ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] เด็กป่วน ก๊วนหอแตก {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #28 : หอแตก : 26

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.87K
      54
      20 พ.ค. 57




    -26-


    “แบคฮยอน!!

    “หะ?” ใครบางคนเรียกผมไว้ก่อนที่ผมจะเดินกลับเข้าโรงแรม ยังไม่ทันจะได้หันไปตัวผมก็ถูกยกขึ้น ไอ้จื่อเทาสอดมือเข้าใต้รักแร้แล้วออกแรงยกส่วนเท้าไอ้จงฮยอนเป็นคนจับไว้ ยังไม่ทันจะได้ดิ้นทั้งสองคนแม่งก็ยกตัวผมลอยก่อนจะวิ่งไปยังทะเล ตอนนี้เริ่มรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่าจะโดนอะไร

    “ไอ้เหี้ย! ปล่อยกู เดี๋ยว! ไม่ใช่! อย่าโยน อย่าโยน!!!!

    ซ่า......

    ขอบคุณที่ฟังคำขอร้องของกูนะครับ

    ผมถูกโยนลงทะเลทันทีที่โวยวาย ตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ก็รีบปาดน้ำที่เข้าตาออกเป็นพัลวัน ให้ตายห่าเถอะครับ เข้าปากเข้าตาหมด แสบใช่ย่อยที่ไหนล่ะ เมื่อขยี้ตาอยู่หลายทีแล้วเริ่มดีขึ้นก็มองหาไอ้ตัวการ สองคนนั้นแม่งวิ่งกลับไปที่ชายหาดแล้ว ผมรีบใช้สองมือแหวกๆว่ายกลับไป เดินแต่ละทีนี่เกร็งขาแทบตาย

    “กลับมานี่เลยนะพวกมึงอะ!!” ไม่ว่าเปล่ายังชี้ไปที่ไอ้คู่ซี้ผีพนันที่แลบลิ้นปริ้นตาและไปจับคนอื่นมาโยนลงน้ำเป็นรายคน ไอ้เซฮุนกับจงอินหายไปไหนไม่รู้ ไหนๆก็เปียกแล้วผมเลยรวมหัวกับพวกมันไปซะเลย “มึง....ไอ้ชานยอลอะ”

    “ไปนอนเล่นอยู่ใต้ต้นไม้มั้ง ตรงไหนวะ ตรงโน้นๆ”

    จื่อเทาทำท่านึกอยู่พักหนึ่งแล้วชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ริมชายหาด เห็นร่างยาวๆนอนทอดกายอยู่ใต้ต้นไม้ ผมเลยพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะวิ่งบนทรายไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉีกยิ้มน้อยๆก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆแล้วรีบกวักมือเรียกไอ้สองตัวป่วนให้มาหา

    จงฮยอนกับจื่อเทาลังเลมองหน้ากันอยู่พักนึงก่อนจะเดินเข้ามา ผมสะบัดมือให้หยดน้ำหลุดไปก่อนจะเอามือโบกไปมาบนหน้าของปาร์คชานยอล ท่าทางว่าจะไม่รู้ตัวผมเลยพยักหน้าตัวเองน้อยๆส่งสัญญาณให้อีกสองคนที่เข้ามาสมทบอุ้มตัวชานยอลไป

    “เฮ้ย!” ทันทีที่โดนอุ้มชานยอลก็ลืมตาตื่น ดวงตาคู่โตนั่นหันมาเห็นผมพอดี ก่อนจะถลึงตาใส่น้อยๆ และไม่นานนักจงฮยอนกับไอ้เทาก็โยนประธานนักเรียนลงน้ำ สภาพมันตอนนี้เลยไม่ต่างจากผมในตอนแรกเท่าไหร่นัก ผมหัวเราะดังลั่นหาดเมื่อได้ยินเสียงไอ้ชานยอลร้องโวยวายเสียดังก่อนจะถูกโยน

    “เคลียร์กับผัวเองนะพวกกูไปล้ะ”

    หะ......? มันโกรธหรอ แล้วจะอยู่ทำไมวะ!

    ผมเองก็ทำท่าจะเตรียมโกยบ้างแต่ไอ้จงฮยอนกลับหันมาแล้วดันตัวผมเอาไว้ไม่ให้วิ่งหนีจนตัวล้มลงไปนั่งจุมปุ๊กบนพื้นทราย เท่านั้นแหละก็พากันวิ่งออกไปโดยที่ไอ้จื่อเทาตะโกนกลับมา “เมียมึงสั่งนะชานยอล เคลียร์กันเอง!!

    โอ้โห.....เลวมาก

    ผมรีบยันตัวลุกขึ้นยืน ไม่มีเวลาแม้แต่จะปัดทรายที่ติดอยู่ตามตัว แต่ทว่าไอ้ชานยอลแม่งก็ขายาวเกินไปมันวิ่งมาจับผมอุ้มพาดบ่าก่อนจะพากลับลงไปที่ทะเล

    “อย่า...อย่าโยนนะโว้ย! เมื่อกี้กูก็โดนไปแล้วอะ!

    “ขอร้องกูก่อนสิ”

    “ไม่! ห้ามโยนนะโว้ย ค่อยๆปล่อยกูลงด้วย!!

    ผมทุบหลังของไอ้คนที่กำลังอุ้มผมอยู่ ไม่กล้าดิ้นแรงมากกลัวว่าจะทำไหล่มันหักไปเสียก่อน คนที่เล่นน้ำอยู่แถวนั้นต่างให้ความสนใจ ส่วนชานยอลพอเห็นว่าผมไม่ยอมพูดซักทีมันก็ยกตัวผมขึ้นจนต้องรีบกอดคอมันเอาไว้แน่นแล้วพูดเสียงสั่น

    “ยะ....อย่าโยน”

    “พูดเพราะๆ แทนตัวเองว่าแบคด้วย”

    “.....รอชาติหน้าเหอะ!” เท่านั้นแหละผมก็รู้ได้ทันทีว่ามือของมันกำลังจะปล่อยออกจากเอวของผม

    “ชะ....ชาน!! อย่าปล่อยแบคนะ”

    “ก็แค่เนี้ย” มือใหญ่กระชับเข้าที่เอวผมก่อนจะค่อยๆปล่อยให้ยืนลงในน้ำ ประมาณครึ่งตัวผมแต่มันอยู่แค่สะโพกของชานยอล พอยืนได้ก็เอาเลย ผมทุบไหล่มันทั้งสองข้างแล้วผลักให้ถอยออกห่างเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนทั้งชั้นที่กระจายตัวอยู่ตามชายหาดบ้างทะเลบ้าง แต่ไอ้ชานยอลเหมือนจะไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่รั้งเอวผมให้เข้าไปชิดอย่างที่ทำเป็นประจำ

    “หัดอายคนอื่นเขาบ้างเถอะมึง”

    “นี่อายหรอกนะถึงไม่จูบเนี่ย”

    “ไอ้เลว!” ด่าไปงั้นแหละเหมือนเป็นคำติดปากแต่ก็ไม่ได้ดิ้นหรือจะผลักหนีแต่อย่างใด ชานยอลก้มหน้าลงมาใกล้มองผมด้วยสายตาที่ค่อนข้างจริงจัง

    เอาอีกแล้ว วันนี้มีคนมองผมด้วยสายตาแบบนี้มาสองรอบแล้วนะ

    “เมื่อตอนเก็บขยะคุยอะไรกับเซฮุน”

    “ห๊ะ?”

    “เห็นนิ่งๆ คุยอะไรกัน” ผมทำหน้างงเมื่อจู่ๆชานยอลก็ถามขึ้นมา มันยิ่งทำหน้านิ่วหนักเมื่อเห็นท่าทางไม่รู้เรื่องของผม ไม่นานักก็ร้องอ๋อขึ้นมา

    “เรื่องนั้น.....”

    “เรื่องอะไร?”

    “กะ...ก็ทั่วไป ทำไมเพื่อนกันคุยกันไม่ได้ไงวะ?”

    “หึงได้ปะละ”

    “ห๊ะ?”

    “จริงๆนะ บางทีก็โคตรหึงเลยเวลามึงอยู่กับเซฮุน ถึงกูจะรู้ก็เถอะว่ามันไม่มีอะไร แต่กูไม่ชอบไง”

    “ประสาท” ผมบ่นพึมพำเบาๆ เอากับมันสิ เพื่อนผมคบมาตั้งแต่สมัยประถม ดูเบ้าหน้าแล้วยังไงก็คิดว่าไม่มีทางสปาร์คกันติดมันยังหึงไปได้ ไม่เรียกว่าประสาทก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว “เพื่อนกูทั้งนั้น ประสาทจริงๆ”

    “ท่าจะจริงว่ะ....ไปอาบน้ำได้แล้ว มีปาร์ตี้บาร์บิคิวที่ริมหาดตอนหกโมง ลงมาละกัน”

    ผมพยักหน้าน้อยๆก่อนที่ชานยอลจะผละออกจากผม มันอุ้มผมขึ้นอีกครั้ง โดยไม่ทันได้ตั้งตัวไอ้ห่าโย่งที่วางท่าไว้เสียดีในตอนแรกก็จับผมโยนลงน้ำจนเปียกซ่กอีกรอบ

    “ถือว่าเอาคืนที่ให้ไอ้จงฮยอนกับเทามาโยนกูก็แล้วกันนะ”

    ไอ้ชานยอลไม่เคยเลยที่จะไม่เลว! แม่ง!!!

     

    เมื่อได้เวลาประมาณหกโมงเย็นผมก็เดินลงมาด้านล่าง พระอาทิตย์เริ่มตกดินภาพท้องฟ้าของริมทะเลเป็นอะไรที่น่าดูสุดๆ พี่แบคบอมโทรมาหาตอนผมกำลังอาบน้ำ และพอโทรกลับไปแน่นอนว่าคุยยาว จนถึงตอนนี้พี่แบคบอมก็ยังไม่ยอมวางสาย

    [กำลังทำอะไรอยู่?]

    “เดินไปหาไอ้เซฮุนกับจงอินอะ”

    [ชานยอลล่ะ?]

    “ไม่รู้เหมือนกัน คงไปดูเรื่องอาหารมั้ง วันนี้มีปาร์ตี้บาร์บิคิวที่ริมหาด เอ๊ะ...มันได้อาบน้ำยังวะ”

    ผมบ่นพึมพำเบาๆก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเพราะชานยอลไม่ได้เข้าห้องมาเลย คีย์การ์ดก็อยู่กับผม แสดงว่ามันยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่แบคบอมบ่นง้องแง้งอะไรบางอย่างที่ผมฟังไม่ทันมาตามสาย รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เจ้าตัวเรียกชื่อผมนั่นแหละ

    [แบค แบคฮยอน ได้ยินพี่มั้ยเนี่ย]

    “อ้อ ได้ยิน มีอะไร?”

    [ไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ยล่ะ เหอะ ช่างมันเหอะวางก็ได้ ก่อนนอนอย่าลืมโทรหาพี่นะ]

    “ค้าบบ รักพี่แบคบอมนะ จุ้บๆ”

    ส่งเสียงจุ้บๆไปตามสายน่าจะทำให้พี่แบคบอมอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยก่อนจะยัดโทรศัพท์ลงในกางเกงผ้าร่มขาสั้น ผมสวมเสื้อกล้ามไว้ด้านในแล้วสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ตอนก่อนออกมาจากห้องยืนยันแล้วว่าหล่อแน่นอน ถ้ามีสาวๆต้องมองกันเหลียวหลังแน่

    ผมเดินออกมาที่ริมหาดสอดสายตาหาไอ้คนที่ยังไม่ได้อาบน้ำ แต่เจอเพียงสองแฝดที่กำลังยืนอยู่หน้าเตาถือจานกำลังเลือกเนื้อที่อยู่บนนั้น ผมเดินเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างทั้งสองคนแล้วฉีกยิ้มจนตาหยี

    “เอาให้มั่งดิ”

    “ใช้กูอีกล้ะไอ้ห่า” เซฮุนกรอกตาไปมาแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ มันชี้ไปที่แถวจานผมไม่รอช้ารีบไปหยิบก่อนจะยืนถือจานด้วยท่าทางเหมือนลูกสุนัขที่น่าสงสาร

    เมื่อได้ของตามที่ต้องการผมก็โดนลากไปนั่งอยู่ที่บริเวณรอบกองไฟเล็กๆจุดขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศ มองข้ามไปอีกฝั่งก็พบว่าไอ้ชานยอลนั่งอยู่ มันยังคงสวมชุดเดิมแต่เสื้อผ้าแห้งแล้ว ผมของไอ้โย่งดูยุ่งๆไม่เป็นทรงแต่ก็ถือว่าดูดี บนตักของมันมีกีต้าร์โปร่งอยู่ คนที่นั่งอยู่รอบๆนี่ไม่ใช่คนอื่นคนไกล คยองซูนั่งอยู่ข้างชานยอลในมือของมันมีขวดน้ำพลาสติกที่ใส่รายเอาไว้ข้างในเล็กน้อยไว้คอยเขย่าประกอบจังหวะ ส่วนไอ้เทาก็มีกะลาสองอันคอยเคาะ

    ยะ....อย่าบอกนะว่าพวกมึง....

    ยังไม่ทันจะได้ลุกหนีเสียงกีตาร์ก็ดังขึ้นอีกทั้งไอ้สองแฝดก็ดึงแขนผมไว้ให้นั่งลงที่เดิม เสียงเคาะเริ่มตามมา เพราะวงที่นั่งอยู่นี่ไม่ได้ใหญ่อะไรมากเลยทำให้ผมได้ยินค่อนข้างชัด ชานยอลส่งยิ้มมาให้ก่อนที่มันจะเริ่มร้อง

    เชื่อไหมว่าฉันไม่เคยเจอคนที่รักจริง เจ็บทุกครั้งเมื่อเป็นคนที่ถูกทิ้ง

    และต้องผิดหวังทุกครั้งที่รักใครก่อน จนตอนนี้กลัวจะซ้ำเดิมอีกที

     

     

    มองคอร์ดกีต้าร์สลับกับมองหน้าผม ไอ้จื่อเทากับจงฮยอนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือก็ทำหน้าเศร้าอินตามเพลงด้วยท่าทางสะดิ้งจนน่าหมั่นไส้ ผมพยายามจะทำเป็นไม่สนใจแต่ก็อดขำไม่ได้ แต่พอหันกลับไปมองไอ้คนที่กำลังทั้งเล่นทั้งร้องก็ได้แต่หน้าร้อนอีกครั้ง

     

    แต่พอเมื่อได้พบเธอ ก็เจอว่าใช่ เลยอยากรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร

    และพอเมื่อหาดูเหตุผล ก็ไม่รู้เพื่ออะไร เพราะความรักมันก็แค่ได้รักไป

     

    แค่รู้ว่าฉันรักเธอ รู้แค่ว่าฉันรักเธอ มันมากมายจนหยุดมันไม่ไหว

    ไม่รู้ปลายทางเป็นอย่างไร ไม่รู้จะจบลงอย่างไร รู้แค่เพียงฉันนั้นรักเธอหมดใจ

     

    แค่รู้ว่าฉันรักเธอ รู้แค่ว่าฉันรักเธอ เมื่อรับฟังเธอคงจะเข้าใจ

    ให้ฉันนั้นรักเธอต่อไป ขอเธออย่างห้ามกันได้ไหม เพราะจากนี้ชีวิตของฉันไม่อาจรักใครได้อีก

     

     

     

    เสียงกีตาร์ค่อยๆเบาลงก่อนที่เสียงผิวปากจะดังขึ้น ไอ้สองแฝดปรบมือรัวราวกับว่าเตี๊ยมกันมาส่วนผมนี่ไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ตรงส่วนไหนของทราย ได้แต่นั่งทำหน้าอึนหน้ามึนอยู่แบบนั้น ไม่นานนักชานยอลก็ลุกขึ้นมา เดินมานั่งอยู่ข้างๆเมื่อไอ้จงอินขยับที่ทางให้ สองแฝดลุกเดินไปนั่งอีกฝั่ง ชานยอลเริ่มดีดกีต้าร์อีกครั้งและคราวนี้เปลี่ยนเพลง

    ท้องทะเลท้องฟ้ามีเพียงแค่เรา ท่ามกลางหาดทรายขาว

    แสงดวงดาวพร่างพราว ประกายสวยงาม ดั่งบนสวรรค์เปิดทาง ให้คนอ้างว้างอย่างฉัน

    บอกความในใจให้เธอได้ฟัง โอกาสอย่างนี้ ต้องพูดไป

     

    ไม่ได้ร้องเปล่าๆยังมีการหันหน้ามามองส่งสายตาเจ้าชู้ ไอ้เสียงแซวอะไรจากพวกลูกคู่ตอนนี้โดนเสียงนุ่มทุ้มของไอ้ชานยอลกลบหมดแล้ว ผมแก้เขินด้วยการฮัมเพลงตามแต่พยายามที่จะไม่หันไปสบตา ลอบมองแค่เสี้ยวหน้าของอีกฝ่ายที่กำลังระบายยิ้ม พลันใจเต้นแรงขึ้นมา

    ว่าทั้งหัวใจ มีแต่เธอนั้น อยากให้เชื่อกัน พยานคือฟ้าที่เฝ้าดู

    แล้วเธอคิดอย่างไรเมื่อได้รู้บอกที อยากฟังจากปากเธอ

     

    หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆ เหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้น ที่จะต้องพูดมา

    แค่ร้องว่าอ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา ก็พอ

     

    และฉันจะขอเป็นคนนั้นที่ดูแลหัวใจ ไม่เคยบอกรักใครคนไหนเพิ่งจะมีแค่เธอ

    และฉันก็อ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา เหมือนเธอ แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าใจ

     

    เป็นช่วงโซโล่ของกีต้าร์ ท่าทางว่าจะเตรียมตัวมาอย่างดีถึงเล่นได้ไม่มีเพี้ยนไม่มีสะดุด ไม่นานนักก็วกกลับเข้าท่อนฮุคอีกครั้ง เป็นการร้องเพลงที่โคตรตามใจฉัน คราวนี้ชานยอลหันมาสบตาผมตรงๆ ร้องเพลงด้วยท่าทางที่ชัดถ้อยชัดคำราวกับบังคับให้ผมร้องไปด้วยกัน

    หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆ เหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้น ที่จะต้องพูดมา

    แค่ร้องว่าอ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา ก็พอ

     

    และฉันจะขอเป็นคนนั้นที่ดูแลหัวใจ ไม่เคยบอกรักใครคนไหนเพิ่งจะมีแค่เธอ

    และฉันก็อ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา เหมือนเธอ แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าใจ

     

     

    เออ.. แล้วก็ดันร้องตามมันอีก

    “เอาอีกปะ” ไอ้ชานยอลใช้ไหล่กว้างแซะผมมาเบาๆ ได้ยินแบบนั้นก็ยกนิ้วกลางใส่ไปทีด้วยความเขินก่อนจะโดนมันจับเอาไว้ “เขินแล้วหยาบคายตลอด โรแมนติกซักห้านาทีจะตายมั้ยเตี้ย”

    “ก็อย่าทำแบบนี้หน่อยสิวะ หัวใจจะวาย”

    “ชอบปะละ?”

    “.........”

    “ว่าไง?”

    “ก็.....ก็ชอบ”

    “ที่ถามเมื่อกี้หมายถึงชอบกูนะ ไม่ใช่เพลงJ

    “ฮิ้วววววววว พี่แบคหอสามคนแมนเครื่องค้างไปแล้วโว้ย”

    จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้จื่อเทาโทรโข่งประจำหอพิเศษ แหกปากเสียดังลั่นกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าตรงนี้แม่งทำอะไรกันอยู่ ชานยอลปล่อยมือผมก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโอบบ่า แปลกใจตัวเองเล็กน้อยที่ไม่คิดจะขัดขืนทั้งๆที่คนอื่นนั่งอยู่กันเต็มไปหมด ไอ้ประธานนักเรียนขยับริมฝีปากมาแนบอยู่ที่ริมใบหูของผม มันกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน

    “กินข้าวเสร็จแล้ว.....กินมึงต่อบนห้องนะ”

    อะ....เอ่อ กูคิดว่านี่มันไม่ใช่แล้วล่ะ

     

    ผมกำขวดชาเอาไว้แน่น.....

    นั่งอยู่บนเตียงด้วยอาการติดจะสั่นเล็กน้อยขวดน้ำชาในมือของผมมันผสมยานอนหลับไว้แล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่ไอ้ชานยอลออกมาจากห้องน้ำ ดูจากท่าทางของมันตั้งแต่ข้างล่างแล้วถ้าผมไม่ให้มันนอนซะตั้งแต่ตอนนี้จะกลายเป็นว่าตัวผมเองนี่แหละที่จะไม่ได้นอน!!

    เสียงน้ำที่ดังกระทบพื้นทำเอาผมใจชื้นได้เพียงนิดหน่อย อย่างน้อยมันก็ยังไม่เสร็จ แต่พอเสียงน้ำหยุดไหลเท่านั้นแหละผมก็นั่งตัวเกร็งขึ้นมาทันที

    โว้ย เกิดมาไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน

    พอเสียงประตูเปิดออกมาผมก็สะดุ้งลุกขึ้นจากเตียง ยืนฉีกยิ้มโง่ๆให้คนที่นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา หยดน้ำยังคงเกาะอยู่ตามกล้ามเนื้อที่พอสมส่วน ผมแอบมองเพียงเล็กน้อยก่อนจะสบตากับคนที่กำลังมองผม เดาสายตาไม่ถูกเลยจริงๆว่าไอ้ชานยอลกำลังมองผมด้วยความรู้สึกแบบไหน

    “กะ...กินน้ำมั้ย?” ผมยื่นขวดออกไป ไอ้ชานยอลพยักหน้าน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ละสายตาออกไปจากผม ตอนนี้รู้สึกเย็นไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะรีบปล่อยมือเมื่อไอ้โย่งรับขวดน้ำไปแล้ว

    “แบค......”

    “เอ้อ! กูว่ากูอาบน้ำหน่อยดีกว่า เมื่อกี้แม่งโคตรร้อนเลย เนอะๆ”

    ว่าจบผมก็วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำคว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่อยู่แถวนั้นเข้ามาด้วย ไม่ทันได้มองว่าชานยอลทำหน้าตาแบบไหนแต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนจะตายแล้วแม่ง! บรรยากาศรอบตัวโคตรอีโรติค ผมทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้

    โอ๊ยยยย ยานอนหลับแม่งจะได้ผลมั้ยก็ไม่รู้!!

    ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำซักพัก ผมอาบน้ำจริงๆแต่ใช้เวลาค่อนข้างนานกับการตัดสินใจจะเดินออกมา ผมหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ มองไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็พบว่าขวดน้ำชาที่ยื่นให้ไอ้ชานยอลเมื่อซักครู่ถูกเปิดและดื่มจนเกือบหมด ผมค่อยๆก้าวออกมาอย่างระมัดระวังเกาะกำแพงแล้วค่อยๆชะโงกหน้ามองไปที่เตียง

    ชานยอลกำลังหลับตา....

    เหยดเข้! ยานอนหลับใช้ได้ผล

    ชกอากาศด้วยความดีใจก่อนจะร้องเยสเบาๆเพื่อฉลองให้กับความสำเร็จ แล้วก้าวออกมาจากห้องน้ำ หยุดยืนอยู่ปลายเตียงมองคนที่คาดว่าน่าจะหลับไปแล้วด้วยท่าทางเหนือกว่า

    ไม่ได้แอ้มกูร้อกกกกก!

    ผมกระโดดโลดเต้นด้วยความสบายใจก่อนจะกระโดดขึ้นเตียง สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มพลางยกยิ้มด้วยความอารมณ์ดี อย่างน้อยวันนี้ผมก็รอดไปได้ตั้งหนึ่งวัน.....

    “อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ”

    ไอ้ห่า!!! หลอกกูทำไม!

    ผมสะดุ้งพรวดเมื่อจู่ๆคนที่ผมคิดว่าน่าจะหลับไปแล้วกลับพลิกตัวขึ้นมาค่อมผมเอาไว้ เบิกตามองอีกคนด้วยความตกใจ ไอ้ชานยอลกระตุกยิ้มน้อยๆก่อนจะกดมือทั้งสองข้างของผมให้จมลงไปบนเตียง มันหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้

    “เตรียมใจในห้องน้ำพอแล้วใช่มั้ยหื้อ?”

    “ตะ...เตรียมใจอะไร! ลุก...ลุกไปเลยวันนี้กูเหนื่อยแล้ว”

    “อย่าคิดนะว่าไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปในน้ำ”

    “นะ....นี่มึงรู้หรอ?” ผมทำตาโตก่อนจะหน้าซีดเผือดเมื่อรู้ตัวว่าทำพลาดอย่างใหญ่หลวง ชานยอลพยักหน้าน้อยแล้วกระตุกยิ้ม “ช่าย~ รู้หมดแล้ว ไอ้เทาบอกแล้ว”

    ไอ้จื่อเทาแม่ง!

    ระหว่างที่ผมกำลังก่นด่าไอ้คนปากมากในใจ ชานยอลก็กดจูบลงมาเบาๆบนริมฝีปาก มือทั้งสองข้างเปลี่ยนมาเป็นจับแบบประสานนิ้วแล้วกดลงไปให้ตรึงกับพื้นเตียง ไอ้คนที่คร่อมทับอยู่ด้านบนเริ่มบดเบียดริมฝีปากลงมาเป็นจังหวะเนิบนาบ ดูดดุนเพียงแผ่วเบาก่อนจะผละริมฝีปากออกไป

    ผมลืมตาขึ้นสบสายตากับคนที่กำลังมองมา หัวใจเต้นแรงประหนึ่งเป็นกลองในงานกีฬาสี ตอนนี้คงหนีไปไหนไม่รอดแล้ว ชานยอลไล่จูบลงบนหน้าผากผมอีกครั้ง เพียงแค่แผ่วเบาก็ทำเอาใจผมทำงานหนักอีกร้อยเท่า ริมฝีปากของอีกคนแตะลงบนมูกขงผม ริมฝีปากและไล่ลงไปที่ซอกคอ ชานยอลซุกอยู่แค่นั้น

    ผมหลับตาลงตัวสั่นน้อยๆไม่รู้ว่ากลัวอะไร ชานยอลไม่ทำอะไรนอกจากซุกหน้าอยู่ตรงนั้น จะว่าไซร้มันก็ไม่ใช่อะเพราะแม่งเล่นทิ้งน้ำหนักลงมาทั้งตัวแบบนี้ ผมหลับตาปี๋เตรียมตัวเตรียมใจรับผลกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพบว่าชานยอลซุกอยู่ที่ซอกคอผมนานเกินไป

    “ชาน....ชานยอล” แรงกดที่ข้อมือหายไปแล้วผมเลยขยับมาเขย่าแขนมันเบาๆพลางเรียกชื่อ ปรากฏว่านิ่งไม่ไหวติง ไอ้ชานยอลหลับไปแล้ว

    “ชานยอล ชานยอล” ผมลองเขย่าตัวมันดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เมื่อพบว่าไม่ตื่นแล้วจริงๆก็ค่อยๆดันอีกคนที่กำลังทับตัวผมให้พลิกกลับไปนอนที่เดิม ดีว่าพี่แบคหอสามคนแมนค่อนข้างแข็งแรงพอสมควรเลยทำให้การพลิกตัวไอ้ชานยอลนั้นไม่ลำบากมากมายเท่าไหร่.....

    ที่ไหนล่ะ! โอ้โห เมื่อมื้อเย็นนี่แดกธรรมดาหรือยัดห่า ทำไมตัวหนักอย่างกับหินสิบตัน

    ผมมองไอ้คนข้างตัวที่หลับแอ้งแม้งเหมือนนอนตายด้วยสายตาเวทนา ไหนบอกว่ารู้ไงวะว่ามันคืออะไรแล้วทำไมยังเสือกกินเข้าไปอีก มองมันซักพักก่อนจะจัดการดึงผ้าห่มที่ร่นๆไปอยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมตัวทั้งมันและผม เสียงหายใจที่สม่ำเสมอทำให้รู้ว่าตอนนี้ไอ้ชานยอลหลับสนิทไปแล้ว

    โอเค....คืนนี้พี่แบคหอสามก็ผ่านพ้นอันตรายไปได้หนึ่งวัน

     

    Chanyeol Part

    คืนนี้เตรียมตัวให้พร้อมเลยนะไอ้ประธาน ท่าทางเมียมึงจะไม่ให้นอน

    อะไร?

    ซู่ซ่าปาทังกี้กันทั้งคืนไง

    ผมเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินอะไรบางอย่างที่ฟังแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อจากปากของไอ้เทา ผมทำหน้าไม่เชื่อแต่มันเสือกทำหน้าจริงจัง กูพูดจริง เมียมึงไปขอยาอะไรซักอย่างที่เคาเตอร์

    แบคฮยอนปวดหัวรึเปล่า

    ไม่น่าอะ ถ้าปวดหัวแล้วทำไมต้องทำท่าหลบๆซ่อนๆด้วยวะ

    ผมทำท่าคิด แต่ที่คาเตอร์ไม่น่าจะมียาอะไรแบบนี้ แต่อย่างว่าแหละครับที่นี่เป็นโรงแรมถุงยงถุงยางอะไรยังมีบริการให้ ไอ้จื่อเทาเอื้อมมือมาตบบ่าผม

    เห็นเล่นตัวแบบนี้ แต่พอเอาเข้าจริงก็ใช้ได้นี่หว่า

    จะไปไหนก็ไปเลยมึง แล้วอย่าบอกเรื่องนี้กับใครด้วย

    เทารู้...โลกรู้.....

    ไอ้เทา....

    เออๆ ไม่บอกใครก็ได้ คันปากอยากบอกคนอื่นจะตายห่า นี่ทำเพื่อมึงเลยนะเนี่ย

    แบคฮยอนทำตัวเป็นปกติ ปกติมากจนกระทั่งผมกระซิบที่ชายหาดว่าจะกินมัน ถึงตอนนั้นไอ้แบคฮยอนก็มีท่าทีลนลานนิดหน่อย ไม่สบตาไม่พูดด้วย จนกระทั่งขึ้นไปบนห้อง มันหยิบขวดน้ำชาของมันมาถือเอาไว้ ผมทำท่าเหมือนไม่สนใจก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะรู้สึกเหนียวตัวเกินจะบรรยาย ผมอาบน้ำช้าๆและต้องช่วยตัวเองก่อนเสียรอบนึงในห้องน้ำ

    ก็ใครใช้ให้ไอ้เตี้ยทำตัวน่ากินขนาดนี้.....

    เออ....ผมหื่น ผมยอมรับ ไม่ปฏิเสธ รับกันตรงๆ

    เมื่อจัดการธุระ(ที่ส่วนตัวโคตรๆ)เสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา แบคฮยอนยืนฉีกยิ้มที่ดูลนลานมาให้ก่อนจะยื่นขวดชาที่ถือมาตั้งแต่แรกให้ผม

    เห็นแบบนั้นแล้วก็ทำเพียงพยักหน้าใช้สายตาของตัวเองเป็นตัวบอกทุกอย่าง แทนความต้องการมากมายที่อัดอั้นอยู่ข้างใน แบคฮยอนไม่มองหน้าผมแม้แต่น้อย ผมเอ่ยปากเรียกมันยังไม่ทันจบไอ้เตี้ยก็วิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว

    โอเค.....รออีกหน่อยจะเป็นอะไรไป

    ผมจัดการสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินไปนั่งบนเตียง มองขวดชาในมือแล้วก็กระตุยิ้มหน่อยๆก่อนจะตัดสินใจเปิดดื่ม

    เอาวะ ไหนๆก็ยอมกันขนาดนี้แล้ว

    เป็นไงมั่ง

    ได้ยังๆ?

    ผมให้เดาว่าเป็นใคร?

    จื่อเทานั่นแหละ

    เสือก

    ไปหาไรทำไป กูจะนอน

    ตอบกลับไปสั้นๆ มันส่งสติ๊กเตอร์ไอ้หมีกระทืบหมอน....มันชื่อตัวอะไรนะ? ช่างมันเถอะ

    ผมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงซักพักก็เริ่มหาว รู้สึกง่วงนิดหน่อยแต่อาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อย วันนี้ผมทำบ้าอะไรไม่รู้แทบจะทั้งวันจริงๆ เมื่อเสียงน้ำหยุดไหลผมก็ชะงักมือ วางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงก่อนจะค่อยๆถดตัวลงนอน พักสายตาซักหน่อย รอให้อีกคนออกมาจากห้องน้ำ ไอ้เตี้ยขยับตัวยุกยิกอยู่ข้างๆ เหมือนจะดูอารมณ์ดีซะเหลือเกิน นี่แม่งแค่ยั่วผมให้มีอารมณ์หรือเปล่า? ไม่เห็นมันทำอะไรเลยวะ?

    ถึงตอนนั้นผมเลยพลิกตัวไปคร่อม แบคฮยอนทำหน้าตกเหมือนเห็นผี ตอนนี้ผมรู้สึกง่วงหนักกว่าเก่าแต่พอเห็นริมฝีปากบางๆก็อดที่จะก้มลงไปจูบไม่ได้

    และจนถึงตอนสุดท้าย....ผมถึงได้รู้ว่ายาที่แบคฮยอนให้ผมกินคือยานอนหลับไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์อย่างที่ไอ้จื่อเทาเข้าใจ

    แสบจนถึงหยดสุดท้ายจริงๆไอ้เปี๊ยกนี่......

    คืนพรุ่งนี้จะทบทั้งต้นทั้งดอกเลยคอยดู

    End Chanyeol Part

     


    Talk-26-

    จง… เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
    จง… อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง
    จง… ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
    จง…โง่พอที่จะ เชื่อในปาฏิหาริย์


    ที่มา : http://www.thaiquip.com/category/คำคมสอนใจ

    แกคิดว่าตอนหน้าคุณประธานนักเรียนจะเอาคืนจริงปะ?
    ถามแค่นี้ล่ะฮริ้ง
    ตอนหน้าไปทำกิจกรรมชิงฟิคฟรีกันน้า แจกสองเล่มมั้วะ

    ที่หายไปนี่ไม่ใช่ไร เป็นบ้าอยู่....
    ท่องทุกวันว่า กูโอเค กูโอเค
    จนถึงตอนนี้ก็พยายามจะโอเคอยู่
    เพราะฉะนั้นมาท่องกูโอเคด้วยกันนะ
    ใครที่ยังเฮิร์ตอยู่ฉีกยิ้มให้ตัวเองในกระจกแล้วบอกว่ากูโอเค
    แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันเนอะ :)

    รักค้าบบบบ

    #ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×