ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LAST [HyunHyuk] [WonKyu] [CinTaem]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4 : หัวใจไม่ได้มีไว้ให้เจ็บ

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 54


     LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา 

     

          บทที่ 4 : หัวใจไม่ได้มีไว้ให้เจ็บ

     

     

     

    Cin-Tam

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง

     

     นั่นไง เขามาแล้ว นายไปเปิดประตูทีสิ

     อะ ครับ    แทมินเดินตรงไปยังประตูห้อง เพื่อเปิดประตูให้แก่แขกที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน  เมื่อประตูถูกเปิดออกหญิงสาวในชุดรัดรูปก็เดินแทรกกายเข้ามาในห้อง สายตาจ้องมองมายังแทมินตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่เสียงแหลมๆจะดังขึ้นมา

    ฮีชอลอยู่ไหน

    อยู่ข้างใน  ครับ    ยังไม่ทันได้ตอบจบ หญิงสาวก็รีบวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟานุ่มด้วยวิธีการทักทายอันเร่าร้อน

     

    อื้ออออ ฮีชอลคะ อย่าเพิ่งสิคะ อึนจองเพิ่งมาถึงเองนะ

     ก็เธอน่ากินไปทั้งตัวขนาดนี้ใครจะอดใจไหวล่ะ

     ปากว่าหวานแล้ว อย่างอื่นจะหวานแบบนี้มั้ยนะ หญิงสาวนัยน์ตาหยาดเหยิ้มจ้องมองไปยังส่วนอ่อนไหวอย่างเย้ายวน

     จะลองดูมั้ยล่ะ

     บ้า...คน อื่น อยู่ด้วยนะคะ   หญิงสาวเน้นเสียงเพื่อให้คนที่ยืนอยู่ห่างๆได้ยิน

     ไม่ต้องไปสนใจหรอก ก็แค่คนรับใช้น่ะ

     แล้วชื่ออะไรล่ะคะ 

     นี่นาย    ชายหนุ่มตะโกนเรียก

     ครับ   แทมินค่อยๆเดินเข้ามา ภาพที่เห็นคือหญิงสาวนั่งบนตักของชายหนุ่ม เสื้อหลุดออกจากไหล่เผยให้เห็นผิวเนียนของหญิงสาว หน้าอกที่ชิดติดกัน ทำให้เด็กชายแทบเบือนหน้าหนี

    นี่ แชอึนจอง คนที่จะมาค้างที่นี่คืนนี้ 

    ครับ ผมเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว ยังไงผมขอตัวกลับก่อนนะครับ

     นายยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ต้องไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันกับคุณอึนจองก่อน

     ครับ   ร่างบางตอบก่อนจะเดินแยกตัวออกมาทำงานของตน หากแต่รูปถ่ายในกรอบสวยก็ตรึงสายตาของแทมินไว้อย่างไม่คลาดสายตา รูปคู่ของอาจารย์หนุ่มกับคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่หน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดเมื่อถูกจุมพิตบนใบหน้าหวานนั่น ใบหน้าที่ตนเองเคยเห็นเมื่อถูกว่าจ้างให้มาทำงานนี้ ใบหน้าที่เหมือนตัวเองจนไม่อยากจะเชื่อสายตา ความอ่อนโยนที่คนคนนั้นเคยได้รับมันช่างแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกบางอย่างก่อเกิดขึ้นภายในจิตใจดวงน้อย แทมินลอบมองชายหนุ่มที่กำลังเล่นบทรักบนโซฟาหนาโดยไม่อายสายตาของใครอื่น น้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวย ก่อนที่ตนจะเดินเข้าไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายต่อไป

     

    ผมเชื่อว่าคุณจะผ่านคืนวันอันโหดร้ายนั้นไปได้ และผมเชื่อว่าเขาคนนั้นของคุณต้องคอยช่วยเหลือคุณอยู่แน่นอน แล้วผมจะช่วยคุณเอง  ร่างบางเอ่ยในใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาคิดว่าที่ฮีชอลเป็นเช่นนั้นเพราะความรู้สึกเสียใจจนยากจะบรรยาย ความรักที่มีให้คนในรูปนั้นมันมากเกินกว่าที่คนอย่างเขาจะแทรกตัวเข้าไปได้ แต่เขาจะช่วยชายหนุ่มให้หลุดพ้นจากความเจ็บช้ำในหัวใจให้จงได้

     

    หลายชั่วโมงต่อมา

     

     ฮีชอลคะ ให้ฉันค้างที่นี่ไม่ได้หรือคะ

     ถ้าเธอจะค้างที่นี่ อย่างนั้น มันคงเป็นคืนสุดท้ายที่เธอจะมีสิทธิ์ก้าวเข้ามาในห้องนี้  

    กะ ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เจอกันวันหลังนะคะ บายค่ะ จุ๊บ   สิ้นคำบอกลา  สายตาคมจ้องมองหญิงสาวที่เดินจากไป ชายหนุ่มเดินไปยังตู้กระจกบานโต ชั้นวางของธรรมดาที่ใช้เป็นที่วางกรอบรูปเพียงใบเดียวที่เขามีอยู่   มือเรียวเอื้อมไปคว้ากรอบรูปมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะทรุดตัวลง ทิ้งร่างนอนราบกับพื้นเย็นเฉียบ ลำตัวคู้งอ ไหล่หนาสั่นสะท้านก่อนที่เสียงสะอื้นจะดังขึ้น เสียงสะท้อนในห้องยิ่งทำให้รู้สึกว่าความเหงามันเป็นเช่นไร

     ฮือออออออ เด็กน้อยของฉัน  ฉันขอโทษ ฮือออออออ แทมิน แทมิน

     

    ทำไม ทำไมนายต้องทิ้งฉันไป ฮืออออออ แล้วทำไม ทำไมฉันลืมนายไม่ได้สักที ฮืออออออ เด็กน้อยของฉัน ทำไม ทำไม

     

    RRRRRRRRRRRRRR rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่นอนสะอื้นไห้สะดุ้งตัวลุกขึ้นมา ก่อนจะพบว่าเจ้าของโทรศัพท์ยืนอยู่ไม่ห่างจากตน

     

     อ๊ะ!!!! ผะ ผมขอโทษครับ  คนตัวเล็กเองก็ตกใจไม่แพ้กัน มือไม้สั่นจนทำให้โทรศัพท์ที่ควักออกมาหล่นลงกับพื้น

     

     ใครใช้ให้นายอยู่ที่นี่

     กะ ก็คุณ คุณยังไม่อนุญาตให้ผมกลับ

    นายก็เลยอยู่ดูเลิฟซีนของฉันน่ะเหรอ

    ปะ เปล่าครับ ผมไม่ได้ดูเลยจริงๆ สาบานได้  

    แน่ใจนะ    ฮีชอลค่อยๆเดินเข้าประชิดร่างของแทมินอย่างช้าๆ

    คะ ครับ    คนตัวเล็กก้มหน้าตอบ

     แล้วเสียงล่ะได้ยินมั้ย  

    มะ ไม่ครับ ผมปิดหูเอาไว้  

     อยากทำให้ถึงที่สุดมั้ย

    มะ ไม่ครับ    ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อชายหนุ่มตรึงแขนเล็กไว้ข้างหลังด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนดูดดื่มโพรงปากหวาน ก่อนจะใช้มืออีกข้างล้วงลงไปในกางเกงของเด็กชาย บดขยี้อย่างไม่ปราณี แทมินเองก็ไม่ได้ขัดขืน เด็กชายยืนนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำตา

     คุณเจ็บปวดใช่มั้ยที่ทำแบบนี้

    “ ....

     คุณเสียใจ แต่คุณก็ทำอย่างอื่นไม่ได้

    “ ....

     คุณคิดว่าในโลกนี้ มีคุณคนเดียวที่เจ็บปวด

    “ ....

     คุณอยากจะลืม แต่คุณก็ยังคิดถึงอยู่ทุกวัน

    “ ....

     วันเวลาและความทรงจำ ทำให้คุณทรมาน

    “ ....

     คุณครับ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลยนะครับ

    “ ....   ไม่พูดอะไรออกมา ชายหนุ่มละตัวจากร่างบาง เดินหันหลังให้ ก่อนจะก้าวออกไปอย่างเชื่องช้า

     

    RRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

      ฮะ ???   แม่ ...... ไม่จริงใช่มั้ย แม่ต้องไม่เป็นอะไร!!!!!   เด็กชายรีบกดวางโทรศัพท์ ก่อนจะวิ่งออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว

    แทมินยืนรอรถอย่างกระวนกระวาย แล้วตัดสินใจวิ่งไปโรงพยาบาลโดยลืมไปว่าอยู่ห่างกันนับสิบกิโลเมตร

     

    ปรี๊นนนนนนนนนนนน     เสียงแตรรถดังขึ้น เด็กชายหันไปตามเสียง

     

    ฉันจะไปส่งเอง  รีบขึ้นมาสิ

     คุณฮะ......

    .

    .

    .

     

    ก่อนหน้านั้น

     

     ฝากดูแลแทมินด้วยจะได้มั้ยคะ   เสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกไปให้กับชายชราคนหนึ่ง

     ทำไมฉันต้องดูแลเด็กนั่นให้เธอ

     แต่ คุณ เอา เด็ก แฝด นั่น มา ให้ ฉัน เลี้ยง ไม่ ใช่ เหรอ คะ   แต่ละคำพูดออกไปอย่างเชื่องช้า

    แล้วใครกันที่อยากได้ลูกน่ะ ฉันช่วยขนาดนี้แล้ว ยังจะเอาภาระมาให้ฉันอีกรึไง

    แต่ ฉัน ... ฉัน คง เหลือ เวลา อีก ไม่ มาก  ถ้า ฉัน เป็น อะไร แท มิน จะ อยู่ ยัง ไง

    มันก็ต้องอยู่ให้ได้สิ ลูกชายคนโตของนังนั่นตอนที่มันถูกฉันไล่ออกจากบ้าน อายุน้อยกว่าลูกชายเธอตอนนี้อีกมันยังเอาตัวรอดได้เลย

     คุณ นี่ใ จดำ จริง นะ เรียก ลูกสาว ว่า นัง นั่น แถม ยัง ไล่ หลาน ชาย ออก จากบ้าน อีก

    ฉันนี่เหรอที่ใจดำ!!!! ถ้าฉันไม่ลักเด็กคนนี้มาให้เธอ คิดหรือว่านังนั่นจะมีปัญญาหาเลี้ยงลูกสามคนได้น่ะ

    ได้สิ ฉัน เชื่อ อย่าง นั้น ถ้า เธอ รู้ ว่า ลูก แฝด คนหนึ่ง ของ เธอ ยัง ไม่ตาย เธอต้อง พยายาม หนัก กว่า นี้ แน่

     ถ้างั้นเธอก็พยายามเหมือนยัยนั่นให้ได้สิ....ฉันไปล่ะ แล้วอย่าเรียกฉันมาด้วยเรื่องไร้สาระอย่างนี้อีก พูดจบก็เดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งให้หญิงวัยกลางคนนอนน้ำตาซึมอยู่บนเตียง ผู้เป็นแม่นอนสะอื้นไห้ เมื่อนึกถึงค่าพยาบาลที่ถามไถ่จากหมอรักษาอาการ ราคาที่แพงจนทั้งชีวิตไม่สามารถหาได้ แล้วทำไมลูกชายเพียงคนเดียวถึงสามารถ เมื่อนึกย้อนกลับไปดีๆ ลูกชายที่เทียวมาเยี่ยมเยือนทุกวัน กลับค่อยๆห่างหาย ใบหน้าที่มีรอยยิ้มตลอดเวลาแม้จะเศร้าเพียงใดก็เหลือเพียงใบหน้าหม่นหมองแม้ในยามหัวเราะ เนื้อตัวมีรอยช้ำเขียว ต้นคอที่มีรอยสีแดงเป็นจ้ำๆ นี่เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าลูกชายต้องเอาอะไรเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งค่ารักษาพยาบาล

     แม่ขอโทษนะแทมิน แม่จะไม่ทำให้ลูกเดือดร้อนอีกแล้ว ฮึก ฮึก อยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ให้ได้นะลูก ฮืออออออ    คิดได้ดังนั้น มือเรียวค่อยๆถอดสายออกซิเจนออกมา  กว่าหลายนาทีที่ผู้เป็นแม่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดนั่น หญิงวัยกลางคนหลั่งน้ำตาออกมา ระดับการเต้นของหัวใจอ่อนลงทุกวินาที ก่อนที่ร่างบางจะกระตุกเฮือกเป็นครั้งสุดท้าย

     แทมิน แม่ขอโทษ

     

     

    คุณหมอคะ คนไข้ห้อง205 แย่แล้วค่ะ   เสียงพยาบาลสาววิ่งกระหืดกระหอบไปหาหมอผู้รักษาอาการ ก่อนที่ทั้งหมดจะวิ่งเข้ามาในห้อง ช่วยเหลือชีวิตของคนไข้ แต่คล้อยหลังไม่ถึงสามนาที ผู้เป็นหมอถึงกับส่ายหน้า

     

     โทรไปบอกลูกชายเขาด้วย

     ค่ะคุณหมอ

     

     

     

    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา 

     

     

     

               

    Won-Kyu

     

     ซีวอน????

    หืม???  

    แล้วนายล่ะ....คิดยังไงกับฉันกันแน่???? 

    .

    .

    .

     หนอย แค่นี้ก็บอกไม่ได้คนบ้า!!!! ”  คยูฮยอนเดินกระทืบเท้าเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวบนเก้าอี้ตัวโปรด

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

     ฉันเข้าไปนะ   ซีวอนเคาะประตูเรียก

     อยากเข้าก็เข้ามาสิ

     งอนบ่อยจริงนะนาย

     ถึงฉันงอนบ่อยยังไง นายก็ไม่เคยง้อ ไม่ต้องมาพูดดีเลย   คยูฮยอนน่ายู่

    ก็ถ้าง้อ นายก็จะเคยตัวน่ะสิ

    แต่ก็ไม่เคยง้อสักที จนฉันงอนเป็นนิสัยอยู่แล้ว

    แต่แบบนี้ก็น่ารักไม่ใช่รึไง ฉันชอบให้นายงอนนะ   ชายหนุ่มยิ้ม

     แต่ฉันอยากให้นายง้อนี่ ร่างโปร่งหันมาสบตัวผู้เป็นสามี

     อยากให้ง้อก็เรียกฉันว่าพี่ก่อนสิ  

     ไม่อยากเรียก ทำไมต้องเรียก นายไม่ใช่พี่ชายฉันสักหน่อย

    หรืออยากเรียกว่าที่รักล่ะ

    ใช่ เอ้ย ไม่ใช่สักหน่อย อย่ามั่วน่า

     ไม่ใช่แล้วหน้าแดงทำไม

    ก็มันร้อนนี่

    RRRRRRRRRRRRRRRRR rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ร่างบางจ้องเบอร์มือถือแล้วยิ้มออกมากว้างๆ ซีวอนเห็นดังนั้นเขาคิดว่าพ่อแม่ของคยูฮยอนโทรมา จึงจะเดินออกนอกห้อง แต่ชื่อและน้ำเสียงของคนตัวเล็กก็ทำให้ขายาวชะงักลง

     พี่คังอินครับ คิดถึงจัง    คยูฮยอนกรอกเสียงหวานๆไปตามสาย เหลือบตามองไปยังซีวอนครู่หนึ่งแล้วรีบเดินออกไปสนทนาต่อยังระเบียงห้องทันที

    .

    .

    .

     นี่ซีวอน ขอซอสหน่อยสิ

     อืม ไม่พูดอะไรมากมาย ชายหนุ่มเพียงยื่นสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการให้ไป

     ขอบใจนะ   

     

     

     นี่ซีวอน  วันนี้ฉันขอตัวไปทำธุระหน่อยนะ

    อืม

    อะไรกัน นายจะไม่ถามสักหน่อยเหรอว่าฉันจะไปไหนน่ะ

    คงไม่จำเป็น ดูก็รู้ว่าจะไปหาคนที่คุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อคืน

    เห???? รู้ด้วย ฉลาดสมเป็นนายจริงๆ  

     ไม่ต้องฉลาดหรอก คนโง่ๆก็ดูออก เวลาคุยโทรศัพท์ทำเสียงหวาน หน้าตามีความสุขขนาดนั้นเป็นใครก็รู้ เดาได้ไม่ยาก  ปากก็บอกว่ากลัวฟ้าร้องแต่เดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกได้ คงจะเป็นคนสำคัญล่ะสิ

     เอ๋??? ฉันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย   มือเรียวยกขึ้นสัมผัสใบหน้าของตนเบาๆ

    วันนี้ฉันก็จะเข้าไปทำธุระในโซลต่อนะ  

    ตะ แต่ว่าวันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าพายุจะเข้านี่ นายจะทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกเหรอ   คยูฮยอนหน้าซึม

     ก็ไปอยู่กับพี่คังอินของนายสิ

    ละ แล้วนายจะกลับตอนไหน

     อาจจะค้างที่นั่น

    แล้วฉันล่ะ นายก็รู้ว่าฉันกลัวเสียงฟ้าผ่า

    นายก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่นายก่อน หรือไม่ก็ไปนอนกับพี่คังอินของนายสิ  

    ทำไมฉันต้องไปค้างกับพี่คังอินด้วยล่ะ

    ฉันจะไปรู้กับนายรึเปล่าล่ะ  

    นี่นายโกรธอะไรฉันอยู่หรือเปล่า   คยูฮยอนถามออกไป เพราะถึงแม้ซีวอนจะไม่ได้รักเขาแต่ก็ไม่เคยทำท่าหมางเมินแบบนี้มาก่อน ทั้งๆที่เมื่อคืนฝนตกขนาดหนัก ชายหนุ่มยังฝ่าสายฝนมาหา แต่แล้วทำไม วันนี้ถึงได้ดูไร้เยื่อใยแบบนี้

     ไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อนนะ   พูดจบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร หยิบสูทมาสวมใส่ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปโดยไม่หันมามองคนที่นั่งอยู่เลยแม้แต่น้อย

     ซีวอน   ร่างบางลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งตามหลังของผู้สามีไปติดก่อน ก่อนจะโผลกอดแผ่นหลังของชายหนุ่มไว้แน่น

     มีอะไร

    ฉันจะรอนายนะ  

    ....

     นายไม่ห่วงฉันเลยรึไง หรือที่นายจะไม่กลับมาบ้านเพราะนายจะไปค้างกับคนอื่น ไปค้างกับผู้หญิงที่โทรมาหานายเมื่อวานนี้ใช่มั้ย

    ไม่ใช่หรอกน่า อย่าคิดมากสิ   มือหนากุมมือเล็กไว้เบาๆ ความรู้สึกหงุดหงิดตลอดทั้งคืนจางลงอย่างเห็นได้ชัดกับสัมผัสที่ถูกหยิบยื่นมาให้

    ฉันน่ะ....จะรอนายนะ  

    ไม่ไปค้างกับพี่คังอินของนายล่ะ

    ทำไมฉันต้องไปค้างด้วย วันนี้ฉันแค่จะแวะไปดูหลานก็เท่านั้นเอง

    หลานเหรอ???

    อื้อ....ภรรยาพี่คังอินคลอดลูก ฉันว่าจะแวะไปดูสักหน่อยเท่านั้นเอง

    ถ้างั้น ฉันจะรีบไปรีบกลับก็แล้วกันนะ    ชายหนุ่มหันหน้ามาหาคนตัวเล็ก ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอิ่มแล้วเดินทางไปทำธุระของตนต่อไป

     

    อะไรของหมอนี่นะ เดี๋ยวอารมณ์ร้าย เดี๋ยวก็อารมณ์ดี    พูดไปก็เอามือจับหน้าผากของตนอย่างอายๆก่อนจะเดินเข้าบ้านเช่นกัน

    .

    .

    .

    คืนนั้น

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

     ยังไม่นอนอีกหรือ   ซีวอนถามเมื่อเดินไปเปิดประตูแล้วเห็นคยูฮยอนเดินมาหาตนถึงห้องแถมหอบหมอนข้างมาด้วยอีกต่างหาก

     ขอฉันนอนด้วยคนสิ  แม้จะพูดขออนุญาตแต่เจ้าของยังไม่ทันตกปากรับคำร่างบางก็แทรกตัวเข้ามาในห้องพร้อมกระโดดขึ้นเตียงของชายหนุ่มแล้วนอนขดตัวลงทันทีที่ได้ยินเสียงฟ้าฟาด

    กลัวมากเลยใช่มั้ย  ร่างสูงถามเมื่อนั่งลงบนเตียงของตน

    อื้อ

                                    เปรี๊ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ฮือออออออออออออ    

     ไม่ต้องกลัวนะ   ชายหนุ่มทิ้งตัวลงข้างๆก่อนจะเลื่อนมือเข้าไปโอบกระชับคนตัวเล็กให้ขยับเข้ามาในอ้อมกอดของตน

     ซีวอน ฉันกลัว   คยูฮยอนเคลื่อนกายเข้าไปซบอกแกร่งของผู้เป็นสามีมือเรียวโอบเอวสอบไว้แน่น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยอาการหวาดกลัว ซีวอนเองก็กอดเด็กหนุ่มไว้แน่นเช่นกัน ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งๆที่พยายามห้ามใจตัวเอง แต่ลูกนกที่กำลังอกสั่นขวัญแขวนอย่างคยูฮยอนกลับทำให้กำแพงใจที่เข้มแข็งของชเวซีวอนพังทลายลงอย่างดื้อๆ

     มานอนกับฉันแบบนี้ นายไม่กลัวรึไง ???? ”

    ทำไมต้องกลัวล่ะ   คยูฮยอนเปรยตามองร่างสูง ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้ เมื่อยู่ๆชายหนุ่มก็พลิกตัวคร่อมตนเองไว้ สองสายตาประสานกันในความมืดที่มีเพียงแสงของสายฟ้าที่แลบแปลบในบางเวลาเท่านั้นที่ส่องแสงออกมา

    ถ้าทำแบบนี้ นายจะกลัวมั้ย  

    ซะ ซีวอน อื้มมมมมมมม   ร่างสูงก้มลงดูดดื่มกับโพรงปากหวานของผู้เป็นภรรยาที่กำลังหลับตาพริ้มกับรสจูบแสนหวานที่ได้รับมา  มือหนาไล้วนเข้าไปยังสาบเสื้อนอน เคลื่อนที่ครอบครองสิ่งที่ต้องการเป็นเจ้าของ สะกิดเพียงเบามือตุ่มไตที่ไม่เคยผ่านมือชายใดก็แข็งขืนขึ้นมาด้วยความเสียวกระสัน  และโดยที่ไม่รู้ตัว ร่างทั้งร่างก็เปลือยเปล่าในเวลาเพียงไม่นาน นิ้วซุกซนของผู้เป็นสามีไล่นำทางให้ริมฝีปากอุ่นที่ตีตราจองไปทุกทั่วบริเวณของร่างกาย ร่างบางบิดสั่นด้วยความกลัว ไม่ใช่เพราะเสียงฟ้าข้างนอก หากแต่เป็นเพราะลิ้นชื้นสากที่ลากผ่านไปยังบริเวณที่แม้แต่เจ้าของยังมิได้สัมผัสบ่อยหนัก

     อ๊ะ.....ซะ ซีวอน 

     คยูฮยอน.....

    อื้ออออออออ พะ พอเถอะ ฉันอ๊ะ!!!!!!   คยูฮยอนสะดุ้งโหยง เมื่อมือแกร่งจับขาเรียวของตนให้แยกจากกัน ก่อนที่ลิ้นสากจะเคลื่อนที่เข้าครอบงำแกนกลางลำตัวอย่างถือวิสาสะ

    ซีวอน อื้อออออออออ  อะ เอาออกไป มะไหว อื้อออออ ไม่ไหวแล้ว   

    ขอฉันได้มั้ย คยูฮยอน?????  

     

     

     

     

    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา

     

     

     

     

    Hyun-Hyuk

     

     นี่นาย !!!!     เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังจากฮยอกแจเดินเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่กี่ก้าว คนตัวเล็กหันไปมองตามเสียง ดวงตาคู่สวยขมวดเข้าหากัน ชายหนุ่มในชุดเสื้อฮู๊ดคลุมศีรษะ แว่นตาดำบนใบหน้าเรียว ไม่อยากต่อการเดาว่าเขาคือใคร แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมต้องแต่งตัวให้เป็นที่สนใจขนาดนี้ด้วยทั้งๆที่อยากจะพลางตัวแท้ๆ

     คุณ!!! มีธุระอะไรครับ? ”

    ธุระอะไรเหรอ ถามมาได้ เมื่อวานทำไมไม่ไปตามนัด

    ผมบอกคุณแล้วว่าผมต้องทำงาน

    แต่ฉันก็บอกนายแล้วว่า ถ้านายไม่มาฉันจะไม่กินข้าว

    เห???? อย่าบอกนะว่าเมื่อวานคุณไม่ได้กินข้าว

    จะ จะบ้าเรอะ ทำไมคนอย่างฉันต้องอดข้าวเพียงแค่นายไม่รักษาสัจจะล่ะ

     คุณจะว่ายังไงก็เชิญ แต่เรื่องทำอาหาร ผมไม่ว่างจริงๆครับ

    ช่างเถอะ ยังไง ฉันก็กินข้าวไม่ตรงเวลาอยู่แล้วล่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยว่างด้วย

    ไม่กินข้าว ระวังเป็นโรคกระเพาะนะ  

    ห่วงฉันด้วยรึไง  

    เปล่า ผมแค่บอกเป็นมารยาท

    แล้วค่าเสื้อฉันล่ะ

    ตอนนี้ผมมีแสนวอน เอาไปก่อนได้มั้ย   พูดจบก็ทำท่าควักกระเป๋าตังค์ออกมา แต่ฮยอนจุงก็คว้ามือเรียวไว้ก่อน

    เฮ้!!!! มาควักเงินจ่ายอะไรตรงนี้ คนอื่นเขามองดูอยู่ จะนึกว่าฉันเป็นพวกรีดไถ่หรอก  

     มันก็ใช่อย่างที่เขามองไม่ใช่รึไง   ฮยอกแจคิด

    ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นหรอก จะว่าฉันงกจริงๆใช่มั้ยล่ะ มานี่เลย  ชายหนุ่มลากแขนฮยอกแจมายังที่ลับตาคน ก่อนจะแบมือออกไป

     นี่ครับแสนวอน คนตัวเล็กยื่นธนบัตรให้ไป

    แล้วดอกเบี้ยล่ะ

    ดอกเบี้ยอะไร ห้าล้านวอนผมยังไม่มีปัญญาจ่ายเลยนะ

     งั้นคิดแบบนี้ก็แล้วกัน    ไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มก็ล็อคต้นคอร่างบางเข้ามาหาตนก่อนจะก้มลงประทับตราดอกเบี้ยให้แก่ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของอีกฝ่าย

     อื้อออออออ   ฮยอกแจทุบมือลงไปบนอกหนา แต่ฮยอนจุงก็ไม่สะเทือนอะไร ยังคงหยอกล้อกับลิ้นฉ่ำของอีกคนอย่างดูดดื่ม ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ

     อร่อยจัง  พูดพร้อมเลียริมฝีปากของตนไปมา

    คนบ้า โรคจิต  ร่างบางชกมือหมายจะใช้กำปั้นสั่งสอนร่างสูงที่ทำตัวทุเรศๆแต่ฮยอกจุงก็คว้ามันไว้ได้ทัน แถมยังใช้เพียงมือเดียวยึดแขนของฮยอกแจไว้ข้างหลังได้อีกด้วย

     คิดว่าแรงน้อยๆอย่างนายจะทำอะไรฉันได้   คนตัวสูงกว่ายิ้มแบบผู้มีชัยชนะ แถมยังดันร่างบางเข้าหาต้นไม้ใหญ่อีกด้วย

     นะ นายจะทำอะไรน่ะ   ฮยอกแจเสียงสั่นเมื่อฮยอนจุงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของตนอีกครั้ง

     ยังไม่อิ่มเลย

     มะ ไม่อิ่มก็ไปหากินที่อื่นสิ มารุ่มร่ามอะไรกับฉันล่ะ

     เป็นดอกเบี้ยไง แล้วก็คิดดอกเพิ่มเรื่องที่นายปล่อยให้ฉันหิวทั้งคืน

    ปะ ปล่อยนะ

    อยากไป ก็ดิ้นให้หลุดสิ

     นายมันทุเรศที่สุด

     พูดมากจริง เดี๋ยวก็เจอยิ่งกว่าจูบหรอก

     อย่ามาขู่นะ

    หรืออยากลอง   ฮยอนจุงเลื่อนใบหน้าให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม จนฮยอกแจหลับตาปี๋ จนคนตัวโตหลุดหัวเราะออกมา พร้อมปล่อยข้อมือของร่างบางออกไป

     ฮะ ฮ่ะ ฮ่า   นายนี่ตลกเป็นบ้าเลย

     ตลกมากเลยล่ะสิ ทำแบบนี้กับคนอื่นแล้วมาหัวเราะเยาะเย้ย คงสนุกมากสินะเห็นคนอื่นเป็นของเล่น คนรวยๆเขาคงเห็นคนที่จนตรอกกว่าเป็นที่รองรับอารมณ์อย่างนี้สินะ  ร่างบางกำมือตัวเองแน่น ก่อนจะหันหลังแล้วรีบเดินจ้ำออกไป

     ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ   ฮยอนจุงรีบเดินตามมา

     ใช่สิ มันไม่ใช่อย่างที่ผม แต่มันเป็นทุกอย่างที่คุณคิดใช่มั้ยล่ะ

    ฮ่ะ ฮ่ะ อีกแล้ว นายทำฉันขำอีกแล้ว  

    นี่!!!! จะหัวเราะอะไรนักหนา

    ก็ขำนายไง เดี๋ยวนายก็พูดว่า ผมกับคุณ สักพักก็ ฉันกับนาย  สรรพนามเปลี่ยนไปมาให้วุ่น

    กะ ก็ ก็คนมันตกใจนี่  

     เรียกฉันว่าฮยอนจุงสิ ฉันอยากได้ยินนายเรียกฉันว่าฮยอนจุง

     ทำไมผมต้องเรียกแบบนั้น

    ลองพูดดูหน่อยสิ ไม่อยากหรอกนะ .... ฮยอนจุง ลองพูดสิ  ร่างสูงขยับปากช้าๆเหมือนสอนหนังสือเด็ก แต่คนตรงหน้ากลับมีใบหน้าหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

     

     

     [ “ ฮยอนจุง...นายเรียกชื่อฉันแบบนี้ได้มั้ย    ]

    [ “ ... ” ]

    [“ ฮยอกแจ...นายยังไม่เรียกฉันว่า ฮยอนจุงเลยนะ ” ]

    [ “ เอ่อ...ครับ คุณหนูฮยอนจุง ” ]

    [ “ อีกรอบสิ โดยที่ไม่มีคำว่าคุณหนูนำหน้าน่ะ  ]

    [ “ ถ้าไม่พูด คืนนี้นอนในรถนี่แหละ ” ]

    [ “ ... ” ]

    [ “ อยากนอนในรถ ก็ไม่มีใครว่านะ ” ]

    [ “ เอ่อ.... ฮยอนจุง    ]

    [ “ นั่นไง พูดได้นี่ ไม่เห็นยากตรงไหน ”  ]

                           

     

     

     ฮยอกแจ ฮยอกแจ เป็นอะไรหรือเปล่า    ชายหนุ่มเดินมาเขย่าแขนเล็กเบาๆ เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งเงียบไปเกือบนาที

     

     [ “  นายไม่เป็นอะไรนะฮยอกแจ   ]

    [ “  ฮือออออ  ฮยอนจุง อย่าหลับนะ อย่าหลับสิ ฉันจะพานายไปหาหมอ ฮืออออออ ฟื้นสิฟื้น    ]

    [   ฮือออออออ ใครก็ได้ ฮืออออออ ตามหมอ ฮือออออออ ตามหมอให้ผมที   ] [   ฮืออออออออ ฮยอนจุง อย่าเป็นอะไรนะ ” ]

    [     ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เราช่วยเขาเอาไว้ไม่ได้    ]

    .

     

     เฮ้!!!!  นายเป็นอะไรหรือเปล่า   

     ผมไม่เป็นอะไร   ร่างบางหันหลังหนีอย่างช้าๆ โดยที่ฮยอนจุงก็ไม่ได้ก้าวตามแต่อย่างใด เพียงเพราะแววตาที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้า ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าฮยอกแจแบกรับความเศร้าของคนทั้งโลกไว้  แววตาที่ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออกและไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินตาม

     เรื่องเงิน พรุ่งนี้ผมจะเอาส่วนที่เหลือมาให้ทั้งหมด   ฮยอกแจเอ่ยหลังชะงักเท้าไว้แล้วก้าวเดินต่อไป

     

     ฮยอนจุง ฉันเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ทำไม ทำไมต้องเป็นฉัน ต้องเป็นฉันคนเดียว

    .

    .

    .

    ย็อกแจ~ ร้องไห้อีกแย้วเหรอ

    เปล่านี่ พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกซองมิน

     แล้วไมหน้าเศร้าแบบนั้นอ่ะฮับ

    พี่คงเหนื่อยมากเกินไปล่ะมั้ง

    คิดถึงคนนั้นเหรอ??? ”

    หืม???? ”

     ถึงย็อกแจจะเหนื่อย แต่ไม่เคยมีหน้าอย่างงี้ แต่พอเผลอๆก็ชอบทำหน้าเศร้า คิดถึงคนบนฟ้าอยู่เหรอฮับ  

    อื้อ....พี่คิดถึงเขา คิดถึงแม่ คิดถึงน้อง คิดถึงเพื่อนคนที่ดีที่สุด

    อย่ามัวคิดถึงแต่คนบนฟ้าจนลืมคิดถึงคนที่อยู่ด้วยนะฮับ

    ....

    หัวใจคนเราน่ะ ไม่ได้มีไว้ให้เจ็บซะหน่อย

    แก่แดดจริงนะเรา ไปจำคำพูดใครมาล่ะหึ มือเรียวขยี้หัวทุยๆของน้องชายเบาๆ

    ไม่ได้จำมานะ ซองมินคิดเองเลยแหละ ย็อกแจมั่ว~

     จ้า กระต่ายอวบของพี่นี่แก่แดด เอ้ย เก่งที่สุดในโลกเลย

     จิ๊ .... อย่ามาหลอกด่าซองมินเลย อ๊ะ!!!!! ”  อยู่ๆน้องชายตัวเล็กก็ทรุดลงกับพื้นมือบางกุมท้องของตนไว้แน่น จนทำให้ฮยอกแจตกใจเป็นอย่างมาก

     ซองมินเป็นอะไรน่ะ

    ย็อกแจ ปะ ปวดท้อง

     ยะ อย่าเป็นอะไรไปนะ พี่จะรีบพาไปหาหมอ

    .

    .

    .

    ณ โรงพยาบาล

     ฮยอกแจรีบอุ้มน้องชายวิ่งเข้าโรงพยาบาลหลังจากลงจากรถแท็กซี่ ไม่นานนักก็มีพนักงานมารับผู้ป่วยไป คนตัวเล็กวิ่งตามน้องชายไปจนถึงหน้าห้องฉุกเฉินก็ถูกกันออกมา ร่างบางเดินเหม่อลอยรอน้องชายจนไปชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้า

     

    อ๊ะ!!! ขอโทษครับ    ร่างบางก้มหัวขอโทษ

    เดินภาษาอะไรของแก  ชายชราบ่นอุบ ก่อนที่จะจ้องหน้าเอาผิดกับเด็กหนุ่ม แต่ทันทีที่คนตัวเล็กเงยหน้า สีหน้าตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นกับคนทั้งสองคน

    คะ คุณตา   ฮยอกแจเอ่ยเสียงเบา แม้จะผ่านมากว่าสิบปี เขาก็ยังคงจำใบหน้านั้นได้ แม้จะได้รับแต่คำด่าทอและเสียงเย้ยหยัน เขาก็ยังจำคนตรงหน้าได้อย่างแม่นยำ

    ใครตาแก  

    คุณตาครับ ผมฮยอกแจไง  

    ฉันไม่มีหลานอย่างแก    พูดจบก็รีบเดินหนีออกไป ฮยอกแจเองก็ไม่ได้เดินตาม เพราะรู้ตัวดีกว่าเป็นที่น่ารังเกียจแก่ครอบครัวนั้นแค่ไหน คนตัวเล็กจึงจำใจเดินกลับไปยังหน้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง

     

    ฮยอกแจ .... ซองมินจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ    คุณป้าเจ้าของอพาร์ทเม้นเอ่ยถามอย่างกระวนกระวาย หลังจากหลานชายตัวน้อยถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดนานกว่าสองชั่วโมง

    ไม่หรอกครับ ซองมินต้องปลอดภัย   ร่างบางยิ้มให้อย่างปลอบใจ

    ทำไงดี สงสัยป้าลืมปิดห้อง ป่านนี้ของจะหายหมดรึยังก็ไม่รู้

    เดี๋ยวผมกลับไปดูให้นะครับ แล้วจะรีบกลับมา  

    ขอบใจมากนะ

    ครับ ไม่เป็นไร

    .

    .

    .

    ขณะที่กำลังเดินออกไปรอรถหน้าโรงพยาบาล รถหรูคันงามก็จอดตรงด้านหน้าของฮยอกแจพอดี และไม่ทันที่รถจะจอดสนิท ใครอีกคน ใครคนที่เป็นดังแก้วตาดวงใจก็ก้าวเท้าลงจากรถ ห่างจากที่ฮยอกแจยืนอยู่ไม่กี่ก้าว  น้ำเสียง แววตา และท่าทาง ไม่ผิดไปจากใครคนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

     

     ฮืออออออออออ แม่ฮะ อย่าเป็นอะไรไปนะ   

     

    แทมิน….     ฮยอกแจเอ่ยเสียงแผ่วเบา เขาไม่ได้ตาฝาด นั่นคือน้องชายของเขา ร่างบางหันหน้าตามเด็กชายที่วิ่งผ่านไป ขาเรียวสั่นระริก หัวใจแทบจะหยุดเต้น คนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ.....อีกครั้ง ก็กลับเข้ามาในชีวิตเหมือนดั่งสรรค์แกล้ง

     

     ฮยอกแจ   เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก พร้อมกับใบหน้าที่นองด้วยน้ำตา

     

     คุณหนูใหญ่......ฮือออออออออออออ

     

     

     พระเจ้า พระองค์กำลังเล่นตลกอะไรกับลูกอีก แค่ฮยอนจุงคนเดียวไม่พอใช่มั้ย พระองค์จะรู้มั้ยว่าลูกกำลังจะขาดใจตาย ฮืออออออออ ทำไม ทำไมต้องเป็นลูก 

     

     

    …………………………….. โปรดติดตามตอนต่อไป

     

     

    แม่ยกฮยอกชวนคุย

    วอนกี้ มันก็หื่นกันอยู่คู่เดียว

    ไม่สงสารอีกสองคู่เลย 55+

    แล้วตอนหน้าจะเอ็นซีดีมั้ยเนี่ย หุหุ

    ขอโทษด้วยนะคะที่หายหัวไปนาน

    งานยุ่งเหมือนยุงตีกัน

    แฟนฟิคของไรเตอร์ก็ยุ่งเหมือนกันใช่มั้ยเอ่ย

    ยังไงก็อย่าลืมป้าแก่ๆคนนี้นะจ๊ะ

    ขอโทษเรื่องตอบคอมเม้นด้วยนะคะ

    มีน้องๆบอกว่าหน้าฟิคมันยืดเหลือเกิน มิต้องตอบก็ได้

    แค่กลับมาให้เห็นหน้าแก่ๆก็พอ T^T

    เอาเป็นว่าคนเขียนจะเริ่มเดินเรื่องให้เร็วขึ้น

    และหวานให้เร็วขึ้นนะจ๊ะ

    Once หวานก่อนขม LAST ก็ขอขมก่อนหวานก็แล้วกัน

    ขอบคุณที่แวะเวียนมาหานะจ๊ะ

    ไรเตอร์แก่ๆขอกำลังใจในการเขียน(เอ็นซี)ด้วยนะ

    แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

     

      





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×