คลังน้อยๆ - คลังน้อยๆ นิยาย คลังน้อยๆ : Dek-D.com - Writer

    คลังน้อยๆ

    โดย Ray_7

    ผู้เข้าชมรวม

    93

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    93

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ค. 63 / 20:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ❤️
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Application

      " ยินดีที่รู้จักค่ะ "

      " อยากจะลองสัมผัสในสิ่งที่ฉันเห็นมั้ยคะ? "

      บท: บทที่ 12 รีบอร์น

      ชื่อ-นามสกุล: ยาซาชิ เอลิน่า/Yasashi Elina

      ชื่อเล่น: เอนน่า/Enna | เอลิน/Elin

      ความหมายของชื่อ: ยาซาชิ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ความอ่อนโยน |เอลิน่า แผลงมาจากดอกไม้เอลินอร์ ที่แปลว่าแสงสว่าง ส่วนชื่อเล่น เอนน่าแปลว่า ความหวาดกลัว | เอลิน แปลว่าแสงสว่างหรือหญิงสาวที่สวยที่สุด

      สังกัด: คิลเลอร์

      อายุ: 27 ปี

      วันเกิด: 7 ก.ค.

      สัญชาติ: ญี่ปุ่น

      เชื้อชาติ: ญี่ปุ่น-อิตาลี

      ลักษณะรูปร่าง: เป็นเด็กสาวสูงประมาณ 170 ซม. เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนยาวยามที่เส้นผมของเธอกระทบแสง มันจะสว่างจนเกือบเป็นสีบลอนด์ทองสลวย ปกติมักจะมัดหลวมๆสบายตา แต่ถ้าต้องทำภารกิจก็จะทักเปียเดี่ยวต่ำเรียบร้อย มีดวงตาสีขาวเนื่องจากเป็นคนตาบอด(มักจะหลับตาไว้ตลอดนานๆทีจะได้เห็น) ขนตาเป็นแพสวยงาม ผิวเนียนขาวราวกับผิวเด็กจนไม่น่าเชื่อว่าเธอเป็นนักฆ่าที่ผ่านการต่อสู้มามาก ใบหน้าอมชมพู ริมฝีปากบางอมชมพูทรงสวยเป็นธรรมชาติ มีเรือนร่างที่สมวัย มีคุณสมบัติของผู้ดีพอสมควรเพราะเคยเป็นลูกสาวขุนนางเก่ามาก่อน นั่งหลังตรง เดินมีสง่า ท่าทางดูเป็นผู้ใหญ่ เวลายิ้มกว้างดวงตาก็จะคว่ำเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว มักแต่งตัวแนวเดรสใส่สบาย เวลาที่ไม่ใช้ไม้ค้ำก็จะพับเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายของเธอ เอลิน่ามักจะมีกลิ่นอายคล้ายกับดอกไม้อยู่ตลอดเวลา แถมยังพกน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่กลิ่นอ่อนๆไว้ติดตัวอีกด้วย การแต่งตัวของเธอเรียกได้ว่า ใส่อะไรก็ขึ้นหมด ทั้งเจ้าตัวเองก็มองไม่เห็นว่าชุดเป็นอย่างไร จึงไม่เคยมีปัญหาเรื่องชุด แถมทรวดทรงองเอวยังเข้ารูป บางครั้งที่มีภารกิจให้ปลอมตัว เอลิน่าก็จะเปลี่ยนลุคเป็นสาวแซ่บสวมหน้ากากราตรี ทำเอาเหล่าคิลเลอร์รู้สึกแปลกใจทุกครั้งที่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนได้ขนาดนี้

      ลักษณะการพูดจา: การพูดจาของเอลิน่าจะคล้ายๆกับไทป์พี่สาว เสียงหวาน อ่อนโยน น่าฟัง อบอุ่น และเข้าถึงได้ง่าย แต่บางครั้งความนุ่มนวลนี่ก็แปลไปในทางไร้อารมณ์ได้เช่นกัน

      เหตุการณ์ ; ปกติ

      ''ทานขนมมั้ยคะทุกคน?" เอลิน่าระบายยิ้มบางพลางยกตะกร้าขนมเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆขึ้้นมาให้ดู

      ''ใจเย็นๆก่อนนะคะ ทะเลาะกันจะทำให้สุขภาพเสียนะ เด็กๆ''เธอกล่าวปรามอย่างไม่จริงจังนัก มือบางยกป้องปากหัวเราะเอ็นดูสองสาวคู่ประจำที่มักทะเลาะกันอย่างเอ็นดู

      เหตุการณ์ ; ดีใจ/มีความสุข*

      ''ว้าว ดีใจมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ'' เอลิน่ายกยิ้มอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก บรรยากาศรอบๆตัวดูสดใสขึ้นกว่าปกติ

      ''ฮิๆ ค่าๆ เข้าใจแล้ว'' หลังจากได้แกล้งอีกฝ่ายจนพอใจแล้ว เอลิน่าก็ยอมเลิกราไปด้วยดี โดยไม่ลืมยกยิ้มเอ็นดูอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้

      *ในเหตุการณ์นี้คำพูดของเธอไม่ได้สื่อความรู้สึกทั้งหมด เธอจะแสดงความรู้สึกนี้ทางสีหน้าและบรรยากาศราวดอกไม้ผลิมากกว่า

      เหตุการณ์ ; กลั่นแกล้ง

      ''หืมมม จริงหรอคะ~" เอลิน่ากล่าวด้วยน้ำเสียงคล้ายกับหยอกเย้าอีกฝ่ายให้แสดงอารมณ์ภายในใจออกมา

      ''(ชื่อของบอสคิลเลอร์)จังงง~ ไมได้เจอกันตั้งนานเลยนะคะ ไหนดูสิ~"หญิงสาวเข้าประชิดตัวบอสสาวอย่างรวดเร็ว มือบางไกล่ใบหน้าเนียนตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงลำคอ ริมฝีปากบางยกยิ้มกว้างผิดกับใบหน้าของบอสสาวที่ทั้งุนงง เขินอาย และลนลาน เพราะอีกฝ่ายใกล้ซะจนหน้าแทบจะติดกันทั้งยังต่อหน้าลูกน้องคนอื่นๆ

      ''ใกล้ไปแล้วย่ะ"

      "คะ? ตายจริง!นี่ฉันใกล้ไปงั้นหรอคะ? ฉันนี่แย่จริงๆเลย ไปทำคุณบอสผู้น่ารักใจเต้นซะแล้วสิ"เอลิน่าแกล้งเย้า มือกุมใบหน้าแสร้งตกใจ ทั้งยังยิ้มหวานส่งให้บอสของเธอ ฝ่ายหญิงสาวที่ถูกแกล้งก็ได้แต่แอบขบฟันกรอดที่โดนแกล้งยิ่งมองท่าทางร่าเริงมีความสุขของเอลิน่ายิ่งรู้สึกพ่ายแพ้

       

      "แหมๆ รีบอร์นจัง~ เขินหรอคะ? น่ารักจริงๆเลย~"เอลิน่ายิ้มเอ็นดูคนอายุมากกว่า มือบางวางหัวร่างสูงพลางลูบไปมา ทำเอาชายหนุ่มถึงกับมองตาขวางด้วความเจ็บใจที่เสียรู้ร่างบางที่วางแผนแกล้งเขาซะแนบเนียน

       

      "ตายจริงๆ นี่ลูกๆของฉันกำลังอยู่ในห้วงความรักกันงั้นหรอคะเนี่ย? น่ารักกันจริงๆเลย ต้องฉลองด้วยการทำคุกกี้เลี้ยงรึป่าวคะ?"

      "ไม่ต้อง!!!/ไม่ต้องค่ะ!"สาวคิลเลอร์ร่วมใจตะโกนอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนถามยิ้มเอ็นดูเสียเต็มประดา

      ''ฮุๆ''

      น่ารักกันจริงเลยน้าา~

       

      เหตุการณ์ ; โกรธเล็กน้อย

      ''ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ใช่คนใจจืดใจดำขนาดนั้นหรอกนะคะ''หญิงสาวยกยิ้มบางอย่างไม่ใสใจมากนัก

      เหตุการณ์ ; โกรธกลางๆ*

      ''ครั้งนี้ฉันจะให้อภัยคุณอยู่ค่ะ แต่ครั้งหน้า...ฉันหวังว่าคุณจะคิดได้''สาวตาบอดหรี่ตามองอีกฝ่าย กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองเล็กน้อย เธอนับเลขในใจพยายามสงบอารมณ์จนเธอรู้สึกคลายลงจนเกือบจะหายโกรธ

      เหตุการณ์ ; โกรธมาก**

      ''คุณน่าจะรู้ดีว่าฉันปกปิดความโกรธไว้ตลอด ฉันเตือนคุณแล้ว..นะคะ''ดวงตาสีขาวเพ่งมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากยังคงยกยิ้มบางอย่างเลือดเย็น

      *ในเหตุการณ์นี้เอลิน่าจะลืมตาเล็กน้อยให้พอเห็นสีหน้าของเธอในตอนนี้ได้

      **ในเหตุการณ์นี้เอลิน่าจะเปิดให้เห็นดวงตาชัดเจนเพื่อเป็นการบอกอีกฝ่ายกลายๆว่า เธอกำลังโกรธมากๆและไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายให้แก้ตัวอีก

      เหตุการณ์ ; โมโห***

      "ค่ะ" ตอนนี้เธอแทบจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ ภายในใจนึกอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้มันจบๆซะตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าเด็กน้อย เธอคงจะควักลูกตาอีกฝ่ายตามด้วยตัดลิ้นให้กลายเป็นคนใบ้ตาบอดไปตลอดชีวิต

      ***เอลิน่าหุบยิ้มลงมาเล็กน้อยแต่สังเกตได้และลืมตาชัดเจน บรรยากาศรอบๆตัวจะดำมืดและเย็นเชียบขึ้นมาทันที

      เหตุการณ์ ; เศร้า(แสร้ง)/เสียใจ

      "สนใจฉันหน่อยสิคะ นี่ๆ อย่าเงียบสิคะ" หญิงสาวสะกิดอีกฝ่ายด้วยไม้ค้ำอย่างจงใจ ปลายตามีหยดน้ำใสที่บีบออกมาเมื่อครู่ปริ่มออกมาเล็กน้อย

      "เฮ้อ~ ไม่ฟังกันแบบนี้ ฉันเสียใจนะคะ" เอลิน่าฟังสองสาวคิลเลอร์ทะเลาะกันโดยไม่ฟังเธอเลยสักคน น้ำตามายาถูกเช็ดออกด้วยผ้าเช็ดหน้าสีขาวอย่างจงใจ ริมฝีปากหุบยิ้มอย่างตั้งใจ เป็นการแสดงละครที่แนบเนียนเสียจริง

      (หมายเหตุ เอลิน่าเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเวลาเศร้าหรือเสียใจเท่าไหร่นัก)

      ''นี่รีบอร์นจังลืมฉันซะแล้วหรอคะเนี่ย ฉันเสียใจนะคะ'' เอลิน่ายกมือปาดน้ำตามายาดูอ่อนแอจับใจ แต่ทว่ามันช่างไม่เข้ากับลุคของสาวเจ้าในตอนนี้เอาซะเลย

      รีบอร์นที่ตอนแรกตะลึงอยู่ก็พลันเอือมระอาขึ้นมากับท่าทีเสแสร้งออกนอกหน้าของอีกฝ่าย แต่ก็ต้องยอมรับว่าผิดคาดสำหรับเขามากที่จู่ๆยัยคุณหนูจอมเสแสร้งดันกลายสาวร้ายจอมมารยาเช่นนี้

      ''แหมๆ หรือว่าจะแอบใจเต้นกับฉันหรอคะ คนที่คุณเคยบอกว่าไม่ถูกชะตาด้วยน่ะ หืมมม~''เอลิน่าเข้าประชิดตัวร่างสูงจนอีกฝ่ายผงะเผลอถอยหลัง นิ้วชี้เรียวจิ้มเข้าที่อกด้านซ้ายพลางคลี่ยิ้มยียวนชายหนุ่ม ทำเอารีบอร์นใจกระตุกด้วยความหงุดหงิดขึ้นมาทันที

      ยัยแสบน่ารำคาญเอ๊ย!!

      เหตุการณ์ ; เจ็บใจ

      ''...ไว้ครั้งหน้านะคะ" ภายนอกยิ้มแย้มแต่ภายในใจกลับวางแผนครั้งต่อไปอย่างเงียบเชียบ

      เหตุการณ์ ; ตกใจ

      ''จริงหรอคะ? ไม่คิดเลยว่าคุณจะ.." ดวงตาของเธอยกขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว มือบางป้องปากอย่างไม่อยากเชื่อคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

      ไม่คิดเลยว่าเขาจะแกล้งสนุกขนาดนี้!

      ''ตายจริง..!" เอลิน่าแสร้งตกใจยกมือป้องปากคล้ายกำลังยียวนอีกฝ่าย

      เหตุการณ์ ; เอ็นดู

      "คุณแม่เอนน่าา~ หนูอยากกินคุกกี้ค่ะ ขอหวานน้อยเหมือนเดิมนะค้า~" คิลเลอร์สาวนั่งทรุดลงบนเก้าอี้นุ่มทันที่ทีกลับมาจากการทำภารกิจ ท้องน้อยๆของเธอกำลังส่งเสียงเรียกร้องของกินอย่างน่ารัก ทำเอาเอลิน่ายิ้มกว้างออกมา

      ''ฮุๆ ได้สิคะ เครื่องดื่มก็เหมือนเดิมนะคะ?"

      "ค่ะ!"

       

      ''คุณแม่ทำไงดี ตั้งแต่เมื่อวานฉันก็ใจเต้นแรงตลอดเลย หรือฉันจะป่วย??"

      ''ฮุๆ ไม่ป่วยหรอกค่ะ เมื่อวานไปเจอใครมาหรอคะ?"เอลิน่าถามกลับไปด้วยรอยยิ้มบางอย่างนึกเอ็นดู

      ''มันทำไมหรอ?"

      "นั่นแหละค่ะ สาเหตุที่หนูใจเต้นไงคะ"

       

      อุปนิสัย:

      [Warm, gentle and kind like mother]

      เอลิน่าเป็นคนที่อ่อนโยนมากๆ ทั้งอยู่ด้วยแล้วอบอุ่น และเป็นคนที่ใจดี คอยดูแลเอาใจใส่ เหล่าคิลเลอร์ราวกับคุณแม่ที่รักและเอ็นดูลูกๆก็มิปาน เธอมักจะสังเกตอารมณ์ความรู้สึกของคนรอบข้างจากเสียงหัวใจ ต่อให้คนคนนั้นแข็งแกร่ง เก็บอารมณ์ดีแค่ไหน แต่หัวใจนั้นไม่สามารถโกหกความรู้สึกได้ ทำให้เอลิน่ามักจะคอยถามอีกฝ่ายแบบเป็นห่วง มักจะคอยปลอบ คอยให้กำลังใจ ลูบหัวอีกฝ่ายและกอดเสมอ เธอมักจะพูดเสมอว่า'โกหกความรู้สึกกับใครก็ได้ แต่โกหกกับฉันไม่ได้หรอกค่ะ' แต่ใช่ว่าเอลิน่าจะปุปปัปเข้าไปปลอบ เธอจะคอยสังเกตว่าอีกฝ่ายต้องการหรือไม่ เวลาไหนควรให้อยู่คนเดียว เวลาไหนควรเข้าไปปลอบ เอลิน่านั้นมองออกทุกคนในคิลเลอร์ว่าเป็นคนอย่างไรทำให้บางครั้งโดนประชดกลับมาว่า 'เธอเป็นแม่ฉันรึไงเนี่ย' เอลิน่ามักคอยสอนและตักเตือนสิ่งที่ไม่ดีอยู่เสมอ แต่เอาเข้าจริงเธอค่อนข้างจะตามใจลูกๆของเธอพอสมควร

      [Calm down, as smooth as the flowing water]

      เอลิน่าเป็นคนที่ใจเย็นมากๆ ทั้งยังรักสงบ ราบเรื่อย ราวกับสายน้ำไหล เธอเป็นคนที่ง่ายๆสบายๆ เรียกได้ว่าต่อให้เป็นคนกวนประสาทระดับ100ก็อาจไม่อาจทำให้เธอสั่นคลอนได้มากนัก แต่อย่าไปทำให้น้ำมันขุ่นล่ะ น้ำนิ่งใสๆ อาจจะกลายเป็นน้ำไหลหลากขึ้นมาแบบเงียบๆก็ได้ เอลิน่าเป็นคนที่รอบคอบ ค่อยๆคิดค่อยๆทำ ทำให้งานของเธอมักทำออกมาได้สมบูรณ์ และถึงเธอจะใจเย็น แต่เธอไม่ได้ใจอ่อน ออกไปทางใจเเข็งมากๆอีกด้วย ใครคิดจะต่อรองกับเธอถือว่ายากเลยทีเดียว และถึงแม้เธอจะดูเอื่อย แต่แท้จริงแล้วในการต่อสู้ เธอเป็นคนที่รวดเร็ว ไหลลื่นมาก จนจับตัวได้ยาก เมื่อเป็นคนใจเย็น เธอจึงเป็นคนที่โมโหยาก แถมเวลาโมโหยังดูยากอีกด้วย แต่จะสัมผัสได้จากบรรยากาศรอบๆตัว เป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่งจนดูน่ากลัว(แถมยังแอบเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก)

      [Can't see but Can see]

      ใครบอกเอลิน่ามองไม่เห็นก็ถูก แต่ถ้าบอกว่ามองเห็นก็ถูกอีก เพราะเธอไม่สามารถมองเห็นหน้าตา สีสัน ลวดลวดบนสิ่งของ ของสวยๆงามๆ หรือแม้แต่ตัวอักษร เธอมองไม่เห็นหน้าตาของคิลเลอร์เลยสักคน ในยามที่มีคนบอกว่าสิ่งนั้นสวย สิ่งนั้นน่ารัก เอลิน่าล้วนไม่รู้ว่ามันมีหน้าตาเป็นอย่างไร เธอจึงได้แต่ยืมตาคนอื่นมองว่า สิ่งนี้สวย สิ่งนี้น่ารัก เอลิน่ามักได้ยินคนชมลูกๆของเธอ(คิลเลอร์)ว่าสวยจัง! น่ารักจัง! เธอยึดว่าคิลเลอร์ทุกคนนั้นหน้าตาดีสร้างความภาคภูมิใจให้เธอมากทีเดียว แต่บางครั้งเธอก็นึกเสียใจที่ไม่อาจรู้ได้ว่าชุดที่เธอใส่อยู่มันดูแปลกหรือไม่ ทำให้บางครั้งเธอต้องพึ่งลูกน้องบางคนมาช่วยเลือกชุดที่เธอมองไม่เห็น และถึงแม้เธอจะมองไม่เห้นใบหน้าแต่ว่าสามารถใช้การสัมผัสได้ โดยสัมผัสใบหน้าของอีกฝ่ายก็ทำให้พอรับรู้ได้

      มองในอีกด้าน สิ่งที่เอลิน่าเห็นคือ การได้ยินเสียงสะท้อนของวัตถุ หลักการการมองเห็นของเธอจะสามารถมองเห็นได้ในระยะกว้างหากตั้งสมาธิมากพอหรือใช้ไม้ค้ำกระทบพื้นแรงๆสร้างคลื่นเสียงเป็นวงกว้าง สามารถมองทะลุผ่านตัวอาคาร กำแพงหรือภายนอกกล่องได้ หากเป็นภายในห้องเก็บเสียงเธอจะมองไม่เห็นแต่รับรู้ได้ หากเจอเสียงดังมากเกินไปจะทำให้เธอรู้สึกปวดหูและปวดหัว หนักสุดคือจะรู้สึกชาไปทั้งตัวจนขยับไม่ได้ และไม่มีใครปลอมตัวมาหลอกเธอได้ ถ้าหากเธอได้ลองฟังเสียงของคนคนนั้นแล้วครั้งนึง ต่อให้ปลอมตัวมาใส่วิก ใส่คอนแทคมาก็หลอกเธอไม่ได้ และเธอสามารถแยกเสียงจริงกับเสียงที่แปลงเอาได้อีกด้วย และถ้าใครคิดจะแข่งจ้องตาจับเธอก็คิดผิดแล้วล่ะ ถ้าหากเป็นในที่ๆเธอคุ้นเคยหรือจำตำแหน่งของสิ่งต่างๆในบ้านได้เธอจะไม่ใช้ไม้ค้ำนำทาง(ไม้ค้ำสำหรับคนตาบอดเวลาเคาะ เธอจะสารถเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจนมากกว่าการไม่ใช้) บางครั้งที่เธอไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยและไร้ซึ่งไม้ค้ำแล้ว บางครั้งเธอก็พลาดเดินไปชนอะไรเข้าทำให้เธอลำบากไม่น้อย


      [Tease]

      ขี้แกล้ง นี่เป็นอีกนิยามสำหรับตัวเอลิน่า เธอมักจะชอบแหย่ หรือแกล้งคนที่ชอบทำนิ่งๆ ซึน น่ารักน่าแกล้ง และเธอมักจะไปรู้ความลับของคิลเลอร์คนอื่นๆเพราะความหูดีมันเป็นเหตุทุกครั้งไป 'ใช่ว่าเธอตั้งใจฟัง มันได้ยินเองนี่นา' และเพราะเธอเป็นคนที่มักจะได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายเป็นการบอกกลายๆว่า 'ฉันรู้สึกแบบนี้นะ' แต่ปากกับพูดอีกอย่างหรือบอกว่าไม่เป็นไร ทำให้บางครั้งเอลิน่าอดที่แกล้งให้อีกฝ่ายแสดงความรู้สึกจริงๆออกมา แล้วยิ่งเป็นคนนิ่งๆไม่ชอบแสดงสีหน้า เอลน่าจะยิ่งแกล้งให้อีกฝ่ายแสดงสีหน้าความรู้สึกออกมาจนได้ หรือแม้แต่แกล้งลูกนอกที่ขวัญอ่อน แกล้งหลอกศัตรูว่าตัวเองเป็นลูกน้องในกลุ่ม แกล้งหลอกคนข้างทางว่าตัวเองตาบอดเดินข้ามถนนไม่ได้ เรียกได้ว่าแสบเงียบเลยทีเดียว

      [Masked]

      สำหรับคนที่รู้จักเอลิน่าดีก็จะรับรู้ได้ว่า ตัวตนของเอลิน่านั้นว่างเปล่า คล้ายกับไร้ตัวตน ฝีมือของเธอนั้นติด1ใน10 ก็จริง แต่ทว่ากลับไม่ค่อยมีใครรู้จักฝีมือหรือตัวตนของเธอมากนัก ทำให้เธอเป็นคนที่น่าหวาดกลัวสำหรับคนที่เกลียดพวก'สวมหน้ากาก' ไม่มีใครรู้ใบหน้าที่แท้จริงของเธอภายใต้รอยยิ้มงดงาม เอลิน่าไม่เคยแสดงออกถึงอารมณ์จริงๆของตัวเองแม้ดูจะเป็นคนตรงๆ ยามทำภารกิจใต้หน้ากากไม่มีใครรู้ว่าเธอนั้นยิ้มหรือไม่ เศร้าหรือไม่ สนุกหรือไม่ แต่ภายนอกหน้ากากนั้นเป็นเพียงนักฆ่าสาวที่อ่อนโยน งดงามและแสนขี้แกล้ง

      ในใจของเอลิน่านั้นไม่เคยถูกเติมเต็มจนกระทั่งได้พบกับครอบครัวใหม่ของเธอ เธอสามารถยิ้มได้อย่างจริงใจกับเพื่อนๆในแฟมิลี่หรือคนที่ไว้ใจจริงๆ อาจจะดูเป็นคนที่ยิ้มเปลืองแต่คนที่รู้จักเอลิน่าอย่างแท้จริง จะรับรู้ได้ว่ารอยยิ้มไหนนั้นเป็นของจริง

      เรื่องเล็กๆน้อยๆ : ในเวลาทำภารกิจมักจะพกผ้าเช็ดหน้าไว้หลายผืนเพื่อเช็ดคราบเลือดให้ตัวเองและเพื่อนในสังกัด(ลูกๆ)(และถ้าพกผ้าเช็ดตัวได้เธอคงทำไปแล้ว)

      เธอชอบนำมือข้างซ้ายรองใต้ศอกขวา และใช้มือขวากุมแก้ม เวลาเหนื่อยใจ หรือแสร้งเหนื่อยใจ

      เอลิน่าเป็นคนที่ทำขนมหวานเก่ง ทำอาหารเก่งจนน่าแปลกใจ เธอมักบอกว่าอาศัยความเคยชินในการทำเอา

      ประวัติตัวละคร: เอลิน่า เธอเป็นสาวของเจ้าของบริษัทที่พ่อแม่ของเธอแต่งงานกันทางธุรกิจ ด้วยคุณแม่ของเธอเป็นคนร่างกายอ่อนแอ เมื่อคลอดเธอออกมาก็ทรุดลง และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ เธอตาบอดทำให้ไม่มีใครในครอบครัวต้องการ คุณแม่ของเธอมองเธอด้วยสายตาโกรธแค้น แต่คนเป็นแม่ไม่อาจเกลียดลูกตัวเองลงได้ เธอเพียงแค่หมางเมินลูกสาวของตัวเองเท่านั้น

      เอลิน่าพยายามอย่างมาก แม้จะฉลาดเพียงใดแต่กลับไม่เคยถูกเห็น แม้จะทำตัวแย่ก็ไม่มีใครสนใจ แม้จะร่ำไห้ก็ไม่เคยโดนปลอบ แม้จะยิ้มแย้มก็ไม่มีผู้ใดตอบรับ

      จนกระทั่งวันหนึ่งที่จู่ๆเอลิน่าก็เกิดอาการปวดหัว ปวดหู จนชาไปทั้งตัว เธอทรมานมากจนกรีดร้องออกมา ในวันนั้นทำให้เธอได้รู้ว่า หูของเธอนั้นสามารถได้ยินมากกว่าปกติหลายเท่า ทำให้พ่อและแม่ของเธอคิดจะใช้เธอเป็นเครื่องมือในมางธุรกิจด้านมืดขึ้นมา นั่นคือจุดเริ่มต้นของอาชีพลับๆของเธอ แต่ถึงระนั้นไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก้ไม่สามารถลบคำสบประมาท เหยียดหยามเธอที่ว่า เป็นคนตาบอดได้

      เธอโดนสาวใช้ในบ้านกรอกหูคำนี้ทุกๆวันจนวันหนึ่งเธอคิดวิธีลบคำสบประมาทพวกนี้ขึ้นมาได้ 'ก็แค่ทำให้พวกเขาได้มองเห็นในสิ่งที่เราเป็นก็พอแล้วนี่' ในวันหนึ่งที่สาวใช้เข้ามาในห้องของเธอในขณะที่กำลังจะพูดเหยียดหยามเธอ ปืนกระบอกเล็กก็ถูกยัดเข้าปากจนสาวใช้คนนั้นสะอึกและหายใจไม่ออก มืออีกข้างของเธอบีบกรามของสาวใช้คนนั้นแน่น ก่อนจะค่อยลืมตาให้เห็นถึงนัยน์ตาสีขาวได้อย่างชัดเจน รอยยิ้มที่มักประดับริมฝีปากบางยกยิ้มกว้างกว่าเดิม "ตาของคุณตอนนี้ต้องสวยงามมากแน่ๆเลย..ไม่เหมือนตาของฉัน แล้วก็ช่วยเงียบแปปนึงได้มั้ยคะ? เสียงของเธอมันดังมากเลยนะรู้มั้ย? คงไม่อยากเป็นคนตาบอดและเป็นใบ้หรอกใช่มั้ย? เพราะงั้นเงียบๆไว้ แค่แปปเดียว เธอจะเข้าใจฉัน..ขึ้นมาทันที "

      พูดจบเธอก็บรรจงคักลูกตาของสาวใช้ของเธออย่างใจเย็น ความเจ็บปวดแล่นไปทั้งร่างของสาวใช้แต่เธอกลับทำได้แค่ดิ้นไปมาในเงื้อมมือของเอลิน่า เวลาผ่านไปไม่นาน ตาทั้งสองข้างของสาวใช้คนสนิทก็ถูกควักออกไปและโดนบีบจนแลกละเอียดคามือของสาวตาบอด ปากกระปืนยังคงอยู่ในลำคอของสาวใช้ผู้น่าสงสาร เธอทำได้เพียงกรีดร้องอย่างทรมานทั้งเจ็บปวด ทั้งหายใจไม่ออก สุดท้ายเมื่อเอลิน่าพอใจก็ยอมลดปืนลงทำให้สาวใช้ได้หายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้ง

      "ไม่ต้องห่วงนะคะ จากนี้..ฉันจะดูแลเธออย่างดีเลย ก็เพราะตอนนี้เราเหมือนกันแล้วนี่คะ เนอะ?"

      เมื่อคนในคฤหาสน์รู้เรื่องนี้เข้าก็ไม่มีใครกล้าพูดคำต้องห้ามนี้อีกเลย

      พ่อแม่ของเธอเริ่มหวาดกลัวเธอขึ้นมา แต่กลับพยายามไม่แสดงออกเพื่อที่จะได้ใช้งานเธอต่อไป เอลิน่าเริ่มถอดความในใจของทั้งคู่ด้วยเสียงหัวใจ เธอแย้มยิ้มออกมาภายใต้หน้ากากของลูกสาวที่แสนว่าง่าย ผ่านไปหลายปี เอลิน่าเริ่มเบื่อหน่ายกับการยัดเยียดงานของพ่อแม่ของเธอ งานแต่ครั้งยากขึ้นเรื่อยๆจนเธอเคยสาหัสกลับมาบ่อยครั้งสมัยเด็กๆ ในตอนที่เธอกลับมาจากภารกิจ แทนที่พวกเขาจะโล่งใจที่งานเรียบร้อยแต่กลับทำทีท่าเสียใจ ผิดหวังออกมาอย่างไม่ปิดบัง

      ทำไมเด็กนี่ถึงไม่ตายสักที? คงคิดแบบนนี้อยู่ล่ะสินะคะ คุณผู้จ้างวานขาประจำ

      งานที่ยากขึ้นสั่งให้เธอพัฒนาฝีมือให้ทัน ไม่อย่างนั้น เธออาจจะต้องตายสมใจคุณพ่อและคุณแม่ของเธอ แต่ทว่าสวรรค์คล้ายกับเห็นใจเธอ คฤหาสน์หลังใหญ่ถูกวางเพลิงกลายเป็นข่าวดังอยู่พักใหญ่ ด้วยที่ ยาซาชิ เอลิน่า ลูกสาวคนเดียวที่แสนอาภัพตาบอดตั้งแต่กำเนิดรอดชีวิตออกมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เหล่าผู้คนที่รู้จักกับเธอในโลกมืดกล่าวว่าเธอคือผู้วางเพลิงในครั้งนี้ แรงจูงใจคือแค้นบุพการี

      ขอโทษทีนะคะ พอดีฉันเป็นลูกกตัญญูรู้คุณคน ไม่คิดจะทำร้ายคนที่ให้ข้าวให้น้ำให้ที่อยู่กับฉันหรอกค่ะ

      และยิ่งคนร้ายตัวจริงดันลอยนวลอยู่ ฉัน ที่เป็นลูกที่แสนจะกตัญญูคนนี้ จะล้างแค้นให้เองนะคะ

      เอลิน่ารู้ถึงคนร้ายตัวจริงว่าเป็นลูกน้องคนใหม่ที่เคยมีความแค้นกับครอบครัวเธอที่ไปทำให้ครอบครัวของเขาล้มละลาย หญิงสาวได้แก่นึกเห็นใจในความบัดซบในชีวิตของลูกน้องเก่าคนนี้ จึงได้ไปมอบของขวัญให้ถึงที่อย่างสมเกียรติ

      ''บ้าน่า เธอรอดมาได้ยังไ..อั่ก!!''

      ''ชู่ว~ เงียบๆหน่อยสิคะ เดี๋ยวคนเขารู้กันพอดี''เอลิน่ายัดไม้ค้ำของเธอเข้าปากของอีกฝ่ายจนลึก ลมหายใจขาดห้วงความทรมานแผ่ไปทั่วร่างของเด็กหนุ่ม

      ''คุณเคยพูดไว้สินะคะว่า ครอบครัวฉันมันโสมมกันทั้งบ้าน แต่ฉันนั้นช่างเหมาะสมกับคำว่านางฟ้าผู้อาภัพ ในตอนนั้นคุณเก่งมากเลยนะคะที่สามารถกัดฟันพูดปลอบฉันได้อย่างแนบเนียนขนาดนั้น'' เอลิน่าพูดเท้าความถึงความดีที่เด็กหนุ่มตรงหน้าเคยให้กำลังใจเธอถึงแม้จะแสนขยาดตัวเธอแค่ไหนก็ตาม เขาเป็นคนนึงที่ไม่เคยเชื่อข่าวลือโหดร้ายของเธอ แต่กลับเกลียดเธอเพราะครอบครัวเธอ น่าขำซะจริง

      ''อั่ก!!!'' เด็กหนุ่มรู้สึกว่าสติของเขาเลือนรางเต็มที่ ดวงใจบีบรัดไปด้วยความหวาดกลัว หญิงสาวตรงหน้าที่เขาเคยแอบชื่นชมว่าเธอสามารถทนอยู่กับคนที่น่ารังเกียจพวกนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อความจริงประจักษ์แล้ว เขาก็ได้แต่กลับคำพูดในใจ

      'ไม่ใช่เธอทนได้อย่างไร แต่ต้องเป็นพวกเขาทนอยู่กับเธอได้อย่างไร ปีศาจ!!'

      หญิงสาวค่อยๆยกไม้ค้ำออก เธอไม่ได้คิดจะฆ่าเขาด้วยวิธีขาดอากาศตายแสนง่ายดายนี้ ริมฝีปากยกยิ้มอ่อนโยนเช่นในวันวานที่คนตรงหน้าคุ้นเคยดี เขามักรู้สึกคล้ายกับหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ตอนนี้อาการนีมันก็กลับมาอีกครั้ง

      เขาควรรู้ตั้งนานแล้วว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกดี แต่มันคือ..

      ''ความหวาดกลัวใช่มั้ยคะ?"

      ''ถ้าเช่นนั้น จงอยู่กับความกลัวนี้ไปชั่วชีวิตซะเถิดนะคะ''

      ''ฉันเองก็ไม่ได้ใจจืดใจดำกับคนรับใช้คนสนิทได้ลงคอเสียด้วย''

      ''ขอให้จำเอาไว้นะคะ ถ้าครั้งหน้าคุณยังพูดจาราวกับคนมืดบอด คุณจะได้สัมผัสมันอย่างแท้จริง''

      ''ฉันไม่ใช่นางฟ้าผู้อาภัพหรอกนะคะ แต่ฉันคือสาวตาบอดที่แสนโชคดีต่างหากค่ะ''

      หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวว่าพบศพเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ควักลูกตาของตัวเองออกมาก่อนจะใช้ปืนยิงเข้าที่หัวของตัวเองดับสนิท

      'I'm not an unlucky angel. But I'm a lucky blind girl'

       

      ธาตุ: พิรุณ

      อาวุธ: หอก ;เป็นการดัดแปลงมาจากไม้ค้ำของเธอเอง โดยจะหมุนข้อต่อข้อสุดท้ายของไม้ค้ำออก ภายในจะปรากฎเป็นใบมีดคมกริบ สามารถยืดเข้าและออกได้อย่างอิสระ

      *ไม้ค้ำที่เธอมีใช้มีทั้งหมด3อัน ไม้ค้ำอันที่2 จะใช้เวลาไปไหนมาไหนข้างนอกจะเป็นไม้ค้ำที่มีใบมีดขนาดเล็กไว้ป้องกันตัวซ่อนอยู่ด้านใน โดยการดึงส่วนที่ไว้ใช้จับออกมาแต่ใช่ว่าใครๆก็ดึงได้ เพราะที่ด้ามจับมีระบบสแกนนิ้วมือที่มีการล๊อคไว้แน่นหนาต่อให้ขโมยไม้ค้ำเธอไปก็ใช้ไม่ได้

      ไม้ค้ำอันที่3จะมีกลไกการปล่อยเข็มอาบยาพิษไว้ที่ปลายไม้ค้ำ โดยไม้ค้ำนี้มีกลไกง่ายๆคือการกดปุ่มเล็กๆที่ซ่อนไว้ตรงด้ามจับ แต่ไม้ค้ำนี้ค่อนข้างอันตรายเพราะถ้าเกิดใครเอาไปใช้ซี้ซั้วอาจโดนพิษที่เคลือบอยู่รอบๆไม้ค้ำได้ เอลิน่าจึงมักเก็บไว้กับตัวเพราะไม่อยากให้ลูกๆ(คิลเลอร์)โดนพิษ

      และอาวุธอีกอย่างที่มักพกติดตัวไว้ยามฉุกเฉินในกระเป๋าสะพายก็คือปืนกระปอกเล็ก รวมถึงปืนอีก2กระบอกที่ต้นขาไว้สำหรับทำภารกิจแบบฉุกเฉินนั่นเอง

      สัตว์กล่อง: แมวพิรุณ(ชื่อ เนรี่) และ ผีเสื้อพิรุณ(ฟลันล่า)

      แมวพิรุณใช้สำหรับการระงับการใช้ธาตุโดยการส่งเสียงร้อง

      ผีเสื้อพิรุณใช้สำหรับการระงับการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยการบินปล่อยละอองพิรุณ

      การใช้พลังธาตุต่างๆ: [ระงับ] สำหรับหอกมักใช้ประโยชน์ในการระงับการทำงานอาวุธหรือสัตว์กล่องของศัตรู หรือเคลือบธาตุพิรุณความเข้มข้นสูงไว้ที่ปลายหอกเมื่อโจมตีโดนที่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกายจะทำให้การทำงานของร่างกายหยุดชะงัก รวมถึงหยุดการโจมตีของอีกฝ่ายโดยการวาดหอกเป็นวงกว้างรับการโจมตี และแทงหอกกลับไปอย่างรวดเร็ว

      สำหรับการใช้ปืนจะเน้นไปทางการลอบสังหารแบบเงียบๆ คือสำหรับหยุดการทำงานของสมองชั่วคราว หรือหยุดการเคลื่อนไหว และเธอค่อยใช้ปืนเก็บเสียงอีกกระบอกสังหาร หรือบางครั้งในการลอบสังหารเหยื่อจะฆ่าตัวตายเอง

      *เอลิน่าเป็นพวกได้ยินเสียงค่อนข้างดีมากอยู่แล้วทำให้เรื่องการลอบฆ่าเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอทีเดียว

      ท่าไม้ตาย: [Spear of judgment] เป็นการตวัด ควงและฟาดฟันหอกพิรุณบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว เป็นท่าที่ไว้ใช้ยามที่รีบจบการต่อสู้ที่ยืดเยื้อเกินไป ท่านี้จะมีผีเสื้อพิรุณบินวนอยู่รอบๆเป็นจำนวนมากช่วยระงับการเคลื่อนไหวของศัตรูคล้ายการติดสตั้นก่อนจะลงมือปลิดชีพ

      [Saigo No Himei] ท่านี้ใช้สำหรับการสังหารหมู่ โดยจะใช้ทั้งแมวพิรุณและผีเสื้อพิรุณ แมวพิรุณจะทำการส่งเสียงร้องโดยเสียงจะเคลื่อนที่ออกเป็นวงกว้างด้วยคลื่นพิรุณที่มองไม่เห็นทำให้ไม่สามารถใช้ธาตุได้ชั่วคราวทั้งยังทำให้ประสาทรับการได้ยินผิดเพี้ยนไปทำให้เหยื่อเกิดอาการวินเวียนศีรษะ และทรงตัวได้ลำบาก ถัดมาผีเสื้อพิรุณก็จะปล่อยละอองโดยละอองเหล่านี้จะติดไปกับคลื่นเสียงพิรุณของแมวพิรุณส่วนนึง ทำให้ไม่สามารถขยับร่างกายได้และยิ่งมากก็จะทำให้เป็นอัมพาตได้ชั่วคราว และรับรู้อาการเจ็บปวดทั่วร่างกาย ก่อนที่เอลิน่าจะใช้หอกปลิดชีพอย่างดงาม

       

      สิ่งที่ชอบ: ของหวาน(มากๆ) การได้แกล้งคนอื่นๆ(โดยเฉพาะประเภทที่ซึนและนิ่งมากๆ) การแอบฟัง(ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ) เค้กนม กาแฟใส่น้ำตาล 5ก้อน ชุดแนวตะวันตกที่สบายๆ น้ำชาทุกประเภท ลงท้ายชื่อคนที่น่ารัก(น่าแกล้ง)ว่า จัง คนที่อายุน้อยกว่า ดอกไม้ และไวน์(แอบชอบแบบลับๆ) แอบขโมยลูกตาเหยื่อบางครั้ง

      สิ่งที่ไม่ชอบ:

      -คนที่รู้ทันตัวเองไปเสียหมด

      -คนที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลจนดูน่ารำคาญเกินไป

      -ช่วงที่ตัวเองอยู่ในสภาพมองไม่เห็น

      -คนที่ชอบบีบบังคับ (เธอไม่ชอบการที่ต้องอยู่ใต้อำนาจใคร แต่ก็ไม่ใช่คนที่หยิ่งทะนงจนไม่รับฟัง หากอีกฝ่ายขอร้องหรือสั่งดีๆเธอจะยอมทำโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ แต่ถ้าเกิดอีกฝ่ายอารมณ์ร้อนมาสั่งเธอปาวๆนั่นจะทำให้เธอรับฟังเท่านั้นแต่ทำหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าคำสั่งนั้นมีเหตุผลมากพอหรือไม่เท่านั้น )

      -เสียงดังมากๆ(มันทำให้เธอปวดหู และถ้าดังมากเข้าเธอจะขยับตัวไม่ได้)

      -ความพ่ายแพ้ (ถ้าครั้งไหนไม่ไหวจริงๆเธอก็จะถอยไปตั้งหลักก่อนจะกลับมาสู้อีกครั้ง จนอาจจะพูดได้ว่าเธอแอบเป็นคนเจ้าคิดเจ้าเเค้นลึกๆ)

      สิ่งที่เกลียด:

      -พวกที่ดูถูกและจี้ปมเธอมากเกินไป*(ประมาณว่า ตาบอดแบบเธอจะไปทำอะไรได้?)

      *หากไม่พูดเรื่องนี้บ่อยเกิน3ครั้ง หรือพูดอ้อมๆ เธอจะยังสามารถสงบอารมณ์เธอได้อยู่

      *หากมากเข้าเธอจะเริ่มรู้สึกรำคาญและโมโห เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอพยายามลบข้อด้อยนี้ แต่ถ้าไปจี้เข้ามันจะกลายเป็นว่าคนคนนี้เป็นพวกที่ไม่อยากจะมองเห็นอีกแล้ว

      -พวกที่มาทำร้ายพวกของเธออย่างไร้เหตุผลหรือทำร้ายจนเกินเหตุ(มันช่างไม่น่าให้อภัย)

      แพ้: สิ่งที่แพ้ไม่มี แต่มีคนที่แพ้นะคะ(อุ้บอิ้บ)

      อื่นๆ:

      -เป็นคนถนัดมือทั้งสองข้าง

      -เอลิน่ามีไม้ค้ำทั้งหมด 3 อัน แต่ละไม้จะห้อยพวงดอกไม้สวยงามโดยคนที่ซื้อให้คือคิลเลอร์สักคน

      -คนในหน่วยมักเรียกเธอว่า คุณแม่เอนน่า (คล้ายๆกับฉายา)

      -เธอมักจะมอบลูกอมให้กับเพื่อนๆคิลเลอร์เป็นประจำ ซึ่งเป็นลูกอมที่เธอทำเอง มีแบ่งว่าหวานน้อย หวานมาก

      -คิดจะกินขนมที่เธอทำต้องทำใจเรื่องความหวานเกินไปมาก แต่น่าแปลกที่เธอไม่อ้วนขึ้นเลย

      -เธอมักจะชอบหลอกคนให้พาเธอข้ามถนนเวลาเข้าเมืองเป็นประจำ

      -เอลินาไม่ชอบการพกธนบัตรเพราะมันลำบาก ทำให้ในกระเป๋าเงินเธอมีเพียงบัตรเครดิตเท่านั้น

      -เอลิน่าต่อให้มือเปล่าไม่มีอาวุธก็สามารถต่อสู้ต่อไปได้ เพราะเธอได้ยินเสียงการออกแรงของอีกฝ่ายทำให้เดาทางได้ แถมยังสู้กลับได้โดยการตั้งรับที่ไม่สามารถโจมตีทะลุไปได้ง่ายๆ และเล็งไปที่ทางของเหยื่อหรือศัตรูเสมอ

       

      *สีแดงคือที่เพิ่มและแก้ไข้นะคะ

       

       

       

      T A L K

      JM: สวัสดีค่าาท่านผปค. เรามีนามแฝงว่า จัสมินนะคะ

      A: ดีค่าาา

      JM: อะไรดลใจให้มาสมัครเรื่องนี้หรอคะ??

      A: เพราะเห็นว่าคาร์แรคเตอร์ และพล๊อตเรืืองน่าสนใจเลยอยากมาฝากลูกสาวน่ะค่ะ

      JM: ถ้าไม่ติดจะโกรธมั้ยคะ?

      A:ไม่โกรธค่ะ อิสโอเค(น้ำตามายา) อาจจะรู้สึกเสียดายแล้วก็เสียใจนิดหน่อยค่ะ

      JM: ถ้าไม่ได้บทบาทที่สมัครอยากได้บทอะไรคะ ตัวอย่างแบบนี้ เช่น ลูกน้องในหน่วย คนสนิท หรือตัวร้ายแบบนี้

      A: เป็นพี่เลี้ยงหรือเมดก็ได้ค่ะ ตามใจคุณจัสมินเลย

      JM: ขอให้โชคดีนะคะะะะ

      A:ขอบคุณค่าาาา

       



       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×