คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ช า น มึ น : ต อ น จ บ
ต อ น จ บ
ปาร์คชานยอลไม่ได้ล้อเล่น
เห็นหน้ายิ้มๆแบบนั้นเอาจริงนะนั่น
เมื่อคืนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครั้งแรก....ล่อไปสาม
เกือบจะหอบผ้าหอบผ่อนหนีกลับไปบ้านใหญ่แล้ว แต่อีกคนดันยึดกุญแจรถไปเสียก่อนเลยทำได้เพียงนั่งระบมอยู่นิ่งๆโดยที่ปาร์คชานยอลกำลังเก็บกวาดบ้าน รวมถึงอาหารที่ยังคงวางอยู่บนโต๊ะ ดีว่าที่ไม่มีอะไรเสีย ไม่อย่างนั้นเขาได้บ่นชานยอลอีกยาวแน่ๆ
เห็นท่าทางเก้ๆกังๆก็อยากจะลุกไปช่วยแต่อีกคนก็บอกให้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆรออยู่บนโซฟาเท่านั้น แบคฮยอนก็แสนจะเชื่อฟังและไม่ลุกไปไหนเมื่อมีผลไม้วางอยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาประหลาดๆแต่มันก็เป็นฝีมือของคนที่กำลังพยายามทำเพื่อเขา
แบคฮยอนกดถ่ายรูปเก็บเอาไว้แล้วนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ดึงความสนใจจากคนที่กำลังเดินเอาทิชชู่มาให้ได้เป็นอย่างดี “หัวเราะอะไร”
“เปล่า....กับข้าวเก็บหมดแล้วอ่อ”
“ใช่ ขอรางวัลด้วย” ว่าจบก็ทำแก้มป่อง แบคฮยอนเลยเบ้ปากก่อนจะเอามือดันแก้มป่องๆนั่นให้ยุบไป “ทีผมทำตั้งเยอะยังไม่เคยขอรางวัลจากพี่เลย”
“อ้าว อยากได้หรอกหรอ มาสิ”
ทำหน้ามึนก่อนจะขยับเข้ามาใกล้แล้วหอมแก้มซ้ายขวาก่อนจะพรมจูบไปทั่วหน้าจนแบคฮยอนต้องหลับตาปี๋แล้วหยิบหมอนทางด้านหลังมาอุดปากอีกคนเอาไว้ก่อนที่หน้าจะช้ำไปมากกว่า เขาทำหน้าย่นนิดหน่อยก่อนจะหยิบแอปเปิ้ลมากิน
วันนี้ทั้งวันหมดไปกับการนั่งๆนอนๆดูหนัง ก่อนที่สุดท้ายตอนเย็นปาร์คชานยอลพากลับไปที่บ้านใหญ่เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องลำบากทำกับข้าว แน่นอนว่าพอลงจากรถร่างเล็กๆของน้องสาววัยสองขวบก็วิ่งเข้าหา
เข้าหาปาร์คชานยอล
ให้ตายสิมันน่าน้อยใจจริงเชียว อยู่เล่นด้วยกันตั้งหลายวันแต่สุดท้ายก็รักชานยอลมากกว่า
ฝ่ายคนที่ไม่กลับบ้านหลายวันพอเห็นน้องสาววิ่งมาหาก็อ้าแขนรับก่อนจะอุ้มร่างเล็กมากอด ทำปากจู๋นิดหน่อยเพื่อให้จุนฮีจุ๊บปากพอน่ารักก่อนที่จะพากันเดินเข้าบ้านไปทิ้งให้แบคฮยอนยืนเก้ออยู่คนเดียว
เอ้า...เออ ตอนมานี่ยังแทบจะอุ้มเข้ารถ พอตอนนี้ก็เดินหนีไปเลยซะงั้น
ปาร์คชานยอลรักเด็ก รักเด็กมากถึงขนาดที่ว่าถ้ามีประกวดมิสเตอร์โคเรียแล้วมีให้ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะได้คะแนนในพาร์ทนี้ร้อยยี่สิบเต็มร้อยเลยอะไรประมาณนั้น
มีแม่บ้านสองสามคนเดินมาดูว่ามีอะไรที่จะต้องแบกเข้าบ้านไหม แต่พอมือน้อยโบกปัดก็ยิ้มให้ก่อนจะขอตัวเข้าบ้าน แบคฮยอนเดินช้าๆ เขาไม่อยากจะขยับตัวให้รุนแรงมากนักเพราะกลัวว่าจะทำให้เจ็บตัวเสียเปล่าๆ
“ทำไมเดินช้าล่ะลูก มีอะไรรึเปล่า?”
พ่อเดินออกมาก่อนจะทักพอเห็นเขาเดินอย่างกับเต่าคลาน แบคฮยอนเลยยิ้มแหย “ไม่มีอะไรครับ”
“แน่ใจนะ?”
“ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย”
“งั้นปะ ไปกินข้าวกัน”
ที่จริงเวลาเดินเร็วๆมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมายขนาดนั้น แต่แบคฮยอนไม่อยากเดินให้ผิดท่ากลัวว่ามันจะระบม พ่อจูงมือเขาเข้าไปในบ้านเดินเลยไปยังห้องอาหาร ดวงตาคู่เล็กเหลือบไปมองปาร์คชานยอลที่กำลังจัดแจงเจ้าหญิงของบ้านให้นั่งลงข้างๆตัวเองพลางผูกผ้ากันเปื้อนให้
โอ้โห....ผมนี่เบะปากเลยครับ
“มองแบบนั้นอยากได้ผ้ากันเปื้อนหรอ?”
“เอาไปผูกคอตัวเองเถอะไป”
“พูดจาไม่น่ารัก น้องก็นั่งอยู่”
โดนแม่เอ็ดเข้าเบาๆคนก็ทำหน้าหรอหรา ให้ตายสินี่เขาไม่ได้พูดว่าให้ไปผูกคอตายซัดหน่อยทำไมแม่ถึงได้ทำท่าราวกับว่ามันเป็นคำพูดคอขาดบาดตายขนาดนั้น ปาร์คจุนฮีก็เหมือนเคยปรบมือด้วยความชอบใจที่เห็นเขาเจ็บตัว
ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องนะ จะแกล้งให้ร้องไห้ไปเลย
“แล้วเมื่อวานเป็นไงมั่ง”
“แค่กๆ!”
หลังจากที่ทานข้าวไปได้ซักพักแม่ก็เปิดประเด็นขึ้นมาจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับสำลักจนหน้าดำหน้าแดง เห็นแบบนั้นแม่เลยรีบส่งน้ำให้ก่อนจะช่วยลูบหลังเบาๆ
“เอ้าใจเย็นสิ ค่อยๆกิน”
“กะ...ก็แม่ถามไร แค่ก แค่ก”
“แม่หมายถึงกับข้าวเมื่อวานเป็นไง ได้เอาให้พี่ชานยอลกินหรือเปล่า หรือแอบกินคนเดียว”
เท่านั้นแหละก็แทบอยากจะมุดหน้าหนีลงใต้โต๊ะ เขาเห็นด้วยว่าปาร์คชานยอลแอบยกยิ้มราวกับจะเยาะเย้ยที่เขากำลังคิดไปไกล โอเค! แบคฮยอนยอมรับก็ได้ว่าตัวเองเป็นเด็กลามก แต่เขาจะไม่คิดไปไกลเลยถ้าหากว่าเมื่อวานแม่ไม่ได้เป็นคนทักเรื่อง'เวลาของปาร์คชานยอล'ขึ้นมา พอหันมองหน้าแม่ก็พบว่ากำลังยิ้มแบบเดียวกับที่ชานยอลยิ้มเลย
“ป้าอะ! ป้าแกล้งผมใช่มั้ยเนี่ย!”
“เอ้า แกล้งอะไรกัน ดูสิชานยอล ตัวเองสำลักข้าวเองแล้วยังจะมาโทษแม่”
“ก็แม่อะ!” ทิ้งให้หัวหน้าครอบครัวนั่งทำหน้างงในขณะที่คนถูกแหย่ก็หันไปเม้งทั้งแม่และปาร์คชานยอลที่กำลังหัวเราะออกมาด้วยความสนุกสนาน “คิดอะไรไม่ดีอยู่แหงๆ”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยชานยอล เพราะพี่เลย!”
“ทำไม? พี่ทำอะไร”
“ก็พี่......!” พอหันไปเห็นพ่อที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาฟังแบคฮยอนเลยงับปากเอาไว้ได้ทันก่อนจะส่งสายตาค้อนขวับไปหาคนที่กำลังนั่งทำตาโตราวกับว่าไม่รู้ความผิดที่ตัวเองได้ก่อไว้เมื่อคืน
คืนนี้จะหนีไปนอนคนเดียวเลย คอยดูเถอะเอ้า!
“ชานยอลแกล้งอะไรหรอ พ่ออยากรู้”
“...ไม่มีอะไรครับ”
หลังจากนั้นแม่กับปาร์คชานยอลก็ยิ้มอีกรอบทิ้งให้แบคฮยอนนั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว เอาเลย! รุมกันเลย!
พอทานข้าวเสร็จแบคฮยอนก็หนีขึ้นห้องนอนตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่าแม่บ้านสองสามคนกำลังค่อยๆรื้อผ้าปูที่นอนของเขาออก หนึ่งในนั้นหันมาเจอเขาที่กำลังยืนทำหน้ามึนพอดีเลยเป็นคนไขข้อสงสัยที่อยู่บนหน้า
“คุณผู้หญิงบอกให้เอาผ้าปูที่นอนไปซักน่ะค่ะ”
“อ่า....ตอนนี้?”
“ค่ะ แล้วคุณผู้หญิงก็ฝากมาบอกด้วยว่าถ้าหากคุณแบคฮยอนจะนอนที่นี่ให้ไปนอนห้องคุณชานยอลค่ะ”
แสบใช่เล่นเสียที่ไหน
แบคฮยอนเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะเดินกลับลงมาที่ชั้นล่าง เห็นปาร์คชานยอลกำลังเล่นกับจุนฮีแล้วก็ได้แต่มอง ปาร์คจุนฮีก็แบบนี้ เห็นใครหล่อกว่าก็พาลไปสนใจคนนั้น ไอ้อาทิตย์ที่ผ่านมาที่เคยรักกันดีนี่หายวับไปกับตาเดียวเพราะปาร์คชานยอลกลับมาบ้านนี่แหละ
น้อยอกน้อยใจคนเดียวเสร็จก็ตัดสินใจออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ตอนนี้เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วอากาศเลยไม่ได้หนาวจนถึงขั้นต้องใส่เสื้อหนาๆสามสี่ชั้น แต่ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับใส่เสื้อแขนเพียงชั้นเดียวแล้วออกมาเดินท้าลมหนาวในตอนกลางคืนแบบนี้ แบคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งกลางลานที่ไม่มีต้นไม้บังก่อนจะค่อยๆเอนตัวลง
จะว่าไป มันก็อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะครบหกปีแล้ว ถ้าถามว่ามันจะนานก็นาน แต่เอาเข้าจริงมันก็เหมือนผ่านไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้น เผลอแป๊บๆเขาก็เรียนจบแล้ว เผลอแป๊บๆแม่ก็แต่งงานใหม่ เผลอแป๊บๆปาร์คจุนฮีก็เดินได้
เผลอแป๊บๆก็เสียตัวเมื่อคืน
มันใช่เรื่องที่จะต้องพูดมั้ย....ตอบ
เขาถอนหายใจก่อนจะอดหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้ แหงล่ะ บนตัวเขายังมีรอยที่ปาร์คชานยอลทำไว้ประปรายอยู่เลย เมื่อเช้าตอนอาบน้ำนี่แทบจะไม่ส่องกระจก เห็นแล้วมันพาลให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนตลอด
แบคฮยอนก็คนมั้ย แหม แถมเป็นผู้ชายด้วย ยังไงก็หมกมุ่นอยู่ดีล่ะน่า
พอลมเย็นๆพัดผ่านร่างกายคนที่นอนอยู่บนพื้นถึวกับสะดุ้งขึ้นมานั่งกอดจะกอดแขนตัวเองเอาไว้แล้วลูบขึ้นลง ให้ตายสิเขาน่าจะหยิบเสื้อแขนยาวแถวนั้นมาอีกซักตัวจะได้ไม่หนาวขนาดนี้
“หนาวหรอ”
เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆทางด้านซ้าย แบคฮยอนมองอีกคนที่ใส่เสื้อเสียอุ่นแล้วก็เบ้ปาก
“ไม่หนาวเลย แค่นี้สบายมาก”
“ว้า...ว่าจะแบ่งเสื้อซะหน่อย”
“คนจริงเขาทำเลย ไม่มามัวพูดอยู่หรอก”
“ปากเก่งจังนะเรา”
คนมึนเอื้อมมือมาบีบปากเขาเสียหนึ่งทีก่อนที่จะถอดเสื้อตัวนอกออก ปาร์คชานยอลไม่ใช่สุภาพบุรุษจ๋าที่จะถอดเสื้อแล้วเอามาให้เขาสวมเพียงคนเดียว แต่ก็โรแมนติกมากพอที่จะจับให้เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วเอาเสื้อตัวใหญ่นั่นคลุมเราทั้งสองคนเอาไว้
“อุ่นแล้วดิ”
“หนาวกว่าเดิมอีก”
“งั้นคงต้องแก้ผ้าออกอย่างที่เขาบอกว่าให้หนาวเนื้อห่มเนื้อ”
“วันๆคิดแต่เรื่องแบบนี้หรือไง”
อดไม่ได้ที่จะเหวี่ยงใส่เบาๆ แต่ปาร์คชานยอลก็ไม่ทำอะไรนอกจากจะใช้มืออีกข้างที่ยังคงว่างจับมือเขาเอาไว้ ใช้โป้งเกลี่ยไปมาที่หลังมือก่อนจะยกขึ้นมาเพื่อกดจูบเบาๆที่แหวนจนแบคฮยอนเหวอไปนิดหน่อย
“คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายในนิยายหรอพี่”
“ที่พูดนี่เพราะอยากเป็นเจ้าหญิงใช่มั้ย”
“ทำไมขี้มโนงี้วะ ผมยังไม่ได้พูดไรเลยนะ”
โวยวายเข้าหน่อยก็โดนอีกคนจูบปิดปากเสียหนึ่งที พอผละออกแบคฮยอนก็จะโวยวายอีกรอบ แต่คนเอาแต่ใจก็ขยับเข้ามาจูบเบาๆอีกครั้งให้ได้เขินจนหน้าร้อนไปหมด ศีรษะเล็กเลยเอนซบคนข้างๆเสียเลย แม้ว่าปาร์คชานยอลจะทำแบบนี้อยู่บ่อยๆแต่ไม่มีซักครั้งที่เขาจะชินได้แต่เขินหน้าแดงให้ชานยอลได้แต้มนำไปตลอด
“นี่แบคฮยอน......”
“อือออ”
“มาเล่นเกมกันเถอะ”
“เกมไรของพี่อีกอะ”
“กติกาง่ายๆ นายตอบได้แค่คำว่าตกลง”
“นี่ไม่ใช่เกมแล้ว บังคับขืนใจกันชัดๆ”
“แต่ก็เห็นเมื่อคืนสมยอมนะ”
“เออ ผมจะเล่น! ว่ามา” ก่อนที่จะโดนล้อไปมากกว่านี้เลยรีบรับปาก คนเจ้าเล่ห์ยิ้มอารมณ์ดีก่อนจะกระชับวงแขนให้แน่นเข้ามาอีกหน่อยเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ใต้เสื้อตัวเดียวกันหนาวจนเกินไปนัก ปาร์คชานยอลเริ่มประโยคแรก
“ต่อจากนี้จะจูบกันอย่างน้อยวันละสองครั้ง ก่อนออกจากบ้านและหลังจากที่กลับเข้ามาในบ้าน”
“.....ตะ..ตกลง”
“ถ้าทะเลาะกันจะไม่หนีกลับมาบ้านใหญ่ จะโกรธหรือจะงอนอะไรจะไม่ยอมพูดก็ให้นั่งอยู่ที่บ้าน และถึงแม้ว่าจะยังไม่หายโกรธก็ต้องนอนเตียงเดียวกัน”
“...ตกลง”
“ต้องทำการบ้านอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง”
“การบ้านไรวะ เรียนจบแล้วนะยังจะ.....”
พอเห็นสายตาที่มองมาเท่านั้นแหละ แบคฮยอนก็เบิกตากว้างขึ้นมาก่อนจะเอามือทุบลงบนหน้าตักอีกคนอย่างที่ทำเป็นประจำพร้อมปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่โว้ย!”
“นี่อาทิตย์ละครั้งก็ปราณีแล้วนะ อย่าลืมว่าเรายังติดพี่อีก71ครั้งที่เป็นยอดเก่า ยังไม่รวมยอดใหม่ที่จะต้องรวมต่อๆไปด้วยนะ”
“ถ้าทำขนาดนั้นก็ไม่ใช่คนแล้วพี่! บ้าหรอ!!”
“ฮื่ออออ ตอบได้แค่คำว่าตกลง”
“ไม่!”
“ตกลงสิ”
“ไม่เอาอะ”
“งั้นเป็นอาทิตย์ละสองครั้ง”
“จะบ้าหรอ พี่ต้องลดลงดิวะ”
“อาทิตย์ละสามครั้ง....”
“โอเค! ผมตกลงที่อาทิตย์ละครั้ง”
“ต้องใช้คำว่าอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งต่างหาก”
เรื่องนี้ขอให้บอกรอบคอบยิ่งกว่าอะไร
สุดท้ายแล้วแบคฮยอนเลยโดนอีกคนมัดมือชกเข้าเต็มๆ ถึงจะฟึดฟัดไปหน่อยแต่เขาไม่คิดว่าปาร์คชานยอลจะทำจริงจังอะไรขนาดนั้น อย่างมากก็อาจจะได้แค่อาทิตย์ละครั้งแหละน่า
“แล้วก็....ข้อสุดท้าย”
“อาหะ”
“เราจะรักกันแบบนี้เรื่อยๆจนกว่าจะแก่”
“.....ตกลง”
“แต่งงานกันนะ”
“........”
“ไม่คิกว่าจะจัดงานอะไรหรอก เพราะรู้ว่าจะทำให้เราคิดมาก พี่แค่อยากได้พันธะสัญญาทางใจ”
“.......”
“ว่าเราจะไม่หนีไปไหน” นิ้วโป้งยังคงลูบวนอยู่ที่บนหลังมือของอีกฝ่ายด้วยความกังวลเพราะเห็นว่าแบคฮยอนเงียบไปนาน แต่แล้วก็สัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากก็โถมเข้าใส่ก่อนที่ร่างเล็กจะผละออกไป เขามองตามแบคฮยอนที่ตอนนี้ขยับตัวถอยไปนั่งข้างๆตามเดิม ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อนิดหน่อยด้วยความเขิน
“เมื่อกี้จูบสาบานไปแล้วนะ”
เขาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะจับเด็กข้างตัวมาจูบอีกครั้ง ส่งผ่านความรักทั้งหมดให้กับเด็กผู้ชายบยอนแบคฮยอนที่ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นคนที่จะต้องอยู่กับเขาไปอีกตลอดชีวิตแต่มันก็เป็นไปแล้ว ปาร์คชานยอลไม่เสียใจหรอกนะ
“รัก”
“อื้อ”
“รักนะ”
“อื้อออออ”
“รักนะแบคฮยอน”
“รู้แล้วน่า”
“........”
“ผมก็รักพี่เหมือนกันนั่นแหละ....ชานยอล”
------ GIDDY CHANYEOL -----
จบแล้ว
อุ่ย
สนใจรูปเล่มคลิ๊กย้อนกลับไปที่ตอนก่อนหน้านี้
ฟิคนี้ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของคนเป็นเฟรชชี่เนาะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนสุดท้าย
รักเสมอมาและรักตลอดไป
เลิ้บนะ อิ้อิ้ เขินจังไปดีกว่า
ความคิดเห็น