คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Another Time : C H A P T E R S 1 8
Chapters 18
ภายในวังหลวงเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากมายที่ยากจะจัดการให้สงบลงได้
เมื่อองครักษ์ชินผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีมนต์ดำและเป็นกบฏปรากฏตัวขึ้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง
จนทำให้มีการสอบสวนเรื่องทุกอย่างใหม่อีกครั้ง
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถูกบันทึกเอาไว้ว่าองครักษ์ชินเป็นผู้บริสุทธิ์ที่โดนใส่ความเพียงเท่านั้น
หลังจากมีพยานบุคคล และพยานแวดล้อมยืนยันตัวตน
จูมยองช่วยเป็นพยานคนสำคัญให้กับองครักษ์ชิน
ระหว่างนั้นก็ลอบมองท่าทีของขุนนางที่รอฟังคำตัดสินไปด้วย
ไม่มีใครแสดงท่าทางมีพิรุธอย่างที่โฮซอกคาดการณ์
แต่แล้วจูมยองก็สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนที่แสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วลุกหนีไปในที่สุด
บุตรชายของขุนนางฝ่ายซ้าย
หลังเสร็จสิ้นการไต่สวน
องครักษ์ชินได้รับแต่งตั้งให้กลายเป็นองครักษ์มือขวาขององค์ชายรัชทายาทตามเดิม
เขาพ้นความคิด และสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
และสิ่งแรกที่ทำก็คือการไปยังสุสาน
สถานที่ที่บุคคลที่เขารักทั้งสามนอนพักอย่างสงบอยู่ที่นี่
“ท่านพ่อ
ท่านแม่ ข้ามาเยี่ยมพวกท่านแล้ว ไม่ต้องห่วงข้า
ลูกของพวกท่านจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินต่อไปยังพื้นที่ที่ดวงใจของเขาอยู่
มือหนาแตะลงไปบนเนินดินที่สูงขึ้นมาเล็กน้อย หยาดน้ำตาไหลซึมออกมา
ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ
“น้องเสียสละเพื่อพี่เหลือเกินอินฮยอง”
...
“ไม่ว่าอย่างไร
พี่จะต้องทำทุกทางไม่ให้การตายของน้องสูญเปล่า คนทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษ”พูดจบชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจและแข็งแกร่งที่สุดก็ร้องไห้
ไหล่หนาสั่นก่อนที่สุดท้ายจะฟุบลงไปกับดินตรงหน้าอย่างไม่หวาดกลัวความเปรอะเปื้อน “ขอบคุณที่ช่วยเหลือพี่จนวินาทีสุดท้ายของน้อง
พี่ขอโทษที่เป็นสามีที่แย่เหลือเกิน ถ้ามีโอกาสอีกสักครั้ง พี่อยากจะแก้ตัวใหม่
พี่อยากจะทำให้ดีกว่าเดิม อยากทำให้น้องมีความสุขกว่านี้”
...
“น้องกำลังรอพี่อยู่หรือเปล่า..”
ในอนาคตข้างหน้า
อินฮยองซึ่งกลายเป็นฮยองวอนกำลังรอคอยเขาอยู่หรือไม่
“พี่จะได้รับโอกาสกลับไปแก้ตัวหรือไม่อินฮยอง”
โฮซอกยืดตัวขึ้นหลังจากมีกระแสลมอ่อนๆพัดผ่านตัวจนผ้ายันต์ที่พกติดเอาไว้ลอยออกมาจากเสื้อ
มือหนาเอื้อมไปหยิบขึ้นมาพร้อมกับสังเกตเห็นข้อความข้างใต้
และสีของผ้ายันต์ที่หมองลงไปกว่าเดิมมาก
จริงสินะ
เขาลืมไปเลยยังว่าไม่ได้อ่านข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้
“..เมื่อยามภัยร้ายมาเยือน”
เป็นข้อความสั้นๆ
โฮซอกจำได้ดีว่าเป็นลายมือของอินฮยอง แต่เขาไม่เข้าใจ เมื่อยามภัยร้ายมาเยือนมีความหมายอย่างไร
“โฮซอก!!!”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน
เก็บผ้ายันต์ไว้ที่เดิมมองคนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา “มีเหตุใดหรือ”
“ข้าว่าข้าพบผู้ต้องสงสัยแล้วล่ะ”จูมยองพูดด้วยความตื่นเต้น
“ข้าแอบสะกดรอยท่านอิมซองกวันไป เห็นกับตาว่าท่านมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับกลุ่มคนแปลกหน้า”
อิมซองกวัน
บุตรชายของขุนนางฝ่ายซ้าย ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับเสนาบดีแช บิดาของอินฮยอง
“เจ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าเห็นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของอินฮยองหรือ”
“มันก็ไม่แน่ไม่ใช่หรือไง
เจ้าเองก็น่าจะจำได้ ก่อนหน้าที่อินฮยองจะจากไป นางบังเอิญไปรู้ความลับของท่านขุนนาง
ทำให้ตอนนี้ท่านขุนนางโดนสอบสวนชุดใหญ่อยู่ บางที..”
“แก้แค้น”
“ใช่
ข้ากำลังจะหมายถึงเช่นนั้น มันอาจจะเป็นการแก้แค้นก็ได้”
โฮซอกเม้มปาก
วิเคราะห์กับสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ มันก็อาจจะจริง อีกอย่างองค์ชายรัชทายาทก็รับปากว่าจะช่วยเรื่องนี้อย่างเต็มที่
อาจทำให้อิมซอกกวันคิดก่อกบฏ ในเมื่อทุกๆอย่างมันเริ่มจะชัดเจน
ก็คงต้องช่วยกันสืบหาต่อไป
ยิ่งหาตัวคนร้ายตัวจริงได้เร็วแค่ไหน
โอกาสที่จะลองข้ามเวลาไปยังอนาคต
ไปหาอินฮยองที่เป็นฮยองวอนตอนนี้ก็จะมาถึงเร็วเท่านั้น
รอพี่หน่อยนะ
ได้โปรด
มินฮยอกมองออกไปจากห้องทำงานของตัวเอง
ฮยองวอนอยู่ตรงนั้น นั่งทำงานตามปกติ เขาดีใจที่ฮยองวอนเลิกขังตัวเองอยู่แต่ในห้องแล้วออกมาข้างนอก
พูดคุยกับทุกคนเหมือนอย่างเดิมแล้ว แม้จะรู้สึกอยู่ลึกๆว่าฮยองวอนไม่เหมือนเดิม
แต่ได้แค่นี้ก็ดีมากพอแล้ว
ฮยองวอนปิดคอม
มองนาฬิกาที่ตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว
เลยเก็บของทั้งหมดใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมจะกลับบ้าน แต่มินฮยอกก็เรียกไว้ก่อน
“มีอะไรเหรอครับ”
“รออีกครึ่งชั่วโมงสิ
จะได้กลับพร้อมกัน”
ฮยองวอนยิ้มบางๆแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองดีกว่า พอดีมีธุระต้องไปทำ”
“ธุระ?
ให้พี่ไปด้วยไหม”
“ไม่เป็นไรครับพี่มินฮยอก”ฮยองวอนพูด
ก้มหัวบอกลาอีกคน “ไปก่อนนะครับ”
สุดท้ายแล้วมินฮยอกก็ได้แต่มองตามฮยองวอนที่เดินห่างไกลออกไป
ไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมเลยสักอย่าง ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ
เขายังจำท่าทีของฮยองวอนได้ดี มินฮยอกยังคงเป็นที่หนึ่งเสมอ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว ฮยองวอนขอย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านหลังเดิม
เหมือนว่าอึดอัดเต็มทนที่จะต้องอยู่กับเขา
“ทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้ล่ะฮยองวอน”
พี่ทำอะไรผิดเหรอ
ฮยองวอนมาที่โรงพยาบาล
หลังได้รับสายเมื่อตอนเที่ยงว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับชางกยุน
จู่ๆก็ล้มจนข้อเท้าพลิกซะอย่างนั้น
เดือดร้อนฮยองวอนต้องมาช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แถมยังต้องมารับกลับอีก
เพราะยังไงตอนนี้ก็อยู่บ้านเดียวกัน
กลับกลายเป็นว่าคนที่ฮยองวอนอยู่ด้วยแล้วสบายใจมากที่สุดคือชางกยุน
อาจเป็นเพราะว่าชางกยุนคือคนเดียวที่ไม่ได้มองว่าเขาเพี้ยน
แถมยังรับฟังโดยไม่ขัดแย้งอะไรเลยสักอย่างด้วย
“อ้าวฮยองวอน”
“สวัสดีครับพี่หมอ”ฮยองวอนทักทายหมอฮยอนอูที่เดินยิ้มมาแต่ไกล
“ไม่สบายอีกเหรอ”
“เปล่าครับ
ผมมารับเพื่อน”ฮยองวอนตอบ ยิ้มให้อีกฝ่ายเก้อๆ
เพราะฮยอนอูก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดว่าสมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือน
แต่จะไปโกรธก็ไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก
เพราะจนป่านนี้ฮยองวอนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“รักษาตัวดีๆนะ
อย่าเจ็บอย่าป่วยอีก”
“ครับ”
“คุณหมอคะ
ชีพจรคนไข้กลับมาเป็นปกติ ม่านตามีปฏิกิริยาแล้วค่ะ”
“ฮยองวอน
งั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับ”
“ตามสบายเลยครับ”
ฮยองวอนโค้งบอกลาก่อนจะเดินไปยังแผนกฉุกเฉิน
เตียงด้านในสุดที่มีผ้าม่านกั้นเอาไว้ เมื่อเปิดผ้าม่านออกก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
เมื่อคนป่วยกำลังนอนกินขนมอย่างสบายใจอยู่
“ถ้ารู้ว่าไม่ได้แย่จะไม่มาให้เสียเวลาเลย”
“อ้าว
มาแล้วเหรอพี่”
“ยังไม่มามั้ง”
“ฮ่ะๆๆๆ
นั่นสิ”ชางกยุนหัวเราะก่อนจะเอามือมาตบๆกันเพื่อเอาเศษขนมออก “นั่งก่อนๆ
ผมไม่ค่อยมีแรงอ่ะ เลยขอให้พยาบาลเอาน้ำเกลือมาให้ ใกล้หมดละ หมดแล้วค่อยกลับ”
ฮยองวอนนั่งลงตามที่ชางกยุนบอกก่อนจะส่ายหน้า
“..นายจะเอาแต่พึ่งฉันอย่างเดียวไม่ได้นะ
ไม่ได้เป็นดาราแล้วก็ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้สักหน่อย เลิกทำตัวเร่ร่อนไปมาสักทีเถอะ
หางานอย่างอื่นทำบ้าง”
“- -
ก็ใครทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้อ่ะ”ชางกยุนพูดเสียงแข็ง
“...”
“ฮ่าๆๆๆ
ล้อเล่นพี่”แล้วก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะเมื่อฮยองวอนทำสีหน้าไม่ค่อยดี “ผมก็ไม่ได้ทำตัวเร่ร่อนไง
ก็เนี่ย ไปทำงาน เลยกลายเป็นแบบนี้”
“ทำอะไร”
“ก็ป้าข้างบ้านอ่ะดิ
บอกว่าหลอดไฟบ้านแกเสีย จ้างผมให้ไปเปลี่ยนหลอดไฟให้ ไอ้เรานะก็วัยกำลังโต
ยังสูงไม่เต็มที่ เลยเอาบันไดมาปีน แต่หมาป้าเขาอ่ะแหละ มาชนบันได ผมเลยล้มเนี่ย”อดีตดาราดังบ่นยืดยาว
“แถมยังมาบอกอีกนะว่าหมาแกไม่ผิด ผมผิดเองที่ไปตั้งบันไดขวางทางวิ่งหมา เฮ้อ
ขอความเห็นใจด้วยครับ เจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้ แย่มากครับ”
“- -“
ไม่อยากจะเชื่อว่าฮยองวอนจะทนอยู่กับชางกยุนได้
จะว่าไปก็ไม่แปลกใจแล้วล่ะ ว่าทำไมชางกยุนถึงไม่มองว่าเขาเพี้ยน
ในเมื่อหมอนี่มันเพี้ยนกว่าไง
ผ่านไปพักใหญ่
น้ำเกลือก็หมด ฮยองวอนกับชางกยุนเลยพากันกลับบ้าน ชางกยุนเดินได้ปกติ
เพราะข้อเท้าเคล็ดแค่นิดหน่อยเท่านั้น
แต่ตอนนั้นมันเจ็บมากก็เลยต้องเรียกรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาล
นี่ถ้ารู้ว่าแค่ไปให้หมอฉีดๆพ่นๆอะไรใส่ขาแล้วหายแบบนี้ก็คงไม่เสียเวลาไปหรอก
“พี่
ที่บ้านมีอะไรกินไหม”
“ก็บอกแล้วไงว่าให้หากินข้างนอก”
“โธ่
ก็ผมไม่มีเงินนี่ เงินที่มีผมต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ”
“เฮ้ย
เรื่องกินนี่ก็จำเป็นแล้วปะ”ฮยองวอนย้อนถาม
มองอีกคนที่ทำหน้าหงอยๆสุดท้ายก็เลยต้องพยักหน้าส่งๆ “เดี๋ยวทำรามยอนให้กิน”
“ไม่เอาอ่ะ
ซื้อกลับไปกินดีกว่า”ชางกยุนรีบปฏิเสธทันที “ผมบอกแล้วไง พี่อย่าทำอาหารอีก
เค็มปี๋เลย”
“...”
ชางกยุนมองฮยองวอนที่เงียบไป
รู้สึกผิดทันทีที่ปากไม่ดี “เอ่อพี่ ผมขอโทษ กินรามยอนก็ได้”
“ฮะ
อ๋อ ช่างเหอะ ฉันรู้ ก็มันเค็มจริงๆ”ฮยองวอนพูดยิ้มๆ
ที่เงียบไปก็แค่คิดถึง..
ผู้ชายคนนั้นที่กินรามยอนฝีมือของเขาทุกวันโดยไม่บ่นสักคำ
ผู้ชายที่ยิ้มดีใจทุกครั้งที่เขายกหม้อรามยอนร้อนๆไปให้ คิดถึงนะวอนโฮ
ฮยองวอนให้ชางกยุนกลับบ้านไปก่อน
ส่วนตัวเองแวะมาร์เก็ตเพื่อซื้อรามยอนและของสดนิดๆหน่อยกลับไปติดตู้เย็นเอาไว้
คงไม่มีใครที่ชอบกินรามยอนทุกวี่ทุกวันเหมือนคนๆนั้นหรอก
พอนึกถึงตรงนี้ก็ทำได้แค่ยิ้มกับตัวเอง
ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น
จะได้กลับคืนมาหรือเปล่านะ
ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
คงสุขสบายดีสินะ..
จะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า
“ฮยองวอน!!”
ร่างสูงหยุดเดิน
หลังจากได้ยินเสียงเรียกที่แสนคุ้นเคย หัวใจพองโตขึ้นมาเพียงแค่คิดว่าถ้าหันกลับไปจะได้เจอกับเขา
แต่เมื่อหันไปกลับต้องพบเจอความผิดหวัง
ไม่มีใครอยู่ตรงนี้สักคน
“เลิกมโนได้แล้วน่าฮยองวอน”
เขากลับไปแล้วนะ
...
และอาจจะไม่กลับมาที่นี่อีกก็ได้
เอาแล้วไง คนร้ายในอดีตจะใช่คนที่สององครักษ์คาดเดากันหรือเปล่า
แล้วอิมที่ว่านี่ ..กลับชาติมาเกิดเป็นอิมชางกยุนหรือเปล่าน้อออออ
ของแบบนี้ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปแหละเน๊อะ ตอนนี้แอบสงสารคน(เคย)สำคัญอย่างพี่มินฮยอกจังเลย
#องครักษ์ชิน
ความคิดเห็น