Destiny in the Yok ลิขิตแสนกลอลวนคำสาปแสนร้าย
เมื่อคำสาปทำให้ต้องเธอ 'หนี' จนมาเจอกับ 'รัก' เรื่องราวของสาวน้อยนุ่มนิ่มกับไอดอลสุดน่ารักจึงเริ่มขึ้น
ผู้เข้าชมรวม
103
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ณ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในเกาหลีใต้
เสียงเพลงสนุกๆดังแผ่วๆราวกับมาจากที่ไกลๆ ทั้งๆที่มันมาจากห้องข้างหน้านี่เอง
"Excuse me,ser. Can I cleaning here?" ภาษาอังกฤษนั้นดังมาจากหญิงสาวที่ดูวัยรุ่นที่เพิ่งผลักประตูเข้ามา เธอยังดูอยู่ในวัยเรียนระดับอุดมศึกษา แต่ชุดที่เธอสวมกลับเป็นฟอร์มพนักงานทำความสะอาดของบริษัท
ชายหนุ่มห้าคนซึ่งเป็นไอดอลชื่อดังซึ่งกำลังซ้อมเต้นอยู่หยุดซ้อมแล้วหันไปมองเธอ พวกเขารู้สึกดีใจเป็นบ้าที่มีคนมาขัดการซ้อมครั้งนี้ เพราะพวกเขาปรารถนาจะพักเหลือเกิน แต่ละคนเริ่มทิ้งตัวลงนั่ง บ้างเช็ดเหงื่อ ดื่มน้ำ เล่นโทรศัพท์ แต่มีเพียงคนเดียวเดินเข้ามาหาเธอ
"Why you speak English? Are you Korean?" เขาถามกลับด้วยภาาอังกฤษ หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทำความสะอาดเข้าไปในห้องซ้อมแล้วปิดประตู คนอื่นๆเริ่มสนใจพวกเขาแต่ก็ไม่ได้เข้ามาใกล้
"No,I'm not. I'm Thai. And so sorry my English very bad" หญิงสาวตอบก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เพราะเธอยุติการเรียนในระดับอุดมศึกษาทุกอย่างแล้วเดินทางมาที่นี่ เพื่อทำงาน เก็บเงิน จนมากพอที่เธอจะสามารถกลับไปเรียนต่อได้อีกครั้งอย่างเต็มที่
(ต่อไปนี้จะขอพิมพ์เป็นภาษาไทยนะคะ)
"โอ๊ะ! จริงเหรอ? คุณเป็นคนไทยเหรอเนี่ย ผมอยากไปเที่ยวที่นั่นมากๆ แต่ไม่มีเวลาเลย คุณชื่ออะไรล่ะ ผมชื่อคิส อายุ23แล้วล่ะ" เขาพูดแล้วยิ้มกว้าง หญิงสาวเบิกตาโตเมื่อรู้อายุของเขาก่อนจะร้องเสียงดังอย่างลืมตัว
"เป็นไปไม่ได้!"
"ทำไมล่ะ?"
"คุณดูเด็กมากจริงๆ ฉันนึกว่าคุณจะอายุน้อยกว่าฉันหรือเท่าฉันซะอีก ฉันอายุ20ปีค่ะ ฉันชื่อพรเพลงดาวค่ะ เรียกเพลงก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักมากๆเลย" เพลงพูดขณะมือเริ่มทำนั่นทำนี่ "คุณเป็นคนแรกในเกาหลีที่คุยกับฉัน เพราะทันทีที่ฉันพูดกับใครเขาจะมองหน้าฉันแปลกๆแล้วเดินหนีไป" เพลงยังคงพูดต่อไปทั้งๆที่ยังคงก้มหน้าก้มตาเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาด
"เฮ้! ภาษาอังกฤษของคุณก็โอเคนะ คุณเรียนจบแล้วใช่ไหม" ทันทีที่ได้ยินคำถามนั้นเพลงชะงักไปทำเอาห้าหนุ่ม(สี่คนที่แอบฟังแต่เนียนทำเป็นยุ่งหรือพักอยู่)รู้สึกฉุกใจขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะได้เดาไปต่างๆนาๆเพลงก็เงยหน้าจากอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วยิ้มน้อยๆแต่แววตาเศร้าหมอง เธอเริ่มพูดไปและลงมือกวาดห้องไป
พรเพลงดาว คีตะศิลป์สกุล ชื่อนี้คือชื่อของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งพบเจอแต่เรื่องแย่ๆตั้งแต่เด็ก เริ่มแรกเมื่อครั้งอยู่ในครรภ์มารดา
เช้าวันหนึ่งในอีก2เดือนถัดมา
จุ๊บ!
"อุ๊ย...คุณคิส เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้า" เพลงร้องเบาๆเมื่อคิสขโมยหอมแก้มเธอเมื่อเธอเผลอ เพราะเธอกำลังจัดคิวงานในอาทิตย์หน้าให้กับโฮชิซองอยู่ในห้องแต่งตัวหลังเวทีคอนเสิร์ตของโฮชิซอง
"ผมออกไปร้องเพลงตั้งนาน เหนื่อยมากด้วย อยากขอกำลังใจจากเพลงนี่นา แล้วคุณคิสอะไรกัน บอกให้เรียกว่าคิสโอป้า ห้ามเรียกคุณ ห้ามใช้ศัพท์ทางการด้วย" คิสบ่นยืดยาวเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงพักเขาจึงสามารถมาแกล้งเพลงได้
ในเวลาสองเดือนที่ผ่านมาคิสกับเพลงผลัดกันสอนภาษาไทยและเกาหลีให้กัน จนในตอนนี้เพลงสามารถพูดเกาหลีได้พอสมควรในขณะที่คิสสามารถพูดไทยได้เป็นต่อยหอย...
"ก็คนมันเขินนี่นา" เพลงบ่นเป็นภาษาไทยเบาๆแล้วหันหน้าหนีโดยลืมไปว่าภาษาไทยของคิสเดี๋ยวนี้ร้ายกาจเพียงใด
"เขินสิดี ผมชอบ"
"คิสโอป้า บอกให้ฉันเรียกว่าพี่โอป้าก็ควรจะเลิกเรียกตัวเองว่าผมได้แล้วนะคะ ฉันว่าโอป้าต้องสับสนในตัวเองแล้วแน่ๆ" เพลงที่เดี๋ยวนี้กล้าต่อปากต่อคำกล่าว แต่นั่นล่ะ คิสถึงกับหมั่นไส้จมูกรั้นน้อยๆที่เชิดขึ้นนั้นถึงขนาดเอานิ้วไปจิ้มเอวเพลงด้วยความหมั่นเขี้ยว
"อ๊าย! โอป้าเล่นอะไร ไม่เอา" เพลงลุกขึ้นแล้วพยายามหนี แต่คิสก็วิ่งตามไปได้ตลอด จนเพลงไม่รู้จะวิ่งไปทางไหนของห้องแต่งตัวใหญ่ๆนี่แล้ว สุดท้ายก็ต้องยอมจำนน
"พอแล้วค่ะ เพลงยอมแล้ว ยอมแล้วๆๆๆ" เมื่อได้ยินคำนั้นคิสก็เข้ารวบตัวเพลงมากอดจากทางด้านหลังแน่นๆให้หายหมั่นเขี้ยว
"ยอมแพ้จนได้" คิสบอกแล้วค่อยๆคลายอ้อมกอด เขาหมุนตัวเพลงให้เธอหันมาหาเขา เพลงที่กำลังหน้าแดงจากความเหนื่อยและเขินก็ก้มหน้าหลบตา
"ฉันยอมแพ้ให้โอป้าอยู่แล้วล่ะ....แค่คนเดียวเลยนะ"
"จริงเหรอ"
"จริงสิคะ เพลงเคยโกหกโอป้าเหรอ"
"ไม่เคย..."
เพลงยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบจากคิส เธอค่อยๆดันคิสออกแล้วเขย่งขาไปหอมแก้มคิสเบาๆก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเองแล้วซับหน้าให้คิสอย่างเบามือแล้วมองเขาด้วยความรักใคร่
คิสยกมือขึ้นจับมือของเพลงที่กำลังซับเหงื่อให้เขาแล้วก้มลงจูบมือเธอเบาๆ
"คืนนี้คอนเสิร์ตจบเราไปเดตกันนะ พี่ขอผู้จัดการคิมไว้แล้ว" คิสชวนแต่แววตาบอกว่าเพลงต้องตกลงไป เธอจึงทำเพียงหัวเราะน้อยๆแล้วพยักหน้า
"ตกลงค่ะ แต่ตอนนี้...คิสโอป้าสุดหล่อต้องออกไปสร้างรอยยิ้มให้แฟนคลับได้แล้วค่ะ อย่านึกว่าฉันรู้ไม่ทันนะว่าพี่บอกให้โอป้าคนอื่นๆอย่าเข้ามาน่ะ ใจร้ายมากๆเลยให้ไปนั่งซับเหงื่ออยู่หลังเวทีอย่างนั้นน่ะ" เพลงบ่นพลางจัดเสื้อผ้าให้คิสอย่างเอาใจใส่ คิสขำก่อนจะขโมยหอมแก้มจากเพลงอีกครั้งแล้ววิ่งออกจากห้องไป
หลังคอนเสิร์ตจบ
ชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่ง พวกเขาเดินไปตามถนนที่ประดับด้วยแสงไฟงดงาม ผู้คนมากมายบนท้องถนนไม่มีใครใส่ใจพวกเขาเลย
พวกขาเดินจับมือกันไปตลอดทาง แสดงให้เห็นถึงความรักที่บ่มเพาะกันมา ในช่วงเวลาแสนหวานที่คนทั้งคู่ไม่ได้ระวังตัว...
เพล้ง!!!
กรี๊ด!!!
มีขวดแก้วลอยมาจากข้างหลัง กระแทกเข้ากับศีรษะของชายที่เดินจับมืออยู่กับคนรัก เขาค่อยๆล้มลง หญิงสาวค่อยๆประคองเขาน้ำตาไหล ผู้ตื่นตระหนกและรีบเร่งเข้ามาช่วยคู่รักคู่นี้
ก่อนที่สติของคิสจะหลุดลอยไป...เขาเห็นเพียงใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเพลง หญิงสาวที่เขารัก...
วันต่อมา
คิสนอนในห้องพิเศษมีบอร์ดี้การ์ดยืนเฝ้าหน้าห้อง เหล่าหนุ่มๆโฮชิซองย้ายมานอนเฝ้าคิสกันจนหมด เพลงหายไปตั้งแต่เมื่อคืน
เพลงกลับไปที่บ้านหลังจากที่รู้ว่าคิสปลอดภัยแล้ว เมื่อพวกเขายืนยันจะไปนอนเฝ้าคิสที่โรงพยาบาลเพลงก็จัดเตรียมเสื้อผ้าและอาหารสารพัดทั้งคาวหวานของว่างขนมราวกับจะให้พวกเขากินจนน้ำหนักขึ้นสักร้อยกิโล
เพลงไม่ได้มานอนเฝ้าคิสด้วยโดยมีเหตุผลที่ดูดีสุดๆคือเธอเป็นผู้หญิงและพวกเขาเป็นผู้ชาย มันไม่ดีหากเธอจะไปด้วย ซึ่งเหล่าโฮชิซองเองก็เห็นด้วย แต่จนเช้าแล้วเธอก็ยังไม่มา เธอเพียงให้นาอึนและนานาเอาอาหารและเสื้อผ้า เกมส์ ไอพอด และของมากมายมาให้พวกเขาด้วยเกรงพวกเขาจะเบื่อ...
แต่ตัวเธอกลับไม่มาเอง
"อืม..." คนป่วยบนเตียงค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมา ทุกคนรีบเข้าไปมุงเตียงคิสอย่างรวดเร็ว
คิสฟื้นขึ้นมาก็ถามหาเพลงคนแรก และสบายเมื่อรู้ว่าเธอสบายดีทั้งยังให้นาอึนกับนานาเตรียมอาหารมากมายให้เขา แล้วยังหนังสือการ์ตูนที่เขาชอบ ไอพอดเครื่องโปรด พีเอสพี
คิสเฝ้ารอเวลาที่จะได้กลับไปกอดเพลง เขาสัญญากับตัวเองว่าจะดึงเธอมากอดและจูบให้หายคิดถึง
วินาทีที่เขาดดนขวดกระแทกที่ศีรษะ สิ่งเดียวที่เขากลัวคือ กลัวจะไม่ได้พบกับเพลงอีก แต่ตอนนี้เขาหายแล้ว และจะต้องพูดกับเธอให้ได้...คำว่ารัก
สองวันต่อมา
คิสได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทางค่ายเพลงปิดข่าวของเขาได้อย่างดี และจัดการแฟนคลับคนที่ปาขวดใส่เขาแล้วด้วย เหตุผลของแฟนคลับสาวคนนั้นก็มีเพียงสั้นๆว่า
เะอแอบไปที่ห้องแต่งตัวของโฮชิซองในวันแสดงคอนเสิร์ตแล้วไปเจอคิสกับเพลงกำลังกอดกันหอมแก้มกัน เธอจึงแค้นใจมาก คิสไม่โกรธแค้นใดๆแต่ทางค่ายเพลงได้จัดการเธออย่างแสนสาหัสไปแล้วเรียบร้อย
ทันทีที่คิสและโฮชิซองกลับมาถึงบ้านพวกเขาก็รีบมองหาเพลง แต่กลับหาเธอไม่เจอ จึงพากันแยกย้ายกันเดินหาทั่วบ้านแต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายจึงเรียกนาอึนกับนานามาถาม คำตอบที่ได้ทำร้ายเหล่าโฮชิซองยิ่งนัก แต่คนที่เจ็บที่สุดคือคิส
...เพลงจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงจดหมายห้าฉบับสำหรับโฮชิซองห้าคน และสร้อยคอจี้ดาวหกแฉกของเพลง...สำหรับคิส...
เวลาผ่านไปหลายเดือน คิสพยายามตามหาเพลงทุกวิถีทางแต่ก็ไม่พบ เขาอ่านจดหมายของเพลงทุกวัน เขาสวมสร้อยของเพลงไม่ยอมถอด พยายามเรียนภาษาไทยให้มากขึ้น เหมือนกับทุกๆวันที่ผลัดกันสอนภาษาให้กันและกันกับเพลง เขาออกกำลังกาย ทานอาหาร และดูแลตัวเองอย่างดีตามที่เพลงบอกในจดหมาย ไม่รู้ว่าโฮชิซองทั้งหลายคิดถึงเพลงมากเกินไปหรืออาหารที่นาอึนกับนานาซื้อมาสูตรเดียวกับเพลงกันแน่ มันจึงมีรสชาติคล้ายกันยิ่ง
หลังจากเพลงไปนาอึนกับนานาจะมาปลุกเหล่าโฮชิซองและเตรียมเสื้อผ้าให้พวกเขาอย่างรวดเร็วตามแพลนที่วางไว้และจดลงในกระดาษ เสร็จแล้วก็จะออกไปซื้ออาหารในขณะที่พวกโฮชิซองออกกำลังกายและอาบน้ำแต่งตัว
นาอึนกับนานากลับมาถึงก็ตั้งโต๊ะ พอดีกับโฮชิซองจัดารตัวเองเรียบร้อยและลงมาทานอาหารเช้า นาอึนกับนานาก็จะไปเตรียมอาหารกลางวันเอาใส่กล่องและของเบรก จัดการเอาเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนไปขึ้นรถ ทำทุกอย่างให้พร้อมเพราะพวกเธอไม่สามารถตามไปดูแลพวกเขาได้ สุดท้าย...พวกเธอก็ต้องเอาคิวงานประจำวันให้โฮชิซองและส่งพวกเขาขึ้นรถไปทำงาน...
31 ธันวาคม 25** เวลา 11.59
เหล่าโฮชิซองยืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ พวกเขามีหมวกไหมพรม มีผ้าพันคอ ทำให้ผู้คนไม่รู้ว่าเป็นนักร้องสุดดด่งดัง จอใหญ่ของตึกฝั่งตรงข้ามกำลังถ่ายทอดสดรายการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่กำลังนับถอยหลังอยู่
ตึก...ตึก...
"เฮ้ๆ ฮยองๆเรามานับถอยหลังกันเถอะ" พีท...มักเน่น้อยแสนน่ารักร้อง คิสที่เงยหน้ามองจอใหญ่นั้นหันกลับมามองพีทแต่ก็เหมือนสะดุดตากับอะไรบางอย่างที่ไกลออกไป
ตึก...ตึก
มือของคิสค่อยๆเอื้อมไปจับสร้อยคอภายใต้ผ้าพันคอหนาแล้วกำจี้ไว้ สายตายังคงจับจ้องไปที่สิ่งอันไกลออกไปที่กำลังใกล้เข้ามา
"5"
ตึก...ตึก...
"4"
ตึก...ตึก...
"เฮ้ นายก็นับด้วยกันสิ" เอเจตบบ่าคิสเบาๆส่วนโจเซนี่ถึงกับชก
"2"
ตึก...ตึก...
เหล่าโฮชิซองเริ่มหันมาสนใจคิสที่นิ่งไปแล้วหันไปมองตามสายตาของคิสที่มองค้างอยู่
"1"
ตึก...ตึก...กึก!
"สวัสดีปีใหม่ครับ!!!!" เสียงดังออกมาจากจอใหญ่ยักจากตึกตรงข้าม เสียงผู้คนมากมายเอ่ยคำนี้ให้แก่กัน แต่เหล่าโฮชิซองยืนนิ่ง
ผู้มาใหม่ก้าวมาหยุดตรงหน้าคิส เธอค่อยๆเอื้อมมือไปลูบแก้มเขาเบาๆ แล้วน้ำตาเะอก็ค่อยๆไหลลงมา
จบสิ้นเสียทีเวลาแห่งการรอคอย...
"ฉันกลับมาแล้วค่ะ คิสโอป้า ฉันรักโอป้านะ"
คิสโผเข้ากอดเพลงไว้แนบออกแล้วจูบลงบนหมวกไหมพรมของเธอและพร่ำบอกว่า
"พี่รักเธอ"
จนน้ำตาแห่งความยินดีหมดไป ทั้งคู่ค่อยๆผละออกจากกันและจ้องหน้ากันด้วยความรัก เหล่าโอชิซองอีกสี่คนยิ้มแล้วแสร้งทำเป็นหันไปมองทางอื่น คุยกันบ้าง ชี้นกชี้ไม้กันบ้าง
คิสค่อยๆก้มลงประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากน้อยๆของเพลง วูบหนึ่งที่ลมหอบใหญ่พัดมาพร้อมกับความเหน็บหนาวแฝงด้วยความอบอุ่น
คำสาปถูกทำลายแล้ว...
เมือจุมพิตถูกถอนออกไป ทั้งคู่ก็เหลือเพียงความสุขมากมายที่เต็มเปี่ยมอยู่ในใจ...
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ กิ่งหลิวลิ่วลม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ กิ่งหลิวลิ่วลม
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น