ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แก้วกานดา [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : แก้วกานดา ๐๑

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 189
      6
      24 พ.ค. 61

    แก้วกานดา ๐๒

    ***

                วันนี้แก้วกานดาตื่นแต่สาย ตามวิสัยคนเดินทางมาเหนื่อยๆ จากต่างแดน รวมถึงเมื่อคืนเขาอยู่คุยกับพี่ชายและคุณพ่อเสียดึก ส่งผลให้เมื่อเดินงัวเงียลงมาชั้นล่างของบ้าน ก็เจอคุณหญิงกำลังให้บ่าวไพร่จัดผลไม้ใส่ชะลอมอย่างตั้งอกตั้งใจ

                “ตื่นแล้วหรอลูก?” คุณหญิงทัก เมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอาบน้ำตัวหอมฉุยมานั่งข้างๆ แล้วสวมกอดเป็นลูกแหง่ “เดี๋ยวแม่ไปอุ่นข้าวต้มให้ จะได้กินร้อนๆ”

                “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ เดี๋ยวแก้วไปอุ่นเอง ไปอยู่ยุโรป ใช้เครื่องครัวชำนาญหมดแล้ว ถ้าไม่ขยันทำให้เป็น มีหวังอด”

                “เก่งๆๆ ลูกชายคนเล็กของแม่นี่เก่งจริงๆ”

                คุณหญิงเอ่ยชมเปราะพร้อมยิ้มหวาน ตามประสาคนเห่อลูกชายสุดที่รัก เจ้าหล่อนปล่อยให้ลูกชายคนเล็กทำตามแต่ใจ เมื่ออุ่นข้าวต้มจนเสร็จ คนตัวขาวก็ถือชามโจ๊กมานั่งทานพร้อมมองบ่าวไพร่ทั้งหลายที่จัดผลไม้ใส่ชะลอมอย่างสนอกสนใจ

                “ว่าแต่คุณแม่จะไปทำบุญใหญ่หรือจะไปเยี่ยมญาติหรือครับ จัดผลไม้ซะหลายชะลอมเชียว”

                “ก็ว่าจะไปอยู่นั่นแหละลูก เสียแต่ว่าช่วงนี้คุณพ่อเขาไม่ว่าง แม่เองก็ไม่อยากจะไปคนเดียว เลยว่าจะสั่งตาอ่ำแกให้เอาผลไม้ไปฝากพี่เทพเขาที่กรมเสียหน่อย มะม่วงมันออกดกเชียวลูก แม่ล่ะเสียดาย”

                “จะว่าไป ผมก็ไม่เคยไปเยี่ยมพี่เทพที่กรมเลย งั้นให้ผมเอาไปให้พี่เทพดีหรือไม่ครับคุณแม่”

                “ก็เอาสิจ๊ะ เจ้าลูกคนโตนี่ก็เหลือเกินไม่ยอมให้แม่ไปหาเลยเทียว ถ้าลูกไปก็คงจะดีไม่น้อย”

                คุณหญิงเธอเห็นดีเห็นงาม ก่อนที่เจ้าแก้วเมื่อรับข้าวเช้าเสร็จจึงขึ้นไปเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนเพื่อไปเยี่ยมพี่ชายคนโตที่กรมทหาร

     

                รถยุโรปจอดเทียบหน้ากรมทหาร เจ้าแก้วมองดูความกว้างใหญ่ที่ไม่เชิงว่ากันดารเสียทีเดียวอย่างที่คุณแม่บอก ก่อนจะถอดแว่นกันแดดแล้วเหน็บไว้ที่คอเสื้อ เขาปฏิเสธนายอ่ำที่จะชะลอมเดินลงมาส่งแล้วถือด้วยตัวเอง จากนั้นก็บอกให้อีกฝ่ายขับรถไปจอดรอ เดี๋ยวเขาจะเอาผลไม้ไปฝากพี่ชายเอง

                เขาเดินไปยังห้องประชาสัมพันธ์ที่ประจำการด้วยทหารหญิงคนหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยแจ้งความประสงค์ว่ามาขอพบคนในกรม แน่นอนว่าเจ้าหล่อนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

                “จะให้ดิฉันเรียนว่าใครมาพบหรือคะ”

                “บอกคุณชายเทพพิทักษ์ว่า เจ้าแก้วมาขอพบครับ”

                ชายหนุ่มยิ้มหวานทำเอาสาวเจ้าแทบระทวยคาโต๊ะประชาสัมพันธ์ เธอหันไปต่อสายถึงห้องพักของพ่อทหารใหญ่ไม่วายส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่กำลังยืนรอและส่งยิ้มกลับมา

                แก้วกานดาคิดในใจ

                ก็น่าอยู่เหมือนกันนะไอกรมทหารเนี่ย...

     

                ณ ห้องพักส่วนกลาง ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสามคนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกกันอย่างออกรส เสียงดังโหวกเหวกอันเป็นวิสัยปกติของชายหนุ่มกลุ่มนี้ดังไปทั่วชนิดไม่เกรงใจคนในกรม โชคดีที่ว่าสามเกลอนี้ส่งเสียงเฮเป็นพักๆ ไม่ได้ดังอยู่ตลอดเวลาแถมวันนี้ยังไม่ใช่วันวินัยลงพวกเขาจึงไม่ถูกดุปรามเท่าไหร่นัก

                กริ๊งงงง

                เสียงของโทรศัพท์ที่ดังลั่นทำเอาชายหนุ่มที่นั่งรวมหัวจั่วไพ่กันอยู่หันไปมอง เมื่อพบว่าโทรศัพท์เรือนนั้นอยู่บนโต๊ะของไอ้คุณชายเทพพิทักษ์ตัวแสบเลยพากันส่ายหัวกันอย่างออกจะหมั่นไส้

                “แม่สาวคนไหนติดต่อมาอีกล่ะ?

                อรุณ ชายหนุ่มหน้าคมผิวเข้มคร้ามแดดเอ่ยอย่างติดจะชังนิดๆ ในความเสน่ห์แรงของเพื่อนรัก มือหนาปาไพ่ลงโต๊ะก่อนจะบ่น

                “ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่านอกจากหน้าตาไอ้เทพมันมีคารมอะไรหวานนัก สาวๆ ถึงได้ตามเทียวไล้เทียวขื่อไม่วางหู ไอนี่ก็ไม่ใช่เล่นๆ คบแล้วทิ้ง จนชาวบ้านเขาลือกันไปแล้วว่าพวกทหารนี่มันเจ้าชู้”

                สัตภพปาไพ่ใส่เพื่อนที่ทำเป็นโมโหโทโสอย่างหมั่นไส้

                “แหม่...ไปว่ามัน แกก็ไม่ใช่ย่อยนี่หว่า...ว่าแต่ ฉันก็ชักอยากจะรู้ ว่าวันนี้เป็นสายของลูกสาวบ้านไหน” ใบหน้าหล่อเหลาตามประสาหนุ่มเจ้าสำอางฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปสั่งเพื่อนที่เป็นลูกไล่อยู่เสมอที่กำลังจัดไพ่อยู่ “แกรับซิ นรินทร์”

                “หา...ฉันเนี่ยนะ?”

                นรินทร์ หนุ่มหล่อคิ้วเข้มแต่ติดเสียว่าซื่อไปหน่อยทำหน้าเหวอ

                “ฮื่อ ก็แกน่ะสิ ห้องนี้มีคนชื่อว่านรินทร์นอกเหนือจากแกหรือไง?”

                “แกจะบ้าหรือ แกก็รับเองสิ เสียมารยาทตายชัก”

                อรุณหัวเราะเสียงลั่น เสียมารยาทรึ กระทั่งกางเกงลิงก็แย่งกันใส่มาแล้ว อย่ามาทำเป็นอ้างหน่อยเลย กลัวเทพพิทักษ์มันระเบิดลงก็บอก

                “เอาน่า แกนั่นแหละรับ เสียงมันดังนานแล้ว ถ้ามีแขกเดี๋ยวเขาจะรอนาน”

                พลทหารหนุ่มแม้ไม่กล้าเสียมารยาท แต่พอเพื่อนคะยั้นคะยอเข้ามากๆ ให้รับสายให้เจ้าตัวก็เลยยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา

                “ห้องพักส่วนกลางครับ”

                “เรียนสายคุณเทพพิทักษ์ค่ะ”

                เสียงของแม่สาวประชาสัมพันธ์ตอบกลับมาเสียงหวาน นรินทร์ที่เมื่อได้ยินเสียงของเจ้าหล่อนก็อ่อนระทวย กรอกเสียงหวานกลับไปไม่แพ้กัน

                “คุณชายเทพพิทักษ์ไม่ว่างครับ กระผมนรินทร์เรียนสายแทน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร บอกกระผมก่อนได้”

                “ถ้าเช่นนั้น ช่วยเรียนคุณชายเธอด้วยว่า เจ้าแก้วมารอพบค่ะ เธอจะรอพบอยู่ที่ประชาสัมพันธ์ หากเสร็จธุระแล้วให้รีบมา คุณหญิงโฉมวิลัยฝากของมาให้ค่ะ”

                เสียงของหญิงสาวทำเอาทหารหนุ่มหูอื้อทันที เขาระล่ำระลักตอบเจ้าหล่อนว่าจะรีบแจ้งให้เพื่อนทราบ ก่อนจะหันหน้ามาหาเพื่อนๆ ที่พร้อมฟังเรื่องของเพื่อนชายตัวแสบเสียเต็มที่

                “ว่าอย่างไรไอ้เกลอ”

                สัตภพ เพื่อนสนิทสามหนุ่มสามมุมของคุณชายเทพเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นเพื่อนรักเปลี่ยนท่าที นรินทร์ยิ้มกว้าง ก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มเพ้อฝัน

                “ดูเหมือนคราวนี้เทพธิดาจะมาโปรดเสียแน่แล้ว”

                ใบหน้าเคลิ้มๆ ทำเอาทั้งสองคนได้แต่มองหน้ากัน ก่อนจะหันมาคาดคั้นอย่างอยากรู้อยากเห็น

                “ทำไมรึ หรือคนรักลับๆ ของไอ้เทพจะโผล่มา!?

                “เปล่า... คุณแก้วต่างหากเล่า!

                “อะไรนะ!

                ชื่อ เจ้าแก้วทำเอาทหารหนุ่มผู้กระเหี้ยนกระหือรือที่อยู่ในห้องเดียวกันหูผึ่ง

                “แม่สาวประชาสัมพันธ์เธอบอก ว่าคุณหญิงฝากของมาให้ลูกชาย เห็นว่าเธอมารอพบพี่ชายอยู่ที่ประชาสัมพันธ์”

                นรินทร์ขยายความ ทันใดนั้นทั้งห้องพักก็เริ่มเสียงดังสอบถามถึงเจ้าแก้วกันใหญ่ ว่าเสียงเป็นอย่างไร เพราะมากเหมือนที่ไอเทพมันเลยโม้ไว้ไหม

                “พอๆ ฉันยังไม่ได้ยินเสียงเธอเท่าไหร่เลย! แม่สาวประชาสัมพันธ์เป็นคนโทร อย่าเพิ่งใจร้อนกันไป”

                “งั้นฉันไปรับให้เอง”

                อรุณเสนอตัว

                “พอเลยเอ็ง ข้าเป็นคนรับสาย ข้าก็ต้องได้ไปรับสิวะ!

                จากนั้นเสียงพูดคุยก็เป็นเสียงโวยวายโล้งเล้ง ใครบ้างจะไม่อยากรู้จักแม่แก้วคนดัง สาเหตุก็เนื่องมาจากคำอวดของเทพพิทักษ์นั่นแหละ ยิ่งพวกเขาสามคนเป็นเกลอสนิทมันเลยรับรู้เรื่องราวมากกว่าใคร ซึ่งข้อมูลนั่นก็มากพอที่จะทำให้หนุ่มหล่อทั้งสามเก็บ เจ้าแก้ว ไปละเมอเพ้อพก!

                “ไม่ต้องเถียงกัน! กันไปรับเอง พวกแกน่ะนั่งทำงานไปเลย น้องใครน้องมันเว้ย ไม่ต้องมายุ่งกับน้องกัน!

                เสียงโวยวายของทหารหนุ่มที่ตีกันชุลมุนทำเอาเทพพิทักษ์ที่ออกไปดื่มกาแฟเดินห้ามมาพร้อมกับห้ามทัพเสียงสนั่น

                “อะไรวะ ทำเป็นหวงไปได้”

                ทหารหนุ่มยศสูงถอนหายใจ ใจเทพพิทักษ์น่ะไม่ได้หวงอะไรน้องชายคนนี้นักหรอกถึงเป็นผู้หญิงแท้เขาก็ไม่ห่วง เจ้าแก้วน่ะเก่งต่อยตีทั้งยังอารมณ์ร้อน เกิดส่งพวกมันไปแล้วไปทักผิดขึ้นมา กลัวแต่ว่าไอหนุ่มกะล่อนสามคนนี้จะได้โดนลูกเตะตีนระเบิดไล่ตะเพิดเพราะไปหาว่าเจ้าแก้วมันเป็น ผู้หญิง น่ะสิ!!

                อีกอย่างตัวเขาเองก็จะซวยด้วย เพราะดันไปทำให้ชาวบ้านชาวช่องเขาเข้าใจผิด ว่าชายทั้งแท่งอย่างเจ้าแก้วน่ะเป็นหญิง

                ทั้งๆ ที่เทพพิทักษ์น่ะไม่ผิดซักนิด ก็บอกแล้ว ว่ายังไม่ได้พูดว่าน้องเป็นหญิงซักคำ คนเขาเข้าใจผิดกันไปเอง จะมาโทษกันไม่ได้เสียหน่อย!!!

     

                หลังจากที่จัดการไม่ให้เพื่อนออกมาได้เสียอยู่หมัด เทพพิทักษ์ก็รีบขึ้นรถทหารคันใหญ่เพื่อออกไปหาน้องชายทันที

                ร่างสูงโปร่งยืนเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล เมื่อรถคันใหญ่จอดนิ่งจนฝุ่นสีแดงฟุ้งตลบ เทพพิทักษ์ก็เดินลงจากรถทหารคันใหญ่แล้วเดินมาหาน้องชายด้วยท่าทางสุขุม ทิ้งมาดชายหนุ่มที่ซนอย่างกับลิงไว้ที่บ้าน เขาเดินมาหาน้องชายที่ถือชะลอมใหญ่สองชะลอมที่กำลังส่งยิ้มให้

                “โอโห เดินซะโก้เลยพี่เรา”

                “พอเลย แกไม่ต้องมาล้อฉัน ลมอะไรหอบพัดมาถึงนี่ฮึ”

                “ก็พี่น่ะสิ ลืมผลไม้สวนเราไว้ที่บ้าน นี่จะค้างกรมไม่กลับตั้งสามสี่วัน คุณแม่กลัวจะเน่าเสียหมด เลยบอกให้ผมเอามาให้พี่”

                “แล้วทำไมต้องส่งแกมาด้วย น้องนุ่งตั้งสี่ห้าคน”

                คนตัวสูงใหญ่รับชะลอมมาไว้ในมือ

                “โถ่ พี่เทพ พี่ๆ คนอื่นเขาต้องทำงานกัน ผมอยู่บ้านว่างๆ ก็เลยอาสามาส่งให้ไง”

                เทพพิทักษ์ถอนหายใจ เขาหันไปมองข้างหลังเพื่อดูลาดเลาว่าไอเพื่อนตัวแสบทั้งสามแอบตามมาหรือไม่ แต่เมื่อพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตามมาเขาจึงถอนหายใจเบาๆ

                “ยังไงก็ขอบใจละกัน ประเดี๋ยวฉันเก็บเอาผลไม้ขึ้นไปไว้ข้างบนเอง แกรีบกลับบ้านไปเถอะ”

                “เจอหน้ากันไม่ทันไรก็จะไล่น้องกลับเสียแล้ว แอบซ่อนสาวไว้หรือเปล่าเนี่ย?”

                แก้วกานดาหรี่ตามองพี่ชายอย่างจับผิด แต่ไหนแต่ไรเจ้าประคุณก็ชอบรั้งน้องให้อยู่คุยกันก่อนตลอดตั้งแต่เล็กยันโต สมัยไปเยี่ยมเยียนที่ยุโรปเจ้าแก้วถูกชวนคุยเสียข้ามวันจนเขาเกือบไปเรียนสาย มามีวันนี้เนี่ยแหละรีบผลักไสไล่ส่งเขาผิดวิสัย

                “สาวบ้าอะไรของแกล่ะ ที่นี่ไม่ใช่ยุโรปนะ ซ่อนทีมีเรื่องใหญ่โต แค่แถวนี้มันไม่มีอะไรน่าเที่ยวเล่น ฉันกลัวว่าแกจะเบื่อ เลยให้แกกลับก่อน”

                “แต่ผมยังไม่ได้ทักทายเพื่อนๆ ของพี่เลยนะ”

                คำพูดนั้นทำเอาคนชนักติดหลังออกอาการกินปูนร้อนทอง คนเป็นพี่รีบปัดมือไล่เป็นพัลวัน

                “โอ้ยย แกไม่ต้องทักหรอก เดี๋ยวซักวันก็ได้เจอนั่นแหละ รีบกลับเถอะเจ้าแก้ว พี่ขอ...”

                เทพพิทักษ์อยากจะรีบไล่น้องกลับไปให้พ้นๆ เสียก่อนที่เจ้าพวกตัวแสบสามตัวจะตามเขามาทัน คบกันมาตั้งแต่เข้าฝึกทหารใหม่ๆ จนรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วว่าไอพวกสามตัวไม่ยอมแพ้กันง่ายๆ หากมันมาเจอเจ้าแก้วเข้าแล้วพบว่าน้องที่เขาเล่าไม่ใช่ดั่งใจพวกมันนึก รับรองว่าจะเป็นเรื่องใหญ่กันไปทั้งกรม

                “หื้ม พี่เรานี่แปลกๆ นะวันนี้ เอ้า กลับก็กลับ...”

                เทพพิทักษ์ยิ้มอย่างโล่งใจ เขากำลังจะพาน้องเดินไปส่งที่หน้าประตูกรม แต่ไม่ทันไรเสียงสามเสียงก็ดังพร้อมกันมาจากด้านหลัง

                “เทพพิทักษ์!!! บังเอิญเสียจริง”

                บังเอิญกับผีสิพวกเอ็ง!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×