ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] เด็กป่วน ก๊วนหอแตก {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #27 : หอแตก : 25

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.21K
      60
      10 พ.ค. 57


     

     

    -25-

    ~โอ้ทะเลแสนงาม(แสนง๊ามแสนงาม) ฟ้าสีครามสดใส(สดส๊าย สดใส) มองเห็นเรือใบ(เรือบ๊าย เรือใบ) แล่นอยู่ในทะเล(ทะเล๊ ทะเล)~

    คงจะงงกันล่ะสิที่จู่ๆก็ตัดฉากมาเข้าบรรยากาศชายทะเลเลย

    ก็....ไม่มีอะไรมากหรอกครับหลังจากเมื่อวันที่ผมป่วยเพราะฝนตก (บอกว่าป่วยเพราะฝนก็คือเพราะฝนอย่าได้คิดเป็นอื่น)ก็กลับมาเรียนได้ตามปกติ ท่าทางเดินอาจจะแปลกๆนิดหน่อยแต่ผมบอกทุกคนว่าตกบันได เด็กๆในหอที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เชื่อนะ.....

    หลังจากนั้นให้หลังประมาณหนึ่งอาทิตย์ชานยอลก็นัดเด็กปีสองประชุมแล้วบอกว่าเราจะได้ไปเกาะเชจูกัน มีเวลาประมาณสามวันในการเตรียมตัวและเราก็ออกเดินทางกันในช่วงเช้าตรู่ มีรถบัสจากโรงเรียนมาส่งที่สนามบินเพื่อขึ้นเครื่อง

    หลังจากลงเครื่องบินก็พากันทยอยขึ้นรถบัสที่ทางโรงเรียนจัดให้แบ่งเป็นสามคันคันละสามสิบคน ทริปนี้เป็นเฉพาะเด็กปีสองมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม(?)เป็นเวลาสามวันสองคืนที่เกาะเชจู ทำเป็นพูดว่ามาทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมแต่ความจริงแล้วก็คือมาเข้าค่ายกินเล่นเต้นกันไปตามประสาของวัยรุ่นนี่แหละครับ

    ที่จริงเคยทำเรื่องขอไปหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะได้รับอนุญาตก็เป็นปีนี้ปีแรก ท่าทางว่าไอ้ชานยอลจะเจ๋งไม่ใช่เล่นถึงได้ทำให้ผู้อำนวยการอนุมัติได้

    มีคนยกกลองทอมมาวางไว้ที่หน้ารถส่วนไอ้เทาก็ทำหน้าที่ตีกลอง จงฮยอนเอนเตอร์เทรนเพื่อนๆไป ร้องเพลงทะเลแสนงามแต่ฟ้าแม่งไม่งามตามไปด้วย ฟ้าครึ้มๆมาตั้งแต่ตอนจะขึ้นเครื่อง ถึงกระนั้นความสดใส(?)ที่มีมากจนเกินไปของไอ้จงฮยอนก็ยังคงมาเต็ม แม่งยืนดิ้นๆอยู่หน้ารถอย่างสนุกสนาน

    ผมถูกไอ้สองแฝดทิ้งอีกเหมือนเคย แม่งพอให้จับคู่กันทีไรไม่เคยเห็นหัวตลอด แน่นอนว่าคนที่นั่งข้างผมไม่ใช่ใคร ต้องเป็นไอ้ชานยอลเมียรักของผมอยู่แล้ว.....

    เมีย! ชานยอลเป็นเมีย!! เมียโว้ย!!!

    “ไม่ออกไปเต้นกับมันมั่งอ่อ?”

    “พี่แบคหอสามมาดแมนจะไม่ออกไปเต้นเร่าๆเหมือนโดนเหยียบแบบนั้น ไม่มีวัน”

    หันไปมองไอ้จงฮยอนที่กำลังเอามือเสียบก้นตัวเองซ้ายขวาด้วยท่าทางสะดิ้งในเพลงไก่ย่างแล้วก็ได้แต่ส่ายศีรษะ เพื่อนๆในรถพากันส่งเสียงโห่ด้วยความขนลุกแต่ก็ไม่ได้ทำให้มันอับอายแต่อย่างใด มันยกยิ้มด้วยความชอบใจกับปฏิกิริยาเหล่านั้นแล้วจับไมค์อีกรอบ

    “โอเค ขอเวลาพักห้านาทีให้มาแสดงความยินดีกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันด้วยครับ ปรบมือ!

    ไม่ว่าเปล่ายังผายมือมาทางเบาะของผมและไอ้ชานยอลที่นั่งกันอยู่เงียบๆ เห็นแบบนั้นเลยลุกข้นยืนเกาะเบาะหน้าเอาไว้ชี้หน้าจงฮยอนปากหมาและไอ้เทาตัวดีที่เสือกตีกลองรับเป็นลูกคู่

    “มึง!

    “ได้ข่าวว่าเมื่อหลายวันก่อนเสร็จคุณประธานนักเรียนไปแล้ว ความรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับคุณประธานหอสาม”

    “ตื้นตันมั้งไอ้ห่า! หยุดพูดได้แล้ว!!

    “ถึงกับน้ำตาไหลกันเลยทีเดียวนะครับ เพราะฉะนั้น ขอเสียงปรบมือเป็นกำลังใจให้กับคุณแบคฮยอนที่อาจจะเจอศึกหนักในคืนนี้ด้วยครับ”

    เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับเสียงผิวปากแซว ผมได้แต่ทิ้งตัวนั่งลงบนเบาะด้วยใบหน้าแดงก่ำ แม่งเอ๊ย...โดนเล่นซะหมดท่า “ก็อยากจะไปโต้ตอบมันทำไมล่ะ”

    “มึงก็แก้ตัวซะบ้างเหอะ!

    “แก้ทำไม ก็ที่พูดน่ะเรื่องจริงทั้งนั้น หรือไม่จริง” ไม่ว่าเปล่ายังเอียงหน้าเข้ามาใกล้ ผมรีบผลักศีรษะมันออกไปก่อนที่คนอื่นจะเห็น แต่ก็ไม่ทันไอ้สองแฝดที่นั่งอยู่เบาะหลัง แม่งพร้อมใจกันลุกขึ้นมาแล้ววางคางลงบนมือที่เท้าเบาะเอาไว้

    “บางทีก็....”

    “ช่วยสวีท....”

    “ในที่ลับตา....”

    “.....ได้ปะ” เซฮุนเป็นคนปิดท้ายประโยคก่อนจะหันไปแทคมือกับแฝดคนพี่อย่างอารมณ์ดีในขณะที่ผมแทบจะแทรกตัวเข้าไปรวมกับเบาะอยู่แล้ว เหลือบไปมองไอ้ชานยอลก็เห็นว่ามันกำลังมองมาที่ผมอย่างยิ้มๆ ไม่ได้เดือดร้อนกับคำแซวนั่นเท่าไหร่ ทำไมต้องมีผมที่อารมณ์เสียอยู่ฝ่ายเดียวด้วยวะ!

    “แบคครับ......”

    “คืนนี้......”

    “ทำไมเหยอ....”

    “ทำลูกกันนะ”

    “ไอ้แฝดนรก!!” ทั้งสองคนหัวเราะอีกครั้งแล้วก็ผวาเข้าหากันอย่างทุกที ผมลุกขึ้นคุกเข่าบนเบาะก่อนจะตบตีกับไอ้สองแฝดที่สามารถป่วนอารมณ์ผมได้ทุกเมื่อ ก่อนจะเสียหลักเมื่อจู่รถก็เกิดเลี้ยวโค้ง หัวผมโขกเข้ากับกระจกอย่างจังเพราะนั่งอยู่ด้านใน

    “เฮ้ย.....” ไอ้จงอินร้องขึ้นมาเบาๆ ชะโงกหน้ามาดูอาการผมส่วนไอ้ชานยอลตอนนี้ลุกจากที่นั่งแล้วคว้าตัวผมให้กลับมานั่งตามเดิม เมื่อกี้ไม่ได้เบาเลยครับถ้าหัวแข็งกว่านี้น่ากลัวว่าคงจะทำกระจกรถเขาแตกไปแล้ว

    “เป็นไง?”

    “เจ็บดิถามได้” ผมนั่งคลำศีรษะตัวเองป้อยๆ ส่วนไอ้ชานยอลก็เอื้อมมือมาจับแล้วสอดมือเข้ามาใต้ผม จับมันขึ้นไปด้านบนแล้วขยับหน้าเข้ามามอง “ทำอะไรก็ระวังบ้างสิวะ”

    “แล้วทำไมมึงไม่ดึงกูไว้ล่ะ!” ผมหันไปเหวี่ยงใส่เล็กน้อย ไอ้ชานยอลทำหน้างงไปซักพักแต่ไม่นานนักมันก็ดึงผมที่กำลังจมปลักอยู่กับอาการเจ็บที่หัวไปนั่งอยู่บนตัก ใช้สองแขนยาวๆนั่นรัดเอวผมเอาไว้ แม้จะไม่แน่นมากแต่ผมก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ และแน่นอนว่าการกระทำของมันทำให้ผมตกเป็นเหยื่อของไอ้จงฮยอนอีกครั้ง

    “เดี๋ยวนะครับคู่รักข้าวใหม่ปลามันตรงนั้นโปรดใจเย็น เมื่อกี้กูถามคุณคนขับรถแล้วเขาบอกว่าอีกประมาณสิบห้านาทีจะถึงโรงแรม ขอความกรุณาพวกมึงไปล่อกันที่โน่นนะครับ”

    “ไอ้เหี้ย! ล่อห่าอะไรล่ะ!! มึงก็ปล่อยกูซักทีไอ้ชานยอล”

    ผมหน้าร้อนฉ่ากับคำพูดของไอ้คนปากหมาก่อนจะหันไปด่าไอ้ชานยอลที่ยังคงหนักแน่นกับการกักขังผมเอาไว้บนหน้าตักของตัวเอง ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของไอ้จงฮยอนแม้แต่น้อย

    “ชานยอล!!

    “ก็เป็นห่วง...เดี๋ยวหัวโขกกระจกอีก”

    “ไม่โขกแล้วโว้ย!

    “ดิ้นมากๆระวัง....นั่งทับอะไรอยู่รู้ใช่มั้ย?”

    “เหยดดดด ไอ้ชานยอลของจะขึ้น มึง! ไอ้ชานยอลของจะขึ้น” เซฮุนที่แอบฟังอยู่ด้านหลังร้องขึ้นมาและแน่นอนว่าคนทั้งรถโห่ร้องแซวกันอีกรอบในขณะที่ผมก็ได้แต่ก้มหน้าซบลงไปที่พนักพิงของเบาะหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำ แม่ง...แม่ง ไอ้ชานยอล! พูดอะไรไม่ได้เกรงใจกูเล้ยย

    ท่าทางตลอดค่ายนี้แม่งจะไม่ได้พักผ่อนอย่างที่อยากจะพักแล้วล่ะ.....

     

    “เฮ้ย! ไหนตอนแรกว่านอนห้องละสามคน? แล้วทำไมเหลือสองคนแล้วอะ”

    “พวกสามคนแม่งจับกลุ่มครบกันแล้ว ตอนนี้เหลือแค่สอง”

    ผมทำหน้ายุ่งเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนจะหยิบใบรายชื่อที่แบ่งห้องมาดูเอง เปิดไปเปิดมาก่อนจะพบว่ามันเต็มแล้วจริงๆตอนนี้เลยเหลือแค่ห้องละสองคน หันไปมองไอ้สองแฝดที่ตอนนี้ก็สามัคคีกลมเกลียวกอดกันแน่นราวกับกลัวว่าผมจะเข้าไปแทรก “ขอเพิ่มอีกห้องได้มั้ย....”

    ผมทำเสียงอ่อนมองคยองซูที่เป็นคนจัดการเรื่องแบ่งห้อง ส่งสายตาที่คิดว่าน่าสงสารที่สุดไปให้ ไอ้สองแฝดนรกก็ไม่ได้ช่วยเล้ย เหมือนแม่งจะยินดีด้วยซ้ำที่นอนกันสองคนผัวเมีย

    ใช่สิ้! กูมันเมียน้อย กูมันด้อยค่า!

    “ห้องสำหรับสามคนที่จองไว้มีแค่นี้จริงๆว่ะ หรือถ้างั้นมึงจะยอมเบียดกับเพื่อนหรอ?”

    ผมทำหน้าคิดหนัก นั่นก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ดีซักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว....

    “ไม่เอา! ไอ้แบคแม่งอ้วนนอนกินที่!

    โอ้โห! ไอ้เพื่อนรัก ไอ้เพื่อนคนดี! ปฏิเสธมาแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความเลยนะสัด!

    ไอ้สองแฝดนรกบีหนึ่งบีสองตะโกนขึ้นมาแทบจะทันที ผมเลยทำได้เพียงแค่ยกนิ้วกลางให้กับมันทั้งสองคน หันกลับมามองคยองซูที่กำลังทำหน้าที่คิด ผมเลยอ้อนมันไปอีกที “ช่วยหน่อยนะ...กูไม่รู้จะนอนกับใครอะ กูนอนกับคนแปลกหน้าแล้วนอนไม่หลับ”

    จริงๆแล้วก็ตอแหลแหละครับ มาทะเลเล่นเหนื่อยๆพอเข้าห้องนอนแม่งก็สลบไสลไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว

    คยองซูทำท่าคิดไม่ตกอยู่พักใหญ่ก่อนจะหยิบใบรายชื่ออีกอันมาเปิด คิ้วเรียวเริ่มคลายผมก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อย แสดงว่ามันอาจจะช่วยทำให้ผมนอนกับไอ้สองแฝดนั่นได้

    “เอางี้.....มึงนอนกับประธานสิ”

    “ห๊ะ?”

    “ปกติมันนอนคนเดียวอยู่แล้ว ถ้าหาเพื่อนจับคู่ไม่ได้ก็นอนกับประธานแล้วกัน มึงมีปัญหาอะไรมั้ย?”

    ประโยคสุดท้ายคยองซูหันไปถามคนตัวโย่งที่ยืนอยู่ด้านหลังตัว ไอ้ชานยอลชะโงกหน้ามามองแผ่นกระดาษในมือก่อนจะส่ายศีรษะตัวเองน้อยๆ แล้วหันมามองผมที่กำลังทำหน้าช็อคเพราะเรื่องนี้แม่งอยู่เหนือความคาดหมายไป

    “ไม่มีปัญหา”

    “เดี๋ยว! กูมีปัญหา กู มี ปัญ หา!!

    “ปัญหาอะไร”

    “ถ้านอนกับมันมีปัญหาแน่!” ผมยังคงโวยวายแล้วชี้ไปที่ไอ้ชานยอลที่ทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้ทั้งๆที่มันนั่นแหละเป็นตัวปัญหาใหญ่หลวง ใครจะรับประกันว่าถ้าผมอยู่ห้องเดียวกับมันแล้วจะได้นอนไม่ใช่ว่าแม่งลากขึ้นไปล่อกันทั้งวันทั้งคืน บอกเลยว่าตั้งแต่เสียตัวมาคราวนั้น ผมก็ไม่กลับไปเหยียบห้องมันอีกเลย

    ไอ้คยองซูทำหน้างงนิดหน่อยก่อนจะกระตุกยิ้มออกมา เขียนอะไรซักอย่างลงบนกระดาษก่อนที่ผมจะพบว่าแม่งใส่ชื่อผมอยู่ห้องเดียวกับไอ้ชานยอลไปเรียบร้อย ผมทำท่าจะอ้าปากโวยวายมันก็เอาด้ามปากกาชี้มา

    “กูเอากุญแจห้องให้ประธานไปแล้วเพราะงั้นเดินตามไปก่อนที่มึงจะต้องนอนที่ชายหาด”

    ทำไมทุกคนถึงทำร้ายคนหล่อได้ลงคอครับ ตอบ!!!

    ในที่สุดผมก็จำใจต้องลากกระเป๋าใบน้อยของตัวเองตามไอ้ชานยอลขึ้นลิฟต์ไป คนอื่นยังไม่ได้กุญแจห้องเลยต้องรออยู่ที่ล๊อบบี้ก่อน เพราะฉะนั้นจึงเหลือแค่ผมและชานยอลเหลือกันอยู่สองคน ผมหันไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆก่อนจะขยับให้ติดผนังลิฟต์เมื่อพบว่ามันกำลังมองผมอยู่

    “มองไร!

    “มองแฟนตัวเองผิดตรงไหนวะ”

    “เหอะ ปากดี” ผมส่งเสียงเหอะขึ้นจมูกก่อนจะขยับตัวมายืนดีๆ ยกนาฬิกาข้อมือดูเวลาก่อนจะพบว่าตอนนี้เกือบสิบเอ็ดโมง ตามตารางเวลาคือเที่ยงกินข้าวและออกไปรวมตัวกันที่หน้าชายหาดตอนบ่ายโมงตรง

    ชานยอลเดินนำไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้อง 414 เป็นห้องติดทะเล มันแตะคีย์การ์ดแล้วผลักประตูเข้าไป เป็นทางเดินแคบๆซึ่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นตู้เสื้อผ้า เดินเข้าไปอีกหน่อยทางซ้ายที่ถัดจากห้องน้ำเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่แน่นอนว่าสำหรับชานยอลที่จะนอนคนเดียวในตอนแรกแม่งต้องเป็นเตียงเดี่ยวอยู่แล้วสุดทางห้องคือบานประตูกระจกที่มองเห็นวิวทะเล ผมวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนเตียงฝั่งติดระเบียงแล้วเดินออกไปด้านนอก กลิ่นเค็มๆที่ลอยปะทะจมูกทำเอาลืมไปเลยว่าก่อนหน้าที่จะขึ้นมาบนห้องใครอีกคนทำให้ผมระแวงมากขนาดไหน

    “ทากันแดดก่อน”

    “หื้อ?” ผมคิ้วขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อจู่ๆไอ้โย่งก็ลากผมกลับเข้าไปในห้องแล้วโยนขวดครีมกันแดดมาให้ ผมมองหน้ามัน “ทาทำไม”

    “ทาทาไปเถอะน่า”

    “ไม่ทาเว้ย แมนๆแบบนี้ทาทำไม ผู้หญิงชอบผู้ชายผิวสีแทน เซ็กซี่จะตาย”

    “อยากจะเป็นแบบไอ้จงอิน”

    “แล้วจะทำไม” ผมยักคิ้วกวนตีนก่อนที่ไอ้ชานยอลจะส่ายศีรษะตัวเองเบาๆ แล้วหยิบครีมกันแดดไปจากมือผม มันเทใส่ลงบนมือใหญ่ของตัวเอง ฝ่ามือประกบเข้าหากันถูกไปมาก่อนจะจับแขนผมไปทาให้เสียเอง

    “เฮ้ยยย! ไม่ทา มันเหนียว!!

    ผมเริ่มดีดดิ้นแต่ก็ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะสามารถหลุดจากมือปลาหมึกของมันได้ ครีมกันแดดเหนอะๆถูกละเลงลงบนแขน ไอ้ชานยอลยังคงทาต่อไปเรื่อยๆโดนไม่สนว่าผมจะงอแงมากขนาดไหน

    “แดดมันแรง เดี๋ยวผิวมึงจะไหม้....นี่ ถ้าไม่หยุดสะดิ้งกูจะไม่ปล่อยให้ลงไปกินข้าวแล้วนะ”

    โดยอัตโนมัติผมนั่งด้วยความเรียบร้อยทันที

    เมื่อดิ้นไม่ได้ก็ขอให้ได้ทำหน้าทำตาหน่อยเถอะว่าไม่ได้เต็มใจแม้แต่น้อย ชานยอลใช้มือข้างนึงจับแขนผมอีกข้างขึ้นมา แล้วหยิบครีมกันแดดบีบลงบนแขนของผม จัดการแสครชแขนผมอีกครั้งด้วยมือของมัน ก่อนจะเลื่อนไปที่คอ หน้าของมันหยุดอยู่ด้านหน้าของผม เราสบตากันนิดหน่อยก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหลบตา

    อย่ามา....อย่ามามองแบบนี้ ใจเต้นหมดเลยไอ้ห่า

    มือใหญ่ค่อยๆทาครีมกันแดดลงบนคอของผม ขยับลงไปต่ำนิดหน่อยที่ไหปลาร้าเพราะเป็นส่วนที่น่าจะท้าแดด มันหันไปหยิบครีมกันแดดอีกขวดน่าจะเป็นแบบที่ทาหน้า เทลงบนมือของมันแล้วจับหน้าผมให้อยู่ตรงกับหน้ามันพอดี

    ไอ้เหี้ยยยยย อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น!!

    ไม่มีคำพูดอะไรใดๆออกมา ชานยอลค่อยๆแต้มครีมลงบนหน้าผมทีละจุดสองจุด เมื่อหมดแล้วก็ค่อยๆไล้ให้มันครอบคลุมใบหน้า ผมหลับตาปี๋แล้วยืดคอออกไปด้านหน้านิดหน่อยตามสัญชาติญาณ ไอ้โย่งค่อยๆทาครีมลงบนหน้าผมอย่างแผ่วเบาจนกระทั่งแน่ใจว่าแห้งแล้วจึงหยุดมือ ยังไม่ทันจะได้ลืมตาสัมผัสอุ่นๆก็ทาบทับลงบนริมฝีปาก เมื่อผมลืมตาขึ้นมาไอ้ชานยอลก็ผละออกไปยืนเสียแล้ว

    “อะ....!

    “ก็แค่เก็บค่าทากันแดด”

    “งั้นทีหลังกูทำเองก็ได้ไอ้ห่า!!” ผมตะโกนก่อนจะอ้าปากพะงาบๆ จับปากตัวเองที่โดนฉวยโอกาสแล้วก็ได้แต่ทำหน้าร้อน ไอ้ชานยอลทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผมเลยตะโกนด่า “ฉวยโอกาส!

    “ทำกับแฟนเขาไม่ได้เรียกว่าฉวยโอกาสหรอกไอ้เตี้ย”

    “มึงต้องปล้ำกูแน่อะ! กูไม่ยอมหรอกนะ!

     “ไม่ต้องห่วงหรอกแบคฮยอน”

    “.........”

    “เพราะกูไม่พลาดแน่J

    ไอ้ชานยอลคนกาม!!!

     

    ผมวางแผนว่าคืนนี้จะมอมไอ้ชานยอล....เอายานอนหลับให้แม่งกินจะได้หลับๆไปซะ ไม่ได้คิดเป็นอื่น

    หรือจะใช้โอกาสนี้เสียบมันเลย?

    หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมก็ทิ้งไอ้ชานยอลไว้ที่ห้องอาหารของโรงแรม ส่วนตัวเองก็เดินมาที่เคาเตอร์เพื่อขอยานอนหลับ มารยาสารพัดว่าถ้าไม่มีผมต้องนอนไม่หลับแน่อะไรประมาณนี้ ดีว่าพนักงานเป็นพี่ผู้หญิงเลยใจอ่อนให้กับความหล่อที่มีมากเกินพอเลยยอมให้มาแม้จะปริมาณไม่มากก็ตาม เพราะฉะนั้นพอกินเข้าไปแล้วอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย

    เอาวะ ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย

    ผมยืนพิจารณาเม็ดยาในซอง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อใครบางคนเดินมาทางด้านหลัง

    “เฮ้ยมึง ทำไรวะ”

    ไอ้จื่อเทา!

    ผมรีบยัดซองพลาสติกลงในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหมุนตัวกลับไปหาไอ้หมีแพนด้าเพื่อนยากที่ขมวดคิ้วแน่น เหมือนว่ามันจะรู้ว่าผมซ่อนอะไรไว้ถึงได้เอ่ยปากถาม “ซ่อนไร”

    “ซ่อน? ซ่อนห่าไร?”

    “มึงซ่อน ที่ยัดลงไปในกระเป๋ากางเกงเมื่อกี้อะ”

    “เฮ้ยย! จับแบบนี้ล้วงเป้ากูเลยมั้ยไอ้ห่า!” จู่ๆมันก็ตะปบเข้าที่หน้าขาหมิ่นเหม่จะเลยไปโดนแมมมอธแบคฮยอน(?)อยู่แล้ว ผมรีบยับตัวหนีแต่ไอ้คนตรงหน้าไม่ยอมผมไปง่ายๆ

    “หยุด! ไอ้เทา! หยุด!

    “มึงซ่อนไรไว้อะ ทำไมไม่บอกอะ!

    “มึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะ กูเป็นแฟนเพื่อนมึงนะ!

    “คิดว่ากูเอามึงลงหรอไอ้ห่า” พอได้ยินผมพูดแบบนั้นจื่อเทาก็หยุดมือตัวเองพลางทำหน้าเพลีย เห็นแบบนั้นผมก็ถอนหายใจโล่งอกแล้วตบบ่าไอ้เทาปุปุ “ดีใจที่มึงไม่คิดจะหักหลังเพื่อน”

    “เอาตรงๆปะ.......มึงควรจะดีใจนะที่ชานยอลเอามึง เพราะไม่งั้นก็จะไม่มีใครเอามึงอีกแล้ว”

    “เอ๊ะ....ทำไมเหมือนด่ากูเลยวะ ไอ้เทา!! จื่อเทา!!” มันวิ่งออกไปโดยที่ผมยังไม่ทันได้ด่าอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะวิ่งตามในเมื่อของกลางยังอยู่กับตัวเดี๋ยวมันจะวกกลับมารื้ออีกเปล่าๆ

    อย่าหวังเลยว่าคืนนี้จะได้แอ้มกู.....

    หลังจากที่ขึ้นไปเก็บของเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินลงมาเมื่อใกล้ได้เวลานัด ฝากกุญแจไว้ที่พนักงานเรียบร้อยก่อนจะวิ่งออกไปท้าแดดท้าลมที่ชายหาด ไม่คิดว่าฟ้าจะโปร่งขนาดนี้ทั้งๆที่เมื่อเช้าที่โรงเรียนทำท่าเหมือนฝนจะตก หมวกสีแดงใบโปรดถูกสวมลงบนศีรษะก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปรวมกับสองแฝดที่ยืนถ่ายรูปกันสองคน

    นี่กะว่าจะเลิกคบกับพวกมันแล้วนะเนี่ย....แม่ง ทำอะไรก็ทิ้งกูตลอด

    “มาพอดี มาๆถ่ายรูปกับกู” ไอ้เซฮุนหันมามองก่อนจะล็อคคอผมเอาไว้แล้วชี้ไปที่จงอิน จากตอนแรกที่เคืองๆผมก็ไม่รอช้ารีบฉีกยิ้มก่อนจะมองกล้อง ไอ้จงอินหันไปสะกิดเพื่อนแถวนั้นก่อนที่ตัวมาจะวิ่งเข้ามาล็อคคอผมอีกคน ถ่ายอีกประมาณสามสี่ท่าแล้วจึงผละออกจากกัน

    “เดี๋ยวส่งรูปให้กูด้วย จะเอาไปให้เฮียดู”

    “เล่นเป็นแล้วหรอโทรศัพท์น่ะ”

    “ให้ไอ้ชานยอลทำให้ดิวะจะไปยากอะไร”

    “แหม เดี๋ยวนี้ใช้ผัวเก่งเหลือเกินนะ” จงอินจีบปากจีบคอก่อนจะยกโทรศัพท์ถ่ายรูปผมตอนเผลอ แต่อย่างว่าแหละครับคนหล่อไม่ว่าจะเผลอยังไงก็หล่อ ไอ้จงอินเลยทำท่าหงุดหงิดนิดหน่อยก่อนจะเลิกถ่ายรูปผมไปโดยปริยาย ไม่นานนักก็เราก็เดินไปยังแนวต้นมะพร้าว ชานยอลยืนถือโทรโข่งอยู่ตรงนั้น

    “ก่อนอื่นจุดประสงค์ที่เรามาในคราวนี้คือทำกิจกรรมเพื่อนสร้างสรรค์สังคม ทำความสะอาดชายหาดตลอดแนวรั้วของโรงแรมและบริเวณภายในโรงแรม เพื่อให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม ให้จับคู่กันแล้วมารับถุงขยะทางด้านนี้ เราจะเริ่มเก็บขยะตั้งแต่เวลาบ่ายโมงไปจนถึงบ่ายสามโมง ทำตัวให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเพื่อให้รุ่นน้องของเราได้มีกิจกรรมแบบนี้ต่อไปนะครับ”

    จับคู่อีกแล้วหรอ? แม่งงงงงงงงง!

    ผมรีบหันไปกอดไอ้เซฮุนแล้วผลักไอ้จงอินที่กำลังจะคว้าแฝดมันออกไป เกาะไอ้แฝดขาวราวกับเป็นปลิงดูดเลือด ไม่รู้แหละยังไงคราวนี้ผมจะไม่ยอมคู่กับไอ้ชานยอลแล้ว

    “มึงทำงี้ได้ไงอะแบคฮยอน! เมียกูนะเมียกู!

    “เมียมึงก็กิ๊กกู มึงไม่รู้หรอกว่ากูเล่นชู้กับเมียมึง”

    ผมแลบลิ้นแล้วกอดไอ้เซฮุนแน่นขึ้นไปอีก ดีว่าไอ้แฝดคนน้องมันไม่ได้เรียกร้องจะไปคู่กับแฝดคนพี่มันแต่อย่างใดไอ้จงอินเลยต้องเดินฮึดฮัดไปหาคยองซูที่กำลังยืนแจกถุงดำอยู่

    เยเฮท....สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

    “ทำงี้แล้วไอ้ชานยอลอะ?”

    “เรื่องของมันดิ”

    “ทำไมชอบทำมึนจังวะ ชอบก็บอกว่าชอบเล่นตัวอยู่ได้”

    “ไม่ได้เล่นตัวซักหน่อย” ผมบ่นพึมพำก่อนจะผลักไอ้เซฮุนให้ไปเอาถุงขยะ ไม่นานนักก็เดินกลับมา ผมขยับหมวกให้ดีแล้วเริ่มเดินคีบขยะใส่ในถุงดำโดยมีเซฮุนเดินตาม “เดี๋ยวนี้พวกมึงชอบทิ้งกูอะ...”

    ผมบ่นออกมาเบาๆระหว่างที่กำลังเก็บพวกขยะพลาสติก ไอ้เซฮุนเงยหน้ามามองนิดหน่อยก่อนจะขมวดคิ้วงง

    “ทิ้งอะไร”

    “ก็แบบ เดี๋ยวนี้พอมีจับคงจับคู่พวกมึงก็ทิ้งกูตลอด....”

    ไม่ว่าเปล่ายังทำท่าง้องแง้ง ไม่บ่อยนักที่ผมจะทำแบบนี้ ไอ้เซฮุนทำท่าเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาพลางหยุดเดินแล้วมองผมด้วยสายตาที่ค่อนข้างจริงจังนิดหน่อย

    “มึงมีแฟนแล้วนะแบคฮยอน”

    “มีแฟนแล้วไง แฟนก็ส่วนแฟน เพื่อนก็ส่วนเพื่อนดิ”

    “.....แยกแยะอย่างที่ปากพูดได้ก็ดี กูไม่ค่อยเห็นมึงแยแสชานยอลเท่าไหร่เลย”

    “ก็แบบ....ไม่ค่อยแสดงออกไรงี้ไง”

    รู้ตัวว่ากำลังแถ พอหันไปเห็นสายตาของโอเซฮุนที่กำลังตำหนิผมอย่างรุนแรงก็ได้แต่ยกมือยอมแพ้เพราะไม่บ่อยนักที่มันจะมองผมแบบนี้ “อย่ามองแบบนั้นดิ มึงกำลังจะเป็นเฮียคนที่สี่ของกูแล้วนะ”

    “มันน่ามั้ยล่ะแม่ง”

    “ก็.....มันเขิน เป็นมึงมึงไม่เขินหรอ หยอดๆจะตลอดเวลาจะให้กูอายม้วนมันก็ไม่ใช่ป่าววะ”

    ผมโวยวายไปเรื่อยก่อนจะคีบขยะอีกชิ้นลงในถุงดำ เซฮุนเดินตามผมมาและแน่นอนว่ามองด้วยสายตาที่ยังคงตำหนิผมเหมือนเคย

    “ขานยอลเป็นคนให้ความรักฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกนะ มึงเองก็ต้องเป็นคนให้ด้วย”

    “..........” ผมเงียบไป แต่สายตาก็ยังคงสอดส่ายหาเศษขยะไปเรื่อย อาจจะทำเหมือนไม่ฟังแต่ความจริงแล้วเสียงและคำพูดของเซฮุนชัดอยู่ในโสตประสาท ผมเหลือบกลับไปมองชานยอลที่กำลังเดินเข้าไปเก็บขยะบริเวณโรงแรม มันหันมามองผมนิดหน่อย โบกมือให้เมื่อรู้ว่าผมมอง แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้โบกตอบ

    ผมไม่รู้ควรจะแสดงออกยังไง

    ผมทำตัวไม่ถูก ผมไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้

    “ตอนนี้ชานยอลอาจจะยังทนได้ แต่เชื่อกูเถอะแบคฮยอน ตอนนี้มันอาจจะยังไม่หวังผล แต่ซักวันนึงชานยอลอาจจะคิด....ว่าทำไปทำไม”

    “.........”

    “มันอาจจะคิดว่าที่จริงแล้วคบกันแค่ขำๆหรือว่ารักกันจริงๆ”

    “........”

    “ลองคิดดูก็แล้วกันว่าถึงเวลาแล้วรึยังที่มึงควรจะใส่ใจชานยอลบ้าง”

    “.......”

    “ที่พวกกูทิ้งมึงก็เพราะว่าอยากให้มีเวลาให้ชานยอลบ้างหรอกนะ รู้หรอกว่ามึงเป็นพวกติดเพื่อน แต่มึงอย่าลืมว่าตอนนี้มึงมีแฟนแล้ว แล้วอีกอย่างกูกับจงอินก็ยังมีกันอยู่ไม่ต้องกลัวพวกกูเหงาหรอก”

    “.......”

    “ใส่ใจแฟนมึงบ้าง ไม่ต้องถี่จนเกินความจำเป็น แค่แสดงออกในเวลาที่ควร”

    “........”

    “เห็นว่ามึงเป็นเพื่อนหรอกนะถึงได้เตือน” ไอ้เซฮุนเลื่อนมือมาโยกศีรษะผมเบาๆเมื่อเห็นว่าผมไม่พูดอะไร เบนสายตากลับไปมองไอ้ชานยอลอีกครั้ง มันกำลังถือถุงขยะอยู่ แต่ก็ยังหันมามองผม มันยกมือขึ้นโบกอีกครั้งและคราวนี้ผมก็ไม่ลังเลที่จะโบกตอบกลับไป  ไม่นานนักก็เห็นฟันของไอ้ชานยอลแทบจะหมดปาก มันหัวเราะออกมาเหมือนกับจะชอบใจ ผมเลยเปลี่ยนไปชูนิ้วกลางแทน ไอ้เซฮุนเห็นแบบนั้นก็ตบหัวผมเบาๆ

    “กวนตีนอีกแล้วไอ้ห่านี่”

    “มันคือพี่แบคหอสามสไตล์มึงเข้าใจปะ”

    ผมฉีกยิ้มกว้าง รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นไอ้ชานยอลยิ้มเพราะผม

    โอเค จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นอีกหน่อยก็แล้วกันนะ

     

    Talk -25-

    อย่าใช้ ร่างกาย เพื่อแลก…รักมา
    มัน ไม่คุ้มค่า กับ…สิ่งที่เสียไป
    แต่ จงใช้ …หัวใจ เพื่อแลกใจ
    อย่างน้อยๆ ก็แค่เสียใจ….ถึงแม้ไม่ได้อะไรมา


    ที่มา : http://www.thaiquip.com/category/คำคมสอนใจ

    อึ้บบบบ *ขุดตัวเองขึ้นมา* ฉันตัดฉากแบบรวดเร็วมาก
    ฮิ้=.,= 
    ไม่มี่อะไรจะเวิ่นแบ้วแค่จะบอกว่า ฟิคเปิดจองแล้วไปสั่งกันนะเตง<3
    เดี๋ยวถ้ามีคนสนใจกิจกรรมชิงฟิคฟรีเยอะเราจะจัด ฮิ้
    มีเรื่องจะสารภาพคือวาดรูปไม่สวยเยยย บั่บ วาดคนได้แต่แบบก้านไม้ขีดไรงี้
    ทางที่ดีเราว่าเตงอย่าเสี่ยงเลยนะ....555555

    ขอบคุณที่คอมเม้นและแทคกันตลอดน้า<3
    รักมากมายเลยเลิ้บๆๆๆ มั้วะะ
    ปล. ฟิคเปิดจองแล้วเย่ะ
    ปล.สอง อย่าลืมเม้นและแทคน้า

    #ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×