ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ละครเรื่องสั้น REBORN

    ลำดับตอนที่ #4 : story of evil ข้ารับใช้ปีศาจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 60
      0
      13 ม.ค. 56

    ข้ารับใช้ปีศาจ

      ณ  อาณาจักรโกคุโย   พระราชินีได้ให้กำเนิดบุตรและธิดา    พระราชโอรสและพระราชธิดา  เติบโตมาด้วยกันได้ไม่นาน   พวกเขาได้ถูกแยกแบ่งเป็นสองทาง   พระธิดาได้กลายมาเป็นผู้ปกครองอาณาจักรที่เอาแต่ใจ    ส่วนพระโอรสได้กลายมาเป็นข้ารับใช้ของพระราชธิดา

    “นี่   มุคุโร่ดูสิ   มงกุฎดอกไม้   สวยมั้ยๆ”เด็กสาวตัวน้อยหันไปยิ้มให้กับเด็กชายที่อยู่ข้างๆ

    “นั้นสิ   โคลมทำได้สวยมากเลยล่ะ  55555”มุคุโร่หัวเราะอย่างมีความสุข   โคลมก็ยิ้ม  ก่อนจะหัวเราะตามกันไป

    “ฉันให้มุคุโร่นะ”โคลมวางมงกุฎดอกไม้ลงบนหัวของเด็กหนุ่ม   พวกเขายิ้มและหัวเราะออกมา    เวลาของความสุขนั้น  กลับไม่จีรังเอาซะเลย

    “โคลมอย่าไปยุ่งกับมุคุโร่นะ   มานี่”หญิงสาวผู้มาที่หลังคว้ามือของเด็กหญิงก่อนจะพาตัวเธอไป   ทางฝั่งเด็กชายก็มีผู้ชายมาพาตัวไปเช่นกัน

    “ปล่อยนะคะ   ท่านแม่   จะพามุคุโร่ไปไหนปล่อยหนูนะ      มุคุโร่!!!!!...อย่าไปนะ  อย่าไป!!!!!!!!!!!!!!!!”โคลมที่ถูกดึงไว้อยู่ร้องเรียกเด็กหนุ่มที่ถูกพาขึ้นรถม้าไป

    “ท่านพ่อ   จะพาผมไปไหนกัน  ปล่อยนะ  ผมจะอยู่กับโคลม  ปล่อยสิ  ท่านพ่อ”มุคุโร่เองก็มีทีท่า  ว่าไม่อยากจะไปจากเด็กสาวเช่นกัน

    “มุคุโร่!!!!/โคลม!!!!”  เด็กทั้งสองต่างตะโกนเรียกชื่อซึ่งกันและกัน   มือเล็กนั้น   พยายามที่จะไขว่คว้า มือของอีกฝ่ายมา   ในขณะที่ทั้งสองได้ห่างกันไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ  จนไม่สามารถมองเห็นกันได้อีก

    ..........................

    ..........

    .

    เวลาล่วงเลยผ่านไปนานมาก

    “อ้า! ถึงสักที  คราวนี้แหละจะได้เจอกับโคลมแล้ว.....ไม่สิเจ้าหญิงโคลมต่างหาก”ชายหนุ่มเดินเข้ามาในพระราชวังอันยิ่งใหญ่  เขาพูดให้กำลังใจตัวเอง   ก่อนจะหันไปเจอกับ  มงกุฎดอกไม้เล็กๆ  ที่แห้งเหี่ยว ไปแล้ว

    “ยังอยู่ๆเลย   มงกุฎดอกไม้นั้น”มุคุโร่พูดกับตัวเองเบาๆ  เมื่อนึกถึงอดีต  ทำให้เขารู้สึกเศร้า  ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้ม  และตรงเข้าไปในปราสาท

    ภายในปราสาท

    “ไอ้พวกหน้าโง่!!!!!  บังอาจมากนะที่มาสามหาวกับฉัน”เจ้าหญิงแห่งอาณาจักร   ตวาดพวกข้ารับใช้ที่กำลังหาเร่องนางอยู่  ก่อนจะมีเสียงของข้าราชบริพานคนหนึ่งดังขึ้นมา

    “องค์หญิง  มีคนต้องการพบพระองค์พะยะค่ะ”โคลมที่อารมณ์เสียอยู่  มองหน้าข้าราชบริพานคนนั้น  ก่อนจะเดินเชิดหน้าไปตามทางเดิน   โดยไม่มีทีท่าว่าจะสนพวกที่เธอตวาดไปเลยสักนิดนึง

    ภายในโถงใหญ่

    “อืม    เมื่อไรจะมากัน”มุคุโร่  ที่เดินเป็นวงกลม   พูดซ้ำไปมา   ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น

    “หึ    เจ้ามีอะไรจะมาคุยกับข้า”โคลมที่เดินเข้ามาอย่างสง่า   มองมุคุโร่ที่เอาแต่ก้มหัว

    “เงยหน้าขึ้นซะ!!!!!”เจ้าหญิงน้อยตวาด  เสียงดัง   มุคุโร่ถึงกับสะดุ้ง   ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ

    “หม่อมฉัน   ต้องการเป็นข้ารับใช้พระองค์”มุคุโร่ส่งยิ้มไปให้เด็กสาว   โคลมลดพัดลง   ก่อนจะมีน้ำตาไหลรินลงมาอย่างช้าๆ

    “มุคุโร่!!!!!!!”เจ้าหญิงถลาตัวเข้าไปกอดชายหนุ่ม  ทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปกับพื้น  มุคุโร่มองเจ้าหญิงตัวน้อยที่กอดเขาอยู่

    ......โตขึ้นมาเลย...โคลม.............

    “นี่!  เจ้าหญิงผมหนักนะครับ  นั่งทับนานๆแบบนี้”มุคุโร่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น  โคลมที่ได้ฟังก็โมโหจนฉุนขาด

    “มุคุโร่บ้า!!!!!  นี่แนะ”โคลมตีแขนมุคุโร่แรง  ก่อนทั้งคู่จะมองหน้ากันและหัวเราะ  เมื่อมุคุโร่สังเกตดีๆ  ก็เห็นว่าดวงตาสีม่วงด้านขวาของโคลมถูกปิดตัวผ้าปิดตา

    “โคลม  ตาข้างขวา  มันหายไปไหนหรอครับ”มุคุโร่ถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแกมเย็นชา

    “ดวงตานี้นะหรอ.........มันหายไปเพื่อที่จะแลกให้มุคุโร่กลับมานะสิ  ........แต่มัน......มันกับ.....ไม่ได้ผล”โคลมพูดปนสะอื้นไห้  ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ปลอบด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน

    “หรอครับ...แต่ช่างมันเถอะนะครับ....เพราะว่าตอนนี้มันได้ผลแล้วนี้ครับ.....ต้องขอบคุณเนตรข้างขวาของเจ้าหญิงจริงๆ  ที่ทำให้ผมกับท่านได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง ^___^”โคลมเงยหน้าขึ้นมา  ก่อนจะกอดมุคุโร่   ร่างสูงผงะไปสักพัก  ก่อนจะกอดผู้เป็นแฝดตอบ   ทั้งคู่กอดกันอยู่นาน  ก่อนที่มุคุโร่จะจุมพิตลงบนฝ่ามือของโคลม  เพื่อเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ที่มีต่อกันและกัน

    ..................................

    ................

    MUKURO   MODE

    มุคุโร่    ฉันจะไปอาณาจักรวองโกเล่......ฉันจะไปซื้อกุหลาบสีเขียว  โคลม หันมาพูดกับผมหลังจากสั่งให้ทหารพาตัวหญิงสาวชาวบ้านออกไป ผมได้แต่พยักหน้ารับ  ก่อนจะออกจากห้องโถงไปเพื่อเตรียมตัว

    ..................

    ......

     ณ อาณาจักรวองโกเล่

    มุคุโร่   ดูสิ   กุหลาบเขียวล่ะ   สวยจังเลยโคลมวิ่งไปทั่งตลาด  ก่อนจะหันไปยิ้มให้ผม

    องค์หญิงต้องการไหมล่ะครับ   จะได้ซื้อไปประดับห้องของพระองค์ผมถามโคลมออกไปด้วยรอยยิ้ม

    นั้นสิ ฉันว่า  ถ้าเอาไปวางไว้ข้างๆกุหลาบเหลืองคงจะสวยดีนะโคลมพูดก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ

    “ผมขอกุหลาบเขียวด้วยนะครับ”ผมหันไปพูดกับเจ้าของร้าน  ก่อนจะหันกลับไปมองหาโคลมหลังจากจ่ายเงินและรับกุหลาบมาเรียบร้อยแล้ว

    “เจ้าหญิ.........”ผมปริปากไม่จบ  ลมก็พัดมาอย่างแรงทำให้หมวกของผมปลิวไป  แต่โชดดีที่มีหญิงสาวชาววองโกเล่คนหนึ่งเก็บมันได้

    “ของคุณหรอจ๊ะ   อะ”เธอหันหน้ามาก่อนจะยืนหมวกให้ผม  และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน  เมื่อผมเผลอสบตาสีเปลือกไม้ของเธอทำให้ผมตกสู่ห้วงความคิดทันที  และนั้นแหละทำให้ผมรักเธอ  แต่เมื่อผมหันหลังกลับไป  ก็พบกลับโคลมที่ยืนร้องไห้อยู่

    “องค์...หญิง”ผมเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับจะแตกสลายไป  เธอมองหน้าผมก่อนจะพูดขึ้นว่า

    ฉัน....จะ...กลับแล้ว ผมได้แต่ตอบรับคำสั่งของเธอ  และพาเดินไปที่ม้า  ก่อนจะตรงกลับอาณาจักรโกคุโยทันที

    .......................

    ....

    ณ อาณาจักรโกคุโย

    ตั้งแต่กลับมาที่อาณาจักร โคลมก็เอาแต่เก็บตัวไม่ยอมออกไปไหนเลย   ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอจัง   แต่เพราะมีงานอยู่มากที่ต้องทำ  ทำให้ผมไม่ได้ไปหาเธอเลย   ตอนนี้ผมทำงานเสร็จแล้ว  จึงรีบไปหาเธอทันที

    ก๊อก ๆ ๆ

    องค์หญิง   ผมขอเข้าไปนะครับ ผมเดินเข้ามาในห้องบรรทมขององค์หญิง  โคลมหันไปมองชายหนุ่มมาหาผม  ทำให้ผมเห็นดวงตาที่ผ่านการร้องไห้ของเธอ  ก่อนที่เธอจะฝืนยิ้มให้ผม

    มุคุโร่   มาแล้วหรอ  เธอพูดด้วยน้ำเสียงอันน่าเศร้า  ก่อนจะหันหลังกลับไปมองรูปเจ้าชายฮิบาริแห่งอาณาจักรนามิโมริ  องค์หญิง  หากพระองค์ต้องการอะไร  ทรงรับสั่งมาเถอะครับผมพูดกับโคลม แม้เจ้าตัวจะหันหลังให้ก็ตาม

     จริงนะ.....ถ้างั้น....จงทำร้ายอาณาจักรวองโกเล่ซะโคลมสั่งด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา   ผมอึ้งไปสักพัก  ก่อนจะทำใจและเดินออกจากห้องไป

    ณ อาณาจักรวองโกเล่

      ตอนนี้ภาพที่อยู่เบื้องหน้าผมคือ  ภาพบ้านเมืองที่ถูกย้อมด้วยสีแดงของเปลวเพลิง  และตัวผมที่เปื้อนเลือดสีแดงสด  ผมโล่งใจที่ได้ทำให้โคลมมีความสุข   แต่ว่าน้ำตากลับไหลรินออกมา อย่างช้าๆ  เมื่อนึกถึงภาพตอนที่เด็กสาวเมืองวองโกเล่คนนั้นพูดกับผมเป็นครั้งสุดท้าย

    “ขอบคุณนะ” เธอพูดก่อนจะสิ้นลมหายใจไป  ผมไม่เคยคิดเลยว่าคนที่จะตายจะพูดคำๆนั้นออกมาได้   ตอนนี้ผมเดินหันหลังให้กับอาณาจักรวองโกเล่  และกลับไปยังโกคุโย

    ณ อาณาจักรโกคุโย

      ผมที่มีเลือดเปื้อนเต็มตัวเดินไปที่ห้องโถงใหญ่  ก่อนจะเจอกับโคลม  เธอดูตกใจมากที่ผมมีเลือดเต็มตัว   ผมยิ้มให้กับเธออย่างอ่อนโยน

    ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ  ขอโทษจริงๆ ผมพูด  ก่อนจะเดินออกไปเพื่ออาบน้ำ  และเตรียมตัวเตรียมของว่างในเธอ

    .....................

    ....

    “อ้า,ได้เวลาของว่างแล้ว”โคลมพูดประโยคประจำเมื่อผมยกของว่างมาให้  เธอยิ้มอย่างไร้เดียงสา  ก่อนจะมองดูขนมปัง บริออชที่ผมอบ  พวกเราหัวเราะอย่างมีความสุข  ซึ่งผมรู้แล้วว่าอีกไม่นานอาณาจักรนี้จะแยกพวกเราออกจากกันอีกครั้ง

    วันรุ่งขึ้น

      วันนี้ที่ผมได้รับหนังสือพิมพ์  หัวข้อข่าวสำคัญคือการถูกทำลายของอาณาจักรวองโกเล่  ผมร้องไห้ออกมาแบบไม่ปกปิด  ก่อนจะเช็ดน้ำตา     เมื่อมองออกไปด้านนอกพระราชวัง  ก็มีประชาชนจำนวนมากที่เกรี้ยวกราดกำลังจะบุกเข้ามาในปราสาท  ผมก้าวเท้าต่อไปเรื่อยๆ จนถึงห้องของโคลม  ผมเปิดประตูเข้าไป  และตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ  ก่อนจะหยิบชุดของเธอขึ้นมาใส่  ปล่อยผมที่รวบไว้  ก่อนจะใช้ผ้าปิดตาด้านขวาของผม  แล้วเดินออกจากห้องไป   หากนี้เป็นผลกรรมจากการกระทำของโคลม  ผมขอรับมันไว้ทั้งหมดเอง

    ที่ห้องโถง                                                

    โคลมยืนมองหน้าต่างอยู่  ผมเดินตรงเข้าไปหา  ก่อนจะดึงตัวเธออกมาจากหน้าต่าง  เธอดูตกใจมาก  เมื่อเห็นผมมีลักษณะเหมือนเธอทุกอย่าง  ผมยื่นเสื้อผ้าของผม และผ้าปิดตาลายกะโหลกที่ผมซื้อมาให้กับเธอ  ก่อนจะยิ้มและพูดว่า

    “เอาล่ะ,ผมจะให้คุณยืมชุดของผม   จงสวมมันและรีบหนีไปซะ”โคลมยืนอึ้งอยู่  ก่อนจะเปลี่ยนชุดให้เป็นชุดผม  แต่เธอกลับไม่หนีไป   และหันมาหาผม

    “แต่....”ผมรู้ว่าเธอคิดจะห้ามการกระทำของผม  ผมจึงรีบพูดออกไป

    “ไม่เป็นไรหรอก  พวกเราเป็นฝาแฝดกันนิ  ไม่มีใครจับได้แน่นอน  รีบหนีไปซะเถอะ”ผมผลักตัวโคลมให้ไปทางประตูหลังปราสาท  เธอร้องไห้ออกมา  ผมไม่ได้หันไปมอง   เมื่อพวกประชาชนบุกเข้ามา  ผมยืนรอเวลาแห่งชะตากรรมที่โถง  ก่อนประตูจะถูกพังเขามา   หญิงสาวหันดาบมาหาผม ที่ยืนยิ้มอยู่  โดยคิดว่าผมคือโคลม

    ไปจับนางซะ!!!!หญิงสาวสั่งเสียงดัง   ประชาชนต่างรุมจับผม  ทั้งกดหัวผม และเอามือผมรวบไว้ด้านหลัง  ผมได้แต่ทำหน้ายิ่งยโส  ก่อนจะพูดออกมาด้วยท่าทีที่รังเกียจ  ซึ่งไม่มีใครรู้ได้เลยว่านี้คือการแสดงเพื่อชดใช้กรรมแทนโคลม

    พวกเจ้า,บังอาจมากนะ นักรบสาวยิ้มเยาะผม   ก่อนจะปริปากออกมา

    หึ,พระองค์ไม่ต้องกลัวไปนะ   เดี๋ยวหม่อมฉันจะเตรียมกิโยตินอย่างดีไว้สำหรับประองค์เลย    นำตัวนางไปขังซะ   แล้วก็เผาปราสาทนี้ทิ้งร่างของผมถูกพาไปที่คุกนอกปราสาท รอเวลาบ่ายที่จะเป็นเวลาตายของผม  ตอนที่เดินออกมาข้างนอกปราสาท  ผมเห็นโคลมวิ่งหนีเข้าตัวเมืองไป  น้ำตาของเธอไหลรินเป็นทางยาว  แน่นอนผมยิ้มเพื่อที่เป็นกำลังใจให้กับเธอ  ก่อนที่ผมจะเดินไปพร้อมกับผู้คุมสู่คุกชั่วคราว

    ในคุก

      ผมที่ได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง  แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า  กลีบซากุระ  ร่วงลงบนมือของผม  น้ำตาของผมมันไหลรินออกมา ผมปาดมัน  ก่อนตายผมมีเรื่องมาเล่าให้คุณฟัง  เรื่องมีอยู่ว่า

     กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  ที่อาณาจักรที่มีการปกครองอันแสนโหดร้าย  ผู้ปกครองของราชวงศ์โฉดชั่วคนปัจจุบันนั้น  คือ พี่สาวฝาแฝดที่แสนน่ารักของผมเอง

    MUKURO  MODE  END

    ในตัวเมือง

    ร่างของโคลมที่วิ่งมาอย่างยาวนาน  เดินไปอย่างเรื่อยเปื่อย  เธอก้าวเท้าอย่างช้าๆ  ภายใต้ผ้าคลุมที่ปิดใบหน้าไว้นั้น  แสดงอาการโศกเศร้าออกมาอย่างชัดเจน   เมื่อเธอได้ยินเสียงของนาฬิกาที่บอกถึงยามบ่าย  เด็กสาวถึงกับทรุดลงไป  เธอมองไปที่ใจกลางเมือง  ท่ามกลางฝูงคนทั้งหลาย  เธอเห็นมุคุโร่ที่กำลังจะโดนประหาร  เด็กสาวไม่รอช้า  วิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไปเรื่อยมี  เมื่อใกล้ถึงร่างของเด็กหนุ่ม  เธอตะโกนชื่อเขาออกมา  พร้อมกับมือที่ไขว่คว้า  และน้ำตาที่ไหลริน

    “มุคุโร่!!!!!!”เด็กหนุ่มยิ้มออกมา  โคลมรู้สึกว่ามันอ่อนโยนมาก  มุคุโร่พูดประโยคประจำของโคลมออกมา

    “อ้า,ได้เวลาของว่างแล้ว”หลังจากที่เด็กหนุ่มพูดจบ  นักรบสาวสั่งด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวาน

    “ประหาร!!!!!!!!!”ใบมีดถูกปล่อยลงมา  และบั่นคอของมุคุโร่ไปต่อหน้าต่อตาของเด็กสาว  ประชาชนโห่ร้องด้วยความยินดี  ก่อนที่ทุกคนจะเดินแยกจากกันไป  โคลมทรุดเข่าร้องไห้อยู่ตรงนั้น  ก่อนที่มุคุโร่จะตายเขาได้พูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า

    “ถ้าหากชาติหน้ามีจริง  ขอให้เราได้เล่นกันอีกนะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×