love reality เกมรักนี้ นายห้ามฉันไม่ได้หรอก - นิยาย love reality เกมรักนี้ นายห้ามฉันไม่ได้หรอก : Dek-D.com - Writer
×

    love reality เกมรักนี้ นายห้ามฉันไม่ได้หรอก

    รายการLove reality รักแท้...แค่ความฝัน แต่หากมันเกิดขึ้น...อย่างมีเวลาจำกัด มันจะเป็นอย่างไรเมื่อ..เวลาหมดลง แต่หัวใจ..ไม่เปลี่ยนไปเหมือนเวลา

    ผู้เข้าชมรวม

    151

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    151

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 ธ.ค. 52 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    แต่หากมันเกิดขึ้น...อย่างมีเวลาจำกัด

    มันจะเป็นอย่างไรเมื่อ..เวลาหมดลง

    แต่หัวใจ..ไม่เปลี่ยนไปเหมือนเวลา

     

    .....................

    บทนำ

    Love  Reality

                             

    ผมได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานรายการเรียลลิตี้ ไว้ในรายงานการประชุม เชิญทุกท่านศึกษาเอกสารและผมจะบรรยายไปเรื่อยๆนะคับ

    เริ่มเลยครับคุณแจยองเซ..

    รายการทีวีรายการใหม่ที่จะมาแทนรายการเก่าของเราที่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก จะเป็นรูปแบบของเรียลลิตี้ครับ

    คุณหมายถึงรายการที่มีการแข่งขันเพื่อชิงรางวัล โดยมีกล้องติดตามชีวิตผู้เข้าแข่งขันเหมือนที่มีเกลื่อนตามช่องเคเบิ้ลนะหรอ ผมไม่เห็นว่ามันจะสร้างความแตกต่างตรงไหน

    แตกต่างสิครับเพราะรายการเราไม่ใช่รายการชิงรางวัล  แต่เป็นรายการตามติดชีวิตคู่รักกำมะลอต่างหากครับ ใช้ชื่อว่า Love  Reality

    ฮืมมมม... ทุกคนในที่ประชุมต่างส่งเสียง ด้วยความงุนงงสงสัยในแผนงานของแจยองเซ โปรดิวเซอร์มือทองของบริษัทเคเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์

    ครับ..คู่รัก Love  Realityที่ว่านี้เราจะทำการจับคู่ขึ้นมา ระหว่างดาราศิลปินไอดอลกับคนธรรมดา

    ช่วยขยายความต่อได้ไหมค่ะคุณยองเซ  ฉันต้องการคำอธิบายที่ละเอียดกว่านี้

    คือ..พูดง่ายๆก็คือเราจะให้ศิลปินได้ลองเดทกับคนธรรมดาที่เป็นแฟนคลับเป็นเวลาเจ็ดวัน  โดยที่ภายในเจ็ดวันนี้การเดทของพวกเขาจะอยู่ในสายตาของประชาชนทุกคน ในวันสุดท้ายของการเดทพวกเขาทั้งคู่มีโอกาสที่จะเลือกว่าจะคบกันต่อไปหรือไม่ โดยต้องตัดสินใจภายในเจ็ดวันเท่านั้น

    แล้วใครจะมาเป็นไอดอลคนแรกของรายการเราค่ะผู้บริหารสาวคนหนึ่งพูดขึ้น แจยองเซเดินกลับไปที่หัวโต๊ะประชุมแล้วฉายภาพนักร้องที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งขึ้น

    โอวว.....ทุกคนส่งเสียงออกมา

    ครับ..โอแทนมินหัวหน้าวงเคป็อบHeart beat ที่กำลังมีผลงานมากมายในขณะนี้ และเขาก็ได้ตอบรับผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    แล้วซินเดอเรลล่าของรายการนี้ล่ะคะ

    แจยองเซฉายภาพอีกภาพหนึ่งขึ้นทันที เป็นภาพหญิงสาวผมยาวหน้าตาผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกใส่เสื้อกาวน์สีขาว กำลังถือกระเป๋าเอกสารและหนังสือมากมายอยู่หน้ามหาวิทยาลัยการแพทย์ชื่อดังของเกาหลี

    เธอชื่อยองเออินครับ  นักศึกษาวิทยาศาสตร์การแพทย์ปี2 ของมหาวิทยาลัยการแพทย์คังเซน

    เอ่อ...ผมว่ามันค่อนข้างจะต่างกันเกินไปนะครับ โอแทมินเป็นคนที่เงียบก็จริงอาจเข้ากับยองเออินที่เป็นนักศึกษาการแพทย์ได้  แต่ถ้าดูเรื่องสายงานแล้วทัศนคติของทั้งู่ไม่น่าจะตรงกัน แล้วจะเข้ากันได้หรอครับ...

    ยิ่งต่างก็ยิ่งดีครับ  ทั้งคู่จะได้รู้จักการปรับตัว  และแสดงตัวตนที่แตกต่างออกมาได้อย่างไม่เสแสร้ง ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ชมรายการที่จะได้เรียนการแสดงออกที่จริงใจของทั้งไอดอลขวัญใจและคนที่ถูกเลือก  และความต่างนี้เองจะทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงการมีคู่รักเป็นไอดอลนั่นไม่ใช่เรื่องที่มีความสุขเสมอไป และการได้รับรู้นิสัย ตัวตนที่แท้จริงอีกด้านหนึ่งของศิลปินดาราด้วย รับรองว่าต้องเป็นที่ได้รับความสนใจและติดตามชมของคนดูแน่นอนครับ..

    คุณพร้อมจะเริ่มงานเมื่อไหร่ยองเซ

    ภายใน3วันครับท่านประธานคิม

    ผมอนุมัติ.....ปิดการประชุม

     

    .... Love  Reality...กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

     

    1

     

    ซินเดอเรลล่าผิดตัว

     

    กรี๊ดด....

    เสียงกรีดร้องอันน่าหนวกหูของซังนาราเพื่อนนักศึกษาวิทยาศาสตร์การแพทย์ของฉันดังขึ้น เมื่อเธอเปิดอ่านอีเมลล์บ้าๆฉบับหนึ่งในอีเมลล์ของเธอที่ใช้ชื่อฉันสมัครเมื่อตอนที่เราเริ่มเรียนการแพทย์แรกๆ  ฉันชื่อยองเออิน สาวตาคมลูกเสี้ยวเกาหลี เพราะคุณปู่เป็นคนสเปน หน้าตาฉันก็เหมือนคนเกาหลีทั่วไปแหละ จะมีดีตรงตาสองชั้นแสนคมคายที่ได้มาจากคุณปู่เต็มๆโดยไม่ต้องไปศัลยกรรมสักนิด ฉันเรียนที่นี่ได้สองปีแล้วก่อนหน้านี้ฉันอยู่สเปนจนจบไฮสคูล  แต่ตอนนี้พ่อแม่แยกทางกันเลยต้องกลับมาอยู่บ้านแม่ที่เกาหลี  ส่วนแม่ฉันก็ติดงานอยู่ที่สเปน ฉันเลยกลับมาอยู่บ้านที่เกาหลีคนเดียว แล้วก็มียัยซังนาราเพื่อนนักศึกษาที่งกค่าเช่าหอพักนี่แหละ มาอาศัยอยู่ด้วยไว้แก้เหงา  เหงาก็บ้าแล้วเพราะยัยนี่มันตัวก่อกวนขั้นเทพสังวาล(เกาหลีมีเทพสังวาลหรอ)ไปเลย บ้านักร้องดารานักแสดงทุกคนเข้าขั้นโคม่า  สมัครเป็นแฟนคลับ เมมเบอร์มันทุกวง  หนักเข้าก็เอาชื่อฉันไปสมัครจนกลายเป็นเรื่อง

    แก..ซวยแล้วบัตรประชาชนนาราตะโกนขึ้น

    ซวยบ้าอะไร  แกก็มีไม่ใช่หรอบัตรประชาชน

    ของแกต่างหาก..

    ฉันโอนสัญชาติแล้วยะ ฉันมีไอดีเกาหลีแล้วนี่ไง...ฉันยื่นบัตรให้นาราดู

    ใช่..บัตรเธอ ชื่อเธอยองเออิน  แต่หน้าไม่ใช่ฉัน

    บ้าไปแล้ว...บัตรฉัน ชื่อฉัน ก็ต้องรูปฉันสิ

    เคเอ็ม เอ็นเตอร์เมนท์  เขาบอกว่าชื่อเธอ หน้าเธอ แต่ความจริงมันตัวฉันต่างหาก

    อ๋อ..แกไปชิงโชคแล้วใช้ชื่อฉันใช่มั้ย  เดี๋ยวฉันไปเอาให้ก็ได้ ว่าแต่มันโชคกี่ชั้นล่ะ  ถ้ารางวัลเล็กฉันไม่ไปเอาให้นะ เสียเวลาฉันวาพลางนั่งอ่านหนังสืออนาโตมี่ต่อไป

    ใหญ่..หญ่าย..ใหญ่มาก  แกต้องไปเดทกับโอแทมินอาทิตย์นึง ยองเออิน

    หา...ฉันวางหนังสือแล้วหันมาถามนาราอีกครั้ง

    ฉันใช้ชื่อแกสมัครสมาชิกเมมเบอร์ เว็บบอร์ดของวงheart beat  ส่งชื่อแกไปรายการLove Reality เพื่อคัดเลือกไปออกเดทกับหัวหน้าวงโอแทมิน แล้วผลก็คือทางรายการเค้าเลือกแกไป

    อ๊ายยยยยยยยยยยยยย.......ไม่จริง  โอแทมินอะไร ไม่รู้จัก นารายัยบ้า แทมินไหนเนี่ย ฉันไม่ไป วงเวิงฮาร์ทระเบิดบีทอะไร  เพลงก็ไม่เคยฟังฉันไม่ไป

    10 ล้านวอนที่แกต้องจ่าย ถ้าสละสิทธิ์!!!

    แกไปจ่ายเลย  ยัยนาราบ้า ฉันไม่เอา ไม่อาววว ฉันจะสอบเทียบแพทย์  ฉันจะอ่านหนังสือ แกไปเลย เออ..ไปมุนดงกัน  ไปศัลยกรรมหน้าแกให้เหมือนฉัน ฉันเชื่อฝีมือศัลยกรรมหน้าในเกาหลีดีที่สุดในโลก

    เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว....

    ทันสิตอนนี้เลย  ไปเร็ว

    ไม่ทันแล้วอีกชั่วโมง บริษัทจะมารับตัวเธอไป

    ไปไหน

    หาโอแทมิน..

    ฮืออออ....ไม่อาวว  ไม่อาวว ฉันไม่รู้จักโอแทมิน  ฉันไม่อยากไป ไม่เป็นแฟนคลับด้วย

    10 ล้านวอน

    ไม่มี...

    ยิ่งต้องไป  ทางที่ดีแกมาติวเรื่องแทมินกับฉันดีกว่า  ก่อนที่เคเอ็มจะจับได้ว่าแกไม่ใช่แฟนคลับโอแทมิน

    ฮือออ..ก็ได้เพื่อไม่ต้องเสีย10ล้านวอน

     

    โอแทมิน อายุ 20 ปี สูง 186 เซนติเมตร น้ำหนัก 75 กิโลกรัม อาชีพ นักร้องนำวงheart beat ชอบ สีขาวกับม่วง ไม่กินเผ็ดแต่ชอบกิมจิใส่พริกป่น อุปนิสัย ร่าเริงแต่เย็นชา เข้าใจทุกอย่างง่ายแต่เข้าถึงยาก เวลายิ้มแล้วน่ารัก แต่ยิ้มยาก(มาก) เทิดทูนความรักแต่ไม่รักใครง่ายๆ  ซื่อตรง ต่อหน้าที่และหัวใจแต่มีข่าวกับผู้หญิงบ่อยและตื่นสาย ให้คุณค่าของความรักเท่ากับชีวิตหนึ่งชีวิต แต่ชอบกีฬาเสี่ยงตายทุกชนิด บลาๆๆๆ... บลา... ...~~

    พอแล้ว  ไม่เอาแล้วคนอะไรเนี่ย มีข้อแม้ในทุกอย่าง ชอบอันนี้ แต่แบบนี้ไม่ชอบ  โอยยย..หนักสมอง เมมโมรี่สมองฉันต้องมาเก็บข้อมูลไร้สาระพวกนี้เพื่ออะไร ไม่เอาแล้ว ฉันดูขอรูปฉันจะจำแค่หน้าของนายนี่เท่านั้น  จะได้ไม่ผิดตัว

    ยัยนาราเปิดไฟล์รูปความจุมหึมาที่เขียนชื่อไฟล์ไว้ว่า Heart beat มีรูปนักร้องโปรดขวัญใจที่เซฟเก็บไว้มากมาย

    เอา...คนนี้แหละแฟนแก ยัยนาราบ่นเซ็งๆหลังจากกระแทกดับเบิ้ลคลิ๊กไป

    หล่อ...ดูดี แต่..... ฉันไม่เอา  แกจะบ้าหรอเป็นแฟนเจ็ดวันแล้วถัดไปจากเจ็ดวันละ ฉันกับโอแทมินก็กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวของกันและกันหรอ บ้าที่สุดเกมโชว์บ้าอะไรเนี่ย เอาหัวใจคนมาล้อเล่น

    โอ๊ย!!แกไม่ชอบเขาหรอก  เจ็ดวันคนมันจะรักกันได้หรือไง  ยิ่งแกไม่ได้เป็นแฟนคลับ และคลั่งดาราอย่างฉัน ความเป็นไปได้ที่แกจะหลงรักเขายากมาก ถึงแม้ว่าโอแทมินจะเป็นหนุ่มหล่อชวนฝัน และครองตำแหน่งหนุ่มที่สาวๆอยากเป็นแฟนและตกหลุมรักมากที่สุดมา 2 ปีซ้อน

    ฉันไม่ใช่คนใจง่าย  แต่ถ้าแกทำชีวิตฉันผิดพลาดขึ้นมาล่ะก็...ฮึม ฉันเผยอปากแถมแยกเขี้ยวให้ จนนาราถอยหลังไปตั้งฉาก

    โอเค..ฉันเป็นคนสร้างเรื่อง  ฉันจะรับผิดชอบชีวิตแกเอง ถ้าแกหลงรักโอแทมิน ฉันจะไปลากคอโอแทมินมาให้แกถึงหน้าบ้านเลย

    เออ ให้ได้อย่างที่พูดเหอะ  แต่ว่าคงไม่เดือดร้อนขนาดนั้นหรอกมั้ง อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้คลั่งเขาตั้งแต่แรกนี่หน่า  เออแล้วแกไปทำอะไรไว้บ้างตอนเป็นเมมเบอร์

    ก็ตามตารางงานบ้าง ไปโพสต์ให้กำลังใจบ้าง คอมเมนต์เพลงบ้าง

    บ่อยมั้ย..

    10 ครั้

    ค่อยยังชั่วที่ยังไม่วุ่นวายมากนัก

    หน่วยเป็นต่อวันนะ

    หา..ต่อวัน  นี่แกวุ่นวายกับคนพวกนี้มากกว่าให้อาหารไอ้หมาซางดูบ้านเราอีกนะ

    แต่ฉันบอกว่า ฉันไม่ค่อยติดตามเขาได้มากเท่าไหร่ เพราะต้องตั้งใจเรียน  หลังๆประมาณหนึ่งเดือนที่แกพาฉันไปท่องเที่ยวโลกหนังสือการแพทย์  ฉันแทบไม่ได้ใช้อีเมลล์แกโพสต์อะไรอีกเลย จนฉันลืมไปแล้ว จนแจ็กพอตมาแตกที่แกแหละ

    ฮือ.......พญาโศกโลกแตก  แล้วทางโน้นเค้าคงคิดว่าฉันคลั่งโอแทมินมาก  ฮือ....ตายแน่

    ไม่ตายหรอกทางโน้นเขาส่งคนมาติดตามแกได้อาทิตย์นึงแล้ว  เขารู้แล้วว่าแกไม่ได้บ้ามากอย่างฉัน ขนาดวันนั้นรถเมลล์ที่มีรูปโอแทมินแกยังไม่ขึ้นเลย ทั้งที่ชาวบ้านเขาวิ่งขึ้นกันหมด

    เดี๋ยวนะมีสปายมีตามฉันเป็นอาทิตย์แล้วหรอ

    อือ....เค้าระบุแจ้งมาในอีเมลล์ และฝากขอโทษด้วยที่ทำให้ชีวิตส่วนตัวแกไม่เป็นส่วนตัวในสายตาของทีมงาน

    อ้ากกกก.....อาทิตย์ที่แล้วรถเมลล์คันนั้นที่ฉันไม่ขึ้นเพราะว่าฉันมัวแต่เกาก้นอยู่ แงๆๆๆๆเออินคนนี้อยากลาโลก

    เออ..น่า  อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าแกห่วงคันก้น มากกว่าห่วงขึ้นรถโอแทมิน  คาดการณ์นิสัยแกได้ในระดับนึง

    ปี๊บๆๆ  

    ขณะที่ฉันเล่นบทพญาโศกอยู่ในบ้าน เสียงแตรรถที่หน้าบ้านก็ดังขึ้น กระชากวิญญาณฉันไปชมพูทวีปที่นึง แหลมกู๊ดโฮปที่นึง ขั้วโลกเหนือและใต้อย่างละที่ และอีกทั่วทุกมุมโลก

    บ้านคุณยองเออินใช่มั้ยครับ

    คร่า.....เอ่อ รอเออินแป้บนึงนะค่ะ เธอกำลังจะออกไปแล้ว ยัยนาราออกไปรับหน้าแทนฉันที่กำลังเพิ่มระดับน้ำให้พื้นผิวโลกอย่างไม่ขาดสาย

    เออินล้างหน้าแล้วรีบออกไปเลย

    ม่ายปาย....อยากตาย..จาอ่านหนังสือ...อยากเปนหมอ ไม่อยากไปเดท....งึมๆๆฉันมุดลงไปนั่งใต้โต๊ะหนังสือ กอดหนังสือตำราแพทย์ไว้แน่น จนยัยนาราต้องมุดตามเข้าไปคุย

    เดี๋ยวมาอ่านก็ได้....ไปเร็ว

    ....

    งั้นฉันจัดการเอง....ยัยนาราวิ่งไปคว้าผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วมาละเลงที่หน้าฉัน ตามด้วยแป้งบีบีที่สาวเกาหลีใช้กันทั้งประเทศ และลิปกอส ที่ทำให้ฉันสวยใสดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

    เออินมาแล้วค่ะ เออินเอาตำรามาเก็บเร็ว จะเอาไปด้วยทำบ้าอะไร

    ไม่อาว....ตำราช้านนนน.. ฉันกอดตำราการแพทย์เล่มหนาเท่าหนังช้างซ้อนกัน5ชั้นไว้แน่น อย่างสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เหลือจากไฟไหม้บ้าน

    เอ่อ...คุณทีมงานจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าเพื่อนฉันจะเอาตำรานี้ไปด้วย ทีมงานที่ยืนข้างยืนงงๆแต่ก็พยักหน้าเออออไป

    ขอบคุณค่ะ  ฝากเออินด้วยนะคะยัยนารายิ้มหวานแล้วดันตัวฉันที่วิญญาณหลุดจากตัวไปแล้วเข้าไปในรถตู้ทีมงานอย่างรวดเร็ว

    ครับ..

    แล้วทีมงานก็ขึ้นมาขับรถ ส่วนซังนาราก็ปิดรั้วและยืนโบกมืออยู่หน้าบ้าน  ฉันอยากตายจริงๆแม่จ๋าเมื่อไหร่จะกลับมาจากสเปนคะ หนูคิดถึงแม่ที่สุดเลย

    คุณยองเออินครับ..

    ....

    คุณยองเออินครับ

    .... วิญญาณหายไปแว้ว......

    คุณยองเออินคร้าบบบบ....ถึงแล้วววววววววววว....

    ว้าย....ค่ะ

    ฉันเดินลงจากรถอย่างงงๆ บริษัทอะไรเนี่ย ใหญ่โตมโหฬาร ฉันเดินเงอะๆงะๆจนไปกระแทกกับกระจกประตูบริษัทจนล้มตึง

    หนังสือช้านนน...ฉันหันไปมองหนังสือที่กระเด็นหลุดจากมือไป

    หนังสือใครเนี่ย...เล่มใหญ่เป็นบ้า  พิลึกชะมัดถ้าอ่านหมด

    ขอหนังสือฉันคืนด้วยค่ะ ฉันเอ่ยปากขอหนังสือจากผู้ชายตัวสูง ผมยาวละต้นคอ ใส่แว่นตาอันใหญ่สีชา ความจริงเขาดูดีมาก แต่ฉันสนใจหนังสือฉันมากกว่ามันดันกระเด็นไปขวางทางเดินของเขานะซิ

    เจ้าของหนังสือหรอ

    ขอหนังสือฉันคืนเถอะคะ  ฉันอยากเป็นหมอ ฉันส่งสายตาวิงวอนสุดฤทธิ์

    เอาไปเถอะครับ  ผมไม่ขโมยหรอก ขอให้ได้เป็นหมอสมใจนะครับ

    ขอบคุณค่ะ

     

    ...OTAEMINS  PART...

                    ผมเดินทางมาบริษัทในรอบ3เดือนเป็นครั้งแรก เพราะเราต้องทัวร์คอนเสิร์ตตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเพิ่งได้พักเต็มๆมาอาทิตย์นึง ถือเป็นลองวีกเอนด์เลยก็ได้ในชีวิตการทำงานที่ผ่านมา  วันนี้เป็นวันที่ผมมาตกลงงานพร้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับโปรเจกต์งานที่รุ่นพี่ยองเซที่ผมเคารพได้ติดต่อไว้  เป็นรายการเรียลลิตี้ที่ให้ผมไปเดทกับผู้หญิงที่เป็นแฟนคลับที่ได้รับการคัดเลือกมา  ความจริงผมก็แทบไม่อยากจะมาเลย ผมค่อนข้างซีเรียสกับความรักนะ  อยากมีความรักแท้ที่ยั่งยืน แต่ถ้าเราได้คบกับแฟนคลับนี่เหมือนว่าเขาจะคลั่งไคล้ผมฝ่ายเดียว อย่างงั้นแล้วผมคงไม่มีทางได้พบรักแท้แน่ๆ  แต่ก็เอาเถอะผมจะเอารายการนี้เป็นสื่อกลางในการที่ทำให้ทุกคนรู้ว่าตัวตนผมเป็นยังไง มากกว่าการมองผมที่หน้าตา ลบคำสบประมาทที่ว่าผมดีแต่ขายหน้าตากับสร้างข่าวฉาวคั่วผู้หญิงไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ แล้วลืมการติดตามเรื่องรักๆใคร่ๆชั่วคราวที่รายการสร้างขึ้นไปเลย

                    ผมกำลังจะเดินเข้าบริษัทแต่ดันมีหนังสือเล่มใหญ่มากๆ เข้ามาขวางซะก่อน  เล่มมันใหญ่จนเหมือนตำราพงศาวดารเกาหลีรวมกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  หนักสิบสิบโลได้มั้ง เอาไปยกแทนเวทได้เลย ยิ่งเห็นคนอ่านยิ่งตกใจไปใหญ่ เป็นผู้หญิงตัวเล็กผอมๆ แถมหวงหนังสือซะไม่มี เธอมีจุดหมายที่อยากเป็นหมอ แต่ผมว่ากว่าจะได้เป็นหมอ กล้ามเธอคงล่ำเป็นมัดๆแน่ ช่างเถอะครับ อย่างน้อยเธอก็มีความพยายามที่จะทำให้สำเร็จ มีจุดหมายที่แน่นอน ต่างจากผมที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็น

     

    .................. (end : otaemins part)..................

                                                   

                    ฉันยองเออินค่ะ คือฉันมาคุยเรื่องรายการ...เอ่อ..รายการอะไรนะคะที่ให้คนมาเป็นแฟนกันเจ็ดวันนะค่ะ

                    อ๋อ...รายการใหม่ของคุณแจยองเซ  อ้อ...นู่นไงคุณยองเซคะ คุณผู้หญิงคนนี้มาหาคุณคะ

                    แจยองเซที่กำลังเดินเข้ามาในบริษัท เดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ที่ฉันยืนอยู่กับพีอาร์สาว แล้วมาเพ่งหน้าฉัน จนฉันต้องกอดหนังสือแน่นขึ้น

                    ยองเออินใช่มั้ยครับ..

                    รู้จักฉันด้วยหรอคะ

                    ผมเป็นโปรดิวเซอร์รายการเรียลลิตี้ที่คุณตามหาอยู่ครับ

                    ค่ะ..ยินดีที่ได้รู้จัก  ฉันต้องทำไงต่อคะ

                    เดี๋ยวไปฟังพร้อมกันเลยดีกว่าครับ

                    คุณแจยองเซเดินนำพาฉันมาที่ห้องประชุม ในนั้นทุกคนดูเหมือนจะรู้จักฉันหมด  แต่ฉันสิไม่รู้จักใครเลยจะถูกลวงมั้ยเนี่ย

                    เชิญครับคุณยองเออิน

                    เออินเฉยๆก็ได้คะ

                    ครับ..คุณเออิน ผมยองเซ เป็นไงบ้างครับตอนที่ผมติดต่อไป

                    ฉันควรตอบว่ายังล่ะ เศร้ามากค่ะ คุณทำให้เวลาอ่านหนังสือของฉันน้อยลง ฉันไม่รู้จักโอแทมินค่ะ อย่างงั้นหรอ

                    ก็ตกใจค่ะ มันค่อนข้างฉุกละหุก สับสนวุ่นวาย สลับร่างเปลี่ยนตัว  เอ่อ..ก็ดีใจแหละค่ะมั่วไปได้ฉัน

                    ท่าทางคุณจะตื่นเต้นน่าดู  ดูเกร็งๆนะครับ

                    อ๋อค่ะ  ตื่นเต้น(ฉันเครียดต่างหากย่ะ)

                    อ้าว...แทมินนายมานานแล้วหรอคุณแจยองเซเรียกผู้ชายที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา

                    หนังสือเล่มใหญ่ คนอ่านตัวเล็ก

    หมายถึงฉันหรอนั่น

                    ค่ะ...คุณคือโอแทมินหรอคะ

                    อย่าบอกนะว่า...โอ้วไม่นะ  ผมน่าจะเอะใจตั้งแต่เมื่อตอนหน้าประตูที่คุณทำตำราแพทย์ตก  ยองเออิน

    รู้จักกันแล้วหรอยองเซถามอย่างงงๆ

    หน้าประตูบริษัท ก่อนเจอคุณยองเซค่ะฉันบอก

    ที่แท้ก็แกล้งทำตกให้ผมเห็น  กะทำให้ผมประทับใจว่าคุณใฝ่เรียนแบกหนังสือเล่มใหญ่หรอ โถ..คนเราช่างสร้างภาพ พวกคลั่งไอดอล

    อ้าว....ไอ้นักร้องปากเสีย ฉันไปคลั่งแกตอนไหนไม่ทราบ  อีตอนไปขอหนังสือคืนฉันยังไม่ยักกะรู้จักนายเลย ขนาดยัยนาราเพื่อนตัวป่วนมันอุตส่าห์ป้อนข้อมูลให้ฉันเป็นกอบเป็นกำ ทั้งรูปนาย ฉันดูแล้วดูอีกฉันยังจำไม่ได้เลย  ในหัวฉันมีแต่รูปสายพันธุ์ดีเอ็นเอ ไมโทคอนเดีย ไซโตพลาสซึมเท่านั้นที่ฉันจำได้  ไอดอลอย่างนาย  ฉันไม่จำหรอกเปลืองพื้นที่สมองเปล่า

    โอแทมินคุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันสร้างภาพ

    เปล่า..ก็ว่ากันตามที่เห็น

    เย็นชามากเหมือนที่ยัยนาราบอกไว้ไม่ผิด  พูดออกมาได้น่าตาเฉยนี่หรอแฟนเจ็ดวันของฉัน 2 ชั่วโมงก็เกินไปแล้วมั้ง

    เย็นๆกันก่อนนะ  พวกนายต้องเดทกันอีกเจ็ดวันเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย

    เรามาฟังข้อตกลงกันก่อน นั่งเร็วแทมิน

     ยืน...ยืนทำไมไอ้บ้าโอแทมินนั่งสิ   ฉันส่งสายตาแทนคำพูดไปให้โอแทมิน แต่นายนี่คงมีองค์มั้งเลยเข้าใจแล้วนั่งลง

    เราจะอธิบายการทำงานคร่าวๆนะ

    ....เงียบแปลว่าฟัง

    การเดทครั้งนี้ของสองคนจะอยู่ในสายตาของกล้องที่คอยจับภาพอยู่ห่างๆตลอด และทันทีที่ออกอากาศมันจะอยู่ในสายตาของคนทั่วประเทศ ที่บอกเพื่อให้พวกคุณเข้าใจและเซ็นยืนยันว่าเราสามารถเผยแพร่เรื่องส่วนตัว ชีวิตประจำวันตอต่อกันที่เดทกันในที่สาธารณชน แต่ไม่รวมที่บ้านของแต่ละฝ่าย เราจะเผยแพร่ทั้งด้านภาพ เสียง ข้อความ การสื่อสารทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตหรืออื่นๆ ที่พวกคุณติดต่อในระหว่างเจ็ดวัน เพื่อไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง

    ได้ค่ะ..ถ้ามันจะไม่ทำชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากนัก

    ครับ..ไม่เปลี่ยนแน่นอน เพราะเราจะถ่ายจนจบ แล้วถึงจะเอาไปออกอากาศระหว่างที่มีกล้องตามคุณคนก็จะไม่สนใจมากนัก เพราะยังไม่มีใครรู้จักคุณ ฉันดึงสัญญามาเซ็นอย่างรวดเร็วโดยไม่ใส่ใจ เพราะฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้ฉันต้องอ่านหนังสือเรื่องขบวนการเมทาบอลิซึมให้เข้าใจ ตามตารางที่วางไว้ แล้วฉันก็รีบหยิบหนังสือมาอ่านทันที

    แต่ทุกคนรู้จักผม..โอแทมินพูดขึ้น

    นั่นมันเรื่องของนายที่ทำยังไงก็ได้ให้เรามีภาพนายออกเดทกับเออินให้ได้  จะปลอมตัวเป็นขอทานหรือจะออกไปทั้งเป็นโอแทมินมันก็เรื่องของนาย แต่ภายในเจ็ดวันพวกนายต้องมีกิจกรรมร่วมกัน

    แล้วถ้าผมไม่ออกไปไหนล่ะ

    สิบล้านวอนไง ค่าปรับโทษฐานไม่ทำตามขอตกลงของรายการ

    ผมไปทำข้อตกลงตอนไหน

    ฉันอัดเสียงนายไว้ตั้งแต่อนที่นายบอกว่าจะมาช่วยฉันแล้ว

    แต่ยัยนี่จะทำให้ผมโดนปรับเพราะเธอจะเอาแต่อ่านหนังสือ จนไม่ได้ออกไปไหนด้วยกัน

    ...สอง เอทีพี  รวมกันเกิดแอ็กทีฟทรานสปอร์ต เป็นหนึ่งเมทาบอลึมรวมกับซัลเฟอร์...งึมๆๆ (เสียงฉันอ่านหนังสือ)

    คุณเออินครับ...

    เดี๋ยวค่ะ 10 วินาทีฉันกำลังเมมข้อมูลที่เข้าใจแล้วลงสมอง...ตู๊ดๆๆๆ~....5...4...2...1..0..ฉันพร้อมแล้วค่ะ

    คือผมอยากจะขอร้อง ให้ในระหว่างเจ็ดวันถัดจากนี้คุณห้ามอ่านหนังสือพวกนี้อีก  ผมจะส่งคนไปขนหนังสือคุณเออินทั้งหมดมาเก็บในโกดังของบริษัท แล้วอีกเจ็ดจะขนไปคืนให้ที่บ้านนะครับ

    หา...นั่นเท่ากับตัดอนาคตอันสดใสปิ๊งปั๊งของฉันเลยนะคะ

    ยัยหนอนหนังสือสมองยักษ์..โอแทมิน

    ปากหรอนั่น...ไม่รู้คนชอบกันไปได้ยังไงฉันกัดฟันแล้วหันไปพูดใส่โอแทมิน

    p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt">ชอบได้ไง..เธอก็ถามตัวเองดูสิ

    ฉันชอบนายตรงไหน...

    แล้วที่มาสมัครร่วมรายการเรียลลิตี้นี่แปลว่าอะไร...

    ก็...เฮ้ยช่างมันเถอะ พูดไปฉันก็ตายอย่างเดียว เชอะ..เจ็ดวันจบลงเมื่อไหร่นายกับฉันก็จะเป็นมนุษย์ต่างดาวของกันและกัน คุณยองเซค่ะฉันกลับได้แล้วใช่มั้ยค่ะ

    เดี๋ยวให้แทมินไปส่งดีกว่า จะได้รู้จักบ้านกันไว้ดูเหมือนคุณยังไม่ชินกับเขานะ ตอนมาที่นี่คุณก็ไม่ได้พกเงินมาเลย เอามาแต่หนังสือ

    ฉันกลับเองดีกว่าค่ะ  จากที่นี่ไปบ้านแค่สามกิโลเอง ฉันเดินกลับเองดีกว่า เดินไปอ่านหนังสือไปคงรู้เรื่องเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ฉันจะอ่านให้คุ้มการเสียเวลาเจ็ดวันอันใหญ่หลวงเลยค่ะ ก่อนที่คุณจะมายึดหนังสือฉันไป

    หนอนหนังสือยักษ์...

    หนอนสมองกลวง...ฉันหันมามองโอแทมิน แล้วตั้งฉายาให้เขาและวิ่งออกไป

    เฮ้อ...นี่พี่คัดคนผิดหรือเปล่าไหนบอกว่ายัยนี่เคซี่ผมมาก โพสต์สิบเวลาต่อวันในเว็บเมมเบอร์  แต่ดูตัวจริงสิ แทมินถามยองเซ

    ก็ดีไม่ใช่หรือไง ถ้าเลือกพวกที่คลั่งแกมากกว่านี้  ครบเจ็ดวันแกก็กลายไปเป็นสามีแฟนคลับทำไงเล่า  ยองเออินคนนี้แปลกมากในเว็บบอร์ดเธอเหมือนพวกคลั่งดาราขั้นโลกแตก แต่จากที่สะกดรอยตามเธออาทิตย์นึง เธอไม่มีทีท่าว่าจนคลั่งแกสักนิด เหมือนไม่รู้จักแกเลยด้วยซ้ำ พูดง่ายๆเธอเคซี่แต่หนังสือตำราการแพทย์เหมือนแกที่เคซี่แต่งาน ฉันเลยจับมาอยู่ด้วยกันซะเลย เพราะความที่เธอเหมือนมีสองตัวนี่แหละ

    สองตัว...จริงสิยัยนี่เหมือนไม่รู้จักผม เจ็ดวันถ้ายัยนี่ไม่คลั่งผมเลยเรตติ้งผมคงตกแน่  ต้องมีอีกคนแน่ที่เป็นแฟนคลับผม ยัยนี่เป็นใครแน่

    พี่ครับผมขอสำเนาไอดียองเออินหน่อยครับ..

    เอาไปทำไรว่ะยองเซถามพร้องยื่นสำเนาบัตรประชาชนให้แทมิน

    ยัยนี่เป็นซินเดอเรลล่าผิดตัว ผมไปแล้วพี่

    ไปไหนว่ะ

    ไปตามเออินพูดจบแทมินก็วิ่งออกไป ปล่อยให้ยองเซพึมพำงงๆ

    สงสัย..จะนึกชอบเออินขึ้นมาละม้าง... โปรดิวเซอร์มือทองคิดในใจ

     

    ....เป็นงั้นก็ง่ายไปมั้งคุณผู้อ่าน....อิอิ

     

    2

     

    ข้อตกลงของสองฝ่าย

     

    ในกรณีที่ผู้ป่วยมีการตอบสนองโดยตรง แบบอัตโนมัติไม่ต้องใช้สมองส่วนกลางสั่งการ เรียกว่ามีกระแสรีเฟล็กแอกชั่น เกิดขึ้น ส่วนที่รับรู้หลังจากโดนสิ่งเร้ากระตุ้น เรียกว่า รีเฟล็ก...รีเฟล็ก..รีเฟล็ก..อะไรเนี่ย รีเฟล็ก อ้ากกกกก......

    ฉันกำลังเดินอยู่ข้างถนนพร้อมหนังสือเล่มยักษ์ ที่เดินอ่านมาเรื่อยประมาณกิโลนึงได้แล้วมั้ง  พอนึกอะไรไม่ออกมันก็เลยเดินเฉเข้าถนนไปซะดื้อๆ จนรถเกือบชนนี่แหละ

    ยองเออิน..คนขับรถวิ่งลงมา ฉันหันมองทีหนึ่งเห็นว่าเป็นคนรู้จักเลยไม่พูดอะไร

    ใช่แล้ว  รีเฟล็กอาร์ก..ขอบใจมากที่ขับรถเฉี่ยว ทำให้ฉันนึกออก

    ....งงสิขับรถเฉี่ยวขนาดนั้นกลับได้รับคำขอบคุณ

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น