จอง แชยอน
คือชื่อประธานบริษัทจองแชกรุ๊ป บริษัททำผลิตภัณฑ์สตรอเบอร์รี่ลาเต้อันดับหนึ่งของเกาหลี
ด้วยอายุเพียงสิบเก้าเข้ายี่สิบปี
และหน้าตาที่สวยสดงดงามราวกับนางแบบ ทำให้ไม่มีใครที่เจอเธอแล้วคิดว่าเธอจะเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้เลยสักคน
มีแต่คนบอกว่าเธอควรไปเป็นดารานักร้องเสียมากกว่า
แต่คนอย่างจอง แชยอนไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นหรอก...
เธอสนใจแต่เรื่องเลขาของเธอมากกว่า
ก็อกๆๆ
“สตรอเบอร์รี่ลาเต้มาแล้วค่ะประ...
ธาน” เสียงหวานติดแหบเล็กน้อยดังขึ้น ร่างเล็กบนรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องเอ่ยอนุญาต
ก็เขาเป็นคนบอกเองว่าจะเข้าออกยังไงก็ได้ตามใจเธอ
“ประธาน...
อยู่มั้ยคะ?” เธอเลิกคิ้วพลางเดินไปทั่วห้อง
ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าภายในห้องทำงานของผู้บริหารคนนี้มีห้องนอนเอาไว้สำหรับพักผ่อนอยู่ด้วย
เธอรู้ว่ามีมาตั้งแต่เข้าทำงานเมื่อแปดเดือนก่อนแล้ว
และเธอก็รู้เช่นกันว่าเขามักจะชอบนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนมากกว่ามานั่งเคาะปากกาเล่นอยู่ที่โต๊ะทำงาน
จึงเดินไปเคาะประตูที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยแล้วเข้าไปในห้องนั้นทันทีด้วยความเคยชิน
“วันนี้นอนในห้องอีกแล้วนะคะประธาน
ไม่สบายหรือว่าขี้เกียจกันแน่ล่ะคะ” ร่างเล็กเอ่ยแซะพลางวางแก้วใสที่บรรจุของเหลวสีชมพูอ่อนไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
ร่างสูงที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงลุกขึ้นนั่งขมวดคิ้วใส่ผู้ที่เพิ่งเข้ามาในห้องเธอทันที
“ฉันจะหักเงินเดือนเธอ
คิม เซจอง” เจ้าของห้องพูดด้วยเสียงงัวเงียก่อนจะยกมือขึ้นไปจัดผมของตัวเองพลางมองร่างเล็กที่ยืนยิ้มไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของเธอด้วย
“ยิ้มอะไรของเธอ
นี่ฉันพูดว่าหักเงินเดือนนะ... หักเงินเดือนเชียวนะ” เจ้าของห้องย้ำคำกับเลขานาม
คิม เซจองก่อนจะหยิบแก้วสีหวานมาดื่ม – เซจองเป็นผู้หญิงสวย
แม้จะมีแว่นหนาอยู่บนใบหน้าเธอก็ยังคงดูดีและดูฉลาด เธอสามารถหล่อได้หากเธอต้องการ
เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่ใจไม่เล็ก ไม่มีอะไรที่เธอจะทำไม่ได้
ไม่แปลกใจเลยที่ประธานคนเย็นชาของจองแชกรุ๊ปจะให้เธอทำงานอยู่ที่นี่มาได้ตั้งแปดเก้าเดือนแบบนี้
แน่นอนว่าทั้งคู่สนิทกัน
“ฉันรู้ว่ายังไงประธานก็ไม่หักเงินเดือนฉันอย่างที่พูดหรอกค่ะ”
เซจองยิ้มใจเย็นให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงเบะปากอย่างนึกหมั่นไส้
“มั่นใจจังเลยนะเซจอง
ฉันจอง แชยอนเชียวนะ ไม่กลัวหน่อยหรอ” เขาทำหน้าเหรอหราตาโตเหมือนนึกว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันจะช่วยขู่คนที่ยืนยิ้มอยู่ได้
แต่เปล่าเลย
กลับทำให้เซจองนึกขำขึ้นมาซะมากกว่า
“แล้ววันนี้มีประชุมหรือนัดอะไรมั้ย
ฉันจะได้ไปแต่งตัว” โหมดประธานบริษัทเข้าสิง ทำให้จอง
แชยอนที่ทำตัวเป็นเด็กน้อยเมื่อกี้หายวับไปกับตา ช่วงที่เข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆ เซจองก็เคยห่วงนะว่าประธานของเธอจะเป็นไบโพล่า
แต่ตอนนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ
เพราะประธานเหมือนจะเป็นไบโพล่าแค่กับเธอคนเดียว
“วันนี้ตอนสองทุ่มเจ้าของห้างฮานาแกรนด์เชิญประธานให้ไปร่วมงานเปิดตัวบูธสินค้าที่ทางเราเป็นหุ้นส่วนอยู่ค่ะ”
เสียงรายงานของเซจองที่ชัดเจนและไม่เคยลนลานทำให้แชยอนยิ้มน้อยๆ
ก่อนจะลุกขึ้นเต็มส่วนสูง – อันที่จริงชุดตอนนี้ที่เธอใส่มันก็ดีอยู่แล้ว
เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อพับกับกางเกงยีนส์ขาเดฟที่ดูไม่ใช่ชุดมาทำงานเลยสักนิดนั้นทำให้แชยอนสวยจนแทบลืมหายใจ
ไม่สิเซจอง
เธอต้องตั้งสตินะ
“แล้วตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ”
แชยอนถามขณะที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าหลังสีขาวเลือกชุดไปงานอยู่
เซจองก้มมองนาฬิกาเรือนสีขาวแถบทองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพร้อมยกมือขึ้นมาทำท่าจะดันกรอบแว่นที่ตกลงมาอยู่เกือบปลายจมูกแทนที่จะอยู่บนสันดั้งโด่ง
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่เลือกชุดอยู่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
ตรงหน้าจริงๆ...
“อ เอ่อ ห
ห้าโมงครึ่งแล้ว...ค่ะ” เสียงติดๆ ขัดๆ
ไม่สมกับที่เป็นเลขาของผู้บริหารจองแชกรุ๊ปทำให้เจ้าของห้องส่ายหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อยเหมือนกำลังนึกเอ็นดูอยู่
“วันนี้เธอ... สวยจัง”
มือเรียวยกขึ้นมาประคองแก้มนวลของคนตัวเล็ก ก่อนที่แชยอนจะค่อยๆ
ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้น ริมฝีปากนุ่มดั่งมาร์ชเมลโล่ของคิม
เซจองชอบทำให้เธอแทบคลั่งทุกครั้งที่ได้สัมผัส
ใช่...
พวกเธอเคยจูบกันมาก่อนแล้ว
และดูเหมือนจะจูบบ่อยเสียด้วย
“อื้อ” เสียงครวญในลำคอของคนตัวเล็กยิ่งทำให้แชยอนเป็นบ้า
ทั้งที่ก็พยายามอดทนเอาไว้แล้วหลังจากที่ได้เห็นชุดเดรสสั้นสีครีมแขนยาวถึงข้อพับลายตารางทับด้วยเสื้อสูทสีดำ
มันไม่ได้ดูเซ็กซี่หรือน่าดึงดูดใจเลยสักนิด
แต่ประธานคนสวยกลับคิดว่าแบบนี้แหละที่เรียกว่าน่ารัก
ไม่สิ
คิม
เซจองน่ารักตลอดเวลาอยู่แล้ว
“ประ... อือ” ประธานถอนจูบออกมาก่อนที่จะถอดแว่นกรอบทองของคนตรงหน้าออกแล้ววางลงบนเตียงอย่างเบามือ
เซจองทำท่าจะพูดแต่กลับโดนคนเป็นเจ้านายบดริมฝีปากลงมาอีกครั้งภายในไม่ถึงห้าวิ
มือเล็กที่กำแน่นเพราะเกร็งเลื่อนขึ้นมาวางบนไหล่ของร่างสูงด้วยความเผลอตัว
ลิ้นร้อนที่กำลังกวาดชิมความหวานอยู่ภายในโพรงปากกำลังทำให้เลขาคนสวยอ่อนระทวยไปทั้งตัวจนคนเป็นเจ้านายต้องกอดประคองเอวเล็กเอาไว้
มือเล็กเริ่มเลื่อนไปโอบรอบคอของร่างสูงก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกเล็กน้อย
กดคอของคนตรงหน้าลงมาให้ได้รับจูบที่แนบแน่นกว่าเดิมอีก
มือเรียวที่กำลังลูบไล้อยู่บริเวณเอวของร่างเล็กบีบเอวเล็กหนึ่งทีเหมือนกำลังหักห้ามใจตนเองอยู่
แล้วถ้าเธอห้ามไม่ไหวล่ะ?
ลูกน้องที่ดีอย่างคิม เซจองก็คงต้องปฏิบัติตามสิ่งที่เจ้านายต้องการสินะ
ร่างสูงละริมฝีปากที่กำลังขึ้นสีออกมาแล้วเลื่อนใบหน้าลงไปที่ลำคอขาวของอีกคน
แชยอนลากลิ้นร้อนสัมผัสกับต้นคอของคนตัวเล็กจนผู้ถูกกระทำสั่นไปทั้งตัว
ก่อนที่เลขาจะลากมือมาปลดกระดุมเม็ดบนของร่างสูงและ...
กริ๊งงงงงงงงงงง!!!
เสียงแหกปากโวยวายของไอโฟนหกเอสเครื่องหรูทำให้สองคนที่แทบจะสิงร่างกันอยู่ตอนนี้ผละออกจากกันแทบจะทันที
เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังระงมไปทั่วห้อง
แชยอนหันไปมองโทรศัพท์เครื่องหรูที่ร้องไม่หยุดแล้วกลอกตามองบนหนึ่งทีก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ปล่อยให้เซจองหยิบแว่นของเธอมาใส่เงียบๆ
ด้วยความไม่สบอารมณ์นัก
“ฉ
ฉันไปเตรียมตัวนะคะ” พูดจบก็โค้งให้ประธานที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หนึ่งครั้งแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
โดนประธานทำแบบนี้ด้วยเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วคิม
เซจอง!
“คุณจองแชยอนครับทางนี้ครับ”
“ทางนี้ค่ะคุณจอง”
“คุณแชยอนคะหันมาทางนี้หน่อยค่ะ”
เสียงหญิงชายที่กำลังแก่งแย่งตำแหน่งที่เหมาะแก่การสัมภาษณ์มากที่สุดดังไปทั่วชั้นหนึ่งของห้างฮานาแกรนด์
เจ้าของชื่อที่มีสาวตัวเล็กเดินเคียงข้างมาด้วยกันหันไปยิ้มให้กล้องเล็กน้อยด้วยความชำนาญ
เช่นเดียวกันกับเลขาตัวเล็กที่เดินเชิดพร้อมยิ้มให้กล้องพอเป็นพิธี
“คุณแชยอนจะเปิดตัวสินค้าใหม่เมื่อไหร่ครับ”
เสียงของนักข่าวที่ค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ก็จำชื่อไม่ได้เพราะเวลาเจอกันก็ไม่มีเวลาถามชื่อ
เขายื่นไมค์เล็กๆ เข้ามาจ่อใกล้ๆ กับปากของแชยอนเหมือนกำลังบังคับให้เธอตอบ
“ไม่เกินธันวาคมปีนี้แน่นอนค่ะ”
แชยอนปรายตามองกล้องทุกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
เธอสามารถมองกล้องทุกตัวโดยไม่แสบตาเพราะแฟลชกล้องได้ยังไงกันนะ
“แล้วคุณจองมีคนในใจรึยังคะ”
คำถามของนักข่าวหญิงห้าวๆ ทำให้ผู้ถูกถามชะงักเล็กน้อย
แต่เธอก็ยิ้มบางให้กล้องด้วยความเป็นมืออาชีพ เป็นคนดังมันก็อย่างนี้แหละ จะพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่
สุดท้ายก็ต้องมาจบลงด้วยเรื่องความรักอยู่ดี
นั่นสินะ
ประธานจะมีคนในใจรึยังนะ
“มีแล้วค่ะ” เสียงประกาศของแชยอนนั้นทำให้แฟลชกล้องกระพริบถี่ขึ้น
เสียงเริ่มดังเซ็งแซ่เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น นักข่าวที่ยืนอยู่ต่างก็ยื่นไมค์ให้เข้าใกล้คนที่อยากสัมภาษณ์มากที่สุดเพื่อที่จะได้สามารถขายข่าวของเองได้
“แล้วจะแต่งงานเมื่อไหร่ครับ”
“เขาเป็นใครหรอครับ”
“ใช่คุณเลขาที่คุณจองพาออกงานด้วยกันบ่อยๆ คนนี้รึเปล่าคะ”
คำถามสุดท้ายทำเอาเซจองที่ยืนเงียบสะอึก แชยอนหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
ซึ่งเธอก็มองเขาอยู่เช่นกัน
ทั้งคู่สบตากันอยู่สักพักก่อนที่แชยอนจะหันมาหากล้องอีกครั้ง
“ฉันขอเข้าไปในงานก่อนนะคะ”
แชยอนพูดจบก็ดึงมือของเซจองให้เข้าไปในส่วนที่เงียบกว่านี้ทันที
นักข่าวมากมายต่างก็เดินตามทั้งคู่เป็นขบวนแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าทั้งหมดเอาไว้เพราะส่วนที่แชยอนเพิ่งเข้าไปเป็นส่วนสำหรับแขกวีไอพีของห้างเท่านั้น
ดังนั้นถ้าการ์ดจะมีเยอะก็ไม่แปลกนักหรอก
“สวัสดีค่ะคุณจอง
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” เสียงผู้หญิงผมแดงดูเผ็ดขัดกับตำแหน่งหน้าที่การงานดังขึ้นให้ทั้งแชยอนและเซจองลุกจากโซฟาตัวนุ่มเพื่อทำการทักทายทันที
“สวัสดีค่ะคุณชิน
สวยขึ้นนะคะเนี่ย” เจ้าของชื่อได้ยินดังนั้นก็ยกมือขึ้นมาป้องปากทำท่าหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้หุ้นส่วน
แต่ถ้าจะให้พูดความเป็นจริงหน่อยก็คงส่งให้เลขาของหุ้นส่วนมากกว่า
“เชิญนั่งเลยค่ะ”
ผู้หญิงผมแดงนามว่าชิน ฮานาเอ่ยปากก่อนผายมือเล็กน้อยให้ทั้งสอง
แชยอนนั่งลงบนโซฟาตัวยาวข้างเซจองซึ่งมีฮานานั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กถัดจากคุณเลขา
บริกรหนุ่มชุดขาวเดินเข้ามาพร้อมกับไวน์ยี่ห้อดีสองขวดและแก้วไวน์สามแก้ว เขาทำหน้าที่ของผู้เสิร์ฟเป็นอย่างดีก่อนจะเดินออกจากห้องไปเมื่อรินไวน์ให้ผู้มีอำนาจทั้งสามแล้ว
“บูธจากบริษัทจองแชกรุ๊ปเป็นที่นิยมของลูกค้าในห้างเรามากเลยนะคะนะคะคุณจอง”
เธอพูดพลางยกแก้วใสที่มีของเหลวที่แดงอยู่ภายในขึ้นมาดื่ม
“คงเป็นเพราะห้างฮานาแกรนด์ที่โฆษณาสินค้าของพวกเราให้เป็นอย่างดีด้วยนั่นแหละค่ะ”
แชยอนพูดแล้วส่งยิ้มให้อีกคนตามมารยาท ฮานายิ้มตอบเธออีกครั้ง –
ทำไมแชยอนจะไม่รู้ล่ะว่าชิน ฮานา เจ้าของห้างฮานาแกรนด์คนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
สายตาที่เบนไปทางเลขาคนสวยบ่อยๆ น่ะเดาได้ไม่ยากหรอก
แน่นอนว่าแชยอนไม่ชอบที่หล่อนทำแบบนั้น
ประธานบริษัทสตรอเบอร์รี่ลาเต้ขยับตัวไปหาเลขาของเธอเล็กน้อยแต่มากพอที่จะทำให้ชิดติดกัน
เซจองหันมองเจ้านายด้วยความสงสัยก่อนที่จะหันไปหาฮานาอีกครั้งด้วยความไม่คิดอะไร
“วันนี้คุณคิมสวยจังเลยนะคะ
เจอกันทีไรก็สวยขึ้นทุกที” เจ้าของห้างส่งยิ้มให้เลขหุ้นส่วน
และแน่นอนว่าเซจองก็ต้องยิ้มตอบกลับเป็นธรรมดา
แต่ยิ้มของฮานาน่ะธรรมดาที่ไหนกัน
“ถ้าคุณคิมถอดแว่นจะสวยกว่านี้มากเลยนะคะ”
สาวผมแดงพูดยิ้มๆ
ก่อนจะยื่นมือมาหมายจะจับแว่นกรอบทองของเซจองอย่างถือวิสาสะ การกระทำของหุ้นส่วน ทำให้แชยอนนึกโกรธทันที
ไม่รู้หรอกว่าโกรธอะไร
แค่อยากโกรธอ่ะ
เข้าใจมั้ย
“เซจอง” แชยอนเรียกคนข้างๆ ก่อนที่มือของฮานาจะเอื้อมมาถึง
เซจองหันมาตามเสียงเรียกก่อนจะได้สบสายตากับคนข้างๆ –
สายตาที่กำลังจ้องมองกันอยู่แบบนั้นทั้งๆ ที่แชยอนก็กำลังยิ้มมันกำลังทำให้เซจองรู้สึกขนลุกแปลกๆ
และนึกสงสัย
ว่าทำไมสายตาของแชยอนในตอนนี้ถึงได้ดูน่ากลัวเหลือเกินสำหรับเธอ
“ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะคุณชิน คราวหน้าเจอกันใหม่” แชยอนพูดเสียงเรียบแล้วลุกขึ้น
คราวนงครางหน้าอะไรนั่นประธานคนสวยไม่ได้อยากให้มีหรอก เป็นไปได้ไม่ต้องเจอกันอีกได้ยิ่งดี
ประธานกำลังรู้สึกไม่อยากให้เซจองเจอกับฮานาอีกก็เท่านั้นเอง
“ฉันไปส่งนะ” แชยอนยื่นมือออกไปกุมมือของคนตัวเล็กอย่างเคยชิน ก่อนจะกระตุกเบาๆ
ให้เธอตามไปที่รถ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะประ...”
เสียงหวานขาดให้ไปเมื่อถูกคนที่จับข้อมืออยู่พุ่งเข้ามาแตะจูบที่ปากอิ่มของเธอ
ถ้อยคำปฏิเสธถูกกลืนลงคอไปในพริบตาเมื่อแชยอนทำแบบนั้น
“เธอเป็นลูกน้องนะ
ลูกน้องน่ะ ควรทำตามคำสั่งของเจ้านายไม่ใช่หรอกหรอ” คนที่เป็นเจ้านายถอนจูบออกมาแล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน
อ่อนโยน...
จนบางทีเซจองก็ใจอ่อนจนแทบจะยืนไม่ไหว
“...ก็ได้ค่ะ”
ระหว่างทางที่อยู่บนรถยนต์คันหรูของประธานนั้นเงียบสนิท
มีเพียงเสียงเพลงจากวิทยุที่เปิดคลอเบาๆ
เท่านั้นที่บ่งบอกว่านี่ไม่ใช่อวกาศซึ่งไร้เสียง
“เดี๋ยวฉันไปส่งข้างบน”
เจ้าของรถเปิดประตูออกมาแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูให้อีกคน
เซจองที่ได้ยินดังนั้นทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นใบหน้านิ่งเรียบอีกครั้ง
“…” ภายในลิฟต์ก็ดูจะคล้ายกับตอนอยู่บนรถ
เว้นเสียแต่ที่นี่ไม่มีเสียงเพลงคลอ มีเพียงเสียงหายใจของทั่งคู่เท่านั้นที่กำลังมีอยู่
“ขอบคุณนะคะประธาน...”
เซจองก้มหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มให้ประธานคนสวย
แชยอนยิ้มตอบก่อนจะก้มมองนาฬิกาเรือนสวยบนข้อมือของเธอ
“อา...
สี่ทุ่มแล้วหรอ งั้นก็ดึกแล้วสิ” แชยอนทำท่าทางหมดหวังเล็กน้อยก่อนจะถอยห่างจากเซจอง
“งั้น... ฉันไปก่อนนะ”
แชยอนเอ่ยยิ้มๆ แล้วหันหลังให้เลขาทันที
ใจจริงเธอก็แค่อยากให้เซจองชวนเธอเข้าไปในห้องบ้าง อย่างน้อยๆ
ก็ขอเข้าไปนั่งดื่มน้ำสักแปบให้ชื่นใจก่อนค่อยออกมาก็ได้
เอ่ยขอบคุณกันเหมือนเป็นการบอกลาอ้อมๆ
แบบนี้... มันน่าน้อยใจนะ
“เดี๋ยวค่ะประธาน!”
เสียงเรียกของคนข้างหลังทำให้คนที่กำลังเดินห่างกันไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ
ยกยิ้มกว้าง ก่อนจะตีหน้านิ่งอีกครั้งอย่างฟอร์มจัด
“เอ่อ...
เข้ามาก่อนก็ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันเอาน้ำมาให้นะคะ” เซจองบอกกับคนที่นั่งอยู่บนโซฟาสีขาวกลางห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินหายไปในห้องครัวสักพักแล้วกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำเปล่าหนึ่งใบ
“ไม่มีสตรอเบอร์รี่ลาเต้หรอ”
แชยอนเงยหน้ามองคนที่เพิ่งวางแก้วลงบนโต๊ะอย่างออดอ้อน
ทำคิ้วตกให้น่าสงสารทั้งที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด
“ให้ฉันออกไปซื้อให้มั้ยคะ
ข้างล่างมีเซเว่นพอดี” เซจองพูดพลางเลิกคิ้วถามคนที่นั่งมองกันอยู่
อันที่จริงก็อยากจะแกล้งให้คนขี้เก๊กฟอร์มเยอะให้อยู่ในโหมดน้องแชบ้าง
เพราะโหมดน้องแชน่ะ
น่ารักที่สุดแล้วสำหรับเซจอง
“ไม่!” ปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะดึงให้คนที่ยืนยิ้มอยู่นั่งลง
คว้าแก้วน้ำบนโต๊ะไปดื่มจนเหลือเพียงครึ่งก่อนจะวางมันบนโต๊ะอีกครั้ง
“นี่เซจอง” หลังจากที่เงียบกันไปได้สักพักแชยอนก็เป็นคนทำลายความเงียบเอง
ผู้ถูกเรียกหันมองพลางเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนรอคำถามอยู่
“เธอ... ชอบคุณฮานารึป่าว”
แชยอนก้มหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามคนที่กำลังจ้องกันอยู่
นั่นยิ่งทำให้เซจองเลิกคิ้วสงสัยเข้าไปใหญ่ ถ้าเธอจะคิดเข้าข้างตัวเองสักนิด
เจ้านายคนสวยของเธอคงกำลังรู้สึกอะไรอยู่
เธอสังเกตมาตั้งแต่ตอนที่อยู่กับเจ้าของห้างแล้ว
ตั้งแต่สายตาเย็นยะเยือกที่แชยอนใช้มองหุ้นส่วน
อีกทั้งยังเร่งให้รีบกลับอีกทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาด้วยซ้ำ
“ทำไมคะ หึงฉันหรอคะประธาน”
เซจองถามก่อนจะยกยิ้มบางให้คนตรงหน้า ใบหน้าของคนเป็นประธานค่อยๆ
ขึ้นสีเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินดังนั้น
“ไม่ได้หึงสักหน่อย! ฉันก็แค่... คิดว่าเธอดูใจดีกับคุณฮานาเกินไป เธอก็น่าจะรู้นี่ว่าหล่อนคิดยังไงกับเธอ
เธอชอบยิ้มให้หล่อน หรือบางทีเธออาจจะให้คุณฮานาเป็นคนพิเศษของเธอก็ดะ...” ริมฝีปากของผู้เป็นเจ้านายถูกระงับไว้ไม่ให้พูดด้วยฝีมือของเซจอง
เลขายกมือขึ้นประคองแก้มใสของประธานก่อนจะเอียงหน้าให้บดจูบแนบแน่นมากขึ้น
“ฉันไม่เคยจูบกับใครแบบนี้นอกจากคุณ...”
“ทีนี้รู้รึยังคะ...ว่าใครเป็นคนพิเศษของฉัน”
แชยอนพุ่งเข้าบดเบียดริมฝีปากกับอีกคนทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
มือเรียวเลื้อยขึ้นไปวางอยู่บนไหล่เล็กของคนตรงหน้า
กอดเกี่ยวร่างเล็กเอาไว้ในอ้อมแขนให้รับสัมผัสที่ร้อนแรงกว่านี้
เซจองเลื่อนมือไปกอดเอวบางของอีกคนแล้วโอบเอาไว้แน่ ลิ้นร้อนของทั้งคู่ต่างก็กำลังสู้กันอยู่อย่างไม่มีใครยอมใคร
ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนพิเศษของกันและกัน
“เซ...จอง” ประธานถอนจูบออกมา แต่ริมฝีปากก็ยังคลอเคลียกับอีกคนอยู่ไม่ห่าง
ดวงตาปรือขึ้นมองคนตรงหน้าก่อนจะแนบหน้าผากลงไปที่ส่วนเดียวกันของอีกคนแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ฉันมีงานให้เธอทำ...ตอนนี้”
“ประธานอยากให้ฉันทำอะไร...ก็สั่งมาเถอะค่ะ”
“ฉันทำให้ประธานได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
เซจองเอ่ยปากพูด
แชยอนถอยใบหน้าให้ห่างออกมาเล็กน้อยก่อนจะหยิบแว่นทองที่วางอยู่บนดั้งของอีกคนไปวางไว้บนโต๊ะแทน
“สตรอเบอร์รี่ลาเต้...”
“คะ?”
“ฉันอยากให้เธอเป็นสตรอเบอร์รี่ลาเต้ของฉัน...”
“แค่ของฉันคนเดียว...”
“ได้ไหม”
แชยอนพูดพลางกดปากอิ่มที่คลอเคลียกับอีกคนอยู่แล้วลงบนมุมปากของอีกคนเบาๆ
เหมือนเป็นการอ้อนวอน...
“ตกลงค่ะ”
“ฉันเป็นสตรอเบอร์รี่ลาเต้ของคุณ” แชยอนพูดพลางกดจูบลงบนหน้าผากของเซจอง คนเป็นเลขาในนามยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะขยับตัวสอดแขนไปกอดอีกคนให้แน่นขึ้นอย่างรักใคร่แล้วหลับตาลงในอ้อมกอดของประธาน...
“เราเป็นสตรอเบอร์รี่ลาเต้ของกันและกันค่ะ”
ช่วงไรท์พบประชารีด
กิ้วๆๆๆๆๆๆ ฟิคชั่ววูบมาแล้วค่าาา ถถถ
แก้บนเสร็จไป 1 ข้อจาก 4 ข้อแล้วววว เย่ๆๆๆๆ ดีจุยยย
เอาเป็นว่า ใครที่อ่านเรื่องนี้แล้วไม่เคยอ่านเรื่องอื่นของไรท์ก็ไปอ่านเรื่องอื่นกันได้นาจาาา
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2560 / 17:28