คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4 : หัวใจไม่ได้มีไว้ให้เจ็บ
บทที่ 4 : หัวใจไม่ได้มีไว้ให้เจ็บ
Cin-Tam
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง
“ นั่นไง เขามาแล้ว นายไปเปิดประตูทีสิ ”
“ อะ ครับ ” แทมินเดินตรงไปยังประตูห้อง เพื่อเปิดประตูให้แก่แขกที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อประตูถูกเปิดออกหญิงสาวในชุดรัดรูปก็เดินแทรกกายเข้ามาในห้อง สายตาจ้องมองมายังแทมินตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่เสียงแหลมๆจะดังขึ้นมา
“ ฮีชอลอยู่ไหน ”
“ อยู่ข้างใน ครับ ” ยังไม่ทันได้ตอบจบ หญิงสาวก็รีบวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟานุ่มด้วยวิธีการทักทายอันเร่าร้อน
“ อื้ออออ ฮีชอลคะ อย่าเพิ่งสิคะ อึนจองเพิ่งมาถึงเองนะ ”
“ ก็เธอน่ากินไปทั้งตัวขนาดนี้ใครจะอดใจไหวล่ะ ”
“ ปากว่าหวานแล้ว อย่างอื่นจะหวานแบบนี้มั้ยนะ ” หญิงสาวนัยน์ตาหยาดเหยิ้มจ้องมองไปยังส่วนอ่อนไหวอย่างเย้ายวน
“ จะลองดูมั้ยล่ะ ”
“ บ้า...คน อื่น อยู่ด้วยนะคะ ” หญิงสาวเน้นเสียงเพื่อให้คนที่ยืนอยู่ห่างๆได้ยิน
“ ไม่ต้องไปสนใจหรอก ก็แค่คนรับใช้น่ะ ”
“ แล้วชื่ออะไรล่ะคะ ”
“ นี่นาย ” ชายหนุ่มตะโกนเรียก
“ ครับ ” แทมินค่อยๆเดินเข้ามา ภาพที่เห็นคือหญิงสาวนั่งบนตักของชายหนุ่ม เสื้อหลุดออกจากไหล่เผยให้เห็นผิวเนียนของหญิงสาว หน้าอกที่ชิดติดกัน ทำให้เด็กชายแทบเบือนหน้าหนี
“ นี่ แชอึนจอง คนที่จะมาค้างที่นี่คืนนี้ ”
“ ครับ ผมเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว ยังไงผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ”
“ นายยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ต้องไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันกับคุณอึนจองก่อน ”
“ ครับ ” ร่างบางตอบก่อนจะเดินแยกตัวออกมาทำงานของตน หากแต่รูปถ่ายในกรอบสวยก็ตรึงสายตาของแทมินไว้อย่างไม่คลาดสายตา รูปคู่ของอาจารย์หนุ่มกับคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่หน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดเมื่อถูกจุมพิตบนใบหน้าหวานนั่น ใบหน้าที่ตนเองเคยเห็นเมื่อถูกว่าจ้างให้มาทำงานนี้ ใบหน้าที่เหมือนตัวเองจนไม่อยากจะเชื่อสายตา ความอ่อนโยนที่คนคนนั้นเคยได้รับมันช่างแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกบางอย่างก่อเกิดขึ้นภายในจิตใจดวงน้อย แทมินลอบมองชายหนุ่มที่กำลังเล่นบทรักบนโซฟาหนาโดยไม่อายสายตาของใครอื่น น้ำใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวย ก่อนที่ตนจะเดินเข้าไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายต่อไป
“ ผมเชื่อว่าคุณจะผ่านคืนวันอันโหดร้ายนั้นไปได้ และผมเชื่อว่าเขาคนนั้นของคุณต้องคอยช่วยเหลือคุณอยู่แน่นอน แล้วผมจะช่วยคุณเอง ” ร่างบางเอ่ยในใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาคิดว่าที่ฮีชอลเป็นเช่นนั้นเพราะความรู้สึกเสียใจจนยากจะบรรยาย ความรักที่มีให้คนในรูปนั้นมันมากเกินกว่าที่คนอย่างเขาจะแทรกตัวเข้าไปได้ แต่เขาจะช่วยชายหนุ่มให้หลุดพ้นจากความเจ็บช้ำในหัวใจให้จงได้
หลายชั่วโมงต่อมา
“ ฮีชอลคะ ให้ฉันค้างที่นี่ไม่ได้หรือคะ ”
“ ถ้าเธอจะค้างที่นี่ อย่างนั้น มันคงเป็นคืนสุดท้ายที่เธอจะมีสิทธิ์ก้าวเข้ามาในห้องนี้ ”
“ กะ ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เจอกันวันหลังนะคะ บายค่ะ จุ๊บ ” สิ้นคำบอกลา สายตาคมจ้องมองหญิงสาวที่เดินจากไป ชายหนุ่มเดินไปยังตู้กระจกบานโต ชั้นวางของธรรมดาที่ใช้เป็นที่วางกรอบรูปเพียงใบเดียวที่เขามีอยู่ มือเรียวเอื้อมไปคว้ากรอบรูปมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะทรุดตัวลง ทิ้งร่างนอนราบกับพื้นเย็นเฉียบ ลำตัวคู้งอ ไหล่หนาสั่นสะท้านก่อนที่เสียงสะอื้นจะดังขึ้น เสียงสะท้อนในห้องยิ่งทำให้รู้สึกว่าความเหงามันเป็นเช่นไร
“ ฮือออออออ เด็กน้อยของฉัน ฉันขอโทษ ฮือออออออ แทมิน แทมิน ”
“ ทำไม ทำไมนายต้องทิ้งฉันไป ฮืออออออ แล้วทำไม ทำไมฉันลืมนายไม่ได้สักที ฮืออออออ เด็กน้อยของฉัน ทำไม ทำไม ”
RRRRRRRRRRRRRR rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่นอนสะอื้นไห้สะดุ้งตัวลุกขึ้นมา ก่อนจะพบว่าเจ้าของโทรศัพท์ยืนอยู่ไม่ห่างจากตน
“ อ๊ะ!!!! ผะ ผมขอโทษครับ ” คนตัวเล็กเองก็ตกใจไม่แพ้กัน มือไม้สั่นจนทำให้โทรศัพท์ที่ควักออกมาหล่นลงกับพื้น
“ ใครใช้ให้นายอยู่ที่นี่ ”
“ กะ ก็คุณ คุณยังไม่อนุญาตให้ผมกลับ ”
“ นายก็เลยอยู่ดูเลิฟซีนของฉันน่ะเหรอ ”
“ ปะ เปล่าครับ ผมไม่ได้ดูเลยจริงๆ สาบานได้ ”
“ แน่ใจนะ ” ฮีชอลค่อยๆเดินเข้าประชิดร่างของแทมินอย่างช้าๆ
“ คะ ครับ ” คนตัวเล็กก้มหน้าตอบ
“ แล้วเสียงล่ะได้ยินมั้ย ”
“ มะ ไม่ครับ ผมปิดหูเอาไว้ ”
“ อยากทำให้ถึงที่สุดมั้ย ”
“ มะ ไม่ครับ ” ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อชายหนุ่มตรึงแขนเล็กไว้ข้างหลังด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนดูดดื่มโพรงปากหวาน ก่อนจะใช้มืออีกข้างล้วงลงไปในกางเกงของเด็กชาย บดขยี้อย่างไม่ปราณี แทมินเองก็ไม่ได้ขัดขืน เด็กชายยืนนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำตา
“ คุณเจ็บปวดใช่มั้ยที่ทำแบบนี้ ”
“ .... ”
“ คุณเสียใจ แต่คุณก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ”
“ .... ”
“ คุณคิดว่าในโลกนี้ มีคุณคนเดียวที่เจ็บปวด ”
“ .... ”
“ คุณอยากจะลืม แต่คุณก็ยังคิดถึงอยู่ทุกวัน ”
“ .... ”
“ วันเวลาและความทรงจำ ทำให้คุณทรมาน ”
“ .... ”
“ คุณครับ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลยนะครับ ”
“ .... ” ไม่พูดอะไรออกมา ชายหนุ่มละตัวจากร่างบาง เดินหันหลังให้ ก่อนจะก้าวออกไปอย่างเชื่องช้า
RRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ ฮะ ??? แม่ ...... ไม่จริงใช่มั้ย แม่ต้องไม่เป็นอะไร!!!!! ” เด็กชายรีบกดวางโทรศัพท์ ก่อนจะวิ่งออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว
แทมินยืนรอรถอย่างกระวนกระวาย แล้วตัดสินใจวิ่งไปโรงพยาบาลโดยลืมไปว่าอยู่ห่างกันนับสิบกิโลเมตร
ปรี๊นนนนนนนนนนนน เสียงแตรรถดังขึ้น เด็กชายหันไปตามเสียง
“ ฉันจะไปส่งเอง รีบขึ้นมาสิ ”
“ คุณฮะ......”
.
.
.
ก่อนหน้านั้น
“ ฝากดูแลแทมินด้วยจะได้มั้ยคะ ” เสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกไปให้กับชายชราคนหนึ่ง
“ ทำไมฉันต้องดูแลเด็กนั่นให้เธอ ”
“ แต่ คุณ เอา เด็ก แฝด นั่น มา ให้ ฉัน เลี้ยง ไม่ ใช่ เหรอ คะ ” แต่ละคำพูดออกไปอย่างเชื่องช้า
“ แล้วใครกันที่อยากได้ลูกน่ะ ฉันช่วยขนาดนี้แล้ว ยังจะเอาภาระมาให้ฉันอีกรึไง ”
“ แต่ ฉัน ... ฉัน คง เหลือ เวลา อีก ไม่ มาก ถ้า ฉัน เป็น อะไร แท มิน จะ อยู่ ยัง ไง ”
“ มันก็ต้องอยู่ให้ได้สิ ลูกชายคนโตของนังนั่นตอนที่มันถูกฉันไล่ออกจากบ้าน อายุน้อยกว่าลูกชายเธอตอนนี้อีกมันยังเอาตัวรอดได้เลย ”
“ คุณ นี่ใ จดำ จริง นะ เรียก ลูกสาว ว่า นัง นั่น แถม ยัง ไล่ หลาน ชาย ออก จากบ้าน อีก ”
“ ฉันนี่เหรอที่ใจดำ!!!! ถ้าฉันไม่ลักเด็กคนนี้มาให้เธอ คิดหรือว่านังนั่นจะมีปัญญาหาเลี้ยงลูกสามคนได้น่ะ ”
“ ได้สิ ฉัน เชื่อ อย่าง นั้น ถ้า เธอ รู้ ว่า ลูก แฝด คนหนึ่ง ของ เธอ ยัง ไม่ตาย เธอต้อง พยายาม หนัก กว่า นี้ แน่ ”
“ ถ้างั้นเธอก็พยายามเหมือนยัยนั่นให้ได้สิ....ฉันไปล่ะ แล้วอย่าเรียกฉันมาด้วยเรื่องไร้สาระอย่างนี้อีก ” พูดจบก็เดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งให้หญิงวัยกลางคนนอนน้ำตาซึมอยู่บนเตียง ผู้เป็นแม่นอนสะอื้นไห้ เมื่อนึกถึงค่าพยาบาลที่ถามไถ่จากหมอรักษาอาการ ราคาที่แพงจนทั้งชีวิตไม่สามารถหาได้ แล้วทำไมลูกชายเพียงคนเดียวถึงสามารถ เมื่อนึกย้อนกลับไปดีๆ ลูกชายที่เทียวมาเยี่ยมเยือนทุกวัน กลับค่อยๆห่างหาย ใบหน้าที่มีรอยยิ้มตลอดเวลาแม้จะเศร้าเพียงใดก็เหลือเพียงใบหน้าหม่นหมองแม้ในยามหัวเราะ เนื้อตัวมีรอยช้ำเขียว ต้นคอที่มีรอยสีแดงเป็นจ้ำๆ นี่เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าลูกชายต้องเอาอะไรเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งค่ารักษาพยาบาล
“ แม่ขอโทษนะแทมิน แม่จะไม่ทำให้ลูกเดือดร้อนอีกแล้ว ฮึก ฮึก อยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ให้ได้นะลูก ฮืออออออ ” คิดได้ดังนั้น มือเรียวค่อยๆถอดสายออกซิเจนออกมา กว่าหลายนาทีที่ผู้เป็นแม่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดนั่น หญิงวัยกลางคนหลั่งน้ำตาออกมา ระดับการเต้นของหัวใจอ่อนลงทุกวินาที ก่อนที่ร่างบางจะกระตุกเฮือกเป็นครั้งสุดท้าย
“ แทมิน แม่ขอโทษ ”
“ คุณหมอคะ คนไข้ห้อง205 แย่แล้วค่ะ ” เสียงพยาบาลสาววิ่งกระหืดกระหอบไปหาหมอผู้รักษาอาการ ก่อนที่ทั้งหมดจะวิ่งเข้ามาในห้อง ช่วยเหลือชีวิตของคนไข้ แต่คล้อยหลังไม่ถึงสามนาที ผู้เป็นหมอถึงกับส่ายหน้า
“ โทรไปบอกลูกชายเขาด้วย ”
“ ค่ะคุณหมอ ”
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Won-Kyu
“ ซีวอน???? ”
“ หืม??? ”
“ แล้วนายล่ะ....คิดยังไงกับฉันกันแน่???? ”
.
.
.
“ หนอย แค่นี้ก็บอกไม่ได้คนบ้า!!!! ” คยูฮยอนเดินกระทืบเท้าเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวบนเก้าอี้ตัวโปรด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ ฉันเข้าไปนะ ” ซีวอนเคาะประตูเรียก
“ อยากเข้าก็เข้ามาสิ ”
“ งอนบ่อยจริงนะนาย ”
“ ถึงฉันงอนบ่อยยังไง นายก็ไม่เคยง้อ ไม่ต้องมาพูดดีเลย ” คยูฮยอนน่ายู่
“ ก็ถ้าง้อ นายก็จะเคยตัวน่ะสิ ”
“ แต่ก็ไม่เคยง้อสักที จนฉันงอนเป็นนิสัยอยู่แล้ว ”
“ แต่แบบนี้ก็น่ารักไม่ใช่รึไง ฉันชอบให้นายงอนนะ ” ชายหนุ่มยิ้ม
“ แต่ฉันอยากให้นายง้อนี่ ” ร่างโปร่งหันมาสบตัวผู้เป็นสามี
“ อยากให้ง้อก็เรียกฉันว่าพี่ก่อนสิ ”
“ ไม่อยากเรียก ทำไมต้องเรียก นายไม่ใช่พี่ชายฉันสักหน่อย ”
“ หรืออยากเรียกว่าที่รักล่ะ ”
“ ใช่ เอ้ย ไม่ใช่สักหน่อย อย่ามั่วน่า ”
“ ไม่ใช่แล้วหน้าแดงทำไม ”
“ ก็มันร้อนนี่ ”
RRRRRRRRRRRRRRRRR rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างบางจ้องเบอร์มือถือแล้วยิ้มออกมากว้างๆ ซีวอนเห็นดังนั้นเขาคิดว่าพ่อแม่ของคยูฮยอนโทรมา จึงจะเดินออกนอกห้อง แต่ชื่อและน้ำเสียงของคนตัวเล็กก็ทำให้ขายาวชะงักลง
“ พี่คังอินครับ คิดถึงจัง ” คยูฮยอนกรอกเสียงหวานๆไปตามสาย เหลือบตามองไปยังซีวอนครู่หนึ่งแล้วรีบเดินออกไปสนทนาต่อยังระเบียงห้องทันที
.
.
.
“ นี่ซีวอน ขอซอสหน่อยสิ ”
“ อืม ” ไม่พูดอะไรมากมาย ชายหนุ่มเพียงยื่นสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการให้ไป
“ ขอบใจนะ ”
“ นี่ซีวอน วันนี้ฉันขอตัวไปทำธุระหน่อยนะ ”
“ อืม ”
“ อะไรกัน นายจะไม่ถามสักหน่อยเหรอว่าฉันจะไปไหนน่ะ ”
“ คงไม่จำเป็น ดูก็รู้ว่าจะไปหาคนที่คุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อคืน ”
“ เห???? รู้ด้วย ฉลาดสมเป็นนายจริงๆ ”
“ ไม่ต้องฉลาดหรอก คนโง่ๆก็ดูออก เวลาคุยโทรศัพท์ทำเสียงหวาน หน้าตามีความสุขขนาดนั้นเป็นใครก็รู้ เดาได้ไม่ยาก ปากก็บอกว่ากลัวฟ้าร้องแต่เดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกได้ คงจะเป็นคนสำคัญล่ะสิ ”
“ เอ๋??? ฉันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ” มือเรียวยกขึ้นสัมผัสใบหน้าของตนเบาๆ
“ วันนี้ฉันก็จะเข้าไปทำธุระในโซลต่อนะ ”
“ ตะ แต่ว่าวันนี้พยากรณ์อากาศบอกว่าพายุจะเข้านี่ นายจะทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกเหรอ ” คยูฮยอนหน้าซึม
“ ก็ไปอยู่กับพี่คังอินของนายสิ ”
“ ละ แล้วนายจะกลับตอนไหน ”
“ อาจจะค้างที่นั่น ”
“ แล้วฉันล่ะ นายก็รู้ว่าฉันกลัวเสียงฟ้าผ่า ”
“ นายก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่นายก่อน หรือไม่ก็ไปนอนกับพี่คังอินของนายสิ ”
“ ทำไมฉันต้องไปค้างกับพี่คังอินด้วยล่ะ ”
“ ฉันจะไปรู้กับนายรึเปล่าล่ะ ”
“ นี่นายโกรธอะไรฉันอยู่หรือเปล่า ” คยูฮยอนถามออกไป เพราะถึงแม้ซีวอนจะไม่ได้รักเขาแต่ก็ไม่เคยทำท่าหมางเมินแบบนี้มาก่อน ทั้งๆที่เมื่อคืนฝนตกขนาดหนัก ชายหนุ่มยังฝ่าสายฝนมาหา แต่แล้วทำไม วันนี้ถึงได้ดูไร้เยื่อใยแบบนี้
“ ไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อนนะ ” พูดจบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร หยิบสูทมาสวมใส่ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปโดยไม่หันมามองคนที่นั่งอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ ซีวอน ” ร่างบางลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งตามหลังของผู้สามีไปติดก่อน ก่อนจะโผลกอดแผ่นหลังของชายหนุ่มไว้แน่น
“ มีอะไร ”
“ ฉันจะรอนายนะ ”
“ .... ”
“ นายไม่ห่วงฉันเลยรึไง หรือที่นายจะไม่กลับมาบ้านเพราะนายจะไปค้างกับคนอื่น ไปค้างกับผู้หญิงที่โทรมาหานายเมื่อวานนี้ใช่มั้ย ”
“ ไม่ใช่หรอกน่า อย่าคิดมากสิ ” มือหนากุมมือเล็กไว้เบาๆ ความรู้สึกหงุดหงิดตลอดทั้งคืนจางลงอย่างเห็นได้ชัดกับสัมผัสที่ถูกหยิบยื่นมาให้
“ ฉันน่ะ....จะรอนายนะ ”
“ ไม่ไปค้างกับพี่คังอินของนายล่ะ ”
“ ทำไมฉันต้องไปค้างด้วย วันนี้ฉันแค่จะแวะไปดูหลานก็เท่านั้นเอง ”
“ หลานเหรอ??? ”
“ อื้อ....ภรรยาพี่คังอินคลอดลูก ฉันว่าจะแวะไปดูสักหน่อยเท่านั้นเอง ”
“ ถ้างั้น ฉันจะรีบไปรีบกลับก็แล้วกันนะ ” ชายหนุ่มหันหน้ามาหาคนตัวเล็ก ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอิ่มแล้วเดินทางไปทำธุระของตนต่อไป
“ อะไรของหมอนี่นะ เดี๋ยวอารมณ์ร้าย เดี๋ยวก็อารมณ์ดี ” พูดไปก็เอามือจับหน้าผากของตนอย่างอายๆก่อนจะเดินเข้าบ้านเช่นกัน
.
.
.
คืนนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ ยังไม่นอนอีกหรือ ” ซีวอนถามเมื่อเดินไปเปิดประตูแล้วเห็นคยูฮยอนเดินมาหาตนถึงห้องแถมหอบหมอนข้างมาด้วยอีกต่างหาก
“ ขอฉันนอนด้วยคนสิ ” แม้จะพูดขออนุญาตแต่เจ้าของยังไม่ทันตกปากรับคำร่างบางก็แทรกตัวเข้ามาในห้องพร้อมกระโดดขึ้นเตียงของชายหนุ่มแล้วนอนขดตัวลงทันทีที่ได้ยินเสียงฟ้าฟาด
“ กลัวมากเลยใช่มั้ย ” ร่างสูงถามเมื่อนั่งลงบนเตียงของตน
“ อื้อ ”
เปรี๊ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ ฮือออออออออออออ ”
“ ไม่ต้องกลัวนะ ” ชายหนุ่มทิ้งตัวลงข้างๆก่อนจะเลื่อนมือเข้าไปโอบกระชับคนตัวเล็กให้ขยับเข้ามาในอ้อมกอดของตน
“ ซีวอน ฉันกลัว ” คยูฮยอนเคลื่อนกายเข้าไปซบอกแกร่งของผู้เป็นสามีมือเรียวโอบเอวสอบไว้แน่น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยอาการหวาดกลัว ซีวอนเองก็กอดเด็กหนุ่มไว้แน่นเช่นกัน ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งๆที่พยายามห้ามใจตัวเอง แต่ลูกนกที่กำลังอกสั่นขวัญแขวนอย่างคยูฮยอนกลับทำให้กำแพงใจที่เข้มแข็งของชเวซีวอนพังทลายลงอย่างดื้อๆ
“ มานอนกับฉันแบบนี้ นายไม่กลัวรึไง ???? ”
“ ทำไมต้องกลัวล่ะ ” คยูฮยอนเปรยตามองร่างสูง ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้ เมื่อยู่ๆชายหนุ่มก็พลิกตัวคร่อมตนเองไว้ สองสายตาประสานกันในความมืดที่มีเพียงแสงของสายฟ้าที่แลบแปลบในบางเวลาเท่านั้นที่ส่องแสงออกมา
“ ถ้าทำแบบนี้ นายจะกลัวมั้ย ”
“ ซะ ซีวอน อื้มมมมมมมม ” ร่างสูงก้มลงดูดดื่มกับโพรงปากหวานของผู้เป็นภรรยาที่กำลังหลับตาพริ้มกับรสจูบแสนหวานที่ได้รับมา มือหนาไล้วนเข้าไปยังสาบเสื้อนอน เคลื่อนที่ครอบครองสิ่งที่ต้องการเป็นเจ้าของ สะกิดเพียงเบามือตุ่มไตที่ไม่เคยผ่านมือชายใดก็แข็งขืนขึ้นมาด้วยความเสียวกระสัน และโดยที่ไม่รู้ตัว ร่างทั้งร่างก็เปลือยเปล่าในเวลาเพียงไม่นาน นิ้วซุกซนของผู้เป็นสามีไล่นำทางให้ริมฝีปากอุ่นที่ตีตราจองไปทุกทั่วบริเวณของร่างกาย ร่างบางบิดสั่นด้วยความกลัว ไม่ใช่เพราะเสียงฟ้าข้างนอก หากแต่เป็นเพราะลิ้นชื้นสากที่ลากผ่านไปยังบริเวณที่แม้แต่เจ้าของยังมิได้สัมผัสบ่อยหนัก
“ อ๊ะ.....ซะ ซีวอน ”
“ คยูฮยอน..... ”
“ อื้ออออออออ พะ พอเถอะ ฉันอ๊ะ!!!!!! ” คยูฮยอนสะดุ้งโหยง เมื่อมือแกร่งจับขาเรียวของตนให้แยกจากกัน ก่อนที่ลิ้นสากจะเคลื่อนที่เข้าครอบงำแกนกลางลำตัวอย่างถือวิสาสะ
“ ซีวอน อื้อออออออออ อะ เอาออกไป มะไหว อื้อออออ ไม่ไหวแล้ว ”
“ ขอฉันได้มั้ย คยูฮยอน????? ”
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Hyun-Hyuk
“ นี่นาย !!!! ” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังจากฮยอกแจเดินเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่กี่ก้าว คนตัวเล็กหันไปมองตามเสียง ดวงตาคู่สวยขมวดเข้าหากัน ชายหนุ่มในชุดเสื้อฮู๊ดคลุมศีรษะ แว่นตาดำบนใบหน้าเรียว ไม่อยากต่อการเดาว่าเขาคือใคร แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมต้องแต่งตัวให้เป็นที่สนใจขนาดนี้ด้วยทั้งๆที่อยากจะพลางตัวแท้ๆ
“ คุณ!!! มีธุระอะไรครับ? ”
“ ธุระอะไรเหรอ ถามมาได้ เมื่อวานทำไมไม่ไปตามนัด ”
“ ผมบอกคุณแล้วว่าผมต้องทำงาน ”
“ แต่ฉันก็บอกนายแล้วว่า ถ้านายไม่มาฉันจะไม่กินข้าว ”
“ เห???? อย่าบอกนะว่าเมื่อวานคุณไม่ได้กินข้าว ”
“ จะ จะบ้าเรอะ ทำไมคนอย่างฉันต้องอดข้าวเพียงแค่นายไม่รักษาสัจจะล่ะ ”
“ คุณจะว่ายังไงก็เชิญ แต่เรื่องทำอาหาร ผมไม่ว่างจริงๆครับ ”
“ ช่างเถอะ ยังไง ฉันก็กินข้าวไม่ตรงเวลาอยู่แล้วล่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยว่างด้วย ”
“ ไม่กินข้าว ระวังเป็นโรคกระเพาะนะ ”
“ ห่วงฉันด้วยรึไง ”
“ เปล่า ผมแค่บอกเป็นมารยาท ”
“ แล้วค่าเสื้อฉันล่ะ ”
“ ตอนนี้ผมมีแสนวอน เอาไปก่อนได้มั้ย ” พูดจบก็ทำท่าควักกระเป๋าตังค์ออกมา แต่ฮยอนจุงก็คว้ามือเรียวไว้ก่อน
“ เฮ้!!!! มาควักเงินจ่ายอะไรตรงนี้ คนอื่นเขามองดูอยู่ จะนึกว่าฉันเป็นพวกรีดไถ่หรอก ”
“ มันก็ใช่อย่างที่เขามองไม่ใช่รึไง ” ฮยอกแจคิด
“ ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นหรอก จะว่าฉันงกจริงๆใช่มั้ยล่ะ มานี่เลย ” ชายหนุ่มลากแขนฮยอกแจมายังที่ลับตาคน ก่อนจะแบมือออกไป
“ นี่ครับแสนวอน ” คนตัวเล็กยื่นธนบัตรให้ไป
“ แล้วดอกเบี้ยล่ะ ”
“ ดอกเบี้ยอะไร ห้าล้านวอนผมยังไม่มีปัญญาจ่ายเลยนะ ”
“ งั้นคิดแบบนี้ก็แล้วกัน ” ไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มก็ล็อคต้นคอร่างบางเข้ามาหาตนก่อนจะก้มลงประทับตราดอกเบี้ยให้แก่ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของอีกฝ่าย
“ อื้อออออออ ” ฮยอกแจทุบมือลงไปบนอกหนา แต่ฮยอนจุงก็ไม่สะเทือนอะไร ยังคงหยอกล้อกับลิ้นฉ่ำของอีกคนอย่างดูดดื่ม ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ
“ อร่อยจัง ” พูดพร้อมเลียริมฝีปากของตนไปมา
“ คนบ้า โรคจิต ” ร่างบางชกมือหมายจะใช้กำปั้นสั่งสอนร่างสูงที่ทำตัวทุเรศๆแต่ฮยอกจุงก็คว้ามันไว้ได้ทัน แถมยังใช้เพียงมือเดียวยึดแขนของฮยอกแจไว้ข้างหลังได้อีกด้วย
“ คิดว่าแรงน้อยๆอย่างนายจะทำอะไรฉันได้ ” คนตัวสูงกว่ายิ้มแบบผู้มีชัยชนะ แถมยังดันร่างบางเข้าหาต้นไม้ใหญ่อีกด้วย
“ นะ นายจะทำอะไรน่ะ ” ฮยอกแจเสียงสั่นเมื่อฮยอนจุงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของตนอีกครั้ง
“ ยังไม่อิ่มเลย ”
“ มะ ไม่อิ่มก็ไปหากินที่อื่นสิ มารุ่มร่ามอะไรกับฉันล่ะ ”
“ เป็นดอกเบี้ยไง แล้วก็คิดดอกเพิ่มเรื่องที่นายปล่อยให้ฉันหิวทั้งคืน ”
“ ปะ ปล่อยนะ ”
“ อยากไป ก็ดิ้นให้หลุดสิ ”
“ นายมันทุเรศที่สุด ”
“ พูดมากจริง เดี๋ยวก็เจอยิ่งกว่าจูบหรอก ”
“ อย่ามาขู่นะ ”
“ หรืออยากลอง ” ฮยอนจุงเลื่อนใบหน้าให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม จนฮยอกแจหลับตาปี๋ จนคนตัวโตหลุดหัวเราะออกมา พร้อมปล่อยข้อมือของร่างบางออกไป
“ ฮะ ฮ่ะ ฮ่า นายนี่ตลกเป็นบ้าเลย ”
“ ตลกมากเลยล่ะสิ ทำแบบนี้กับคนอื่นแล้วมาหัวเราะเยาะเย้ย คงสนุกมากสินะเห็นคนอื่นเป็นของเล่น คนรวยๆเขาคงเห็นคนที่จนตรอกกว่าเป็นที่รองรับอารมณ์อย่างนี้สินะ ” ร่างบางกำมือตัวเองแน่น ก่อนจะหันหลังแล้วรีบเดินจ้ำออกไป
“ ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ” ฮยอนจุงรีบเดินตามมา
“ ใช่สิ มันไม่ใช่อย่างที่ผม แต่มันเป็นทุกอย่างที่คุณคิดใช่มั้ยล่ะ ”
“ ฮ่ะ ฮ่ะ อีกแล้ว นายทำฉันขำอีกแล้ว ”
“ นี่!!!! จะหัวเราะอะไรนักหนา ”
“ ก็ขำนายไง เดี๋ยวนายก็พูดว่า ผมกับคุณ สักพักก็ ฉันกับนาย สรรพนามเปลี่ยนไปมาให้วุ่น ”
“ กะ ก็ ก็คนมันตกใจนี่ ”
“ เรียกฉันว่าฮยอนจุงสิ ฉันอยากได้ยินนายเรียกฉันว่าฮยอนจุง ”
“ ทำไมผมต้องเรียกแบบนั้น ”
“ ลองพูดดูหน่อยสิ ไม่อยากหรอกนะ .... ฮยอนจุง ลองพูดสิ ” ร่างสูงขยับปากช้าๆเหมือนสอนหนังสือเด็ก แต่คนตรงหน้ากลับมีใบหน้าหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
[ “ ฮยอนจุง...นายเรียกชื่อฉันแบบนี้ได้มั้ย ” ]
[ “ ... ” ]
[“ ฮยอกแจ...นายยังไม่เรียกฉันว่า ฮยอนจุงเลยนะ ” ]
[ “ เอ่อ...ครับ คุณหนูฮยอนจุง ” ]
[ “ อีกรอบสิ โดยที่ไม่มีคำว่าคุณหนูนำหน้าน่ะ ” ]
[ “ ถ้าไม่พูด คืนนี้นอนในรถนี่แหละ ” ]
[ “ ... ” ]
[ “ อยากนอนในรถ ก็ไม่มีใครว่านะ ” ]
[ “ เอ่อ.... ฮยอนจุง ” ]
[ “ นั่นไง พูดได้นี่ ไม่เห็นยากตรงไหน ” ]
“ ฮยอกแจ ฮยอกแจ เป็นอะไรหรือเปล่า ” ชายหนุ่มเดินมาเขย่าแขนเล็กเบาๆ เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งเงียบไปเกือบนาที
[ “ นายไม่เป็นอะไรนะฮยอกแจ ” ]
[ “ ฮือออออ ฮยอนจุง อย่าหลับนะ อย่าหลับสิ ฉันจะพานายไปหาหมอ ฮืออออออ ฟื้นสิฟื้น ” ]
[ “ ฮือออออออ ใครก็ได้ ฮืออออออ ตามหมอ ฮือออออออ ตามหมอให้ผมที ” ] [ “ ฮืออออออออ ฮยอนจุง อย่าเป็นอะไรนะ ” ]
[ “ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เราช่วยเขาเอาไว้ไม่ได้ ” ]
.
“ เฮ้!!!! นายเป็นอะไรหรือเปล่า ”
“ ผมไม่เป็นอะไร ” ร่างบางหันหลังหนีอย่างช้าๆ โดยที่ฮยอนจุงก็ไม่ได้ก้าวตามแต่อย่างใด เพียงเพราะแววตาที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้า ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าฮยอกแจแบกรับความเศร้าของคนทั้งโลกไว้ แววตาที่ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออกและไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินตาม
“ เรื่องเงิน พรุ่งนี้ผมจะเอาส่วนที่เหลือมาให้ทั้งหมด ” ฮยอกแจเอ่ยหลังชะงักเท้าไว้แล้วก้าวเดินต่อไป
“ ฮยอนจุง ฉันเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ทำไม ทำไมต้องเป็นฉัน ต้องเป็นฉันคนเดียว ”
.
.
.
“ ย็อกแจ~ ร้องไห้อีกแย้วเหรอ ”
“ เปล่านี่ พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกซองมิน ”
“ แล้วไมหน้าเศร้าแบบนั้นอ่ะฮับ ”
“ พี่คงเหนื่อยมากเกินไปล่ะมั้ง ”
“ คิดถึงคนนั้นเหรอ??? ”
“ หืม???? ”
“ ถึงย็อกแจจะเหนื่อย แต่ไม่เคยมีหน้าอย่างงี้ แต่พอเผลอๆก็ชอบทำหน้าเศร้า คิดถึงคนบนฟ้าอยู่เหรอฮับ ”
“ อื้อ....พี่คิดถึงเขา คิดถึงแม่ คิดถึงน้อง คิดถึงเพื่อนคนที่ดีที่สุด ”
“ อย่ามัวคิดถึงแต่คนบนฟ้าจนลืมคิดถึงคนที่อยู่ด้วยนะฮับ ”
“ .... ”
“ หัวใจคนเราน่ะ ไม่ได้มีไว้ให้เจ็บซะหน่อย ”
“ แก่แดดจริงนะเรา ไปจำคำพูดใครมาล่ะหึ ” มือเรียวขยี้หัวทุยๆของน้องชายเบาๆ
“ ไม่ได้จำมานะ ซองมินคิดเองเลยแหละ ย็อกแจมั่ว~ ”
“ จ้า กระต่ายอวบของพี่นี่แก่แดด เอ้ย เก่งที่สุดในโลกเลย ”
“ จิ๊ .... อย่ามาหลอกด่าซองมินเลย อ๊ะ!!!!! ” อยู่ๆน้องชายตัวเล็กก็ทรุดลงกับพื้นมือบางกุมท้องของตนไว้แน่น จนทำให้ฮยอกแจตกใจเป็นอย่างมาก
“ ซองมินเป็นอะไรน่ะ ”
“ ย็อกแจ ปะ ปวดท้อง ”
“ ยะ อย่าเป็นอะไรไปนะ พี่จะรีบพาไปหาหมอ ”
.
.
.
ณ โรงพยาบาล
ฮยอกแจรีบอุ้มน้องชายวิ่งเข้าโรงพยาบาลหลังจากลงจากรถแท็กซี่ ไม่นานนักก็มีพนักงานมารับผู้ป่วยไป คนตัวเล็กวิ่งตามน้องชายไปจนถึงหน้าห้องฉุกเฉินก็ถูกกันออกมา ร่างบางเดินเหม่อลอยรอน้องชายจนไปชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้า
“ อ๊ะ!!! ขอโทษครับ ” ร่างบางก้มหัวขอโทษ
“ เดินภาษาอะไรของแก ” ชายชราบ่นอุบ ก่อนที่จะจ้องหน้าเอาผิดกับเด็กหนุ่ม แต่ทันทีที่คนตัวเล็กเงยหน้า สีหน้าตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นกับคนทั้งสองคน
“ คะ คุณตา ” ฮยอกแจเอ่ยเสียงเบา แม้จะผ่านมากว่าสิบปี เขาก็ยังคงจำใบหน้านั้นได้ แม้จะได้รับแต่คำด่าทอและเสียงเย้ยหยัน เขาก็ยังจำคนตรงหน้าได้อย่างแม่นยำ
“ ใครตาแก ”
“ คุณตาครับ ผมฮยอกแจไง ”
“ ฉันไม่มีหลานอย่างแก ” พูดจบก็รีบเดินหนีออกไป ฮยอกแจเองก็ไม่ได้เดินตาม เพราะรู้ตัวดีกว่าเป็นที่น่ารังเกียจแก่ครอบครัวนั้นแค่ไหน คนตัวเล็กจึงจำใจเดินกลับไปยังหน้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง
“ ฮยอกแจ .... ซองมินจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ ” คุณป้าเจ้าของอพาร์ทเม้นเอ่ยถามอย่างกระวนกระวาย หลังจากหลานชายตัวน้อยถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดนานกว่าสองชั่วโมง
“ ไม่หรอกครับ ซองมินต้องปลอดภัย ” ร่างบางยิ้มให้อย่างปลอบใจ
“ ทำไงดี สงสัยป้าลืมปิดห้อง ป่านนี้ของจะหายหมดรึยังก็ไม่รู้ ”
“ เดี๋ยวผมกลับไปดูให้นะครับ แล้วจะรีบกลับมา ”
“ ขอบใจมากนะ ”
“ ครับ ไม่เป็นไร ”
.
.
.
ขณะที่กำลังเดินออกไปรอรถหน้าโรงพยาบาล รถหรูคันงามก็จอดตรงด้านหน้าของฮยอกแจพอดี และไม่ทันที่รถจะจอดสนิท ใครอีกคน ใครคนที่เป็นดังแก้วตาดวงใจก็ก้าวเท้าลงจากรถ ห่างจากที่ฮยอกแจยืนอยู่ไม่กี่ก้าว น้ำเสียง แววตา และท่าทาง ไม่ผิดไปจากใครคนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
“ ฮืออออออออออ แม่ฮะ อย่าเป็นอะไรไปนะ ”
“ แทมิน
. ” ฮยอกแจเอ่ยเสียงแผ่วเบา เขาไม่ได้ตาฝาด นั่นคือน้องชายของเขา ร่างบางหันหน้าตามเด็กชายที่วิ่งผ่านไป ขาเรียวสั่นระริก หัวใจแทบจะหยุดเต้น คนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ.....อีกครั้ง ก็กลับเข้ามาในชีวิตเหมือนดั่งสรรค์แกล้ง
“ ฮยอกแจ ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก พร้อมกับใบหน้าที่นองด้วยน้ำตา
“ คุณหนูใหญ่......ฮือออออออออออออ ”
“ พระเจ้า พระองค์กำลังเล่นตลกอะไรกับลูกอีก แค่ฮยอนจุงคนเดียวไม่พอใช่มั้ย พระองค์จะรู้มั้ยว่าลูกกำลังจะขาดใจตาย ฮืออออออออ ทำไม ทำไมต้องเป็นลูก ”
.. โปรดติดตามตอนต่อไป
แม่ยกฮยอกชวนคุย
วอนกี้ มันก็หื่นกันอยู่คู่เดียว
ไม่สงสารอีกสองคู่เลย 55+
แล้วตอนหน้าจะเอ็นซีดีมั้ยเนี่ย หุหุ
ขอโทษด้วยนะคะที่หายหัวไปนาน
งานยุ่งเหมือนยุงตีกัน
แฟนฟิคของไรเตอร์ก็ยุ่งเหมือนกันใช่มั้ยเอ่ย
ยังไงก็อย่าลืมป้าแก่ๆคนนี้นะจ๊ะ
ขอโทษเรื่องตอบคอมเม้นด้วยนะคะ
มีน้องๆบอกว่าหน้าฟิคมันยืดเหลือเกิน มิต้องตอบก็ได้
แค่กลับมาให้เห็นหน้าแก่ๆก็พอ T^T
เอาเป็นว่าคนเขียนจะเริ่มเดินเรื่องให้เร็วขึ้น
และหวานให้เร็วขึ้นนะจ๊ะ
Once หวานก่อนขม LAST ก็ขอขมก่อนหวานก็แล้วกัน
ขอบคุณที่แวะเวียนมาหานะจ๊ะ
ไรเตอร์แก่ๆขอกำลังใจในการเขียน(เอ็นซี)ด้วยนะ
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น