาาาาาาาาาาาา

    เข้มข้นมากเลยสำหรับตอนนี้ จะพี่วอนโฮ หรือ พี่โฮซอก ใกล้จะได้รู้คำตอบกันละ

    เดี๋ยวก็จะรู้ ว่าใครกันแน่ที่เป็น คนไม่จำเป็น


    ขอยกยอดคุณพี่มินฮยอกไปตอนหน้านะคะ พอดีเพิ่มเติมอะไรไปนิดหน่อย

    ตอนนี้ก็เริ่มมีคนเอะใจสงสัยเกี่ยวกับพี่โฮซอกแล้ว ไรท์เองก็เช่นกัน(อ้าวแก แกแต่งนะ)

    เจอกันตอนหน้านะคะ


    หนังสือเปิดให้จองแล้วทั้งสองภาค สนใจสามารถคลิ๊กเข้าไปในแบบฟอร์มจองฟิคได้เลยนะคะ


    จองฟิค


    **กดส่งแค่ครั้งเดียวพอนะคะ สามารถกลับไปแก้ไขได้สำหรับคนมีบัญชีกูเกิ้ล หรือใครที่ไม่มีแต่จะแก้ไข ติดต่อมาทางไรท์ค่ะ เดี๋ยวจัดการให้ ถ้าส่งซ้ำมามันตรวจสอบค่อนข้างยาก บางทีก็มีตกหล่นไปบ้าง ขออภัยด้วยนะคะ**


    #ผู้ช่วยแช

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×