เสน่หากระดังงาสีขาว - นิยาย เสน่หากระดังงาสีขาว : Dek-D.com - Writer
×

    เสน่หากระดังงาสีขาว

    พวกแม่หม้าย ล้วนแต่ร่านร้อน เป็นได้แค่คู่นอนชั่วคราวเท่านั้น นี่คือความคิดของเพลย์บอยหนุ่มปากร้ายไร้หัวใจอย่าง อัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล เพราะครอบครัวของเขาเคยแตกร้าวเพราะหญิงหม้าย พวกหล่อนก็แค่ทางผ่าน

    ผู้เข้าชมรวม

    47,357

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    139

    ผู้เข้าชมรวม


    47.35K

    ความคิดเห็น


    120

    คนติดตาม


    43
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  74 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ค. 56 / 15:53 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     อโนมา หม้ายสาวแสนเสน่ห์ผู้มีดวงตาโศกสวย และใบหน้าหวานเย้ายวน ปิดตายหัวใจดวงน้อยของเธอไว้กับการจากไปของสามีสุดที่รักและเก็บความรักทั้งหมดทุ่มเทให้ลูกสาวตัวน้อย เธอหยิ่งเย็นชาและงามสง่าดุจพญาหงส์
    อัคคี ชายหนุ่มผู้เกลียดแม่หม้ายเข้าใส้ เพลย์บอยไร้หัวใจอย่างเขามองพวกแม่หม้ายเป็นแค่ทางผ่านและเขาไม่มีวันรักหญิงหม้ายคนใดโดยเฉพาะแม่หม้ายลูกติด แต่ทำไมหนอเพียงแค่ได้พบสบตากับดวงตาหวานโศกสวยของ หม้ายสาวนามอโนมา หัวใจที่ด้านชากลับหวั่นไหว และรวดร้าวไปด้วยความปรารถนาอยกครอบครองเรือนร่างเย้ายวนนั้น แต่ด้วยความที่ท่ามากปากร้ายของเขา และอีกทั้งในอดีต เธอเคยเป็นน้องสะใภ้ของเขา แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนที่ต้องการอะไรแล้วต้องได้ อย่างอัคคี จะสนทำไมในเมื่อเธอก็จะเป็นเพียงแค่ทางผ่านของเขาเช่นกัน

    บทนำ ที่มาของความผูกพัน


    “มาแล้วจ้า” เสียงใสๆ จากหญิงสาวร่างเล็กบอบบาง นามว่า อรุณนารี วงษ์อินทร ผู้มีใบหน้ารูปหัวใจน่ารัก ดวงตากลมโตสดใสเปล่งประกายดุจยามเช้า จมูกเล็กๆนั้นมีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพลายริมฝีปากบางน่ารักจิ้มล้มยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดีเป็นนิจนั้นส่งยิ้มหวานหยดให้หญิงสาวร่างสูงระเหิดระหงตรงหน้าที่บัดนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอ

    “ไงแม่แมงปอทำไมวันนี้มาช้านักล่ะแก รู้มั๊ยวันนี้ฉันต้องเป็นแม่ค้าขายทั้งต้นไม้ขายทั้งกาแฟให้หล่อนจนเมื่อยไปหมดแล้วนะเนี่ย”

    เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังมาจากปากของหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง สมส่วน ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนนั้นประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับวาววับจมูกโด่งเชิดอย่างคนดื้อรั้น ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มแดงเรื่ออย่างคนสุขภาพดีล้อมกรอบหน้าสวยด้วยผมซอยสั้นทันสมัยรับรูปหน้าคล้ายดาราเกาหลีที่กำลังฮิตของ เนตรนารา แสนเสนา สาวสวยสุดเท่อารมณ์ติสต์ ที่ตอนนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอเพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านแต่เช้าทั้งร้านกาแฟและร้านต้นไม้จนเธอหัวหมุน

    “ทำไมน้า...ฉันต้องมาช่วยแกด้วยทั้งๆที่วันนี้มันวันหยุดฉันน่ะ” สาวสวยมิวายบ่น

    “ฉันแวะไปส่งน้องอิ่มอุ่นแล้วก็เอาไอ้สีเทาเข้าอู่น่ะแก ขอโทษจริงๆว่ะ”

    อรุณนารีตอบเพื่อนคนสวยพลางยิ้มให้อย่างน่ารักแบบว่าขอโทษนะจ๊ะเพื่อนสาว

    “ไอ้อ้อนมันไปเชียงใหม่เมื่อคืนนี้แล้วไปตั้งอาทิตย์แน่ะแกฉันก็ต้องดูลูกน่ะ”

    เธอบอกเพื่อนซึ่งก็พยักหน้าเข้าใจในเหตุผลเพราะ น้องอิ่มอุ่น หรือ เด็กหญิงอัจฉรียาพร  เด็กหญิงตัวกลมป้อมตาโต ปากนิด จมูกหน่อยแก้มแดงเรื่อเหมือนเชอรี่ ผมหยิกสลวยวัยห้าขวบซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้านลูกสาวของ อโนมา พรภักดี หรือ อ้อน คุณแม่ยังสาวและสวยหวานซึ้ง ต้องไปเป็นวิทยากรพิเศษในงานเทศกาลอาหารไทยพื้นเมืองที่โรงแรมห้าดาวสุดหรูที่เชียงใหม่ เนื่องจากหญิงสาวเป็นอาจารย์สอนทำอาหารแสนสวยที่มีลูกศิษย์มากมายโดยเฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นชายทั้งที่โสดไม่โสดเมียเผลอและไม่เผลอที่ขยันมาสมัครเรียนกันไม่เว้นแต่ละวัน(คาดว่าน่าจะมาเรียนวิชาทำขนมจีบซะมากกว่า)

    อโนมาคุณแม่ยังสาวของน้องอิ่มอุ่นนั้นเป็นหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งนัยน์ตาสวยซึ้งชวนฝันที่พ่วงตำแหน่งม่ายสาวพราวเสน่ห์ แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยที่เข้าเรียนพร้อมกับเพื่อนสาวทั้งสองเพราะมีเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ในชีวิตแต่ด้วยความรักและเอาใจใส่จากเพื่อนทั้งสองรวมถึงความรักความเข้าใจจากทั้งพ่อแม่ของเธอเองและพ่อแม่ของอรุณนารีที่คอยให้กำลังใจและที่พึ่งพิงทำให้สาวน้อยที่พานพบกับปัญหาอันยิ่งใหญ่ในชีวิตลูกผู้หญิงยืนหยัดและเข้มแข็งขึ้นมาได้

    ด้วยความที่รักที่ชอบในการทำอาหารไทยทั้งคาวหวานทั้งตำรับชาววังและอาหารสากลทำให้หญิงสาวเข้าเรียนคอร์สพิเศษต่างๆที่สอนทำอาหารรวมไปถึงการเข้าไปเป็นลูกมือคุณหญิง เสาวลักษณ์ เดชาวัชรา ผู้ได้ชื่อว่าแม่สามีในขณะนั้นในร้านอาหารไทยที่มีชื่อในแวดวงไฮโซเพราะคุณหญิงเสาวลักษณ์นั้นเป็นผู้ดีเก่าชาววังที่แต่งงานออกเรือนมาอยู่กับสามีซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้เธอได้รับการถ่ายทอดการทำอาหารชาววังแทบทุกอย่างรวมถึงอาหารจานพิเศษที่ขึ้นชื่อของชาติต่างๆที่ผู้เป็นแม่สามีคอยพร่ำสอนด้วยความรักใคร่เห็นใจ

    และใบประกาศเกียรติบัตรต่างๆที่หญิงสาวได้รับก็เป็นใบเบิกทางและการันตีได้อย่างดีว่าแม้เธอไม่ได้จบจากสถาบันที่มีชื่อหรือเป็นลูกผู้ดีชาววังหรือไฮโซไฮซ้อก็สามารถทำอาหารที่ขึ้นชื่อต่างๆได้อย่างสวยงามและมีรสชาดเป็นเลิศทำให้หญิงสาวเป็นที่ยอมรับจากเกจิหรือนักชิมนักวิจารณ์ที่คอยให้คะแนนความน่าเชื่อถือในแวดวงธุรกิจผู้ประกอบการร้านอาหารโรงแรมและภัตตาคาร ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรและอาจารย์พิเศษในสถาบันต่างๆอยู่เป็นประจำ

    เนื่องจาก อโนมา เป็นวิทยากรพิเศษของมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ ทำให้เพื่อนรักของเธอต้องเดินทางอยู่บ่อยๆและอรุณนารีเองก็ต้องเป็นแม่คนที่สองของน้องอิ่มอุ่นไปโดยปริยายเพราะทั้งสองแม่ลูกอาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอตั้งแต่ทั้งสองสาวเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันทำให้ทั้งสองสาวสนิทสนมกลมเกลียวยิ่งกว่าพี่น้อง   คลานตามกันมาเสียอีก  หรืออาจเป็นเพราะครอบครัวของอรุณนารีมีลูกคนเดียวเธอจึงต้องการเพื่อนหรือพี่น้องพอมีอโนมาเข้ามาอาศัยร่วมชายคาจึงเป็นการเติมในส่วนที่ขาด

     อโนมา สาวน้อยจากภาคเหนือครอบครัวของเธอนั้นพ่อแม่รับราชการตำแหน่งเล็กๆอยู่ในส่วนราชการของจังหวัดแต่ด้วยความที่รักดีเรียนเก่งเธอจึงสามารถสอบชิงทุนจากรัฐบาลได้เรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐบาลและได้มาเจอกันในวันรับน้องถึงแม้เรียนคนละคณะแต่ด้วยชะตาต้องกันและนิสัยความชอบที่เหมือนกันทำให้ทั้งสองเข้ากันได้ง่ายและด้วยวาทศิลป์และรอยยิ้มอันแจ่มใสจริงใจของอรุณนารีที่ชักชวนอโนมาให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านสวนย่านชานเมืองได้ไม่ยาก เพราะใครๆก็หลงรักรอยยิ้มพิมพ์ใจของแม่แมงปอตัวน้อยที่ขยันยิ้มประจบอยู่ทุกวัน และด้วยเหตุผลของเธออีกข้อที่ขยันยกมากล่าวอ้างทุกครั้งคือ“ไม่คิดบ้างหรือว่านี่คือฟ้าลิขิตให้เรามาเจอกันและใช้ชีวิตร่วมกัน คิดดูสิขนาดชื่อเรายังขึ้นต้นด้วย อ.อ่างเมือนกันเลย อโนมา อรุณนารี”

    และอโนมาจะกล่าวล้อเลียนทุกครั้งเหมือนกันด้วยคำพูดที่ทำให้คนชวนงอนเสมอๆคือ

    “นี่แมงปอชวนเพื่อนไปอยู่ด้วยที่บ้านเหมือนหนุ่มขอสาวแต่งงานเลย แกแอบรักฉันแบบนั้นรึเปล่าเนี่ย”

    แล้วคนใจอ่อนอย่างอโนมาก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านนับแต่นั้นมาก็เกือบสิบปีแล้ว

    “ถึงเชียงใหม่แล้วนะดูแลลูกสาวดีๆล่ะแม่แมงปอแล้วจะเอาขนมอร่อยๆกลับมามาฝาก”

    อรุณนารีกดดูข้อความที่เข้ามาในเครื่องโทรศัพท์เครื่องเล็กของตัวเองแล้วถอนใจคิดว่าเย็นนี้รถคันเก่งของเธอจะซ่อมเสร็จทันไปรับลูกสาวตัวน้อยหรือไม่

    “วันนี้ไอ้สีเทามันรวนอีกแล้วล่ะแกไม่รู้จะซ่อมทันไปรับน้องอิ่มอุ่นรึเปล่า”

    เธอบ่นถึงรถโฟล์คสีเทาคันเก่งของเธอที่เป็นเพื่อนเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาวจนเป็นสมบัติที่ตกทอดมาถึงเธอและก็เป็นพาหนะที่ใช้ดีใช้ทนแต่มาช่วงหลังๆที่ขยันรวนบ่อยเหลือเกินเหมือนจะบอกว่ามันแก่เกินไปเสียแล้ว

    “เฮ้อ...ทำไงดีเนี่ย”

    คนตัวเล็กทำหน้าง้ำพลางถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้พลางรดน้ำต้นไม้ไปด้วยบ่นพึมพำไปด้วยทำให้เพื่อนสาวอดว่าไม่ได้

    “เฮ้ยแกบ่นเป็นยายแก่ไปได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยเดี๋ยวฉันไปรับน้องอิ่มอุ่นเป็นเพื่อนแกก็ได้เพราะเย็นนี้จะไปธุระแถวนั้นอยู่พอดี”

    “จริงเหรอเนตร โห...โชคดีจังเลยขอบใจแกมากเพื่อนสาว น่ารักมากๆเลยแก”

    คนเล็กพูดพลางหยิกแก้มเพื่อนสาวอย่างหยอกเย้าพลางทำหน้าตาให้น่ารักสุดๆ

    “ไม่ต้องทำมาประจบเลยแก ไหนล่ะข้าวกระเพาทะเลสุดแซ่บของฉันน่ะ”

    สาวสวยทวงถามถึงค่าจ้างที่แม่เพื่อนตัวเล็กไหว้วานให้มาดูแลร้านให้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น

    “งกซะไม่มีนังหมวยกบฏ เห็นแก่กินชะมัดเลย”

    ถึงปากจะบ่นเพื่อนแต่มือเล็กๆนั่นก็จัดแจงอาหารใส่จานให้เพื่อนอย่างเอาใจใส่

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น