คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : story of evil สารแห่งความเสียใจ และ เกิดใหม่อีกครั้ง
สารแห่งความเสียใจ
ณ ท่าเรืออันไกลจากตัวเมือง
โคลมยืนมองท้องฟ้ายามเย็นด้วยแววตาที่โศกเศร้ามาก ในมือของเธอมีขวดใบน้อยๆที่เขียนความปรารถนาไว้ข้างใน พลันทำให้เธอนึกถึงอดีตที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่น้องชายฝาแฝดยังมีชีวิตอยู่
“นี่ มุคุโร่ชอบอะไรแบบนี้จริงเลยๆ”เจ้าหญิงน้อยที่นั่งอยู่บนชายหาด มองดูเด็กหนุ่มตรงหน้าที่กำลังลอยขวดใบน้อยสู่ทะเลอยู่ เธอเห็นเขาทำแบบนี้อยู่ทุกวัน
“เจ้าหญิงอยากลองไหมล่ะครับ เขาอกว่าถ้าปรารถนาอะไรก็สามารถมาอธิฐานได้นิครับ เพียงแค่เขียนความปรารถนาและใส่ขวดลอยไปเองครับ”มุคุโร่ พูดกับโคลมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เด็กสาวยืนขึ้น ก่อนจะเดินมาข้างๆเด็กหนุ่ม
“ฉันนะ ไม่ต้องการของแบบนี้หรอก”มุคุโร่ถึงกับหน้าสลดลงทันที ที่ได้รับคำตอบ โคลมหัวเราะ ก่อนจะกระโดดไปยืนห่างจากมุคุโร่ และยิ้มออกมา
“เพราะว่า ฉันมีมุคุโรอยู่แล้วนิ”เด็กหนุ่มถึงกับอึ้งก่อนจะยิ้มออกมา
“หรอครับ”โคลมมองหน้ามุคุโร่ก่อนจะพยักหน้า เมื่อมองไปที่ขวด เด็กสาวก็อดสงสัยไม่ได้ว่า
“นายขอพรอะไรกันหรอ”มุคุโร่หันมองมาที่โคลม ก่อนจะยิ้ม และพูดขึ้นว่า
“ขอให้ตาขององค์หญิงโตขึ้นครับ”โคลมถึงกับช็อค ก่อนจะ
“อะ..ไอ....”มุคุโร่ที่รู้ว่าจะโดนด่าพูดต่อขึ้นมา
“ล้อเล่นครับ ผมขอให้องค์หญิงมีความสุขมากๆต่างหากละครับ”โคลมมองหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
“งั้น......นายก็อยู่ข้างๆฉันตลอดไปสิ”เด็กสาวยิ้มและหัวเราะ มุคุโร่อึ้งไปสักพัก ก่อนที่จะหัวเราะออกมา
ภาพความทรงจำมากมายไหลผ่านเข้ามา โคลม ค่อยๆวางขวดใบน้อยลงทะเล และปล่อยให้ขวดนั้นลอยไกลออกไป ภาพความทรงจำได้ บางส่วนไหลเข้ามาอย่งเรื่อยๆ
เจ้าหญิงน้อยยืนอยู่หน้าห้องของมุคุโร่ เธอตัดสินใจว่าจะมาหาเขาเพื่อขอบคุณที่เขาทำตามเธอทุกอย่าง แต่เธอไม่กล้าเขาไปเพราะ ผู้ที่เป็นน้องชายฝาแฝดกำลังร้องไห้อยู่ ทั้งทีเธอรู้ว่าเขารักหญิงสาวชาวเมืองวองโกเล่คนนั้น แต่เขายัง......ยังยอมฆ่าเธอคนที่รักเพื่อตัวของเธอ โคลมเดินออกห่างจากห้องของมุคุโร่ โดยเธอได้ยินเสียงขอประชาชนพากันสาปแช่งเธอเป็นระยะตลอดการเดินไปห้องโถงใหญ่ เธอนั่งบนบัลลังก์และมองออกไปบนท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย
...........ฉันขอโทษ...มุคุโร่.......
..................
.
หลังจากนั้นไม่นาน มุคุโร่ก็เดินมาในสภาพของเจ้าหญิง เธอตกใจสุดๆเมื่อเห็นเขา แต่เขายังยิ้มและยื่นชุดให้เธอมาเปลี่ยน พร้อมพูดว่า
“เอาล่ะ,ผมจะให้คุณยืมชุดของผม จงสวมมันและรีบหนีไปซะ”ร่างของเธอปฏิบัติตามคำพูดของเด็กหนุ่ม แต่เธอเลือกที่จะไม่หนี และตั้งใจจะพูดออกมา
“แต่....”เหมือนเด็กหนุ่มจะรู้ใจเธอ จึงรีบพูดออกมา
“ไม่เป็นไรหรอก ก็เราเป็นฝาแฝดกันนิ ไม่มีใครจับได้แน่นอน รีบหนีไปซะเถอะ”เขาผลักร่างของเธออกไปทางด้านหลัง เด็กสาวยืนค้างสักพักก่อนจะวิ่งไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมกับสายน้ำตาที่ไหลรินมาอย่างต่อเนื่อง รางของเธอวิ่งเข้าไปในตัวเมือง ไม่มีใครจับเธอได้เลย และตอนที่นาฬิกาตีบอกเวลา ประชาชนพากันไปมุงที่ลานประหาร โคลมพยายามแหวกฝูงชนเข้าไป ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตายเด็กสาวตะโกนเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าศร้อยพร้อมน้ำตาที่รินไหล
“มุคุโร่!!!!!!!!”เขายิ้มให้กับเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะพูดประโยคติดปากของโคลมออกมา
“อ้า,ได้เวลาของว่างแล้ว”ก่อนที่ใบมีดได้ถูกปล่อยลงมาคัดหัวของเด็กหนุ่มต่อหน้าโคลม หลังจากนั้นไม่นานเหล่าประชาชนก็เดินแยกจากกันไป ปล่อยให้เด็กสาวนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
โคลมค่อยๆวางขวดลงบนผืนทะเลอย่างช้าๆ ก่อนปล่อยให้มันลอยออกไปเรื่อยๆ เด็กสาวยิ้มออกมาทั้งทีเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมากถึงมากที่สุด
.............เหงาจังเลย ตอนที่ไม่มีมุคุโร่อยู่ด้วยกัน........................
นี้คือสิ่งที่เด็กหญิงสาวคิด โคลมมองขวดใบน้อยอยู่นานมาก ก่อนจะมีน้ำตาไหลรินลงมาอาบสองแก้มของเด็กสาว เรี่ยวแรงที่ขาของเธอหายไปหมด ปล่อยให้ร่างของโคลมนั่งนั่งไห้อยู่ น้ำทะเลที่กัดตามแผลเป็นที่ได้รับมาตอนนี้จากปราสาทนั้นทำให้เด็กสาวรู้สึกแสบเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เด็กสาวร้องไห้ เธอปลดปล่อยน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าศร้อย
“ขอโทษนะ ขอโทษนะ ขอโทษนะ”โคลมพูดวนไปวนมาอย่างเจ็บปวด น้ำเสียงของเธอตอนนี้บ่งบอกได้ว่า บุตรสาวแห่งความชั่วร้ายของทุกคนนั้น เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ทนทุกข์อยู่เท่านั้นเอง
“ได้โปรดท่านเทพ ได้โปรด......ช่วยให้เรา....ได้พบหน้ากันอีกครั้งด้วยเถอะ”โคลมตะโกนขึ้นใส่ท้องฟ้า เด็กสาวร้องไห้ออกมาอย่างไม่สิ้นสุดก่อนจะมีเสียงเบาๆอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นมา
“ถึงตอนนั้น........ขอให้เราเกิดเป็นฝาแฝดกันอีกครั้งนะ”เด็กสาวหันไปมองข้างๆ ก่อนจะปรากฏร่างอันเลือนรางของมุคุโร่ขึ้นมาเพียงชั่วครู่ โคลมมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา เธอปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนจะยิ้มออกมา
“นั้น......สินะ”
............................
..............
..
เกิดใหม่อีกครั้ง
“อึก!!!”เสียงของเด็กสาวเรือนผมสีม่วงดังขึ้น ก่อนเธอจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“ฝันแบบนี้อีกแล้ว”โคลมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะมีเสียงเรียกดังขึ้นมา
“โคลมที่น่ารักครับ ตื่นแล้วสินะครับ รีบลงเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันประชุม”เด็กหนุ่มเรือนผมสีไพริณหันมาพูดกับผู้เป็นน้อง เด็กสาวมองภาพเบื้องหน้า
.........จริงด้วย เราคือโรคุโด โคลม หนึ่งในสองผู้พิทักษ์สายหมอกของวองโกเล่ ไม่ใช่เจ้าหญิงผู้โหดเหี้ยมคนนั้น
และมุคุโร่คือพี่ชายของเราและเป็นอีกหนึ่งผู้พิทักษ์สายหมอกของวองโกเล่ ไม่ใช่ ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตว์คนนั้น..........
“ค่ะ ท่านมุคุโร่”เด็กสาวตอ ก่อนจะก้าวลงจากรถไปพร้อมกับเด็กหนุ่มที่อยู่เคียงข้าง
...........................
.............
.
“ขอบคุณมากนะ โคลม มุคุโร่ ที่อุตส่าห์มาร่วมงานในครั้งนี้”เสียงใสๆของบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบดังขึ้น หลังจากจบการประชุมไปแล้ว
“ไม่เป็นไร หรอกค่ะบอส”โคลมยิ้มให้กับผู้เป็นนาย ก่อนจะมีคนเดินเข้ามาทีกเพิ่ม
“ไง!!!!!!!!!!”เสียงทักอันดังก้องของสคอลโล่ดังขึ้น ซึ่งพวกสึนะ และคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แทบจะอดหูไม่ทัน
“พวกสัตว์กินพืช”ฮิบาริที่ยืนอยู่ข้างๆ ปรยตามามองพวกสึนะที่ยืนอยู่ จนเจ้าตัวสะดุ้ง
“สวัสดีค่ะ คุณเมฆา คุณสคอลโล่”โคลมทักด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
............บอสคือบอส ไม่ใช่หญิงสาวแห่งอาณาจักรวองโกเล่
คุณเมฆา ก็ไม่ใช่เจ้าชายแห่งนามิโมริ
และคุณสคอลโล่ ก็ไม่ใช่นักรบสาวคนนั้น...............
โคลมยิ้มให้กับทุกคน ก่อนจะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ซึ่งนั้นเป็นของมุคุโร่
KIMI WA OUJO BOKU WA MESHITSUKAI
UMMEIWAKATSU AWARE NA FUTAKO
KIMI WO MAMORU SONO TA ME NARABA
BOKU WA AKU NI DATTE NA TE YARU
“ผมขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะครับ”มุคุโร่พูดขึ้นมา ซึ่งสึนะก็ไม่ได้ห้ามอะไรเลย
“บอส ฉันมีอะไรจะคุยด้วยค่ะ”เด็กสาวพูดขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่สึนะที่ยืนยิ้มให้อยู่ และทั้งสองก็เดินห่างออกจากที่ที่คนชุกชุมไป
.....................................
.....................
.........
“คือว่า ฉันฝันว่า..............................”โคลมเล่าเรื่องความฝันให้สึนะฟัง เด็กหนุ่มก็ยินดีรับฟังอย่างดี จนโคลมเล่าจบ
“ฉันกลัวว่ามันจะเป็นความจริงมากเลยค่ะบอส”โคลมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ สึนะได้แต่ปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ไม่เป็นไรหรอกโคลม มันก็แค่ความฝันนะ”สึนะพูดออกมาอย่างแผ่วเบา โคลมเลิกทำหน้าเศร้า ก่อนจะยิ้มออกมา
“นั้นสินะค่ะ บอส”โคลมยิ้มให้กับสึนะ พอเด็กหนุ่มเห็นมุคุโร่ก็ขอตัวไป และมุคุโร่ก็เดินเข้ามาหาโคลมแทน เด็กสาวเปลี่ยนจากรอยยิ้มที่อ่อนหวาน กลายเป็นแสยะยิ้มทันที มุคุโร่เองก็เช่นกัน
“หึ...หึ...มันก็ไม่ใช่ความฝันเสมอไปหรอกค่ะ สึนะโยชิจัง”
ความคิดเห็น