คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : I'll be your bestfriend
‘กรี๊งงงงงงงงง’
เสียงกริ่งโรงเรียนดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าถึงคาบพักกลางวัน ทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งฉันก็ยิ้มปากฉีกถึงหูออกมาอย่างไม่รู้ตัวหลังจากต้องทนทำหน้าเซ็งกับสายตาเพื่อนร่วมห้องที่ผิดกับที่ฉันคาดไว้ เมื่อถึงคาบพักก็ทำให้ฉันเหมือนหลุดพ้นจากขุมนรกสู่สวรรค์ ได้พักแล้วโว้ยยยย
ฉันเก็บหนังสือวิชาภาษาอังกฤษลงในกระเป๋าเป้ใบใหญ่หลังจากจบคาบคุณครูต่างชาติ ฉันหยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และผ้าเช็ดหน้า เตรียมพร้อมลงไปกินข้าวกลางวันอย่างที่เคยทำตอนอยู่โรงเรียนเก่า หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยฉันก็หันไปหาเพลงเตรียมลงไปกินข้าวพร้อมกัน แต่เอ๋...ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าเพลงไม่ได้เอาอะไรมาเรียนเลยแม้กระทั่งกระเป๋าสตางค์แถมไม่เตรียมของลงไปกินข้าวเลยสักอย่าง นั่งรอฉันเตรียมของเฉยๆ
“เอ่อ...เธอไม่ได้เอาของมาโรงเรียนเลยหรอ”
“ก็มันขี้เกียจนี่หว่า แล้วมึงอะแบกอะไรมาเยอะแยะ” เพลงเหลือบตามองด้วยความสงสัยว่าฉันแบกหนังสือมาทำไม มาเรียนก็ต้องแบกหนังสือมาน่ะสิ ฉันแปลกตรงไหนกัน -.-
“ก็เรามาเรียน เราก็ต้องเอาหนังสือเรียนมาเรียนไง”
“โถ่ๆๆๆๆ หงส์หยกคนสวย โรงเรียนนี้มันไม่ได้โลกสวยอย่างที่มึงคิดหรอกนะ เรียกว่าคนละขั้วกับโรงเรียนเก่าของมึงเลยก็ว่าได้ แล้วกูขออะไรอย่างนึง ไอ้คำว่าเธอกับเราเนี่ยเลิกใช้ได้แล้ว คนที่นี่ถ้าสนิทกันเขาก็เรียกมึงกูกันทั้งนั้น ให้เรียกเธอกับเรามันกระดากปากอย่างไงไม่รู้ว่ะ เด็กที่นี่อะไม่ชอบคนโลกสวย กูเตือนด้วยความหวังดีนะ เดี๋ยวจะโดนพวกผู้หญิงห้องสามไม่ชอบหน้าเอา"
เพลงพูดด้วยสีหน้าไม่ได้จริงจังแต่ในแววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกหวังดีต่อฉันมาก ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปได้แต่เชื่อฟังและทำตามเพราะเพลงเป็นคนที่รักเพื่อนมากทีเดียวคงไม่มีทางปล่อยให้เพื่อนโดนทำร้ายหรือเอาเปรียบแน่นอน
เพลงหันหลังและกำลังจะเดินออกไปจากห้องเรียนที่เหลือเพียงเราสองคน เพื่อนคนอื่นลงไปกันตั้งแต่ยังไม่หมดคาบแล้ว โรงเรียนนี้คงไม่ได้ดีเลิศเหมือนที่ฉันวาดฝันจริงๆด้วย...
"ดะ เดี๋ยว เพลง"
ฉันเรียกชื่อเพลงก่อนที่เพลงจะออกไปนอกห้อง เพราะอยู่ๆฉันก็นึกถึงคำถามที่ค้างคาใจตั้งแต่เช้าแล้ว
"ทำไมเมื่อเช้าเธอ เอ้ย มึงต้องมาจิกผมกูตอนที่กูคุยกับผู้ชายที่ชื่อตี้ด้วยล่ะ อย่าบอกนะว่า..."
แม้มันจะดูเลวร้ายสำหรับฉันมากที่จะต้องกัดปากพูดคำหยาบที่ไม่เคยหลุดออกจากปากฉันสักคำตั้งแต่เกิดยันอายุสิบเจ็ดแต่ก็ต้องทนพูด อีกไม่นานก็คงชินแหละมั้ง
“อ๋อ กูกับไอ้ตี้ไม่ใช่แฟนกันหรอก แต่กูต้องคอยห้ามผู้หญิงทุกคนที่มายุ่งกับตี้ จนคนอื่นคิดไปต่างๆนาๆว่ากูกับตี้เป็นแฟนกัน ถ้าใครมาพูดก็อย่าไปฟังนะ”
“แล้วทำไมต้องห้ามไม่ให้ยุ่งกับตี้ด้วยล่ะ”
“เออน่า อย่าถามมากเลย จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอก กูต้องคอยห้ามผู้หญิงคนอื่นมายุ่งกับมันเฉยๆ แต่ไหนๆมึงก็มาเป็นเพื่อนกับกูแล้ว แล้วกูก็เป็นเพื่อนไอ้ตี้เหมือนกัน กูยกเว้นมึงคนนึงแล้วกัน มึงก็ทำความรู้จักไอ้ตี้ไว้ซะ ไอ้นี่มันกวนตีนหน่อย อย่าไปถือสา”
ที่แท้แล้วเพลงก็เป็นเพลงคนสวยที่หมอนั่นพูดถึงเมื่อเช้านั่นเอง
“แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอตี้ล่ะ หวังว่าคงไม่ได้เจอกันมากใช่มั้ย คงเจอแค่ตอนเลิกเรียนใช่มั้ย” ฉันถามเพลงอย่างมีความหวัง ถ้าจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับหมอนั่นคงลำบากแย่ -*-
“ไม่ใช่แน่ กูกับไอ้ตี้ตัวติดกันแทบทั้งวัน แยกกันแค่ตอนเข้าห้องเรียนเท่านั้นแหละ ว่าแต่มึงกับกูอะรีบลงไปกันได้แล้ว ไอ้ตี้คงรอนานแล้ว”
และแล้วคำตอบที่ฉันไม่อยากได้ยินก็ออกมาจากปากเพลงจริงๆด้วย อยู่ด้วยกันทั้งวันแถมกำลังจะลงไปเจอหมอนั่นที่รอเราสองคนไปกินข้าวกลางวันพร้อมกันอีกต่างหาก แง้ TT
โรงอาหารที่โรงเรียนนี้ก็ไม่แตกต่างจากโรงเรียนเก่าฉันมากนัก โต๊ะอาหารไม้แนวยาวนั่งได้ประมาณสามถึงสี่คน ร้านอาหารเรียงรายรอให้นักเรียนมารุมซื้ออาหารร้านของตน ถ้าไม่นับเรื่องนักเรียนที่นั่งกินอาหารกันอย่างไม่เกรงใจใคร บ้างก็นอนบนโต๊ะ บ้างก็ถอดรองเท้าไว้บนโต๊ะอาหารแล้วกินข้าวไปด้วย บ้างก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบกันอย่างสำราญ -0- ที่นี่ก็ดูปกติมาก!!!
“อีเพลงทำไมชักช้าจังวะ กูหิวข้าวแล้วเนี่ยต้องรอมึง”
เสียงเดิมที่คุ้นเคยทักทายเพลงอย่างไม่สบอารมณ์เพราะคงนั่งรอมานานตั้งแต่ยังไม่จบคาบเรียน ฉันยืนอยู่ด้านหลังเพลงเพราะไม่อยากเห็นหน้าหมอนั่นสักเท่าไหร่
“โทษแล้วกัน พอดีอีหงส์หยกเพื่อนใหม่กูชักช้ากว่าจะลงมาได้เก็บของเป็นปีเลย”
จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้เก็บของช้ามากนักหรอกหน่า -..- นี่ก็เร็วกว่าที่โรงเรียนเก่าตั้งสามนาทีแล้วนะ
“เห้ยๆๆ มึงมีเพื่อนใหม่ด้วยหรอ ชื่อหงส์หยกด้วย สวยมั้ยอะ ไม่เห็นพามาให้กูเห็นเลย”
“ก็กำลังจะพามานี่ไงเล่า อีหงส์หยก มึงจะหลบหลังกูทำไม บอกแล้วไงว่าจะพามาหาไอ้ตี้”
เพลงดึงแขนฉันให้ไปยืนอยู่ข้างหน้า เพื่อที่จะได้เห็นหน้าตี้
ฉันอยากเห็นมากมั้ง! เห็นมาเมื่อเช้าก็ปวดหัวมากพอ
“เห้ยเธอ!! ยัยแว่นเมื่อเช้า!!”
ความคิดเห็น