ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chip(มัน)หาย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : Chip แทนใจ(rewrite 100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 636
      0
      6 เม.ย. 49

                    ประตูบ้านถูกเปิดออกโดยเด็กหนุ่มในเครื่องแบบนักศึกษา ผู้มีผมยาวระคอสีน้ำตาล เขาก้าวเท้าเข้ามาในบ้านพร้อมกับปิดประตูลงเบา ๆ

    "
    พ่อ ทำอะไรน่ะ?" เด็กหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยทักขึ้น

                    แต่กลับไม่มีเสียงตอบจากชายสูงวัยที่นั่งหันหน้าเข้าหาโต๊ะทำงานรก แลดูไม่เป็นระเบียบ มีทั้งกระดาษ เครื่องเขียน และอุปกรณ์สำนักงานต่าง วางอยู่เกลื่อนกลาด  

    "
    พ่อ......" เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ผู้เป็นลูกจึงลากเสียงยาว แล้วเดินวนไปวนมารอบ โต๊ะทำงานตัวใหญ่ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางบ้านที่ไม่มีโต๊ะและโซฟารับแขกเหมือนกับบ้านหลังอื่น ๆ เขายังคงไม่ลดละความพยายามในการเรียกร้องความสนใจจากพ่อ 

        
    อาเลียส ไรเซน วัย 18 ปี นักศึกษาพันธุวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 อาศัยอยู่กับพ่อหรือศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์ เอียมุส ไรเซน ผู้เป็นอัจฉริยะด้านสิ่งประดิษฐ์ทางการแพทย์ ในบ้านหลังน้อยที่ตอนนี้ทุกซอกทุกมุมกลายเป็นสถานที่ทำงานไปหมดไม่เว้นแม้แต่ห้องครัว และ ห้องน้ำ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยกระดาษและแฟ้มรายงานวางกระจายเกลื่อน

    "
    พวกมัน!" จู่ ผู้เป็นพ่อก็ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น ทำเอาอาเลียสที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับสะดุ้งพลันกระโดดถอยห่างออกไปสองก้าว

    "
    พวกไหนพ่อ?" เมื่อลูกชายตั้งสติได้แล้วจึงถามด้วยเสียงกวน กลับไป

    "
    พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน" ชายสูงวัยผู้มีผมสีดอกเลาพันกันยุ่งเหยิงเหมือนกับมีรังนกอยู่บนศีรษะหันมาตอบลูกชาย ด้วยท่าทีที่งุนงงแกมโมโห แล้วเล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้ประสบมาในวันนี้อย่างละเอียด น้ำเสียงยังคงแสดงความขุ่นเคืองอยู่ไม่หาย "ตอนบ่ายพ่อมีประชุมที่สถาบันวิจัยของรัฐ พอกลับมาเห็นประตูบ้านไม่ได้ล็อค พ่อก็นึกว่าลูกกลับมาแล้ว แต่ตะโกนเรียกตั้งหลายทีก็ไม่เห็นตอบ พอมองไปที่ห้องทำงานเท่านั้นแหละ ลมแทบจับ โต๊ะทำงานของพ่อถูกรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจายเกลื่อน"


    "
    หา!?...บ้านเราถูกงัดเหรอ?!!" อาเลียสโพล่งออกมาด้วยความตกใจ "แย่ล่ะสิ...เงินที่ผมได้มาจากการทำงานพิเศษเมื่อวานยังไม่ได้เอาไปฝากธนาคารเลย เก็บไว้ใต้หมอนในห้องนอน โดนมันขโมยไปแล้วแน่ ๆ โธ่...เงินเก็บที่น่ารักของฉัน"

    "
    โธ่เจ้าบ้า จะโศกาไปถึงไหน!...เศษเงินจิ๊บจ๊อยของแกมันไม่สนหรอก...มันทำแสบกว่านั้น...ด้วยการขโมยชิพที่พ่อเพิ่งทดลองสำเร็จไป" ท่านด๊อกเตอร์กำหมัดแน่นด้วยความรู้สึกโกรธแค้น


    "
    ชิพ?...ชิพไหนฟะ" อาเลียสพึมพำ เขาลูบคางทำท่านึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าพ่อของเขาจะหัวเสียมากขนาดไหน "ชิพที่พ่อบอกว่า ใช้ฝังในตัวคนไข้เพื่อรักษาโรคพาร์กินสันนั่นน่ะเหรอ"

              Parkinson's Disease
    เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท มีสาเหตุมาจากการขาดสารโดปามีนในสมอง เนื่องจากสมองส่วนหนึ่งที่ชื่อ Substantia nigra ซึ่งมีหน้าที่สร้างสารโดปามีนนั้นเสื่อมสภาพลงจนไม่สามารถสร้างสารเคมีดังกล่าวได้อีกต่อไป ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการสั่นเมื่อใช้ความตั้งใจในการทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างใจจดใจจ่อ เคลื่อนไหวช้า พูดช้า และไม่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า


    "
    ยังไม่ทันได้จดลิขสิทธิ์เลย" เอียมุสกุมศีรษะอย่างหัวเสีย

    "
    ไม่เป็นไรน่าพ่อ เรื่องโดนก๊อบปี้งานเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติไปแล้ว ปลงซะเถอะ" อาเลียสพยายามจะปลอบใจแต่คำพูดของเขาไม่ได้ช่วยทำให้เหตุการณ์ที่กำลังเลวร้ายอยู่ในขณะนี้กลับดีขึ้นมาได้เลยแม้แต่น้อย

    "
    พูดง่าย ๆ แบบนั้นได้ยังไง นั่นมันนวัตกรรมใหม่ของพ่อเชียวนะเฟ้ย ไอ้อาเลียส" เอียมุสยังคงเสียดาย มันอาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อยในการทำใจ

    "
    เอาน่า พ่อฉลาดจะตายนั่งเล่นนอนเล่นเดี๋ยวเดียวก็คิดชิพตัวใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่าได้แล้ว" อาเลียสเปลี่ยนจากการปลอบใจเป็นเอาใจแทน และผลของมันก็ออกมาดีเสียด้วย

    "
    แกนี่พูดดีแฮะ" เอียมุสเคลิ้มไปกับคำเยินยอของลูกชายได้ไม่นาน เสียงของเขาก็กลับมาเคร่งเครียดเหมือนเดิม "แต่แกไม่รู้อะไร..."

    "
    แล้วอะไรอีกล่ะพ่อ" อาเลียสถามกวนอีกครั้ง เขาเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและชักไม่อยากจะคุยกับพ่อเรื่องชิพอีกแล้ว มันก็แค่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นเล็ก ๆ สร้างขึ้นมาใหม่เสียก็สิ้นเรื่อง 

    "
    ที่พ่อทุ่มเทประดิษฐ์ชิพรักษาโรคพาร์กินสัน...ก็เพื่อแม่แก" น้ำเสียงของพ่ออ่อนลงทันที คิ้วที่ขมวดเป็นปมก็เริ่มคลายออก

        
    แม่ของอาเลียสป่วยเป็นโรคไตและได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็กอายุเพียง 4 ขวบ ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับแม่มากนัก และความทรงจำที่มีต่อแม่ในช่วงเวลานั้นก็ลางเลือนเต็มที

    "
    เพื่อแม่?" อาเลียสทวนคำพูดของพ่อด้วยความไม่เข้าใจ ถึงคราวที่คิ้วของเขาจะขมวดเข้าหากันบ้างแล้ว

    "
    ใช่...ตอนนั้นแม่แกป่วยหนัก เป็นหลายโรค นอกจากโรคไตแล้ว ยังป่วยเป็นพาร์กินสันอีกด้วย ตอนนั้นพ่อให้ไตกับแม่ไม่ได้เพราะ เรามีเลือดคนละหมู่กัน แต่พ่อก็ได้ให้สัญญากับแม่แกว่า พ่อจะหาวิธีรักษาโรคพาร์กินสันให้หายขาดให้ได้ และนั่นคือสิ่งที่พ่อพยายามทำมาตลอด เพื่อแม่ของแกคำพูดของพ่อทำให้อาเลียสถึงกับน้ำตาซึม 

        
    คืนนั้นอาเลียสมายืนอยู่ที่ดาดฟ้าของบ้าน ในใจคิดเรื่องของพ่อกับแม่ คิดถึงความรักที่ไม่น่าเชื่อว่าชายบ้างานคนหนึ่งจะมีให้กับภรรยาได้มากมายถึงเพียงนี้ เขามองออกไปจากดาดฟ้านั่นเป็นทิวทัศน์สวยงามยามค่ำคืนที่ความดำมืดถูกประดับประดาด้วยแสงไฟจากบ้านเรือน จากถนนและจากยานพาหนะ เกิดเป็นความสว่างไสวของเมืองอาร์มาดา มหานครอันรุ่งเรือง เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรโรว์แลนด์  

                    โรว์แลนด์ หรือประเทศโรว์ ผืนแผ่นดินที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ถึงแม้จะมีเนื้อที่น้อยนิดสักเพียงไหน อาณาจักรแห่งนี้ก็มีดีพอจะครองตำแหน่งมหาอำนาจในทวีปตะวันออกได้อย่างเหนียวแน่น และยาวนาน เนื่องจากรัฐบาลสามารถบริหารประเทศโดยคงความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่ไปกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

                    ระบอบการปกครองของโรว์แลนด์ คือ ระบอบประชาธิปไตย มีพระราชาเป็นประมุข แต่ถึงกระนั้นก็ตามเจ้าเหนือหัวก็จำเป็นต้องอยู่ภายใต้อำนาจกฎหมายเช่นเดียวกับประชาชน
                    ประเทศพันธมิตรของโรว์แลนด์มีมากมายจากหลายทวีป ไม่ว่าจะเป็นขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ และทวีปคาเมรินเกาะขนาดใหญ่กลางมหาสมุทร ซีราครูส ซึ่งคั่นกลางระหว่างทวีปตะวันตกและทวีปตะวันออก เป็นที่น่าสังเกตว่า ในหมู่ประเทศพันธมิตรจำนวนมากเหล่านี้ ไม่มีประเทศจากทางทวีปตะวันตกเลยแม้แต่ประเทศเดียว ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าแปลกแต่อย่างใด เนื่องจากประเทศทางฝั่งตะวันตกนี้ได้ปิดตัวเอง โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับประเทศนอกทวีป ด้วยเหตุผลที่ต้องการจะพัฒนาประเทศด้วยตัวเอง และไม่ต้องการให้ประเทศจากต่างทวีปเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยไม่ว่าเรื่องใดทั้งสิ้น

             
    ทวีปตะวันตกมีประเทศวาโทเนียและคาราห์น เป็นสองประเทศที่นับได้ว่าเจริญที่สุดในทวีป อย่างไรก็ตามประเทศทั้งสองยังคงต้องพัฒนาขึ้นอีกมาก กว่าจะถึงระดับที่สามารถเรียกได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วได้

                    ประเทศวาโทเนีย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีป มีความเจริญทางเทคโนโลยีสูงกว่าประเทศอื่น ๆ แต่กลับขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึงน้ำมันเชื้อเพลิง และพลังงาน ทำให้ประเทศแห่งนี้จำเป็นต้องนำเข้าทรัพยากรพลังงานจากคาราห์นประเทศเพื่อนบ้านผู้ร่ำรวยเชื้อเพลิง

                    เรื่องระบอบการปกครองของประเทศวาโทเนียนั้น หลังจากกษัตริย์ ซาน เสด็จสวรรคต รัชทายาทแห่งราชวงศ์กลับไม่ได้ขึ้นครองราชย์ เพราะถูกคณะปฏิวัติทำรัฐประหารเปลี่ยนระบอบการปกครองจากประชาธิปไตยเป็นเผด็จการ โดยมี นายพลลีฮาน เป็นผู้นำประเทศ

                    ส่วนคาราห์น ประเทศเล็ก ๆที่ร่ำรวยเชื้อเพลิง เป็นแหล่งพลังงานเพียงแหล่งเดียวของทวีป อยู่ทางตอนใต้ถัดไปจากประเทศวาโทเนีย มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายแห้งแล้งและกันดาร ด้วยเหตุนี้เองประเทศคาราห์นจึงไม่สามารถประกอบกิจการอื่นใดได้นอกจากผลิตเชื้อเพลิงเพื่อจำหน่าย เมื่อมีหนทางสร้างรายได้เข้าประเทศอยู่เพียงทางเดียวจึงเป็นการบีบให้ประเทศนี้ต้องกำหนดราคาขายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นมูลค่าที่ค่อนข้างสูง
                    ระบอบการปกครองของคาราห์นเป็นแบบสังคมนิยมประชาธิปไตย โดยมอบเสรีทางการค้าให้กับประชาชน แต่กิจการธุรกิจเชื้อเพลิงและพลังงาน จะต้องขึ้นโดยตรงกับรัฐ

             
    ทว่า...เมื่อเวลาผ่านไปประเทศวาโทเนีย มีความร่ำรวยและเจริญก้าวหน้ามากขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ในขณะที่ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างคาราห์นกลับยากจนลงอย่างน่าสงสัย...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    ----------------------------------------------------
    มีอันต้องรีไรท์เสียแล้ว ภาษาดูดีขึ้นรึยัง?

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×