Help [Fic : Eyesheild 21]
เมื่อทาสที่รักทำได้แต่นั่งคุกเข่าอย่างสิ้นหวังต่อหน้าบานประตูสู่คริสมาสโบวที่ปิดสนิทลง เจ้านายจะทำอย่างไร
ผู้เข้าชมรวม
500
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Fanfiction
Project : Eyesheild 21
Help
ชั้นกับแกต่างกันตรงไหน !!
คำพูดที่แสนเจ็บปวดของไลน์แบ็คเกอร์แห่งทีมคาเมเลออนยังคงดังก้องอยู่ในใจของเด็กหนุ่มร่างสูง ถึงแม้ใบหน้าและนัยน์ตาสีเขียวที่มองเบื้องหน้าจะว่างเปล่าและนิ่งสนิทเหมือนกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคนที่นั่งคุกเข่าอย่างสิ้นหวังอยู่ตรงหน้า แต่ถ้ามีคนใส่ใจที่จะสังเกตดี ๆ แล้วล่ะก็ คงจะเห็นความเจ็บปวดที่เก็บซ่อนเอาไว้ในดวงตาคู่นั้นแน่ ๆ
“จะไปไหนน่ะฮิรุม่า ?”
เด็กหนุ่มร่างอ้วนท้วนเหมือนกับลูกบอลขนาดใหญ่ถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อสนิทเอาแต่เดินเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างเงียบ ๆ แถมยังเดินแยกออกไปอีกทางหนึ่งอีกต่างหาก
“ฮิรุม่า ต้องกลับทางนี้ไม่ใช่เหรอ ?”
เขาเรียกอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่จะหันหลังกลับและคิดจะวิ่งตามไป แต่ฝ่ามือเรียวที่โบกเป็นเชิงบอกลาและบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่มีอะไรนั่นก็ทำให้ก้าวขาไม่ออก
‘ต้องมีอะไรแน่ ๆ แต่ดูเหมือนเขาอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า......’ คุริตะคิดอย่างเป็นห่วงอยู่ข้างในแต่ไม่คิดจะเข้าไปเซ้าซี้ถามเพราะรู้ดีว่ามันจะยิ่งทำให้เจ้าตัวยิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้น เขาจึงเพียงแต่ตะโกนบอกลาเท่านั้น
“เจอกันพรุ่งนี้นะฮิรุม่า !!”
ใบหน้าคมยิ้มเป็นการขอบคุณ ขาทั้งสองข้างค่อยๆ เดินไปตามทางเดินอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่สายตามองตรงไปข้างหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ในใจมันกลับกระสับกระส่ายและต้องการที่จะหาอะไรมาทำให้อารมณ์แย่ ๆ ที่ยังอัดแน่นอยู่เต็มอกนั้นหายไป
ถ้าเพียงแต่เขาทำให้คำพูดประโยคนั้นหายไปจากความทรงจำได้ล่ะก็........
“อย่ามายัดเยียดให้ชั้นเหมือนแกสิเฟ้ย !!”
เขากัดฟันกรอดกับความคิดที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าตอนนั้นเขาไม่นึกเป็นห่วงแล้วเดินไปหาเจ้าของคำพูดหลังการแข่งแล้วล่ะก็ เขาอาจจะไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียวก็ได้
แต่เหมือนพระเจ้ายังคงเป็นห่วงมนุษย์ชาวโลกตาดำ ๆ และไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อความพิโรธของเดมอนแห่งเดวิลแบ๊ท ท่านจึงดลบันดาลให้ชายหนุ่มผู้โชคร้ายคนหนึ่งมาเป็นเหยื่อสังเวยเพื่อสันติสุขของโลกแทน
ใบหน้าคมแสยะยิ้มกว้างทันทีที่เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันในสมุดเดธโน้ตสีดำเล่มเล็กกำลังจอดมอเตอร์ไซค์ข้างถนน และกำลังจะเข้าไปซื้อของในคอนวิเนียน ปีศาจแห่งเดมอนจึงไม่รอช้าที่จะเข้าประชิดตัวเป้าหมายทันที
“นึกว่าใครซะอีก ที่แท้ก็คุณทาคาซากิ ชิโร่นี่เอง แหม~ บังเอิญจังเลยนะที่มาเจอกันแบบนี้”
ถึงน้ำเสียงและท่าทางจะเป็นมิตร แต่ใบหน้าโฉด รอยแสยะยิ้ม และออร่าสีดำทมึนกับค้างคาวตัวเล็ก ๆ สีเดียวกันที่อยู่ข้างหลังกลับทำให้อีกฝ่ายปฏิเสธในใจทันทีว่า มันบังเอิญอย่างจงใจขนาดนี้ ใครเชื่อก็โง่แล้วเฟ้ย !! แล้วไอ้เด็กซ่าหัวตั้งนี่มันเป็นใครวะ ?
“กะ.....แกรู้ชื่อชั้นได้ยังไง !!?”
“อ้าว ? ก็คนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แถวๆ นี้เองนี่นา ก็ต้องรู้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องตอนอายุ 13 ที่......”
“หวา~ ยะ....หยุดนะ !! อย่าพูดนะเฟ้ย !! จะให้ทำ ‘ไรก็รีบ ๆ บอกมา !!”
ชายหนุ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองทันทีโดยที่ไม่ต้องมานั่งพูดต่อความยาวสาวความยืด เพราะกิตติศัพท์ของสมุดเดธโน้นนั่นมันแพร่สะพัดไปทั่วพร้อมกับความโฉดชั่วของเดมอนแห่งเดวิลแบ๊ท และปืนกระบอกยาวที่ทำการปลดเซฟตี้ในฝ่ามือเรียวก็เป็นสิ่งโน้มน้าวใจให้ยินยอมทำตามคำสั่งอย่างไม่มีเงื่อนไข
“งั้นก็เป็นเบ๊พาชั้นไปส่งดิ๊”
ร่างสูงยิ้มร่าและหัวเราะเคี๊ยกๆ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์เสร็จสรรพ ไม่เว้นช่องว่างให้เจ้าของได้ปฏิเสธ และจำใจที่จะเข้ามานั่งบนที่นั่งคนขับเพื่อทำหน้าที่เป็นสารถีเฉพาะกิจให้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หนึ่งในสมาชิกของบ้านสีขาวเปิดประตูก้าวออกมาต้อนรับแขกผู้มาเยือนทันทีที่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน คำทักทายของเจ้าของบ้านที่ดีก็คือ......
“ไปตกใครมาอีกละเนี่ย ?” เด็กหนุ่มร่างสูงกำยำว่ากับคนซ้อนท้ายที่กระโดดลงจากรถ แต่สายตาของเขากลับมองคนขับที่ไม่รู้จักอย่างงง ๆ
“ก็แถวนี้แหละ พอดีไอ้หัวโจกแก๊งซิ่งตูดหมึกนี่มันใจดีเลยช่วยขับมาส่งให้” คำตอบมาพร้อมกับรอยแสยะยิ้มบนใบหน้าของเดมอน ทั้งสองคนที่ได้ยินต่างเหงื่อตกและคิดเหมือนกันว่า ‘มันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า ไอ้นี่มันก็แหลไปได้......’
“ขอบใจ ไปได้แล้ว”
ฮิรุม่าหันไปบอกสารถีเฉพาะกิจก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของซักคำ ทั้งสองคนได้แต่ยืนมองตามหลังเขาไปอย่างอึ้งๆ ก่อนจะมองหน้ากันเอง และต่างถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กัน
“ให้เดานะ นายเองก็เป็นเหมือนกันใช่มะ ?” ทาคาซากิถาม
“ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง......” ฮาบาชิระตอบไม่เต็มเสียงพลางคิดอย่างอ่อนใจ ‘โดนจิกใช้ยังกะโทรสั่งพิซซ่าจนชักจะชินแล้วด้วย..........มั้ง.......?’
“ไปล่ะ......”
“เออ.....”
แล้วหัวโจกทีมนักเลงคนละรุ่นอายุทั้งสองก็กล่าวลาพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ๆ ในฐานะของผู้ที่ตกอยู่ในชะตากรรมของการเป็นทาสรับใช้ของปีศาจสุดโฉดแห่งเดมอน
“เฮ้อ~ คราวนี้เจ้านั่นมันมีอะไรอี---.......” เขาหยุดก่อนจะพูดจบแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับเกาหัวเมื่อนึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ “ถือโอกาสขอโทษเรื่องเมื่อตอนนั้นเลยดีมั้ยเนี่ย ?” เขาถามตัวเองโดยที่ไม่มีความมั่นใจว่าเขาจะกล้าพูดเหมือนอย่างที่คิดหรือเปล่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เด็กหนุ่มหัวโจกแห่งโรงเรียนโซคุงาคุยืนนิ่งค้างอยู่กับที่หลังจากเปิดประตูห้องตัวเองแล้วพบว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาเพิ่งออกมาเมื่อหลายนาทีก่อน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยทิ้งกระดาษเอกสารที่มีตัวหนังสือยุบยับกับรูปถ่ายไปทั่ว และที่สำคัญ คนที่นอนคว่ำอ่านแผ่นกระดาษในมืออยู่หน้าโน้ตบุ๊คบนพื้นอย่างสบายอารมณ์นั้นไม่ใช่หนึ่งในของที่เขามีอยู่ในห้องแน่ ๆ
“นี่นายมาเพื่อจะยึดห้องชั้นรึไง ?” คำขอโทษที่เคยคิดเอาไว้ซะเนิ่นานหายวับไปทันที เมื่อความหงุดหงิดเข้ามาแทนที่ “แล้วไอ้ของพวกนี้มันมาจากไหนฟะ !!?”
ใช่ นี่คือประเด็นสำคัญที่จะต้องถาม เพราะเท่าที่จำได้ คนตรงหน้านั้นก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมกับปืนเพียงแค่กระบอกเดียว แถมปืนที่เห็นอยู่บนเตียงก็ไม่ใช่กระบอกที่ว่านั่นด้วย
‘มันแอบเป็นพ่อมดปีศาจเปล่าวะ ?’ อยู่ดีๆ หัวของเขาก็คิดไปนั่นอย่างไม่เปิดเผยในขณะที่ร่างยังคงยืนนิ่งค้างอยู่
“บ้านแกสิ” ผู้ถูกกล่าวหาประชดเหมือนกับอ่านความคิดของเขาออก “แกจะเข้ามารึจะยืนอยู่นั่นทั้งชาติฟะ”
“เข้าดิฟะ ก็นี่มันห้องชั้นนี่หว่า.....” ‘แต่ชั้นชักจะไม่แน่ใจแล้ววะ อีกหน่อยชั้นคงยกให้แกเลยมั้ง ?’ “ว่าแต่ไอ้พวกนี้มันอะไรเนี่ย ?”
ฮาบาชิระถามพลางก้าวข้ามกระดาษบนพื้นอย่างระมัดระวังแล้วมานั่งลงตรงข้ามกับฮิรุม่า ฝ่ามือใหญ่ยาวหยิบกระดาษที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาอ่าน และเขาก็ต้องแปลกใจที่เนื้อหาที่อยู่บนนั้นคือ รูปแบบการเล่นอเมริกันฟุตบอล
“กะ.....แก ฮิรุม่า.....อย่าบอกนะว่ากระดาษทั้งหมดพวกนี้คือ........” เขาพูดพลางกัดฟันกรอด มือที่ถือแผ่นกระดาษสั่นไปด้วยความโกรธที่อยากจะชกคนตรงหน้าสักเปรี้ยง
“เออ.......”
“แกนี่มัน......ว่างมากนักรึไงถึงมาหาเรื่องชั้นยังงี้น่ะ !!” ‘ไอ้บ้าเอ๊ย ก็รู้อยู่แล้วยังเอาของพวกนี้มาให้เห็นตำตาอีก’
ร่างสูงผอมเพียงแค่มองคนตรงหน้าที่เข้ามากระชากคอเสื้อแขนสั้นสีดำด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เพราะเขาทั้งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำหรือรู้สึกโกรธคนตรงหน้าที่กล่าวหาตนแบบนั้น และผลักอีกฝ่ายออกไปอย่างไม่เกรงใจ
“ชั้นเคยพูดซักครั้งรึไงว่าแกเป็นหมาขี้แพ้ คำนั้นน่ะมันสำหรับไอ้พวกปอดแหกในทีมแกต่างหาก ชั้นเคยพูดคำว่า ‘นอกจากแก’ ไม่ใช่รึไง”
“เออ ๆ ๆ ขอโทษก็ได้เว้ย แต่ไมแกไม่ไปหาที่นั่งทำไอ้พวกนี้ที่อื่นวะ แบบนี้มันตอกย้ำนะเฟ้ย !!” ‘ชั้นน่ะอดไปคริสมาสโบวแล้วนะเว้ย’
“แล้วชั้นจะไปหาที่อื่นให้มันยุ่งยากทำไมฟะ ? บ้านแกน่ะอยู่ก็ใกล้ที่สุด ห้องนอนแกก็ทั้งโล่งทั้งกว้าง อาหารก็ฟรี พี่นายก็ชอบชั้น พ่อแม่----” ก่อนที่เขาจะทันได้นั่งนับนิ้วไล่เรียงเหตุผลออกมาจนหมด ก็ถูกปิดปากเอาไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ยาว
“เออ ๆ พอ ๆ รู้แล้วเว้ย แกนี่มันจริงๆ เลย.......”
เจ้าของห้องว่าอย่างหงุดหงิด คิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้นขณะมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากที่กำลังแสยะยิ้ม เขาจึงรีบชักมือกลับอย่างลืมตัว แขกไม่ได้รับเชิญจึงได้โอกาสขยับลุกขึ้นนั่ง และยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วจนอีกฝ่ายตั้งตัวแทบไม่ทัน ก่อนที่กระดาษแผ่นหนึ่งจะมาแปะอยู่บนหน้าที่กำลังงง
“อีกอย่าง ถ้าเจ้าตัวไม่อยู่ก็วางแผนไม่ได้ดิวะ”
“หา ?” ‘ทำยังกะแกเคยปรึกษาใครตอนวางแผนงั้นน่ะ’ ฮาบาชิระว่าอย่างงงๆ ขณะแอบประชด แล้วเอากระดาษบนหน้ามาอ่าน “นี่แกจะให้ชั้นเป็นเบ๊ช่วยฝึกให้ทีมแกอีกแล้วเรอะ ?” แน่นอนว่าที่แรกที่สายตาของเขาไปสะดุดอยู่ก็คือชื่อของตัวเองบนแผงผังตำแหน่งของผู้เล่น
“ก็ในเมื่อแกว่างแล้วก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ดิวะ”
“แล้วชั้นจะช่วยแกได้ยังไงในเมื่อลูกน้องชั้นมันเปิดแน่บไปหมดแล้ว”
ถึงมันจะเป็นคำพูดที่เสียดสีตัวเองและยิ่งทำให้รู้สึกแย่มากขึ้น แต่อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้เห็นคนตรงหน้าไม่สมหวังสักครั้งเถอะ มันคงจะเป็นช่วงเวลาที่น่าเก็บเอาไว้ในความทรงจำตลอดไปแน่ ๆ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเดมอนกลับยังคงอยู่
“ทาสยังไงมันก็คือทาสอยู่วันยังค่ำ อย่างไอ้พวกปอดแหกตูดหมึกพวกนั้นมันจะมีปัญญาเป็นไทเองได้เรอะ ?” คำพูดและท่าทางที่กลับมานั่งวางมาดไขว่ห้างพิงข้างเตียงพร้อมกับเชิดหน้าเล็กน้อยยิ่งทำให้อีกฝ่ายงงมากขึ้น “แกน่ะเป็นหัวโจกไม่ใช่เรอะ......”
“หา ?”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เด็กหนุ่มทั้งปี 1 , 2 , และปี 3 ต่างจับกลุ่มตามจุดต่างๆ ของโรงเรียนโซคุงาคุเหมือนทุก ๆ วัน แต่มีเพียงกลุ่มของคนที่เคยอยู่ชมรมอเมริกันฟุตบอลเท่านั้นที่กลับตั้งใจไม่เข้าไปเหยียบในที่ประจำของตน เพราะมันคือห้องชมรมของพวกเขา
.....สวัสดีนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ซอกหลืบไหนของโรงเรียนก็ตาม นี่คือ ครูใหญ่ เด็กนักเรียนที่มีรายชื่อต่อไปนี้ ขอให้มารวมตัวกันที่ห้องประชุมใหญ่ตอนนี้ด้วย ถ้าใคร.......
เสียงป่าวประกาศที่แข็งทื่อและเต็มไปด้วยความกลัวเหมือนกับกำลังถูกจับให้ท่องตามบทของผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นดังก้องไปทั่ว แต่มันกลับขาดหายไปและเปลี่ยนมาเป็นเสียงของคนที่มีกิตติศัพท์เรื่องความโฉดอันโด่งดังของเดมอนแทน
......YA~HA !! ไม่มาตายนะเฟ้ย !!!.....
แล้วเสียงหัวเราะของปีศาจก็ดังก้องไปทั่ว จากนั้นรายชื่อของเด็กนักเรียนก็ดังขึ้นทีละชื่อพร้อม ๆ กับเสียงระเบิดตามจุดต่าง ๆ ของโรงเรียน เด็กนักเรียนทุกคนต่างวิ่งหนีตายกันเจ้าละหวั่น บ้างก็รีบวิ่งหาที่หลบ บ้างก็รีบวิ่งไปคว้ามอเตอร์ไซค์สุดรักของตัวเองแล้วขับหนีออกนอกโรงเรียนไปจนแทบไม่มีใครเหลืออยู่ในโรงเรียน แต่เมื่อการทำลายล้างของอาวุธสงครามสิ้นสุดลง เบื้องหน้าของเวทีห้องประชุมนั้นก็คือ กลุ่มเด็กนักเรียนในรายชื่อผู้ถูกหมายหัวอย่างไม่เป็นทางการ
“อะ....อาวล่ะ ขอบคุณนักเรียนทุกคนที่มา ต่อ....ต่อไปนี้จะเป็น.......” ผู้อำนวยการวัยกลางคนร่างอ้วนบนเวทีว่าอย่างเลิกลั่กและเหมือนกับกำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่ และต้นเหตุก็โผล่ออกมาจากทางด้านหลังพร้อมกับปืนกลในมือที่ยิงระรัว
“ชั้นเองเฟ้ย !!!”
นับตั้งแต่เรื่องระเบิด ทุกคนที่ถูกไล่ต้อนมาต่างรู้กันหมดแล้วว่าการทำลายล้างนั้นมันจะเกิดขึ้นเพราะใครไปไม่ได้นอกจากเดมอนสุดโฉดแห่งเดวิลแบ็ทคนนี้ คำพูดที่เจ้าตัวป่าวประกาศจึงเหมือนไม่มีความจำเป็นไปโดยปริยาย
“เอาล่ะไอ้พวกปอดแหกตูดหมึกทั้งหลาย ที่ชั้นเรียกพวกแกมาก็มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น !!” นิ้วชี้เรียวยาวชี้มาที่พวกเขา “เพราะงั้นตามมาซะดี ๆ” แล้วก็ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะตามแบบฉบับของเดมอน
“ตะ....แต่ว่าเราเลิกเล่นอเมริกันฟุตบอลไปแล้วนะ พะ...เพราะงั้น......” แต่ก็ยังมีคนหน่วยกล้าตายก้าวออกมาปฏิเสธ
“หา ? แล้วมันทำไม ? ชั้นเคยบอกว่ามาเป็นทาสเพราะเล่นอเมริกันฟุตบอลรึไง ?”
ปีศาจสุดโฉดเบ้ปากว่าพลางมองด้วยอารมณ์เบื่อหน่ายเต็มที แต่กระนั้นนัยน์ตาสีเขียวก็ยังคงเหลือบมองมาเหมือนกับจะท้าว่า ‘ อะไร ? คิดจะหือรึไง ? ’ ในขณะที่ปืนในมือน่ะเตรียมพร้อมที่จะยิงแล้ว
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้า เพราะใครจะอยากก้าวขึ้นไปยืนบนแท่นประหารเพราะปีศาจสุดโฉดแห่งเดวิลแบ๊ท สมุดเดธโน้ต และกระสุนปืนกันบ้างล่ะ
ใบหน้าคมแอบแสยะยิ้ม แต่ทุกคนเห็นเพียงสีหน้าที่หงุดหงิดสุดฤทธิ์ของเดมอนเท่านั้น
“ในเมื่อรู้แล้วก็ไปเตรียมตัวสิเฟ้ย !! ให้เวลา 10 นาที ใครมาช้ากว่านั้น เจอเกมลงทัณฑ์ นะเว้ย” น้ำเสียงเน้นหนักพร้อมกับออร่าสีแดงเถือกและค้างคาวสีดำทำให้ทุกคนเสียวสันหลังวาบแล้วต่างวิ่งหนีตายกับการถูกยิงกราด
โรงเรียนเดมอน
กลุ่มเด็กนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มสีแดงต่างหยุดซ้อมแล้วหันมามองคนจากโรงเรียนคู่อริของพวกเขาอย่างสงสัย พี่น้องสามหาก้าวออกมาเตรียมที่จะมีเรื่องเต็มที่ถ้าอีกฝ่ายคิดจะหาเรื่องฟาดปาก ในขณะที่ในใจก็แอบสงสัยว่าถ้ามาท้าต่อยแล้วทำไมต้องใส่ชุดฟอร์มอเมริกันฟุตบอลมาด้วย
สายตาของทั้งสองฝ่ายต่างจ้องกันอย่างดุเดือดเมื่อไม่มีฝ่ายใดยอมล่าถอย แต่ไฟที่คุกกรุ่นก็ถูกทำให้ดับไปทันทีเมื่อถูกกระสุนสาดใส่ และเมื่อควันจางหายไป เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทก็ก้าวออกมาพร้อมรอยแสยะยิ้มปีศาจ
“มากันครงเวลาดีนี่พวกแก ว่าแต่เอ.....หายไป 4 นี่นา ไปไหนกันน้า ?” ปีศาจแกล้งถาม แต่ใบหน้านั่นแสดงให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งเลยว่าถามไปยังงั้นทั้ง ๆ ที่รู้ดีอยู่แล้ว และทุกคนโดยเฉพาะสมาชิกทีมเดวิลแบ็ทต่างรู้สึกหวั่นๆ กับสิ่งที่เจ้าตัวกำลังจะพูด “งี้ต้องให้คนไปตาม
..”
เมื่อเห็นท่าสูดลมหายใจเข้าของเขา นักเรียนโรงเรียนเดมอนทุกคนต่างถอยกรูดไปอยู่ห่างๆ อย่างรู้หน้าที่ และเมื่อเสียงเรียกที่ดังก้องจบลง ก็มีเสียงของอะไรวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจนฝุ่นตลบ ดวงตาสีแดงที่ลุกวาวมาพร้อมกับเสียงฮึ่มแฮ่ของสัตว์ร้ายที่เป็นเหมือนดั่งสุนัขเฝ้านรก
“โอ๊ะ ดูสิ มันเก่งเนอะ?” ยังไม่วายหันมายิ้มร่าชมสุนัขของตัวเองหน้าตาเฉย และทุกคนต่างคิดเหมือนกันขณะมองขากางเกงของเด็กหนุ่มสี่คนที่อยู่ในปากของสัตว์เลี้ยงที่ว่าว่า ‘ครับ สัตว์เลี้ยงของคุณช่างสุดยอดจริง ๆ’
“เฮ้ !! ฮิรุม่า !! ไอ้พวกนี้มันกำลังจะ-----” หัวโจกเก่าของโรงเรียนโซคุงาคุที่วิ่งเข้ามานั้นหยุดก่อนจะทันได้พูดจบเมื่อเห็นว่าสุนัขแสนรักจัดการให้เรียบร้อยแล้ว “ว่าแต่จะเอาพวกมันมาทำไมอีกฟะ ? คนอื่นในโรงเรียนก็มี” เขาถามพลางเกาหัว ใบหน้าอดแสดงความหงุดหงิดออกมาไม่ได้เมื่อเห็นลูกน้องที่ไม่เอาถ่านของตัวเอง
“ก็ถ้าไม่เอาเจ้าพวกนี้ มันก็ไม่มีความหมายดิวะ” ฮิรุม่าหัวเราะฮึแล้วเหลือบมองกลุ่มลูกน้องที่ว่า “เฮ้ย !! พวกแกก็ไปซ้อมกันดิวะ ไอ้พวกตูดหมึก มายืนบื้อมองอะไร !!” แล้วเขาก็หันไปแยกเขี้ยวใส่สมาชิกทีมของตัวเองพลางสาดกระสุนใส่ก่อนจะหันมายิ้มหวานน่ากลัวกับนักโทษ 4 คน “ที่นี้ก็ถึงเวลาลงทัณฑ์แล้วเฟ้ย !!”
คำพูดของเขาเป็นเหมือนคำสั่งประหารในหูของทุกคนมากกว่า เหล่านักโทษต่างคิดเหมือนกันว่า ไม่น่าแอบหนีไปทำลายข้าวของของคนตรงหน้าเป็นการแก้เผ็ดเลย
“ระวังอย่าให้ตายนะเฟ้ย เดี๋ยวเรื่องมันจะยุ่งยาก” ฮาบาชิระพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ในใจก็กลับรู้สึกเป็นห่วง
“ไม่ตายหรอกเฟ้ย” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงกลับไม่รับประกันความปลอดภัยของนักโทษเอาเสียเลย
“เฮ้ย ! เอาไอ้นี้ผูกกับตัวเองซะ” เขาว่าพลางเขี่ยเซอร์บิรุสออกไปก่อนแล้วโยนกระดูกมาให้คนละอัน แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงจอมตะกละต้องตาลุกวาวด้วยความหิวกระหาย
“ทำสิเฟ้ย !!” ปีศาจยิงปืนขู่แล้วตะคอกใส่อย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นว่านักโทษยังไม่ขยับ
สมาชิกทีมเดมอนที่แอบเหลือบมองอย่างสนอกสนใจต่างรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่มันจะเป็นไปได้เหรอที่เดมอนของพวกเขาจะทำแค่นั้น เพราะช่วงนี้เจ้าตัวโหดมากกว่าเดิม กรงขนาดใหญ่ที่หล่นลงมาจากฟ้าแล้วขังนักโทษเอาไว้คือคำตอบของพวกเขา
“ฮะ.....ฮิรุม่า อย่าบอกนะว่า......” ฮาบาชิระว่าอย่างอึ้งๆ ในขณะที่คนอื่นๆ ก็คิดเหมือนกัน แต่เหมือนกับว่าปีศาจจะไม่สนใจและหันไปลูบหัวสัตว์เลี้ยงแสนรักพลางยิ้มหวานจนน่าขนลุก
“เซอร์บิรุส ชั้นไม่ได้ให้อาหารแกมา 2 วันแล้วสินะ เพราะงั้น.......” ใบหน้ากลับมาโฉดชั่วพร้อมกับออร่าสีแดงเถือกแผ่ซ่านและ....”ไปเขมือบพวกมันซะ !!”
สัตว์ปีศาจคำรามแล้วรีบวิ่งผ่านซี่กรงเข้าไปไล่ล่าเหยื่ออันโอชะที่วิ่งหนีตายกันอลหม่านในขณะที่เจ้าของหัวเราะอย่างชั่วร้าย ภาพที่เห็นในกรงเห็นทำให้ทุกคนนิ่งเงียบและมองกันด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะเหล่าเพื่อนๆ ของนักโทษประหาร
“ฮิรุม่า !! ไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอวะ !!?”
หัวโจกเข้ามากระชากคอเสื้อถาม แต่ปีศาจสุดโฉดกลับไม่สนใจแล้วปัดมือของหัวหน้าแก๊งออกไป ก่อนจะเดินไปหาสมาชิกทีมของเขาที่เผลอยืนตัวตรงเหมือนทหารที่พร้อมรับคำสั่งโดยไม่รู้ตัว
“วันนี้จะให้ซ้อมกับเจ้าพวกนี้.......” ผู้เปรียบเสมือนเป็นหัวหน้าทีมว่าเสียงเรียบเหมือนกับสิ่งที่อยู่ข้างหลังไม่เคยเกิดขึ้น “จะยืนแช่อยู่ตรงนั้นไปอีกนานแค่ไหนวะ จะเริ่มซ้อมแล้วนะเว้ย !! แกก็ด้วยไอ้คาเมเลออนตูดหมึก”
เขาหันมาตะโกนเรียกนักเรียนของโซคุงาคุ รวมทั้งนักโทษปางตายในกรงที่นอนทับกันอยู่บนพื้น โดยมีสัตว์เลี้ยงสุดโหดนั่งแทะกระดูกอย่างสบายอารมณ์อยู่ด้านบน เมื่อกรงถูกเครนที่เอามาจากไหนไม่รู้ยกออกไป สัตว์ปีศาจก็เดินเตาะแตะไปนอนหมอบอยู่ข้างสนาม
“วันนี้เราจะซ้อมตามการ์ดกลยุทธพวกนี้ เพราะงั้นเอาตัวรอดกันให้ได้นะเฟ้ย”
ประโยคหลังนั้นฟังดูแปลกๆ สำหรับคนจากโรงเรียนคู่อริ แต่สำหรับโรงเรียนเดมอนมันถือเป็นเรื่องปกติและเหลือบมองกันเองอย่างรู้ดีในขณะที่เตรียมใจรับกับแผนฝึกโหดที่ปีศาจแห่งเดวิลแบ็ทจะโยนมาให้ ในใจต่างแอบสงสารกลุ่มคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ต้องมาร่วมเผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายกับพวกเขา
การฝึกเริ่มตามตารางที่เคยฝึกกันเป็นประจำ แต่มันค่อยๆ รุนแรงและอันตรายมากขึ้นจนมองยังไงก็ไม่เรียกว่าเป็นการฝึก แต่เหมือนกับกำลังหนีตายกันอยู่มากกว่า เมื่ออาวุธหนักอย่างเช่น ระเบิด กับดัก สัตว์เลี้ยงแสนรักสุดโหด และอื่นๆ อีกมามายนั้นเข้ามามีส่วนช่วยในการฝึกด้วย และทุกครั้งที่การฝึกแบบหนึ่งจบลงพร้อมกับสนามหญ้าที่เละเทะไม่มีมีชิ้นดี พวกเขาก็จะถูกสั่งให้ซ่อมมันในเวลาที่จำกัดด้วยข้าวของจากลูกชายบริษัทรับก่อสร้างที่ขับรถบรรทุกมาจอดให้บริการอยู่ข้างสนาม
แม้การฝึกจะวนเวียนต่อเนื่องกันไปโดยไม่มีการหยุดพักจนพระอาทิตย์ยามเที่ยงวันกลายมาเป็นพระจัทร์ตอนเที่ยงคืน ก็ยังไม่มีใครกล้าที่จะออกปากร้องขอความเป็นอิสระจากการฝึกอันหฤโหดที่ดูไร้สาระและไร้เหตุผลนี้เลยแม้แต่คนเดียว เพราะหนึ่ง สมาชิกทีมเดมอนนั้นต่างรู้ดีและรับได้กับการฝึกสุดโหดที่เจอเป็นประจำทุกวัน และสอง ไม่มีโซคุงาคุคนไหนกล้าปฏิเสธ เพราะหลังจากที่เจอทั้งระเบิดและกับดักอันตรายมากมาย พวกเขาต่างรู้ดีว่าคนที่วางพวกมันเอาไว้นั้นอันตรายขนาดไหน แต่กระนั้นก็ยังมีคนกล้าบ้าบิ่นที่จะเข้าต่อกรปีศาจอาวุธเดินได้แห่งเดวิลแบ็ท
“ฝึกบ้าอะไรวะ แบบนี้มันพยายามฆ่ากันชัด ๆ !!!”
ฮาบาชิระเข้ามากระชากคอเสื้อแล้วว่าอย่างเกรี้ยวกราด จริงอยู่ที่เขารู้ว่าคนๆ นี้ชอบทำอะไรรุนแรงและมักชอบทำอะไรอันตรายในแบบที่คาดไม่ถึง แต่สิ่งที่ทำในวันนี้มันทั้งป่าเถื่อนและไร้เหตุผลเกินกว่าที่จะยอมรับได้
“ก็ยังอยู่กันครบนี่ ?” ปีศาจยังคงตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
“นั่นไม่ใช่ประเด็นเว้ย !!!” เขาว่าอย่างหัวเสีย ก่อนจะผลักคนตรงหน้าออกไปอย่างแรง แล้วหันมาสั่งลูกน้องเก่าของตัวเองด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ไม่ต้องอยู่มันแล้วกับไอ้บ้านี่ พวกแกกลับ !!”
“ตะ.....แต่ว่า........”
หนึ่งในลูกน้องพูดขึ้นมาอย่างกลัว ๆ เพราะในใจนั้นอยากจะวิ่งหนีไปอย่างที่หัวหน้าสั่ง แต่ปีศาจที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นน่ากลัวเกินว่าที่ร่างกายจะทำตาม
“เออน่ะ ! ไอ้หมอนี่ชั้นจัดการเอง พวกแกไปซะ !!” ‘พูดอะไรออกไปวะเนี่ย !? หาเรื่องฆ่าตัวตายชัด ๆ !!’ ในใจคิดอย่างหวาดหวั่น แต่ความมุ่งมั่นที่มีอยู่นั้นไม่สั่นคลอนแม้จะต้องต่อกรกับปีศาจสุดโฉดแห่งเดวิลแบ็ทก็ตาม
“ไปสิเฟ้ย !!!” เขาตวาดสุดเสียงทำให้ทุกคนสะดุ้งโหยง โดยเฉพาะนักเรียนโซคุงาคุที่วิ่งหนีไปทันที
ทุกคนในทีมโรงเรียนเดมอนมองหัวโจกเก่ากับหัวหน้าทีมของพวกเขาอย่างลุ้นระทึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ และพวกเขาเชื่อว่าสมุดเดธโน้ตจะต้องถูกควักออกมาในขณะที่เจ้าของหัวเราะอย่างชั่วร้าย แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นกันจริงๆ กลับไม่เป็นแบบนั้น
ฮิรุม่าเพียงแค่มองด้วยสีหน้าสองอารมณ์ คือ หงุดหงิดและเบื่อหน่าย แล้วล้มลงนั่งบนที่นั่งข้างสนามก่อนจะหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม นัยน์ตาสีเขียวจ้องมองตรงไปหาคนตรงหน้า
“ทาสน่ะไม่มีหน้าที่สั่งนะเฟ้ย” เขายังคงว่าเสียงเรียบ “เจ้านายน่ะชั้นนะ”
“ทาสอะไรก็ช่าง จะลูกน้องใครก็ไม่สน !! ขอให้ชั้นกับพวกนั้นน่ะมาช่วยยังพอว่า แต่ให้มาทำอะไรแบบนี้มันเกินไปแล้วนะเว้ย !!” คนที่มองดูต่างรู้สึกประทับใจในความกล้าของเขา
“เกินไปยังไง ชั้นก็เตือนพวกมันไปแล้วนี่ว่า นอกเหนือนจากตำแหน่งที่อยู่ในการ์ดน่ะมีกับดัก ไอ้พวกตูดหมึกนี่มันก็เจออยู่ทุกวันยังไม่เห็นเป็นไร.....” เขาว่าพลางชี้ไปยังกลุ่มผู้ดูที่ต่างคิดเหมือนกันว่า ขืนจำไม่ได้ก็ตายกันหมดสิ
“เป็นไม่เป็นก็ช่าง แต่.......เว้ย !! คนอย่างแกพูดไปก็เท่านั้นแหละ เอาเป็นว่าชั้นจะไม่ยอมมาทำเรื่องงี่เง่าพรรค์นี้เป็นครั้งที่สองแน่ !!” ฮาบาชิระตัดบทเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดในเมื่อคนตรงหน้านั้นเอาแต่เฉไฉประเด็นและหาข้ออ้างไม่เลิกสักที ก่อนจะหันหลังเดินออกมาอย่างหัวเสีย
“’งั้นแกจะเป็นคนสั่งเองสินะ......” เดมอนเพียงแค่ยิ้มเจ้าเล่ห์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันต่อมา
เด็กหนุ่มสวมเสื้อคลุมเขนยาวสีขาวเดินลากเท้ามาที่ห้องชมรมอย่างเซ็ง ๆ การฝึกซ้อมหฤโหดเมื่อวานทำเอาเขาปวดเมื่อยตัวไปหมดจนแทบลุกไม่ขึ้น แต่การที่จะนอนอยู่เฉยๆ ที่บ้านก็เป็นเรื่องน่าเบื่อเกินไป เขาจึงตัดสินใจมาหาเรื่องฟาดปากคนสักคนสองคนแก้เซ็งที่โรงเรียน
‘วันนี้จะมีใครโผล่หัวออกมามั่งเปล่าวะ ?’
เขาคิดพลางเปิดประตู เพราะเพื่อนร่วมห้องของเขาส่วนใหญ่ก็เป็นคนในชมรมอมเริกันฟุตบอล ถ้าเจ้าพวกนั้นยังไม่กล้ามาสู้หน้าเหมือนวันก่อนๆ ก็คงจะมีไม่กี่คนหรอกมั้ง ? เขาถอนหายใจกับการคาดเดานั่น
เมื่อฝ่ามือใหญ่ยาวเลื่อนเปิดประตูเก่าขึ้นสนิม ภาพที่เห็นในห้องกลับทำให้อึ้งและช็อคค้างอยู่หลายวินาทีก่อนที่มือข้างนั้นจะปิดประตูอย่างเงียบสนิท
‘เราต้องตาฝาดไปแหงๆ มันจะเป็นไปได้ไง......’ เด็กหนุ่มบอกตัวเอง
“ไม่เข้าไปเหรอฮาบาชิระ ? ยืนบื้อทำไรอยู่หน้าห้องน่ะ ?” เสียงของผู้จัดการทีมที่มีผมบลอนด์ยาวและถือดาบไม้ทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย
“เปล่า ว่าแต่เธอมาทำไรล่ะ ? ชมรมไม่มีแล้วนี่ ?”
“ก็เมื่อคืนมีคนบ้าที่ไหนไม่รู้โทรมาบอกว่ามีคนโรงเรียนเราตั้งชมรมขึ้นมาใหม่ ชั้นก็เลยมาดู”
“จะเป็นไปได้ไงวะ ?” ‘ไม่ใช่การ์ตูนนะเว้ย จะได้มีคนดีเลิศแบบพระเอกกลับใจมาทำแบบนั้นน่ะ อย่างไอ้เจ้าพวกนั้นมีเหรอจะสำนึกน่ะ.......’
“ก็เพราะงั้นถึงต้องมาดูให้เห็นกับตาไง เอ้า เปิดซะทีสิ.....”
ฮาบาชิระยักไหล่และเลื่อนประตูอีกครั้ง และภาพที่เขาคิดว่าเป็นภาพหลอนก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม เขาจึงได้แต่สรุปเอาในใจว่า มันคือของจริงสินะ แล้วมองเด็กหนุ่มที่เคยอยู่ในอเมริกันชมรมทั้งหมดก้มหมอบคำนับกับพื้นกันเป็นแถบ การพูดประสานเสียงของพวกเขาทำให้สะดุ้งเล็กน้อย
“พวกเราขอโทษเรื่องที่พวกเราทำในการแข่งขันวันนั้นด้วยครับ ได้โปรดยกโทษให้พวกเราแล้วรับพวกเรากลับมาเป็นลูกน้องคุณอีกครั้งด้วยครับ ได้โปรดเถอะครับ !!! กรุณาด้วยครับ !!!”
“จะกลับมาทำซากอะไรวะ ? เดี๋ยวพวกแกก็ขอเลิกกลางคันเหมือนคราวที่แล้วอีก อีกอย่างคริสมาสโบวสำหรับคาเมเลออนน่ะไม่มีแล้วนะเว้ย”
“ไม่แล้วครับ พวกเราสาบานว่าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดครับ !!!” เหล่าลูกน้องยังคงยืนยันเสียงแข็งและยิ่งทำให้คนถูกขอร้องยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าคำขอร้องนี้มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลัง
“มีอะไรกันแน่ ชั้นไม่เชื่อหรอกว่าพวกแกจะอยู่ๆ ก็อยากกลับมาแบบนี้.......” หัวโจกพูดด้วยน้ำเสียงไม่ไว้วางใจ
“คือ....คือว่า เราไม่อยากถูกฮิรุม่าเรียกให้ไปช่วยซ้อมอีกแล้ว” ลูกน้องคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นตอบ
“หา ?” แน่นอนว่าเขาไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันตรงไหน
“เพราะเมื่อวานคุณสามารถยืนหยัดต่อต้านคนๆ นั้นได้ ทำให้เรารู้ว่าคุณเป็นหัวหน้าที่แข็งแกร่ง เพราะงั้น........” ลูกน้องคนที่สองเว้นวรรคนิดหนึ่งเพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขากำลังจะพูดจะทำให้อีกฝ่ายโกรธรึไม่ แต่คนตรงหน้าก็ยังคงยืนกอดอกรอฟังคำตอบอยู่ เขาจึงจำเป็นต้องพูด “......เราเลยรู้ว่าถ้ามีคุณฮาบาชิระอยู่ พวกเราก็จะไม่มีวันโดน.......”
“ไอ้ฮิรุม่ามันมาบอกรึไงว่าจะเรียกไปอีกน่ะ ?”
“ใช่แล้วครับ !!!”
ลูกน้องทุกคนประสานเสียงพลางชี้ไปที่กระดานดำอย่างพร้อมเพรียงกัน บนนั้นมีข้อความที่เขียนด้วยสีสีแดงตัวใหญ่ว่า วันนี้ก็มาช่วยซ้อมอีกนะเฟ้ย เวลาคือ บ่ายสามตรง ใครมาสายเจอเกมลงทัณฑ์ YA~HA !!! น่าแปลกที่พออ่านจบแล้วรู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะปีศาจดังขึ้นมาจริง ๆ
“ฮึ่ย ไอ้เจ้าบ้านั่นมันยังไม่เลิกอีก” หัวโจกว่าพลางถอนหายใจแล้วกุมขมับ “เพราะงั้นพวกแกที่ขี้ขลาดเลยมาขอความคุ้มครองจากชั้นสินะ......” ประโยคที่สองนี้เขาแทบจะพูดออกมาอย่างเยาะเย้ยถ้าไม่ติดที่ว่าเขาไม่ใช่คนที่ชอบซ้ำเติมคนอื่น
“เพราะงั้นได้โปรดเถอะครับ !!! ขอความกรุณาด้วยครับ !!!!!” เหล่าลูกน้องที่จนตรอกก้มหัวขอร้องโดยพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง
“เผอิญชั้นไม่ว่างมานั่งเป็นไม้กันหมาให้ซะด้วยสิ ลาก่อน” ‘ไอ้เหตุผลพรรค์นี้ใครมันจะรับได้วะ ไร้ความจริงใจแล้วก็ งี่เง่าสิ้นดี เดี๋ยวพอถึงเวลามันก็เดินหนีไปเหมือนเมื่อตอนนั้นอีกนั่นแหละ’
เขาคิดอย่างหงุดหงิดขณะหันหลังเดินไปที่ประตู ภาพของลูกน้องที่ทิ้งเขาแล้วถอดใจเดินหนีออกจากการแข่งขันกลางคันผุดขึ้นมาในหัว ความเจ็บปวดเมื่อตอนที่ประตูไปสู่คริสมาสโบวนั้นปิดลงตรงหน้ากลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ทันที่เขาจะก้าวไปถึงประตู มือนับสิบกว่าข้างก็เข้ามาฉุดดึงขากันอุตลุดพร้อมกับเสียงขอร้องที่ดังปนเปกันจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“ปล่อยสิเฟ้ย !!!” ฮาบาชิระพยายามดึงขาออกแล้วเดินไปที่ประตูแต่ก็ไม่ได้ผล “มาช่วยกันหน่อยดิวะ มันแต่ยืนดูอยู่นั่นแหละ !!” เขาหันมาหาผู้จัดการทื่ยืนนิ่งเงียบมาตั้งแต่เข้ามาในห้องและยังคงทำแบบนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“แล้วจะให้ชั้นเข้าไปตะลุมบอลกับเจ้าพวกนี้เนี่ยนะ ?” เธอว่าเสียงเรียบ
“เออ งั้นก็ยืนบื้อต่อไปเหอะ !!”
เขาประชดและพยายามเอาตัวรอดด้วยตัวเอง แต่กระนั้นการต่อสู้ที่มีเขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวก็ไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายที่มีถึง 11 คนได้ จนในที่สุดความอดทนก็ถึงขีดสุดและทำให้เขาต้องจำใจยกธงขาว
“เออ ๆ ๆ ๆ ๆ รู้แล้วเฟ้ย !! ชั้นยอมรับพวกแกกลับมาเป็นลูกน้องก็ได้เว้ย !!! ปล่อยได้แล้ว !!!!!”
เขาว่าอย่างเหลืออดแล้วหอบแฮ่ก ๆ ในขณะที่ลูกน้องต่างทำตามและหันไปเฮกันอย่างดีอกดีใจ แต่ช่วงเวลาของความสุขก็หยุลงเมื่อเขาหันมาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดและแผ่ออร่าสีดำทมิฬ “พวกแกเป็นคนพูดออกมาก่อนเองนะเฟ้ยว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก เพราะงั้นถ้าพวกแกกลับคำขึ้นมาล่ะก็ ตาย !!!”
“คะ....ครับ !!!! ทราบแล้วครับ ไม่มีแน่นอนครับ !!!!!!”
พวกลูกน้องต่างยืนตรงประสานเสียงกันอย่างเข้มแข็งเหมือนกับทหาร แต่กลับกลัวหงอและผงะถอยกันหมดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของหัวหน้า ทำให้เจ้าของและผู้จัดการเหงื่อตกว่าจะกลัวอะไรกันขนาดนั้น
“ไอ้ปีศาจสุดโฉดนั่น.......” เขาว่าอย่างหงุดหงิดนิดหน่อยที่พอเขาหลุดปากตกลงไปปุ๊บคนที่ว่าก็โทรมาปั๊บเหมือนกับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นดีอยู่แล้ว “พวกแกอยู่นี่แหละ” เขาพูดห้วนๆ ก่อนจะก้าวออกจากห้องเพื่อไปหาที่อื่นคุย
“ไม่ตามไปรึไง ? ไม่อยากรู้เหรอว่าฮิรุม่าจะโทรมาทำไม ?”
ผู้จัดการถามอย่างสงสัย แต่อีกฝ่ายต่างส่ายหน้ากันเป็นแถวเพราะกลัวว่าปีศาจแห่งเดมอนจะแอบวางแผน หรือวางกับดักอะไรเอาไว้นอกห้อง คนถามเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วก็นั่งรออยู่ข้างหน้าต่าง เพราะขี้เกียจตามไปแอบฟัง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดาดฟ้าของโรงเรียน
เด็กหนุ่มเปิดประตูแล้วปิดล็อคเพื่อกันไม่ให้ใครเข้ามาขัดจังหวะ ก่อนจะรับโทรศัทพ์ที่ดังมาตั้งแต่เดินออกมาจากห้องชมรม เขาไม่รู้สึกแปลกใจกับประโยคแรกที่ได้ยินจากปลายสาย
..........กว่าจะรับนะแก เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ นึกแล้วว่าต้องเลือกมาคุยที่ดาดฟ้า
.
“แอบดูจากที่ไหนอยู่ล่ะสิ ? มีอะไร ?” เขาตัดบทเพราะไม่อยากคุยยืดเยื้อ
.........แกได้ลูกน้องคืนแล้วล่ะสิ........ อีกฝ่ายพูดอย่างรู้ดี
“แต่ชั้นไม่อยากได้ว่ะ เห็นอยู่ว่าพวกมันน่ะไม่ได้เรื่อง พอถึงเวลาก็คงทำเหมือนเดิมอีกนั่นแหละ”
........แล้วแกรับพวกมันกลับมาทำไม ?........
ฮาบาชิระรู้สึกว่าฮิรุม่ารู้คำตอบดีอยู่แล้วแต่แกล้งถามไปยังงั้น แต่ก็เขาก็ไม่ว่าอะไรที่จะตอบ “เพราะสงสารพวกมันน่ะสิ อีกอย่างถ้าไม่ตกลงไปพวกมันก็จะเอาแต่ตามตื้อชั้นทั้งวันจนบ่ายสามโน่นแหละ” พอพูดถึงเวลา เขาก็ได้โอกาสพูดอีกเรื่อง “ชั้นขอปฏิเสธเรื่องช่วยซ้อมไว้ก่อนเลยนะเว้ย”
.........ชั้นก็ไม่ได้สั่งนี่ว่าห้ามปฏิเสธ เพราะงั้นถ้าแกหรือพวกมันปฏิเสธมาชั้นก็ไม่มีสิทธิบ่นอะไรจริงมั้ย ?........
“แกจะเอาปืนมายิงพวกชั้นแทนน่ะสิ”
.........ถ้าไม่งั้นพวกแกจะโผล่หัวมาอย่างเต็มใจรึไง แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ วันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องซ้อมแล้วสินะ
ควอเตอร์แบ็คของทีมเดมอนว่าแล้วหัวเราะ
“หา ?” คำพูดของเขาทำให้หัวโจกทีมคาเมเลออนงง และไม่อยากเชื่อว่าอะไรมันตัดสินใจยกเลิกกันง่าย ๆ แบบนี้
........นี่แกคิดว่าปกติชั้นป่าเถื่อนโหดไร้สามัญสำนึกแบบนั้นรึไง ?.........
“แล้วไม่ใช่รึไง ?” เขาเกือบจะพูดด้วยน้ำเสียงประชดขณะลงนั่งพิงกำแพงข้างประตู
........บ้าเรอะ มันจะไปมีการฝึกโหดแบบนั้นจริงๆ ได้ไง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันได้ผลนะ ขอให้มันช่วยพัฒนาขีดความสามารถของคนเล่นขึ้นมาได้ จะเป็นวิธีอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ..........
“แกเนี่ยมันสุด ๆ จริง ๆ ชั้นละสงสารคนในทีมแกชะมัด” เขาว่าพลางถอนหายใจ “ไม่รู้ชั้นมาคบกับปีศาจสุดโฉดอย่างแกได้ยังไง.......”
“ก็เพราะแกเป็นคนพูดง่ายล่ะมั้ง ?”
คำตอบที่ดังมาจากด้านบนหลังคาของทางออกดาดฟ้าไม่ทำให้คนที่นั่งอยู่แปลกใจ เขาเพียงแต่รับจูบของเจ้าของเสียงที่ใช้ขาพาดกับราวข้างประตูแล้วห้อยหัวลงมา
“บ้านแกสิ ในเมื่ออยู่ข้างบนแล้วไมไม่วางสายวะ ปล่อยให้เสียตังค์อยู่ได้” ‘แกใช้โปรโมชั้นให้ปลายสายจ่ายแทนอยู่นะเฟ้ย !!’ เขาแทบอยากจะตะโกนออกมา แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะไม่ว่าจะพูดไปกี่ครั้ง เดมอนที่อยู่ตรงหน้านี่ก็ไม่มีทีท่าที่จะเปลี่ยนซักที
ฮิรุม่าหัวเราะเคี๊ยก ๆ ไม่ตอบคำถามแล้วกลับหัวลงมานั่งข้างๆ ฮาบาชิระ ทำให้อีกฝ่ายได้แต่ถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ
“แกวางแผนเอาไว้หมดแล้วสินะ.....” แต่อีกฝ่ายยังคงหัวเราะเป็นคำตอบ “ขอบใจแล้วก็ขอโทษเรื่องที่ชั้นพูดกับนายเมื่อตอนนั้น ชั้นไปหาเรื่องนายเองแหละ”
“ช่างเหอะ....” ฮิรุม่ายิ้มๆ ตอบก่อนที่จะเข้ามาจูบอีกฝ่ายอีกรอบ “ยินดีด้วยที่ได้ลูกน้องคืน”
“แล้วจูบแรกนั่นไม่ใช่รึไงวะ ?” ฮาบาชิระอดยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ได้ที่ได้กำไรจากอีกฝ่าย
“นั่นมันสำหรับทักทายเฟ้ย” เขาเหลือบมองหัวโจกขณะพูดก่อนจะหันไปมองท้องฟ้าแล้วเป่าหมากฝรั่ง “ลูกน้องยังไงมันก็คือลูกน้องอยู่ดีนั่นแหละวะ ถ้ามันใช้ไม่ได้จริง ๆ ก็แค่ไปหามาใหม่ก็หมดเรื่องแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรแล้วจะได้หรอกนะเว้ย มันอยู่ที่เวลาด้วย”
“แต่อย่างชั้นมันไม่มีเวลาแล้วนี่หว่า.......”
“นายมีเป้าหมายที่คริสมาสโบวเพราะอยากเล่นไม่ใช่รึไง แล้วแกจะบ่นอะไรอีก”
“แกเนี่ยมันจริงๆ เลยน้า เป็นคำพูดปลอบใจที่แปลกชะมัด” ‘เออ......ขอแค่ให้ได้เล่นก็พอแล้วนี่หว่า จะแข่งที่ไหนเมื่อไหร่ก็ไม่เห็นจะเกี่ยว.......’
“เออ......” ฮิรุม่าเพียงแค่ยิ้มแล้วตอบรับสั้น ๆ กับคำขอบคุณที่ไม่ได้พูดออกมาของฮาบาชิระเท่านั้น
. END -
.
ผลงานอื่นๆ ของ Hitomisure ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Hitomisure
ความคิดเห็น