คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Calories Chapter 01 :+: ผมไม่อยากเป็น...ฮีโร่
บทที่ 1
ผมไม่อยากเป็น...ฮีโร่
[Das]
ผมได้แต่นั่งมึนโลกหลังพวงมาลัยรถ และเผลอเอามือขึ้นมากุมหน้าผากตัวเองอย่างช้าๆ ซึ่งผมอยู่ในอาการนี้หลังสิ้นเสียงปิดประตูรถคันโก้ของผม สภาพรถสปอร์ตสีแดงเอียงกระเท่เรไปทางฝั่งผู้นั่งโดยสาร ถ้ายางหน้าของผมมีปากพูดได้ ตอนนี้มันคงร้องคร่ำครวญอยู่ชัวร์ๆ
“ลูเซียพร้อมแล้วค่า ^o^” สาวร่างอวบระยะสุดท้ายยิ้มเริงร่ามือข้างนึงถือกล่องโฟมซาลาเปาร้อนๆ ที่พี่ชายสุดที่รักของเธอบึ่งไปซื้อให้ถึงเยาวราชแต่เช้าตรู่
“ฝากด้วยนะเว้ย ไอ้ดาสส์ ^_^” นี่ไง...พี่ชายของยัยช้างน้ำ ยืนยิ้มจนแก้มเบียดแว่นเชียว /o-o/
“ทำไม? ต้องไปพร้อมกันด้วย?” ผมไม่อยากถามแต่ต้องถาม ก็มันข้อง…
“เรียนที่เดียวกัน ตึกคณะก็ติดกัน…ที่สำคัญนะช่วยชาติประหยัดน้ำมัน ^_^” ผู้ที่เคยทำหน้าที่ไปส่งน้องสาวแสนฉุเอ่ยขึ้น
“…เหตุผลน่ารักไปมั้ย?”
อย่าแปลกใจนะว่าทำไมผมถึงยังเรียนอยู่ทั้งที่ไอ้แว่นเพื่อนผม มันเรียนจบไปแล้ว ผมทำงานในวงการบันเทิงบางช่วงเวลาที่มีเรียนผมก็ไม่ได้เข้าไปเรียนตามตารางที่กำหนด ทำให้ผมหมดสิทธิ์สอบเพราะเวลาเรียนไม่พอ พอมาอีกเทอมผมจึงตัดสินใจดรอปไว้ก่อน พอดรอปได้เลยได้ใจ ดรอปมันสองปีซ้อนเลย ที่กลับมาเรียนเพราะทางเฮียเจ้าของค่ายเพลงที่ผมร่วมสัญญาอยู่ ขอร้องให้ผมเรียนให้จบจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนชาวร็อคไทย ฟังดูดีชะมัดเลยเนอะ - -^
“พี่ดาสส์ รีบไปเหอะ ลูเซียไม่อยากไปเรียนสายนะคะ หง่ำ!” ยัยตู้เย็นเดินได้พูดพลางบิดซาลาเปาไส้ครีมยัดเข้าปาก
ครืด~ ครืด~
ยัยนี่ขยับตัวที รถนี่กระเทือนๆ ตามแรงจังหวะการเคลื่อนไหวทันที ผมได้แต่ค้อนสายตาใส่ไอ้โลมาเจ้าของไอเดียประหยัดน้ำมัน น่าจะทำโล่พระราชทานรางวัลให้มันสักอันนะ จะได้สมความภาคภูมิใจ…ประหยัดน้ำมันแต่ถ้าโช๊คพังล่ะก็… เสียเงินเยอะกว่าค่าน้ำมัน หลายหมื่นอยู่นะโว้ย!?
ฮึ่มมม =__=* ผมได้แต่กัดฟันกรอดๆ แล้วก็ขับรถออกไป…เพราะในสถานการณ์ตอนนี้ผมถือไพ่ต่ำกว่า
ให้ตายสิ! ผมต้องขับรถช้าอย่างกับเต่าเพราะพวงมาลัยหนักอย่างกับขับรถสิบล้อบรรทุกหมูไปขาย หนักจังโว้ย >.<
“พี่ดาสส์…ขับรถนิ้มนิ่ม นั่งแล้วไม่กระเทือนเลยค่ะ ^_^” ยัยช้างสามพรานหันมายิ้มให้ผม…และพลางยัดซาลาเปาไส้หมูแดงเข้าปากต่อจากไส้ครีม
“ =[]= คร๊าฟ!”
เห็นยัยช้างสามพรานนี้กินแล้วอิ่มแทนเลย อาหารเช้าสำคัญจริงอยู่แต่มนุษย์ต้องการอาหารเช้าขนาดซาลาเปา 20 ลูกนี่ก็ไม่ไหวนะ ที่สำคัญกลิ่นหอมเย็นสดชื่นบนรถของผมถูกกลบไปด้วยกลิ่นไส้ซาลาเปาของยัยผู้โดยสารไม่พึ่งประสงค์ เฮ้ย! แล้วนี่มันกลิ่นอะไรเหม็นกว่ากลิ่นเมื่อกี้อีกฟ่ะเนี่ย
“กินอะไรน่ะ? ลูเซีย -..-” ผมเอามือขึ้นมาปิดจมูก
“ซาลาเปาไส้ปลาไหลดองน้ำปลาค่ะ อร่อยเหาะไปเลย หง่ำๆ ^O^”
เย้ เย้ !! กลิ่นนี้ชนะขาดลอยไปเลย (จะดีใจทำไม?) กลิ่นมันฉุนฟุ้งไปหมดทั่วรถ แล้วตอนเช้าๆ เนี่ยผมไม่คิดอยากอาหารเท่าไรเลย ทำไงดี ผมจะอ๊วก อุ๊บ! :X ฟืด~ฟืด~ฟืด~ ผมกลั้นลมหายใจและรีบสูดกลิ่นเข้าไปในปอดเยอะๆ จะได้ชินกับกลิ่นเร็วๆ ทฤษฏีนี้ผมเรียนรู้มาจากพี่บิณฑ์ บรรจือฤทธิ์ มันเป็นวิธีที่พี่เขาทำเวลาเจอศพขึ้นอึดหรือตายมาหลายๆ วันแล้ว ไม่เคยคิดว่าจะได้มาใช้กับตัวเองวันนี้เลย >..<
ณ มหาวิทยาลัยกิ้งก่าได้ทอง
ผมเลี้ยวรถเข้าสู่รั้วมหาลัยที่กว้างใหญ่ไพศาล มีรถสองแถวบรรจุนักศึกษาที่ไม่มีรถส่วนตัวแล่นอยู่คันหน้าผม และผมก็แซงรถคันดังกล่าวอย่างง่ายดายเพราะจอดมันรับ-ส่งคนแทบทุกแยกเลย
“ลูเซีย จะลงตรงไหนดี? (‘ ‘ )”
“หือ...ไปส่งหน้าตึกคณะเลยค่ะ ขี้เกียจเดิน -.-” คู่สนทนาร่างท้วมทำหน้าสะลึมสะลือ
=.= พอหนังท้องตึงหนังตาหย่อนสินะยัยช้างน้ำ
ไม่นานนักผมก็ถึงหน้าคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ของผม และสายตาที่ไวดุจเหยี่ยวก็เหลือบไปเห็นช่องว่าง โชคดีจริงๆ มีที่จอดหน้าตึกเรียนซะด้วย ผมไม่รีรอรีบเสียบรถเข้าซองอย่างรวดเร็ว
“ลูเซีย...เดินไปหน่อยดีกว่า พี่จะได้ไม่ต้องวนรถหาที่จอดใหม่”
“ไม่อาว! ไม่เดินอ่ะ ลูเซียเมื่อยขา >0<” ยัยเอวพองทำหน้าเหยเกส่งเสียงงอแง
“…เดินไปนิดเดียวเอง แค่เนี่ยไม่เมื่อยหรอกน่า” ผมทำเสียงอ้อนวอน
“ไม่เอา! ไม่เอา! พี่ดาสส์ไปส่งหน้าตึกคณะเลยสิ”
“ไม่! พี่จะจอดตรงนี้ ลูเซียเดินต่อไปเองเถอะ ที่จอดดีๆ หายากจะตาย ไปจอดใต้ตึกยามก็ไม่ค่อยจะดูแล”
“พี่ดาสส์! ( ‘o‘)” ยัยขาโต๊ะสนุ๊กหันมามองหน้าอย่างช้าๆ
“เดินไปเอง นะ นะ พี่ขอร้อง…(‘0‘ )”
“เมื่อวานตอนเช้า ลูเซียอุตส่าห์ช่วยพูดให้พี่ดาสส์มีที่ซุกหัวนอนนะ”
=[]= ที่ซุกหัวนอน!! ยัยโอ่งมังกรนี่ฉลาดกว่าที่คิดวะเฮ้ย!
“โอเคๆ งั้นไปส่งหน้าคณะ...ก็ได้” สีหน้าผมเต็มใจมากๆ
“เย้! พี่ดาสส์ใจดีชะมัดเลย ^O^”
“แต่...วันนี้วันเดียวนะ” ผมรีบกำชับเพราะดูท่าจะยังหาที่ซุกหัวนอนใหม่ยังไม่ได้ช่วงนี้เพราะเมื่อวานตอนเย็นยัยเชอรี่ ผู้จัดการสาวไม่รับสายผมเลย สงสัยช่วงนี้งานจะยุ่ง ก็พอรู้ว่าไอ้คันไซ (สมาชิกในวง) จะไปร่วมแสดงละครหลังข่าวอยู่ คงจัดคิวกันอยู่ล่ะมั้ง…
ผมต้องกลั้นใจถอยรถออกจากที่จอดที่โคตะระจะดี แล้วก็ไม่ต้องเดาเลยมีรถมารอจอดอยู่ และมันก็ได้จอดสมใจ ชิ!! เพราะยัยพยาธิป่วยนี่แท้ๆ เล้ยยยยย
“พี่ดาสส์ ลูเซียคอแห้งจัง จอดแวะซื้อน้ำตรงร้านป้าเดือนเพ็ญก่อนได้มั้ย? ( ‘.’)/” ยัยตู้เย็นหาน้ำแช่ชี้ไปยังร้านขายของชำที่อยู่ระหว่างทางก่อนจะถึงตึกคณะของเจ้าหล่อน
“ไม่! เดี๋ยวเดินย้อนมาซื้อเองแล้วกัน พี่ไปส่งถึงหน้าคณะตามที่ขอ...แค่นั้น”
“ลูเซียหิวน้ำ >0<”
“ก็หน้าตึกคณะของลูเซียก็มีร้านกาแฟขายนิ่”
“ไม่เอา ลูเซียจะกินเป๊ปซี่ ไม่กินกาแฟ ไม่ชอบ กาแฟมันขม L” ยัยถังเบียร์เบ้ปากไม่พอใจ
“มันไม่ได้มีขายแต่กาแฟหรอกน่า -*-”
“เฮ้ยๆๆ! พี่ดาสสจะขับเลยร้านแล้วนะ พี่ดาสส์ จอดสิจอดดด!!”
เอี๊ยดดด!!
“ชิบ!” ผมเผลอสบถขึ้น
ยัยรถเอียงไม่แหวเสียงแหกปากเพียงอย่างเดียว มืออันอวบยักษ์ของเธอรั้งแขนของผมที่ประคองพวงมาลัยที่หนักอึ้งอยู่ จนรถแทบจะเสียหลัก เกือบเสยเข้าฟุตบาทข้างทาง ดีนะที่ผมเหยียบเบรกไว้ทัน ไม่งั้นยัยป้าอะไรเพ็ญๆ ได้มานั่งอยู่บนกระโปรงหน้ารถคันโก้ของผมแน่ๆ
“^O^ เย้! พี่ดาสส์ใจดีจัง งั้นรอแปปนึงนะ เดี๋ยวลูเซียซื้อน้ำมาเผื่อนะ”
=.= คิดว่าผมจอดแวะให้ซื้อน้ำงั้นเรอะ?
ยัย…นั่นลงรถอย่างทุลักทุเล ก็รถผมหลังคามันต่ำกว่ารถปกติจะตาย ภาวนาในใจให้ยัยโอ่งมังกรหัวชนหลังคารถให้สลบตายคารถไปเลย O_o เอ้ย! ไม่ได้ๆ แบบนี้รถผมก็กลายเป็นรถผีสิงน่ะสิ ไม่ดีๆ บรื๋ออออ >.<
ปัง!
พอสิ้นเสียงปิดประตูรถ รถที่เอียงกะเทเร่ของผมก็กลับสู่สภาพความสมดุลปกติ ทันใดนั้นผมก็บึ่งรถเดินหน้าออกไปอย่างเร็ว ย้ำว่า...อย่างโคตรเร็วเลยล่ะ ผมไม่สนแม้แต่เหลือบไปมองกระจกมองหลังด้วยซ้ำว่ายัยน่องโตจะตื่นตระหนกอะไรหรือเปล่า? เพราะผมไม่คิดจะไปส่งถึงหน้าตึกคณะอยู่แล้วล่ะ ขืนให้ผมไปส่งถึงหน้าคณะนิเทศศาสตร์ของยัยนั่น ใครรู้เสียชื่อไปถึงนั่น หนุ่มหล่ออย่างผมต้องมาส่งหมูไปโรงเรียน T^T ขณะที่กำลังยูเทิร์นรถใต้ตึกอเนคฯ ภาพในจิตใต้สำนึกก็ปรากฏ…
ยัยเอวหายก้าวขาคากิลงจากรถ ผมนั่งหัวสั่นคลอนไปมา เพราะแรงกระเทือนของเจ้าหล่อน
“ขอบคุณมว๊ากกกกนะคะ!!! พี่ดาสส์วง The hawk ที่อุตส่าห์มาส่งลูเซีย!! ขับรถดี๊ดี ถูกใจวัยรุ่นวัยใสอย่างลูเซียจริ๊งจริง! ลูเซียช๊อบชอบ!” เสียงดังฟังชัดสนั่นไปกึงก้องจนผู้คนแถวนั้นหันมามองด้วยความสนอกสนใจ
“>0< ตะโกนทำไม ยัยบ้า!” ผมโน้มตัวลงไปแอบด้านที่นั่งข้างคนขับ
“พี่ดาสส์ วง The hawk พรุ่งนี้มาส่งลูเซียอีกนะคะ ขอบคุณอีกครั้งนึงค่ะ พี่ดาสส์ วง The hawk”
T^T ฉันไหว้ล่ะยัยฮิปโปปิดประตูไวไวเทอญ!! ผมพยายามเอื้อมมือจะไปดึงประตูแต่ยัยนั่นก็ยืนบังประตูรถจนมิด ผมอายคนจะแย่แล้ว เดี๋ยวพวกสาวๆ ที่ชื่นชอบผมก็หลงคิดว่าผมมีรสนิยมแปลกๆ หรอก
บรืนนนน~~
ภาพจินตนาการก็ค่อยๆ ซีดหายไปในความคิดของผม ผมเหยียบคันเร่งแทบมิดเมื่อผมเห็นเธอคนนั้นในจินตนาการเดินก้าวอย่างช้าๆ พลางสลับกับดูดน้ำสีดำรสซ่าไปด้วย เดินต่อไปเองแล้วกัน ยัยช้างบก...เดี๋ยวค่อยกลับไปเคลียร์กันที่บ้าน (พูดอย่างกะคู่แต่งงานแน่ะ (-_-^))
ณ โรงอาหารกิ้งก่าส่วนกลาง
วันนี้กลุ่มเพื่อนๆ ของผมอยากจะนั่งดูสาวต่างคณะเลยชวนกันมานั่งกินข้าวกลางวันที่นี่ ผมไม่ค่อยอยากจะมาสักเท่าไหร่หรอกคนเยอะจะตายชัก เสียงนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ดังพอๆ กับงานคอนเสิร์ตที่ผมเคยขึ้นแสดง แต่ก็โดนลากมาด้วยจนได้ แล้วผมยิ่งทำตัวลำบากเป็นศิลปินเรื่องมากไม่ได้ ต้องตามกระแสนิยม ที่สำคัญผมก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยเรื่องรายงานหรือเรื่องเช็คเวลาเรียนให้ก็ด้วย ต้องตามใจเพื่อนฝูงกันหน่อยเพื่อผลประโยชน์การศึกษาในวันข้างหน้า
แต่มันก็ทำให้ผมพึ่งรู้ว่าสาวๆ ในมหาลัยผมนี่เข้าท่าดีเหมือนกันแฮะ ขณะที่ผมกำลังดูดน้ำมะนาวปั่นอยู่นั่นเอง ผมก็สะดุดสายตาเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอกำลังยืนซื้อก๋วยเตี๋ยวต้มยำอยู่ ดูขาขาวๆ ของเธอสิ รับกับทรวดทรงองเอวอย่างสมสัดส่วน…ขาสวยจริงๆ ที่สำคัญมันช่างเหมาะเจาะกับกระโปรงสั้นแค่คืบเห็นจะได้ แล้วไหนจะรอยผ่าข้างเล็กๆ ที่ทำให้รู้สึกโดนข่วนหัวใจอีกเล่า ส่วนทรงผมของเธอก็เป็นลอนเกลียวอย่างกับหลุดออกมาจากแม๊กกาซีนทรงผมอย่างนั้นแหละ นั่นไง! เธอหันหน้ามาแล้ว โอ้โห..ข้างๆ ทีว่าสวย มองตรงๆ นี่ อยากได้เป็นแม่ของลูกในอนาคตเลยล่ะ แล้วเธอก็ส่งยิ้มฟันขาวสะอาดไปที่โต๊ะแถวๆ ที่เธอกำลังจะเดินไปหา
“เฮ้!! ลูเซีย ลูกกวาดนั่งด้วยคนนะ!” แม่ของลูกผมในอนาคตแผดเสียงเรียกเพื่อน
=[]= ห๊า! ชื่อนี้คุ้นๆ ว่ะ
ผมรีบมองไปที่จุดหมายของเสียงนั้น คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ มันเป็นอะไรที่พูดยากใช่หมูแน่ๆ โชคยังดีโต๊ะของยัยช้างบกนั่นอยู่ห่างจากโต๊ะที่ผมนั่งอยู่สัก 5-6 โต๊ะได้ ผมรีบกระเถิบให้นั่งตรงพอดีกับเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ว่าแต่ผมจะแอบยัยลูเซียทำไม? ถามว่ากลัวอะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนตัวเองทำผิดไปนิดๆ เรื่องเมื่อเช้า และผมก็แอบสงสัยไม่ได้ว่ายัยนั่นกินอะไรอยู่ ซาลาเปา 20 ลูกย่อยหมดแล้วเหรอ…พึ่งผ่านมาแค่ 3 ชั่วโมงเองนะ สงสัยจะข้าวขาหมูแหงๆ เพราะโต๊ะที่ยัยนั่นนั่งอยู่ตรงกับหน้าร้านขายข้าวขาหมูพอดิบพอดีเลย ยัยนั่นไม่ชอบเดิน ผมค่อยๆ เหลือบสายตาดูในจานของยัยขี้เกียจเดิน นั่นไงล่ะ! ไข่ต้มดำๆ และก็ผักกาดดอง ข้าวขาหมูจริงๆ ด้วย แล้วผมจะมาสนใจอาหารช้างทำไม งงตัวเองจริงๆ
จริงสิ… ^_^ พรุ่งนี้ตอนเย็นคิวว่างนี่หว่า หาสาวมหาลัยเที่ยวสักคนแก้เหงาดีกว่า เบื่อสาวๆ ในวงการละ เรื่องมาก ที่สำคัญเป็นข่าวทีก็แก้ไขลำบาก ถ้าเป็นคนนอกวงการก็บอกเป็นเพื่อนหรือเป็นญาติห่างๆ ก็ยังพอแก้ต่างไปได้บ้าง และสายตาดุจเหยี่ยวของผมก็เริ่มทำงานอีกครั้ง นั้นไงล่ะ เจอเป้าหมายแล้ว! สาวหน้าหมวยที่กำลังซื้อผลไม้อยู่ โอ้โห! คนนี้แจ๋วกว่าเพื่อนของยัยช้างบกเสียอีก เสื้อนักศึกษาสีขาวๆ ตัดกับยกทรงสีดำที่เหมือนจะอวดว่ามีเยอะจนแทบจะปริเสื้อออกมาอยู่แล้ว กระโปรงทำไมไม่ผ่าไปถึงสะดือเลยล่ะจ๊ะแม่คู๊ณ! >.< และแล้วผมก็ต้องทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอด้วยความเสียอารมณ์ เพราะยัยหมวยนั่นเดินไปนั่งที่โต๊ะของยัยช้างบก ทำไมคนสวยๆ ต้องมีเพื่อนเป็นช้างด้วยนะ ผมไม่เข้าใจเลย สงสัยวันนี้จะไม่ใช่วันของผม ช่างมันผมไม่แคร์ และผมก็ซัดข้าวหมูแดงที่เพื่อนในกลุ่มซื้อมาฝาก
ปึก!
เพล้งงงงงง!!
“โว้ยยย!! เจ็บนะเว้ยยยยย” เสียงผู้ชายแหกปากร้อง
เสียงจานแตกสนั่นตรงโซนที่ผมนั่งอยู่ ผมกำลังจะลุกกลับตึกเรียนก็หันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น O_O กะ...กับยัยช้างบกที่กำลังสั่งข้าวขาหมูเบิ้ลอีกจาน แล้วไอ้ผู้ชายผมทองนั่นลงไปนั่งกับพื้นข้างๆ ขาคากิของยัยนั่นทำไม?
“( ‘.’) อะไรน่ะ ลูเซียยืนเฉยๆ นะ”
“จะหาว่าฉันเดินไปชนแกเองงั้นเรอะ!”
“ก็มันเรื่องจริงนี่นา ลูเซียยืนอยู่ตรงนี้ก่อนที่นายจะเดินมาชนแล้วก็ล้มลงไปนอนอีก”
ไอ้หนุ่มผมทองรู้สึกเสียหน้าเพราะมีนักศึกษาระแวกนั้นหัวเราะกันคิกคัก
“หน็อย! ข้าวฉันหกหมดเลยเห็นมั้ยเนี่ย!”
และมันก็ลุกขึ้นยืนพร้อมปัดเศษข้าวที่หกบนตัวออก เสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดตอนนี้มันเป็นสีน้ำแกงเหลืองๆ ซะแล้ว ยิ่งทำให้มันรู้สึกเสียหน้าไปกว่าเดิมเสียอีก
“ก็ไปซื้อใหม่สิ อ่ะ! ลูเซียให้” ยัยอวบระยะสุดท้ายยื่นแบงค์ยี่สิบให้…ผู้ประสบภัย
“แกดูถูกฉันเหรอ อีอ้วน!” ชายผมทองก็ง้างหมัดขึ้นและกำลังปล่อยเข้าไปที่หน้าของยัยคากิ
“ว้ายยยยยย!! x.x” เสียงช้างร้องพร้อมหลับตาปี๋
ปั่ก!
และหมัดของไอ้ผมทองก็โดนเข้าที่หน้าอกอย่างจัง
“พี่ดาสส์!!!” ช้างเรียก
ไม่ผิดแน่....ผมรีบวิ่งมากันก่อนที่ไอ้หนุ่มผมทองจะทำร้ายยัยตุ่มมังกรและผมก็ผลักไอ้หนุ่มผมทองลงไปคลุกกับข้าวที่หกเลอะเทอะอีกครั้งนึง
ตึง!!
“อย่าเรียกผู้หญิงคนนี้ว่า ‘อีอ้วน’ เข้าใจมั้ย ไอ้บ้านนอก!!”
ขนาดผมยังไม่เคยเรียกลูเซียว่าอ้วนสักคำเลยนะ ไม่เชื่อก็ย้อนไปอ่านสิ! จะมีก็แต่ ยัยฮิปโป ยัยช้างน้ำ ยัยช้างบก ยัยปลาวาฬ ยัยถังเบียร์ ยัยตู้เย็น ยัยโอ่งมังกร อะไรเทือกๆ นั้นแหละ แต่ไม่มีคำว่าอ้วนสักคำนะเห็นป่ะ ผู้หญิงน่ะเค้าไม่ชอบโดนเรียกว่า ‘อ้วน’ หรอกผมเข้าใจผู้หญิงข้อนี้ดี
แปะ! แปะ! แปะ!
แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือจากสาวๆ ที่เห็นเหตุการณ์ดังขึ้น รู้สึกปลื้มปิติจริงๆ ไอ้ผมทองมันก็ลุกขึ้นแล้วก็สบถเบาๆ อยู่คำสองคำก่อนจะเดินไปห้องน้ำชาย ไม่อยากจะบอกใครเลยว่าที่เข้ามาช่วยรับหมัดแทนก็เพราะยัยช้างบกเนี่ยเป็นน้องสาวสุดที่รักของเพื่อนซี้ผมต่างหากล่ะ ถ้ามันรู้ว่าน้องสาวมันถูกต่อยมันคงเฉ่งผมน่าดูชมเลยล่ะ ข้อหาอยู่มหาลัยเดียวกันทำไมไม่ช่วยดูแลน้องมัน เผลอๆ จะพาลไม่ให้ผมพักอาศัยในยามฉุกเฉินนี่ด้วยก็ได้
ความคิดเห็น