Fic rise of the guardians(Jamie/Jack) see again - Fic rise of the guardians(Jamie/Jack) see again นิยาย Fic rise of the guardians(Jamie/Jack) see again : Dek-D.com - Writer

    Fic rise of the guardians(Jamie/Jack) see again

    ผู้เข้าชมรวม

    3,839

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    3.83K

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    78
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 มิ.ย. 57 / 13:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    เป็นฟิคที่แต่งจากแรงจิ้นและความฟินหลังจากดูหนังจบล้วนๆเลยค่ะ



    อ่านฟิคอื่นเพิ่มเติมได้ที่บล็อคของเราเลยค่ะ จิ้ม




    เพิ่มเติมนิดนึง น้องสาวเจมี่ชื่อSophieค่ะ(น่าจะใช่นะ เพราะเห็นหลายภาพแล้วที่เรียกเธออย่างงี้) ตอนแต่งเราจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร แล้วเห็นฟิคเรื่องrise of the guardiansเรื่องหนึ่ง เรียกน้องสาวเจมี่ว่าโท๊ฟ ก็เลยแต่งให้ชื่อนี้ไป
    แหะๆ Foot in mouth ตอนแรกก็ลองหาแล้วนะ มันมีแต่jamie'sister หรือไม่ก็อาจจะมีแต่เราอ่านไม่ละเอียดเอง 


    อัพเดตครั้งล่าสุด แก้คำผิดและเปลี่ยนชื่อน้องสาวเจมี่ให้ถูกต้องเป็น โซเฟีย หรือที่เจมี่เรียกว่า โซฟ ค่ะ


     



     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Title : see again
       
      Rate : PG 13
       
      Pairing: Jamie/Jack
       
       
      ..............................................................
       
       

      หลังจากหมดฤดูใบไม้ร่วง ต่อไปก็คือหน้าหนาว เป็นฤดูที่เขาจะได้เริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง เช่น หิมะตก ทำให้แอ่งน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง นั้นคือหน้าที่ที่เขารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณและความสนุก แต่สิ่งที่เขาชอบทำโดยไม่คิดว่าหน้าที่แต่เป็นนิสัยคือการสร้างความสนุกให้กับเด็กๆแม้มันจะดูบ้าบิ่นเกินไปในบางครั้งและโดนใครบางคนบ่นก็ตาม แต่เขาสนที่ไหนล่ะ เพราะเขาคือแจ็ค ฟรอสต์ เทพผู้พิทักษ์คนล่าสุดผู้เคยครอบครองตำแหน่งแชมป์เด็กซนจอมเกรียนของซานต้าผู้ซึ่งเกรียนไม่แพ้กัน

       ถึงตาลุงซานต้าเกรียนแตกหรือนอร์ธจะเคยออกปากไว้ว่าจะเลิกพูดถึงเรื่องนั้นแล้วจับเขาใส่ตะกร้าล้างน้ำเสีย.ใหม่ เมื่อตอนที่แจ็คได้รับเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์ใหม่ๆ แต่ดูเหมือนแจ็คจะยังครองตำแหน่งอยู่ เพราะไม่มีเด็กคนไหนซนเกรียนได้เท่าเขาอีกแล้ว  

      เช้าวันหนึ่งหลังจากเริ่มฤดูหนาวมาได้ไม่กี่วัน หนึ่งในสัญลักษณ์ของฤดูหนาวได้เริ่มปรากฏออกมา หิมะขาวเหมือนปุยนุ่นร่วงหล่นลงมาและกลายเป็นทับถม บนหลังคาบ้านหลายหลังในเมือง พื้นถนนและลานกว้างที่เคยเป็นหน้าหรือดินมาก่อนในวันต่อมา ท่ามกลางการละเล่นของเหล่าเด็กๆท่ามกลางกองหิมะ ดวงตาสีฟ้าใสเฝ้ามองดูอย่างสนุกสนานก่อนจะนึกอะไรสนุกๆได้

      เทพผู้พิทักษ์เด็กๆคนล่าสุดซึ่งเป็นเทพแห่งน้ำแข็ง เจ้าของนามแจ็ค ฟรอสต์ก้มลงใช้มือกวาดหิมะบนพื้นขึ้นมาบนมือแล้วปั้นมันเป็นลูกบอลหิมะก่อนจะใช้พลังของตัวทำให้มันกลายเป็นบอลน้ำแข็งที่กลายเป็นน้ำแข็งแต่ด้านนอก ด้านในยังคงเป็นหิมะอยู่ 

      ตุบ!

      บอลน้ำแข็งขนาดพอดีมือเนียนๆของแจ็คถูกปาไปโดนหลังเด็กชายคนหนึ่งจนเขาล้มหน้าทิ่มกองหิมะ ผู้ถูกกระทำลุกขึ้นมา สอดสายตามองไปรอบๆก่อนจะลงมือปั้นลูกบอลหิมะปาใส่เพื่อนที่ยืนอยู่ด้านลังเขา ซึ่งเจ้าตัวคิดว่าเป็นคนทำ ซักพัก บริเวณดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่เล่นสงครามหิมะของเด็กๆ เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น เสนาะหูคนเริ่มเรื่องเหลือเกิน

      “ฮ่าๆๆ” แจ็ค ฟรอสต์ในชุดเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีฟ้า เข้มกางเกงสีน้ำตาลค่อนข้างเข้มยืนเท้าไม้เท้าคู่ใจของตัวเอง มองดูเด็กๆด้วยดวงตามีความสุข พร้อมเสียงหัวเราะที่แสดงถึงความพึงพอใจในผลงาน พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้าที่เด็กชายคนหนึ่งเข้า เด็กน้อยผมสีน้ำตาล ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มสดใส... มันทำให้เขานึกถึงจุดเริ่มต้นของตัวต้นของเขาในตอนนี้  รอยยิ้มเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแจ็คเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น เจมี่... เด็กน้อยผมสีน้ำตาลผู้เชื่อเรื่องเทพผู้พิทักษ์เด็ก เด็กคนแรกที่เห็นตัวเขา ทำให้เขารู้สึกไม่ว้าเหว่ในตอนนั้นจนมาถึงตอนนี้

      เท้าเปลือยเปล่าบนพื้นหิมะนุ่มกระโดดสูงขึ้นไปบนอากาศก่อนเจ้าตัวจะใช้พลังลอยไปหยุดยืนอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง เขาเปล่าขยับลงไปด้านล่างของหลังคาเล็กน้อยเพื่อบ้านด้านหน้าให้ถนัดตา ดวงตาสีฟ้าดวงโตมองไปที่ประตูบ้านหลังคุ้นเคยซักพัก ประตูที่ปิดไว้ถูกเปิดออกโดยเด็กสาววัย14-15ผมสีทอง ซึ่งแจ็คจำได้ดีว่าคือใคร ที่ตามออกมาคือคนที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ตรงนี้ด้วยความหวนคิดถึง

      “โซฟ อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวก็หกล้มหรอก” เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นเอ่ยเตือนคนเป็นน้องสาว เสียงของเจมี่ทุ้มกว่าครั้งที่แจ็คเคยได้ยินครั้งล่าสุด ซึ่งก็ผ่านมานานพอสมควร

      “หนูโตแล้วนะพี่ แค่นี่หนูไม่ล้มหรอก” เธอหันมาตอบรับทั้งๆที่เท้ายังเดินถอยหลังอยู่

      แล้วสิ่งที่คนเป็นพี่กลัวก็เกิดขึ้นจนได้ รองเท้าคู่สวยของโซฟเหยียบแอ่งน้ำแข็งเล็กๆจนเจ้าตัวเซล้มไป โชคดีที่ใกล้กับกองหิมะ เธอเลยไม่เป็นอะไรมาก

      “ฮ่าๆๆ สมกับเป็นยัยเด็กพันแข้งพันขาแบบที่บันนี่ว่าเลย” เสียงนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ของสองพี่น้องตรงหน้า คนผมสีน้ำตาลผู้เป็นพี่รีบเดินไปจับน้องสาวให้ลุกขึ้นทันที แล้วพูดขึ้น

      “ก็บอกแล้วไงว่าให้ระวัง”

      เด็กสาวไม่ตอบอะไร ได้แต่ทำหน้าหงิกก่อนจะปรับอารมณ์ตัวเองให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม แขนเรียวทั้งสองข้างคว้าไปที่แขนพี่ชาย ลากให้ไปที่ลานกว้างใกล้ๆเป็นเพื่อน แจ็คพิงร่างของตัวเองกับปล่องไฟใกล้ๆ มองสองพี่น้องเดินหายลับตาไป  

      ตั้งกี่ปีแล้วนะ หลังจากที่เขาร่วมมือกับพวกนอร์ธจัดการพิต์ชได้ โดยมีพวกเจมี่ช่วยเหลือเขาก็ไม่ได้มาปรากฏตัวให้เจมี่เห็นอีกเลย ถึงเขาจะรู้สึกพิเศษกับเจมี่มากกว่าเด็กคนอื่นแต่เขาคิดว่าการไม่ปรากฏตัวให้เด็กเห็นจะดีที่สุด เหมือนที่เทพคนอื่นๆทำกัน แต่จะให้เลิกเล่นอะไรบ้าๆตามที่บันนี่ชอบบ่นก็คงไม่ได้ หมอนั่นช่างไม่รู้เอาซะเลยว่าอย่างั้นแหละที่จะทำให้เด็กสนุก สนุกโคตรๆเลยด้วย อย่างเรื่องที่เขาถามในหลายๆครั้งก่อนหน้านี้ก็ใช่ ตอนเจมี่ก็ใช่ ตอนนั้นเขาค่อนข่างจำได้แม่น นำทางเจมี่ที่นั่งอยู่บนรถเลื่อนไปบนถนนแสนด้วยทางน้ำแข็งจะตื่นเต้น และปิดท้ายด้วยการพุ่งลงกองหิมะ สนุกจะตาย ถึงตอนท้ายสุดจะทำเขาเซ็งก็เถอะ เพราะกลายเป็นว่าประเด็นของเด็กๆกลายเป็นเรื่องนางฟ้าฟันน้ำนมซะงั้น

      “ฮ่าๆ” เสียงเด็กดังขึ้นจากด้านข้างของบ้านตรงหน้า มีปล่องไฟบังสายตาหนุ่มผมเงินอยู่ เขาชะโงกหัวออกไปดู เจมี่เดินกลับมาบ้านพร้อมกับน้องสาวและเด็กอีกสองคน น่าจะเป็นเพื่อนของโซฟ แจ็คลอยไปอยู่บนหนังคาบ้านเจมี่อย่างรวดเร็วเพื่อฟังการสนทนาของเด็กๆ เด็กสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้าไปในบ้านของเจมี่ อยู่ๆหิมะที่เกาะอยู่ตรงปลายหลังคาบ้านก็ตกลงมาใส่หัวเด็กจังๆ

      “เย็นจัง” หนูน้อยว่าพร้อมกับเอามือปัดหิมะบนหัว เจมี่หัวเราะนิดๆแล้วเดินมาช่วยปัด “หิมะตกลงมาได้ไงเนี่ย” เธอแหงนหน้าขึ้นไปมองบนหลังคาเผื่อว่าจะพบสาเหตุ

      “ฝีมือแจ็ค ฟรอสต์ล่ะมั้ง?” เจมี่พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ชื่อนี่ทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตที่น่าจดจำ

      “เฮ้ย! ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” แจ็คท้วงขึ้นมาโดยไม่มีใครได้ยิน

      “แจ็ค ฟรอสต์...? ใครหรอคะ” เด็กสาวถามพร้อมกับแววตาใสซื่อที่แสดงถึงความสงสัย

      “เขาเป็นเทพแห่งฤดูหนาวน่ะ ทำให้หิมะตก ลำธารเป็นน้ำแข็ง แล้วก็ชอบมาเล่นกับเด็กๆแบบนี้ไงล่ะ”

      “เล่นอย่างงี้เหมือนเด็กซนเลย” เด็กสาวพูด เจมี่หัวเราะชอบใจ

      คนถูกกล่าวถึงยืนพิงไหล่กับปล่องไป แขนทั้งสองข้างกอดอก มองคนทั้งสองสนทนากันพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม”ใช่เลย อันนั้นข้าไม่เถียง”

      “แล้วพี่เจมี่เคยเห็นเขามั้ยคะ?”เด็กสาวถามต่อ

      “เคยสิ เขาเป็นเด็กผู้ชาย ผมขาวเหมือนหิมะ ผมสีเงิน ท่าทางซนสุดๆเลยล่ะ ตอนนั้นพี่คิดว่าเขาเท่มากเลยล่ะ” คนถูกถามตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

      “ตอนนั้นงั้นหรอ?”แจ็คเกิดคำถามขึ้นมา

      “ตอนนั้น? แล้วตอนนี้ล่ะคะ พี่ว่าเขาเป็นยังไง”เด็กสาวถามต่อ หนุ่มผมเงินหยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีใครเห็น”ใช่ แล้วตอนนี้ล่ะ?” แจ็คพูดขึ้นเหมือนเขาจะได้ยิน

      “ตอนนี้พี่คิดว่าเขาน่ารักนะ”

      จบคำพูดของเจมี่ แจ็คก็ไม่สนใจเสียงรอบข้างไประยะหนึ่ง เขาอ้าปากเหวอ อย่างเขาเนี่ยนะน่ารัก พูดอย่างกับตาลุงนอร์ธเลย

      เจมี่เรียกเด็กๆให้เข้าบ้าน แจ็คลงมาจากหลังคา ส่องดูทางหน้าต่างด้วยความสงสัยว่าคนพวกนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ เขาทาบมือลงไปบนกระจกอย่างลืมตัว เกิดเกร็ดน้ำแข็งปกคลุมจนมัวหนักไปกว่าเก่า เด็กหนุ่มผมเงินใช้มือขัดประจกจนสามารถมองเห็นข้างในได้ เขาเห็นเจมี่กำลังช่วยเอานำอาหารมาวางบนโต๊ะโดยมีพวกโซฟนั่งรออยู่ ท่าทางคนในบ้านมีความสุขกันมาก เห็นแล้วคิดถึงครอบครัวในความทรงจำของเขาจัง... คืนนี้แวะไปหานอร์ธแล้วเล่นกับพวกเยติดีกว่า

      แจ็คผละออกจากกระจกและเหาะขึ้นไปในอากาศเพื่อไปสร้างหิมะที่อื่นอีก ภายในบ้านแสนอุ่นเพราะเตาผิง ไม่รู้อะไรดนใจเจมี่ให้หันไปทางหน้าต่าง เขาสะดุดตาที่กระจกบานหนึ่งซึ่งมีน้ำแข็งเกาะมากกว่าบานอื่น ตรงขอบกระจกเป็นน้ำแข็งลวดลายสวยงาม

      “แจ็ค...” เจมี่พูดออกมาอย่างแผ่วเบา ในคำเดียวแฝงไปด้วยความคิดถึงมากมาย

       

      “เย้!” คนในเสื้อกันหนาวสีฟ้าเข้มแหกปากลั่นกลางท้องฟ้ายามราตรี หลังแวะไปดูหน้าคนที่คิดถึงเสร็จแจ็คก็ไปจัดการสร้างหิมะในที่ต่างๆทั่วเมือง แวะไปเล่นกับเด็กๆบ้าง เช้าพรุ่งนี้คงมีใครหลายคนพอใจกับกองหิมะมากมายหลายแห่ง ใหญ่เพียงพอสำหรับปั้นตุ๊กตาหิมะตัวโตๆหรือกลายเป็นสนามเล่นปาหิมะได้ แจ็คแหกปากลั่นและปล่อยตัวเองให้ปลิวตามสายลมไปเรื่อยๆจนพอใจ

      เท้าเปล่าแตะลงบนหลังคาบ้านหลังหนึ่งในตัวเมือง ดวงตาสีฟ้าใสกวาดมองไปบนท้องฟ้าสีดำกว้างใหญ่เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่

      “อีกเดี๋ยวก็คงมาแล้ว” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น แจ็คยืนมองท้องฟ้ากับบรรยากาศรอบด้านด้วยใจที่รอคอย

      หลังจากจบคำพูดของเทพฤดูหนาวไม่นาน ทรายสีทองก็ปรากฏขึ้นบนทองฟ้าก่อนจะแยกออกไปเป็นสายเส้นเล็กวิ่งไปหาเด็กๆทุกคน ทองฟ้าสำดำยามราตรีในตอนนี้ช่างดูสวยงามเหลือเกิน ทรายสีทองลอยผ่านหน้าแจ็ค เขายืนมือไปสัมผัสมัน ทรายส่วนหนึ่งกลายเป็นนกแสนสวยในจินตนาการบินออกมาจากสายทรายสีทอง มันบินมาหยอกล้อกับแจ็ค

      “ฮ่ะๆๆ” เด็กหนุ่มผมเงินหัวเราะชอบใจ เขายืนมือไปเล่นกับมัน มันบินวนรอบตัวแจ็คสองสามรอบก่อนจะบินกลับเขาไปในสายทรายสีทอง แจ็คมองตามทรายสีทองสายหนึ่งเข้าไปในบ้านหลังโต แล้วหันหน้ากลับไปมองมองฟ้าและสภาพแวดล้อมตัวเองตอนนี้ เขาชอบช่วงเวลานี้ มันรู้สึกอบอุ่นสำหรับเขา

      แจ็คยืนนิ่ง สอดส่ายสายตามองทรายสีทองรอบๆตัวครู่หนึ่งก่อนจะเลือกตามทรายสีทองเส้นหนึ่งไปที่จุดหมาย เมื่อถึงปลายทางของสิ่งที่ตาม แจ็คหยุดนิ่งมองจุดหมายตรงหน้า บ้านของเจมี่... เมื่อเช้าก็พึ่งมา ตอนนี้ก็ยังบังเอิญมาที่นี่อีก งั้นเข้าไปสำรวจความบังเอิญหน่อยก็แล้วกัน ไม่ได้เข้าไปนานแล้วเหมือนกัน ตาสีฟ้ามองไปรอบๆบ้านก่อนจะเห็นทางเข้า คือหน้าต่างชั้นสองที่เปิดไว้ แจ็คเหาะขึ้นไปตรงหน้าต่างที่เป็นจุดหมาย เขาสำรวจห้องการจะเข้าไป นี่มันห้องเจมี่... นี่ก็คือความบังเอิญอีกแล้วสินะ...? แล้วทำไมเขาจะต้องรู้สึกแปลกๆเพราะรู้ว่ามันคือห้องของเจมี่ด้วย?

      มือใหญ่เนียนขาวค่อยๆเปิดกระจกห้องต่างให้กว้าง แจ็ควางเท้าลงกับพื้น พยายามให้เบาที่สุด เขาเอาไม้เท้าคู่ใจพาบ่าไว้แล้วมองไปรอบๆห้อง

      “ห้องดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” แจ็คพูดกับตัวเอง แล้วหันสายตาไปมองเจ้าของห้องที่หลับอยู่ เจมี่ดูโตขึ้นมาก หลังจากที่เจมี่ได้เห็นตัวเขาครั้งแรกและเป็นครั้งเดียวก็ผ่านนานมากแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ครั้งเดียวของแจ็คที่ได้เห็นเจมี่หรอกนะ เทพผมเงินมาดูเจมี่หลายครั้ง แต่ก็ไม่บ่อยนัก แทบจะนับได้ด้วยนิ้วมือ

      แจ็คหันไปสนใจพวกรูปถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะลิ้นชักไม้ข้างเตียง แจ็คไล่สายตาดูไปทีละรูป ทั้งหมดน่าจะเป็นรูปในช่วง2ปีนี้ รูปที่แจ็คให้ความสนใจมากที่สุด รูปถ่ายครอบครัวในตอนปัจจุบันของเจมี่ ครอบครัวของเด็กน้อยผมน้ำตาลที่เคยช่วยให้เข้าปราบมารร้ายได้มีสมาชิกครอบครัวเพิ่มมาอีกหนึ่ง เป็นเด็กหญิงน่าตาน่ารัก ปีนี้อายุน่าจะสามขวบ เธอมีผมสีน้ำตาลเหมือนเจมี่... และเหมือนน้องสาวของเขาเมื่อตอนยังมีชีวิตเป็นคนปกติ

      แจ็คยื่นมือไปสัมผัสกับกรอบรูปครอบครัวของเจมี่อย่างเหม่อลอย พลันเมื่อนิ้วเรียวสัมผัสกับกรอบรูป น้ำแข็งจับตัวกันที่กรอบรูป เด็กหนุ่มตกใจ สะบัดมือออกไปด้านข้างโดนกรอบรูปอันอื่นจนมันตกลงกระแทกพื้นเสียงดัง ปลุกให้คนในห้องตื่นขึ้น

      “โซเฟีย เขามาเล่นอะไรในห้องพี่เนี่ย” เสียงงัวเงียอย่างคนพึ่งตื่น แต่มือรีบเคลื่อนไปหยิบไฟฉายใต้เหมือนมาส่งผู้บุกรุกทันที

        “.....”

      ไฟฉายส่องไปทีผู้บุกรุก คนถูกไฟส่องทำหน้าตื่นก่อนจะยิ้มแหย่ขึ้นมา ผิดกับเจ้าของห้องที่ได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แจ็ค ฟรอสต์... เขาได้เจอแจ็ค ฟรอสต์อีกครั้งแล้ว ใช่มั้ย?

      “แจ็ค...?” เจมี่เรียกชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบา ตายังจ้องมองอยู่กับเจ้าของชื่อไม่ขยับไปไหน

      “ไง เจมี่” แจ็คพูดน้ำเสีงปกติ ยังไงพวกผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ยินเสียงเขาจนตื่นขึ้นมาอยู่แล้ว เสียงพูดด้วยความรู้สึกทำตัวไม่ถูก ไม่ได้กะจะให้เห็นตัวเลยแท้ๆ

      “แจ็ค ฟรอสต์... จริงๆใช่มั้ย?” เจมี่ยังคงถามข้อสงสัยตัวเองด้วยอาการตาค้างอยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหมอนี่ก็คงจะดูน่ารักใสซื่อด้วยท่าทางแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แฮะ พยายามให้ตายยังไงก็ไม่น่ารักเหมือนตอนเด็กๆหรอก ดูแล้วน่าแกล้งซะด้วยซ้ำ ตัวโตตั้งขนาดนี้แล้วยังจะมาทำตาค้างเหมือนเจอสิ่งอัศจรรย์หรือรักแรกพบอีก

      “แน่นอน ข้าเอง แจ็ค ฟรอสต์” ช่วยไม่ได้ ไหนๆก็เจอหน้ากันแล้ว คุยกันหน่อยก็แล้วกัน แจ็คใช้พลังของตัวเองทำให้หิมะตกในห้องของเจมี่เป็นของขวัญที่ได้เจอกันอีกครั้ง

      เจมี่กวาดสายไปทั่วห้องที่มีหิมะตกก่อนจะยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว

      หมับ

      ร่างของเทพแห่งฤดูหนาวถูกเด็กหนุ่มผมน้ำตาลสวมกอด เขาคลอเคลียกับคนที่ตัวสูงน้อยกว่าประมาณ5-6เซนติเมตรอย่างคิดถึง

      “แจ็ค... คิดถึงจังเลย” เสียงทุ้มพูดออกมาทั้งๆที่ยังกอดคนในเสื้อกันหนาวมีฮู้ดซะแน่น คนถูกกอดได้แต่ยืนงงให้คนตัวสูงกว่ากอดต่อไป

      “แจ็ค รู้มั้ย? หลังจากตอนนั้นผมก็อยากเจอคุณมาตลอดเลยนะ ทำไมถึงไม่มาหากันอีกเลยล่ะ?” เจมี่คลายกอดแล้วพูดกับคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

      เสียงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะมีคำตอบออกมา “หลังจากที่ผ่านอะไรมาหลายอย่าง ข้าคิดว่าไม่ให้พวกเด็กๆเห็นตัวจะดีกว่า ให้เป็นความเชื่อแบบนี้ต่อไปมันดูบริสุทธิ์ดี ว่ามั้ย?” แจ็คตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ชอบยิ้มเป็นประจำ

      “แต่... ผมคิดถึงคุณนะ” น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความคิดถึงดังขึ้นจากปากคนที่ตัวสูงกว่าเจมี่ยืนมือไปจับหน้าแจ็ค แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมันเย็นกว่าปกตินิดหน่อย เจมี่ร้องทักเรื่องที่แจ็คตัวเย็นและรีบหันไปคว้าผ้าห่มจะเอามาคลุมให้แจ็คแต่เจ้าตัวก็ห้ามไว้ซะก่อน

      “ใจเย็นเจมี่ ข้าเป็นเทพแห่งฤดูหนาวนะ ตัวเย็นก็ไม่เห็นจะแปลก”

      “อ่า...เอ่อ... นั้นสินะ” เจมี่อ้ำอึ้งอยู่ซักพักก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

      ยังไม่ทันที่คนผมน้ำตาลจะได้พูดอะไรต่อ คนตรงหน้าก็ก้าวเท้าเปล่าเข้ามาหาเขาจนทั้งสองห่างกันแค่คืบกว่าๆ แจ็คเอาไม้เท้ายันพื้นและพิงมันก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองคนที่สูงกว่า

      “โตขึ้นเยอะเลยนะ ปีนี้อายุเท่าไหร่”แจ็คถามขึ้น

      “17ครับ”

      “17... โตขึ้นมากเลยนะ โตขนาดนี้แล้วยังเห็นข้าอยู่ เชื่อในตัวข้ามากเลยสิ” หนุ่มผมเงินถามพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นที่ชอบยิ้มประจำ

      “อือ”เจมี่ตอบรับและผงกหัวหน่อย”ผมไม่ลืมดวงจันทร์ขณะที่พระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็ไม่ลืมพระอาทิตย์ขณะที่เมฆบดบังหรอก” เด็กหนุ่มทวนคำในอดีตที่คนตรงเคยพูดให้เขาฟังเมื่อตอนจากกันในครั้งก่อนให้ฟัง แจ็คยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงกันสวยงาม ภาพรอยยิ้มของคนตรงหน้าดูน่ารักซะจนเจมี่เผลอตัวดึงเขามากอดอีกครั้ง

      “เจมี่...”

      “พอกอดแบบนี้แล้วคุณก็ตัวอุ่นดีเหมือนกันนะ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูเทพแห่งฤดูหนาว วันนี้วันเดียวเขาโดนกอดตั้งสองครั้งแถมยังเป็นคนเดียวกันอีก แจ็ครู้สึกว่าตัวเองกำลังน่าแดงอยู่ ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย!

      “เอ่อ เจมี่ ข้าต้องไปแล้ว”  มือขาวเนียนดันออกคนตรงหน้าให้ถอยออกซึ่งเจมี่ก็ทำตามอย่างดี แต่มือสีแทนข้างหนึ่งจับแขนแจ็คไว้

      “อยู่ต่ออีกซักพักไม่ได้หรอครับ?” เจมี่ถามเสียงเศร้า

      “ข้ามีหน้าที่ต้องไปทำต่อน่ะ” แจ็คพูดเสียงค่อยกว่าปกติ รู้สึกผิดนิดๆที่ทำให้คนตรงหน้ามีสีหน้าเศร้า ไอ้ที่ต้องทำหน้าที่อะไรนั่นโม้ทั้งเพ เขาแค่ทำตัวไม่ถูกเลยอยากจะถอยไปตั้งหลักต่างหาก

      “แจ็ค... ผมขอร้อง”เจมี่ทำหน้าเศร้าหนักกว่าเดิม ทำเอาแจ็คตีสีหน้าไม่ถูกเลย

      ระหว่างที่แจ็คอยู่ในบรรยากาศทำตัวไม่ถูกสิ่งหนึ่งก็บินเข้ามาในห้อง แจ็คเลิกสนใจบรรยากาศเมื่อกี้ไปครู่หนึ่งและยิ้มทักทายคนที่มาใหม่

      “สวัสดีเทพธิดาตัวน้อย” เทพธิดาที่ถือฟันน้ำนมมาด้วยร้องทักตอบและบินมาคลอเคลียแจ็ค เจมี่เผลอปล่อยมือจากคนผมเงินเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นอยู่กับธิดาตัวน้อยของนางฟ้าฟันน้ำนม จะรั้งไว้มันก็ดูเสียมารยาท

      “มาเก็บฟันของน้องสาวเจมี่สินะ?” แจ็คถามเทพธิดาตัวน้อยน่ารัก เธอพยักหน้าและยื่นฟันที่ถือไว้มาใกล้หน้าแจ็ค

      “แหม ฟันขาวสวยเชียว” เทพธิดาตัวน้อยหัวเราะชอบใจ  เห็นด้วยกับคำพูดของแจ็ค

      “จะกลับไปหาทูธเลยใช่มั้ย?” นางฟ้าตัวน้อยพยักหน้าให้แจ็ค ไปหาทูธก่อนแล้วค่อยไปหานอร์ธดีกว่า อาทิตย์นี้ยังไม่ได้เจอทูธเลย

      “งั้นไปพร้อมกันมั้ย? ข้าก็จะไปหาทูธเหมือนกัน”แจ็คถามพร้อมรอยยิ้ม นางฟ้าตัวน้อยพยักหน้าแล้วบินเข้ามาคลอเคลียกับหน้าของเทพฤดูหนาว

      เทพแห่งความหนาวหันหน้าไปที่หน้าต่าง กำลังจะเหาะออกไปก็โดนเจ้าของห้องจับข้อมือไว้ แจ็คหันไปมอง เจมี่ไม่พุดอะไรนอกจากส่งสายตาเศร้ามาให้

      “ขอโทษนะเจมี่ ข้าต้องไปแล้ว”

      “แล้วมาหาผมอีกนะ” คนผมน้ำตาลพูดพร้อมกับมองจ้องมายังดวงตาสีฟ้าใส แจ็คเม้มปาก หลบสายตาลงแล้วคิดอะไรตามสิ่งที่คนตรงหน้าพูด

      “อือ ได้ แล้วข้าจะมาหาอีก” แจ็คตอบ ใบหน้าเศร้าๆเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง มือหนาคว้าไปที่ไหล่กว้างของแจ็คและดึงเข้ามาหาตัวเอง ริมฝีปากได้รูปประทับลงไปที่ขมับของคนที่ตัวเล็กกว่าไม่มาก ฝ่ายได้รับสัมผัสเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาสีฟ้าใสหันไปจ้องมองตาสีน้ำตาลของคนตรงหน้าที่เจ้าตัวกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขาอยู่

      “แล้วเจอกันนะ”

      คนพึ่งหายตกใจอ้ำอึ้งอยู่ซักพักก่อนจะตอบด้วยการส่งเสียงอือจากลำคอ แจ็คเหาะออกไปทางหน้าต่างพร้อมธิดาตัวน้อย เจมี่เห็นว่าแจ็คทำท่าเขินๆกับธิดาตัวน้อยด้วย คนตัวสูงยืนมองแขกผมสีเงินเหาะออกไปจากหน้าต่างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปนอนต่อด้วยใบหน้าอมยิ้ม

       

       End


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×