ถ้าเปลี่ยนจากนายเป็นฉันล่ะ Fic SasuNaru 2
ผู้เข้าชมรวม
1,762
ผู้เข้าชมเดือนนี้
15
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Fic SasuNaru ถ้าเปลี่ยนจากนายเป็นฉันล่ะ 2.
จ้าวแห่งเก้าหางกำลังหลับสนิท แต่นั่นก็แค่ภายนอก ความคิดเขากำลังสับสนตั้งแต่วันที่ได้พบร่างสูงคนนั้น แม้เปลือกตาจะปิดสนิทแต่นิ้วเรียวเลื่อนไปแตะริมฝีปากบางที่ยังคงกรุ่นจากจุมพิตของอีกฝ่าย
‘นี่เราเป็นอะไร’ สักพักความคิดของจิตใต้สำนึกที่กำลังก่อตัวก็หยุดชะงัก เขาผลุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปรอบกาย ห้องที่มีสีดำ ไม่มีอะไรประดับประดา เมื่อมองไปในกระจกก็พบบุคคลที่เหมือนไม่เคยรู้จักมาก่อน แท้จริงแล้วนั่นคือตัวเขาเอง ใบหน้าเรียบนิ่งนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง นารูโตะในตอนนี้อยู่ในโหมดเซียนเก้าหาง แม้จะดูน่าเกรงขามแต่เขากลับไม่ได้ต้องการมัน ยิ่งเมื่อได้ยินคำกล่าวของร่างสูงวันนั้น
“ฉันจะใช้ร่างกายเพื่อตามหานาย และไม่ยอม....ตายก่อนนายแน่....นารูโตะ”
“เพ้อเจ้อจริง” ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดงี่เง่านั่นออกไป แต่ความคิดก็มักจะวนมาอยู่ที่เก่า ใบหน้าหล่อปนเศร้ากำลังมองมายังเขา เหมือนเขากำลังมองเห็นตัวเองอีกคนเจ็บกระนั้น จำได้ว่าเขาได้แทงคนตรงหน้าไปด้วย......................................ความเป็นห่วงนี้มันคืออะไร
“นายไม่เป็นไรแล้วล่ะ ซากุระบอกว่าห้ามนายลุกจากเตียงไปซักพัก ”เนจิที่มาดูอาการอยู่บ่อยๆบอกแก่หัวหน้าแห่งหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระ หมอนี่ยังคงไม่ยอมพูดอะไร เขารู้ว่าเจ้านี่ต้องคิดถึงแต่โหมดเซียนคนนั้นเป็นแน่ ตอนทำแผลก็ไม่บ่นหรือร้องว่าเจ็บสักนิด
“ฉันเจ็บ” เนจิก้มมองคนที่พูดแต่ใบหน้านั้นคงจะแสดงได้ดีเกินไปถึงกับมีน้ำตาไหลออกมา “เขาจะรู้มั้ย ว่าฉันเจ็บมากแค่ไหน”
“เขาเคยถามคำถามนี้กับฉันเหมือนกัน” ซาสึเกะมองมายังเนจิ ก่อนภายในใจจะรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา นารูโตะเองเคยถามแล้วงั้นเหรอ ฉันมันเหมือนคนโง่จริงๆ เขากำกระบังหน้าผากแน่นภายใต้ผ้าห่มด้วยความรู้สึกอัดอั้น
‘ถึงตายฉันก็จะพานายกลับมา นารูโตะ’
‘ถึงฉันตายก็จะพานายกลับหมู่บ้านให้ได้ ไอ้เจ้าบ้าซาสึเกะ!!!!!’ ดูเหมือนวันนี้ฉันจะเป็นคนตามสินะ ซาสึเกะที่คิดย้อนหลังไปพบเจอแต่เรื่องเก่าๆนึกถึงมันทุกเวลาตั้งแต่กลับมาที่นี่
ทางด้านอิทาจิที่ลอบเข้าไปในถ้ำเสือแต่เพียงลำพัง เขารู้ว่านารูโตะอยู่ด้านใน ตอนนี้เพนคงยังอยู่ด้วยแน่แต่เขาก็จะลองเสี่ยงดูสักตั้ง คิซาเมะผู้ติดตามถูกบอกให้รออยู่ด้านนอกเพราะการมาหลายคนอาจทำให้เสียแผน
“คิดอะไรอยู่ถึงไม่รู้ว่าศัตรูเตรียมจ่อคอฆ่านายได้เลยนะ” เสียงนี้ ไม่สิ...ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้ อิทาจิกระโดดหลบไปทันทีที่รู้ว่าเป็นหัวหน้าแสงอุษาตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช้ร่างแยกด้วย
“หน่วยลับของโคโนฮะมาสอดแนมอะไรที่นี่”
“ไม่ต้องพูดให้มากความ ” ดาบคู่กายถูกดึงออกมาตั้งรับ บ้าจริง ถ้าไม่ถอดหน้ากากจะใช้เนตรวงแหวนได้ยังไง คิดได้ดังนั้นก็ถอดหน้ากากออก ทำให้เพนตะลึงเล็กน้อย
“เพื่อนเก่าหนิ” อิทาจิเริ่มใช้จันทรากะปิดฉาก แต่เพนนั้นไม่ใช่กระจอกและรู้ว่าอิทาจิก็อาจจะชนะตนด้วยก็ได้ สายตาจึงเบี่ยงลงต่ำสังเกตการณ์เคลื่อนไหวแทน
“มาหานารูโตะงั้นสิ ถ้านายทำอะไรผิดพลาด ฉันจะฆ่าหมอนั่นด้วยวิชานั้น” เสียงเรียบของเพนแฝงไปด้วยความน่ากลัว อิทาจิเพิ่งฉุกคิดขึ้นได้ว่าเพนเองก็มีวิชาผนึกจิ้งจอกเก้าหาง เนตรวงแหวนจันทราจึงเปลี่ยนกลับรูปเดิม หากอยู่ต่ออาจจะเสียแผนและยังมีลูกน้องอยู่ข้างนอกอีก ตอนนี้ก็มีแต่จะถอยไปตั้งหลักใหม่ แต่แล้วพลันเหลือบไปมองบุคคลด้านหลังของเพน
นารูโตะ!!!!
“นั่นนาย...”
“รู้สึกจะเอะอะกันไปถึงข้างใน ทำไมช่วงนี้เจ้าพวกอุจิฮะชอบมาป้วนเปี้ยนใกล้ฉันจริง มันน่าจะฆ่า....ซะให้หมดตระกูล” พูดโดยไม่สะท้านสักนิด อิทาจิเองยังแทบไม่เชื่อสายตา โหมดเซียนตลอดกาลนั่นเสมือนคำสาปอย่างไรอย่างนั้น นารูโตะ เข้าใกล้คำว่าปิศาจมากขึ้นทุกที ก่อนจะเกิดอะไรไปมากกว่านี้เขาต้องสลายตัวก่อน ชั่วพริบตาก็ทิ้งไว้แต่หมอกควัน
“ท่าทางเจ้าคนน้องคงส่งมาตาม แต่คนพี่เหมือนอยากได้นายนะ” เพนกล่าวเป็นเชิงหยอกล้อ กลุ่มแสงอุษาอาจจะดูเลวร้ายยิ่งเป็นเพน แต่พวกเขาก็เป็นอิสระไม่ขึ้นต่อองค์กรใดๆ ก่อนหน้านี้นารูโตะเองที่เป็นคนขอมาอยู่กับเขา
“ช่างหัวมันเถอะ” ก่อนจะผินกายกลับไป เพนเองก็ไม่ชอบนารูโตะโหมดนี้เท่าไหร่ มันทำให้เขาหมดอารมณ์จะคุยด้วยทุกครั้ง ไม่เหมือนเด็กบ้าที่หัวเราะเสียงดัง พูดมาก และชอบกินราเม็งเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้แม้แต่ราเม็งยังเกลียดเข้าไส้เลย
“นายเจอแล้วทำไมไม่พาเขากลับมา!!!!” ร่างสูงบนเตียงตะโกนใส่หน้าพี่ชายอย่างเดือดจัด แม้คิซาเมะจะพยายามอธิบายว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายแต่ซาสึเกะก็เอาแต่บอกว่า คนเก่งอย่างอิทาจิทำไมพามายังไม่ได้อีก แล้วแบบนี้อย่างเขาจะไปทำอะไรได้
“เลิกตะโกนแล้วก็รีบหายซะ ถ้าอยากเจอนารูโตะ”
“ไม่ต้องมาสอนฉัน....เอาที่อยู่หมอนั่นมา” อิทาจิมองหน้าน้องชายอย่างสมเพชผ่านทางสายตา
“สภาพอย่างนี้ยังจะดิ้นรนไปตายรึไง เจ้าน้องชายหน้าโง่”
“เออ...ฉันมันโง่ เอามาเถอะน่า ฉันไม่ได้ไปแบบนี้หรอก ” เมื่อเห็นว่าใจเย็นลง อิทาจิก็ตัดสินใจเอาแผนที่นั่นให้ หลังจากวันนั้น เขารอวันที่จะหายเป็นปกติ และวันนี้ก็มาถึง วันนี้ถึงตายก็ต้องพามาให้ได้ เขาออกเดินทางไปตามแผนที่ของอิทาจิ เป็นเวลาหลายวันกว่าจะเสาะหาเจอ
และเมื่อพบแล้วก็ต้องเสี่ยงหาร่างบางให้เจอก่อนจะเจอเพนอีก ที่แห่งนี้มืดและชื้น นับว่าหลายเท่ากับที่กบดานของเขามาก นารูโตะจะมาอยู่ในที่แบบนี้เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าจะทนกลิ่นสาปพวกนี้ไปได้ยังไง ตอนนี้เขาปล่อยให้ความรู้สึกนำพาเขาไปเหมือนเป็นการวัดดวง
ตอนนี้เขาหยุดอยู่ตรงที่หน้าห้องอับชื้นด้านในสุด ก่อนจะออกแรงดึงประตูเหล็ก ที่มาทางนี้เพราะเขารู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆจากกายบาง เมื่อเปิดเข้าไปก็เจอร่างบางที่หันมาจ้องหน้าเขาก่อนจะพุ่งตัวด้วยความเร็วมาทางเขา ซาสึเกะรับหมัดเอาไว้ก่อนจะตอบโต้ด้วยการป้องกัน
“กล้ามากที่มาถึงนี่”
“นายมัวเหม่ออะไรทำไมฉันมายืนหน้าห้องยังเพิ่งจะรู้สึก” ร่างบางชะงักน้อยๆแต่นั่นก็คือโอกาสของร่างสูงแล้ว เพียงแค่นิดเดียวที่จะทำให้ร่างบางยอมอ่อนข้อให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ร่างบางถูกตรึงเข้ากับพื้นห้องโดยไม่ทันตั้งตัว
“กำลังคิดถึงฉันอยู่รึเปล่า” เสียงนิ่มของร่างสูงเอ่ยถาม แค่เพียงแว๊ปเดียวเขาก็เห็นสายตาของร่างบางเศร้า แค่เพียงน้อยนิด
แต่นั่นก็เพียงพอที่เขาจะรู้ว่า ร่างบางยังคงนึกถึงเขา ร่างสูงจูบหน้าผากใสก่อนจะเลื่อยมาข้างแก้ม จุมพิตทั้งสองข้าง ปลายคาง จนมาถึงริมฝีปากบางสวย เค้าคิดถึงเหลือเกิน แม้จะเหลือบมองร่างบางเป็นระยะ แต่แววตายังคงแน่นิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ไม่ต่อต้านเท่านั้น
ร่างสูงบรรจงจูบอย่างเร่าร้อน กวาดหาความหวานจนพอใจอยู่นาน กลิ่นกายหอมอ่อนๆทำให้เขาอยากสัมผัสให้มันมากขึ้น เขามองใบหน้าที่ยังคงเรียบเฉยก่อนกระชากชุดคลุมแสงอุษาของร่างบางออกด้วยโทสะ
“ทำไม!!!!! ทำไมกันนารูโตะ ทำไมนายไม่ตอบสนองฉัน!!!” โดยไม่มีการเบิกทางใดๆ ร่างสูงก็สอดใส่อย่างเอาแต่แต่ใจจนช่องทางฉีกขาด ร่างบางเพียงแค่ขมวดคิ้วเป็นปมและนั่นทำให้ร่างสูงใช้แรงทั้งหมดที่มีกับร่างบาง
ทุกท่วงท่าอิริยาบถที่สะสมมานานถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น เพียงแค่ให้ร่างบางร้องเรียกชื่อตน เพียงแค่อยากปลุกจิตสำนึกนั้นของร่างบาง เขาถึงกับสร้างรอยไว้บนใบหน้างามหลายจุด
แต่เพราะไฟที่โหมกระหน่ำย่อมไม่อาจจบเพียงเท่านี้ เขาปลดปล่อยออกไปหลายต่อหลายรอบในตัวร่างบาง ส่งผลให้อย่างน้อยร่างใต้อาณัติก็แสดงอารมณ์อึดอัดออกมา แต่แล้วจู่ๆร่างบางก็โผเข้ากอดเขา นั่นทำให้ซาสึเกะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
“อย่า...ตาม..ฉัน” เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เขายังคงสาดเทความต้องการอย่างไม่หยุดพัก หวังจะได้ยินเสียงร้องไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
“ฉันจะตาม...ตาม...ตาม!!!!” และทั้งคืนก็มีแต่ไฟราคะของร่างสูงที่ไม่มอดดับลงง่ายๆ
หลังจากปล่อยให้ร่างบางได้พัก เขาจ้องมองใบหน้าหวานที่คลายโหมดเซียนไปแล้วอย่างเห็นใจ ยิ่งเห็นคราบเลือดเป็นดวงๆก็ยิ่งเจ็บ มือหนาเลื่อนไปแตะริมฝีปากบางนั้นเบาๆก่อนจะลุกขึ้นกล่าวอย่างหนักแน่นว่า
“ถ้าครั้งหน้าฉันกลับมา ฉันจะถล่มไอ้แสงอุษาบ้าบอนี่ให้หมด” จากนั้นก็สลายเป็นกลุ่มหมอกควันไป ใช่ว่านารูโตะจะไม่รับรู้ เขาร้องไห้ เขาอยากกลับ อยากเจอ อยาก....ขอโทษ ซาสึเกะ คนที่ผนึกตราบาปไว้กับเขา
หลายวันผ่านไป
ในคืนเดือนมืด บุรุษผู้หนึ่งออกเดินทางจากที่แสนไกลมายังหมู่บ้านที่แสนสงบสุข หลังจากได้มองที่นี่อีกครั้ง มันทำให้นึกถึงสมัยยังเป็นเด็ก แต่ไม่นานดวงไฟทั้งหลายกลับสว่างทำให้ความคิดกำลังเพลินๆถูกตัดขาด แต่นั่นกลับทำให้เขาตกใจมากกว่าเก่า
ทุกคน ที่คิดว่าน่าจะลืมไปแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าเขา พวกเขากำลังแสดงสีหน้ามีความสุขงั้นสิ ทำไมเราถึงทำได้ยากนักนะทั้งที่อยากทำแท้ๆ
“มาแล้วเหรอ จ้าวแห่งเก้าหาง” เสียงคุ้นหูนี้ เขามองคนตรงหน้าด้วยแววตาสับสน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ” ซาสึเกะยิ้มบางๆให้ ยังมีเนจิ กาอาระ ซากุระ อิทาจิ และทุกคนกำลังยิ้ม ให้กับเขา เมื่อย้อนกลับไปวันที่เพนรู้ว่าซาสึเกะบุกมายังฐานของตน เขาเองไม่ได้ออกมาป้องกันแต่อย่างใด
“หมอนั่นจะกลับมาถล่มฐานของฉัน เพราะงั้นนายรีบกลับไปซะดีกว่า แม้ว่านายจะหนี แต่ใจนายรู้ว่านายกำลังทำอะไร อย่าทำอะไรที่สวนทางความคิดอีก ฉันช่วยนายได้เสมอ ถ้าหากนายไม่มั่นใจและจะกลับมาอยู่กับเรา”
มือหนาตรงเข้าโอบกอด และน้ำตาเม็ดแรกได้ร่วงลงบนอกเสื้อของร่างสูงอย่างไม่ตั้งใจ แม้ว่าสีหน้าจะยังคงไม่เปลี่ยน
“ฉันจะทำให้นายกลับมายิ้ม...ให้ได้เลย คนดีของฉัน” ซาสึเกะเอาเสื้อคลุมอุจิฮะที่มีรูปพัดด้านหลังคลุมไหล่บางเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะพูดว่า
“อยู่กับฉันนะ นารูโตะ...หากขาดนายไป...ฉันจะอยู่ได้ยังไง”
“นี่เจ้าบ้า!!!!!จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนฟะ” ติดตามต่อใน>>>>Special ถ้าหากเปลี่ยนจากฉันเป็นนายล่ะ ตอนพิเศษ
ผลงานอื่นๆ ของ วันมอร์ไทม์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ วันมอร์ไทม์
ความคิดเห็น