ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] เด็กป่วน ก๊วนหอแตก {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #21 : หอแตก : 20

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.6K
      70
      18 เม.ย. 57






    -20-

    ปาร์คชานยอล คนเผด็จการ

    นี่ใจคอจะอยู่กินกันไปจนแก่เลยไงวะ!

    ห้ามพูดคำว่าเลิกงั้นหรอ บ้าบอ!!!

    แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำทันที.....

    “ปาร์คชานยอล...ปาร์ค ลูกชายคุณปาร์คจิวเวอรี่นี่เอง”

    พี่แบคบอมนั่งทวนชื่อของชานยอลมาตลอดทางระหว่างที่กลับบ้าน ผมขมวดคิ้วใส่พี่ชายตัวเองที่พูดเกี่ยวกับจิวเวอรงจิวเวอรี่อะไรซักอย่าง “ใช่มั้ย? บ้านชานยอลทำกิจการเกี่ยวกับเครื่องเพชรใช่มั้ย”

    “ก็คงใช่มั้ง ไม่รู้อะ”

    ผมส่ายศีรษะตัวเองน้อยๆ ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับชานยอล มันเองก็ยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวผมมากนัก มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะบอกหรือป่าวประกาศเกี่ยวกับธุรกิจทางบ้าน ในเมื่อชานยอลเลือกจะคบผมที่ตัวไม่ใช่กิจการ ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเท่าไหร่

    “แล้ว...นี่เสื้อใคร เสื้อแบคหรอ?”

    “อ๋อ เสื้อไอ้ชานยอล”

    “เอากลับมาทำไม”

    “แบคนอนน้ำลายยืดใส่เสื้อมัน เลยว่าจะเอากลับมาซักให้” พี่แบคบอมหรี่ตามองนิดหน่อย ผมพยายามทำท่าไม่ให้มีพิรุธและในที่สุดก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อรถเริ่มขยับ ช่วงเย็นวันศุกร์ในเมืองรถติดมากถึงมากที่สุด นี่ออกจากบ้านของชานยอลตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนถึงตอนนี้หกโมงผมก็ยังไม่หลุดออกจากตัวเมืองเลย

    “แล้วทำอีท่าไหนไปนอนน้ำลายยืดใส่เสื้อเขาได้”

    “ท่าปกติเนี่ยแหละ หลับปกติ”

    “ไอ้ลูกหมา.....”

    “ก็แบคยืมเสื้อมันมาห่ม อากาศมันเย็น พี่บอมก็รู้แบคไม่พกเสื้อแขนยาวอะ”

    อย่า...อย่า...อย่าซักไซ้อะไรไปมากกว่านั้นนะเว้ย คือไม่รู้จะตอบยังไงแล้ว

    พี่ชายคนโตมองผมอีกซักพักก่อนจะขับรถต่อ ผมไม่ได้อยากปิดบังหรือว่าอะไรหรอก แต่ผมไม่คิดว่าจะรอให้ตกลงสถานะรุกหรือรับกับไอ้ชานยอลให้มันลงตัวซะก่อนถึงจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่เคะให้มันแน่นอน

    พี่แบคหอสามมาดแมนสมชายชาติทหาร เดินทางไหนสาวก็กรี๊ดสาวก็หลง ถ้ารู้ว่าต้องเป็นรับให้ชานยอลรู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น อีกอย่างจะได้มีข้ออ้างปกป้องอย่างแมนๆจากพี่ชายของผมได้ด้วย

    โอ้โห......หล่อและเท่ไม่มีใครเกิน

    “พ่อกับแม่ล่ะ?”

    “จะตามมาพรุ่งนี้เช้า อีทึกออกเวรคืนนี้”

    “ดีจัง....พรุ่งนี้พี่บอมทำพายองุ่นให้กินหน่อยดิ แบคอยากกินอะ”

    “อ้อนอ่อ?”

    “นะๆๆๆๆ” ผมเอนตัวไปซบบ่าของพี่ชายคนโตกอดแขนไม่แรงมากไม่ให้รบกวนการขับรถแล้วเอาศีรษะไถไปมาพอน่าเอ็นดู พี่แบคบอมหัวเราะด้วยความชอบใจแล้วเอื้อมมือมาขยี้ศีรษะของผม ซักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดัง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเปลี่ยน หน้าจอโทรศัพท์ของผมกลายเป็นรูปของชานยอล กดสไลด์หนีแทบไม่ทัน

    เวรเอ๊ย เดี๋ยวพี่แบคบอมเห็นก็เป็นเรื่อง!

    แล้วนี่มันเปลี่ยนหน้าจอยังไงวะ

    แอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่าไลน์เด้งขึ้นมาก่อนจะพบว่าเป็นชานยอลที่ส่งสติ๊กเกอร์มาหา พร้อมด้วยข้อความสั้นๆ

    ถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยเตี้ย

    กูเป็นห่วง

     

    เปลี่ยนหน้าจอกลับยังไง

    ไอ้ห่า

     

    “ใครส่งมา?” ถามพลางเหลือบสายตามามอง ผมรีบตอบกลับทันควัน

    “เซ...เซฮุน ไอ้เซฮุนถามว่ากลับบ้านรึยัง”

    “อ้อ” พี่ชายผมพยักหน้าน้อยๆก่อนขับรถต่อ ผมหงายหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง พบว่ามันขึ้นคำว่า read แล้ว

    ชานยอล!!

    ตอบ!

    ไอ้เหี้ยยยยย เดี๋ยวพี่กูเห็น!

     

     

    ปาร์คชานยอลหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

    ผมกดปิดหน้าจอก่อนจะยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเป้ จะไม่หยิบขึ้นมาอีกจนกว่าจะถึงบ้าน เสียงไลน์เด้งเตือนดังขึ้นมารัวแต่ผมก็ไม่สนใจมันจนพี่แบคบอมหันมามองอีกรอบ

    “ไม่เปิดดูหรอ?”

    “ไอ้...ไอ้เซฮุนมันกวนตีนแบคอะ เดี๋ยวมันก็หยุดเอง แบค...แบคนอนก่อนนะ ถึงบ้านแล้วปลุกด้วย”

    “อย่าน้ำลายยืดนะไอ้ลูกหมา”

    ผมย่นจมูกใส่ตัวเองไปทีแล้วกอดกระเป๋าที่มีแต่เสียงเตือนของไลน์

    ไอ้ชานยอลแม่ง....นิสัยไม่ดีจริงๆด้วย

     

    “อย่า กวน ตีน เปลี่ยนหน้าจอยังไงบอกกูมาเร็วๆ”

    [ถามเฮียคริสดิ]

    “อยากโดนเฮียกูกระทืบคาตีนมั้ยครับ?”

    [เปิดเฟสไทม์หน่อย]

    “ขนาดหน้าจอกูยังเปลี่ยนไม่เป็น แล้วจะเปิดเฟสไทม์ยังไง”

    [ดึงโทรศัพท์ออกจากหู ช่องกลางด้านล่างมันจะเขียนว่าเฟสไทม์ เปิดเร็วเข้า]

    ผมกรอกตาให้กับความเจ้ากี้เจ้าการของชานยอล ยกไอโฟนออกจากหูก่อนที่หน้าจอจะปรากฏและจิ้มลงบนสัญลักษณ์ของกล้องวีดีโอ มันขึ้นเป็นหน้าของผมเต็มหน้าจอก่อนทีจะเปลี่ยนเป็นหน้าของชานยอล ผมมองหน้าของตัวเองที่อยู่มุมขวาบนก่อนจะยกโทรศัพท์ออกไปห่างๆ

    บานเต็มจอเลย

    [รู้อยู่แล้วว่ามึงอ้วน แต่ไม่รู้ว่ามึงจะอืดเต็มโทรศัพท์ขนาดนี้]

    “บังคับให้กูเปิดกล้องแล้วยังจะมาวิจารณ์หน้ากูอีก....”

    [ก็แค่พูดตามที่เห็น]

    “งั้นกูคงต้องปิดกล้อง......”

    ผมทำท่าจะกดวางแต่ชานยอลกลับร้องโซยวายออกมาแล้วทำหน้าตื่นๆ ผมเห็นแบบนั้นก็หัวเราะก่อนจะชูนิ้วกลางขึ้นมา “โวยวายว่ะแม่ง”

    [เฮ้ย เลิกโชว์ได้แล้วนิ้วกลางอะ]

    “ทำไม นิ้วกูใหญ่กว่าหนอนของมึงใช่มั้ยล่ะ”

    [ได้....แล้วคราวหน้าจะถอดให้ดูแล้วกัน]

    “.....มะ ไม่ต้อง!!

    [กูรับรองเลย ไม่จบแค่ที่ถอดกางเกงแน่J]

    ผมชี้ไปที่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะถลึงตาใส่ ชานยอลทำหน้าเหมือนเอาจริงเสมอและผมเองก็เชื่อว่ามันจะทำจริง จู่ๆโทรศัพท์ในมือก็ถูกหยิบออกไปโดยคนที่เดินมาทางด้านหลัง ผมสะดุ้งตกใจหมุนตัวกลับไปก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อพบว่าเป็นเฮียคริสที่เดินหน้าบูดหน้าบึ้งเข้ามา

    “คุยอะไร จะคุยอะไรมึง”

    [เฮียหวัดดีครับ]

    “วางสายไปได้แล้ว น้องกูต้องเข้านอน”

    [อีกนิดไม่ได้หรอเฮีย] ชานยอลครวญเสียงอ่อย

    “กูไม่ให้ก็คือไม่ให้สิวะ”

    แม่งฟังฟังไป พี่คริสคุยกับชานยอลยังเหมือนแฟนกันมากกว่าที่ผมคุยกับมันเลย

    ชิบหายแล้ว คริสยอล....

    “ไอ้ลูกหมา....หน้าจอนี่อะไร” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เฮียคริสวางสายจากไอ้ชานยอล ผมสะดุ้งอีกครั้งในรอบวันก่อนจะหันไปมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นรูปของชานยอลที่กำลังทำหน้าปากกจู๋แถมยังมีข้อความด้านใต้ว่า รักนะอีอ้วน

    ครับ....แม่งโคตรมุ้งมิ้งและสะมุ้งกุ่งกิ้งมาก

    พี่ชายผมทำหน้าแหยก่อนจะจัดการกดโน่นกดนี่อยู่พักใหญ่ ผมรับโทรศัพท์คืนก่อนจะพบว่าหน้าจอกลายเป็นรูปเฮียคริสกับผมที่เคยถ่ายด้วยกันเมื่อตอนได้เครื่องใหม่ๆขึ้นตั้งเป็นหน้าจอ “หมั่นไส้ว่ะ”

    “หือ?”

    “เมื่อไหร่จะเลิกกัน”

    “ไปนอนเลยไป” ผมดันหลังคนตัวใหญ่ให้เดินออกไปจากห้อง พี่คริสทำหน้าเหมือนโดนแย่งของเล่นก่อนจะทำหน้างอยิ่งกว่าตอนที่เข้ามาในห้องตอนแรก สองแขนของคนตัวยาวดันประตูห้องเอาไว้ไม่ยอมออก ผมจำเป็นต้องใช้ทั้งตัวดันให้อีกคนออกไป

    “หาคำตอบไม่ได้หรือไง?”

    “เฮียจะบ้าหรอ! ถามแต่เลิกๆอยู่นั่นแหละ เอาเวลาไปหาเมียไป๊!

    “ใช่สิ้.....เดี๋ยวนี้หมดควาสำคัญล้ะนิ้” โอ้โห...ขึ้นเสียงสูงขนาดนี้แม่งงอนระดับแม๊กซ์แล้วครับ

    ผมใช้ไม้ตายกระโดดกอดเข้าที่เอวก่อนจะซุกหน้าลงที่ซอกคอของเฮียคริส ทำตัวอ้อนประหนึ่งว่าผมน่ารักมากมายระดับสิบ ตั้งแต่คบกับไอ้ชานยอลมาเนี่ยผมต้องงัดสารพัดไม้ตายมาง้อเฮียตลอด

    แต่อย่าหวังว่าผมจะทำกับไอ้ชานยอล ไม่มีวัน!

    “เฮียอ่า....”

    “อะไร”

    “แบครักเฮียนะ มาๆ” ผมหอมแก้มเฮียซ้ำๆแล้วกระโดดลงมายืนอยู่บนพื้นตามเดิม เฮียคริสหรี่ตามองนิดหน่อยเหมือนจะไม่สนใจในตอนแรกแต่พอผมอ้อนหนักๆเข้าพี่คริสก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วดึงผมเข้าไกอดพลางลูบศีรษะของผมเบาๆ

    “ไม่ชอบเลยว่ะ”

    “ถึงไม่มีชานยอล ไม่นานแบคก็ต้องไปมีครอบครัวของตัวเอง”

    “แต่อย่างนั้นก็ยังไม่ใช่ตอนนี้....”

    “โตได้แล้วน่าเฮีย” ผมลูบหลังเฮียเบาๆเพื่อปลอบเลิกให้คนที่โตกว่าเลิกงอแงติดน้อง พี่แบคบอมเดินผ่านมาหยุดชะงักด้วยความแปลกใจ ผมยิ้มตาหยีใส่พี่ชายคนโตของบ้าน มิวายโดนจับไปฟัดอีกที

    “ทำไมไอ้ลูกหมามันน่ารักอย่างนี้วะ”

    “ผมไปนอนแล้วนะ” เฮียคริสผละออกไปก่อนจะทิ้งผมไว้กับพี่แบคบอมสองคน “ไอ้คริสเป็นไร?”

    “เป็นน้องพี่ไง”

    “แน้ะ” พี่แบคบอมหัวเราะก่อนจะทำหน้าเหมือนจะดุแบบไม่จริงจังมาก เมื่อมองนาฬิกาพี่ชายผมก็ส่งยิ้มมาให้บางๆแล้วไล่ผมให้เข้านอน

    “นอนได้แล้วเดี๋ยวไม่โตไอ้ตัวเล็ก”

    “คร้าบ คร้าบ พี่บอมฝันดีนะ”

    “ลืมไรไปรึเปล่า?” ไม่ว่าเปล่ายังพองแก้มออกเหมือนปลาปักเป้า ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะจำใจกดริมฝีปากลงไปหนักๆบนแก้มด้านซ้าย แก้มพองๆของพี่แบคบอมยุบลงไปหนึ่งข้างและหันอีกข้างมาให้ ผมเอามือดันแก้มป่องๆนั่นออกไป

    “ฮื่อ พอแล้ว”

    “อื้อๆ” ผมทำหน้ายับแล้วทาบริมฝีปากลงบนแก้มที่ติดสากนิดหน่อย พี่แบคบอมยืนตัวขึ้นจูบศีรษะผมเบาๆก่อนจะยืนรอให้ผมเดินกลับไปที่เตียง เมื่อผมห่มผ้าห่มเรียบร้อยแล้วพี่ชายถึงได้ปิดไฟแล้วเดินออกจากห้องไป

    โอเคคืนนี้ฝันดีครับ J

     

    “แบคฮยอน แบคฮยอนตื่นรึยังลูก แบคฮยอน”

    ผมมุดตัวลงไปในผ้าห่มเมื่อได้ยินเสียงเรียกของแม่ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูก็ยิ่งขดตัวหนักขึ้น ไม่อยากจะออกจากเตียงแสนรักนี่แม้แต่น้อย แต่พอเสียงปิดแอร์ดังขึ้นปุ๊บผมดีดตัวลุกจากเตียงทันที

    เตียงนุ่มให้ตายแต่ถ้าปิดแอร์นี่คือจบเลยครับ!!

    “อื้อออ แม่อ่า อย่าเพิ่งปิดแอร์สิ”

    “สิบโมงแล้วนะ ลุกได้แล้ว” ไม่ว่าเปล่ายังเดินเข้ามานั่งบนเตียงแล้วตบก้นผมเบาๆ เห็นแบบนั้นเลยเลื้อยเปลี่ยนทิศทางไปนอนตักนิ่มๆเสียเลย มือเล็กของแม่เอื้อมมาหยิกแก้มผมก่อนจะเลื่อนไปลูบที่ศีรษะ ผมไม่ยอมลืมตาตื่นปล่อยให้ตัวเองได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

    “พี่ๆเขาตื่นกันหมดแล้ว เหลือเราเนี่ยแหละขี้เซา”

    “แม่โม้....พี่ๆไม่มีใครตื่นหรอก”

    “แม่พูดจริงๆ เพื่อนลูกก็มาด้วยนะ”

    “ไอ้แฝดหรอ มันไม่เห็นบอกเลย” ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่ยอมลืมตาสองคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน แม่ยังคงลูบศีรษะผมต่อไปเรื่อยๆ “ไม่ใช่จ้ะ ชานยอลต่างหาก”

    “ห๊ะ?”

    “ชานยอลจ้ะ คนที่ตัวสูงๆหน้าตาหล่อเหลานั่นน่ะ”

    โอเคแม่งโตรชัด

    จากที่สะลึมสะลือผมก็ลืมตาตื่นก่อนจะกลิ้งลงจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีผมก็วิ่งออกมาจากห้องในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ยังไม่ได้ทันเช็ดตัวให้แห้งด้วยซ้ำ

    ไอ้ชานยอลมาได้ยังไง! ไม่เห็นมันจะบอกผมซักคำ!!

    เมื่อแต่งตัวเสร็จผมก็วิ่งทั่กๆลงไปข้างล่างกวาดสายตามองซ้ายขวาไม่พบใครก็ขมวดคิ้วยุ่ง วิ่งไปที่ห้องรับแขกก็ไม่มีคนอยู่ แม่ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัวเห็นผมทำท่าร้อนรนก็เอ่ยปากถาม

    “หาอะไรหรอจ๊ะ?”

    “ชานยอลล่ะครับ?”

    “อืม....เห็นว่าไปที่คอกม้ากับพวกพี่ๆนะ แต่แปลกจริงเป็นเพื่อนลูกแต่ทำไมออกไปกับสามแสบนั่นนะ?”

    แม่แสร้งทำหน้าสงสัยก่อนจะส่งสายตาล้อเลียนมาให้ เดาได้เลยว่าแม่ต้องรู้เรื่องของผมกับชานยอลแล้ว ผมไม่ตอบก่อนจะหมุนตัวหนีด้วยใบหน้าที่ร้อนฉ่า แต่ยังไม่ทันจะได้เดินออกไปไหนแม่ก็จับตัวเอาไว้เสียก่อน

    “จะไปไหนลูก?”

    “ไปหาชานยอลครับ”

    “ไม่ได้จ้ะ”

    “หะ?”

    “พี่ๆเขาสั่งไว้ ว่าน้องเล็กต้องอยู่ที่นี่ห้ามตามไปนะจ๊ะ”

    บ้าไปแล้วโอ๊ย!!!!

     

    Chanyeol Part

    ผมขับรถมาที่บ้านของไอ้เปี๊ยกตั้งแต่เช้า

    ผมมาถึงที่บ้านไร่ของครอบครัวบยอนประมาณแปดโมงครึ่ง หลังจากที่วางสายแบคฮยอนไปเมื่อคืน เฮียคริสก็โทรมาหาพลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าผมควรจะมาพบกับพี่ชายอีกสองคนของไอ้เตี้ยให้เป็นเรื่องเป็นราว ผมตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เพราะถึงไม่เจอวันนี้อีกไม่นานผมก็ต้องเจออยู่ดี

    เอาความจริงก็แอบหวั่นอยู่บ้าง ผมว่าพี่อีทึกยังดูนุ่มนิ่มนิดหน่อย น่าจะใจดีพอพูดกันได้ แต่พี่แบคบอมดูท่าทางจะการ์ดแข็ง คงจะหวงน้องขั้นสุดแต่อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน ดีไม่ดีพี่อีทึกอาจจะผ่านยากพอกันกับพี่คนโตของบ้าน

    ผมก้าวลงจากรถก่อนจะเจอผู้หญิงร่างเล็กที่เค้าหน้าไม่ต่างอะไรจากแบคฮยอน ดูแล้วเดาได้ไม่ยาก แม่มันแน่นอน

    “คุณแม่สวัสดีครับ”

    “สวัสดีจ้า มาหาใครจ๊ะ?”

    “แบค....ไม่ใช่ครับ เฮียคริส เฮียคริสตื่นรึยังครับ?”

    “ตื่นแล้วจ้ะ แต่ยังไม่ลงมาถ้ายังไงเข้าไปนั่งในบ้านก่อนแล้วกันเนอะ” ผมโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินตามร่างบอบบางเข้าไปในบ้าน ห้องโถงสูงโปร่งทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกภายในบ้านจึงไม่อบอ้าว คุณนายบยอนพาผมมาหยุดอยู่ที่ห้องรับแขกแล้วเชิญให้ผมนั่งด้วยน้ำเสียงที่ใจดี

    “นั่งรอตรงนี้แป๊บนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ไปดูคริสให้”

    “ขอบคุณมากนะครับ” ผมโค้งศีรษะลงอีกครั้งแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาพลางกวาดสายตามองไปรอบๆบ้าน ไม่นานก็ต้องลุกขึ้นยืนเมื่อมีรูปของลูกชายคนเล็กอยู่ในกรอบแทบจะทุกรูป ถ้าไม่เป็นรูปเดี่ยวก็เป็นรูปคู่กับพี่ชายและภาพครอบครัว ดูแล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรให้ยาก ไอ้เปี๊ยกเป็นที่รักของคนในครอบครัวมากๆ

    ผมไปหยุดอยู่ที่กรอบรูปขนาดพอเหมาะ ในนั้นมีภาพของบยอนแบคฮยอนกำลังขี่หลังของเฮียคริส ใบหน้าน่ารักเปรอะปื้นไปด้วยน้ำตาโดยที่ซ้ายขวามีพี่แบคบอมและพี่อีทึกคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

    ทำไมมันน่ารักจังวะ

    ผมหยิบภาพนั้นขึ้นมาดูก่อนจะอมยิ้มกับตัวเอง แบคฮยอนแม่งโชคดีมีพี่ห้อมล้อม

    “นึกว่าจะไม่มา”

    “ไม่มาได้ไงเฮีย” ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะวางกรอบรูปไว้ตามเดิม

    “บางทีก็กลัวมั่งก็ได้นะ คนอื่นไม่ได้ใจดีแบบกู” ผมเลิกคิ้วนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำว่าใจดี ใจดี? เฮียเนี่ยนะใจดี? ที่ต่อยผมหน้าเกือบแหกไปเมื่อวันนั้นคือปราณีกันแล้วใช่มั้ย?

    “กล้าดีนี่หว่า” ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอ พี่คนรองของบ้านก็เดินเข้ามาก่อนจะกระตุกยิ้มหน่อยๆ ใบหน้าหวานดูนุ่มนิ่มขัดกับท่าทางที่แสดงออกอย่างมาก ผมยืนขึ้นก่อนจะโค้งตัวเพื่อทักทาย และยังคงยืนอยู่แบบนั้นแม้ว่าพี่อีทึกจะนั่งลงไปแล้ว

    ท่าทางผมจะประเมินผิด ที่จริงแล้วก็พอกันทั้งบ้าน

    “จะไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว” และสุดท้ายพี่คนโตก็เดินเข้ามาในห้องรับแขก แต่ละคนรังสีกดดันนี่ไม่เบาเลยทีเดียว ผมโค้งตัวอีกครั้งก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่ตอนนี้เหมืนกลายเป็นเก้าอี้สำหรับนักโทษเพื่อใช้ไว้สอบสวน สายตาสามคู่ของพี่ชายไอ้เตี้ยจับจ้องมาที่ผมคนเดียว

    “แนะนำตัวมา” พี่แบคบอมสั่งเสียงเรียบ

    “ชานยอล ปาร์คชานยอลครับ”

    “คิดจะเรียนอะไรต่อ” เป็นพี่อีทึกที่ถามขึ้นมาบ้าง ผมหยุดคิดไปครู่หนึ่ง

    “ที่บ้านอยากให้ต่อบริหารครับ แต่ผมอยากเรียนทันตะ” ตอบไปอย่างที่ใจคิด พี่อีทึกไม่ได้ว่าอะไรต่อส่วนพี่แบคบอมก็ส่งเสียงเหอะในลำคอเบาๆ ถ้าจำไม่ผิดผมว่าพี่คนโตของแบคฮยอนจะเรียนเศรษฐศาสตร์และต่อโทบริหารเพื่อมาดูแลกิจการต่อ

    นี่บอกเลยนะไอ้เตี้ย ไม่รักกูไม่มาหรอกนะจะบอกให้

    “คิดอะไรอยู่ถึงมาเป็นแฟนกับน้องผม”

    พี่อีทึกเอ่ยปากถามอีกครั้ง คราวนี้แทบไม่ต้องคิดผมตอบกลับไปแทบจะทันที “ผมชอบแบคฮยอน”

    “ไอ้นี่!

    “พี่บอมใจเย็นน่า” พี่อีทึกรีบห้ามไว้ก่อนที่พี่แบคบอมจะถลาเข้ามา ผมไม่ได้หงอที่อีกคนทำท่าแบบนั้นใส่สายตาของผมยังคงเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ถึงพี่ทั้งสามคนจะพร้อมใจกันรุมกระทืบ ผมก็จะยืนยันคำตอบเดิม

    ก็ชอบมันนี่หว่า จะให้ทำไง

    “คุยอะไรกันอยู่หรอจ๊ะหนุ่มๆ?”

    คุณแม่ของแบคฮยอนเข้ามาพอดีพร้อมกับน้ำและขนมทานเล่น พี่แบคบอมกลับไปนั่งดีๆแล้วทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อได้ยินคำตอบก่อนหน้านั้นของผม ส่วนพี่อีทึกก็ทำเพียงยิ้มหวานแล้วเอ่ยตอบแทนพี่คนโตที่ยังคงทำหน้าบึ้ง

    “ก็แค่...คุยกับเพื่อนสนิทของแบคฮยอนนิดหน่อยครับ ไหนๆก็มาเยี่ยมบ้านเราทั้งที”

    “ตายจริง เพื่อนแบคฮยอนหรอ ให้แม่ไปปลุกแบคฮยอนมั้ย?”

    “ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมไม่ได้มาหาแบคฮยอน ขอบคุณมากนะฮะ”

    ผมตอบปฏิเสธแบบสุภาพกลับไปเมื่อเห็นสายตาสามคู่ที่จ้องมา ถึงผมอยากจะให้ปลุกมากก็เถอะ.......

    รอดไปเมื่อไหร่ ไอ้เตี้ยเตรียมตัวโดนผมกินได้เลยจริงๆ

    “เดี๋ยวไปที่คอกม้า”

    “ครับ?”

    “ก็บอกว่าให้ไปคอกม้า ไปเจอกันที่นั่น อีทึก คริส ไป”

    ยังไม่ทันจะได้ดื่มน้ำทานขนมพี่แบคบอมก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆก่อนจะพากันลุกออกไป ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยแล้วดื่มน้ำในแก้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ผมสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะลุกขึ้นยืน คุณแม่ของแบคฮยอนที่ผมคิดว่าเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้วหันกลับมาพลางส่งยิ้มให้

    “สู้ๆนะจ๊ะชานยอล”

    ขอบคุณครับคุณแม่ยาย J

    End Chanyeol Part

     

    Talk -20-

    คนที่ขอโทษก่อน คือคนที่กล้าหาญที่สุด
    คนที่ให้อภัยก่อน คือคนที่เข้มแข็งที่สุด
    คนที่ลืมได้ก่อน คือคนที่มีความสุขที่สุด


    ที่มา : http://www.thaiquip.com/category/คำคมสอนใจ

    หือ....ตอนนี้จบไปแบบงง....งงมว๊าก
    หยั่ยยย เป็นตอนน่ารักมุ้งมิ้งกับครอบครัวบยอน
    และการเผชิญหน้าของพี่ปาร์คกับบยอนบราเธอร์ในฐานะน้องเขยครั้งแรก...
    ฮุฮิฮะ =.,=
    อาทิตย์หน้าขออนุญาตงดอัพนะเคิ้บ TT แบบว่าอาทิตย์ถัดไปสอบแกทแพท
    แต่สัญญาว่าสอบเสร็จแล้วจะมาลงทันที
    รักทุกคนเลยนะ เลิ้บๆๆ สัญญาว่าจะไม่ดอง
    ส่วนเรื่องทไวไลท์รอแพร่บน้า T^T อีกยี่สิบเปอร์มันเป็นจิ๊บๆ เขียนย๊ากยาก 555
    เวิ่นเว้อแค่นี้ กลัวจิรำคาญ <3
    รักมากนะค้าบบ มั้วะๆๆ ขอบคุณสำหรับแทคและคอมเม้นต์

    ด้วยรักจากสุดสวย
    ปล.ไม่ต้องส่งหนอนมาชั้นอัพแล้วข่ะ
    ปล.สอง สกรีมดังๆได้ที่เม้นต์และแทค

    #ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×