ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Draco & Hermione Fiction : This Girl Is Mine ✿

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 14 : Turning Table

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      54
      23 ส.ค. 60

    T
    B

    เฮอร์ไมโอนี่นั่งทานอาหารเช้าอย่างเหม่อลอย รอนมองหน้าแฮร์รี่ที่ตอนนี้ข้อมือหายดีเป็นปกติแล้วด้วยสายตางุนงง แฮร์รี่เองก็ไม่ต่างกัน หลังจากการแข่งควิดดิชจบลงเฮอร์ไมโอนี่ดูไม่ร่าเริงสดใสเลย จินนี่เองก็ไม่ต่างกันนัก เธอไม่ยอมมานั่งข้างแฮร์รี่เหมือนเคย กับย้ายไปนั่งกับดีน โทมัสแทน ทำเอาแฮร์รี่นึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย

              เฮอร์ไมโอนี่...รอนเรียก แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะใส่ใจ ดวงตาสีน้ำตาลยังคงเหม่อลอยเหมือนถูกผู้คุมวิญญาณมอบจุมพิตให้ รอนกระแอมแล้วเรียกเสียงดังขึ้นจนเฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง

              มะ...มีอะไรเหรอรอนเฮอร์ไมโอนี่ถาม แฮร์รี่เพิ่งสังเกตว่าเธอตาบวม

              ช่วงนี้เธอดูจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรทำไมไม่เล่าให้เราฟังล่ะแฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเจื่อนๆ

              ฉันแค่เครียดเรื่องสอบว.พ.ร.ส.น่ะ ไม่มีอะไรหรอกเฮอร์ไมโอนี่ตอบ รอนแค่นหัวเราะ

              ฉันเห็นเธออ่านหนังสือจบหมดทุกเล่มแล้ว จะกลัวอะไรล่ะ พวกฉันนี่สิ หน้าปกหนังสือยังไม่ได้แตะเลยด้วยซ้ำรอนบอกพลางกวาดแพนเค้กเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม แฮร์รี่กำลังจะถามว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ แต่ถูกขัดจังหวะเพราะเนวิลล์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ก่อนจะนั่งลงข้างๆ รอน

              นี่...พวกนายได้ยินเรื่องมัลฟอยกันหรือยัง หมอนั่นฟื้นแล้วนะ….” เนวิลล์พูดพลางหอบไป แฮร์รี่รีบถามทันที เฮอร์ไมโอนี่นั่งก้มหน้าตักซุปเข้าปากเงียบๆ

              แล้วหมอนั่นเป็นยังไงบ้าง

              เอ่อ....เนวิลล์อึกอัก รอนมองอย่างหงุดหงิด

              อะไรล่ะ....บอกมาสิ จะเอ่อทำไมรอนแหวใส่ เนวิลล์ยิ้มเจื่อนๆ

              “มัลฟอยความจำเสื่อม....มาดามพรอมฟรีย์บอกว่าหัวเขาน่าจะกระแทกแรงมากจนความจำเสื่อมเลยเมื่อจบประโยค ช้อนในมือเฮอร์ไมโอนี่ร่วงลงในชามซุป จนน้ำซุปกระเด็นเปื้อนเสื้อเธอ แต่เธอไม่สนใจ

              ...เห็นว่าเขาจำไม่ได้เลยว่าขึ้นมาอยู่ปีห้าได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือตอนจบปีสี่ แค่นั้นเนวิลล์บอก เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าขอบตาเธอร้อนผ่าวเมื่อเธอเข้าใจความเลวร้ายที่คอยท่าอยู่ เธอรีบลุกจากโต๊ะไปโดยพยายามไม่ให้เพื่อนสังเกตว่าน้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ มีเพียงความคิดเดียวที่แจ่มชัด

    มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง....ทำไมนะ ทำไม....

     

    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวอีกทีเมื่อเธอหยุดอยู่หน้าห้องพยาบาล เธอรู้ว่าถึงเธอเข้าไป เขาก็คงตะเพิดเธอออกมาอยู่ดี ช่วงเวลาๆ ดี ที่ทั้งคู่เคยมีให้กันในตอนนี้จางหายไปราวกับเป็นเพียงควันสายหนึ่ง เธอปาดน้ำตาออก ก่อนจะค่อยๆ แง้มประตูเข้าไป เฮอร์ไมโอนี่เพียงแค่อยากเห็นหน้าเขา อยากเห็นว่าเขาไม่เป็นไรเท่านั้นเอง....

              มาทำอะไรตรงนี้ ยัยเลือดสีโคลนเสียงบาดหูของแพนซี่ พาร์กินสันดังขึ้นด้านหลัง เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง เมื่อหันไปก็พบแพนซี่ยืนมองเธออย่างรังเกียจ แต่กระนั้น กลับมีแววเลื่อนลอยอยู่ในดวงตาสีดำสนิทของเธอ

              ถอยไปซะ คนอย่างหล่อนไม่คู่ควรกับเขาหรอก!” แพนซี่แทบกรีดร้องใส่เธอราวกับคนเสียสติ ก่อนจะผลักเฮอร์ไมโอนี่ไปชนกำแพงอย่างแรงจนเธอหลุดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แพนซี่ยิ้มเหยียด ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างไม่ไยดี

    เฮอร์ไมโฮนี่ยืนลูบหัวไหล่ที่โดนกระแทกเบาๆ แล้วนึกเจ็บปวดอยู่ในใจ เมื่อเธอรู้ว่าแพนซี่พูดถูก เลือดสีโคลนอย่างฉันไม่มีวันสมหวังกับเขาหรอก เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจ ก่อนจะเดินกลับหอด้วยจิตใจที่เหม่อลอย จนเธอชนเข้ากับใครคนหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่เซไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวขอโทษอย่างไม่ใส่ใจนัก

              สบายดีหรือเปล่าครับ เฮอร์ไมโอนี่สเปนเซอร์ถาม มือแข็งแกร่งของเขาจับไหล่เธอไว้ไม่ให้ล้ม แต่เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวออกอย่างสุภาพ เธอยิ้มอย่างอ่อนแรง

              สงสัยจะอ่านหนังสือมากไปหน่อยน่ะ...เฮอร์ไมโอนี่บอก เธอรู้สึกราวกับแรงโน้มถ่วงกำลังกดเธอลงกับพื้น เหมือนมีตะกั่วนับล้านตันทับใส่เธอ ดวงตาสีน้ำเงินราวเพชรบลูไดมอนด์ของสเปนเซอร์ดูพร่ามัวไปหมด เสียงทุ้มต่ำที่เรียกชื่อเธอฟังดูร้อนรน

              ....หลังจากนั้นเธอก็ตกลงสู่ห้วงดำมืด....ไร้ความรู้สึกใดๆ อีก

     

    เดรโก มัลฟอยไม่สนใจซุปที่แพนซี่พยายามป้อนให้ เพราะสายตาเบือนไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงผมสีน้ำตาลอ่อนกำลังอุ้มร่างๆ หนึ่งเข้ามาในห้องพยาบาลอย่างเร่งรีบ มัลฟอยหรี่ตามองผู้ชายคนนั้น ก่อนจะกำหมัดแน่น

              ลีโอนาร์ด สเปนเซอร์....มันมาที่นี่ได้ยังไงมัลฟอยแทบจะเค้นเสียงลอดไรฟัน แพนซี่มองตาม ก่อนจะยิ้มบางๆ

              สเปนเซอร์ย้ายมาเรียนตอนขึ้นปีห้า แล้วนายก็บาดเจ็บจากการแข่งควิดดิชกับหมอนั่นด้วยแพนซี่บอกพลางค่อยๆ เลื่อนไปกุมมือมัลฟอย แต่อีกฝ่ายดึงมือกลับ ก่อนจะส่งสายตาขุ่นมัวมาให้

              เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้ใครถูกตัวมัลฟอยพูดเสียงเฉียบ แพนซี่หน้าเจื่อนเล็กน้อย ก่อนจะเก็บข้าวของเตรียมลุกออกไป

              ฉันไปก่อนนะ มีเรียนน่ะ แล้วจะกลับมาเยี่ยมใหม่แพนซี่บอก แต่มัลฟอยไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย แพนซี่อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ เธอเดินออกไป โดยไม่สังเกตเลยว่าสเปนเซอร์อุ้มใครเข้ามา

              วางบนเตียงเลย คุณสเปนเซอร์มาดามพรอมฟรีย์บอก ขณะเดินนำเข้ามายังเตียงถัดจากมัลฟอยไปสองเตียง สเปนเซอร์ค่อยๆ วางร่างของเฮอร์ไมโอนี่ลงอย่างแผ่วเบา มัลฟอยมองใบหน้าซีดเซียวของเธอแล้ว อยู่ๆ เขาก็ปวดขมับขึ้นมาอย่างรุนแรง เมื่อมัลฟอยหลับตาลง ความทรงจำมัวๆ แล่นผ่านอย่างรวดเร็วจนเขาปวดหัวอย่างหนัก

              อ้าว คุณมัลฟอยเป็นอะไรหรือเปล่ามาดามพรอมฟรีย์ร้องถามเมื่อเห็นเขากุมขมับอย่างเจ็บปวด

              ผม...ผมปวดหัว...ครับมัลฟอยพูดแค่นั้น  เขาเอนตัวลงนอน เหงื่อพรายผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เขาหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง ภาพความทรงจำมัวๆ เหล่านั้นยังคงกระพริบราวกับเป็นฟ้าผ่าอยู่ในหัวของเขา

              คุณเกรนเจอร์ เธอไม่ค่อยได้พักผ่อนน่ะ เลยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ฉันจะให้เธอนอนที่นี่สักสองคืนนะมาดามพรอมฟรีย์บอกสเปนเซอร์ เขายิ้มรับ หลังจากนั้นมาดามก็หันมาหามัลฟอย

              “เดี๋ยวฉันจะเอายามาให้นะ คุณมัลฟอย รอสักครู่หลังจากนั้นเธอก็เดินออกไป เหลือเพียงมัลฟอยที่จ้องมองเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่มีสติรู้ตัวอย่างไม่วางตา โดยมีสเปนเซอร์นั่งเฝ้าเฮอร์ไมโอนี่อยู่

              นายควรจะระวังคนใกล้ตัวนะ มัลฟอยสเปนเซอร์กล่าวเบาๆ ก่อนจะจับมือเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาแตะริมฝีปากเบาๆ มัลฟอยรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อเห็นภาพนั้น

              แกอย่ามายุ่งกับฉัน! แล้วย้ายมาฮฮกวอร์ตทำไมกัน!!” มัลฟอยเค้นเสียงออกมา สเปนเซอร์เพียงยิ้มบางๆ

              แกเคยถามฉันแล้ว และฉันจะไม่พูดซ้ำสอง มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันจะย้ำให้แกได้รับรู้นะ...เดรโกสเปนเซอร์บรรจงวางมือของเฮอร์ไมโฮนี่ลง ก่อนจะเดินมากระซิบข้างๆ มัลฟอย

              เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์เป็นของฉัน จำเอาไว้สเปนเซอร์บอก มัลฟอยรู้สึกเลือดขึ้นหน้าอีกครั้ง แต่เขาก็ตอบออกไป

              แกจะทำอะไรกับยัยเลือดสีโคลนนั่นก็ตามใจแกสิ ฉันจะสนใจทำไมมัลฟอยตอกกลับ สเปนเซอร์ยิ้มพอใจ

              แกพูดแล้วนะ เดรโก มัลฟอยสเปนเซอร์บอกไว้แค่นั้น ก่อนจะหันหลังเดินออกไป มัลฟอยรู้สึกแปลกอยู่ในใจ เขามองไปยังเฮอร์ไมโอนี่ที่นอนหลับอยู่ แล้วความรู้สึกแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นในใจ

              เขาไม่ได้เกลียดเธอเลย....ไม่ได้เกลียด....แต่กลับรู้สึกผูกพันอย่างน่าประหลาด ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยพูดดีๆ กับเธอสักครั้ง...หรือเธอพูดดีๆ กับเขา....

              นี่มันอะไรกัน….”

     

    เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมาก็พบกับเพดานที่ไม่ค่อยคุ้นตานัก ความมืดถูกแสงสีเงินของดวงจันทร์กลืนกินไป เธอค่อยๆ ลุกอย่างงุนงง นี่ห้องพยาบาลแน่ๆ ว่าแต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ

              นอนลงซะ เกรนเจอร์เสียงเย็นชาที่ดังขึ้นข้างๆ ทำให้เธอตกใจ เมื่อหันไปก็พบกับคนที่เธอปรารถนาจะเจอมากที่สุด

              มัลฟอย…” เฮอร์ไมโฮนี่เรียก เขาดูซีดเซียว โทรม และเหนืออื่นใด....เย็นชาและดูสับสนราวกับคนหลงทาง....

              “….ทำไมเธอดูถึงไม่เกลียดฉัน ทำไมฉันถึงไม่เกลียดเธอ....

              มันมีอะไรเกิดขึ้นก่อนฉันความจำเสื่อมใช่ไหม เกรนเจอร์มัลฟอยถาม เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงความหวังเล็กๆ ในใจ

              ....ใช่ ระหว่างนายกับฉัน....เราไม่ได้เกลียดกันอีกต่อไปแล้วเฮอร์ไมโอนี่เค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบากเมื่อสบกับดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่นั้น

                    ....ฉันไม่ได้เกลียดนาย....แต่ฉันรักนายต่างหาก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×