คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : หอแตก : 21
-21-
คิดว่าคำสั่งของพวกพี่ๆจะห้ามผมได้หรอ?
ผมคือบยอนแบคฮยอนน้องเล็กนะ! คนอื่นจะขัดใจได้ยังไง!
ผมแอบออกมาจากทางประตูหลังจากห้องครัว ดูเหมือนแม่เองก็ไม่ได้จริงจังกับการห้ามผมซักเท่าไหร่นัก ในตอนแรกก็ห้ามอยู่หรอกแต่พอซักพักก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผมเลยแอบขโมยจักรยานของลุงคนสวนมา คอกม้าอยู่ค่อนข้างไกล ไม่มีใครเดินเท้าไปที่คอกม้าเพราะทำติดกับทางขึ้นเขาเอาไว้ไปขี่ม้าเล่นกันที่นั่นเลยอยู่ที่ท้ายไร่
“เฮีย! เฮีย!!” ผมตะโกนเรียกเฮียคริสที่เดินออกมาจากคอกม้า พี่ชายผมขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะเปลี่ยนทิศเดินมาหาผมที่ทิ้งจักรยานแล้ววิ่งเข้าไปหา
“ชานยอลล่ะ?”
“โหยไรวะ มาถึงก็ถามหาชานยอล”
“แบคถามว่าชานยอลอยู่ไหน”
“เพิ่งเดินมาถึง ตอนนี้กำลังเตรียมตัวแข่งม้ากับพี่อีทึก”
“เดินมา!?” ผมตะโกนดังลั่นส่วนเฮียก็ยิ่งขมวดคิ้วหนัก อะไรวะ! ผมเห็นเอารถกอล์ฟมาแล้วทำไมไอ้ชานยอลต้องเดินด้วย แล้วไอ้ขี่ม้าแข่งกันนี่คืออะไร? ไอ้ชานยอลแพ้แหงอยู่แล้วเพราะพี่อีทึกแม่งเพิ่งได้เหรียญทองกีฬาขี่ม้าประจำจังหวัดมาอะ!
นี่แข่งกันเพื่อไร?
“เออ เดินมา ทดสอบพลังขา”
“ตลกแล้วเฮีย! แล้วนี่ชานยอลอยู่ไหน?”
“เฮียไม่ให้เจอ กลับบ้านไปแบคฮยอน” เฮียดูดุกว่าปกติผมเลยทำท่าฮึดฮัด แต่พี่คริสยังคงชี้ไปที่จักรยาน ผมเลยเบะปากทำท่าจะร้องไห้ไม้ตายประจำเวลาโดนขัดใจ
“แบค...อย่าทำแบบนี้”
“ทำไม....ทำไมเฮียไม่เชื่อใจแบคหรอ ที่แบคเลือกชานยอลเพราะมันเป็นคนดีนะ....ทำไมเฮียต้องทำเหมือนกับว่าแบคเลือกคนไม่ดีด้วย.....”
“แบค.....” เฮียคริสพูดเสียงอ่อนก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดพลางลูกศีรษะเบาๆ ส่วนผมก็แกล้งสะอึกสะอื้นสะดิ้งอยู่ในอ้อมอกของพี่ชาย สเตปต่อไปก็ยกมือกอดแล้วพูดน้องแบคอย่างโน้นน้องแบคอย่างนี้ เฮียคริสสยบอยู่แทบเท้าไอ้แบคฮยอนคนนี้นี่แหละครับ
จริตมีไว้ใช้กับพี่ไม่ได้มีไว้ใช้กับไอ้ชานยอล โอเคนะ?
ใช้กับไอ้ชานยอลแม่งกลายเป็นแมวยั่วสวาท เสียตูดกันพอดี!!
“เฮียเชื่อใจน้องนะ น้องไม่มีพวกแล้ว ฮึก.....”
“โอเค เฮียจะช่วยชานยอล เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วไม่ร้องนะ”
เห็นมั้ย สุดท้ายแล้วเฮียจะไปไหนรอดJ
เฮียคริสพาผมไปหาชานยอลที่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ มันทำหน้ายุ่งเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปหา ส่วนผมก็ไม่รอช้าพอเห็นหน้ามันก็เดินเข้าไปทันที “มึงเป็นบ้าหรอชานยอล!”
“เฮ้ยเดี๋ยว อะไรๆ”
“ทำอะไรเคยปรึกษากูมั่งมั้ยห่า นี่เคยคิดจะบอกกูมั้ย เรื่องนี้เป็นเรื่องของมึงคนเดียวหรอ!”
ผมโวยวายดังลั่นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วผลักไอ้ชานยอลหลายๆที เอาจริงๆคือฉุนมากครับเพราะเรื่องแบบนี้ควรจะรับผิดชอบกันสองคน นี่มันไม่ใช่นิยายฝ่าด่านแม่ผัว(?)บ้าบออะไรนั่นนะ ทำไมมันจะต้องรับผิดชอบคนเดียว ในเมื่อผมเลือกที่จะคบกับมันก็ต้องรับผิดชอบกันสองคนดิวะ
โอ้โห....พี่แบคหอสามโคตรแมน
“เป็นห่วงหรอ?”
“เออดิ!!!”
“เตี้ยแม่ง.....” ชานยอลพูดออกมาเบาๆก่อนจะเข้ามากอดผมเอาไว้ แม่งฟัดไปฟัดมาเหมือนฟัดกับลูกหมา ผมดิ้นก่อนจะทุบหลังมันเบาๆจนไอ้โย่งยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระ
“ของเล่นหรอ!!”
“ไม่ต้องห่วงนะเตี้ย”
“ไม่ต้องห่วงบ้าอะไร อ่อนปวกเปียกงี้ทำอะไรได้ด้วยหรอวะ”
“คอยดูก็แล้วกัน”
“........”
“กูจะทำทุกอย่างให้ได้คบกับมึงจริงๆ”
“......”
“ถึงตอนนั้นก็เตรียมรางวัลไว้ให้กูก็แล้วกันแบคฮยอนJ”
Chanyeol Part
ผมก็ปากดีไปงั้นแหละ.....ขี่มงขี่ม้าอะไร เคยเรียนแค่พื้นฐานพอให้ออกงานสังคมได้ไม่อายใคร แต่ถึงขั้นให้แข่งจริงจังบอกเลยว่าผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้
ผมหนีบหมวกกันน็อคไว้ข้างตัวก่อนจะสวมถุงมือสีเข้มทั้งสองข้างทดลองขยับนิ้วมือเพื่อความสะดวก ไอ้เปี๊ยกยอมกลับบ้านไปแล้วส่วนเฮียคริสก็เดินกลับเข้ามาหาผม “นี่เป็นแผนที่บนเขา”
“ครับ?”
“พี่อีทึกจะวิ่งไปทางนี้ซึ่งมันจะลัดแต่กูไม่คิดว่ามึงจะวิ่งได้ มันเป็นทางแคบกูไม่แนะนำ”
“........”
“มึงต้องไปทางนี้ ระยะทางอาจจะมากกว่านิดหน่อยแต่ปลอดภัยกับมึงมากกว่า อย่าวิ่งตามพี่อีทึกไป กูเตือนได้แค่นี้ ตามกติกาคือให้ถึงจุดเริ่มต้นเร็วที่สุด ถ้ามึงคุมม้าให้วิ่งเร็วได้กูคิดว่าไม่น่าจะยาก”
ผมฟังเฮียคริสอธิบายอย่างละเอียดแล้วพยักหน้าหน่อยๆ พยายามศึกษาเส้นทางให้เก็บลงในหัวให้ได้มากที่สุดถึงจะแอแบสงสัยนิดหน่อยว่าทำไมเฮียถึงยอมช่วยผมแต่ตอนนี้ก็คงต้องเชื่อไปก่อน แข่งขันคราวนี้คงไม่ถึงกับตายแต่ไม่ได้รับประกันว่าผมจะไม่เจ็บ
พี่ๆของแบคฮยอนแม่งน่ากลัวกันทั้งนั้น
“มึงขี่ตัวนี้แล้วกัน ของแบคฮยอน”
“อ้อ” เฮียคริสพาผมมาที่คอกม้าก่อนจะหยุดอยู่ที่เจ้าตัวสีน้ำตาล ดวงตาดำขลับจ้องมาทางนี้ ผมค่อยๆเอื้อมมือออกไปหวังจะลูบเข้าที่หัว ในคราวแรกมันจ้องเขม็งแต่ไม่นานนักก็ค่อยๆลดหัวของมันลงมาถูเข้ากับมือของผมอย่างออดอ้อน แม่งเหมือนเจ้าของมันไม่มีผิด
“กูฝากแบคฮยอนกับมึงได้ใช่มั้ยชานยอล”
ระหว่างที่กำลังจูงม้าออกมา เฮียคริสก็เอ่ยถามขึ้นเบาๆโดยไม่มองหน้า เหมือนที่ผมได้ยินเมื่อกี้เป็นแค่คำถามลอยลม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ตอบ “เฮียให้โอกาสมาแล้ว ผมจะทำให้ดีที่สุด”
“กูยังไม่ได้บอกซักหน่อย”
“เฮียถามแบบนี้ก็เหมือนให้แล้วนั่นแหละ” ผมหัวเราะออกมาเบาๆจนโดนเฮียคริสผลักหัวไปหนึ่งที เมื่อมาถึงลานปล่อยม้าเฮียคริสก็เดินผละออกไป ผมลูบหัวเจ้าม้าสีน้ำตาลที่แบคฮยอนตั้งชื่อให้มันว่า ‘เบค่อน’ เพื่อสร้างความคุ้นเคยก่อนจะยกขาซ้ายขึ้นเหยียบโกลน เอื้อมมือไปจับอานเอาไว้ยึดให้มั่นแล้วเหวี่ยงตัวขึ้นไปนั่งบนนั้น มันให้ความร่วมมือกับผมเป็นอย่างดี
ผมลองควบดูอยู่สองสามรอบรอบๆลานนั่นก่อนจะบังคับให้เบค่อนเดินไปหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ พี่อีทึกเองก็ขี่ม้าเข้ามาแล้วหยุดเจ้าม้าสีดำอยู่ข้างๆผม
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าทำไมถึงต้องแข่งกับผม”
“ครับ”
“ถ้าชนะผมจะยอมรับ”
“.......”
“แต่ถ้าแพ้ก็เลิกกับน้องของผมซะ เพราะมันจะพิสูจน์ไปแล้วว่าคุณไม่คู่ควร”
ภายใต้ใบหน้าหวานของพี่อีทึกที่กำลังฉีกยิ้มมันคือความโหดร้ายแบบขั้นสุด ผมพยักหน้าลงอย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตามผมต้องชนะ งัดสกิลขั้นเทพของตัวเองออกมาสู้ให้หมด ผมใช้เท้าเคาะเข้าที่ท้องของเจ้าเบค่อนน้อยๆให้มันตื่นตัว และเมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นผมก็ออกตัว
พี่อีทึกออกตัวมาพร้อมกัน เบค่อนดูตื่นๆนิดหน่อยแต่ผมก็บังคับได้ แดดช่วงสิบเอ็ดโมงนี่ไม่เบาเลยครับ แต่วินาทีนี้ช่างแม่งแล้วกัน มีป้ายบอกทางอยู่ตามทางทำให้ผมไม่ลำบากมากในการขี่ม้า พี่อีทึกควบเจ้าม้าสีดำมาอยู่ข้างๆ ใบหน้าหวานนั่นหันมามองนิดหน่อยก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นและแซงขึ้นหน้าไป
ชิบหายแล้วครับ....นั่นแม่งระดับโปรแล้วล่ะ
ผมใช้น่องตบเข้าถี่ๆเพื่อเร่งความเร็ว ก่อนจะพุ่งตรงขึ้นไปด้านหน้าเมื่อพี่อีทึกเริ่มจะเลี้ยวเข้าทางลัดและนั่นทำให้ผมรู้ว่าด้วยความเร็วเท่านี้คงไม่พอแล้ว เจ้าเบค่อนเหมือนจะรู้ใจมันเพิ่มความเร็วขึ้นให้ทันใจก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ทางแยกก่อนที่ภาพในแผนที่จะผุดขึ้นมาในหัวผมอีกครั้ง ผมควรจะต้องตรงไปก่อน
อย่างนี้แหละดี อะไรที่ได้มายากๆ มันจะอยู่กับผมนานๆเสมอล่ะ
เหมือนกับจักรยานคันแรกที่ผมขอให้พ่อซื้อ จนถึงตอนนี้ก็ยังใช้มันอยู่เพราะท่านยื่นเงื่อนไขว่าผมจะต้องไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกาสามเดือน อาจจะฟังดูง่ายๆแต่สำหรับเด็กที่เกลียดภาษาอังกฤษมากอย่างผมนี่เป็นอะไรที่ทำให้ต้องทะเลาะกันอยู่หลายวัน แต่สุดท้ายผมก็ยอมไป
แต่คิดไปคิดมา ทุกอย่างมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น
ตอนนี้ผมเตรียมลงจากเขา หน้าเน่อนี่ไหม้ไปหมดแล้วครับไม่มีเวลาจะมาหลบแดด ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปยังไงให้ทัน ไม่นานนักผมก็เห็นหลังของพี่อีทึกไวๆ ภาวนาว่าขอให้เบค่อนฮึดกว่านี้อีกนิดเพื่อจะได้ไล่กวดให้ทัน
อ้าวเฮ้ย!! ชิบหาย!! พี่ทึกตกม้า
เหมือนเจออะไรซักอย่างขวางทางอยู่ทำให้ต้องหยุดม้ากะทันหันและจนในที่สุดก็ไถลตกลงมา ผมค่อยๆชะลอก่อนจะหยุดแล้วรีบลงจากม้าไปดูอาการ
“พี่อีทึกเป็นอะไรรึเปล่า?”
“....เจ็บ เดี๋ยวอย่าเพิ่ง”
พอผมทำท่าจะพยุงพี่อีทึกขึ้นมาเจ้าตัวก็ร้องห้ามผมเอาไว้ก่อนจะค่อยๆยกแขนยกขาตัวเองดูเพื่อทดสอบแล้วจึงพยักหน้าให้ผมพยุงตัวขึ้นได้ “ขึ้นไหวไหมครับ?” ถามด้วยความเป็นห่วง มองดูแล้วผมว่าไม่น่าจะพาม้ากลับไปได้เมื่อจะขยับตัวเดินพี่คนรองของตระกูลบยอนก็ร้องขึ้นมาเบาๆ
และในที่สุดผมก็ตัดสินใจพาตัวเองขึ้นบนหลังม้าตัวที่ใหญ่กว่าพร้อมๆกับพาพี่อีทึกที่มีอาการเจ็บข้อเท้าขึ้นมาด้วยแล้วค่อยๆพาทั้งตัวเอง คนเจ็บและม้าอีกสองตัวกลับไปยังจุดเริ่มต้น ใช้เวลาพอสมควรและใช้ความเร็วมากไม่ได้ เมื่อมาถึงยังเขตของไร่บยอนคนดูแลม้าก็มารับช่วงต่อพาเจ้าเบค่อนไปพักส่วนพี่แบคบอมก็เข้ามาดูอาการ
“ตามหมอให้พี่หน่อยคริส”
เมื่อได้ยินคำสั่งจากพี่คนโตเฮียคริสก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วยกโทรศัพท์กดโทรตามที่บอก พี่แบคบอมอุ้มน้องชายของตัวเองลงจากหลังม้าหลังจากนั้นผมจึงลงตาม ค่อยๆประคองตัวอีกคนไปพักอยู่บนเก้าอี้
“ทำอีท่าไหนถึงตก ไอ้ชานยอลแกล้งหรือไง”
“หะ?”
“ไม่ใช่หรอกพี่บอม มันมีกระรอกวิ่งออกมาหยุดยืนแถมไม่ยอมหลบเลยเป็นแบบนี้แหละ”
“เหอะ”
“คุณทำได้ดีนะชานยอล”
“ครับ?” ผมขานรับอย่างงงๆ พี่อีทึกส่งยิ้มให้ผมส่งผลให้ใบหน้าหวานนั่นดูใจดีขึ้นมากเป็นกอง และนั่นทำให้ผมต้องยิ้มตอบพลางยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองหน่อยๆ
“ผมให้คุณผ่าน”
นี่ดีใจยิ่งกว่าสอบได้ที่หนึ่งตอนมอต้นอีกครับ J
End Chanyeol Part
“เฮ้ยยยยย พี่ทึกเป็นไร!”
ผมร้องเสียงหลงก่อนจะเข้าไปดูคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านถูกหิ้วปีกเข้ามาด้วยพี่แบคบอมและเฮียคริสส่วนชานยอลก็เดินตามเข้ามาด้านหลัง พ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ก็ตกใจไม่ใช่น้อย “นี่ไปทำอะไรกันมาเนี่ย”
“อุบัติเหตุนิดหน่อยครับพ่อ ทึกตกม้า”
“ตกม้า! ชานยอล! มึงแกล้งพี่กูอ่อ?”
“แบคฮยอน ก็พี่อีทึกบอกอยู่ว่าเป็นอุบัติเหตุทำไมไปโทษเพื่อนแบบนั้นล่ะ” แม่ปรามผมด้วยน้ำเสียงและสายตาทำให้ผมต้องยอมรามือออกมาจากชานยอล พี่อีทึกค่อยๆนั่งลงบนโซฟาก่อนจะกวักมือเรียกผมให้ไปนั่งข้างๆแน่นอนว่าไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งทันที
“เจ็บมั้ย?”
“นิดหน่อย เห็นหน้าแบคก็ไม่เจ็บแล้ว ไอ้ลูกหมาของพี่ห้ามงอแงสิ”
“ก็พี่ทึกตกม้า ปกติเคยที่ไหน”
“ใครว่าไม่เคย ขี่ม้าแรกๆออกจะบ่อย”
“แต่ไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้ซักหน่อย” ผมทำหน้าง้ำก่อนจะซบลงที่บ่าของพี่คนรอง
“แค่นี้พอแล้ว ไปหาน้ำให้ชานยอลเถอะไป” พี่อีทึกกดจูบลงบนศีรษะของผมเบาๆก่อนจะไล่ให้ไปหาน้ำให้กับคนที่ยังยืนอยู่ พี่แบคบอมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องแล้วสั่งให้แม่บ้านที่เดินผ่านมาเป็นคนหาน้ำมาให้แทน เห็นอย่างนั้นผมเลยเดินเข้าไปหาชานยอล ไม่วายโดนพี่คนโตมองตาม
“ขอบใจ”
“เรื่อง?”
“พี่กู นึกว่ามึงจะเอาชนะด้วยการวิ่งกลับมาคนเดียว”
“พี่เมียไม่ช่วยได้ไง”
“ตลก!” ผมต่อยท้องไอ้คนปากเสียไปที อย่างว่าแหละครับแอคติ้งของมันเว่อร์เกินจริงตลอดผมเลยโดนแม่เอ็ดอีกครั้งในรอบวัน “แบคฮยอนอย่าแกล้งเพื่อนแรงๆสิลูก!”
“คร้าบ คร้าบบ คร้าบบบบบ”
ไม่ทันไรก็ฉายแววว่าแม่จะรักชานยอลมากกว่าผมซะแล้ว L
เมื่อทานข้าวกลางวันเสร็จทั้งสามคนก็หายตัวไปอีกครั้ง แม้แต่พี่อีทึกที่ขาเจ็บผมก็ไม่เห็นว่าพี่จะอยู่ในห้อง
นี่หายไปไหนกันอีกวะ
ผมเดินลงมาชั้นล่าง แม่บ้านกำลังเดินถือชุดเทควันโด้เดินผ่านหน้าไป ก่อนที่เธอจะไปไหนไกลผมก็รีบวิ่งไปขวางหน้าเอาไว้พลางเอ่ยปากถาม “จะเอาไปไหนครับ?”
“คุณชายแบคบอมสั่งให้นำไปให้ที่ห้องซ้อมค่ะ”
“ห้องซ้อม? แล้วคนอื่นๆล่ะ”
“ก็อยู่ที่ห้องนั้นค่ะ” ผมพยักหน้าหน่อยๆก่อนจะอาสาเป็นคนถือเสื้อผ้าทั้งหมดไปด้วยตัวเอง เดาได้ไม่ยากว่าพี่แบคบอมกำลังหาทางเล่นงานชานยอลอยู่ เมื่อเปิดประตูบานใหญ่เข้าไปก็พบว่าชานยอลกำลังวอร์มร่างกายอยู่ ผมวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะตัวใหญ่แล้วเดินเข้าไปหา
“หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วนะมึงอะ คิดว่าเท่มากหรอ?”
“ก็....ช่วยไม่ได้นี่นะ เหลือแค่คนเดียวเองเตี้ย”
“หยุดเรียกกูว่าเตี้ยเหอะ เดี๋ยวให้พี่แบคบอมเตะแม่ง....”
ผมว่าพลางทำท่ายกขาขึ้นตวัดเตะเข้าที่สะโพกของอีกฝ่ายเบาๆ ไอ้ชานยอลหัวเราะเหมือนกับเป็นเรื่องตลกก่อนจะมองผมด้วยสายตาจริงจังซึ่งทำเอาหน้าร้อนผ่าวไปหมด รู้สึกว่านับวันตัวผมจะแพ้ให้กับชานยอลบ่อยเข้าไปทุกที
“แบคฮยอน...”
“เออ”
“ให้กำลังใจหน่อย” ไม่ว่าเปล่ายังอ้อนด้วยการจับมือทั้งสองข้างของผมขึ้นมากุมเอาไว้พลางขยับตัวเข้ามาใกล้เพียงเล็กน้อย หน้าที่ร้อนในตอนแรกตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกับว่าจะละลายไปทั้งตัว ผมก้มหน้างุดไม่ยอมเงยหน้าทำซ่าเหมือนอย่างเคย
“เร็วเข้า เดี๋ยวพี่แบคบอมมาก่อนนะ”
“ยังผ่านด่านไม่ครบก็อย่ามาลวนลามน้องคนอื่นเขาแบบนี้สิวะ”
ผมงึมงำเบาๆก่อนที่ปาร์คชานยอลจะกระชับมือที่กุมมือผมให้แน่น ครางหงิงๆขอความเห็นใจเหมือนลกสุนัขก็ไม่ปาน ผมกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นอย่างใช้ความคิด
ไม่ไหวแล้วโว้ย!! ใคร!! ใครบอกให้มันทำแบบนี้ ตอบ!!!
“ถอยห่างจากแบคฮยอนสามร้อยเมตร....เดี๋ยวนี้ คุณชานยอล!”
ยังไม่ทันจะได้ให้กำลังใจอย่างที่อีกคนขอเสียงของพี่แบคบอมก็ดังขึ้นเสียก่อน ปาร์คชานยอลเลิกทำหน้าอ้อนก่อนจะขมวดคิ้ว มันแตะริมฝีปากลงบนจมูกผมแผ่วเบาแล้วผละออกไปอย่างเร็ว
“ไอ้…..!!!”
ไม่ใช่ผมที่สบถเพราะกำลังตกใจที่ไอ้โย่งกล้าจะทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าพี่ชายคนโตที่ดีกรีความหวงน้องตอนนี้แม่งพุ่งปรี๊ดทะลุหลอดไปแล้ว เมื่อไม่เห็นผมขยับร่างสูงๆของพี่แบคบอมก็เดินเข้ามาก่อนจะลากผมให้เดินออกมาจากตรงนั้นแล้วจับให้นั่งแหมะอยู่บนเก้าอี้ข้างสนาม
ไอ้ชานยอล...ตาย ตายจริงๆ
ใครใช้ให้มันมาทำแบบนั้นต่อหน้าพี่ผม โหยยไอ้ห่า! เป็นประธานนักเรียนซะเปล่าประเมินสถานการณ์แค่นี้ไม่เป็นไงวะ! ผมขอปลดตำแหน่ง ปลดตำแหน่งมันลงไป!! เพราะหลังจากนี้มันจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อเพื่อหายใจแล้ว!
“จะไม่ให้มันผ่านก็เพราะอย่างนี้แหละ” พี่อีทึกที่นั่งอยู่ข้างๆพูดพลางเขี่ยปลายจมูกของผมตรงที่โดนจูบเบาๆ
“แล้วนี่โซเดมาคอมกันยัง”
“ห๊ะ?”
“โอเค...เซ็กส์อะ เซ็กส์”
“พี่อีทึก!!” ผมตะโกนดังลั่น จนทุกคนหันมามอง หน้างี้ร้อนยิ่งกว่าตอนที่โดนลักจูบที่จมูกเมื่อกี้อีกครับ แต่พี่ชายคนรองของผมยังทำหน้าเหมือนกับเมื่อกี้เราคุยกันเรื่อง ‘ชานยอลเรียนเก่งมั้ย’ อะไรประมาณนั้น
“ซะ...เซ็กส์เซิกอะไร”
“อย่าให้เสียชาติเกิด ลูกผู้ชายห้ามโดนแทง”
“นะ...นี่พี่ทึกสนับสนุนให้แบคไปโซเดมาคอมกับมันหรือไง” ผมพูดออกมาอย่างรัวก่อนที่พี่อีทึกจะหัวเราะออกมาเบาๆ เจ้าตัวยกขาข้างที่เจ็บขึ้นมาพาดไว้บนขาอีกข้างของตัวเองพลางนวดน่องไปด้วยก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นมาอีกหนึ่งคำถาม
“แล้วจูบอะ จูบกันหรือยัง”
“ห๊ะ?”
“จูบบ คิส คิสสึ” พี่อีทึกย้ำคำว่าจูบแรงๆจนสัมผัสร้อนๆผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ผมถอยจนถึงขอบม้านั่งด้วยความตกใจก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธแรงๆ “มะ....ไม่!!”
“ไม่ได้จูบ?”
ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว!
แบคพูดไม่ได้ โอ๊ยยย แบคพูดออกไปไม่ได้
คำถามแต่ละอย่าง.....คือตรงประเด็นไปมั้ย?
“ถ้าจะเล่นชักเย่อกันก็ปรึกษาพี่ได้นะ” ว่าพลางส่งยิ้มหวานส่วนผมนี่ทำหน้าเหวอ
ไหนตอนแรกหวงจะตายไม่ใช่หรอวะ!!
และก่อนที่จะมีคำถามประหลาดแบบตรงไปตรงมาจากปากพี่ของผมอีก พี่แบคบอมและชานยอลที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา คนโตของบ้านกระชับสายคาดเอวสีดำให้แน่นแล้วมองไปยังชานยอลที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทักษะในด้านนี้เลยแม้แต่น้อย
ทำซ่าจริงๆนะไอ้โย่ง
พ่อกับแม่นั่งอยู่กับเฮียคริสที่ม้านั่งอีกตัวหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันไม่นานนักทั้งสองคนก็โค้งให้กัน ผมว่าไอ้ชานยอลอาจจะไม่เคยเล่นหรือไม่ก็ห่างจากการเล่นไปนานมันเลยตั้งตัวได้ไม่ทัน พี่แบคบอมฟาดขาเข้าที่สีข้างหนึ่งทีอย่างแรงจนเสียงดังไปลั่นห้อง
แม้พี่แบคบอมจะเตะเข้าที่เกราะแต่ก็ทำให้ร่างสูงๆนั่นเซไปอยู่เหมือนกัน ชานยอลหันมามองหน้าผมนิดหน่อยก่อนจะโดนปลายเท้าของพี่ชายผมสะบัดเข้าหน้าเต็มๆ
ไอ้เหี้ยยย! ควาย!!
ผมผุดลุกขึ้นยืน ไม่ได้เป็นห่วงมากเท่าไหร่หรอกแต่จะตามไปสมน้ำหน้า แบบ...เป็นบ้าป่าววะคู่ต่อสู้อยู่ตรงหน้ากลับมองไปที่อื่นเสียอย่างนั้น พี่อีทึกรั้งเอวผมไว้ก่อนจะส่ายศีรษะตัวเองน้อยๆเป็นเชิงบอกไม่ให้ผมเข้าไปก้าวก่าย ชานยอลลุกขึ้นมาอีกครั้งแล้วยกมือขึ้นแตะมุมปากที่ยังไม่มีอะไร
พั่บ! พั่บ!
หมุนเตะเข้าที่เอวด้านซ้ายแล้วหมุนกลับมาเตะด้านขวา ชานยอลจะสวนกลับก็ไม่ได้เพราะพี่แบคบอมยกเท้าขึ้นมาถีบอีกคนเสียก่อน
“พี่แบคบอม!”
ผมตะโกนออกมาเสียงดังแต่พี่ชายของผมกลับไม่สนใจ ไอ้ชานยอลที่ทำท่าอวดเก่งมาตั้งแต่เช้ากลิ้งเกลือกไปมาบนเบาะก่อนจะดีดตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง พี่แบคบอมแสยะยิ้มน้อยๆก่อนจะเริ่มรุกหนักอีกรอบ
พี่แบคบอมแม่งเล่นผิดกติกา!
“ปล่อยไปแบคฮยอน” พี่อีทึกปรามขึ้นมาเมื่อเห็นผมทำท่าจะวิ่งเข้าไป
“แต่....มันใช้ไม่ได้นะ!”
“ก็ถ้าจะจีบบยอนคนเล็ก ก็ต้องผ่านบยอนคนโตไปให้ได้สิJ”
Talk -21-
“กำลังกาย” ที่จะหมดไป
สามารถที่จะสร้างได้จาก
“กำลังใจ” จากใครบางคน
ที่มา : http://www.thaiquip.com/category/คำคมสอนใจ
ฉันไม่สามารถอ่านหนังสือได้อีกแล้วตั้งแต่อากาศมันร้อน
คิดถึงแงะ เลยแบบ เออ มาลงดีกว่า #โดนไล่กระทืบ
เตงงง เราสอบวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ เป็นกำลังใจให้สวยด้วย
พี่อีทึกเป็นคนน่ารัก สามีใครไม่รู้บ้าจริง #ของเลาของเลา
แกคงแอคทำท่าหวงน้องไปงั้นปะ? ขาโหดคือพี่แบคบอมต่างหาก
คอยดูตอนต่อไปว่านางจะทำพระเอกของเรื่องตายหรือไม่
ถ้าตายก็เอาคนแถวๆนี้นี่แหละมาเป็นพระเอกแทน #ชั้นโดนตบ
ขอบพระคุณสำหรับทุกคอมเม้นและทุกแทคในทิวตเทอร์
รักทุกคนมากนะครัชบอกเลย
ขอบคุณบอทพี่แบคหอสามที่เข็นให้อ่านหนังสือทุกครั้งที่เจอกันในทวิตเทอร์
#นางอาจจะกลัวไม่ได้อ่านฟิค
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม รักทุกคนจริงๆค้าบบบ
ด้วยรับจากสุดสวย
ปล. ชั้นร้อน ร้อนจะตาย ร้อนจะบ้า ร้อนบั่บๆๆๆๆ
ปล.สอง แล้วชั้นก็เปิดแอร์ ฮริ้ง
ปล.สาม เม้นและติดแทคด้วยน้าาา
#ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม
ความคิดเห็น