NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEVIL BAD BOY กับดักรัก (ร้าย) ของนายปีศาจ [รีอัพ+รีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 4.1 - เงาของใครคนนั้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.35K
      11
      29 ต.ค. 66

    เงาของใครคนนั้น



            “คัท!” เสียงผู้กำกับสั่งคัทราวกับเสียงทิพแห่งสวรรค์ เพราะทุกคนทำงานกันหนักมากตั้งแต่เช้ายันเย็น ยามเหนื่อยล้าเช่นนี้จึงไม่มีใครอยากยื้อเวลาแห่งการพักผ่อนของตัวเอง

    ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

    “วันนี้น้องไอรีนทำดีมากเลยนะคะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นงานแรกของน้อง น้องแสดงได้ดียิ่งกว่าดาราดังๆ บางคนซะอีกค่ะ”

    พี่สไตล์ลิสของกองถ่ายเดินเข้ามาชมฉันไม่หยุด

    “โห ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกค่ะพี่ ที่หนูทำออกมาได้ดีก็เพราะมีพี่ๆ คอยช่วยเหลือทั้งนั้นแหละค่ะ ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ” ฉันยิ้มตอบอย่างนอบน้อม

    “แหม คุณน้องก็ ถ่อมตัวจังเลยนะคะ งั้น เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ คุณน้องก็รีบกลับบ้านไปพักผ่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัทฯ อีกแต่เช้า”

    “อะไรนะคะ เข้าบริษัทฯ อีก เข้ามาทำไมคะ”

    ฉันถามด้วยความไม่เข้าใจ

    “ก็เข้ามาเซ็นสัญญากับทางเราไงคะน้องไอรีน”

    เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่เขาบอกว่าอะไรนะ เซ็นสัญญางั้นเหรอ

    “เซ็นสัญญา?” ฉันขมวดคิ้ว

    “ทำหน้างงแบบนี้ อย่าบอกนะคะว่าคุณ ซันนี่ ไม่ได้บอกเรื่องเซ็นสัญญา” พี่สไตล์ลิสย้อนถาม

    “ไม่ได้บอกค่ะ” ฉันส่ายหน้า

    “โอะ ตาย!” พี่สไตล์ลิตกุมขมับ “สงสัยพี่ต้องไปต่อว่าคุณซันนี่ซะหน่อยแล้วล่ะ ที่ไม่ยอมแจ้งคุณน้องไอรีนเรื่องเซ็นสัญญา”

    พี่สไตล์ลิสตั้งท่าจะเดินไป แต่ฉันรีบคว้าต้นแขนของเจ้าตัว

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ เดี๋ยวเรื่องนี้หนูเคลียร์กับเขาเองดีกว่าค่ะ” ฉันยิ้มตอบ

    “แต่ว่า…”

    “ถ้าให้พี่ต่อว่าเขาหนูเกรงว่ามันจะไม่เหมาะน่ะค่ะ เพราะยังไงเขาก็เป็นคนพาหนูเข้ามา” ฉันชี้แจงถึงเหตุผล พี่สไตล์ลิสถึงบางอ้อก่อนจะยอมถอยทัพ ไม่ไปเอาเรื่องกับอีตานั่น

    ใช่! อีตานั่น




    หลังจากที่เก็บสัมภาระของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็ไม่รอช้ารีบเดินตรงดิ่งไปยังห้องทำงานของใครบางคนทันที บริษัท Hi Magazine ใหญ่โตสมคำล่ำลือจริงๆ ตึกสูงเฉียดฟ้าบวกกับจำนวนพนักงานอีกพันชีวิตที่ฝากปากท้องเอาไว้กับองค์กร

    ยิ่งใหญ่โตและมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าที่นี่มีรากฐานที่มั่นคงมากเท่านั้น!

    “ขอพบคุณซันนี่ค่ะ” ทันทีที่มาถึงฉันก็รีบแจ้งจุดประสงค์ของตัวเองต่อเลขาฯ หน้าห้อง แอบเห็นนะว่าเจ้าหล่อนเอาแต่นั่งเซลฟี่อยู่หน้าคอมฯ เหอะ นี่ยังไม่หมดเวลางานเลยแท้ๆ

    คนสมัยนี้ทำงานแบบเช้าชามเย็นชามจริงๆ

    “ไม่ได้ค่ะ เวลานี้เป็นเวลาที่คุณซันนี่ต้องเตรียมตัวกลับบ้าน ไม่ให้ใครเข้าพบ” เจ้าหล่อนตอบแบบลอยหน้าลอยตาสุดฤทธิ์ เท่านั้นยังไม่พอ สาวร่างอวบอั๋นยังแอบเบ้ปากใส่ไอรีนอีกต่างหาก

    “ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง”

    ฉันถามเสียงเอาเรื่อง ก็จะไม่ให้เอาเรื่องยังไงไหว ในเมื่อยัยเลขานี่หล่อนเบ้ปากใส่ฉัน

    “ไม่ได้ทำอะไรนี่คะ” คนพูดไหวไหล่แบบไม่แคร์สื่อ

    “เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ ตอนนี้คุณซันนี่ไม่ให้เข้าพบ”

    เลขาสาวเอ่ยปากไล่ร่างบางอีกครั้ง

    “เธอโทร. เข้าไปบอกเขาก่อนสิ ว่าฉันมาขอพบ”

    ฉันตวัดเสียงใส่ ยอมรับว่าตอนนี้ฉันกำลังอดกลั้นที่จะไม่วีนแตกใส่ยัยเลขาปากเน่าคนนี้

    “ไม่จำเป็นต้องโทร. รายงานหรอกค่ะ ในเมื่อเวลานี้มันไม่ใช่เวลารับแขกอยู่แล้ว” คนพูดจงใจใช้สายตาดูถูก เป็นเชิงสื่อให้คนตรงหน้ารู้ทางอ้อมว่าเธอนั้นหมายความว่าอย่างไร

    แน่นอน ว่าฉันก็รู้ความหมายของเจ้าหล่อน

    “ถ้าเธอไม่โทรฯ เข้าไปรายงานคุณซันนี่ ฉันจะเปิดประตูเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ” เลขาสาวทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจในคำพูดของอีกฝ่าย ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ

    “หึ” ฉันยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณ และพบเจอกับสิ่งๆ นี้เข้า

    ซ่า!

    “กรี๊ดดดดด!”

    “นี่คุณ!” หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกยืนมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยสายตาสุดช็อก

    “เธอทำแบบนี้ทำไม ทำไมต้องเอาน้ำมาราดใส่ตัวฉันด้วย”

    “คุณทำตัวเองนะ ฉันไปทำอะไรคุณกัน!”

    เลขาสาวรีบปัดความผิด

    ใช่! ฉันเห็นบนโต๊ะของยัยนี่มีเหยือกน้ำเหยือกหนึ่งวางอยู่ ก็เลยเสียสละเล่นสงกรานต์ก่อนล่วงหน้า ตอนนี้ทั้งตัวฉันเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า

    และแน่นอนว่ามันคือความตั้งใจของฉัน

    “ฉันจะบอกคุณซันนี่ว่าเธอทำตัวไร้มารยาทกับฉัน”

    ไม่รอช้าสองเท้าก็รีบก้าวฉับๆ ไปที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว มือบางกำลังจะเอื้อมแตะกลอนประตูอยู่แล้วเชียว

    “นี่ ไม่ได้นะ” เลขาสาวรีบเอาตัวเองมาขวางทางฉัน

    ให้มันรู้กันไปสิว่าฉันจะยอม

    ปังๆ

    “นี่คุณ!”

    “เปิดประตู”

    ปังๆ

    “บอกให้เปิดไงเล่า!”

    “ยัยบ้านี่ อยากลองดีนักใช่ไหม!”

    ฉันกำลังจะเอื้อมฝ่ามือไปทุบบานประตูอีกหน

    พลั่ก!

    ร่างทั้งร่างของฉันล้มลงกับพื้นกระเบื้องชั้นดี ฉันตวัดสายตาขึ้นมองยัยเลขาจอมแสบที่ยืนยิ้มเยาะอยู่ตรงหน้า พอกันที หมดสิ้นความอดทน ในเมื่อยัยบ้านี่มันกล้าลงมือทำร้ายร่างกายฉันก่อน ฉันก็จะไม่ขอทนอีกต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×