The end is near
SHOWNU KIHYUN
Project Fiction Part 1
ร่างสูงใหญ่ที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ ที่เอวพันผ้าเช็ดตัวของเขาไว้ส่วนมือข้างขวาก็กำลังเช็ดผมด้วยผ้าเช็ดผมผืนเล็ก เขาตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดมันออกก่อนจะไล่สายตาดูว่าวันนี้เขาจะใส่ชุดตัวไหนดี เสื้อผ้าส่วนใหญ่มักจะเป็นโทนสีสว่างมากกว่า เพราะส่วนตัวเขาเป็นคนขี้ร้อน เขาเลือกหยิบเอาเสื้อยืดสีขาว กับกางเกงยีนส์ที่เขาแทบจะใส่ประจำออกมา แล้วจัดการแต่งตัว
(เสียงข้อความเข้ามือถือ) เขาตากผ้าเสร็จเรียบร้อย ก็เดินกลับมา หยิบมือถือขึ้นดูข้อความที่เข้ามา
K : จะออกมากี่โมง ?
เขาพิมพ์ตอบกลับไปว่ากำลังจะออกไป เขาจัดการหยิบของเก็บใส่กระเป๋าเป้ มองสำรวจภายในบ้าน ก่อนจะเดินออกไป เขาอาจจะไปสายได้ถ้าเขาไม่รีบ
ช่วงสิบเอ็ดโมงครึ่ง เขามาถึงตามที่เขาได้นัดกับคนคนนึงไว้ เขาส่งข้อความไปถาม ด้วยความเคยชิน จนบางทีเขาก็คงลืมว่ามือถือมันโทรได้นะ
K : หาที่รอไปก่อน
เขาเดินหาที่นั่งรอ เขาเป็นคนที่สามารถนั่งนิ่งๆได้นาน นานมาก มองนั่นมองนี่ไปได้เรื่อยๆ เขาเลยดูเหมือนเป็นคนที่สามารถอดทนรอได้ทุกอย่าง แต่เปล่าหรอก เขารอได้เฉพาะคนที่เขาอยากรอมาตลอดนั่นแหละ
เขานั่งได้สักพัก เขาเป็นคนสายตาดีพอสมควร เขาเห็นคนที่เขารอก่อนใครทั้งนั่นแหละ เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปหาทันที
“หิวอะ” คนที่พึ่งมาถึงเริ่มบ่นทันที
“ก็บอกแล้วให้กินออกมาก่อนเลย ก็แบบนี้ทุกที” คนตัวสูงกว่าเริ่มบ่นเล็กๆ แต่เขาก็รู้ว่าถึงบ่นไป อีกคนก็ไม่ทำหรอก เรื่องดื้อเขารู้ดี
ฮยอนอูกับกีฮยอน เดินไปเรื่อยๆซึ่งฮยอนอูก็รู้ละ ว่ากีฮยอนจะไปกินอะไร
นิสัยเสียของฮยอนอูคือการที่เขาชอบทำเป็นไม่สนใจ แค่ปกปิดว่าเวลาเขาต้องเจออีกฝ่ายแล้วเขาอยากทำยังไงบ้าง เขาก็เหมือนกับแฟน คนอื่นๆ แต่ติดแค่เขาไม่กล้าแสดงออกสักเท่าไหร่ บางครั้งถึงกีฮยอนจะเล่นกับเขาแรงๆไปบ้าง เขาก็ยังไม่กล้าโกรธ เขาไม่ค่อยยิ้มให้กีฮยอน ไม่ใช่เป็นอะไร แต่เขามองว่ากีฮยอนคือรอยยิ้มของเขา เขาเลยไม่รู้จะยิ้มยังไง แต่เขามีความสุขที่ได้เห็นและอยู่กับกีฮยอน
ระหว่างที่นั่ง ฮยอนอูก็จะอยู่เงียบๆมากกว่า เพราะถ้าเขาลองเล่นมือถือ ก็ไม่พ้นโดนอีกฝ่ายบ่นใส่เขาอยู่ดี แต่เขาจะบ่นกีฮยอนไม่ได้นะ เพราะบ่นไปกีฮยอนก็ไม่ทำหรอก แตกต่างและไม่เหมือนกันมากๆ ฮยอนอูชอบมองที่มือของกีฮยอนบ่อยพอสมควร
“กีฮยอน” จู่ๆฮยอนอูก็เรียกชื่อของอีกฝ่ายขึ้นมา ทำเอาอีกคนงงไปนิดหน่อยที่จู่ๆก็เรียกขึ้นมา
“ปากนายเปื้อนหนะ เช็ดด้วย” ที่จริงก็คิดไว้แหละว่าจะพูดว่าอะไร แต่ก็ตัดสินใจไม่พูด เพราะก่อนจะพูดทีไรจะมีส่วนนึงที่ไม่ปกติทันที ทำให้เขาอาจจะหายใจไม่ทัน
“เช็ดให้หน่อย” ฮยอนอูมองก่อนจะดึงทิชชู่ออกมาแล้วเช็ดมุมปากให้กีฮยอนเบาๆ
เมื่อกีฮยอนกินเสร็จเรียบร้อย(ใช่ว่าฮยอนอูไม่กินนะ แค่กินน้อยกว่า แอบโดนบังคับให้กิน เพราะกินน้อยเกินไปนี่ละ) กีฮยอนชอบไปเดินเล่นต่อ ดูนั่นนี่ไปเรื่อยๆ เหมือนย่อยอาหาร ส่วนฮยอนอูจะเป็นคนที่เดินแล้วไม่ค่อยสนใจอะไร ขนาดไปซื้อของเขายังพุ่งไปแต่จุดที่จะซื้อเลย ไม่มีเผื่อมองอะไรเพิ่มเติม
“จะกลับตอนไหน ?” ฮยอนอูถามกับกีฮยอน
“ยังไม่กลับ แต่ถ้าอยากให้กลับนักก็จะกลับ”
“เดี๋ยวกลับมาช่วยงานตอนเย็นอีก เดี๋ยวไม่ว่างแล้ว”
“ไม่ให้ไปหรอก” แล้วกีฮยอนก็เดินต่อเลย แต่ฮยอนอูดูก็รู้ว่านั่นทางที่จะกลับ ด้วยการไปลงรถไฟฟ้าใต้ดินก่อน แล้วต่อด้วยรถประจำทาง
มาได้สักพัก ฮยอนอูกับกีฮยอนก็ยืนรอรถสายที่จะกลับไปบ้านกีฮยอน ฮยอนอูจะยืนแค่มารอส่งกีฮยอนขึ้นรถ เพราะเขาดูแล้วว่าเขากำลังจะไปเลทแน่นอน เมื่อเขาคำณวนเวลาแล้ว
“ไม่ทันหรอก” กีฮยอนหันมาพูดอย่างอารมณ์ดี ซึ่งก็แอบกวนนิดๆ
“ก็ส่งแค่ขึ้นรถไง ไม่ไปส่งบ้าน”
“เอ้อ!” แล้วกีฮยอนก็ทำหน้าบึ้งใส่ทันที ก็งอนแน่นอนละงานนี้ แต่ถามว่าฮยอนอูพูดแล้วจะทำงั้นเหรอ ก็ไม่หรอก เพราะยังไงเขาก็ไม่ทัน เลยลาไปแล้ว
จู่ๆกีฮยอนก็ส่งกระเป๋าเป้มาให้ถือ แต่ก็ยังเงียบ ทำหน้าบึ้งอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งรถมา ฮยอนอูแกล้งยื่นเป้คืนให้ ซึ่งกีฮยอนไม่รับ จนรถมาจอด ฮยอนอูเลยต้องขึ้นไปด้วย แต่ด้วยการที่เขาขึ้นรถทีหลัง ฮยอนอูก็ลอบยิ้มออกมา
ฮยอนอูนั่งตีเนียนอยู่เฉยๆ ไม่สนใจอะไร เขาชอบเวลากีฮยอนงอน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้างอนหนักขึ้นมา เขาจะทำอะไรไม่ได้ ชอบแกล้งให้งอน แต่ตัวเองก็ง้อใครไม่เคยสำเร็จ เขาไม่เคยทำ หรืออาจจะเคย แต่เขาก็ทำไม่ได้แล้วก็ได้ จนกระทั่งเขาหลับ
ฮยอนอณู้สึกอีกทีก็ตอนที่กีฮยอนจับมือเขาอยู่ ฮยอนอูนึกในใจ เพราะเขาชอบนอนแล้วผวา เขาไม่เคยรู้สาเหตุที่เขานอนแล้วผวา เขาเป็นตั้งแต่เด็กๆ โตมาก็ยังแก้ไม่หาย
เมื่อรถมาจอดถึงป้ายแล้ว เาสองคนเดินลงมาจากรถ ฮยอนอูส่งเป้คืนให้กีฮยอน
“แล้วจะกลับกี่โมง ?” กีฮยอนถาม
“ไม่ไปแล้ว จะไปเที่ยวแทน”
“ไม่ให้ไป!”
“ก็มันว่างแล้วนี่ ยังไม่อยากกลับด้วย”
“หึ!” กีฮยอนส่งเป้มาให้อีกรอบก่อนจะเดินไม่สนใจเลย ฮยอนอูก็เดินตามไปจะส่งเป้คืน
“ไม่เอาจะทิ้งไว้ตรงนี้จริงๆนะ” กีฮยอนก็ยังคงเดินไม่สนใจอีกอยู่ดี จนเดินไปขึ้นรถคันเล็กเพื่อเข้าไปในซอย ทำให้ฮยอนอูต้องขึ้นรถตามไปด้วย
“บอกแล้วว่าไม่ให้ไปหรอก ~” ฮยอนอูแกล้งทำหน้านิ่งไม่พอใจเล็กๆ แต่ลึกๆเขาก็รู้ว่ากีฮยอนต้องให้เขาไปด้วย ถ้าเขาคิดจะไปเที่ยวคนเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ เขาจำได้ไง ว่ากีฮยอนไม่ชอบให้เขาไปไหนคนเดียว ทั้งที่มีกีฮยอนแล้ว เขายังจำได้อยู่ดี
เขาลงจากรถมาเพราะถึงบ้านกีฮยอนแล้ว เขาเดินตามกีฮยอนเข้าไป มาถึงในบ้าน ฮยอนอูพบกับคุณยายของกีฮยอนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่
“สวัสดีครับ คุณยาย” ฮยอนอูโค้งให้ ก่อนจะค่อยๆเดินผ่านไป ฮยอนอูเวลาเจอผู้ใหญ่เขาดูเหมือนจะเกร็งแต่ที่จริงเขาโดนฝึกมาไม่น้อยเลยตั้งแต่เด็ก สำหรับฮยอนอูเลยเป็นเรื่องชิน
“ไปนั่งข้างใน” กีฮยอนบอกเขา ฮยอนอูเลยเดินเข้าไปข้างในห้องของกีฮยอน เขาวางเป้ลงบนพื้น ห้องของกีฮยอนแอบรกนิดหน่อย เพราะกีฮยอนไม่ค่อยจัดของ โดยเฉพาะบนโต๊ะ แต่เขาไม่กล้าจัด กลัวกีฮยอนจะลืมของที่ตัวเองวางไว้
ฮยอนอูนั่งอยู่บนพื้น หยิบมือถือออกมาเล่นบ้าง กีฮยอนเข้ามาในห้องแล้วก็ขึ้นไปนอนบนที่นอนไม่สนใจ ฮยอนอูก็ยังนั่งอยู่ เขาไม่ค่อยอยากขึ้นไปนั่งบนนั่นเพราะเขาก็เกร็งใจกีฮยอน
“เกาหลังให้หน่อย”
“เดี๋ยวหลังก็ลายหมด”
“เร็ววววว คันหลังงงงง” ฮยอนอูขึ้นไปนั่งบนที่นอน และเกาหลังให้กีฮยอน เวลากีฮยอนจะนอน เขาชอบที่มีคนเกาหลังให้
“นอนลงดีๆ” กีฮยอนบอก
“ถ้านอนแล้วจะเกาไม่ถนัด”
“นอนนนนน” ฮยอนอูก็งงว่าทำไมถึงให้เขานอน เขาจะเกาหลังให้ไม่ถนัดจริงๆ
กีฮยอนหันมาหาฮยอนอู ใบหน้าของเขาทั้งสองคนอยู่จนเกือบจะติดกัน ฮยอนอูมองกีฮยอน สิ่งที่เขาชอบบนใบหน้าของกีฮยอนคือจมูกและขนตา เขารู้สึกว่าถ้าเขาไม่กลั้นหายใจ เขาต้องหายใจผิดจังหวะแน่นอน เพราะบางอย่างก็เริ่มผิดปกติไปบ้างแล้ว
กีฮยอน ... พี่รักนายมากนะ
It just Intro. To be continue.
ความคิดเห็น