ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราได้พบกัน
เด็กสาวผู้มีนามว่า ราตรี ในอดีตกาล เธอเคยเป็นคนรักของชายหนุ่มเรือนผมยาวสีแดง แต่แล้วความตายก็ได้พรากทั้งสองออกจากกัน เธอจึงได้เกิดใหม่อีกครั้งพร้อมกับภารกิจที่ต้องตามหาเขา
ผู้เข้าชมรวม
174
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เสียงอันนุ่มนวลชวนฝันของเด็กนุ่มคนหนึ่งเอ่ยชื่อของเด็กสาวร่างบาง ดูเหมือนว่าจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับเด็กสาวนามว่า ‘ราตรี’
“อ่า...นายรู้ชื่อฉันด้วยเหรอ?”
เด็กสาวเอ่ยปากถามอีกฝ่ายด้วยความึนงง
“รู้จักสิ...รู้จักมากๆด้วย”
เด็กหนุ่มเรือนผมยาวสีแดงได้เอ่ยบอกกับราตรีด้วยน้ำเสียงผิดหวังปนเศร้า(?)
“แล้ว...นายเป็นใครงั้นเหรอ?”
ราตรีพยายามที่จะถามซักไซ้อีกฝ่าย แน่ล่ะ วัยนี้ก็เป็นวัยกำลังอยากรู้อยากเห็นด้วยสิ
“ฉัน..เชียรไง...”
เขาพูดพลางมองหน้าราตรีด้วยสายตาขุ่นเคืองใจนิดๆ ว่าทำไมถึงจำคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตนเองไม่ได้
“เชียรงั้นเหรอ...อืม ฉันคิดว่า ฉันไม่เคยรู้จักคนชื่อเชียรมาก่อนนะ”
“...............”
เชียรเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกุุมมือของราตรีไว้แน่น
“เธอจำฉันไม่ได้ไม่เป็นไรนะ...ยังไง ฉันก็ยังรักเธอเหมือนเดิม”
ราตรีพยายามที่จะนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า แต่ทำไมกันนะ ความทรงจำของเธอทั้งหมด มันว่างเปล่า...
“...ขอโทษด้วยนะ..นายคงจำคนผิด”
ราตรีรับสะบัดมือของอีกฝ่ายออกแล้วเดินลุกหนีมาให้ห่างจากตรงนั้นมากที่สุด
เธอทิ้งให้เด็กหนุ่มนั่งเหม่ออยู่ลำพัง.....
“บ้าที่สุด! เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉันกันแน่!?”
ไม่ว่าจะทำยังไง ตนก็คิดไม่ออกเสียที
“เธอมันน่าผิดหวังที่สุดเลยราตรี...”
เสียงเล็กแหลมอันคุ้นหูได้เอ่ยขึ้นจากด้านหลังของเด็กสาว เสียงนั้นพูดขึ้นชวนให้เคืองระอา
ควับ!
ราตรีรีบหันกลับไปมองเพื่อหาต้นตอของเสียงนั้น..
“อ...เอ๋!?”
แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจกับภาพที่เธอเห็นตรงหน้า
ศพมากมายตายเรียงรายเกลื่อนเต็มพื้น กลิ่นเลือดคาวคลุ้งแตะจมูกจนทำให้แทบอยากจะอาเจียนออกมา
“หึๆๆ~:)”
สิ่งที่ราตรีเห็นตรงหน้าคือ..ร่างของเธอเอง แต่มันดูต่างออกไป เหมือนมันเป็นอีกตัวตนนึงของเธอ
“...นั่นฉันนี่...”
สภาพตัวตนอีกตัวตนหนึ่งของราตรี ในตอนนี้เธอคนนั้นเหมือนไม่ใช่ราตรี แต่เป็น ‘ฆาตกรเลือดเย็น’ ต่างหากเล่า
“ใช่แล้ว~ ฉัน-คือ-เธอ:)”
“ม...ม....ไม่จริง!? ฉันไม่มีทางฆ่าคนได้หรอกนะ!!!!”
“แต่ว่านะ...เธอนั่นแหละ ฆาตกรตัวดีเลยหึๆ~”
เด็กสาวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว..ปมในใจของเธอและแผลในใจพวกนั้น เธอกลับไม่ลืมมัน ทำไมกันนะ..ทั้งๆที่เรื่องที่เจ็บปวดรวดร้าวมากแค่ไหน แต่ในใจมันก็ยังไม่เคยลืมเลือน อดีตที่น่าเศร้าที่สุด...
“ฉัน...ไม่ได้ฆ่าใคร...”
“ยัยโง่! ตื่นจากฝันลมๆแล้งๆนี้ได้แล้ว!?”
“ฮึก...ฮือ...ฮึกๆ~! ”
เด็กสาวสะอื้นร่ำไห้ออกมาไม่หยุด ในใจของเธอรู้ดีว่าถึงแม้จะหลีกเลี่ยงคำกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ยังไงตนก็หนีไม่พ้น
“ฉ...ฉันไม่อยากได้อนาคตแบบนี้!?”
“งั้นก็จงเลือกเส้นทางของเธอซะสิ...”
ตัวตนของเธอพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่สายตาบ่งบอกถึงความกระหายเลือด
“ฉ..ฉันต้องทำไง..”
“ฉันรู้ ในใจเธอน่ะ..ยังไม่ลืมเขา และยังรักเขา ถึงแม้เธอจะความจำเสื่อมไปชั่วคราวก็เถอะ”
“...ใช่..ฉันรักเขาคนนั้น แต่ยังไงฉันก็ยังจำไม่ได้อยู่ดีว่าเขาเป็นใคร”
“งั้น..ถ้าอยากรู้คำตอบ ก็จงตามหาชายคนที่เป็นที่รักเสียเถิด และหยุดเขาซะก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินแก้ไข”
“แล้วฉันจะรู้ได้ไง ว่าเขาคนนั้นอยู่ไหน แล้วคือใคร”
“ง่ายๆเอง...”
“เขาก็อยู่กับเธอตลอดเวลานั่นแหละ...”
ก่อนที่จะสิ้นเสียงของอีกฝ่าย เธอได้พูดคำนึงออกมาเบาๆ แต่ประสงให้ราตรีได้ยิน
‘จงตามหา...ชายผู้มีเรือนผมสีแดงยาว..’
.
.
.
.
.
.
.
.
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!
เสียงปลุกของนาฬิกาดีงขึ้นในยามเช้าอรุณ
“ฝันแบบนี้อีกแล้ว..”
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อราตรี ฉันก็เป็นแค่เด็กสาวมัธยมปลายธรรมดาๆนี่แหละค่ะ แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือ....
‘ฉัน..สามารถมองเห็นและจับต้องวิญญาณได้’
แม่ฉันเคยบอกว่า..ตระกูลของเราเป็นตระกูลเชื้อสายที่สืบทอดกันมา ในอดีตตระกูลของฉันเป็นตระกูลที่มีอาถรรพ์ครอบครองไว้ และเป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุด..
และใช่..ฉันคือทายาทสืบทอดเชื้อสายอาถรรพ์นั้นเอง
แต่ฉันไม่ได้ต้องการมันซักหน่อยนะ!?
ใครจะไปอยากได้มันล่ะ ความปรารถนาของฉันคือการได้ใช้ชีวิตแบบอิสระและเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วๆไป
แต่ฉันก็ได้รับพลังนี้จนได้=^=)
พลังที่คนทั่วไปยากจะมี มันก็คือ ‘ญาณอาถรรพ์’ ยังไงล่ะ
“ราตรี ตื่นยังลูก”
“ตื่นแล้วค่ะแม่~”
“ไปอาบน้ำแต่งตัวเลยนะ แม่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้วล่ะจ้ะ”
“โอเคค่ะ!~”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
*หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ*
“ค่อยๆกินนะลูก”
“ค่าาา~”
ฉันค่อยๆกินอาหารเช้าที่คุณแม่เตรียมไว้ให้ มันอร่อยมากๆเลยล่ะ..~
‘รายงานข่าวเช้าวันนี้นะครับ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. ×××× นะครับ ที่โรงเรียนไอรินวิทยาในเวลา 20:39 น. ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างไร้สาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า นักเรียนที่ทำกิจกรรมที่นั่นได้เสียชีวิตทั้งหมด เหลือแค่นางสาวลัลทริมา วิกรานต์วรศิษย์ ที่เหลือรอดเพียงคนเดียว ทางตำรวจยังชี้แจงไม่ได้ว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ไง..’
“อ่า...แม่คะ...หนูไปโรงเรียนก่อนนะคะ”
“อื้ม โชคดีนะลูก”
“ค่ะ..”
ฉันรีบเดินออกจากบ้านทันที....
ข่าวนั้นอีกแล้วเหรอ ฉัน...เฮ้อ~!
เอาเป็นว่า...ฉันไม่อยากรับรูู้เกี่ยวกับไอรินวิทยาอีกต่อไปแล้ว..
ผลงานอื่นๆ ของ hninwai1506 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ hninwai1506
ความคิดเห็น