ในยุคที่ความสามารถในการทำลายประเทศทั้งประเทศเพียงกดปุ่มหนึ่งปุ่มของอาวุธนิวเคลียร์ไม่อาจทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้อีกต่อไป
ใครบางคนกลับมองไปไกลยิ่งกว่านั้น ในที่สุดสถาบันวิจัยและเทคโนโลยีของญี่ปุ่นก็ประสบความสำเร็จในการคิดค้นอาวุธชีวภาพ มันคืออาวุธเชื้อโรคที่สามารถคร่าชีวิตคนนับหมื่นได้ด้วยตัวยาเพียงหนึ่งหลอดทดลอง
โชคไม่ดีนักที่เกิดความผิดพลาดในระหว่างการทดสอบตัวอย่าง นักวิจัยทุกคนติดเชื้อ
ห้องทดลองถูกปิดตาย การทำลายหลักฐานเริ่มขึ้นในคืนนั้นแต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลว
ภารกิจจบลงด้วยการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อหลักร้อย สู่เมืองหลวงของญี่ปุ่น
มหานครโตเกียว
จากถนนเปลี่ยวสู่ตัวเมือง
ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ
จากคนสู่คน
จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
หลักร้อยสู่หลักหมื่น แม้รัฐบาลจะพยายามปิดข่าวอย่างสุดความสามารถก็ไม่อาจหยุดความโกลาหลที่เกิดขึ้นนี้ได้
ท่ามกลางสายตาของคนทั้งโลกที่คอยจับจ้องอยู่
สถานการณ์เริ่มยากต่อการรับมือมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อผู้รอดเหลืออยู่เพียงหยิบมือ ในการประชุมสุดท้ายของผู้มีอำนาจสูงสุด
มีคำสั่งลับให้ปิดตายกรุงโตเกียว ไม่มีประชาชนผู้ใดได้รับรู้เรื่องนี้นอกจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
หยุดการจ่ายน้ำ
ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์
ตัดขาดการติดต่อสู่โลกภายนอก
เพื่อกวาดล้างทุกสิ่งมีชีวิตในอาณาบริเวณนั้น
...................................................................................
72 ชั่วโมง ก่อนเริ่มภารกิจ
พ่อกับแม่ไปทำงานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง
ข้าวเช้าจึงเป็นอะไรง่ายๆอย่างขนมปังที่เหลืออยู่ในตู้เย็น
เปิดโทรทัศน์ดูข่าวก่อนออกจากบ้านก็เห็นแต่เรื่องการระบาดของโรคที่กำลังวุ่นวายอยู่ตอนนี้
จะช่องไหนๆก็เหมือนกันไปหมด รัฐบาลเองก็ดูเหมือนจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจถึงได้ไม่มีมาตรการอะไรออกมาสักที อันที่จริงฉันก็ไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องสำคัญนักหรอก ถ้ายังต้องตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าและแหกขี้ตาไปโรงเรียนเหมือนเดิมแบบนี้อะนะ
รถไฟขัดข้องเป็นเรื่องราวดีๆอย่างแรกของวัน กว่าจะไปถึงก็สายโด่ง ลุงยามหน้าโรงเรียนดูจะโกรธพอสมควรที่ฉันมาสาย
สบตากันอยู่ๆก็วิ่งเข้ามาซะงั้น แถมใบหน้าที่จ้องกันเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อทำเอาฉันต้องรีบเผ่น
อยู่นานกว่านี้คงถูกกินเข้าจริงๆแน่ ไม่งั้นคงถูกอาจารย์ประจำชั้นกินหัวแทน
น่ากลัวชะมัด พอหนีจนเหนื่อยก็กลายเป็นว่าไม่อยากจะเข้าเรียนแล้ว ก็เลยเปลี่ยนจากห้องเรียนเป็นห้องสมุดแทน แล้วก็อ่านหนังสือจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศเงียบงันจนน่าขนลุก รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ผุดซึมนั่นหมายความว่าแอร์ถูกปิด ฉันพยายามมองหาบรรณารักษ์หรือใครสักคนที่จะช่วยเปิดแอร์ให้ทำงานได้บ้างก็พบว่านอกจากแอร์แล้วดูเหมือนไฟก็จะดับไปด้วย
โรงเรียนลืมจ่ายค่าไฟรึยังไงนะ แต่พอหาดูจริงๆจังๆ สุดท้ายแล้วห้องสมุดก็ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว
ประตูกระจกเปิดอ้าไว้อย่างน่าสงสัย ฉันเดินออกไปแล้วพบศพเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ในตอนที่ตกใจจนลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
คนที่ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ กลับค่อยๆลุกขึ้นมา...
-ไซโต้ อาสึกะ-
SOON...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น