คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พบหน้า
1
พบหน้า
“ผ่านค่ะ”พนักงานตรวจพาสปอร์ตพูดภาษาจีนแมนดารินอย่างสุภาพ
ฉันพยักหน้ารับน้อยๆแล้วลากกระเป๋าสีชมพูสดของตัวเองไปตามทาง
ฉันชื่อ แพรดาว สาวน้อยน่ารักกุ๊กกิ๊ก (หรา) ชีวิตฉันแสนจะรันทดยิ่งกว่าหนังไทยน้ำเน่าซะอีก T-T ก็จู่ๆ อาม่าก็เล่าให้ฟังถึงความหลังตอนสมัยสาวๆว่าไปสัญญากับเพื่อนรักเพื่อนตาย ถ้ามีหลานสาวกับหลานสาว จะให้แต่งงานกัน -_- อาม่านะอาม่า ไปสัญญาแบบนั้นทำม้ายยยย!! และแล้วคราวซวยของฉันก็มาถึงเมื่อพี่สาวฉันมาบอกให้ฉันไปเก็บตัวเป็นเจ้าสาวแทนน่ะสิ
T-T แล้วฉันก็ตอบตกลงไปแล้วด้วย ถ้าอาม่ารู้นะ ได้ตายกันไปข้าง แล้วตอนนี้ฉันก็มาเหยียบแผ่นดีนฮ่องกง เพื่อเก็บตัวเรียนรู้ธรรมเนียมจากบ้านฝ่ายชายที่อาม่าบอกว่าเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่แข็งแกร่งที่สุดในฮ่องกง
เหอะๆๆ มีจริงซะที่ไหนกันเล่า อย่ามาหลอกเด็กเลย อาม่า -.,-
ฉันก้มหน้าก้มตาลากกระเป๋าผ่านหน้าฝูงคนเกือบร้อย ที่บางคนก็ถือป้ายไฟ ถือรูป พรุงพะรังไปหมด –O- แล้วฉันก็ไปสะดุดกับผู้ชายนับสิบที่ยืนเรียงกันในชุดสูท หรือว่าจะมีคนสำคัญมา
ฉันสะบัดความคิดออกจากหัวแล้วเดินก้มหน้าผ่าฝูงคนไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นหนึ่งในชายชุดดำก็ชี้มาทางฉัน
ควับ !
ฉันหันไปมองข้างหลังอย่างระแวง แต่ก็ไม่เห็นมีใคร เมื่อหันกลับมา
กรี๊ดดดด !!
เหล่าชายชุดดำพากันกรูมาทางฉัน อย่าบอกนะว่าจะลักพาตัว >.<โอ้วโน่ววววว ฉันวิ่งสุดแรงเกิดออกไปยังจุดขึ้นรถ แต่พวกชายชุดดำนี่ก็วิ่งไวชะมัด วิ่งตามทันและจับฉันไว้
“เอ่อ เข้าใจผิดรึเปล่าคะ ฉันมาจากเมืองไทย”ฉันพูดเสียงนิ่งๆทั้งๆที่กลัวจนขาสั่นไปหมด
“ไม่ผิดแน่ นายหญิงใหญ่ให้พวกกระผมมารับ คุณหนูที่สนามบินอย่างสมเกียรติครับ!”คนที่จับแขนขวาฉันไว้พูดด้วยภาษาจีนที่เป็นทางการอย่างกับทหาร
-*- แต่ว่า…. นี่น่ะเหรอ สมเกียรติ!! นี่มันฉุดกระชากกันชัดๆ
“แต่ฉันเดินเองได้ ปล่อยเถอะ - -^’’ ฉันพูดอย่างวางท่า
ได้ผลแฮะ พวกชุดดำ ปล่อยฉันแล้วก้มหัวให้แล้วยืนเรียงกันแบบหน้ากระดานเรียงหนึ่ง =_= เอิ่ม! อลังการไปไหน
ฉันเดินตามชายชุดดำคนหนึ่งซึ่งเดินนำหน้าไป แล้วพวกที่เหลือก็มาล้อมไว้ทุกทิศพร้อมกับสอดส่องไปรอบๆ อย่างกะจะไปส่งยาอะไรเทือกนั้น
“นี่ๆ ลูกชายบ้านนั้น นิสัยเป็นยังไงหรอ” ฉันถามเมื่อรถออกไปได้สักพัก
“คุณชายท่านไหนล่ะครับ ตระกูลซย่ามีคุณชายสี่ท่าน แต่ตอนนี้ไปเรียนต่างประเทศสองท่าน เหลือแต่คุณชายที่หนึ่งกับคุณชายที่สองครับ”คนที่นั่งข้างๆคนขับตอบเสียงนิ่งๆเหมือนหุ่นยนต์
“ก็ทั้งสองนั่นแหล่ะ นิสัยเป็นยังไง”ฉันตอบอย่างเพลียๆ
“คุณชายที่หนึ่งเก่งเรื่องการต่อสู้ระยะไกลครับ และแฝงตัวได้เงียบที่สุด ส่วนคุณชายที่สองถนัดเรื่องการต่อสู้ทุกชนิด แต่เขาจะชอบบุกซะมากกว่า”
=_= ใครจะไปอยากรู้เรื่องพรรค์นั้นกันยะ ฉันหมายถึงนิสัยเฟ้ย
“เอ่อ ฉันหมายถึงนิสัยน่ะ”ฉันตอบเสียงห้วนๆเพราะเริ่มอารมณ์เสีย
“คุณชายที่หนึ่งนิสัยเหมือนสุภาพบุรุษครับ นิ่งสงบ สุขุม ขรึมแต่ไม่เย็นชา แถมยังใจเย็นยิ่งกว่าสายน้ำ ส่วนคุณชายที่สอง…..เอ่อ ก็เป็นสุภาพบุรุษครับ”
-*- ทำไมคนแรกถึงชมอย่างออกนอกหน้า แต่คนที่สองนีมันทะแม่งๆอยู่นา
ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับพวกเขา จึงเลือกที่จะเงียบ ปล่อยให้อีตาหุ่นยนต์พล่ามเรื่องคุณชายหนึ่งของเขาต่อไป เพลียค่ะ เพลีย !!
ไม่ช้ารถก็เลี้ยวเขาไปในบ้าน…ไม่สิ น่าจะคฤหาสน์ซะมากกว่า ใหญ่อย่างกะวัง แถมแบ่งเป็นโซนๆอย่างชัดเจน
อีตาหุ่นยนต์เปิดประตูให้ฉันแล้วเดินนำไปยังคฤหาสน์ตรงกลางที่ใหญ่ที่สุด ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากอ้าปากค้าง ตาโตไปกับความอลังการของตระกูลนี้ อย่างนี้เรื่องเจ้าพ่อมาเฟียก็คงจะเป็นเรื่องจริงน่ะสิ
“มาแล้วหรอจ๊ะ^^หนูแพรดาว เข้ามาข้างในก่อนสิ”ป้าวัยสี่สิบกว่าๆแต่ว่าใส่เพชรใส่ทองเต็มตัว แต่งหน้าหนาจัด เดินย่างกรายมาหาฉันแล้วจูงมือฉันเข้าไปข้างในตัวบ้าน
“สวัสดีค่ะ คุณ…..”
“ป้าชื่อเหมยลี่จ๊ะ เป็นคุณนายรองของที่นี่น่ะ หนูมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะจ๊ะ แล้วค่อยคุยกัน”
ป้าเหมยลี่กวักมือเรียกเด็กรับใช้สองคนมาพาฉันไปที่ห้องพักชั้นบน
ทันทีที่ถึงห้อง ฉันก็พุ่งไปที่เตียงทันทีแล้วทุกอย่างก็ดับมืดลง……
ฮ้าวววว >o< !!
นี่มันกี่โมงแล้วนี่ย ฉันกดมือถือเพื่อดูเวลา 19.00 น.
กรี๊ดดดดด !!
ฉันร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมีเปรตยืนอยู่ที่ปลายเตียง ฉันโดดลงจากเตียงเพื่อไปกดเปิดสวิตส์ไฟ พรึ่บ ! เมื่อไฟสว่างขึ้นฉันก็ค่อยๆหันไปมองเปรตตัวนั้นช้าๆ
“อ๊ากกกกก =.,=”เปรตหล่อจุง !
“ยัยบ้า ร้องแหกปากอย่างกับโดนอะไรกัด”เปรตตัวนั้นพูด
“ผี นายเป็นผีก็อยู่ส่วนผีสิ”ฉันพยายามทำใจดีสู้เสือ เอ้ย สู้ผี
“สงสัยหัวจะกระแทก -*- คน…ฉันคน!!”
ฉันเดินไปแตะตัวเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ หมับ ! คนจริงๆด้วย -//-
“นายเป็นใคร!?”เมื่อรู้ว่าอีตานี่เป็นคนความกล้าฉันก็พุ่งปี๊ด
“อยู่บ้านคนอื่นแท้ๆ ยังจะกล้ามาถามอีกว่าฉันเป็นใคร ฉันก็เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ยังไงล่ะ ยัยบ้า”เขาพูดทั้งๆที่คิ้วเข้มได้รูปขมวดเข้าหากัน แต่เท่ห์มากค่ะ-.,-
ฉันมัวแต่ตะลึงกับความงามของมนุษย์หน้าตาดีปากเสียขี้โมโหตรงหน้าจนเขาเดินมาเขย่าตัวฉัน
“ฉันชื่อซย่าเหลยเซิ่ง เป็นคุณชายที่สองแห่งตระกูลซย่า”
คุณชายที่สอง….ฉับพลันเรื่องที่ฉันสงสัยในรถก็แวบมาในหัว หมอนี่เองที่อีตาหุ่นยนต์ชุดดำไม่พูดเรื่องนิสัย ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง
“ฉันชื่อแพรดาว จะมาเรียนรู้ธรรมเนียมเป็นสะใภ้ที่บ้านนาย แต่หวังว่า เจ้าบ่าว คงไม่ใช่…”ฉันจ้องหน้าเขา แต่ถ้าเป็นเขาก็ดีน่ะสิ หล่อโฮกขนาดนี้
เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง แต่พระเจ้า! ดูดีชะมัด เอิ๊กๆ -.,-
“แพ-ดา แพ โถ่เว้ย ! ชื่อคนรึเปล่าวะ เรียกยากชะมัด”
“-*-“
“ดีนะที่เธอเป็นเจ้าสาวของพี่ใหญ่ ไม่งั้นฉันคงบ้าตายแน่ๆถ้าได้แต่งงานกับยัยบ๊องอย่างเธอ”
“ฉันก็ดีใจย่ะ ที่ไม่ต้องแต่งงานกับนาย”
นี่ถ้าไม่ติดว่าหล่อ เอ้ย นี่เป็นบ้านของเขานะ ฉันได้กระโดดตบเขาไปแล้ว
“แล้วนายมาห้องฉันทำไมมิทราบ”
“ม๊าให้มาตามไปกินข้าว ด่วนๆเลย เพราะเธอคนเดียว ทำให้ฉันยังไม่ได้กิน”
เขาพูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว สมกับที่อีตาหุ่นยนต์เชิดชูฝีมือแฮะ แต่นิสัยคนละเรื่องเลย
ฉันเดินตามเขาไป ระหว่างทางก็จัดผม จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อลดอาการประหม่า
“มาแล้วหรอจร๊ะ หนูแพรดาว มานั่งตรงนี้มาลูก”ผู้ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคอจีนสีขาว ท่าทางมีบารมีชี้มือไปที่เก้าอี้วางที่มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งหันหลังอยู่
ฉันเดินไปอย่างว่าง่าย และทันทีที่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้น หัวใจฉันก็เต้นรัวยิ่งกว่ากลอง ให้ตายเถอะ พระเจ้า! นี่มันบ้านคนหรือเปล่าเนี่ย มีแต่เทพบุตรทั้งน้าน แพรดาวมีความสุข กรี๊ดดดด!! ไปกันใหญ่และ แต่ดูดีๆแล้วผู้ชายคนนี้หน้าตาคล้ายๆกับอีตาเหลยเซิ่งแฮะ แต่คนนี้หล่อกว่าเป็นไหนๆ หน้าตาก็หล่อเหลา แต่ก็ดูสุขุม ใจเย็น ไม่เหมือนอีตาสองนั่น ที่เอาแต่ขมวดคิ้ว สงบค่ะ สงบ ฮ่าๆๆ !!!
“ลู่หาน ทักทายว่าที่เจ้าสาวหน่อยสิ”
ว่าไงนะ ว่าที่เจ้าสาว หรือว่าคนนี้….สามีในอนาคตของแพรดาวคนนี้ >.<
ความคิดเห็น