“ปรากฏการณ์รหัสลับดาวินชี่” (The Da Vinci Code Theory)

กล่าวกันว่า เมื่อคุณเริ่มเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ศรัทธาจะเป็นผลที่เกิดขึ้นตามมา  

        เมื่อไม่นานมานี้ เจ. เค. โรว์ลิ่ง เคยสร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ ด้วยการสร้างพ่อมดน้อย แฮรี่ พอตเตอร์  พ่อมดน้อย แฮรี่ พอตเตอร์ สามารถสร้างกระแสศรัทธาให้กับผมและแน่นอนว่ากับอีกหลายๆคน และแล้ว เจ. เค. โรลลิ่ง ก็พานวนิยายอันเป็นผลงานชิ้นยอดเยี่ยมของเธอ สร้างชื่อเสียงและเงินทองมากมาย

        และตอนนี้ แดน บราวน์ กำลังที่จะก้าวทับรอย เจ. เค. โรลลิ่ง อีกครั้ง ด้วยนวนิยายระดับชั้นบรมครูของเขาอย่าง รหัสลับดาวินชี่ หรือ The Da Vinci Code

        แดน บราวน์ ทำสำเร็จ ตอนนี้เขากลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมากไปด้วยเงินทอง ทั้งจากยอดหนังสือ  ที่มียอดขายกว่า 50 ล้านเล่มและภาพยนตร์ที่ได้สร้างกระแสอื้อฉาวกันไปแล้ว

        หากแต่สิ่งที่เขาไม่สามารถกระทำได้อย่าง เจ.เค.โรลลิ่ง คือการสร้าง  ศรัทธา  ให้เกิดแก่แฟนหนังสือบางคน  ซึ่ง รวมทั้งผม หลังจากที่ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ ก็จะให้เกิดศรัทธาได้อย่างไรในเมื่อเพื่อการเขียนหนังสือเล่มนี้  เขากล้ากุเรื่ององค์กร  เดอะ ไพเออรี่ออฟไซออน  ขึ้นมาได้อย่างไร้สาระ รวมทั้งปลุกเอาบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง  ลีโอนาโด ดาวินชี่, เซอร์ ไอแซก นิวตัน, บอตติเชลลิ และ วิคเตอร์ อูโก้ มาร่วมเป็นหนึ่งในตัวละครที่ช่วยสร้างสีสัน  นี่ ทั้งยังไม่รวมข้อกล่าวหาที่ว่าจักรพรรดิคอนสแตนตินผู้ยิ่งใหญ่ได้กลายเป็นพวกนอกศาสนา หรือแม้แต่กุเรื่องที่โกหกเกี่ยวกับความเป็นมาของโฮลี่เกรล ฯลฯ

        แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ นวนิยายเชิงประวัติศาสตร์ทำเช่นนี้ตลอดเวลา ก่อนหน้า รหัสลับดาวินชี่  ก็เคยมีนวนิยายหลายเล่มเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่อ้างกันว่าเป็นความลับที่ทางคริสต์ศาสนจักรต้องการจะปกปิด แต่ว่าสำหรับ รหัสลับดาวินชี่ ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ผู้อ่านนวนิยายเล่มนี้จำนวนมาก ยอมรับทฤษฎีประวัติศาสตร์ที่นำเสนอในหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นความจริงและถูกต้อง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมผู้อ่าน  ไม่ว่ามีใครจะพยายามป่าวประกาศซักเท่าไหร่ว่า มันเป็นแค่นิยาย แต่ความจริงก็คือ ผู้อ่านหลายคนต่างก็เชื่อว่าเขากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฏีทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือจากนวนิยายเล่มนี้

        ทั้งๆที่จริงๆแล้ว สิ่งที่นำเสนอใน รหัสลับดาวินชี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูกับนางแมรี่ แม็กดาลีน , เดอะ ไพเออรี่ออฟเดอะไซออน หรือแม้แต่วัตถุประสงค์ในงานศิลปะของลีโอนาโด ดาวินชี่ ไม่มีเรื่องอะไรในหนังสือเล่มนี้ที่เป็นที่ยอมรับจากนักวิชาการเลย

---