ความสับสนของโทมัส [The Maze Runner] - ความสับสนของโทมัส [The Maze Runner] นิยาย ความสับสนของโทมัส [The Maze Runner] : Dek-D.com - Writer

    ความสับสนของโทมัส [The Maze Runner]

    [Thomas x Newt] Yayoi เบาๆ ...นายเป็นใครนะนิวท์ ถึงมีสิทธิ์เข้ามาในความคิดฉัน

    ผู้เข้าชมรวม

    2,341

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    2.34K

    ความคิดเห็น


    34

    คนติดตาม


    46
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ย. 57 / 14:01 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    โทมัสถูกส่งมาที่ทุ่ง เขาจำอะไรไม่ได้นอกจากชื่อของตัวเอง ที่ทุ่งนั้นมีแต่เด็กผู้ชาย ตัวทุ่งก็ล้อมรอบด้วยเขาวงกต มีนักวิ่งทำหน้าที่วิ่งในเขาวงกตเพื่อหาทางออก โทมัสรู้เขาแตกต่าง แตกต่างจากคนอื่นๆ ในทุ่งนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร

    ป.ล. ฟิคชั่นนี้ฮอตกว่าที่คิดแฮ่ๆ เราดันอัพเป็นเรื่องสั้นตอนเดียวจบ เดี๋ยวเราจะอัพเป็นตอนยาวๆ ให้นะคะ ตอนนี้กำลังแต่งตอนใหม่อยู่
     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      THE MAZE RUNNER

      ความสับสนของโทมัส

      (Thomas x Newt)

      โทมัสลืมตาเมื่อได้ยินเสียงโครมครามเหมือนโศกาพุ่งชนกำแพงอย่างแรงดังออกมาจากข้างนอก เขาลุกจากเตียง ถีบผ้าห่มออกจากตัวแล้วโซเซออกไปมองหาต้นตอของเสียง เสียงดังมาจากบ้านที่เคยใช้รักษาเบน แต่ตอนนี้อัลบีครอบครองมันหลังจากถูกต่อยและเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง นิวท์สนิทกับอัลบี ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ อัลบีเป็นหัวหน้าส่วนนิวท์เป็นรองหัวหน้า ตอนที่โทมัสกับมินโฮแบกอัลบีออกมาจากเขาวงกต โทมัสไม่เคยเห็นนิวท์เศร้าขนาดนั้นมาก่อนเลย

      โทมัสยืนอยู่ห่างจากบ้านพักราวๆ ห้าเมตร เสียงกรีดร้องอย่างสยดสยองของอัลบีทำให้เขาเบือนหน้าหนีอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อหันกลับมา ชายคนหนึ่งขโยกเขยกลงมา เขามีหน้าเหลี่ยม ผมบลอนด์ยาวประบ่า ขาขวาไม่ดี นิวท์ เขาคงขึ้นไปดูแลอัลบีแล้วถูกถีบอัดผนังบ้าน

      “เฮ้ ทอมมี่” นิวท์เงยหน้ามองโทมัส “ตะวันยังไม่ส่องเลยนี่นา”

      โทมัสเงยหน้ามองท้องฟ้าสลัวที่มีแต่เมฆปกคลุมจนมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ เขาเคยสงสัยว่ามีดวงอาทิตย์อยู่จริงหรือ “นายขึ้นไปทุกชั่วโมงเลยเหรอ” โทมัสถาม

      “ทุกครั้งที่มีโอกาส” นิวท์ตอบ เขากระเผลกไปทางโรงอาหาร “ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ไอ้อ่อน หรือนายไม่อยากเป็นนักวิ่งแล้ว”

      นักวิ่ง ใช่สิ เขาอยากเป็นนักวิ่ง ความรู้สึกรุนแรงนี้หลอกหลอนเขาตั้งแต่การพาทัวร์ครั้งแรกกับอัลบี มินโฮเห็นแววว่าเขาจะเป็นนักวิ่งที่ดี ก็นับตั้งแต่เสี่ยงชีวิตช่วยอัลบีออกมาจากเขาวงกต เขาวงกตที่พวกเขาเชื่อว่าไม่มีใครอยู่รอดเกินหนึ่งวัน เขาวงกตที่มีโศกาพวกนั้นเต็มไปหมด เขาวงกตที่ขังพวกเขา (ชาวทุ่ง) ไว้ที่นี่ นักวิ่งเป็นหน้าที่ที่เสี่ยงและท้าทายที่สุดในทุ่ง พวกเขาจะเข้าไปในเขาวงกตที่จะเปิดในตอนเช้า และรีบออกมาเพราะเขาวงกตจะปิดในตอนเย็น ถ้ามาไม่ทัน คุณก็อาจเป็นที่ซ้อมมือให้กับพวกโศกาเป็นโหลข้างนอกนั่น แล้วพวกเขา ไม่สิ ตอนนี้ต้องเป็นเรา...

      แล้วพวกเราเข้าไปในเขาวงกตทำไมล่ะ

      เพื่อ ‘หาทางออก น่ะสิ

      กว่าสองปีแล้วที่ชาวทุ่งกลุ่มแรกๆ มาถึงที่นี่ กว่าสองปีแล้วที่ชาวทุ่งคนแล้วคนเล่าถูกฆ่าเมื่อออกไปข้างนอกนั่น หรือหาทางออกด้วยวิธีอื่น เช่น ปีนลงไปทางกล่องเหล็กที่โทมัสกับแม่สาวคนนั้นถูกส่งขึ้นมา อ้อ ใช่ มันเรียกว่าลิฟต์ แต่มันจะไม่ยอมลงไปจนกว่าจะว่างเปล่า อัลบีเคยพาโทมัสไปดูศพชาวทุ่งคนหนึ่งในสุสานที่อยู่ส่วนท้ายของทุ่ง เขาคนนั้นพยายามปีนลงไปแล้วมีอะไรบางอย่างตัดฉับขาดครึ่งในทันที มันทำให้กำลังใจของชาวทุ่งลดลงมากโข

      “เพียก นายมาสาย” ฟรายแพนเป็นพ่อครัว เขาเป็นชายร่างใหญ่ผิวดำ นิสัยดี

      “นี่ของนาย” ชัค เด็กชายร่างอ้วนแก้มพุ้ยเลื่อนจานขนมปังกับนมมาให้โทมัส “นายไปไหนมา ฉันเห็นนายตื่นตั้งนานแล้ว”

      โทมัสยักไหล่ เขาไม่ต้องการตอบคำถามอะไรตอนนี้ ถึงจะรักชัคเหมือนน้องชายคนหนึ่ง มินโฮเดินตัวปลิวเข้ามาในโรงอาหาร คว้าอาหารที่ฟรายแพนทำไว้สำหรับนักวิ่งแล้วยัดใส่กระเป๋าอย่างไม่พิถีรีตรอง

      “ตารางวันนี้ยกเลิก โทมัส” มินโฮบอกพลางขยิบตาให้ “เจ้าเปี้ยกคนหนึ่งเจออะไรดีๆ เข้าแล้ว ฉันต้องไปสำรวจหน่อย”

      “แย่จัง” ชัคพึมพำ “งั้นวันนี้นายก็ต้องเตร่ทั้งวันเลยสิ”

      “ฉันว่าจะไปเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย”

      “พวกเพียบานจะเอาเข็มจิ้มก้นนาย แล้วโยนนายออกมาเอานะสิ”

      “นายอาจจะอยากไปที่ตรุ” วินสตันเสริมอย่างเลือดเย็น ตรุคือคุก “นายจะได้นอนเป็นคนต่อไป เพื่อน”

      “ขอบใจที่แนะนำ” โทมัสตอบ เขาคิดไว้แล้วว่าจะทำอะไร

      ระหว่างทางลง โทมัสเดินสวนกับกัลลี่ เขามองโทมัสเหมือนกำลังพิจารณาตะไคร่น้ำบนขอบก้อนหิน แล้วหันกลับไป โทมัสพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หันไปเตะก้นกัลลี่สักป้าบ ถึงแม้มันเสี่ยงกับการถูกโยนเข้าไปในเขาวงกตก็ตาม โทมัสเดินผ่านบ้านที่เด็กสาวคนนั้นยังโคม่า แล้วเดินเลยไปที่เขาวงกต มองชื่อบนผนังพลางยกมือลูบชื่อที่เขาเพิ่งสลักลงไป ‘โทมัส ชื่อนี้มีความหมายอะไรไหม นิวท์ ชื่อแปลกๆ นั่นหมายความว่าอะไร ทำไมพวกเขาจำอะไรไม่ได้เลยยกเว้นชื่อของตัวเอง โทมัสถอนหายใจเฮือกใหญ่

      “นายน่าจะไปเก็บดอกไม้ไปประดับห้องแฟนนายนะ ทอมมี่” นิวท์พูดขึ้น เขายืนพิงกำแพงท่าทางสบายอารมณ์

      “เธอ - ไม่ - ใช่ - แฟน - ฉัน” โทมัสเน้นทีละพยางค์

      “แล้วที่นายว่าคุ้นนักคุ้นหนามันอะไรกัน เดจาวูหรือยังไง” นิวท์เสริมพลางเลิกคิ้วอย่างน่ากลัว

      “งั้นมั้ง” เขาบอกปัด มองทางเข้าวงกตที่เปิดอ้าอยู่ “นายวิ่งในนั้นนานไหม”

      นิวท์เปลี่ยนสีหน้าทันที เขาลากขาไปมาบนพื้นหญ้าแววตาเหม่อเหมือนกำลังนึกถึงช่วงเวลาที่เขาโลดแล่นอยู่ในเขาวงกต ก่อนจะเกิดเรื่องร้ายกับเขา “ทั้งวัน” เขาตอบในที่สุด “แต่เป็นวันแสนวิเศษ นายจะได้ใช้ไหวพริบทั้งหมดที่นายมีเมื่อนายวิ่งในนั้น ทอมมี่”

      “มินโฮสนับสนุนฉันเพราะแค่เห็นฉันหลบโศกา แล้วพาเขารอดชีวิตออกมาจากเขาวงกต”

      “เขาสนับสนุนนายเพราะนายมีดี” นิวท์แก้ “ฉันเชื่อมั่นและวางใจในตัวนาย พวกเพียกอื่นๆ มันอ่อนปวกเปียก พวกเราทั้งหมดมาถึงวันแรกก็เอาแต่ร้องไห้หาแม่ เพียกบางตัวก็เผละเละเทะ นายเข้มแข็งกว่าที่นายเห็นอีกนะ”

      โทมัสรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย เขาใช้เวลานั่งคุยอยู่กับนิวท์ถึงเรื่องต่างๆ ก่อนหน้าโทมัสมาถึง มินโฮเป็นพวกรุ่นแรกๆ เขาฉลาด เฉียบคม แต่ก็วางหน้าที่ให้อัลบีเป็นคนดูแลชาวทุ่งส่วนเขาทำหน้าที่นำนักวิ่ง นิวท์เป็นเหมือนรองหัวหน้า เขามีภาวะผู้นำ เข้มแข็ง เข้าอกเข้าใจคนอื่น โทมัสพยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเองว่านิวท์ใส่ใจเขาเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่นิวท์ทำกับเขาตลอดมาทำให้โทมัสคิดไปแบบนั้นโดยไร้ข้อกังขาใดๆ

      โทมัสเงยหน้าขึ้นสบตากับนิวท์ เขาหลบตาเฉมองไปทางอื่น

      “นายหิวไหม” นิวท์ถามเสียงตะกุกตะกัก

      “ฉันเพิ่งกินมา นายได้กินอะไรเลยรึไง”

      “อือ”

      โทมัสยิ้ม ลุกขึ้นเตะนิวท์เบาๆ “ไปหาฟรายแพนกันเถอะ”

      “เพียกนั่นจะร่อนกระทะใส่หัวฉันล่ะสิ” นิวท์โวยวาย เขามัวแต่ดูแลอัลบีจึงพลาดอาหารเช้า ฟรายแพนไม่ชอบใจนักเวลามีคนไปรบกวนเข้าหลังอาหารเช้า - เที่ยง - เย็น ‘ตรงเวลา คือคำประกาศมั่นของพ่อครัวร่างใหญ่คนนั้น

      เอาน่า! มาเหอะ”

      “ไม่โว้ย!นิวท์ดึงดัน ให้ตาย คนเข้มแข็งอย่างนิวท์ยังกลัวฟรายแพน บางทีโทมัสอาจจะต้องเริ่มกลัวบ้างแล้ว

      “ตามใจนาย”

      นิวท์ทำจมูกฟุดฟิด เอนหลังพิงกำแพงเขาวงกต โทมัสยกมือป้องตาเมื่อเมฆเคลื่อนตัวออกจากดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์นั้นเจิดจ้า แต่ไม่ร้อนจนเกินไป ความจริงโทมัสไม่แน่ใจเลยว่าดวงอาทิตย์นั่นเคยตกหรือเปล่า เขาส่ายศีรษะให้ตัวเองแล้วหันมาสนใจคนข้างๆ แทน นิวท์กำลังมองบ้านพักของอัลบี นั่นทำให้โทมัสหงุดหงิดแปลกๆ

      “บางทีการมองอัลบีอาจจะทำให้นายอิ่ม” โทมัสประชด

      นิวท์หัวเราะพรืด “นายเห็นเบนแล้วอิ่มไหมล่ะ”

      เขาไม่ตอบ

      “ฉันเป็นห่วงอัลบี” นิวท์บอกเบาๆ “เขาอยู่กับฉันมานาน ช่วยฉันในหลายๆ เรื่อง ถึงเขาจะน่าเตะบ้างก็เถอะนะ แต่ฉันอดใจหายไม่ได้ ถ้าสักวันหนึ่งเขาต้องจากไปไม่กลับมา”

      โทมัสกรอกตามองฟ้า “นายยังมีฉัน มินโฮ คนอื่นอีกตั้งหลายคน”

      “ถ้านายให้ความสำคัญกับใครแล้ว นายจะพบว่าไม่มีใครสามารถทดแทนเขาได้ ทอมมี่” นิวท์บอกเสียงหนักแน่น โทมัสจิกเล็บลงบนพื้นหญ้า “เหมือนนาย ถ้าฉันเสียนายไป มินโฮ หรือเพียกใหม่ๆ คนไหนก็แทนที่นายไม่ได้”

      ท้องโทมัสหกคะเมนตีลังกา หัวใจกระตุก เขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม นิวท์ยีหัวเขาเบาๆ สงสัยโทมัสแสดงสีหน้าแปลกๆ ออกไป

      “อ่อนเอ้ย” นิวท์เสริมพลางหัวเราะลั่น

      มินโฮกลับมาเร็วกว่ากำหนด บ่นพึมพำเรื่องที่ใหม่แล้วลงมือวาดแผนที่ก่อนจะลืม โทมัสนั่งมองแผนที่อย่างสนอกสนใจแต่มินโฮไม่ยอมให้เขาดูอะไรมากกว่านี้ ‘นายยังไม่ถูกฝึก ไอ้อ่อน เขาให้เหตุผลแล้วแยกตัวไปปรึกษานิวท์ พวกเขายังไม่ยอมให้โทมัสรู้รายละเอียดอยู่ดี

       

      ดวงอาทิตย์ยังอยู่ตรงนั้น แต่แสงอ่อนลงบอกถึงเวลาบ่าย โทมัสเดินไปโรงอาหารเห็นชัคคุยกับเจฟฟ์ แต่ไม่มีวี่แววนิวท์กับมินโฮ เขาถามชัค เด็กน้อยส่ายหัวเป็นคำตอบว่าไม่รู้ ทั้งหมดกินกันจนอิ่มโทมัสเริ่มรู้สึกโหวงในอก นานเกินไปแล้ว....พวกเขาคุยกันนานเกินไปจนน่าสงสัย มีเรื่องสำคัญอะไรนักหนานะ โทมัสอยากรู้ เขาขมวดคิ้วแล้วเดินเป็นวงกลม ในหัวมีแต่เรื่องนิวท์กับมินโฮ ทำไม...

      “โอ๊ย หิวววววว” มินโฮลากเสียงวิ่งผ่านโทมัสไปเหมือนไม่เห็น

      เด็กหนุ่มผมบลอนด์ลากขาตามมินโฮมาเงียบๆ โทมัสคว้าแขนเขาลากลงไปข้างล่าง “เฮ้ย!

      “ฉันเอาขนมปังมาให้นายแล้ว” โทมัสบอกเสียงขุ่น

      “นายเป็นอะไรของนาย” นิวท์ถามเสียงงงงัน

      “นายนั่นล่ะทำอะไรของนาย” โทมัสย้อน “หายไปตั้งนานสองนาน”

      “คุยกับมินโฮ แล้วไงล่ะ”

      “เรื่องอะไร...”

      “นายต้องรู้ด้วยเหรอ ไอ้อ่อน”

      โทมัสหายใจหอบ เขากำลังโกรธซึ่งไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ทำไมเขาต้องโกรธ แค่นิวท์คุยกับมินโฮ แค่...นิวท์คุยกับมินโฮ แค่เขาสองคนคุยกัน พวกเขาไม่ได้ไปทำอะไรที่ไม่น่าไว้ใจสักหน่อย พวกเขาไม่เหมือนกัลลี่และมินโฮเองก็ดีกับโทมัสเสมอมา โทมัสทุบหัวตัวเองอย่างแรง ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไร

      “นายสบายดีรึเปล่าฮะ” นิวท์ขมวดคิ้วถาม “เป็นอะไร”

      “ฉันแค่...” โทมัสพูดไม่ออก เลยส่งขนมปังให้นิวท์แก้เขิน “ฉันแค่อยากคุยกับนายให้ได้อย่างนั้นบ้าง”

      นิวท์ยิ้ม เป็นยิ้มดูบิดเบี้ยวพิกล เขาเริ่มกัดขนมปังแล้วเคี้ยวอย่างรวดเร็ว “นายมีวิธีคุยของนาย โทมัส มินโฮกับฉันก็แค่ปรึกษากันเรื่องเขาวงกต ฉันทำประโยชน์ให้กับชาวทุ่งได้แค่นั้น”

      “นายทำได้มากกว่านั้น” โทมัสสวน นิวท์เบือนหน้าหนีเขาพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ยิ้มกับท่าทางน่าเอ็นดูนั่น “นิวท์...”

      “อะไร”

      “ฉัน...” เขายังคงพูดไม่ออก

      “นายมันอ่อนเหมือนเวลาของนายในทุ่งไม่มีผิด ทอมมี่” นิวท์บอกพลางหัวเราะ “ฉันชอบนายแบบที่นายเป็นและเป็นนาย แล้วฉัน...ก็อยากให้นายเข้าใจเรื่องนี้ นายไม่เหมือนมินโฮ ความรู้สึกที่ฉันมีให้นายไม่เหมือนกันกับเขา นายไม่ต้องพยายามเป็นเหมือนคนอื่น เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว”

      “แล้วนายรู้สึกยังไงกับมินโฮ” โทมัสโพล่งถามรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแปลกหน้า

      นิวท์ผงะไปนิดหนึ่ง “ทำไมนายถามแบบนั้น”

      “งั้นเปลี่ยนก็ได้ นายรู้สึกยังไงกับฉัน”

      นิวท์ไม่ตอบ เขาเตะขาโทมัสแล้วรีบเดินจากไป โทมัสสาบานได้ว่าเห็นนิวท์ยิ้ม โทมัสหัวเราะเบาๆ แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า วันนี้มันสวยยิ่งกว่าวันใดๆที่ผ่านมา

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×