ตอนที่1 อารมณ์เหงา
ม่านสีชมพูลายลูกไม้ กระทบกับสายลมอ่อนๆ แสงพระอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านม่านมาบางๆ ทำให้ห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยคอเล็คชั่นสีชมพูเสมือนคนที่กำลังมีความรักหวานฉ่ำปานจะกลืนกินกันได้ แต่ไม่หรอก "วารี" ชื่อของฉันเอง ปกติแล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบสีชมพูหรือเปล่าแต่เวลาเลือกของก็สีนี้มันเหมาะกับผู้หญิงสวยๆอย่างฉันทีุ่ดแล้ว และมันก็ทำให้ห้องของฉันเต็มไปด้วยสีชมพู สงสัยใช่ไหมว่าว่าฉันสวยขนาดนั้นเลยหรอชมตัวเองเกินไปหรือเปล่า ใช่ ฉันก็ไม่ได้สวยอะไรมากมายสักเท่าไรก็ผู้หญิงหน้าหมวยๆตัวเล็กผิวขาวเหลืองแต่ฉันก็รักหน้าตาของฉันมากนะพอใจและภูมิใจมากแล้ว ตอนนี้ฉันอายุ23ปี ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยมีแฟนแต่มันเป็นอดีตที่นานมากแล้วฉันโสดมา3ปีแล้วล่ ไม่ใช่คนที่เลือกมากอะไรแต่ประเด็นก็คือไม่ค่อยมีให้เลือกที่มีก็ไม่ตรงสเป็คที่ตรงสเปคก็มีเจ้าของกันหมดแล้ว ตอนนี้วลีพึ่งจะเรียนจบและกำลังปรับตัวกับชีวิตการทำงาน ห้ะสายแล้ววันนี้เริ่มงานวันแรกด้วยสิ ฉันเร่งรีบออกเดินทางจากอพาตเม้นไปที่ทำงาน ระยะทางไม่ไกลมากนัก
"พี่นภา สวัสดีค่ะวันนี้หนูเริ่มงานวันแรกต้องทำอะไรบ้างคะ"
"สวัสดีจ้ะน้องวลี มาเช้าจัง ขยันแบบนี้ได้บรรจุไวแน่เลย ตามพี่มาทางนี้เลยจ้ะ"
พี่นภา เป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย รุ่นพี่ที่ฉันสนิทที่สุดมีอะไรก็ต้องปรึกษาคนนี้เลย ปกติอยู่ข้างนอกฉันจะเรียกเจ้นภาแต่เราตกลงกันไว้ในที่ทำงานจะพูดจากันให้สุภาพ เพื่อปิดบังภาพของตัวเองหรือเปล่า(แอบขำ)เพระซึ่งปกติแล้วนิสัยจริงๆของเราก็ชะนีเม้าแตกทั่วๆไป
"เอ่อ น้องวารี นี่ การุณ เราจะต้องทำงานคู่กับคนนี้นะ"
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อวารี เรื่องงานช่วยแนะนำด้วยนะคะ"
"หวัดดีครับผม ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องวารี"
"การุณเขาทำงานที่มา3ปีแล้วจ้ะมีอะไรก็ถามพี่เขาได้น้ะ กันต์พี่ฝากน้องด้วยนะ ส่วนนั่นพี่นันทำงานคู่กับพี่ พี่นันค้ะน้องใหม่ วารีค่ะ"
"สวัสดีค่ะ พี่นัน"
หลังจากที่ฉันเดินทำความรู้จักกับคนในแผนก ก็เดินตามบัดดี้ของฉันมาที่โต๊ะทำงาน เขาค่อนข้างสุขุมหน้าตาท่าทางดูเป็นผูใหญ่มากเป็นผู้ชายที่หน้าตาผิวพรรณดียิ่งกว่าฉันสะอีกท่าทางจะดูเป็นลูกคุณหนูมากๆ เขามอบงานและแนะนำอะไรหลายๆอย่าง ให้กับฉัน เขาอายุ26แล้ว แต่ดูเหมือนเด็กมหาลัยอยู่เลย บ้านหลังใหม่ของฉันอบอุ่นมากๆทุกคนที่นี่น่ารักจริงๆ เขาชวนฉันคุยตลอดเลย แค่วันเดียวเขาก็สนิทกับฉันมากจนจะตบหัวฉันเล่นให้ได้เลยทีเดียว อีตาบ้านนี่เขาสัมพันธไมตรีดีเกินไปหรือเปล่าเขาสนิทกับฉันหรอ??? ปกติแล้วฉันจะไม่ค่อยพูดกับคนที่ไม่สนิทเท่าไร ประมาณว่าหยิ่งหรืออะไรประมาณนั้น นิสัยของฉันเป็นแบบนี้แหละเป็นคนที่วางตัวเอามากๆ ถึงได้โสดมานานขนาดนี้ไง ฉันเข้ากับทุกคนในแผนกได้ดี ยกเว้นอยู่คนเดียวพี่นัน แกชอบทำหน้าโหดตลอดเวลาเพราะฉะนั้นฉันค่อยข้างกลัวอารมณ์พี่แกนิ่งๆไว้จะดีกว่า ที่จริงแล้วแผนกเรามี5คน รวมผู้จัดการแต่วันนี้พี่แกติดประชุมต่างจังหวัดแต่ฉันก็เจอตั้งแต่วันมาสัมภาษแล้ว พี่เขาเป็นผู้ชายที่ใจดีอีกคนหนึ่งเลยแหละ
ฉันเลิกงาน5โมงเย็นและไม่รู้จะไปไหนต่อ ฉันพักอยู่อพาตเม้นเพียงคนเดียวและยังไม่อยากที่จะกลับห้องเลยเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว ปกติแล้วฉันเป็นคนที่ดูร่าเริงมากเวลาอยู่กับเพื่อนๆแต่ ยังมีอีกมุมหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยแสดงมันออกมานัก มันเป็นอาการเหงาและความรู้สึกเขว้งขว้างโดดดเดี่ยวฉันทนอยู่กับมันมานานแต่ไม่มีวันใดที่ชินกับมันเลย ฉันกล่าวลาพี่ๆที่ทำงานทุกคนและเดินออกมายังหน้าบริษัทยืนมองผู้คนที่พุกพล่าน รถราแย่งกันวิ่งบนถนน ฉันเบื่อกับชีวิตแบบนี้จริงๆแต่เรามันคนหาเช้ากินค่ำไม่ได้ร่ำรวยอะไรก็ต้องทนกับชะตาชีวิตของตัวเองต่อไปแบบนี้
"เฮ้อ"
ฉันถอนหายใจเหือกใหญก่อนจะเดินไปยังป้ายรถเมล์ เยื้องๆบริษัทไปนิดหน่อย ฉันเป็นคนที่ชอบหลับบนรถเมล์ไม่สิไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ระยะทางไม่ไกลฉันก็หลับได้ทั้งนั้น ฉันสะดุ้งตื่นอีกทีจวนใกล้จะถึงป้ายที่ต้องลง ฉันคงต้องนั่งทานข้าวคนเดียวเหมือนเคยและหลับไปเพียงลำพังอีกแล้ว มันเป็นอยู่แบบนี้มาอย่างสม่ำเสมอเวลาก็ผ่านๆไปวันๆแต่ฉันชอบเวลาที่อยู่บริษัทเพราะไม่เคยเหงาเลย เวลาผ่านไปเกือบ2สัปดาห์แล้ว ฉันกับพี่กันต์ก็สนิทกันมากขึ้นทุกวันบางครั้งฉันก็แอบคิดว่าเขาจะมีภรรยาหรือยังถ้าเขายังไม่มี คนแบบฉันจะมีสิทธ์ไหมที่เขาจะสนใจ ฉันไม่ได้บ้าผู้ชายขนาดนั้นนะแต่ก็ตามหามาตลอดอายุก็ควรที่จะมีเป็นตัวเป็นตนสะแล้ว เพราะอายุยิ่งมากตัวเลือกก็ยิ่งน้อย แต่ตัวเลือกของฉันก็น้อยมาตั้งนานแล้วล่ พี่กันต์อาจจะสูงเกินที่ฉันจะเอื้อมถึงเพราะเขาเพอเฟคสะขนาดนั้น พี่นภาก็เคยพูดๆว่าสาวๆแผนกข้างๆจ้องตามันวาววหลายคนเชียว ยิ่งฝ่ายการตลาดมีแต่ขาวสวยหุ่นเปะกันทั้งนั้นเตี้ยๆแบบฉันคงจะอยู่ปลายแถว และเป็นแถวที่ยาวมากๆ
"เหมื่ออะไร หมวยเล็ก"
"โอ้ยยย อะไรเนี่ยพี่เอาหนังสือที่หนาแบบนั้นมาทุบหัวฉันทำไมเนี่ย ถ้าสมองอันชานฉลาดของฉันกระทบกระเทือนขึ้นมาพี่รับผิดชอบไหวไหม ห้ะ"
ฉันพูดพร้อมทำหน้าจิกเขานิดๆ เขาชอบแกล้งฉ้นแบบนี้เสมอแต่ฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะเริ่มจะชินสะแล้ว
"ตั้งใจทำงานหน่อยนะจ้ะน้องหมวย เหม่อแบบนี้แอบปิ๊งใครอยู่หรือเปล่าเนี่ย มีความรักหรอครับผม 555"
"เหม่ออะไร ลีพักสมองตะหาก"
"ใช่หรือเปล่า"
"อะไรของพี่กันต์เนี่ย จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว วันนี้วันศุก รีบๆกลับเดียวรถติดนะเดียวเคลียส"
"ห่วงพี่หรอ"
"ห้ะ ประโยคไหนที่ลีบอกห่วง เก็บของกลับบ้านแล้ววันจันทร์เจอกันนะคะพี่ชาย"
"โถ่เอ้ยย ห่วงสักนิดก็ไม่ได้ น้อยใจจัง"
ฉันไม่ได้สนใจอะไร รีบเก็บเอกสารเดินเอางานไปส่งห้องผู้จัดการ เขามักจะพูดหยอกฉันแบบนี้มาตั้งแต่รู้จักกันวันแรกแล้ว ฉันก็เดาใจไม่ถูกว่าเขากำลังคิดอะไร ฉันรีบเดินกลับมาที่โต๊ะเพื่อเก็บของกลับบ้าน
"พรุ่งนี้ว่างป่ะ ไปรับงานเป็นเพื่อนหน่อยสิ"
"ทำไมรีต้องไป วันหยุดรี จะพักผ่อน"
"บริษัทให้โอทีเพิ่ม ไปไหม ผู้จัดการสั่งให้ส่งตัวแทนแผนกไป2คน"
เหมือนเขาจะรู้ว่าเรางกเลยนะ ได้โอทีเพิ่มตั้งวันนึง ก็ดีนะเนี่ย
"ก็ได้ กี่โมงล่ะ ไปที่ไหน"
"ระยอง 9โมง เดียวพี่ขับรถไปรับแล้วจะโทรหาอีกทีน้ะจ้ะหมวยเล็ก"
"โอเค ไว้เจอกันค่ะรีกลับละนะ บ๊ายบาย"
ฉันเดินทางกลับบ้านปกติเหมือนทุกวันแต่ที่แปลกก็คือ ฉันเผลอยิ้มตลอดเวลา หรือว่าฉันชอบพี่กันต์ขึ้นมาจริงๆแล้วฉันแอบดีใจที่พรุ่งนี้จะได้อยู่กับเขา2ต่อ2 บางทีถ้าเราสนิทกันมากขึ้นเขาอาจจะหลงรักในนิสัยที่ดีเว่อของฉันก็ได้นะ ฉันเขินจัง พรุ่งนี้จะใส่ชุดอะไรดีนะ จะต้องชวนเขาคุยเรื่องอะไรบ้างจะต้องทำตัวยังไง ฉันคิดฟุ้งซ่านเกินไปแล้ววันนี้ฉันจะต้องรีบอาบน้ำนอนแต่หัวค่ำพรุ่งนี้เช้าหน้าจะได้สดใส รี กันต์ เหมาะสมกันที่สุด อิอิ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น