ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    D.gray-man [Fiction] Happy Halloween!

    ลำดับตอนที่ #2 : Night 2nd สงครามน้ำลาย

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 50




    Night 2nd สงครามน้ำลาย

     

                      ก๊อกๆๆ

     

                      แอ๊ดดด

     

                      บานประตูห้องถูกเปิดออก พร้อมร่างสูงโปร่ง และใบหน้าเรียวสวย ที่ติดอารมณ์หงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาโผล่มาต้อนรับอาคันตุกะที่มาเยือน  “…” ภาพที่เห็นเบื้องหน้า (ในความคิดของคันดะ) คือตัวน่ารำคาญสองตัวที่กำลังจะมารบกวนเวลาหลับนอนของเขา ตัวหนึ่งคือถั่วงอก ถึงแม้จะอยู่ในของที่เขาชอบกินแต่รู้สึกไม่ชอบ (แน่นอน) อีกตัว คือไอ้กระต่าย ฉายาดูแอ๊บแบ๋วน่ารัก แต่มันก็คือตัวน่ารำคาญดีๆนี้แหละ ไม่ต้องพูดความยาวสาวความยืด

     

                      ปัง!!!

     

                      เฮ็ยยย ยูเดี๋ยวก่อนสิอย่าเพิ่งปิดดดเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวใสโวยวาย พลางทุบประตูปึงๆปังๆ ขณะที่อเลนถอนหายใจเฮือก คิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอีหรอบนี้  และมันก็เป็นจริงๆโดยที่ไม่ต้องพึ่งหมอดูชื่อดังคนไหน

     

                      หนวกหู พวกแกนี่ไม่เหนื่อยบ้างรึไงเอาแต่สร้างความรำคาญให้คนอื่นน่ะเสียงเย็นกล่าวลอดออกมาจากอีกฝั่งของบานประตู ถ้าว่างขนาดนั้นก็ไปช่วยโคมุอิทำงานไป๊น่ารำคาญชะมัดพวกแกเนี่ยคันดะกล่าวพลางหลุบตาลง ราวกับเทศน์สั่งสอน

     

                      ก็เรื่องนี้แหละที่จะมาขอคำปรึกษาราวี่ทำเสียงน้อยใจ พลางขูดบานประตูไปมาเหมือนลูกแมวเพิ่งฝนเล็บ ทำเอาทั้งคันดะทั้งอเลน ต่างขนลุกไปตามๆกัน  ยูจ๊ะยูจ๋ายูจังงง เปิดให้หน่อยซะ….”

     

                      เปรี้ยงงงง!!!

     

                      ซี่… TvT” ร่างของราวี่ดับไปแล้วภายใต้บานประตูที่หลุดออกมาจากบานพับ โดยลูกถีบของคันดะที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการจงใจอย่างแรง (me / อยู่แล้ว -  -^)

     

                      หยึย…’ อเลนสะดุ้งเฮือก คาดไม่ถึงว่าการขอผู้ร่วมรบเพิ่ม มันจะต้องเปลื้องตัวถึงขนาดนี้

     

                      จำไว้ ถ้าเสร่อเรียกชื่อฉันด้วยสำเนียงทุเรศ ๆนั่นจะโดนแบบนี้เสียงเหี้ยมของคันดะ เอาซะอเลนนึกถึงนรกโดยไม่ต้องจิตนาการเลยซักนิด และรู้ได้เลยว่าราวี่นั้น ก้าวขาลงไปข้างนึงแล้วด้วยสิ

     

                      จ๊ะ…” เสียงประสานเบาๆของอเลน และราวี่

     

                     

     

                      แล้วเรื่องที่ว่า  มันยังไง

     

                      เฮ้ดูสิอเลน ห้องดูธรรมดากว่าที่คิดเนอะ

     

                      นั่นสิครับราวี่ ผมนึกว่าจะมีรูปเทพพระเจ้าน่ากลัวๆของญี่ปุ่นติดอยู่เต็มห้องซะอีกคันดะเองก็มีส่วนที่เป็นมนุษย์เค้าเหมือนกันนี่น่าว่าแล้วทั้งสองก็พากันหัวเราะคิกๆ

     

                      เฮ้พวกแกน่ะถ้าคิดจะมาชมนิทรรศการห้องเช่าละก็ ฉันจะแจกตั๋วไปชมนรกให้เอาไหม?” คันดะว่าพลางชักมุเก็นที่อยู่ข้างตัว ทำเอาทั้งสองสะดุ้ง แล้วนั่งลงกับเก้าอี้อย่างเรียบร้อยราวเด็กที่ถูกแม่ตวาดใส่  เรื่องที่พวกแกจะมาปรึกษาน่ะ  อะไร?” เด็กหนุ่มหลุบตาลง แล้วย้ำคำถามอีกครั้งก่อนจะทำท่าตั้งใจฟัง ซึ่งกริยาท่าทางแบบนี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆเลย สำหรับพ่อหนุ่มอารมณ์ร้ายคนนี้

     

                      ขอบอกไว้ก่อนถ้ามันไม่มีสาระพอ ฉันเชือดพวกแกแน่

     

                      เฮือก!… = ^ =

     

                      อเลนนายเล่าสิราวี่โยน

     

                      ดะเดี๋ยวก่อนคนที่แนะนำให้มาปรึกษาคันดะน่ะมันราวี่ไม่ได้ใช่เหรอครับ!” อเลนว้ากกลับ

     

                      พวกแกเห็นฉันเป็นตัวตลกรึไง (วะ)”

     

                      ชิ้ง!!

     

                      มุเก็นถูกชักออกมาครึ่งเล่ม เอาซะทั้งสองกอดกันซะกลมพร้อมเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายทั่วร่างของทั้งสอง

     

                      คะคือว่า รินารี่น่ะครับ!” อเลนโพล่งออกมาได้ในที่สุด พร้อมหลับตาปี๋ ขณะที่ราวี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

     

                      รินารี่?” เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มหรี่ลงอย่างครุ่นคิด ทำไม?”

     

                      ผมคิดว่า รินารี่เธอทำงานหนักเกินไป เป็นทั้งเอ็กโซซิสท์ แล้วยังต้องมาช่วยงานที่แผนกวิทย์ฯ อีก เธอน่าจะนอนดึกบ่อยน่าดู เราไม่คิดจะช่วยรินารี่บางเหรอ?”

     

                      “……” คันดะเลี่ยงสายตาออกจากสองตัวน่ารำคาญ (me / ปวดใจที่ต้องพิมพ์อะไรแบบนี้เหลือเกินนนน T^T) แล้วทำหน้าครุ่นคิดอย่างเอาจริงเอาจัง แค่อยากจะช่วย?” เขาทวนเป็นคำถาม เล่นเอาอเลนและราวี่ ถึงกับกลืนก้อนแข็งลงคอ เสมือนกับว่าเส้นด้ายแห่งกงชะตาชีวิตกำลังจะขาดอยู่มะร่อมมะร่อ

     

                      “…ก็ไปช่วยเขาซะสิ ไม่เห็นจะน่าปวดหัวตรงไหนพวกแกนี้สมองตื้นกันรึไง

     

                      สมองตื้น?” อเลนทวน ใครกันแน่ครับที่สมองตื้น  คนที่ไม่เคยเห็นหัวคนอื่นอย่างคันดะมีสิทธิ์มาว่าผมแบบนี้เหรออเลนลุกขึ้น พร้อมเส้นเลือดที่ดังปึ๊ดๆ พร้อมจะเอาเรื่องอยู่ทุกเวลา

     

                      ทำไมต้องเห็นหัวคนอย่างแก  หัวขาวๆแบบนั้นมีไอ้บ้าที่ไหนเขาอยากจะเห็นมิทราบห๊า ไอ้ถั่วงอก

     

                      ผมไม่ได้หมายถึงหัวผมครับ  ผมหมายถึงหัวอกของรินารี่ คันดะนอกซะจากสมองจะตื้นแล้วยังตีไม่ประโยคไม่ออกอีกเหรอครับ ผมละเชื่อเลยว่าราวี่มาขอความช่วยเหลือจากคนงี่เง่าอย่างคันดะน่ะ!”

     

                      แกก็ไปว้ากใส่มันเซ่มาเถียงฉันฉอดๆทำไม!”

     

                      ก็คนที่ทำให้ผมโมโหมันใช่ราวี่ไหมเล่า!”

     

                      แล้วคนที่ลากแกมาหาต้นเหตุ ที่ทำให้แกโมโหมันไม่ใช่ไอ้กร๊วกนั่นเหรอ  แกนี่มันพาลผิดคนแล้วนะ (โว๊ย) คงสมองตื้นจริงๆเสียด้วยสิแกน่ะไอ้ถั่วงอกเด็กหนุ่มว้ากตอบ แม้จะเป็นคำต่อว่าที่ฟังดูข้างๆคู แต่รู้สึกว่าคำที่ทั้งสองกำลังโวยวายใส่กันนั้น มันก็กำลังปลุกอารมณ์ยัวะให้กับผู้ฟังที่แสนดีอย่างราวี่ได้เช่นกัน (me / แหงละที่ด่ากันน่ะมีราวี่เอี่ยวล้วนๆ)

     

                      ว้ากกกกกกกก หยุดดดด!!!”

     

                      แฮ่กแฮ่กแฮ่กแฮ่กแฮ่กร่างที่สั่นเทิ้ม เพราะความโกรธของอเลน และคันดะหันมาทางผู้หยุดสงครามน้ำลายคราวนี้

     

                      ที่กำลังคุยกันน่ะ  มันเรื่องของรินารี่ไม่ใช่เหรอพวกนายมาด่ากันทำไม (ด่าฉันทางอ้อมอีกต่างหาก -  -^)” ราวี่เปรยเสียงดัง แล้วมองทั้งสองสลับกัน ถึงแม้ว่าประกาศหยุดสงครามอย่างเขาจะเอ่ยขัดแล้ว  แต่ดูเหมือนว่าสงครามนั้น จะไม่ยอมหยุดง่าย

     

                      เพราะฉะนั้น ประเด็นอะไรที่จะลากเข้าสู่สมรภูมิอีกละก็  ไม่ต้องเจือกพูดถึงมันอีก ไม่งั้นล่มชัวร์!…

     

                      อเลนและคันดะ ทิ้งตัวลงนั่งอีกครั้งพร้อมเสียง เชอะเบาๆที่ดังออกมาจากปากของทั้งสอง แน่นอนว่าทั้งสองไม่ยอมมองหน้ากันแม้จะจะใช้หางตาเหลือบมอง ราวี่ส่ายหน้าอย่างระอา

     

                      ฉันคิดว่าเรื่องนี้  ฉันจะเข้าไปดูให้มันชัดๆว่าโคมุอิทำอะไรนักหนาทำไมถึงได้ทำให้รินารี่ต้องพาลวุ่นวายซะขนาดนั้นด้วยสายตาที่หาดูได้ยาก ในสถานการณ์แบบนี้ของราวี่ปรากฏขึ้น พร้อมรอยยิ้มจางๆที่ชวนให้หญิงสาวต้องหลงในความจริงจังนั้น นำพาเข้าสู่ประเด็นที่ต้องคุยอีกครั้ง

     

                      อย่าบอกนะว่าราวี่คิดจะเข้าไปในชั้นต้องห้ามนั่นนะครับ?” อเลนว่า

     

                      ไหนๆก็ไหนๆรู้ให้มันชัดไปเลยก็ได้นี่น่า ค้างๆคาๆปล่อยให้มีข่าวลือแปลกๆไร้สาระฉันละเกลียดคันดะเสริม

     

                      ก็เห็นเกลียดซะทุกอย่าง…” เจ้าของเรือนผมสีขาวเงินสบถเบาๆพลางหรี่ตา

     

                      แกว่าไงนะ?”

     

                      ปะ..ปะเปล่าครับ ผมว่าก็ดีเหมือนกันคันดะสะบัดหน้าหนี เมื่อสิ้นคำอเลนกล่าว

     

                      อือใช่ไหมละบางทีต้นเหตุมันอาจจะเป็นเพราะว่าโคมุอิทดลองก็ได้นี่น่าราวี่ยิ้มกว้าง ว่าไง พวกนายว่าไงละ?” เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีส้มเอ่ยถามความคิดของอีกสองคน

     

                      ก็ไม่ทำไมนี่ครับ ผมว่าแบบนั้นมันก็ดีอเลนกระพริบตาถี่ๆ ไม่มีข้อแย้งใดๆทั้งนั้น

     

                      แต่…” เสียงเข้มขัด ถ้ารู้แล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ ประเด็นคือไม่ต้องการให้รินารี่นอนดึกไม่ใช่รึไง?  ไม่เห็นจะเกี่ยวตรงไหนที่ต้องรู้ว่าโคมุอิทดลองอะไรอยู่คันดะมุ่นคิ้ว แล้วถามต่อ

     

                      แหมยูก็แบบนั้นมันก็ไม่ตื่นเต้นเร้าใจน่ะสิเอาจริงๆนะราวี่เปลี่ยนท่านั่ง พลางทำหน้าตาสดใสกว่าเดิม ถ้าโคมุอิกำลังทดลองอะไรแปลกๆหรือไร้สาระ เราก็จะได้ขัดไว้ทัน  แต่ถ้าเป็นของที่ดูแล้วสมเหตุสมผลที่รินารี่ต้องนอนดึก เราก็จะได้ช่วยไง  ตกลงไหม?”

     

                      ฟังดูแปลกๆแต่ก็โอเคครับ?”

     

                      เชอะก็แค่หาเรื่องสนุกใส่ตัว  สรุปว่าจะช่วย แต่ก็ต้องรู้ก่อนว่าที่จะช่วยน่ะมันต้องทำอะไรสินะเด็กหนุ่มสรุปสั้นๆ ในเมื่อตกลงได้แล้วพวกแกก็หลับห้องไปซะเด็กหนุ่มตวาด เชิงตะเพิด ขณะที่ราวี่ยกมือขึ้นปรามก่อน

     

                      ดะเดี๋ยวก่อนสิยู ยังไม่ได้นัดหมายวันทำภารกิจเลยนา -  -^” เจ้าของเรือนผมสีส้มว่า

     

                      ก็ในเมื่ออยากจะรู้พวกแกจะรออะไรเล่า จะทำตอนนี้หรือจะทำพรุ่งนี้มันก็เรื่องของพวกแก ที่ฉันลดตัวไปร่วมวงเพราะว่าอยากจะทำลายทิ้งซักที ไอ้ข้อกังขาข่าวลือไร้สาระนั้น  ว่าเป็นชั้นต้องห้ามบ้างละ แต่ชั้นผีสิงบ้างละ เข้าใจหรือยัง!”

     

                      “…ครับ…” เสียงประสานของราวี่ และอเลนอีกครั้งและเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะถูกผู้เป็นเจ้าของห้องโยนออกมานอกห้อง เนื่องการจากก่อความรบกวนในยามราตรีกาล

     

     

                      me / กรี๊ดดดดดดดด ฟิคเรื่องที่สอง แต่เขียนเป็นเรื่องที่สาม ข้าน้อยฝากด้วยเจ้าค่ะ ^^ แนวนี้ เหอๆ Y ค่ะ Y จริงแท้แน่นอน แรกๆก็งี้ๆแหละ เข้าใจหน่อยเจ้าค่ะ แต่จะเป็นคู่ไหนนั้นทายดูสิค่ะ โฮ่ะๆๆ

     

                      เขียนเองแล้วจะรู้ค่ะ  ว่าที่ อจ.โอชิโนะแกว่า รินารี่ฉลาดกว่าราวี่  ราวี่ฉลาดกว่าอเลน  อเลนฉลาดดว่าคันดะ มันจริงนะคะเนี่ย!! อ่านตอนที่ปรึกษากันน่ะคะ ราวี่ถึงจะดูขี้เล่นแต่พี่แกก็มีความสามารถ จริงจังได้ซะขนาด นี่เขียนเองบิ๊วเองนะคะเนี่ยไม่ได้เปิดหนังสือดู ฮุฮุ

     

                      สำหรับข้าน้อยแล้ว  อเลนนั้น…[เคะ] ยูจังนั้น…[เสะ] ราวี่นั้น…[เมะ] กรี๊ดดด ครบเซ็ทแว้ววววววววว >[]< ย้ากกกกกก!!!  แล้วคุณละ  สามคนนี้คืออะไร!? กร๊ากกกก

     

    [G]~@ngel_al

     

     

    m.tokiya
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×