5เกลอ ชนเผ่าพิศดาร - 5เกลอ ชนเผ่าพิศดาร นิยาย 5เกลอ ชนเผ่าพิศดาร : Dek-D.com - Writer

    5เกลอ ชนเผ่าพิศดาร

    เรื่องเล่าจากยอดดอยสู่ที่ราบ จากบรรพบุรุษสู่ทายาท

    ผู้เข้าชมรวม

    567

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    567

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ผจญภัย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 มิ.ย. 50 / 13:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
                เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่านิยายพื้นบ้านของชนเผ่ากะเหรี่ยง  อาจใช้ถ้อยคำไม่สุภาพบ้าง  แต่เพื่อให้ได้อารมณ์ในการชมนะครับ   จะหนุกแค่ไหนติดตามได้เลยครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
         
            
               ณ   ดินแดนแห่งหนึ่งที่ไกลจากความเจริญ   ตั้งอยู่หลังเขาอันไกลโพ้น
      ที่นั้นมีหมู่บ้านเเห่งหนึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าพิศดาร  ที่ได้ชื่อว่า
      ชนเผ่าพิศดารนั้นเพราะว่าคนในหมู่บ้านนั้นเมื่อเกิดมาจะมีความสามารถพิเศษติดตัวมาด้วย  
              ในหมู่บ้านนั้นเอง  มีชายหนุ่มห้าคนเป็นเพื่อนกัน  ทั้งห้าคนอยู่ในวัยที่กำลัง
      หาคู่ครอง  และทั้งห้าคนสนิทกันมาก  
              คนที่ 1  อายุมากสุด  เมื่อเกิดมามีความสามารถพิเศษคือเคลื่อนตัวได้เร็วมากๆ
      เร็วยิ่งกว่าความเร็วของแสง   มันจึงถูกขนานนามว่าไอ้ไว  เหนือลม
              คนที่ 2  รองลงมา   เมื่อมันเกิดมามีความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาด้วยคือ
      มีแรงมากสามารถยึดสิ่งใดก็ได้ไว้ได้แน่นไม่มีหลุด  แม้สักลิงลมก็อย่าคิดว่าจะหลุด
      จากการจับของมันได้  มันจึงถูกขนานนามว่าไอ้มั่นคง  เหนือผา
              คนที่ 3   รองมาอีก  เมื่อมันเกิดมาก็มีความสามารถพิเศษคือมีขี้มูกที่เหนียวมากๆ
      หากได้ติดสิ่งใดแล้วไม่มีวันหลุดออก  มันจึงถูกขนานนามว่าไอ้ขี้มูกหนา  เหนือกาวตราช้าง
              คนที่ 4  คนรองลงมาจากรอง  แต่ความสามารถไม่รองตาม  มันมีก้นที่แหลมมาก
      เหมือนก้นหอยยังไงยังงั้นเลย  มันถูกขนานนามว่าไอ้ก้นแหลม  เหนือหนาม
      (ความจริงน่าจะบอกว่าเป็นจุดด้อยมากกว่านะครับ)
              คนที่ 5  คนเล็กสุด  แต่ความสามารถไม่เล็กตาม  มันคือปากกว้าง  
      ปากมันกว้างมากๆขนาดว่าอมโลกได้ทั้งโลกเชียวละ  มันถูกขนานนามว่าไอ้ปากอ้า  เหนือจักวาล
              ในวันหนึ่ง  มันทั้งห้าคนปรึกษากันจะไปจีบสาว  เนื่องจากหมู่บ้านนี้แต่ละบ้าน
      จะตั้งอยู่ไกลกันมากการจะไปจากบ้านโน้นไปบ้านนี้ต้องเดินทางค่อนข้างไกล
       มันทั้งห้าจึงมาพบกันตั้งแต่เช้าและชวนกันไปจีบสาวชื่อว่าน่ารัก  เหนือนางฟ้า
       มันทั้งห้ายังไม่เคยเห็นเพราะบ้านเธอนั้นอยู่ไกลจากบ้านมันทั้งห้ามาก  และต้องข้ามแม่น้ำอีกด้วย
      ทั้งห้าคนเดินไปยังแม่น้ำ  ที่นั้นมีเรือลำหนึ่งเล็กไปหน่อยแต่ก็พอนั่งได้ทั้งห้าคน
      พอลงเรือเสร็จแล้วโดยมีไอ้ก้นแหลมลงเรือคนสุดท้าย  ไอ้ไวก็พูดว่า"ไอ้ก้นแหลม มึงห้ามนั่ง"
              ไอ้ก้นแหลมทำหน้างงแล้วพูดว่า"ทำไมละ"
                ไอ้ไวเลยพูดว่า"มึงไม่ต้องถาม  ทำตามที่กูบอก"     แล้วเรือก็ออกจากท่า
          พอไปได้สักไอ้ก้นแหลมก็รู้สึกปวดขาก็พูดขึ้นว่า  "เฮ้ย!  กูปวดขาขอนั่งได้มั้ย"
          "ไม่ได้"เสียงทั้งสี่ดังขึ้นพร้อมๆกัน  แล้วไอ้ก้นแหลมก็ยืนต่อไป
          พอไปได้อีกสักพักไอ้ก้นแหลมก็รู้สึกปวดขาอีกก็พูดขึ้นว่า  "เฮ้ย!  กูปวดขาขอนั่งได้มั้ย"
          "ไม่ได้"เสียงทั้งสี่ดังขึ้นพร้อมๆกันอีก  แล้วไอ้ก้นแหลมก็ยืนต่อไป
              พอไปถึงกลางแม่น้ำไอ้ก้นแหลมปวดขาอย่างมาก ก็เลยนั่งลงโดยไม่ยอมถามใคร ขณะนั้นเอง
      ก้นแหลมๆของมันก็ปักลงกลางเรือ  ทำให้เรือรั่ว  แล้วน้ำก็ทะลักออกมาจากรูนั้น  ทำให้คนทั้งห้าตกใจ
      และยืนขึ้นพร้อมๆกัน  จึงทำให้เรือโครงเครงจนเกือบจะคว่ำ  
              ไอ้ไวก็พูดว่า"ไอ้ขี้มูกหนา  สั่งขี้มูกมาปิดรูเร็ว" ไอ้ขี้มูกหนาทำตามทันที  มันสั่งขี้มูกดัง "ฟ๊าด "
      แล้วตามมาด้วยเสียงอันเหนียวหนึบ "แปะ"  ทำให้น้ำที่ทะลักเข้ามานั้นหยุดทันที
              ทั้งห้าคนถอนหายใจพร้อมๆกัน  มองหน้ากัน ความเงียบเข้าครอบงำ    ไอ้ไวมองหน้าไอ้ก้นแหลม
      ก่อนพูดขึ้นก่อนว่า"กูบอกมึงแล้วว่าอย่านั่ง  อย่านั่ง  เป็นไงละ  เกือบตายห่ากันหมด"  
      แล้วทั้งห้าคนก็ "555+555+555+" หัวเราะขึ้นพร้อมๆกัน  แล้วเรือก็แล่นต่อไป
              เรือเทียบท่าในตอนสายๆ ทั้งห้าคนนั้นพอลงจากเรือแล้วก็เดินทางต่อ เพราะหนทางยังอีกไกล
      เดินไปเรื่อยๆ คุยกันไปด้วย  สักพักทั้งห้าคนก็รู้สึกว่าตะวันอยู่กลางหัวพอดี  
              ไอ้ปากอ้าพูดขึ้นก่อนว่า"กูหิวแล้ว "
              แล้วทั้งห้าคนก็ปรึกษากันว่าจะหาอะไรทานดี
              ไอ้ไวเสนอว่าให้หาจับกวางมาย่างกินกัน  โดยมันจะเป็นคนไปจับกวางแล้วให้ไอ้มั่นคงจับไว้
      ตกลงกันแล้วก็เริ่มลงมือโดยไอ้ไวที่ไวมาก วิ่งไปจับกวางแล้วให้ไอ้มั่นคงจับไว้  แล้วทั้งห้าคนก็มารวมกัน
      ถามกันว่าใครจะเป็นคนฆ่า  ทั้งห้าคนไม่มีใครฆ่ากวางได้ลง จึงตัดสินใจปล่อยกวางไป  แล้วเดินทางต่อ
              เที่ยงวัน  ทั้งห้าคนเดินมาถึงแม่น้ำจึงเดินลงไปกินน้ำ  ในขณะนั้นเอง "ปิ้ง"
       หลอดไฟก็สว่างอยู่บนหัวของไอ้ไว  นั่นคือความคิดดีๆผุดขึ้นมาในหัวของไอ้ไว  จึงพูดขึ้นว่า
          "กูคิดออกแล้ว  ว่าจะกินอะไรดี"
          "อะไรเหรอ"ไอ้มั่นคงถาม
          "เราต้องเอาน้ำในสระออก แล้วจับปลามากินไง"ไอ้ไวเฉลย
          "น้ำทั้งสระจะเอาออกยังไงวะ"ไอ้ขี้มูกหนาถาม
          "ไอ้ปากอ้าไง  ให้มันอมน้ำทั้งสระไว้แล้วจับแต่ปลาตัวใหญ่ๆไป"ไอ้ไวตอบอีก
          "ออ  !  แฮะ"ทั้งสี่ถึงบางอ้อพร้อมกัน
              ตกลงกันแล้วทั้งสี่ก็ลงมือ  (ตามที่ตกลงกันนั่นแหละ)
              ทั้งห้าคนพอกินปลาย่างบ้าง ปลาปิ้งบ้าง ปลาดิบๆบ้าง(เฉพาะไอ้ปากอ้าตอนที่อมน้ำ)จนอิ่มแล้ว
      ก็ตกลงกันเดินทางต่อ
          ในที่สุดมันก็มาถึงซะที          บ้านของเธอใหญ่มากมากยังกะบ้านของยักษ์ยังไงยังงั้นเลย   แต่แปลก
      บ้านออกใหญ่โตไม่มีใครอยู่สักคน  ทั้งห้าคนนั้นไม่เคยมาที่นี่มาก่อน  ได้ยินแต่ข่าวลือว่า
      หญิงคนนี้สวยนักสวยหนานี่เป็นครั้งแรกของพวกเขา ในขณะนั้นเองมีมือ มือหนึ่งใหญ่มาก
      มาจับพวกมันทั้งห้าคนไป
          
              กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป 5 ปีไวเหมือนโกหก  ไม่เคยมีใครได้ข่าวของเขาทั้งห้าคนตั้งแต่วันนั้น
      บ้างคนพูดว่าเรือล่ม   บ้างก็พูดว่าเสือจับกินกลางทาง  มีการพูดไปต่างๆนาๆ  โดยที่ไม่มีใครรู้ควาจริง
         
          *****************************************************
         
          ความจริงเหรอครับเราตัดบทย้อนกลับไปวันเกิดเหตุกันเลยครับ

         
              ในที่สุดมันก็มาถึงซะที  บ้านของเธอใหญ่มากมากยังกะบ้านของยักษ์ยังไงยังงั้นเลย   แต่แปลก
      บ้านออกใหญ่โตไม่มีใครอยู่สักคน  ทั้งห้าคนนั้นไม่เคยมาที่นี่มาก่อน  ได้ยินแต่ข่าวลือว่าหญิงคนนี้สวยนักสวยหนา
      นี่เป็นครั้งแรกของพวกเขา ในขณะนั้นเองมีมือ มือหนึ่งใหญ่มากมาจับพวกมันทั้งห้าคนไป   ทั้งห้าคนตกใจ
      จนทำอะไรไม่ถูก   ถึงกับสลบไปเลย
              "ตื่นๆ" เสียงหนึ่งดังขึ้นในจิตสำนึกลึกๆของไอ้มั่นคง  เป็นเสียงที่คุ้นหูมากเป็นเสียงของไอ้ไวนั่นเอง
      "อะไรกันวะมือเมื่อกี้นะ"คำแรกที่มันพูดขึ้นเวลาที่รู้สึกตัว
          "กูก็ไม่รู้เหมือนกัน" คำตอบที่ได้รับจากทังสี่คน
          สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาและพูดว่า"ท่านท้าวเรียก" 
          ทั้งห้าคนทำหน้างงอยากถามแต่ไม่มีใครกล้า  เลยเดินตามเธอไป
              ณ  ที่นั้นมีใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนบรรลังค์สูงตระหง่าน  ห้อมล้อมไปด้วยเสนาบดี  และหญิงรับใช้
      เต็มไปหมด  แล้วท้าวที่ว่านี้ก็พูดขึ้นว่า
              "ข้าชื่อท้าวมหันโต  เหนือมหันโต  เป็นผู้ครองเมืองมหึมา  ที่เราจับพวกเจ้ามานั้น
      ด้วยเหตุผล 2 ประการ
              1.  ลูกสาวเราต้องการคู่ครอง  ข้าจะให้พวกเจ้าเป็นสามีลูกสาวข้า"
          ทั้งห้าคนยิ้มและมองตากันด้วยความยินดี"แต่เอ๊ะลูกสาวท่านมีคนเดียวท่านจะให้แต่งยังไงเล่า"
      ไอ้ไวถามขึ้น
              "นี่คือเหตุผลข้อ2. เนื่องจากเผ่าเราเมื่อเกิดมามีความสามารถพิเศษติดมาด้วย  ลูกข้าก็เหมือนกัน
      ตอนเกิดมามันมีรูห้ารู(คิดลึกๆนะ  เพราะมันคือของสงวนของผู้หญิง)และเจ้าทั้งห้าคนก็ต้องเป็นสามีนาง
      หากคิดจะไปจากนี่ละก็  Sorry  ใสเจีย เสียใจด้วยนะ  ดินแดนนี้เป็นเมืองลับแลเข้ามาแล้วออกไม่ได้
      เจ้าต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป"
              ในขณะนั้นมีหญิงคนหนึ่งเดินมา เสนาบดีทุกคนก้มหัว  รวมทั้งหญิงรับใช้ด้วย  เธอสวยมาก
      หากเปรียบกับหญิงทุกคนในโลกนี้แล้วชิดซ้ายหมดทุกคน  เธอสวยมาก  ในสุริยจักวาลนี้ไม่มีใครเทียบได้
      (เอาเป็นว่าสวยเกินเปรียบละกัน)เธอคือธิดาของเมืองนี้
              ทั้งห้าคนต่างหลงไหลในความสวยงามของเธอ  และเมื่อได้สติคืนมากลับทำหน้ากึ่งเสียใจและ
      กึ่งดีใจ  (บรรยายไม่ถูกแฮะ)และทั้งห้าคนนั้นก็ไม่ได้ออกมาดูโลกความเป็นจริงอีกเลย

              จบละครับ   เป็นไงบ้างละครับ  ขออภัยด้วยครับถ้าพิมผิด  และขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ  แค่ต้องการให้ได้อารมณ์นะครับ
              
                  **************************************
       
                      เหมันตฤดู.  ยินดีรับใช้ครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×