Fic rockman zx(+advent) yaoi - Fic rockman zx(+advent) yaoi นิยาย Fic rockman zx(+advent) yaoi : Dek-D.com - Writer

    Fic rockman zx(+advent) yaoi

    เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คิดจะเขียนมานานแล้ว ดีใจที่ได้มาเขียน เรื่องเกี่ยวกับsilve(giro) x vent(ซิลเว(กิโร) x วานท์)ยังไม่จบนะเออ-w-

    ผู้เข้าชมรวม

    788

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    788

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.พ. 56 / 20:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ดีก้าบ กระผม ฮิโดดิออสเองคร้าบ ทุกคนคงบ่นถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องเก่ายังไม่จบยังมาแต่งใหม่อีก เราเลยคิดว่าจะแต่งเป็นเรื่องสั้นซะเลย อ้อ เตือนไว้ก่อนนะครับว่าเรื่องนี้ ชาย รัก ชาย ใครไม่ชอบก็ออกไปเถอะครับ ผมไม่ว่า ถ้าจะอ่านก็เชิญเลยคร้าบ ขอให้สนุกนะครับทุกท่าน
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      การกลับมาของเขาผู้นั้น
       
      1ปีต่อมาหลังจบการต่อสู้ของวานท์และเเอล
       
                สายลมพัดผ่านไปกระทบร่างที่มีบอร์ดี้สีเเดง ซึ่งในตอนนี้ได้หยุดทำงานไปแล้ว ราวกับต้องการส่งสารที่ไม่มีผู้ส่งให้
      "ลมแย็นดีจริง นายว่ามั้ย"ร่างหนึ่งที่สวมใส่ชุดผ้าคลุมพูดพร้อมเดินเข้ามานั่งข้างๆร่างที่แน่นิ่งนั่น
      "....."แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ซึ่งเป็นเรื่องปรกติอยู่
      "มนุษย์ที่แสนอ่อนแอจำเป็นที่จะต้องมีเราเหล่าเรพลิลอยด์ปกป้องจากอันตราย แต่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนอยากถูกปกป้องตลอดไป มนุษย์บางคนก็ต้องการที่จะรวมต่อสู้กับ ต้องการปกป้องสิ่งสำคัญของตนเอง เพื่อไม่ให้เสียมันไปอีกครั้งหรือเสียมันไป"ร่างสูงยังคงพูดต่อไปราวกับร่างที่แน่นิ่งนั้นฟังอยู่"มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากพอๆกับเราเหล่าเรพลิลอยด์ อาจเพราะมีจิตใจที่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้เราเหมือนกันมาก หึๆ"ร่างสูงหัวเราะเบาๆ
              แล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนมองท้องฟ้าสีครามที่ยามนี้ช่างเงียบสงบและรมรื่น ร่างสูงหันกลับกลับมามองร่างที่ดูเหมือนไม่ได้รับรู้เรื่องใดเลย ร่างสูงถอดฮูดของเสื้อคลุมลงเผยให้เห็นหน้าคมดุ ตาสีฟ้าใสราวนภาและผมสีบลอนด์ทองยาว
      "เมื่อก่อน"พ่อ"ได้รับฉายาว่าปีศาจแดงแห่งHQ และตอนนี้ถึงเวลาที่"ลูก"ต้องรับฉายานี้ไปแล้ว ดูแลรักษา"นางฟ้า"ของลูกไว้ให้ดีล่ะ อย่าปล่อยเขาไปหรือด่วนจากเขามาอีกล่ะ"ร่างสูงพูดพร้อมเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าร่างสีเเดง 
              แล้วจึงเอื้อมมือไปเเตะหน้าผากของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกของปีศาจแดงแห่งHQ  ร่างสูงท่องบางอย่างเบาๆ ลมที่พัดผ่านทำให้ผมของร่างสูงสะบัดไปมา
      "พ่อขอให้ลูกโชคดี "ซิลเว""แล้วร่างของทั้งคู่ก็เปล่งแสงสว่างขึ้นมา 
              ร่างสูงได้สลายไปราวกับไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่เเรก ผิดกับร่างของชายหนุ่มที่มีผมสีบลอนด์ทองและตาสีฟ้าใสราวนภาที่ไม่ได้ผิดเพี้ยนไป ซึ่งกำลังซ่อมแซมตนเองอยู่
      "ป...ปีศาจเเดงแห่งHQเหรอ ..  ร๊อคเเมน ..  ร๊อคเเมนซีโร่  ..  ท่านพ่อสินะ.."
               ซิลเวลุกขึ้นยืนหลังจากที่ร่างกายของตนเองซ่อมแซมเสร็จแล้ว ซิลเวได้ออกเดินทางไปที่ๆคนที่เขาคาดว่าจะเป็น"นางฟ้า"ของตนอยู่ และแน่นอนก่อนออกเดินทางเขาไม่ได้ลืมหยิบอาวุธและผ้าคลุมที่หลงเหลือไว้(ของซีโร่)ไปด้วย
       
      ณ ยานGuardians โซนห้องพัก
       
      "ตามนี้นะวานท์ อย่าไปสายเชียวล่ะ"เสียงใสๆของเด็กสาวบอก(กำชับ)ฝาแฝดของตนดังขึ้น
      "รู้เเล้วน่าเอล ไม่สายหรอก บ่ายนี้ใช่มั้ยล่ะ"เด็กชายหน้าหวาน และไว้ผมยาวตามรุ่นพี่ที่เสียไปนาม"วานท์"เอ่ยอย่างเซ็งๆ
      "ใช่ ชั้นไปเตรียมตัวก่อนนะ"ว่าแล้วเด็กสาวนาม"เอล"ก็กลับเข้าห้องของตนไป
      "ครบรอบหนึ่งปีแล้วสินะ..."วานท์เอ่ยกับตัวเองอย่างเลื่อนลอยพร้อมเดินเข้าไปในห้องของตนเช่นกัน
               เขาเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมเอื้อมมือไปหยิบรูปของซิลเวและเเว่นตามา ซึ่งนี่เป็นภาพสุดท้ายที่วานท์มีอยู่ ทุกๆวันเขาจะมานั่งร้องไห้ตรงนี้...กับรูปและเเว่นตาอันนี้ พลางกล่าวโทษตัวเองไปด้วย แน่นอน.......วันนี้ก็ด้วย
      "ฮึก...รุ่นพี่...ผม..ผมมันอ่อนแอ..อ่อนเเอมากที่สุด ฮึกๆ ถ้าตอนนั้นผมเชื่อรุ่นพี่ตั้งแต่แรก รุ่นพี่คงไม่....ฮึกๆฮือๆๆๆ"
      ณ หลุ่มศพของซิลเว
       
      "เรามาเยี่ยมเเล้วค่ะ รุ่นพี่ซิลเว"เอลเอ่ยพลางยิ้มเศร้าพร้อมเดินเข้ามาหาป้ายหลุ่มศพสีขาวสะอาด
      "....."วานท์ไม่ได้พูดอะไรแต่แสดงสีหน้าปวดร้าวพร้้อมเดินเข้ามาอยู่ข้างๆเอลเช่นกัน
      "สบายดีมั้ยคะ? รุ่นพี่ ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกค่ะ หนู วานท์กับทุกคนที่อยู่ในยานGuardiansสบายดีคะ"เอลนั่งยองๆแล้ววางดอกไม้ไว้บนหลุ่มศพเฉกเช่นทุกวัน ดวงตาของเธอเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
      "ฮึกๆๆ รุ่นพี่คะ เราคิดถึงรุ่นพี่นะคะ เรา..ฮึก อยากเจอรุ่นพี่อีกค่ะฮือๆๆ"เอลเริ่มร้องไห้ทีละนิด วานท์ดึงเอลเข้ามากอดพลางร้องไห้เบาๆเช่นกัน
      "ฮึกๆวานท์ ซิกๆชั้นอยากเจอรุ่นพี่อีกจัง....ซิกๆ"น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาของเอลนั้นแหบพร่าและสั่นเคลือ 
              นับตั้งแต่เสียซิลเวไป วานท์และเอลก็มาเยี่ยมหลุมศพทุกวัน แม้ว่าจะคนละเวลาก็ตาม ทั้งคู่ต่างก็มานั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้าหลุมศพนี้ ไม่มีใครไม่เสียใจกับการจากไปครั้งนี้เพราะรุ่นพี่ผู้เป็นที่รักได้ช่วยชีวิตของพวกเขาไว้ตั้งมากมาย
              หลังจากนั่งร้องไห้ไปสักพัก ก็ได้มีเสียงดัวขึ้นมาจากเครื่องมือสื่อสารของทั้งคู่ว่า
      "วานท์!เอล!พวกเธออยู่ไหน"
      เสียงของหัวหน้าหน่วยGuardiansนาม"อล๊อตเต้"หรือที่เรียกกันว่า"แพรรี"ถามขึ้นอย่างร้อนรน
      "แพรรี!มีอะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย เราอยู่กันที่เขตD-11(มั่วเอา อย่าได้ใส่ใจ)น่ะ"วานท์ปาดนำ้ตาทิ้งพร้อมพูดด้วยเสียงที่มั่นคงราวกับไม่ได้ร้องไห้มาตลอดเวลา
      "เราตรวจพบสัญญาณแปลกๆที่จุดD-30กับC-99(นี่ก็มั่ว) และเขตC-99นั่นยังเป็นจุดอาศัยของชาวเมืองด้วย!!"แพรรีพูดอย่างร้อนรนยิ่งกว่าตอนเเรกเสียอีก
      "ไม่นะ!!ที่นั่นยังมีเด็กกับผู้หญิงอีกมากเลยนะ!!"เอลพูดอย่างตื่นตระหนก เธอรีบปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืน
      "แยกกันนะเอล!"
      "อืม! ชั้นเอาโมเดล เอ็กซ์ไปนะ"เอลว่าพลางหยิบโมเดล เอ็กซ์แล้วจากไป วานท์เองก็รีบวิ่งไปอีกทาง
      ณ เขต D-27(คุ้นมั้ย?)
       
      ตู้มๆๆ
       
      "หืม เสียงแบบนี้.. หรือว่า..!!"เมื่อคิดได้ดังนั้น ซิลเวก็รีบวิ่ง(ไม่ได้สวมโมเดลเลยแดชไม่ได้)ไปทางต้นเสียงทันที
      'ขอให้ทันทีเถอะ อย่าเป็นอะไรไปนะ.....วานท์!!!'แล้วซิลเวก็รีบวิ่งยิ่งกว่าเดิม
       
      กลับมาที่เขตD-30
       
      ตู้มๆๆๆๆๆๆๆ
       
      "บ้าเอ้ย!! ทำไมไม่หมดซักทีฟร้า!~~~~~~~~~~~~"วานท์ตะโกนอย่างเหลืออด ก็จะไม่ให้โมโหได้ยังไง ในเมื่อเขาสู้กับกองทัพแพนเทอ้อน(ขออภัยถ้าสะกดผิด)มานานมากแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้แยกกับเอลที่เขตD-11
      'ตัวที่เท่าไหร่แล้ววานท์?'เสียงของโมเดลแซดดังขึ้นมาในหัววานท์ที่กำลังสาดกระสุนอย่างเมามันส์(?)อยู่
      "ราวๆตัวที่279แล้วฟระ"วานท์ตอบโดยไม่ได้สังเกตว่ามีแพนเทอ้อนตัวหนึ่งกำลังพุ่งมาด้านหลังของเขา ซึ่งนั่นทำให้วานท์หลบไปพ้นจากการโจมตีที่แสนรุนแรงของมัน
      "อัก!!!!!!"วานท์ที่โดนกระแทกอย่างหนักโดยไม่ได้หลบเลี่ยงแม้แต่ต้องทนรับความรุนแรงจนหลุดจากการร๊อคออน แล้วจึงโดนซัดอีกรอบให้ไปชนต้นไม้จนโค่น
      "วานท์!!!"โมเดลเเซดตะโกนอย่างตื่นตระหนก
      เปรียะ เปรียะ
       
      "อะ...ว.วานท์"โมเดลแซดที่กำลังจะพุ่งไปหาวานท์โดยที่ไม่ได้ระวังตัว ทำให้โดยแพนเทอ้อนที่ใช่ไฟฟ้าสู้ได้ช๊อตไฟฟ้่าใส่จนระบบรวนและทำให้ไม่สามารถควบคุมระบบได้อีกต่อไปแล้ว โมเดล แซดตกลงบนพื้นตามเเรงโน้มถ่วงของโลกแล้วแน่นิ่งไป
      "โมเดล....แซด....ไม่นะ"วานท์คราง น้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง ดวงตาที่เคยมุ่งมั่น บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความกลัวและหวาดผวา
      กลัว....กลัวว่าจะเสียโมเดล เเซดไปเหมือนที่เสียแม่กับรุ่นพี่ที่รัก
      กลัว....ว่าจะไม่มีค่าในสายตาใครอีกต่อไปเพราะทำอะไรไม่ได้เลย
      กลัว....ว่าจะตายที่นี่แล้วจะรักษาสัญญาไว้ไม่ได้ ทั้งของรุ่นพี่ตนเองและของเอล
      'ได้โปรดเถอะ ใครก็ได้ช่วยเราที.....รุ่นพี่!!'วานท์ตะโกนลั่นในใจด้วยความเจ็บปวด และน้ำตายังคงไหลรินต่อไปไม่สิ้นสุดเสียที 
             กองทัพแพนเทอ้อนนั้น เมื่อเห็นว่าศัตรูไม่มีพิษสงอะไรแล้วก็กรูกันเข้าไปล้อมรอบวานท์ทันที วานท์ทำได้แต่หลับตารอชะตากรรมของตนเอง สติที่มีหลงเหลืออยู่ก็น้อยเต็มทนแล้ว
       
      ตู้ม ๆๆๆๆ!!!!
       
      วานท์ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังทั่วทุกทิศที่ล้อมรอบเขาไว้ เขาพยายามคงสติเพื่อดูผผู่วยชีวิตเขาไว้ให้ได้ สิ่งที่วานท์เห็นคือแผ่นหลังที่โหยหามานาน ผมยาวสีบลอนด์ทองปลิวสยาย
       
      'ไม่จริงน่า....รุ่นพี่...'วานท์คิดก่อนหมดสติไป
      หลังจัดการแพนเทอ้อนได้หมด ซิลเวก็หันกลับไปหาวานท์ที่นอนพิงตอไม้ที่เหลือทันที เขารีบร้อนเข้ามาดูอาการให้วานท์ พร้อมหยิบโมเดลแซดไปด้วย
      "วานท์!! วานท์!! วานท์!! ตื่นซิ วานท์!!"ซิลเวร้องเรียกวานท์เสียงดัง 
      ซิลเวรีบเช็คว่าวานท์ยังคงหายใจและปลอดภัย หลังเช็คครบทุกอย่างเเล้วสรุปว่าวานท์แค่มีแผลถลอกตามตัวเท่านั้นเสร็จ ซิลเวเหลือบไปเห็นมือที่กุมบางอย่างไว้อย่างแน่นหนาราวกับว่ากลัวมันจะหายสลายไปกับธาตุอากาศ ซิลเวเอื้อมมือไปกุมมือวานท์ที่กำลังกุมสิ่งนั้น แล้วเขาก็มองดูสิ่งที่กำเอาไว้
      "ยังเก็บไว้อย่างดีสินะ วานท์....."ซิลเวเอ่ยอย่างแผ่วเบาพร้อมเผยรอยยิ้มมี่ห่างหายไปนานแสนนานมาก แต่ไม่เคยลืมได้เลยแม้สักนิด 
      รอยยิ้มที่เหมือนกำลังปลอบประโลมหัวใจ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่น รอยยิ้มที่มีเพียงคนๆนี้เท่านั้นที่ยิ้มแบบนี้ออกมาได้ รอยยิ้มที่มีไว้เพื่อคนๆเดียวที่แสนสำคัญ รอยยิ้มที่่"ปีศาจเเดง"มีให้"นางฟ้า"ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถยิ้มให้ใครได้อีก 
      ซิลเวอุ้มวานท์ขึ้นแล้วจึงลุกขึ้นหลังเก็บโมเดลแซดเข้าที่ไว้เรียบร้อยแล้ว ซิลเวหันหลังแล้วเดินจากไป ทิ้งไปเพียงท่อนไม้แหลมยาวที่เขาใช้สู้และเศษซากแพนเทอ้อนที่มีรอยตัดแบบเฉียบคมทิ้งไว้
       
      -เวลาเดียวกัน-ณ ยาน Guardians
       
      "กลับมาแล้วจ้า!"
      เอลตะโกนอย่างร่าเริงตามปรกติหลังทำภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเดินเข้าไปหาเเพรรีที่กำลังทำหน้าตึงเครียดพร้อมถามว่าทำไมถึงได้ทำหน้าเครียดกันเชียว
      "วานท์หายตัวไปน่ะเอล"แพรรีพูดอย่างเคร่งเครียด
      "ไม่จริงน่า!!"เอลอุทาน
      "เขาหายตัวไปเเถวๆเขตD-30 ที่ๆเราตรวจพบสัญญาณแปลกๆนั่น เราไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย"เเพรรีอธิบายสถานการณ์คร่าวๆอย่างรวดเร็ว
      "ชั้นจะไปตามหาเขาเอง!!"เอลบอกแพรรี ดวงตาของเธอฉายเเววสับสน กระวนกระวาย ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
       
      "ไม่ได้นะเอล!"แพรรีห้ามเอลไว้ทันที
      "แต่นั่นพี่ชายชั้นนะ!! แพรรี!!"เอลแย้งกลับไปทันที แต่แพรรียังคงรั้งเธอไว้อย่างนั้น จนกระทั่ง......
      "เกิดอะไรขึ้นแพรรี?ไหงมาเล่นดึงกันไปมาอย่างนี้ล่ะ ว่างงานขนาดนั้นเลยเรอะ"
      เสียงเจี้ยวจ้าวช่างพูดที่มักมาก่อนตัวของอดีตฮันเตอร์อิสระสาวนาม"อาเช่"ดังมาจากหน้าประตู อาเช่เดินเข้ามาพร้อมกับคู่หูที่เธอไปเจอตอนที่ทำภารกิจในครั้งอดีต หนุ่มน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นซ้ำยังหน้าหวานมากเกินจนบางคนยังแยกไม่ได้ถ้าไม่รู้จัก แถมยังสวมปลอกคอที่มีสายไฟห้อยลงมา2เส้นนาม"เกรย์"
      "วานท์หายไปน่ะสิ!!!"เอลตะโกนซ้ำยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
      "ว่าไงนะ!!! รุ่นพี่/วานท์หายไป!!!"เกรย์และอาเช่ตะโกนอย่างตกใจ
       
      ผับ ผับ 
       
      "อะ?!/หือ/ว้าว/เอ๋"(เอล/อาเช่/เกรย์/แพรรี)
      ทั้งสี่คนอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อหันไปเจอหุ่นยนต์นกตัวหนึ่งสีฟ้าที่กำลังบินเข้ามา มันร่อนลงเกาะบนแขนเอลอย่างนุ่มนวลและน้ำหนักมันไม่ได้มากอย่างที่คิดเลยสักนิด ผิดกับรูปร่างอันมโหราฬของมันอย่างมาก เอลมองดูนกตัวนั้นและสังเกตเห็นกระดาษที่ผูกกับข้าของมันมา กระดาษแผ่นนั้นเหลืองมากราวกับผ่านกาลเวลาที่นานแสนนานมาแล้ว เอลค่อยๆเเกะกระดาษแผ่นนั้นออกมาอ่านให้ทุกคนฟัง
      'ถึงเหล่าGuardians
            ถ้าตอนนี้พวกคุณกำลังกังวลเรื่องวานท์อยู่ ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ เขาอยู่กับชั้นในตอนนี้ เขาโดนแรงกระแทกจากพวกแพนเทอ้อนทำให้กระดูกขาร้าวกับหัวแตก แต่ไม่ต้องห่วงหัวกระแทกไม่แรงทำให้สมองไม่ได้รับเเรงกระทบกระเทือน ส่วนขาชั้นจะรักษาเขาเอง วางใจได้ ชั้นจะดูแลเขาจนหายดี  แล้วจะรีบพากลับไปส่งเอง
       
      ปล.ฝากนกตัวนี้ด้วยละกัน เดี๋ยวจะไปเอาตอนไปส่งวานท์ อ๋อ มันชื่อBlue Birdนะ'
       
      ทุกคนมองไปที่นกตัวใหญ่สีฟ้าหรือบลูเบิร์ดทันที มันไซร้ขนไม่ได้สนใจสายตาที่มองมาที่ตนเลยแม้สักนิด
      "ไม่ได้เขียนชื่อผู้ส่งนิ"อาเช่พูดขึ้นหลังหันกลับมาจากเจ้าบลูเบิร์ด
      "แปลกจังนะฮะ"เกรย์เอียงคอน้อย(หารู้มั้ยว่านั่นทำให้ทหารชายหลายคนเเถวนั้นโอเวอร์ฮีทไปตามๆกัน)
      "ลายมือนี่คุ้นๆแฮะ"เอลพึมพำขณะนึกถึงคนที่เขียนสารคนนี้ แต่นึกยังไงก็ไม่ออก
      "เราไว้ใจเขาคนนี้ได้เเน่เหรอ?"อาเช่ถามแพรรีที่เงียบแล้วแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
      "อืม.......ชั้นว่าเราคงต้องพึ่งโชคเเล้วล่ะ เพราะยังไงวานท์ก็อยู่กับเขานี่ ถ้าเกิดเราไปทำอะไรที่เขาไม่ชอบชั้นว่าวานท์ต้องโดนลูกหลงแน่"แพรรีตอบหลังวิเคราะห์เหตุการณ์เเล้วเรียบร้อย 
      อาเช่พยักหน้า ส่วนเกรย์ก็คิดอยู่สักพักก็พยักหน้าเช่นกัน เอลเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตั้งเค้าเพื่อที่จะปล่อยพายุลูกใหญ่ออกมาในอีกไม่นาน ในใจของเอลนั้นเป็นกังวลไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว เธอได้แต่ภาวนาให้พี่ชายของเธอปลอดภัยเมื่ออยู่กับคนๆนั้น
      'วานท์......ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ'
      สถานที่ลึกลับที่คล้ายกับปราสาทอันเก่าแก่ ในห้องที่คล้ายห้องนอนที่ถูกถล่ม
       
      "อึก!...อือ..ที่นี่....ที่ไหนกัน...."ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงมาตลอดปรือตาขึ้น เมื่อตาปรับสภาพได้แล้วเขาจึงลุกขึ้นแล้วมองไปรอบตัว 
             สถานที่นี้ดูคงความหรูหราอันเก่าแก่ไว้ แม้บางส่วนได้ถูกทำลายไปแล้วก็ตาม เตียงที่เขากำลังนอนอยู่นั้น ดูจะเรียบง่ายและถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คน2คนได้นอนด้วยกัน ที่โต๊ะข้างเคียงมีรูปสองรูปที่ตั้งอยู่ วานท์หยิบรูปทั้งสองขึ้นมาดู รูปแรกเขียนกำกับข้างใต้รูปว่า 'My Beloved Queen "X"' ในภาพมีรูปหญิงสาวที่ดูสวยงามมากๆนั่งอยู่ในสวน พร้อมทั้งมีกระรอกหนุนตักและนกน้อยที่หลับอยู่บนหัวอยู่ด้วย เธอหน้าคล้ายๆวานท์เพียงแค่โครงหน้า เขารู้สึกอบอุ่นกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเธอ หัวใจรู้สึกผ่อนคลายราวลูกได้อยู่กับแม่อย่างไรอย่างนั้น
              ส่วนภาพต่อมาคือภาพของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งที่มีหญิงสาวในภาพก่อนอยู่ด้วย และมีตัวอักศรที่เขียนกำกับไว้เช่นกันว่า 'My whole family' ในภาพมีคนแก่อยู่สองคนที่ยืนอยู่หน้าสุด ข้างหลังนั้นมีเด็กสาวที่หน้าคล้ายๆหญิงสาวที่ชื่อ"X"นิดหน่อย เธอดูอ่อนเยาว์กว่าและข้างๆก็มีเด็กชายหน้ามีรอยแผลเป็นกากบาทที่อายุคาดว่าจะแก่กว่าราวๆ2-3ปียืนอยู่พร้อมอุ้มห่อผ้าโชว์เด็กน้อยหน้่าตาจิ้มลิ้มที่กำลังหัวเราะอยู่ ข้างเด็กชายเเละเด็กสาวมีผู้ชายที่ดูแก่กว่าเด็กชายราว6ปีเห็นจะได้ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆหญิงสาวคนเดิมที่กำลังอุ้มเด็กผู้ชายอายุราวๆ5ขวบที่หน้าตาถอดแบบมาจากผูชายคนนั้น แต่ดวงตากลับเหมือนหญิงสาวที่อุ้มอยู่ ใบหน้าของทุกคนแสดงถึงความสุขในวันวานที่ล่วงเลยไปแล้วอย่างชัดเจน(ยกเว้นผู้ชายคนนั้น)
             ผู้เข้ามาใหม่นั้น เมื่อเห็นร่างที่หลับไปยาวนานกำลังจ้องมองดูภาพถ่ายที่ยังคงหลงเหลือไว้อยู่ไม่วางตาก็คลียิ้มออกมาพร้อมยกฮูดขึ้นปิดหน้า แล้วจึงเดินเข้าไปหา 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×