คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ช า น มึ น : ตั ว อ ย่ า ง ส เ ป เชี่ ย ล 3/4
ความอดทนของปาร์คชานยอล
ปีที่หนึ่ง
แบคฮยอนเป็นเด็กที่ขี้ยั่ว....โดยไม่รู้ตัว
คุณน้าข้างบ้านไปต่างจังหวัดอีกครั้งเพื่อทำงาน เพราะอย่างนั้นปาร์คชานยอลเลยสั่งเด็ดขาดว่าไม่ว่าอย่างไรคืนนี้จะต้องมานอนที่นี่ แต่พอตอนเย็นขัดคอกันนิดหน่อยเรื่องอะไรซักอย่างที่เขาไปเผลอทำให้แบคฮยอนอารมณ์เสียเข้า เด็กข้างบ้านพอลงจากรถก็เลยกระแทกเท้าปึงปังก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
เขาพ่นลมหายใจออกมาน้อยๆก่อนจะออกแรงเคาะประตูหลังจากที่ปีนเข้ารั้วมาได้สำเร็จ ป้องปากตะโกนเรียกก็แล้วแบคฮยอนก็ยังไม่มาเปิดประตูให้ เพราะอย่างนั้นเขาเลยต้องใช้ไม้ตาย
“แบคฮยอนนนนนน พี่หิวข้าวววววววว แบคฮยอนนนนนนนนนนน ทำไม่ไม่เปิดประตู กำลังดูหนังโป๊อยู่หรออออออ เปิดประตูเร็วๆเข้าาาาาาา”
ปีที่สอง
เขาจะโทษเอาว่า ทั้งหมดนี้เพราะหน้าร้อนแท้ๆเลยเชียว
อากาศมันร้อนมากจนถึงขนาดที่ว่าแบคฮยอนที่ระวังตัวเองเวลาอยู่กับเขาสองต่อสองตอนนี้ถึงกับยอมใส่เพียงเสื้อกล้ามบางๆเดินมาที่บ้านเขา แก้มที่เคยขาวกลับขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะแดดด้านนอกที่เจ้าตัวเดินฝ่ามาเมื่อซักครู่ พอถึงในบ้านร่างเล็กก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา ถกขากางเกงที่สั้นอยู่แล้วให้มันสั้นขึ้นมาอีก
“อากาศมันจะร้อนอะไรขนาดนี้วะเนี่ย”
“.........”
“นี่ยิ่งนอนก็ยิ่งร้อน เหนียวตัวไปหมดแล้วเนี่ย ฮึ่ยยยย”
ปีที่สาม
นอกจากแบคฮยอนจะเป็นคนขี้ร้อนแล้ว ยังขี้หนาวมากๆอีกต่างหาก
เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวแบบเต็มตัวทีไร แบคฮยอนได้แต่งตัวเหมือนตุ่มทุกที
ร่างเล็กๆที่เคยใส่เสื้อผ้าบางมากๆยามหน้าร้อนตอนนี้ถูกคลุมทับไปด้วยเสื้อแขนยาวเสื้อโค้ทเสื้อกันลมและสารพัดเครื่องกันหนาวที่ร่างน้อยจะสามารถแบกรับได้ไหว ปาร์คชานยอลเชื่อว่าถ้าหากแบคฮยอนไม่กลัวว่าถ้าห่มผ้าห่มแล้วมันจะเกะกะล่ะก็ เจ้าตัวคงจะพกผ้าห่มหนาๆไปด้วยทุกที่แน่
ตอนนี้คุณน้าข้างบ้านเลื่อนสถานะมาเป็นแม่เขาเรียบร้อยไปแล้ว แต่งงานกับพ่อของเขาไปเมื่อครึ่งปีก่อนเพราะอย่างนั้นตอนนี้เขาเลยบังคับให้แบคฮยอนย้ายข้าวของมานอนที่บ้านหลังนี้ได้แล้ว แต่ก็นั่นแหละแฟนเขาดื้อน้อยเสียเมื่อไหร่ ไม่ยอมขายบ้านข้างๆทิ้งอ้างเหตุผลว่าถ้าทะเลาะกันอย่างน้อยจะได้มีที่ไป ไม่ต้องมาทนอยู่บ้านหลังเดียวกันให้ขุ่นเคืองใจ
ร่างสูงนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในบ้าน เปิดฮีทเตอร์สู้อุณหภูมิข้างนอกที่กำลังติดลบให้คนตัวเล็กได้อบอุ่น แต่แบคฮยอนก็ยังคงเป็นแบคฮยอน เจ้าตัวกำลังนอนหนุนตักเขาส่วนตัวก็ถูกพันไว้ด้วยผ้านวมผืนใหญ่ แบคฮยอนจะนอนนิ่งๆแบบนี้เป็นประจำในฤดูหนาวราวกับหมีจำศีล
“ตื่นแล้วหรอ”
ปีที่สี่
ปกติแบคฮยอนเมาแล้วจะนิ่งๆ......
แต่ทำไมวันนี้เมาแล้วอารมณ์ดีก็ไม่รู้......
[พี่ชานโยนนนนนน โหล๋]
“เซฮุนอยู่ข้างๆใช่มั้ย เอาโทรศัพท์ให้เซฮุน”
[อะไร โทรหาแฟนแต่จะคุยกับเพื่อนแฟนหรอ พี่นี่มันยังไงวะ]
“นี่โทรศัพท์เซฮุนไม่ใช่หรือไง.....”
ปาร์คชานยอลขยับเปลี่ยนเกียร์เมื่อติดไฟแดง เขาขมวดคิ้วนิดหน่อยเมื่อพบว่าวันนี้แบคฮยอนเมามากกว่าปกติ ไม่รู้ว่าใครให้ดื่มอะไรกันแน่ถึงได้พูดมากขนาดนี้ โอเซฮุนส่งข้อความมาหาบอกว่าแบคฮยอนกำลังเมาและเรื้อนมากเขาเลยขับรถออกมาช่วงเที่ยงคืนทั้งๆที่อนุญาตให้อีกคนไปนอนค้างกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าเมาแล้วเรื้อน เขาคิดว่าพากลับบ้านน่าจะปลอดภัยกว่า
ปีที่ห้า
สุดท้ายแล้วเขาได้แต่โทษตัวเองว่า เขากำลังหมกมุ่นมากเกินไป
ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างปกติ ตื่นเช้ามาเขาไปทำงานแบคฮยอนไปเรียน พอตกเย็นเขากลับมาก่อนและขับรถออกไปรับอีกคนตอนช่วงดึกๆเพราะงานที่คณะนั้นเยอะเหลือเกิน วันไหนพิเศษหน่อยเขาก็จะได้กินกับข้าวฝีมือของแบคฮยอนที่ได้กลับบ้านเร็ว หลังจากนั้นก็อาบน้ำ นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันนิดหน่อยและเข้านอน
วันนี้ก็เป็นเหมือนปกติ ปาร์คชานยอลหยิบหนังสือมานั่งอ่านบนเตียงรออีกคนกำลังอาบน้ำ ช่วงนี้แบคฮยอนดูเครียดมากกว่าปกติไม่รู้ว่าเป็นเพราะเดือนหน้าจะสอบกลางภาคหรือว่างานที่ทำกำลังมีปัญหากันแน่
ปีที่หก
พอถึงเวลา ปาร์คชานยอลก็ได้แต่บอกว่า แบคฮยอนจะต้องชดใช้....
“อะ.....จะทำอะไร”
“ยืมมือหน่อย” หลังจากที่เสร็จภารกิจรักยกแรกไป แบคฮยอนที่กำลังนอนหอบก็ร้องขึ้นมาเมื่อจู่ๆอีกคนก็จับมือของเขาไปกุมเอาไว้ พอมองตามมันก็หยุดอยู่ที่กลางลำตัวของอีกคน ปาร์คชานยอลส่งสายตามาทางเขา ใบหน้าหวานแดงกว่าเดิมเมื่อมือใหญ่กำลังบังคับให้มือของเขาขยับเข้าไปใกล้
“จะ...จะทำอะไร”
“เรารู้หรือเปล่าว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ต้องทำยังไง”
“ทำอะไร?”
“ถามแบบนี้คือไม่รู้ หรืออยากทำให้ดูกันแน่”
ชานแบคหนีไปฮันนีมูน
[แม่ไปเล่นเกมชิงรางวัลมาอีกแล้วล่ะ]
“ป้าก็ขยันเสี่ยงดวงจังเลย นี่อีกนิดผมว่าก็ไปเข้าบ่อนได้แล้วล่ะ”
[เข้าบ่อนอะไรกันนี่....เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวจะโดน]
“อะๆ ไหนป้าไปชิงโชคได้อะไรมา”
[ตั๋วKTXไปพูซานพร้อมที่พักแถวหาดแฮอึนแดสองคืน]
“หูยยยยย อย่างนี้ป้าก็หนีเที่ยวอีกแล้วอะดิ”
[ไปได้ที่ไหนล่ะ พ่อติดประชุมประจำปีที่บริษัทสามวันรวด]
“อ้าว....แล้วทำไงอะ”
[ก็จะให้แกไปกับพี่ชานยอลแทนไง]
ถึงมันจะฟังดูน่าเที่ยวขนาดไหนแต่เขาเองก็ยังไม่พร้อมจะออกไปเที่ยวตอนนี้ ไปกันสองต่อสองมันไม่ต่างอะไรกับไปฮันนีมูนเลยไม่ใช่หรือไง เขาอ้างไปว่าชานยอลไม่ว่างติดประชุมเหมือนกัน แต่แม่กลับล้ำกว่านั้นโทรไปยืนยันกับชานยอลอีกทีโดยที่เขายังไม่ทันได้เตี๊ยมกับอีกคนเลยด้วยซ้ำเพราะอย่างนั้น.....
แบคฮยอนและปาร์คชานยอลเลยมานั่งอยู่บนรถไฟสายด่วนตรงไปพูซาน ตามตารางเวลาคือใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงกว่าซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่กำลังดีไม่เร็วและไม่ช้าเกินไป แม่จัดการเตรียมขนมให้มานั่งกินบนรถมีเค้กข้าวร้อนๆพร้อมกับนมกล้วยกันอีกคนละขวด
“จะนั่งริมหน้าต่างมั้ย?”
“พี่อยากนั่งป่าว?”
“ตามใจเรานั่นแหละ”
“งั้นผมขอนั่งริมหน้าต่างแล้วกัน” ว่าจบก็ขยับตัวเองเข้าไปด้านในแล้วปลดกระเป๋าสะพายตัวเองมาวางไว้บนตัก คนตัวสูงจัดการเก็บกระเป๋าเดินทางเอาไว้เหนือศีรษะแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆบ้าง แบคฮยอนชะเง้อคอมองภายในตัวขบวนที่มีผู้คนกำลังเดินหาที่นั่งของตัวเองก่อนจะหันไปหาคนข้างๆที่กำลังหยิบหนังสือออกจากกระเป๋ามาวางไว้บนตัก
“พี่นี่ชอบอ่านหนังสือเนาะ”
“แต่ยังไงก็ชอบแบคฮยอนที่สุดนะ”
ปาร์คชานยอลเล่นกูละไง....
บยอนแบคฮยอนผู้ที่รักปาร์คจุนฮีสุดหัวใจ
“นี่ไปฮันนีมูนรอบที่เท่าไหร่แล้วป้า ไม่รู้จักแก่ซักทีนะ”
[ไม่ได้ไปฮันนีมูน เอ๊ะ ก็บอกว่าตามพ่อเขาไปทำงาน]
“กลับมาคราวนี้อย่ามีน้องให้จุนฮีละกัน ไปทำงานน่ะ”
[มีน้องอะไรกันเล่าแกนี่นะ ให้แม่แก่บ้างเถอะ]
“แม่น่ะแก่ แต่พ่อน่ะสิจะยอมแก่รึเปล่า”
[ลามปามแล้วนะแก...]
“อ้าว แล้วอย่างนี้จุนฮีล่ะ?”
[ทำไม? ก็อยู่ที่บ้านไง]
“กับพวกแม่บ้านอะนะ?”
[ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ]
“ฮื่อ ให้น้องมาอยู่กับผมดีกว่า อยู่แบบนั้นน่ะเฉาตายกันพอดี”
[เอางั้นหรอ? ถ้างั้นแม่จะลองถามน้องให้แล้วกันนะ]
แบคฮยอนสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเขาเป็นคนที่รักน้องสาวมากที่สุดในสามโลก
อย่างเช่นวันนี้ที่เขายอมออกจากที่ทำงานเร็วเพื่อที่จะไปรับปาร์คจุนฮีน้องสาวสุดที่รักที่บ้านใหญ่ เพราะปาร์คชานยอลบอกว่าติดประชุมยาวเลยทำให้เขาได้รับหน้าที่นี้ เขามาถึงที่หน้าบ้านเวลาหกโมงเย็นเนื่องด้วยรถติดนิดหน่อยแต่ถึงอย่างนั้นพระอาทิตย์ก็ยังไม่ตกดินหรอกนะ
“จุนฮียาาา~ แบคฮยอนโอปป้ามารับแล้วน้าา จุนฮียาาา~”
“คุณหนูอยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ” หัวหน้าแม่บ้านเดินมาหาร่างบางที่กำลังส่งเสียงเรียกน้องสาวคนเล็กด้วยความอารมณ์ดี พอได้รับพิกัดมาเขาก็ไม่รอช้าที่จะตรงดิ่งเข้าไปในห้องรับแขกของบ้านพบร่างเล็กกำลังนั่งดูโทรทัศน์ ปาร์คจุนฮียังไม่อาบน้ำ แบคฮยอนย่องเข้าไปทางด้านหลังก่อนจะสวมกอดน้องสาวที่อายุห่างกันยี่สิบปี
“จ๊ะเอ๋?”
ฟุ่บ!
“ย่าห์! ปาร์คจุนฮี!!”
ทันทีที่สวมกอดยัยน้องสาวตัวแสบก็เอาหมอนอิงตบเข้าที่บ้องหูเขาอย่างจังจนแบคฮยอนต้องโวยวายออกมา ร่างเล็กในชุดนักเรียนขยับลุกขึ้นยืนปรายตามองพี่ชายตัวเองเพียงเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอีกตัว
“นี่ พี่ชายของเธอมารับแล้วนะ จะไม่ไปหรือไง”
“ก็ใช่น่ะสิ ใครบอกว่าฉันจะไปกับนาย”
“ไม่ไปกับพี่แล้วจะไปกับใครหื้อ?”
“พี่ชานยอล” แบคฮยอนกลอกตาไปมาด้วยความเหนื่อยหน่ายเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อของอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งอยู่บนโซฟา หยิบหมอนมาวางบนตักแล้วตบมันเบาๆพยายามจะไม่ให้ฝุ่นคลุ้งมากนัก
“คำก็พี่ชานยอล สองคำก็พี่ชานยอล พี่แบคฮยอนคนนี้เป็นคนที่รักเธอมากกว่าชานยอลอีกนะจุนฮียา!”
“หยุดพูดอะไรที่น่าขนลุกเถอะนะ”
อีกคนหันมาพูดหน้าตายแล้วก็เลือกที่จะหันกลับไปสนใจโทรทัศน์มากกว่า แบคฮยอนหน้าสั่นไปชั่วครู่แต่ก็ไม่ลดละความพยายามเขาขยับตัวเข้าไปใกล้น้องสาวให้มากขึ้น
“ชานยอลเป็นคนบอกให้พี่มารับ เพราะฉะนั้น....”
“พี่ชานยอล จุนฮีนะ” อื้อหือ...นี่นอกจากจะไม่ฟังเขาแล้วยังมีการโทรไปหาปาร์คชานยอลอีกต่างหาก
แบคฮยอนได้ยินแบบนั้นก็กลอกตาแบบทวนเข็มนาฬิกาก่อนจะขยับตัวถอยออกมา คนที่ได้ชื่อว่ามักจะเย็นชาเวลาอยู่กับเขาตอนนี้กำลังยิ้มออกมานิดหน่อยเมื่อกำลังคุยโทรศัพท์กับพี่ชายคนโต น้ำเสียงเรียบๆรับคำกับคนในสายอีกสองสามครั้งแล้วจึงกดวาง
“ไปไหนอะ” พอวางสายร่างเล็กก็ลุกขึ้นยืน แบคฮยอนเลยรีบร้องทักเอาไว้ ปาร์คจุนฮีหยุดยืนอยู่ที่ประตูแล้วเอ่ยปากตอบโดยที่ไม่หันกลับมา
“จะไปเอากระเป๋าเสื้อผ้า ตกลงจะให้ไปมั้ย บ้านนายน่ะ”
จุ๊ๆ ไม่เอาไม่กดแบน นี่แค่เสี้ยวเดียวนะ
คิดว่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องจากชานมึนเป็นชานกามละ
55555555555
ตอนอื่นๆจะตามมาค้าบบ
ความคิดเห็น