ตอนที่ 9 : High School : CHAPTERS 7
Chapters 7
ผมไม่เชื่อในคำพูดของวอนโฮมันหรอกนะ ที่บอกว่ายังไงซะวันอาทิตย์ผมก็ต้องไปงานประเมินของสาขาดนตรี ไม่เชื่อเลยจนกระทั่งตอนที่ผมเปิดล็อคเกอร์ แล้วบัตรเล็กๆที่เหมือนกับของวอนโฮหล่นลงมามากกว่าสิบใบ ผมมองมันอย่างเหวอๆ ยุนโฮที่มากับผมมองแล้วยิ้มแซว
“โห ฮอตไม่เบานะเนี่ยพี่ฮยองวอน”
“ฮอตบ้าบออะไรล่ะ”ผมพึมพำพลางก้มเก็บบัตรพวกนี้ขึ้นมา “อะไรนักหนาวะ ใครแกล้งอีก”
“นี่ดูไม่ออกเหรอ แบบนี้เขาไม่ได้เรียกแกล้ง”ยุนโฮพูดแล้วฉวยบัตรในมือผมไปถือ “ดูๆ มีเขียนไว้ด้วย ฉันอยากให้นายไปดูนะฮยองวอน นี่อีกเนี่ย ประเมินครั้งสุดท้ายของฉันแล้ว ไปดูให้ได้นะฮยองวอน เพียบเลยเนี่ย”
ผมแย่งบัตรมาถือแล้วมองดูดีๆอีกครั้ง จริงอย่างที่ยุนโฮพูด “อืม จริงด้วยแฮะ”
“ช่ายยยยยยยยยยยย”ยุนโฮพยักหน้าหงึกหงัก ลากเสียงยาวๆก่อนจะส่งบางอย่างให้ผม “แล้วก็นี่ ของผม พี่ต้องไปนะ ผมประเมินครั้งแรกเลยนะเนี่ย”
ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้า “ถ้าไม่ติดอะไรจะไปแล้วกัน”
“คนอย่างพี่จะไปติดอะไรวะ นอกจากนอน”
“เดี๋ยวปั๊ด”
“ไปแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”ยุนโฮวิ่งหนีไป
ผมถอนหายใจแล้วปิดล็อคเกอร์หลังจากได้หนังสือมาแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน และเป็นวันศุกร์ อาจารย์เลยสั่งการบ้านซะเยอะเลย ผมตั้งใจจะทำให้เสร็จในวันนี้ วันพรุ่งนี้จะได้นอนมันยาวๆทั้งวัน
“อ้าว มินฮยอก ฉันนึกว่านายกลับไป.. อ้าวเฮ้ย ได้ยินกันไหมเนี่ย”ผมพึมพำเมื่อมินฮยอกเดินผ่านหน้าผมไปโดยไม่พูดอะไรเลย เหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูดเลยสักนิด ผมเลยเดินตามไปห่างๆ
วันนี้มินฮยอกเป็นอะไรไม่รู้ ผมสังเกตมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ ดูเหม่อๆ ไม่มีสมาธิ แล้วก็ไม่ร่าเริงเหมือนทุกวันเลยสักนิด นี่ขนาดผมตามมานั่งอยู่ข้างๆมันแล้วนะ ไม่รู้ไอ้บ้านี่รู้หรือเปล่าว่าผมอยู่นี่
ผมนั่งอยู่เงียบๆไม่ได้พูดอะไร เพราะหวังว่ามินฮยอกจะหันมาเห็นเอง แต่เหมือนว่าจะไม่แล้วล่ะนี่สิบห้านาทีมันยังไม่หันมาทางผมเลย หรือว่ามันแกล้ง - -
“ถามจริง ไม่เห็นฉันเลยเหรอ”
“...”
“ยู้ฮู ได้ยินไหม”
“...”
ผมโบกไม้โบกมืออยู่หน้ามินฮยอกอีกพักใหญ่แต่ก็ยังเหมือนเดิมจนผมชักจะหมดความอดทน เลยชกไหล่มันแรงๆทีนึง
“ย๊า ลีมินฮยอก หาเรื่องเหรอวะ”
“โอ๊ย เจ็บนะ”มินฮยอกโวยวาย หันมามองผม “อ้าว มาเมื่อไหร่อ่ะ”
“- -“
“แล้วมาทำอะไร อยู่ๆมาชกทำไม”
“เอาหน้ามาดิ๊ คราวนี้จะชกแบบจริงจังละ”ผมพูดพลางชูกำปั้นขึ้นมา
มินฮยอกรีบเอามือมาดันแล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนจะยักไหล่แล้วทำหน้าเครียดๆตามเดิม
“เป็นอะไร ดูเหม่อๆ มีเรื่อง มีปัญหาเหรอ”
“..ก็ นิดหน่อย”
“อืม”ผมพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร
ถ้าเกิดหมอนี่มันอยากจะเล่า เดี๋ยวก็คงพูดออกมาเองนั่นแหละ เวลาที่ผมมีปัญหา แต่บอกใครไม่ได้ ผมก็แค่ต้องการสักคนที่นั่งอยู่ข้างๆผม แค่นั่งข้างๆ ก็พอแล้ว
“ทำไมถึงเรียนสาขากีฬาอ่ะ เพราะเป็นนักกีฬาเหรอ”
ผมมองมินฮยอกที่จู่ๆก็ถามขึ้นมา ก่อนจะคิดครู่นึง “ก็คงใช่มั้ง เพราะนอกจากกีฬา ฉันไม่น่าจะเก่งอย่างอื่นอีกอ่ะ"
“อือ”
“แล้วนายอ่ะ ไมมาเรียนสาขาอิสระ”ผมย้อนถาม “ชอบทั้งสองอย่างเหรอ”
“เปล่าอ่ะ”มินฮยอกส่ายหน้า หันมายิ้มให้ผม “ฉันชอบดนตรี อยากเป็นนักร้อง”
“งั้นทำไมไม่เรียนสาขาดนตรีไปเลย”
“สาขาอิสระทำให้ฉันทำได้ทั้งสองอย่างไงล่ะ ใช่ ฉันอยากเป็นนักร้อง แต่ว่าพ่อฉันอยากให้ฉันเป็นนักกีฬา เพราะงั้น ฉันเลยเลือกเรียนอิสระ นอกจากฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันรักแล้ว ฉันยังทำให้พ่อภูมิใจกับสิ่งที่ฉันทำได้ด้วย”
“โอ้ ลีมินฮยอก ไม่เบานะนายน่ะ เป็นลูกที่ดีจริงๆ”
“หึๆ”มินฮยอกหัวเราะในลำคอ “ลูกที่ดีในตอนที่สายไปแล้วน่ะสิ”
“...”
“พ่อฉันอยู่ไอซียู”
“...”
“ที่จริงแล้ว ฉันกับพ่อเราทะเลาะกันตลอดเลย ฉันเคยหนีออกมาจากบ้าน มาอยู่ข้างนอกเอง เพราะอยากเป็นนักร้อง เคยประท้วงด้วยการไม่เรียนหนังสือ ไม่ทำอะไรเลยนอกจากเที่ยวเตร่ไปวันๆ จนวันนึง พ่อก็ล้มป่วย เพราะเครียด หลังจากนั้น พ่อก็ไม่เคยตื่นขึ้นมาอีกเลย”
“...”
“แบบนี้ยังเป็นลูกที่ดีอยู่หรือเปล่า”
ผมฟังอย่างอึ้งๆ มันเกินความคาดหมายไปหน่อย ผมไม่เคยคิดว่ามินฮยอกที่สดใสร่าเริงจะมีปัญหาทางครอบครัว ผมวางมือลงบนไหล่ของเขาแล้วบีบเบาๆ
“ตอนนี้นายก็ทำดีที่สุดแล้วน่า”
“แต่มันอาจจะยังดีไม่พอน่ะสิ”มินฮยอกพูด ถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงกับโต๊ะ “รู้ใช่ไหม อาทิตย์นี้สาขาดนตรีมีประเมิน”
“อืม รู้ นายก็ด้วยนี่”
“ใช่ แล้วมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ทีมฟุตบอลของโรงเรียนจะคัดตัวด้วย”
“..งั้น นี่เป็นสาเหตุที่นายเครียดเหรอ”
“อืม ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องทำไง ฉันต้องเข้าประเมินดนตรี ยังไงก็ต้องเข้าแน่ๆ เพราะมันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของฉันแต่ว่าทีมฟุตบอล.. ฉันก็ต้องไปคัดตัวให้ได้แน่ๆเหมือนกัน พ่อฉันคงดีใจ ถ้าหากฉันเป็นอย่างที่เขาต้องการได้”
ผมเงียบแล้วฟังสิ่งที่มินฮยอกพรั่งพรูออกมา ก็อย่างที่รู้ ปกติมินฮยอกเป็นคนร่าเริง เจ้านี่ดูเหมือนคนที่ไม่เคยมีเรื่องเครียดๆในหัวเลยสักนิด แต่พอผมได้ฟังเรื่องราวที่อยู่ในใจของเขา แม้มันดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก ก็แค่ไปทำตามที่สิ่งที่พ่ออยากให้เป็นซะก็จบ ขณะเดียวกัน ผมกลับยิ่งเข้าใจมากกว่า ว่าการไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักมันเป็นยังไง มันก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกนะ มันแค่เหมือนว่าขาดช่วงเวลาดีๆในชีวิตไปน่ะ
“เฮ้ย ฉันรู้แล้วว่าจะช่วยนายยังไง”
“หืม”
ผมยิ้ม ยกมือขึ้นบีบไหล่มินฮยอกเบาๆ “ก็ไปประเมินซะ ส่วนเรื่องคัดตัวเข้าทีมอ่ะ มันมีสองวันนะ ไม่รู้เหรอ”
“ไม่เห็นรู้เลยแฮะ”
“นายอย่าลืมสิ เด็กสาขาอิสระแบบนายอ่ะ มีตั้งเยอะตั้งแยะ ทีมฟุตบอลเขาก็ต้องคัดตัวสองรอบอยู่แล้ว ฉันเพิ่งเห็นใบประกาศเอง”
“จริงดิ”
“เออ จะโกหกทำไมวะ เอาไว้ค่อยไปคัดตัวอีกวันก็ได้”
มินฮยอกมองผมเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่สุดท้าย ผมก็ได้เห็นรอยยิ้มของมันอีกครั้ง “ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบใจมากนะฮยองวอน ถ้าไม่ได้นาย ฉันแย่แหง”
“หึๆ ก็อย่างนี้ล่ะ ฉันมันนอกจากหล่อแล้วยังเป็นเพื่อนที่ดีด้วยอ่ะ”
“ได้ทีแล้วอย่ามาหลงตัวเอง”
ผมปัดมือมินฮยอกที่มาขยี้หัวผมออกแล้วหัวเราะไปด้วยกัน แม้ว่าในใจผมจะยังกระวนกระวายอยู่ก็ตาม
จะไปเพิ่มวันคัดตัวได้ไงวะ มันมีแค่วันเดียว รอบเดียวเท่านั้นนี่หว่า งานเข้าแล้ว แชฮยองวอน
ผมมองกลุ่มที่กำลังวอร์มร่างกายกันอยู่ที่สนาม แน่นอนว่าพวกนั้นคือทีมฟุตบอลของโรงเรียนที่กำลังจะมีแมตซ์ใหญ่ในเดือนหน้า และเป็นสาเหตุการกลุ้มใจของมินฮยอก หลังบอกไปแบบนั้น เมื่อคืนผมนอนแทบไม่หลับ(แต่ก็หลับอยู่ดี) คิดแทบตาย ว่าจะเพิ่มวันได้ยังไง วันพรุ่งนี้ก็จะถึงวันคัดตัวแล้ว ไหนจะเรื่องประเมินของสาขาดนตรีอีก
“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”
หลังให้กำลังใจตัวเองแล้ว ผมก็เดินอกผายไหล่ผึ่งอย่างมั่นใจตรงไปทางพวกนั้น
“คัดตัววันพรุ่งนี้นะน้อง ไว้ค่อยมาใหม่แล้วกัน”
“เอ่อ ผม”
ผมได้แต่ทำปากพะงาบๆอยู่แบบนั้น เมื่อคนที่เป็นกัปตันทีมหันมาพูดกับผมแล้วก็เดินจากไปแบบไม่สนใจอะไรอีกเลย เชี่ย ฟังกันก่อนได้ไหมน่ะ ไม่ได้จะมาคัดตัวโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
“พี่ฮยองวอน มาทำไรอ่ะพี่”
ผมหยุดความหงุดหงิดแล้วเงยหน้ามองคนที่วิ่งเหยาะๆเข้ามาหาผม “ซอกวอน”
“ครับ พี่มาทำไรอ่ะ”
“มาทำธุระว่ะ”
“ธุระ ที่นี่อ่ะนะ”
“เออ ถามไรนักหนาเนี่ย”ผมโวย หันไปมองรอบๆแล้วมาหยุดที่ซอกวอนที่ยังยืนหน้าเอ๋ออยู่ มองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วความคิดก็บังเกิดขึ้นมาทันที “เฮ้ยซอกวอน แกอยู่ทีมฟุตบอลโรงเรียนเหรอ”
“แหมพี่ สูงยาวเข่าดีแบบผมอ่ะนะ”
“ใช่ใช่ปะ”
“เป็นแค่เด็กเสิร์ฟน้ำคร้าบบบบบบบบ แต่อีกไม่นานเป็นตัวจริงแน่”
ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะกอดคอมัน “กัปตันทีมฟุตบอลเป็นคนไงวะ”
“กัปตันอ่ะนะ”ซอกวอนพูด ทำหน้าขยาดแล้วหันไปมองที่ไอ้กัปตันจอมหยิ่งนั่น “เขาชื่อคิมดงจุนน่ะ อยู่เกรดสิบสอง ส่วนที่ถามว่าเป็นคนยังไงอ่ะเหรอ เท่าที่ผมรู้คือเป็นคนโหดอ่ะพี่”
“คนโหด”
“อื้ม โหด โหด โหด โหดเลยอ่ะ กีฬาเก่ง การเรียนดี บ้านรวย แฟนสวยโคตร แบบนี้เรียกโหดปะ”
“เห๊อะ”ผมแค่นหัวเราะ “แล้วไอ้ที่บอกเก่งกีฬาอ่ะ มันเก่งสักแค่ไหนวะ”
“ก็เก่งที่ว่าเขายังไม่เคยแพ้เลยน่ะสิพี่ ยิ่งฟุตบอลอ่ะนะ โหดโคตร เล่นดุสุดๆ”
“แบบนี้มันก็ต้องลอง”ผมพูดแล้วปล่อยซอกวอนก่อนจะเดินเข้าไปหากัปตันดงจุนนั่น “ขอโทษนะครับ”
“- -“
พอเห็นท่าว่าจะมีเรื่อง ไอ้พวกทีมฟุตบอลก็กรูกันมาล้อมวงผมกับไอ้พี่กัปตันนี่ไว้ทันที
“มีไรน้อง”
“ผมอยากท้าพี่แข่งฟุตบอลกับผม”
“- - เห๊อะ”
“พี่ฮยองวอน!!!”
ผมได้ยินเสียงซอกวอนนะ แต่ไม่ได้สนใจ “เห๊อะแบบนี้หมายความว่าไงพี่ คิดว่าผมอ่อนเหรอ”
“ไปเล่นที่อื่นปะ พี่ไม่ว่างเล่นกับน้องว่ะ”
“หน้าผมเหมือนคนมาขอพี่เล่นด้วยหรือไง ก็บอกอยู่ว่ามาท้าแข่ง”
“- -“
“แข่งกัน พี่ฝั่งนั้น ผมฝั่งนี้ ใครยิงได้ห้าลูกก่อน คนนั้นชนะ”
“หึๆ”
“สมาชิกทีมได้ทีมละคน ผมเลือกไอ้หมอนั่น”
“-o-“
“มาดิไอ้ซอกวอน”ผมกวักมือเรียกซอกวอนก่อนจะหันไปมองคู่ต่อสู้ของผม ที่ดูท่าทางก็ไม่ได้เก่งเท่าไหร่หรอก “กล้าปะพี่”
“ได้”
ผมยิ้มมุมปาก มองไปรอบๆ “ทุกคนเป็นสักขีพยานนะ ถ้าผมชนะพี่ ผมขออะไรพี่อย่างนึง”
“อะไร”
“เพิ่มวันคัดตัวอีกวัน เพื่อนผมต้องเข้าคัดตัวเข้าทีม เป็นไปได้ เอามันเข้าทีมเลยก็ได้”
“หึ ของอย่างนี้มันก็ต้องวัดกันก่อน ได้เลย เฮ้ย เตรียมสนาม!!!!!!”
มาดูกัน จะเก่งสักแค่ไหนเชียว เรื่องกีฬา แชฮยองวอนก็ไม่แพ้ใครหรอกโว้ยยยยยยยยยยยย
หายไปนานเลย ขอโทษจริงๆ
ไรท์ติดหลายอย่าง ไหนจะสอบ ไหนจะเน็ตที่บ้านอีก ไม่ได้เลิกอัพนะทุกโคนนนนนนนนน
ไรท์มาอัพให้แล้ว ก็เม้นท์กันหน่อยเน๊อะ ต้องการกำลังใจงามๆ >,<
ปล. วอนโฮไปไหน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ผลจะเป็นไง
แต่ก็มีเพื่อนอยู่คนดียวอ่ะเนอะ ทำเพื่อมินฮยอกขนาดนี้ มอบมงให้เลยข่าาา
สู้ๆนร้าาาาาาไรท์
ติดตามมๆๆ^_^
ชอบเรื่องนี้อ่ะ ดูเรื่อยๆแต่ไม่เปื่อยนะ
แถมตัวละครแต่ล่ะตัวนี่โคตรน่ารักอ่ะ
ยิ่งคู่ทูวอนนี่เวลาอยู่ด้วยกันแล้วฟินมาก ชอบมากครับ
ปล.อ่านมาทุกตอนแต่พึ่งมาเม้นอย่าว่าเค้าเลยนะเตงจุ้บๆ
ไม่มาอัพหลายวันชดเชยเลยไรท์ คิคิ
วอนโฮไม่จำเป็นแล้วละ ????