Slave [Fic : Eyesheild 21] - Slave [Fic : Eyesheild 21] นิยาย Slave [Fic : Eyesheild 21] : Dek-D.com - Writer

    Slave [Fic : Eyesheild 21]

    เมื่อข้าทาสถูกรังแก เจ้านายจะเข้ามาช่วยอย่างไร (ความรักสไตล์เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทจ้า~)

    ผู้เข้าชมรวม

    818

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    818

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 50 / 10:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ว่าไงดี  มันเป็นฟิคที่มีไอเดียมาจากฟิคเรื่อง  Untitled  (Eyesheild 21)  ของเราเอง  ถ้าใครที่อ่านเรื่องนี้แล้วจะรู้ว่ามาจากตอนไหน  จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะแต่งเรื่องนี้หรอก  แต่พอแต่งเรื่อง Untitled
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ





      Fanfiction

       

      Project : Eyesheild 21

       

      Slave

       

      ผู้คนเดินไปตามถนนในช่วงเวลาโกลเด้นไทม์ของการเลือกซื้อวัตถุดิบที่จำเป็นในการทำอาหารเย็น  ร้านรวงมากมายแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าที่ต่อสู้แย่งชิงสินค้าอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ได้ของที่ถูกที่สุด  แต่กลับมีเพียง  1  ร้านเท่านั้นที่ร้างผู้คน  และในขณะที่ทุกคนคิดว่า  จะมีใครบ้าเดินเข้าไปในร้านขายของน่ากลัวแบบนี้   ก็มีคนที่ว่าเดินถือถุงเต็มไปด้วยวัตถุดิบในการทำอาหารที่ล้วนมีอันตรายหลากหลายแบบไม่ต่างกับยาพิษ

       เสียงหัวเราะปีศาจที่ดังขึ้นกับใบหน้าโฉดแสยะยิ้มของเด็กหนุ่มผมตั้งสีบลอนด์ที่มีหูยาวเรียวแหลมในชุดเครื่องแบบนักเรียนม.ปลายทำให้ทุกคนเสียวสันหลังวาบและถอยห่างกันหมด 

      กับไอ้หมอนั่นใช้แบบที่ออกฤทธิ์อ่อนสุดก็พอแล้วมั้ง  ? 

      เขาคิดพลางนึกถึงหน้าของคนที่จะตกเป็นเหยื่อสมุดเดธโน้ตในอนาคต  แต่ความสนุกของเขาก็ถูกขัดจังหวะในวินาทีที่เขาก้าวออกมาจากตรอกขายของ  รถมอเตอร์ไซค์   2  คันพุ่งผ่านไปบนถนนใหญ่   ทุกคนคนต่างวิ่งหลบเสียงปืนกันอลหม่านกับเสียงปืนที่ดังขึ้น  ยกเว้นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนเท่านั้นที่ยังคงยืนเฉย

      ริมฝีปากบางแสยะยิ้มกว้างขึ้นจนเห็นฟันซี่ขาวที่ยาวแหลม  ฝ่ามือเอื้อมไปหยิบปืนลูกซองที่ซ่อนเอาไว้บนหลังออกมาส่องแล้วเหนี่ยวไก  ลูกกระสุนที่พุ่งออกไปด้วยการเล็งเพียงเสี้ยววินาทีนั้นจัดการเป้าหมายให้ล้มลงได้อย่างแม่นยำ  แต่โชคร้ายที่เป้าหมายพุ่งเข้าไปทำให้สิ่งอื่นล้มลงตามไปด้วย

      เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์  2  คันที่ระเบิดไปนั้นต่างตะโกนด่ามาอย่างโกรธเกรี้ยว  แต่ปากก็หุบทันทีที่ปืนลูกซองเปิดศึกท้าดวลกับปืนพกของหนึ่งในเจ้าของรถ

      กระสุนต่อกระสุนปะทะกันอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือการเล็งอันเฉียบขาดของนักยิงผมบลอนด์ที่ยังคงหัวเราะเคี๊ยก ๆ และนักซิ่ง  และเมื่อกระสุนนัดที่หกถูกยิงออกไป  การดวลก็รู้ผล

      หมดน้ำยาแค่นี้แล้วเรอะไอ้ซิ่งตูดหมึก ?  น้ำเสียงเย้ยหยันของผู้กำชัยชนะเอาไว้ในมือดังมาพร้อมกับเสียงหัวเราะปีศาจ

      หนอย !  แน่จริงมาฉะกันตรงๆ ดิวะ !!”  แต่นักเลงซิ่งก็ยังไม่ยอมแพ้  ถึงมันจะค่อนข้างเหมือนการหาเรื่องให้อีกฝ่ายเหนี่ยวไกปืนก็ตาม

      ไม่เอาว่ะ  ชั้นชอบจบแบบเร็ว ๆ  งี้มากกว่า 

      ปีศาจสุดโฉดปฏิเสธด้วยการแสยะยิ้มกว้าง  เขาเอี่ยวหลบหมัดที่พุ่งเข้ามาได้อย่างไม่ยากเย็น   แต่ก่อนที่ลูกเตะจะเข้ามาผสมโรง  ขายาว ๆ ก็ยื่นเข้ามาขัดให้ร่างกำยำสะดุดล้มลง  จากนั้นจึงลงไปนั่งบนหัวพร้อมกับปืนจ่อเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์เป็นการปิดท้าย

      “Touchdown  YA-HA !!  ตอนแรกชั้นก็นึกว่าใครที่มีธุระกับหนึ่งในทาสของชั้นซะอีก  ไม่ใช่คนห่างคนไกล  อยู่เขตถัดไปเองนี่หว่า ใช่มั้ย  คุณทาคาซากิ  ชิโร่  เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทใช้น้ำเสียงล้อเลียนอ่านชื่ออย่างชัดถ้อยชัดคำทำให้เจ้าของชื่อหน้าซีดเผือด

      กะ....แกรู้ได้ไงฟะ !!?

      นั่นสิ  ทำไมกันน้า ?  โดยเฉพาะเรื่องเมื่อตอนอายุ  13  ที่.......  จ้าวแห่งการแบล็คเมล์แกล้งทิ้งคำพูด

      หวา~ กะ....แกรู้เรื่องนั้นได้ยังไง !?  ยะ....ยอมแล้วเฟ้ย !!  อย่าพูดนะเฟ้ย !!”

      “’งั้นก็มาเป็นทาสชั้นซะ เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ ๆ  เสียงหัวเราะปีศาจฟังดูเหมือนเสียงที่ดังมาจากนรกในหูของคนที่ตกเป็นเหยื่อ  และนั่นทำให้เขาต้องสะอึกนิ่งเงียบทำใจอยู่นานกว่าจะยอมก้มหัวให้

      เออ  ยอมแล้ว  จะลุกไปได้รึยัง ?

      ฮืม ?  กฎข้อแรกของการเป็นทาสของเดมอนแห่งเดวิลแบ็ท  จำเอาไว้ซะ  ใบหน้าคมแสยะยิ้ม บอกทุกอย่างที่ชั้นอยากรู้มา  ลำกล้องของกระบอกปืนตบที่ใบหน้าเบาๆ  ทำไมถึงมายุ่มย่ามกับไอ้คาเมเลออนตูดหมึกนั่น ?

      ก็มันอยากทำหน้าหาเรื่องในถิ่นชั้นนี่หว่า

      โฮ่  ไอ้ตูดหมึกสิ้นคิดอย่างแกเลยเอาปืนไล่ยิงสินะ  อืม ๆเจ้านายแกล้งทำเสียงลงท้าย และแกล้งหรือจดอะไรจริงๆ ลงไปในสมุดโน้ต สาธยายแก๊งแกมาดิ๊

      เฮ้ย!! ชั้นต้องบอกขนาดนั้นเลยเหรอวะ !?  รอยยิ้มที่ฉีกกว้างของปีศาจและออร่าสีดำทมึนคือคำตอบ     เขาจึงจำใจที่จะบอกหมดเปลือก

      ขอบใจ....คำพูดสองคำที่ได้ยินทำให้ข้าทาสคนล่าสุดรู้สึกโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก  แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้สะดุ้งโหยง  ท้ายสุดนี่รักษาด้วยชีวิตเลยนะเฟ้ย....

      อะ...อะไร ?  หัวหน้าแก๊งซิ่งถามและฟังเสียงที่กระซิบข้างหูอย่างหวาด ๆ

      อยู่คุมแต่ในเขตของแก  อย่ามายุ่มย่ามกับทาสในเขตชั้นอีก  แล้วชั้นจะทำแบบเดียวกัน  แล้วก็ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะตามแบบฉบับของปีศาจแห่งเดมอน ไสหัวไปได้แล้ว....

      ในที่สุดร่างบางก็ลุกขึ้นและใช้ปืนกลที่หยิบออกมาจากที่ซ่อนเดิมยิ่งกราดไล่ให้ชนชั้นผู้น้อยวิ่งหนีไป  ริมฝีปากบางแสยะยิ้มในขณะที่เท้าก้าวเข้ามาหาเหยื่อรายต่อไป

      ดูดีนิ  ไม่คิดว่าอย่างแกจะวิ่งหนีมาหลบหลังชั้น  แบบนี้ตำแหน่งหัวโจกของคาเมเลออนจะทำไงฟะ ?

      ไม่ต้องมา ส. ใส่เกือกซ้ำเติมนู่นนี่เลยแก  ชั้นแค่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เฟ้ย !  แล้วทำไมแกจะต้องเอี่ยวมอไซค์ชั้นไปด้วยฟะ !!!??”

      หัวโจกที่นั่งบนฟุตบาทพิงรถข้างถนนแหวกลับอย่างไม่เกรงกลัว   ถึงร่างกายจะไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะต่อกรกับเดมอนแห่งเดวิลแบ็ท  ถึงจะเรียกว่าเป็นตกเป็นทาสของไอ้สุดโฉดนี่ก็ตาม   ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องยอมก้มหัวให้แม้กระทั่งเรื่องของการตีฝีปาก

      ฮึ  เนี่ยเหรอท่าทางกับคำพูดที่ควรให้กับผู้มีพระคุณน่ะ ?

      ริมฝีปากบางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะที่ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้    นิ้วชี้เรียวยาวเชยคางขึ้นอย่างถือวิสาสะ     แต่ฝ่ามือใหญ่ยาวก็ไม่ลังเลที่จะปัดนิ้วนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดี

      แกระเบิดมอไซค์ชั้นซะกระจุย  ยังมีหน้ามาหวังคำขอบคุณอีกเรอะ !!”

      ฮาบาชิระประชดกลับแล้วผุดลุกเดินออกไปอย่างหัวเสีย  บาดแผลถูกกระสุนเฉี่ยวบนไหล่ข้างซ้ายไม่ทำให้เขาช้าลงเลยแม้แต่ก้าวเดียว  แต่เสียงที่ดังขึ้นทางด้านหลังกลับหยุดฝีเท้าเอาไว้ได้ชะงัด

      กะว่าจะให้นี่ซะหน่อย....สงสัยนายคงไม่อยากได้หรอกมั้ง ?  เผอิญมันเหลือจากรางวัลที่ตาแก่ในทีมชั้นให้หลังจากไปนั่งเรื่อสำราญยกทีมน่ะ

      ร่างสูงกลับมายืนถือปืนพาดบ่า  ฝ่ามือเรียวโบกแผ่นกระดาษทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วแตะเอาไว้บนริมฝีปาก   โดยจงใจให้เห็นส่วนของตัวเลขที่มีจำนวนหลักมากพอที่จะถอยมอเตอร์ไซค์คันงามออกมาขับเล่นได้สบาย  

      ใบหน้าคมยังคงแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์  นัยน์ตาสีฟ้าใสเหลือบลงมองเป็นเชิงท้าทายอย่างเย่อหยิ่งเหมือนกับจะบอกว่า  เอาสิ  ถ้าอยากได้ก็ลองก้มหัวคุกเข่าขอร้องอย่างสุภาพสิ    หัวโจกแห่งทีมคาเมเลออนแทบไม่ต้องใช้เวลาในการคิด  เพราะเขาเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีมากเกินกว่าที่จะลดตัวไปทำอะไรพรรค์นั้นต่อหน้าสาธารณชนได้

      แต่ไอ้ที่อยู่ในมือนั่นมันพอที่จะถอยมอไซค์คันใหม่ได้เลยนะเฟ้ย !!’  แต่กระนั้นใจหนึ่งก็คิด  แต่อีกใจหนึ่งก็เข้ามาห้าม จะบ้าเรอะ  แค่มอไซค์มีปัญญาหาเองได้เฟ้ย  ไม่จำเป็นต้องไปก้มหัวกระดิกหางขอไอ้จอมโฉดนั่นหรอก !!’

      การโต้เถียงในหัวของเด็กหนุ่มยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด  ส่วนอีกฝ่ายก็ยังคงยืนถือปืนเท้าสะเอวยิ้มเจ้าเล่ห์  และสนุกกับการมองใบหน้าที่เคร่งเครียดในทุกวินาทีของการรอคอย  ถึงจะหวังเอาไว้ว่าจะได้เห็นข้าทาสมาคุกเข่าก้มหัวลงแทบเท้า  แต่การที่เขาถูกคว้าคอเสื้อพร้อมกับถูกตะคอกใส่หน้าด้วยคำพูดอันเด็ดเดี่ยวก็เป็นสิ่งที่คาดเอาไว้แล้วเช่นเดียวกัน

      แค่มอไซค์คันสองคันชั้นมีปัญญาหาได้เองเฟ้ย !!  แกนั่นแหละที่ต้องซื้อมาใช้ชั้นด้วยซ้ำไอ้บ้า !!”  แต่รอยแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงอยู่บนใบหน้าคม  แต่อย่างแกคงไม่คิดจะทำแบบนั้นหรอกว่ะ  เพราะงั้นอย่ามาให้ชั้นเห็นหน้าอีก  ไม่งั้นชั้นฆ่าแกแน่ !!”

      ดูท่าจะหนักไปหน่อยแฮะ  แต่มันสนุกสุดๆ เลยว่ะ เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทคิดพลางหัวเราะขณะมองคนตรงหน้าปล่อยมือแล้วสาวเท้าเดินจากไปอย่างหัวเสีย  ถึงจะอดเสียดายไม่ได้  แต่ถ้ามันถึงเวลาหยุด  เขาก็รู้ว่าต้องทำตามนั้น

      ล้อเล่นน่ะ.....

      หา ?ทั้งตัวของเด็กหนุ่มหัวโจกและคนอื่นๆ ที่ยืนดูเหตุการณ์ต่างอึ้งกันไปหมด

      ชั้นบอกว่าล้อเล่น....... 

      รอยแสยะยิ้มเปลี่ยนมาเป็นเพียงรอยยิ้มแฝงเลศนัยธรรมดาบนริมฝีปากบาง  ขาก้าวเข้ามาใกล้   นิ้วเรียวเชยคางหัวหน้าทีมคาเมเลออนในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งใช้กระดาษแผ่นนั้นตบที่แก้มเบาๆ  ก่อนจะปล่อยให้มันร่วงลงในฝ่ามือใหญ่ยาวที่ยกขึ้นมารับอย่างอึ้ง ๆ

      นายเห็นชั้นเป็นคนยังไง ?  ทุกคนก็ต่างนึกในใจเหมือนกันว่า  ก็เป็นปีศาจน่ะสิ  แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร

      เฮ้ ! มารับไอ้หัวโจกตูดหมึกของพวกแกหน่อยดิ๊  ใบหน้าคมว่าพลางหัวเราะร่า

      เฮ้ย !! แล้วแกไปตรัสรู้เบอร์ลูกน้องชั้นได้ไงฟะ !!!”  ท่านหัวหน้าถึงกับสะดุ้งโหยงที่ปลายสายนั้นคือหนึ่งในลิ่วล้อของเขาเอง  อีกฝ่ายก็แค่ฉีกยิ้มปีศาจพร้อมกับแผ่ออร่าสีดำทะมึนเป็นคำตอบ

      สิบนาทีต่อมารถมอเตอร์ไซค์คู่ชีพของลูกน้องที่ถูกเรียก  2  คันก็แล่นเข้ามาจอด  พวกเขารีบวิ่งเข้ามาถามอาการของหัวหน้าถึงแผลบนไหล่เป็นการใหญ่  แต่เวลาอันซาบซึ้งก็หยุดชะงักด้วยเสียงปืน

      เฮ้ย ! ไปห่วงกันวันหลังเฟ้ย  !!”  เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทแยกเขี้ยวว่าด้วยความหงุดหงิดอย่างไม่รู้สาเหตุ  แกน่ะไปซ้อนท้ายไอ้หมอนั่นกลับซะ   ปีศาจจอมโฉดชี้นิ้วสั่งลิ่วล้อคนหนึ่งให้กลับไปกับเพื่อน 

      ส่วนแกน่ะขับพาชั้นไปส่งดิ๊

      ส่วนคำสั่งที่สองนั้นสำหรับหัวหน้า  ทีแรกพวกลูกน้องต่างแยกเขี้ยวและยกไม้เบสบอลขึ้นเตรียมพร้อม   แต่ก็ยอมวางมือไปเพราะหัวหน้าตัวจริงบอกให้ทำตาม

      แกเนี่ยมันโฉดจริง ๆ  จะเห็นแก่ที่ชั้นบาดเจ็บหน่อยไม่ได้รึไง ?

      แล้วจะให้บอสอย่างชั้นลดตัวลงไปเป็นสารถีให้ลูกน้องเนี่ยนะ ?  ถึงแม้คำพูดจะฟังดูเย่อหยิ่งและยียวนกวนประสาท  แต่ใบหน้าคมและรอยยิ้มบางๆ บนริมฝีปากกลับไม่มีความชั่วร้ายแฝงอยู่

      บอกให้ไปส่งก็ไปส่งดิ

      ปีศาจแห่งเดมอนว่าพลางยิ้มอย่างขำๆ แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถเป็นการบังคับกลายๆ  ให้อีกฝ่ายขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งคนขับและจบการโต้เถียง  ทาสจึงจำยอมที่จะทำตามอย่างไม่เต็มใจ 

      เอาฟะ  อย่างน้อยก็ไม่ต้องเดินกลับล่ะวะ.....

      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      บ้านที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าช่างดูคุ้นตา  และไม่ใช่ที่ๆ  เด็กหนุ่มบนที่นั่งคนขับมอเตอร์ไซค์คิดว่าจะได้มาเห็นในคืนนี้  หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่กับคนซ้อนท้ายอยูข้างหลัง

      จะพูดออกมาตรงๆ ว่าจะมาบ้านชั้นไม่ได้รึไงวะ ?  เขาคิดอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับใบหน้าคมที่ฉีกยิ้มกว้าง  แล้วแกจะมาบ้านชั้นทำไมฟะ ?

      แล้วทำไมชั้นจะมาไม่ได้ล่ะ ?    ไอ้สีหน้าไร้เดียวสาของผู้ถามนั้นไม่รู้ว่าแกล้งทำหรือเป็นของจริงกันแน่  แต่เขาก็เชื่อว่าเป็นอย่างแรก  เพราะอย่างปีศาจนักแบล็คเมล์ไม่มีทางทำอะไรโดยไม่มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแน่นอน 

      มาได้เฟ้ย  แต่ชั้นยังไม่ได้เชิญเลยเว้ย !”

      เด็กหนุ่มร่างสูงผอมก้าวเข้ามาประชิดตัว  ฝ่ามือเรียววางบนหน้าอกแกร่ง   ริมฝีปากบางกระซิบข้างหูแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่ยียวน  ทำให้คนถูกรุกหน้าแดงด้วความโกรธและเหตุผลอื่นโดยไม่รู้ตัว

      โฮ่~ แล้วอย่างชั้นยังต้องเชิญด้วยเหรอ ?

      เฮ้ย !!  จะไม่พาเพื่อนเข้าบ้านเหรอวะรุย !!”  ชายร่างกำยำใหญ่โตผู้เป็นพี่ชายเจ้าของบ้านโผล่หน้าออกมาตะโกนเรียกจากห้องนอนส่วนตัวชั้นสอง เสียงของเขาเป็นเหมือนระฆังช่วยชีวิตที่ทำให้เดมอนล่าถอยออกไป

      คนในครอบครัวไม่เห็นจะว่าอะไร  แล้วทำไมนายต้องบ่นด้วยวะ ?

      ชั้นไม่ได้บ่นเว้ย  แค่สงสัย

      หัวหน้าทีมคาเมเลออนว่าพลางถอนหายใจแล้วเข็นรถเข้าไปเก็บในบ้าน  ก่อนจะเดินตามเข้าไปและทักทายพ่อกับแม่ตามมารยาท  ในขณะที่อีกฝ่ายเดินล้วงกระเป๋าขึ้นไปชั้นสองอย่างสบายอารมณ์  การพูดคุยเล็กน้อยถึงเรื่องแผลบนไหล่นั้นเป็นไปอย่างสงบ   เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นได้หลังจากลูกชายทั้งสองคนย่างเท้าเข้าไปเรียนในโรงเรียนโซคุงาคุ  แต่เรื่องที่พาเพื่อนมาบ้านกลับทำให้พ่อและแม่แปลกใจแทน

      ดีนะที่เก็บอาหารเย็นเอาไว้ให้  เอาไปแบ่งกินกับเพื่อนก็แล้วกัน  เพราะในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือพอให้มาทำเพิ่มแล้ว  ผู้เป็นแม่ว่าพลางชี้ไปยังห้องอาหาร  บนโต๊ะมีชุดอาหารเย็นที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยพลาสติกใสวางอยู่

      ไม่เป็นไร  เจ้านั่นมันไม่เรื่องมากหรอก  ลูกชายคนที่สองของบ้านว่าไปยังงั้นเอง  เพราะเขารู้ว่าคนที่ถือวิสาสะขึ้นไปนั่งสบายใจเฉิบอยู่ในห้องของเขาจะบ่นอะไรได้ในเมื่อมันมีให้กินอยู่แค่นี้     แต่มันอาจใช้ให้ชั้นให้ออกไปซื้อที่ร้านคอนวิเนียนก็ได้  เขาคิดขณะยกถาดอาหารขึ้นชั้นสองไป

      บานประตูถูกถีบให้เปิดออกเนื่องจากมือไม่ว่าง  แต่คนในห้องก็ไม่ได้ว่าอะไรหรือเห็นว่ามันเป็นเรื่องเสียมารยาท  เพราะอย่างน้อยห้องและเตียงที่เขากำลังนั่งไขว้ห้างจับจองอยู่นี่ก็เป็นของคนเปิดประตู

      มีอยู่แค่นี้  เพราะงั้นกินไปอย่าบ่น 

      เจ้าของห้องว่าสั้นๆ พลางวางถาดอาหารลงข้างๆ  แขกไม่ได้รับเชิญ  ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาจากลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือ

      นัยน์ตาสีฟ้ามองตามร่างสูงที่กำลังเตรียมของใช้สำหรับทำแผลอย่างเงียบๆ  ขณะหยิบตะเกียบคีบข้าวเข้าปาก   และค่อย ๆ  กินอาหารไปทีละอย่างอย่างใจเย็น  ถึงคนทำจะไม่ใช่เชฟมืออาชีพ  แต่รสชาติก็ถือว่าอร่อยไม่เลวเลยทีเดียว

      ฮาบาชิระ.......

      เรียกทำมะ......

      เจ้าของชื่อหันมาถามด้วยน้ำเสียงรำคาญนิดๆ  แต่ก็หยุดก่อนที่จะพูดจบ  เมื่อเหลือบไปเห็นอาหารที่เหลือเอาไว้ครึ่งหนึ่งและคนเรียกที่กลับนอนหลับตาอยู่บนเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เขาอดหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของอีกฝ่ายไม่ได้  คนๆ นี้นี่นี่พูดหรือทำอะไรนอกจากเรื่องชั่วออกมาตรง ๆ ไม่ได้จริงๆ

      ขอบใจ 

      เขาเข้าไปจูบหน้าผากพร้อมกับขอบคุณเบาๆ  แล้วนั่งลงบนขอบเตียงข้างๆ  อีกฝ่ายก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารเข้าปาก  ถึงมันจะไม่มากพอที่จะทำให้เขาอิ่มได้  แต่การที่เดมอนสุดโฉดอุตส่าห์มีน้ำใจก็ทำให้เขาไม่คิดที่จะบ่น

      ตอนอยู่ข้างนอกนั่น  ดูเหมือนนายจะโกรธสุดๆ เลยนะถึงได้กล้าพูดกับชั้นแบบนั้น ?

      นั่นไม่ใช่เพราะแกนึกสนุกเลยจงใจยั่วโมโหชั้นรึไง  จริงๆ เลยนะ  จะช่วยรึจะให้ก็ทำให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง ?  เด็กหนุ่มหัวโจกถอนหายใจพลางคาบปลายตะเกียบเอาไว้ในปาก

      ทำแบบนั้นก็ไม่สนุกสิ.... ร่างสูงผอมเพรียวบางลุกขึ้นมานั่งกอดคอเขาเอาไว้  นายน่ะเวลาโมโหดูตลกปนน่ารักดีออก  นิ้วเรียวแกล้งจิ้มแก้มเป็นการหยอกล้อ  ใบหน้าคมแสยะยิ้มอย่างสนุกสนาน

      ชมหรือด่าฟะ  แต่ยังไงก็ไม่ขอบคุณว่ะ

      เด็กหนุ่มที่ถูกแกล้งว่าพลางปัดนิ้วที่น่ารำคาญออกแล้วหันมากินอาหารต่อ  เขาสะดุ้งโหยงเมื่อริมฝีปากอีกฝ่ายสัมผัสกับมุมปาก  ปลายลิ้นอุ่นค่อยๆ เลียเม็ดข้าวที่ติดอยู่ออก

      นายนี่หน้าแดงง่ายชะมัด  ใบหน้าคมถอยห่างออกมาแล้วหัวเราะอย่างขำ ๆ

      เป็นใครก็แดงทั้งนั้นแหละฟะ !!   ทำตัวดีๆ แล้วก็นั่งเฉยๆ  ชั้นยังไม่หายโกรธเรื่องมอไซค์นะเฟ้ยฮิรุม่า!!”

      แต่อีกฝ่ายกลับมีเขากับหางปีศาจโผล่ออกมาลางๆ  นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองและริมฝีปากแสยะยิ้มเป็นการล้อเลียนเหมือนกับจะบอกว่า  โฮ่~ จริงน่ะ ?    

      เออดิ !!” 

      ฮาบาชิระยืนยันและพยายามซ่อนความเขินโดยการคีบข้าวเข้าปากคำสุดท้ายแล้วแกล้งผุดลุกขึ้นเดินไปนั่งลงกับพื้น  ก่อนจะกระวีกระวาดหยิบอุปกรณ์ทำแผลที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้มาใช้จริงๆ ซะที    แต่อีกฝ่ายยังคงอยากเห็นหน้าแดงๆ ของเขาอยู่จึงตามลงมานั่งข้าง ๆ

      นายนี่แกล้งง่ายชะมัด

      กับเดมอนแห่งเดวิลแบ็ทอย่างนายน่ะ  มันก็ง่ายไปหมดทุกคนนั่นแหละ 

      หัวโจกทีมคาเมเลออนประชดพลางถอดเสื้อออก  แต่ก่อนที่ผ้าชุบน้ำจะสัมผัสกับบาดแผล  ฝ่ามือเรียวก็แย่งมันมาเช็ดให้แทน  เขาจึงเลิกคิ้วขึ้นสงสัยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้าของมือ

      ถึงจะแกล้งแต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันหมดทุกคนนะ.....โดยเฉพาะนาย......

      คำพูดแฝงความนัยยิ่งทำให้คนฟังหน้าแดงจนต้องซ่อนมันเอาไว้ด้วยการใช้มือปิด แต่กระนั้นก็ยังเห็นได้จากใบหูที่มีสีเดียวกัน

      หยุดแกล้งชั้นซะทีสิเฟ้ย !!”  จากความเขินเริ่มเปลี่ยนมาเป็นความรำคาญ  สีแดงเรื่อบนใบหน้าเริ่มจางหายไปและถูกแทนที่ด้วยอารมณ์ที่ว่า  ฮิรุม่ารู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ดี  เขาจึงแค่หัวเราะเบาๆ  และไม่พูดอะไรขณะช่วยทำแผล  แต่กระนั้นก็ยังอดที่จะมีแถมท้ายในตอนจบไม่ได้อยู่ดี

      ไง  เสร็จแล้ว  ทาสที่น่ารักไม่คิดจะขอบคุณเจ้านายที่ช่วยทำแผลเลยเหรอ ? 

      ฝ่ามือเรียวแกล้งลูบผมเสยสั้นสีดำ  ใบหน้ายื่นเข้าไปใกล้จนทำให้ร่างที่ผอมสูงแต่กำยำกว่าเผลอเอนไปทางด้านหลังอย่างลืมตัว   ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนกับจะบอกเป็นนัยๆ ถึงสิงที่ต้องการ

      ชิ  ทำแบบนี้ระวังจะได้มากกว่าที่ขอนะ  คนถูกขออดที่จะถอนหายใจไม่ได้

      ใครๆ ก็ชอบที่จะได้กำไรไม่ใช่รึไง ?  นายเองก็ด้วย  จริงมั้ย ?

      น้ำเสียงเชิญชวนแฝงความเซ็กซี่เล็กน้อย    แขนสองข้างเคลื่อนเข้ามาโอบรอบคอเอาไว้เพื่อกันไม่ให้หนีในขณะที่ร่างขยับเข้ามาจนแนบชิดกับร่างในอ้อมกอด  ริมฝีปากบางเคลื่อนเข้ามาจูบแผ่วเบาเพื่อเอาค่าตอบแทนด้วยตัวเอง

      เอาแต่ใจชะมัด  แต่ก็ช่างเหอะ......ได้กำไรก็โอเคล่ะนะ 

      เด็กหนุ่มที่ถูกขโมยค่าตอบแทนถอนหายใจ  แต่ก็อดที่จะยิ้มบางๆ  แล้วจูบกลับไม่ได้  ในใจนั้นรู้สึกดีใจนิดหน่อยที่ได้มีโอกาสทำแบบนี้กับคนที่อยู่ตรงหน้า  และเขาก็ไม่เกรงใจที่จะขอกำไรเพิ่มด้วยการผลักร่างบางให้ล้มลงนอนกับพื้น  ลิ้นเคลื่อนผ่านริมฝีปากบางที่เปิดรับอย่างเต็มใจและควานหาความหอมหวานที่อยู่ภายใน  พร้อมกับทำให้จูบที่แผ่วเบาเร่าร้อนขึ้น

      ไม่เกรงใจเลยนี่หว่า.....

      ฮิรุม่าแสยะยิ้มพูดขณะที่เหลือบลงมองฝ่ามือใหญ่ยาวที่หายเข้าไปใต้เสื้อนักเรียนสีขาวแล้วไล้สัมผัสไปตามผิวขาวเนียนละเอียด  ปลายนิ้วที่สัมผัสถูกยอดอกและริมฝีปากที่เข้ามาซุกไซ้ซอกคอทำให้สะดุ้งเล็กน้อย

      กำไรตรงหน้ามันหายากนี่.......จริงมั้ย ?  ฮาบาชิระแสยะยิ้มแล้วกระซิบข้างหูแผ่วเบา

      ก็จริง...... 

       

       

      …. – END - ….

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×