Untitled [Fic : Eyesheild 21]
เมื่อเดมอนแห่งเดวิลแบ็ทอารมณ์ไม่ดี มูซาชิจะทำอย่างไร จะมีอะไรมาทำให้ปีศาจสุดโฉดนั้นอารมณ์ดีขึ้นมาได้
ผู้เข้าชมรวม
493
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Fanfiction
Project : Eyesheild 21
Untitled
“ขะ....ขอโทษที่รบกวนค่ะ / ครับ เชิญทำกิจกรรมต่อตามสบายค่ะ / ครับ”
น้ำเสียงเร่งรีบที่แสดงถึงความเขินของเด็กชายและเด็กหญิงดังขึ้นหลังจากเปิดประตูสีแดงขนาดใหญ่ของห้องวีไอพี ก่อนจะจากไปพร้อมกับปิดประตู แขกหนึ่งในสองคนที่กำลังนั่งรับประทานชุดเสต็กสุดหรูมองด้วยความสงสัย แล้วหันมาถามแขกอีกคนที่ยังคงนั่งผ่อนคลายอยู่ในอ่างอาบน้ำวนขนาดปานกลางที่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“พวกนั้นมีอะไรรึเปล่านะ ?”
“ไม่รู้สิ ปล่อยไปเถอะ.....” เด็กหนุ่มในอ่างน้ำตอบกลับมาอย่างไม่สนใจ
เด็กหนุ่มที่ยังคงอยู่ในชุดนักเรียนจึงยักไหล่ ก่อนจะหันไปสนใจอยู่กับอาหารสุดหรูตรงหน้า เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีที่จะจัดการกับมันแล้วจึงเบนความสนใจมาหาเพื่อนของตน
มือใหญ่โบกเป็นเชิงส่งซิกให้พ่อครัวมืออาชีพ 3 คนที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ออกไป เมื่อพวกเขาทำตามพร้อมกับล๊อกประตูอย่างรู้หน้าที่ ร่างสูงกำยำจึงเดินไปดับไฟ แล้วถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่เขินอาย ก่อนจะมาร่วมผ่อนคลายในอ่างน้ำเพื่อไล่ความเหยื่อยล้าหลังการฝึกที่ผ่านมา
ฮิรุม่าลืมตามองหนึ่งครั้งแล้วหันไปไม่สนใจสิ่งรอบตัวเหมือนเดิม แต่เขาก็สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงน้ำที่กระเพื่อม ปืนที่หยิบออกมาจากทางข้างหลังเหมือนกับเสกมาจากอากาศธาตุหยุดริมฝีปากที่จะเข้ามาล่วงเกิน
“ไม่ใช่คืนนี้ ชั้นอยากพักผ่อน.....”
นัยน์ตาสีฟ้าหรี่ลงมอง ริมฝีปากบางเผยอขึ้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความรำคาญ ขณะที่ใบหน้าคมแสดงอารมณ์นั้นออกมาอย่างโจ่งแจ้ง อีกฝ่ายจึงจำใจที่จะยอมล่าถอยแต่ก็ยังขอเข้ามานั่งข้างๆ และโอบสะโพกของเพื่อนเอาไว้ คนในวงแขนจึงอดที่จะถอนหายใจกับความดื้อดึงเล็กๆ น้อยๆ นั่นไม่ได้ แต่ก็ยอมให้โดยการขยับเข้าไปนั่งระหว่างขาแกร่งแล้วพิงอกกว้างเหมือนกับกำลังนั่งอยู่บนโซฟา
“ไหนบอกว่าไม่ใช่คืนนี้ไง......” เก้าอี้แอบประท้วงเล็กน้อยและสวมกอดร่างบางตรงหน้าแน่นเหมือนกับกลัวว่าร่างนั้นจะหายไปหากละสายตาไปเพียงวินาทีเดียว
“ก็แค่นั่งเฉยๆ นี่ แล้วก็อย่าสะเออะทำอะไรล่ะ”
คำพูดลงท้ายย้ำพร้อมกับปืนในมือยกขึ้นจ่อใต้คางเป็นการขีดเส้นกั้นไม่ให้ก้าวล้ำเข้ามา ผู้ที่ถูกจำกัดสิทธิจึงได้แต่ถอนหายใจขณะมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยก็ได้กอดอย่างนึงล่ะ
“ฮิรุม่า.....แผลนี่ไอ้หมอนั่นเป็นคนทำรึเปล่า ?”
เด็กหนุ่มสะอึกเล็กน้อยแต่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาให้เห็น และปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ถึงแม้สายตาของคนข้างหลังจะจับจ้องอยู่ที่รอยแผลฟกช้ำจางๆ บนแก้มซ้ายและสีข้างข้างขวาก็ตาม ภาพของเพื่อนเก่าที่เคยร่วมทำเรื่องชั่วกับทรงผมเดรดร๊อคที่ไม่เคยเปลี่ยนผุดขึ้นมาในหัว โดยเฉพาะการโต้คารมกันอย่างดุเดือดเมื่อเจอกันครั้งล่าสุดโดยบังเอิญยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
“ฮิรุม่า.......” น้ำเสียงทุ้มต่ำคาดคั้น “เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมมันยังมาหาเรื่องนายอีก ?”
“แล้วคนอย่างไอ้เดรดร๊อคตูดหมึกนั่นมันต้องมีเหตุผลอะไรให้หาเรื่องฟาดปากคนด้วยฟะ ?”
ฮิรุม่าแยกเขี้ยวว่าอย่างหงุดหงิดและประชดตัวต้นเหตุอย่างหัวเสีย ทั้งๆ ที่วันนั้นอุตส่าห์รู้สึกอารมณ์ดีมากกว่าวันอื่นๆ หน่อยแล้วเชียว แต่เคราะห์ดีดวงประจวบเหมาะตำราไหนให้ต้องมาเจอกับคนที่ต่อให้เป็นคนสุดท้ายในโลกก็ไม่อยากเห็นหน้า ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนเก่าเคยร่วมก๊วนทำชั่วกันมา ไม่อยากถูกตัดสิทธิลงแข่ง และหาเรื่องไปนอนเล่นในคุกในตาราง เขาคงยิงหมอนั่นทิ้งไปนานแล้ว
“เจอกันโดยบังเอิญงั้นสินะ.....” ‘ ถ้าไม่ไปตีฝีปากกับมัน ก็คงไม่โดนหรอกมั้ง.....’ เขาคิดพลางถอนหายใจและพอจะเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ลางๆ “โทษทีที่ทำให้นึกถึงมัน ชั้นเป็นห่วงน่ะ.....” เขารีบพูดเมื่อเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คิ้วของฮิรุม่าขมวดเข้าหากันมากขึ้น
“ช่างเหอะ......ยังไงก็ต้องเจอกันในสนามอยู่แล้ว.....”
เด็กหนุ่มเสยผมสั้นสีบลอนด์ที่ลู่ตกลงเพราะเปียกน้ำขึ้นพลางทิ้งคำพูดแฝงความหมายสองแง่สองง่ามเอาไว้ แล้วออกจากอ่างอาบน้ำไปโดยไม่สนใจคนที่อยู่ข้างหลัง
ทั้งๆ ที่คิดว่าจะได้ผ่อนคลายในโอกาสทองอันหายากบนเรือสำราญสุดหรูนี้แล้วซะอีก
“ชั้นขอโทษจริงๆ นะ”
ถึงมูซาชิจะตะโกนไล่หลังมาอย่างจริงใจ แต่เหมือนฮิรุม่าจะไม่รับฟัง เพราะเจ้าตัวยังคงหันหลังให้ขณะแต่งตัว ก่อนจะล้มลงนอนบนเตียงขนาดคิงไซค์ นัยน์ตาจับจ้องอยู่กับข้อมูลลับสุดยอดบนหน้ากระดาษของสมุดเดธโน้ตในมือ ในขณะที่มืออีกข้างเลื่อนมาเคาะปืนบนตักเบาๆ คิ้วที่ยังคงขมวดเข้าหากันแม้ใบหน้าโดยรวมจะดูเหมือนกับกำลังรู้สึกเฉยๆ แสดงให้เห็นว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ 2 แบบ
‘ ท่าทางยังงั้นไม่รู้ว่ายังหงุดหงิดเรื่องอากอนอยู่......หรือกำลังคิดแผนอะไร...... ? ’ มูซาชิคิดพลางนั่งมองอีกฝ่ายโดยไม่เข้าไปรบกวนคนบนเตียง “.......ก็คงจะอย่างหลังล่ะมั้ง ?” เขาสรุปเมื่อเห็นรอยแสยะยิ้มของเพื่อน ‘ แบบนี้เจ้าพวกสมาชิกในทีมกับคุริตะ หรือไม่ก็อากอนเองก็เหอะ ระวังเอาไว้หน่อยก็คงจะดี ’
“เลิกจ้องซะทีสิเฟ้ยไอ้หน้าแก่ตูดหมึก” คนที่เป็นเป้าหมายชักทนไม่ไหว
“ก็ช่วยไม่ได้ที่นายดันเล่นตัวหนีไปยังงั้น ชั้นอุตส่าห์ไม่เข้าไปกวนแล้วปล่อยให้นายอยู่ห่างๆ แล้วนะ”
“ไม่ต่างกันเลยว่ะ”
ฮิรุม่าแยกเขี้ยวประชดกลับ ทำให้มูซาชิจำต้องเลิกแหย่ก่อนที่จะเจอกับกระสุนปืน ถึงแม้จะไม่เคยถูกเดมอนยิงเลยสักครั้งตั้งแต่คบกันมา แต่ระวังเอาไว้ก่อนจะดีกว่า ช่วงเวลาที่เหลือบนเรือสำราญสุดหรูจึงดำเนินไปด้วยความเงียบและมีระยะห่างระหว่างอ่างอาบน้ำกับเตียงกั้นกลางต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สมาชิกทีมเดวิลแบ็ทและทีมโอโจไวท์ไนท์ค่อยๆ เดินคุยลงจากเรือกันอย่างสนุกสนาน พวกเขายังคงรู้สึกเสียดายที่จะต้องจากความสะดวกสบายระดับไฮคลาส การบริการระดับโปรคลาส และอาหารฝีมือเทียบเท่าเชฟระดับโลก แต่มีเพียงคนสองคนในทีมเดวิลแบ็ทเท่านั้นที่เหมือนจะรู้สึกเฉย ๆ และไม่มาร่วมวงคุยด้วย
มูซาชิยังคงเดินมองคนไม่มีอารมณ์จะพูดตรงหน้าเงียบ ๆ เหมือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ แม้คราวนี้จะแตกต่างออกไปเพราะเขาเป็นคนทำให้ใบหน้าคมนั่นปราศจากรอยยิ้มปีศาจ เขาจึงควรที่จะเป็นคนหาจังหวะดี ๆ ที่จะทำให้คนที่ว่าอารมณ์ดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็พูดอะไรออกมาสักคำ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เริ่ม ก็มีเสียงดังขัดจังหวะซะก่อน
ทุกคน รวมทั้งฮิรุม่ามองรถมอเตอร์ไซค์ 2 คันที่พุ่งทะยานผ่านหน้าไปอย่างอึ้งๆ เพราะคนที่อยู่บนคันที่วิ่งอยู่ข้างหน้าคือ คนที่พวกเขารู้จัก เสียงปืนจากคนที่ขับไล่ตามมาทำให้พวกเขาผงะถอยกันหมด ยกเว้นก็แต่เด็กหนุ่มฉายาปีศาจสุดโฉดแห่งเดมอนที่ยืนแสยะยิ้มกว้างจนเกือบจะเห็นฟันซี่ขาวยาวแหลมหมดทุกซี่ ฝ่ามือเรียวเอื้อมไปหยิบปืนลูกซองที่ซ่อนเอาไว้บนหลัง
“พวกนายหมอบลงดีกว่านะ”
คิกเกอร์ของทีมเดวิลแบ็ทเตือนคนอื่น ๆ เพราะเขารู้จักอาวุธสงครามเดินได้ตรงหน้าดีที่สุด ทุกคนก็ต่างรีบทำตามเมื่อกระสุนนัดแรกของปืนวิสัยทัศไกลถูกยิงออกไปพร้อมกับเสียงตะโกนตามแบบฉบับของเดมอนแห่งเดวิลแบ็ท
“YA~HA !! หลบให้ดีนะเฟ้ยไอ้คาเมเลออนตูดหมึก !!”
แล้วเป้าหมายก็แล่นถลาเสียหลักเข้าไปชนอีกคันล้มลงข้างทาง เสียงระเบิดที่ตามมาและเสียงปืนที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้ทุกคนคิดเหมือนกันว่า คน ๆ นี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ
“แกเป็นใครวะ!? ทำมอ‘ไซค์ชั้นพังยับแบบนี้ชดใช้มาซะ !!” เจ้าของรถเป้าหมายเข้ามาตวาดอย่างเดือดดาลพร้อมปืนสั้นในมือ
“ถึงแกจะช่วยชั้นจริงๆ ก็เหอะ แต่ทำไมต้องเอี่ยวมอ‘ไซค์ชั้นไปด้วยฟะ ไอ้บ้าฮิรุม่า !!” เจ้าของรถที่ไม่ใช่เป้าหมายก็แหวใส่เช่นเดียวกัน แต่เขาก็ถอยเงียบไปเมื่อปีศาจแห่งเดมอนเปิดศึกท้าดวลความเร็วกับสิงห์นักบิด
กระสุนต่อกระสุนปะทะกันอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือการเล็งอันเฉียบขาดของนักยิงผมบลอนด์ที่ยังคงหัวเราะเคี๊ยก ๆ และเมื่อกระสุนนัดที่หกถูกยิงออกไป การดวลก็รู้ผล
“อะไร หมดน้ำยาแค่นี้แล้วเรอะ ?” กระสุนพุ่งเข้ามาเฉี่ยวหน้าพร้อมกับคำเยาะเย้ย
“หนอย ! แน่จริงมาฉะกันตรงๆ ดิวะ !!” แต่นักเลงโตก็ยังไม่ยอมแพ้ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนเป็นคนขี้แพ้ชวนตีก็ตาม
“ไม่เอาว่ะ ชั้นชอบจบแบบเร็ว ๆ งี้มากกว่า” ปีศาจสุดโฉดปฏิเสธพร้อมแสยะยิ้มกว้าง
กระสุน 2 นัดพุ่งเข้าไปเฉี่ยวขาทั้ง 2 ข้างให้ล้มลงก่อนที่คนยิงจะเดินย่างสามขุมเข้ามานั่งไขว้ห้างบนหลังพร้อมกับเอาปืนจ่อหัวของเก้าอี้มีชีวิตอย่างสบายอารมณ์
“ตอนแรกชั้นก็นึกว่าใครที่มีธุระกับหนึ่งในทาสของชั้นซะอีก ไม่ใช่คนห่างคนไกล อยู่ก็แถวๆ นี้เองนี่หว่า ใช่มั้ย คุณทาคาซากิ ชิโร่” เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทใช้น้ำเสียงล้อเลียนอ่านชื่ออย่างชัดถ้อยชัดคำทำให้เจ้าของชื่อหน้าซีดเผือด
“กะ....แกรู้ได้ไงฟะ !!?”
“นั่นสิ ทำไมกันน้า ? โดยเฉพาะเรื่องเมื่อตอนอายุ 13 ที่.......” จ้าวแห่งการแบล็คเมล์แกล้งทิ้งคำพูด
“หวา~ กะ....แกรู้เรื่องนั้นได้ยังไง !? ยะ....ยอมแล้วเฟ้ย !! อย่าพูดนะเฟ้ย !!”
“’งั้นก็มาเป็นทาสชั้นซะ เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงหัวเราะปีศาจฟังดูเหมือนเสียงที่ดังมาจากนรกในหูของคนที่ตกเป็นเหยื่อ และมันทำให้เขาต้องสะอึกนิ่งเงียบทำใจอยู่นานกว่าจะยอมก้มหัวให้
“เออ ยอมแล้ว จะลุกไปได้รึยัง ?”
“ฮืม ? กฎข้อแรกของการเป็นทาสของเดมอนแห่งเดวิลแบ็ท จำเอาไว้ซะ” ใบหน้าคมแสยะยิ้ม “บอกทุกอย่างที่ชั้นอยากรู้มา” ลำกล้องปืนตบที่ใบหน้าเบาๆ “ทำไมถึงมายุ่มย่ามกับไอ้คาเมเลออนตูดหมึกนั่น ?”
“ก็มันอยากทำหน้าหาเรื่องในถิ่นชั้นนี่หว่า”
“โฮ่ ไอ้ตูดหมึกสิ้นคิดอย่างแกเลยเอาปืนไล่ยิงสินะ อืม ๆ” เจ้านายแกล้งทำเสียงลงท้าย และแกล้งหรือจดอะไรจริงๆ ลงไปในสมุดโน้ต “สาธยายแก๊งแกมาดิ๊”
“เฮ้ย!! ชั้นต้องบอกขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ !?” รอยยิ้มที่ฉีกกว้างของปีศาจและออร่าสีดำทะมึนคือคำตอบ เขาจึงจำใจที่จะบอกหมดเปลือก
“ขอบใจ....” คำพูดสองคำที่ได้ยินทำให้ข้าทาสคนล่าสุดรู้สึกโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้สะดุ้งโหยง “ท้ายสุดนี่รักษาด้วยชีวิตเลยนะเฟ้ย....”
“อะ...อะไร ?” หัวหน้าแก๊งซิ่งถามและฟังเสียงที่กระซิบข้างหูอย่างหวาด ๆ
“อยู่คุมแต่ในเขตของแก อย่ามายุ่มย่ามกับทาสในเขตชั้นอีก แล้วชั้นจะทำแบบเดียวกัน” แล้วก็ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะตามแบบฉบับของปีศาจแห่งเดมอน “ไสหัวไปได้แล้ว....”
ในที่สุดร่างบางก็ลุกขึ้นและปล่อยให้คนชั้นผู้น้อยได้วิ่งหนีไป ใบหน้าคมแสยะยิ้มในขณะที่เท้าก้าวเข้ามาหาเหยื่อรายต่อไป
“ดูดีนิ ไม่คิดว่าอย่างแกจะวิ่งหนีมาหลบหลังชั้น แบบนี้ตำแหน่งหัวโจกของคาเมเลออนจะทำไงฟะ ?”
“ไม่ต้องมา ส. ใส่เกือกซ้ำเติมนู่นนี่เลยแก ชั้นแค่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เฟ้ย !”
หัวโจกที่นั่งพิงรถแหวกลับอย่างไม่เกรงกลัว ถึงร่างกายจะไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะต่อกรกับเดมอนแห่งเดวิลแบ็ท และถูกเรียกว่าเป็นทาสของไอ้สุดโฉดนี่ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องยอมก้มหัวให้แม้กระทั่งเรื่องของการตีฝีปาก
“ฮึ เนี่ยเหรอท่าทางกับคำพูดที่ควรให้กับผู้มีพระคุณน่ะ ?”
ริมฝีปากบางแสยะยิ้มกว้างน่ากลัวขณะที่ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้ นิ้วชี้เรียวยาวเชยคางขึ้น ก่อนที่น้ำเสียงล้อเลียนจะมาพร้อมกับคำพูดยียวน
“วันนี้ชั้นอารมณ์ดีเลยว่าจะให้นี่ซะหน่อย....สงสัยนายคงไม่อยากได้หรอกมั้ง ? ว่าไง ?”
ร่างสูงกลับมายืนถือปืนพาดบ่า ฝ่ามือเรียวโบกแผ่นกระดาษทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วแตะเอาไว้บนริมฝีปาก โดยจงใจให้เห็นส่วนของตัวเลขที่มีจำนวนหลักมากพอที่จะถอยมอเตอร์ไซค์คันงามออกมาขับเล่นได้สบาย
ใบหน้าคมยังคงแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาสีฟ้าใสหรี่ลงมองเป็นเชิงท้าทายอย่างเหย่อหยิ่งเหมือนกับจะบอกว่า เอาสิ ถ้าอยากได้ก็ลองก้มหัวคุกเข่าขอร้องอย่างสุภาพสิ แต่ทาสผู้ซื่อสัตย์ก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้ชายมากเกินกว่าจะทำตัวน่าสมเพชแบบนั้น
“ให้ตายชั้นก็ไม่ทำอะไรงี่เง่า ๆ พรรค์นั้นหรอกเฟ้ย !! ศักดิ์ศรีชั้นมันมีค่ามากกว่านั้นเว้ย !!”
“โฮ่~ งั้นถ้ามากกว่านี้ก็โอเคสินะ ?” เดมอนแกล้งพูดพลางโบกกระดาษเบา ๆ
“บ้านป๊ะแกสิ !!”
ฮาบาชิระสวนกลับทันควันและอดกลั้นต่อความเจ็บปวดของแผลกระสุนเฉี่ยวบนไหล่ข้างขวาในขณะที่ยังคงพึมพำเกี่ยวกับรถสุดรักและเรื่องที่เกิดขึ้น ขาทั้งสองข้างค่อยๆ ยันตัวให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกมา ในใจนั้นพยายามไม่สนใจกับเสียงหัวเราะที่ได้ยินไล่หลังมา ยกเว้นคำพูดที่กลับมีความหมายแตกต่างออกไปในแบบที่คาดไม่ถึง
‘แผลนั่นได้มาจากช่วยไอ้พวกลิ่วล้อคนไหนในแก๊งล่ะสิ.....’ “มีกึ๋นเหมือนกันนี่หว่า ล้อเล่นน่ะ.....”
แต่อีกฝ่าย รวมทั้งสมาชิก 2 ทีมทุกคนต่างยืนนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แต่กระดาษแผ่นบางที่ดีดมาให้นั้นยืนยันให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง
“ชั้นบอกว่าล้อเล่น เงินนั่นมันเหลือจากรางวัลที่ตาแก่ตูดหมึกนั่นให้ ไม่ต้องห่วง” ฮิรุม่าว่าเหมือนกับจะเดาสิ่งที่คนรับและคนอื่นๆ คิดเอาไว้ในใจออก “ไอ้พวกตูดหมึกนั่นมันไม่ต้องใช้แล้ว เพราะงั้นเอาไปซะ มีเบ๊แต่ไม่มีรถน่ะมันลำบากเวลาจะเรียกใช้นะ.....”
แล้วฮิรุม่าก็หัวเราะทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าจากไป คนที่รู้ใจเดมอนแห่งเดวิลแบ็ทที่สุดจึงอดที่จะยิ้มน้อยๆ ไม่ได้กับท่าทางนั้น และเดินเข้าไปขอบใจหัวโจกแห่งคาเมเลออนที่ช่วยทำให้ปีศาจอารมณ์ดีขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหันไปบอกคนอื่นๆ ที่พากันรู้ซึ้งในความน่ากลัวของเดมอนสุดโฉดแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนตัวเขานั้นเดินตามคนที่ว่าไปเหมือนเคย
มูซาชิและฮิรุม่าอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังที่จริงใจของหัวหน้าทีมคาเมเลออน
“ถึงมันจะเป็นความผิดของแก แต่ก็ขอบใจนะเฟ้ย !!”
ในที่สุด วันพักผ่อนก็มีเรื่องทำให้เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทอารมณ์ดีกับเขาเสียที......
. END -
.
ผลงานอื่นๆ ของ Hitomisure ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Hitomisure
ความคิดเห็น