ความฝันของฉันมีแต่...เบคซึงโจ - ความฝันของฉันมีแต่...เบคซึงโจ นิยาย ความฝันของฉันมีแต่...เบคซึงโจ : Dek-D.com - Writer

    ความฝันของฉันมีแต่...เบคซึงโจ

    พอดีว่าครูภาษาไทยให้แต่งเรื่องสั้นส่ง พอดีว่าอยากลองๆลงเด็ดดีมั้ง มันอาจไม่นุกขอโทดด้วยนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    402

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    402

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ส.ค. 53 / 04:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      “ครูดีใจด้วยนะจ๊ะ เราน่ะได้ทุนไปเรียนต่อที่เกาหลี” นั้นคือคำพูดของคุณ

      ครูที่พูดกับฉันก่อนที่ฉันจะมาเกาหลี

                      หนาว นั้นคือความรู้สึกฉันในตอนนี้ ฉันยืนตากลมมาได้ 3

      ชั่วโมงกว่าแล้ว แต่คนที่ฉันรอเจออยู่กับยังไม่มีวี่แว่วจะกลับมาบ้านของ

      เขาเลย ไฟของรถยนต์ส่องมาแต่ไกล ทำให้ฉันรีบวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้

      เพื่อที่มันจะได้บังฉันจากผู้ชายคนนั้น คนที่ฉันดักรอเจอ ‘เบคซึงโจ’ เขา

      เป็น...นักร้องในดวงใจของฉัน รถของพี่ซึงโจขับผ่านผ่านพุ่มไม้ที่ฉัน

      แอบอยู่เพียงนิดเดียวรถก็จอด จอดทำไมกันนะพี่ซึงโจเป็นอะไรหรือป่าว

      นะทำไมถึงได้จอดรถ รถจอดได้สักพักฉันก็ได้ยินเสียงรถขับเข้าบ้านไป

      ฉันยือรออยู่หน้าบ้านของพี่ซึงโจอีกครึ่งชั่วโมง ไฟทั้งบ้านก็ดับหมด แปล

      ว่า พี่ซึงโจนอนแล้วซินะ “ฝันดีนะคะพี่ซึงโจ” ฉันพูดออกไปตรงที่เดิม ที่

      หน้าบ้านพี่ซึงโจ ที่ฉันมักมารอพี่ซึงโจกลับบ้านทุกวัน วันนี้ก็เช่นทุกวันที่

      ฉันมักมายืนรอพี่ซึงโจกลับมาบ้าน รอจนกว่าไฟในบ้านดับฉันจึงกลับ ‘มืด

      จนได้’ ฉันคิดในใจ นี้ก็สองทุ่มแล้ว ฉันควรกลับห้องได้แล้ว อากาศข้าง

      นอกทำไมมันถึงได้หนาวอย่างนี้นะ


                      ฉันชื่อว่า
      ‘ออยล์’ ใช่แล้วฉันเป็นคนไทยแท้ๆแต่ฉันมาได้ทุนมา

      เรียนต่อที่เกาหลี และ นักร้องที่ฉันชอบมากๆคือ พี่ซึงโจนั้นเอง ทุกคนมัก

      ชอบมองฉันว่า ‘บ้า’ ทำไมน่ะเหรอก็ฉันชอบมายืนรอพี่ซึงโจกลับบ้านทุก

      วันน่ะซิ ฉัน ‘ไม่สน’ หรอกกับความคิดพวกนั้น เพราะฉันคงไม่สามารถทำ

      ให้คนพวกนั้นเปลี่ยนความคิดได้หรอก ที่จริงฉันเองก็แคร์ความรู้สึกคน

      พวกนั้นนะ แต่ถ้าฉันทำตามอย่างที่พวกนั้นคิด คิดเหรอว่าจะไม่มีคนไม่

      ชอบฉันอีก เพราะฉะนั้นฉันจึงคิดว่า ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามอย่างที่คน

      อื่นคิดว่าดี ทำไมฉันถึงได้คิดอย่างนั้นนะเหรอ เพราะคนเราน่ะได้ขึ้นชื่อว่า
      ‘เรื่องมาก’ นะซิ ถ้าฉันทำตามความเห็นของคนอื่นที่...คนอื่นนคิดว่าดี ฉัน

      ก็เหนื่อยซิ เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ บางทีเราไม่จำเป็นต้องแคร์คนอื่น

      มากมายหรอก การเป็นตัวของตัวเองนั้นอาจทำให้เรามีความสุขกับการใช้

      ชีวิต ที่ครั้งหนึ่งเราได้เกิดมาป็นคนก็ได้ แต่ก็ใช่ว่า...การเป็นตัวของตัวเอง

      แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนนะ แบบนั้นอย่าเลย ถ้าเป็นตัวของตัวเองแล้ว

      ให้ผู้คนรอบข้างเดือดร้อน ถึงเราจะสบายใจ แต่เราอาจไม่มีความสุขหรอก

      กับการที่ผู้คนรอบข้างประณามว่าเรา ฉะนั้น การเป็นตัวของตัวเอง ควรเป็น

      อย่างที่อย่าใครคนรอบข้างเดือดร้อน

                      ดังนั้น การที่ฉันจะรักพี่ซึงโจ มันคงไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

      หรอก จริงไหม
       


                       เย็นวันนี้ก็อีกวันหนึ่งที่ฉันได้มายืนรอพี่ซึงโจกลับบ้าน ฉันมา

      ยืนรอตั้งแต่หกโมง ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วพี่ซึงโจก็ยังไม่มา หิมะเริ่มลง

      ปรอยๆ ทำให้หนาวขึ้นไปอีก
      ----ฉันยืนรอพี่ซึงโจอีก สองชั่วโมงพี่ซึงโจก็

      ยังไม่มา ทำไมช้าจังนะ หิมะตกหนักกว่าตอนแรกแล้วนะ มันทำให้ตัวฉัน

      แข็ง จนเริ่มชาแล้วล่ะ อากาศหนาวมากๆเลยสำหรับฉันที่ซึ่งเคยอยู่ในเมื่อ

      งร้อนมาตั้งแต่เกิดเนี่ย----ครึ่งชั่วโมงผ่านไป แสงไฟรถยนต์สว่างแล้ว มา

      แล้ว มาแล้ว พี่ซึงโจมาแล้ว ฉันต้องรีบหลบที่หลังพุ่มไม้ รถของพี่ซึง

      โจจอดตรงพุ่มไม้ที่ฉันอยู่ ยังไม่ทันที่ฉันจะคิดอะไรเสียงเปิดแล้วปิดประตู

      รถก็ดังขึ้น

      “เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนั้น ไม่หนาวหรือไง ทำไมไม่กลับบ้าน”
       
      อย่าบอกนะว่าพี่ซึงโจคุยกับฉัน เขาเห็นฉันแล้วเหรอเนี่ย

      “ออกมาได้แล้ว ฉันรู้ว่าเธอแอบอยู่ตรงพุ่มไม้นั้น”

      จริงด้วย พี่ซึงโจเห็นฉันแล้วจริงๆด้วย ฉันจึงออกจากหลังพุ่มไม้ไปเผชิญ

      หน้ากับพี่ซึงโจที่ยืนมองฉันอยู่ด้วยสายตาที่ผู้ใหญ่ดุเด็ก

      “มะมี อาไร หรือ ป่าว คะค่า”

      พูดไปเสียงสั่นไป ทำไมอากาศถึงได้หนาวอย่างนี้นะ ‘กึกๆๆ กึก กึกๆ’ นั้น

      คือเสียงฟันของฉันเอง ฉันพยามแล้วนะที่ไม่ให้มันสั่นเนี่ย

      “เฮ้ย...ให้ตายซิ รู้ว่าอากาศหนาวแล้วมายืนรอทำไมกันนะ เข้ามาข้างใน

      ก่อนเดี๋ยวหากาแฟให้ดื่ม”

      แล้วพี่ซึงโจก็เดินเข้าบ้านไป
       
      “เอ้า จะยืนให้แข็งตายหรือไง เข้ามาข้างในซิ”

      นี้พี่เขาให้ฉันเข้าบ้านเหรอเนี่ย ‘ตึกตัก ตึกตัก’ เสียงหัวใจฉันเต้นแรงมาก

      เลย

      “เธอดื่มกาแฟรสหวานมากไหม”

      “ออยล์ไม่ชอบดื่มกาแฟคะ”

      “เธอชื่อออยล์ ไม่ใช่คนเกาหลีแน่ๆ พูดก็ไม่ชัด แล้วเธอดื่มโกโก้ไหมล่ะ”

      “ดื่มโกโก้ดีกว่า ออยล์ชอบโกโก้มากกว่ากาแฟ”

      “ดื่มเสร็จเดี๋ยวจะพาไปส่งบ้าน รีบๆดื่มล่ะ”

      “แต่ว่า...”

      “มันดึกแล้วเธอเป็นผู้หญิงนะ”

      สรุปแล้วพี่ซึงโจก็ไปส่งฉันถึงห้องอยู่ดี ฉันน่ะเกรงใจมากๆเลยนะอยากให้

      พี่ซึงโจได้นอนพักผ่อน ตอนนี้ก็ห้าทุ่มกว่าๆแล้วพี่ซึงโจควรนอนพักผ่อน

      บ้าง แต่พี่ซึงโจก็บอกอย่างเด็ดขาดกว่า

      “ถ้าอยากให้ฉันพักผ่อน ต่อไปนี้เธอก็ไม่ต้องมาดักรอฉัน เข้าใจ๊”


                      เฮ้ย... แต่ถึงพี่ซึงโจจะพูดอย่างนั้น วันนี้พอฉันเลิกเรียนเสร็จ

      ฉันก็มายืนรอพี่ซึงโจที่หน้าบ้านของเขาอยู่ดี ถ้าไม่อยากให้พี่ซึงโจไปส่ง

      ฉันเองต้องหลบไม่ให้พี่ซึงโจเห็นเป็นอันขาด แต่...

      “แสดงว่าเธอต้องอยากให้ฉันไปส่งที่บ้านอีกแน่ๆเลย”

      พี่ซึงโจ มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ตอนนนี้พึ่งหกโมงกว่าๆเองนะ

      “ป่าวนะคะ เพียงแต่...” 

      “เธอคิดถึงฉัน”

      แล้วพี่ซึงโจก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก เหมือนผู้ใหญ่ที่รู้ว่าเด็กกำลังโกหกแล้ว

      จับได้อย่างไง อย่างนั้น แต่นั้นก็ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงยิ่งกว่าพายุเข้าซะ

      อีก

      “เข้าบ้านกันดีกว่า วันนี้ฉันรู้ว่าเธอต้องมายืนรอเลยขอกลับมากินข้าวที่

      บ้าน เธอก็กินกับฉันแล้วกันเพราะฉันซื้อมาเผื่อด้วย แล้วทุ่มกว่าๆฉันจะไป

      ส่ง”

      ตึกตัก ตึกตัก ฝันเหรอ ฝันใช่ไหมทำไมกันนะพี่ซึงโจถึงได้น่ารักขนาดนี้

      พี่ซึงโจไม่รู้หรือไงว่าถ้าพี่ซึงโจทำแบบนี้หัวใจฉันจะเป็นอย่างไง



                      ฉันก็อยู่ทานข้าวกับพี่ซึงโจจนอิ่ม แล้วเหลือเวลานิดหน่อยพี่ซึง

      โจก็ชวนมาดู...ฟุตบอล แต่ว่า...ฉันเกลียดฟุตบอล แต่จะทำไงได้พี่ซึงโจ

      เขาชอบฟุตบอลนี้เนาะฉันเลยต้องมานั่งดูด้วยอย่างช่วยไม่ได้ พี่ซึงโจ

      เชียร์ทีม
      A แต่ฉันไม่รู้จักทั้งสองทีมเลย เลยไม่รู้ว่าจะเชียร์ทีมไหนดีเลย

      เลือกเชียร์ทีมB จะได้มันส์ๆ เชียร์ไปเชียร์มาก็ทีมBก็ชนะแถมพอแข่งเสร็จ

      พี่ซึงโจก็โวยว้ายใหญ่ ไม่ใช่เพราะทีมAแพ้นะ แต่เชียร์บอลลืมเวลาไปซะ

      ได้

      “เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้ฉันไปทำงานสาย ฉันไปส่งเธอไม่ทัน

      แล้ว” 

       “ไม่เป็นคะ ออยล์กับบ้านเองได้” 

      “แต่...งั้นเอาอย่างงี้ เธออยู่ที่นี้ก่อนนะเดี๋ยวให้ยองแซงมารับ แล้วเพื่อเป็น

      การไถ่โทษที่ฉันไม่ได้ไปส่งฉันจะเลี้ยงข้าวมื้อเย็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ”

      ตึกตักตึกตัก เอาอีกแล้วแค่คำพูดที่ไม่ได้คิดอะไรของพี่ซึงโจทำให้หัวใจ

      ฉันเต้นรั่วเลย สรุปวันนี้พี่ยองแซงที่เป็นนักร้องวงเดียวกับพี่ซึงโจก็มารับ

      ฉันไปส่งบ้าน วงของพี่ซึงโจมีทั้งหมดห้าคนแต่ตอนนี้ ต่างคนต่างแยก

      ย้ายกันไปทำงานที่ตนเองสนใจแต่อีกในไม่ช้า ก็จะมารวมกันอีกครั้งหนึ่ง

      แล้วฉันก็คอยให้วันนั้นมาถึงเร็วๆด้วย ก่อนพี่ยองแซงขับรถไปได้ยิ้ม

      แปลกๆกับฉัน เหมือนรอยยิ้มนั้นรู้ทันอะไรบ้างอย่างซะด้วยซิ อะไรกันนะ



                      วันทุกวันของฉัน ตอนเย็นก็มาอยู่กับพี่ซึงโจ   เป็นอย่างนี้ทุกวัน

      เลยแหละ ทั้งกินข้าวทั้งดูฟุตบอล ฉันมีความสุขจัง
      “คนเยอะจัง” วันนี้ฉัน

      มาดูการถ่ายรายการ รายการหนึ่งที่วงของพี่ซึงโจจะมากันครบหมดทุกคน

      ฉันจึงได้รีบมาไงเพราะรู้ว่าวันนี้  ‘คนเยอะ’ เอ๋...ห้องน้ำอยู่ไหนนะเดี๋ยว

      กำลังถ่ายรายการอยู่ปวดฉี่ซวยเลย “ซึงโจนายนี้ไม่เบาเลย หาเด็กเป็นคน

      ไทยด้วย ถึงจะไม่ค่อยน่ารักก็เถอะ” “พูดอะไรของนายเนี่ย” เสียงพี่ซึงโจ

      กับพี่ยองแซงหนิ ฉันรีบสาวเท้าให้เข้าไปใกล้ห้องๆนั้น แล้วแอบมองเข้า

      ไปตรงประตูที่แง้มๆไหว ฉันเห็นสมาชิกวงของพี่ซึงโจอยู่สี่คนหายไปไหน

      คนหนึ่งนะ พี่ๆสามคนที่อยู่วงเดียวกับพี่ซึงโจจ้องพี่ซึงโจที่นั่งอ่านบท

      อย่างจ้องจับผิด แล้วเขาคุยเรื่องอะไรกันนะ พูดถึงฉันหรือป่าว “ซึงโจนาย

      ชอบผู้หญิงไทยคนนั้นใช่ไหม” เสียงพี่ยองแซงถาม “คนไหน” “เดี๋ยวนี้

      เจ้าชู้เหรอไง มีสาวไทยในสต๊อกหลายคนเนี่ย” “ออยล์น่ะเหรอ ป่าวฉันไม่

      ได้ชอบ เฉยๆ!” เปาะ!! น้ำตาฉันไหลมาหนึ่งหยด สองหยด แล้วตามด้วย

      หยดที่สาม ฉันก็รู้หรอกนะว่าอย่างพี่ซึงโจน่ะเหรอจะมาชอบคนอย่างฉัน

      ได้แต่พอมาเจอเข้าจริงน้ำตากลับไหลออกมาอย่างไม่หยุด “โกหก”

      “อะไรของพวกนายฉันไม่ได้โกหก...ผู้หญิงเนี่ยน่ารำคาญชะมัด ฉัน

      เกลียดผู้หญิงที่มาตามติดฉัน จ้องมองฉันอย่างพวกโรคจิต น่ารำคาญ”

      ฮึกๆ ฮึก ฉันกลั่นเสียงสะอึกไม่ไหวแล้ว ปั่ก!!ฉันวิ่งเดินชนใครบางคน แต่

      ฉันไม่มีเวลามาอโทษเขาหรอก แม้แต่มางที่ฉันจะเดินฉันยังมองไม่เห็น

      เพราะน้ำตาเลย เจ็บ! เจ็บที่สุดเลยทั้งๆที่ฉันรักพี่ซึงโจ แต่พี่เขาเห็นค่าแค่

      นี้ “เฮ้! เป็นไรมากไหมครับคุณ”  คนที่ฉันวิ่งชนเมื่อกี้ตะโกนออกมาหาฉัน

      คงตกใจมากซินะที่น้ำตาฉันไหลไม่หยุดอย่างนี้ ฉันน่ะอยากไปให้ไกล

      จากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้



                      แม่คะ แม่....แม่อยู่ที่ไหนคะ ลูกสาวของแม่เจ็บจนทนไม่ไหว

      แล้ว ออยล์อยากกลับประเทศไทยไปหาแม่ ฮึก น่าสมเพชตัวเองจัง เวลา

      ที่ฉันมีความสุขฉันไม่เคยนึกถึงแม่ เรียกร้องหาแม่เลยแต่ที่อย่างนี้ ฉัน

      ร้องไห้ฉันทุกข์ใจ ฉันกลับร้องหาแม่อย่างน่าเวทนา
      “ออยล์ลูก กลับมาได้

      แล้วนะลูก” เสียงแม่นิ แม่! แม่อยู่ที่ไหนคะ “ออยล์ลูกแม่กลับมาหาแม่ได้

      แล้ว ลูกนอนนานไปแล้วนะลูก” แม่ร้องไห้ทำไมคะ ใครทำอะไรแม่คะ

      แม่...ออยล์อยากกลับไปหาแม่แล้ว แม่คะ แม่! แล้วจู่ๆโลกของฉันก็ดับลง

      ไป



                     
      “ตื่นแล้วเหรอลูก” ฉันค่อยๆลืมตาแต่เพราะแสงแดดทำให้ฉัน

      ต้องหลับตาลงอีกครั้ง ฉันค่อยๆลืมตาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บน

      เตียงสีขาว ห้องที่ขาว กลิ่นยาคลุ้งไปหมด แล้วก็เครื่องอะไรก็ไม่รู้ระโยง

      ระยางไปหมดที่ตัวฉัน “ออยล์เป็นอะไรคะเนี่ย” “หนูจำไม่ได้เหรอจ๊ะว่า...

      หนูไปสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่เกาหลี แต่พอแม่รู้แม่ก็ห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้

      ลูกไป แม่กับลูกเถียงกันใหญ่โต แล้วหนูก็วิ่งออกจากบ้าน พอถึงหน้าบ้าน

      หนูก็โดนรถชน หนูนอนเป็นเจ้าหญิงนิทาไปเกินครึ่งเดือนรู้ไหม มันทำให้

      แม่ใจหายนะ” แม่คะ แม่คงเสียใจมากแน่ๆ เพราะฉันอีกแล้ว ฉันทำตัวให้

      แม่เป็นห่วงฉันอีกแล้ว ฉันจะเป็นลูกที่ดีให้แม่ได้ไหมนะ ฉันไม่เคยทำตัว

      ให้แม่ภูมิใจได้ชักครั้ง “เอาล่ะ หนูพึ่งตื่นมาเดี๋ยวแม่จะลงไปซื้อผลไม้มา

      ให้ทานนะ หนูจะได้แข็งแรงไวๆ” “คะ” แม่ลงไปได้ซักพักหนึ่งแล้วล่ะ ถ้า

      เรื่องที่แม่เล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริง งั้นอย่างนี้เรื่องทุกอย่างที่ผ่านมามันก็เป็น

      เพียงแค่... ‘ฝัน’ ...ซินะ ฝันที่ทั้งโหดร้าย แต่ก็มีความสุขที่ได้ฝันในครั้งนี้

      แต่ทำไม หัวใจฉันถึงจะเจ็บ แต่ฉันก็ยังชอบพี่ซึงโจอยู่ดี



                      ฉันนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลสิบกว่าวันได้คุณหมอถึงได้อนุ

      ญาติให้กลับบ้าน ส่วนวันนี้ฉันก็มาเรียนได้ตามปกติแล้วล่ะ แล้วฉันก็กำลัง

      จะเดินไปหาคุณครูที่ห้องพักครูไม่รู้เรียกฉันเรื่องอะไร
      “มาแล้วเหรอจ๊ะ

      เธอคงยังไม่รู้รายชื่อคนที่ได้ทุนหรอกนะ ครูเสียใจด้วยนะจ๊ะที่เธอไม่ได้

      ทุนในครั้งนี้” ฉันไม่คาดหวังอยู่แล้วเพราะฉันรู้ว่าที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น มัน

      ก็แค่...ฝัน “แต่ว่าครูมีข่าวมาบอกจ๊ะ ว่ามีคนๆหนึ่งเขาบอกว่าอยากเจอกับ

      เจ้าของของสิ่งนี้” แล้วคุณครูก็ยื่นสมุดไดอารี่ออกมา เฮ้ย!! นั้นไดอารี่ฉัน

      นี้ไปอยู่ที่คุณครูได้ไง มันควรอยู่ที่บ้านฉันซิ “คือว่าคนๆนั้นเขาบอกว่าให้

      เอามาคืนกับเจ้าของ แล้วครูเห็นว่ามันเป็นของเธอแล้วเขาก็บอกว่าพรุ่งนี้

      เขาจะมาใหท่จ๊ะ มาหาเธอ” “คะ ขอบคุณคะคุณครู”



                      ฉันเปิดไดอารี่ของฉันทีละหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรั่ว ฉันจำได้ว่า

      ฉันไม่เคยเอาไดอารี่ออกมาจากบ้านจะมีแต่ตอนเดียวเท่านั้นที่ฉันจำได้ว่า

      เอามันออกจากบ้านคือตอนที่ฉันฝัน ว่าฉันจะไปเกาหลีแล้วเอามันไปด้วย

      แต่นั้นมันความฝัน ฉันเปิดมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าสุดท้ายที่เขียนเป็น

      ภาษาเกาหลีว่า...

                      วันสุดท้ายที่ฉันได้เจอเธอ...
      “ซึงโจนายนี้ไม่เบาเลย หาเด็ก

      เป็นคนไทยด้วย ถึงจะไม่ค่อยน่ารักก็เถอะ” “พูดอะไรของนายเนี่ย” “ซึง

      โจนายชอบผู้หญิงไทยคนนั้นใช่ไหม” “คนไหน” “เดี๋ยวนี้เจ้าชู้เหรอไง มี

      สาวไทยใน สต๊อกหลายคนเนี่ย” “ออยล์น่ะเหรอ ป่าวฉันไม่ได้ชอบ 

       เฉยๆ!” “โกหก” “อะไรของพวกนายฉันไม่ได้โกหก...ผู้หญิงเนี่ยน่า

      รำคาญชะมัด ฉันเกลียดผู้หญิงที่มาตามติดฉัน จ้องมองฉันอย่างพวกโรค

      จิต น่ารำคาญ” ... “เฮ้ๆ อย่าโกธรกลบเกลือนซิ แล้วนั้นอ่านบทแทรก

      ทำไม ทำไมไม่คุยกับพวกเราก่อน” “ฉันจะจำบทแล้วเดี๋ยวจำไม่ได้” “เฮ้!

      เป็นไรมากไหมครับคุณ” เสียงจองมินสมาชิกอีกคนในวงดังขึ้น ผู้หญิงคน

      นั้นที่วิ่งออกไป ถึงจะเห็นแต่ข้างหลังฉันก็จำได้ว่าเป็นเธอ แล้วเธอก็หาย

      ไป ทิ้งไว้แต่สมุดเล่มนี้ที่ทำตกไว้



                      ไม่จริง นี้เป็นความฝัน หรือ เรื่องจริงนะ หรือว่าที่ฉันเจอตอนนี้

      จะเป็นความฝัน.....
      “ออยล์ ออยล์” นั้นเสียงใคร เสียงใครกัน เสียงใคร

      เรียกฉัน แล้วทุกอย่างก็ดับวูบ

      สุดท้ายยังไงออยล์ก็ยังคงรักพี่อีก พี่ซึงโจ ไม่ว่าจะเป็นฝัน หรือเรื่องจริง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×