คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 5
ซอนยอลวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ เมื่อร่างของลูกชายคนเล็กที่กำลังนึกถึงยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าของชานยอลไม่สู้ดีนัก เห็นอย่างนั้นคนเป็นแม่อย่างซอนยอลก็ได้แต่ปวดร้าวในใจ เพราะรู้ดีว่าอะไรที่ทำให้ลูกชายของตนต้องเป็นแบบนี้
“นั่งก่อนสิจ๊ะ ไปไหนมาน่ะเรา”
“ไปเจอแบคฮยอนมาฮะ เลยแวะมาหาแม่ งานยุ่งมั้ยฮะ?”
“ก็..ไม่มากหรอกจ๊ะ”
“เหรอฮะ”
“……………..”
“แม่ฮะ.......”
เมื่อเห็นว่าแม่ไม่ยอมพูดอะไรเขาจึงตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ชานยอลรู้สึกเหมือนริมฝีปากของเขาแห้งผากเมื่อต้องพูดถึงเรื่องนั้น
“ชานยอลจะแต่งงานกับคุณคริส”
“ชานยอล”
หญิงสาวหลุดชื่อลูกชายออกมา ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าสู่หัวใจ ร่างบางลุกขึ้นเดินเข้าไปสวมกอดลูกชายคนเล็กไว้แน่น น้ำตาที่ตนรู้สึกว่าช่วงนี้มันช่างมีมากมายเหลือเกินไหลออกมา
“แม่อย่าร้องไห้สิฮะ ชานยอลไม่เป็นอะไรหรอก”
“ชานยอล แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ”
“แม่อย่าพูดอย่างนั้น แม่ทำเพื่อชานยอลกับพี่ซูโฮมามากแล้ว ชานยอลรู้ว่าแม่เหนื่อย ให้ชานยอลได้ตอบแทน
แม่บ้างนะฮะ”
ชายหนุ่มเอ่ยกับมารดา มือเรียวบางลูบหลังที่กำลังสั่นของคนเป็นแม่หวังปลอบให้หยุดร้องไห้แต่น้ำตาของตัวเองกลับกำลังจะไหล ชานยอลกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาบ้าๆนั้นออกไปจากดวงตา เขาต้องเข้มแข็ง ต้องเข้มแข็งกว่านี้
“ทำไมกัน ทำไมเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นกับครอบครัวเราด้วย ฮื่ออ”
“แม่ แม่อย่าร้อง แม่ทำแบบนี้ชานยอลไม่สบายใจเลยรู้มั้ย แม่ฮะ........”
“โธ่เอ้ย ชานยอล แม่ไม่รู้ว่าเมื่อแม่ตายไป แม่จะกล้าสู้หน้าพ่อของลูกมั้ย แม่ทำแบบนี้ เหมือนแม่กำลังขายลูกกิน ฮึก”
ซอนยอลยังคงซบหน้ากับไหล่ของลูกชาย หญิงสาวพยายามเต็มที่ให้น้ำตาหยุดไหล หล่อนไม่อยากให้รู้ชายต้องเห็นว่าหล่อนอ่อนแอเหลือเกินในตอนนี้
“แม่อย่าพูดแบบนี้ ชานยอลไม่ชอบ....”
“ แม่คิดอย่างนี้สิฮะ ยังไงเมื่อชานยอลเรียนจบแล้ว ชานยอลก็ต้องมาช่วยงานแม่ที่บริษัท คิดเสียว่าการที่ชานยอลแต่งงานกับคุณคริสเป็นการทำงานให้บริษัทนะฮะ”
“โธ่ลูก มีวิธีอีกตั้งมากมาย ทำไมต้องเป็นวิธีนี้”
“เลิกพูดเถอะฮะ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ชานยอลตัดสินใจแล้ว”
“……………………”
“ชานยอลจะแต่งงานกับคุณคริส”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ดันร่างของมารดาออกจากอ้อมกอด เช็ดน้ำตาที่ไหลลงมามากมายออกจากพวงแก้ม ส่งยิ้มที่ตัวเองคิดว่าสดใสที่สุดให้คนเป็นแม่สบายใจ
“ถ้าลูกตัดสินใจแบบนั้นแล้ว แม่ก็ต้องขอบใจลูกมากที่ทำเพื่อแม่ ขอบใจลูกมากจริงๆชานยอล”
หญิงสาวประคองใบหน้าของบุตรชายคนเล็กไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง จุบลงบนหน้าผากเนียนอย่างสุดรัก ส่งยิ้มแรกของวันเพื่อเป็นของขวัญแก่ลูกชาย
“แม่จะโทรไปนัดคุณเหม่ยหลิงเพื่อคุยเงื่อนไขต่างๆของการแต่งงานครั้งนี้ ลูกมีอะไรจะพูดกับคุณเหม่ยหลิงมั้ยจ๊ะ”
“มีฮะ ฝากบอกคุณเหม่ยหลิงว่าผมขอเจอกับคุณคริสสักครั้งก่อนแต่งงานได้มั้ยฮะ”
ภายในโรงแรมหรูกลางกรุงโซล เป็นสถานที่นัดหมายของหญิงสาวต่างสัญชาติ ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องอาหารที่แยกออกมาเป็นการส่วนตัว โรงแรมในเครือ WU China International ปาร์ค ซอนยอล กำลังนั่งฟังเงื่อนไขต่างๆจากหญิงสาวสัญชาติจีนอย่างมึนงง มันคือเรื่องจริงใช่มั้ย ลูกชายของหล่อนกำลังจะแต่งงานกับลูกชายคนเดียวของคนที่อยู่ตรงหน้า
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณซอนยอล”
“ปะ..... เปล่าค่ะ”
เหม่ยหลิงมองใบหน้าซีดเผือกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของปาร์ค ซอนยอลอย่างนึกขำ คงทำใจลำบากหน้าดูที่ต้องมานั่งฟังเงื่อนไขการแต่งงานของลูกชายของตัวเองกับลูกชายคนอื่น
“งั้นเป็นไปตามนี้นะคะ คริสลูกชายของฉันจะแต่งงานกับลูกชายของคุณให้เร็วที่สุดหลังจากที่ลูกชายของคุณเรียนจบ คาดว่าจะเป็นเดือนหน้าถูกมั้ยคะ”
“ค่ะ.....”
“หลังจากแต่งงานแล้ว ทั้งสองจะบินเป็นเซ็นทะเบียนสมรสที่แคนนาดา พวกเขามีสิทธิเทียบเท่ากับคู่สมรสทั่วไปทุกประการ ชานยอลจะต้องย้ายไปอยู่กับคริสที่ประเทศจีน และทาง WU China International จะส่งคนเข้ามาบริหารที่ PK Group พร้อมชำระหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ของบริษัท แต่หุ้นทั้งหมดของ PK Groupต้องเป็นของ ปาร์ค ชานยอลแต่เพียงผู้เดียว”
“ค่ะ.......”
“โดยที่คุณปาร์ค ซอนยอลยังคงมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัท ทุกตำแหน่งในบริษัทยังคงเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนชื่อเจ้าของบริษัทและมีคนของตระกูลอู๋มาช่วยบริหารงานเท่านั้น คุณซอนยอลตกลงใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ....”
“งั้นช่วยเซ็นเอกสารตรงนี้ด้วยค่ะ”
อู๋ เหม่ยหลิงรับเอกสารจากเลขาสาว ยืนให้กับคนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆไม่ยอมปริปากพูดอะไรนอกจากคำว่า ‘ค่ะ’ ปาร์ค ซอนยอลจับปากกาเซ็นเอกสารตรงหน้าด้วยมือสั่นเทา ก่อนจะรีบวางมันลงเหมือนเป็นของร้อน หล่อนทำลงไปแล้ว เซ็นไปแล้ว ลูกชายของหล่อน ชานยอลต้องแต่งงาน....
“ส่วนงานแต่งงานดิฉันให้คุณเป็นคนตัดสินใจนะคะว่าจะจัดที่ไหน ถ้าจะจัดที่จีนดิฉันยินดีจะจัดการทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่ถ้าคุณซอนยอลต้องการจัดที่เกาหลีดิฉันก็คงต้องขอมอบงานทุกอย่างให้คุณเป็นคนจัดการเองเพราะดิฉันกับลูกชายคงไม่สามารถเดินทางมาดูงานที่นี้ได้บ่อยนัก หวังว่าคุณซอนยอลคงจะเข้าใจ”
“ค่ะ ดิฉันเข้าใจ งานแต่งงานดิฉันคิดว่าจัดที่จีนคงจะดีกว่าเพราะยังไงชานยอลก็ต้องย้ายไปอยู่ที่นั้นอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องย้ายไปย้ายมา ส่วนในเรื่องพิธีดิฉันขอให้จัดแบบง่ายๆเป็นพิธีในครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็พอ”
ซอนยอลตอบแบบนั้นด้วยคิดถึงใจของลูกชายว่าคงไม่อยากให้งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่เกาหลีมากเท่าไหร่
“ค่ะ ถ้างั้นดิฉันจะจัดพิธีเลี้ยงน้ำชาเชิญเฉพาะญาติและแขกที่สนิทสนิทเท่านั้น ดีมั้ยคะ”
“ค่ะ”
“คุณซอนยอลมีอะไรจะพูดอีกมั้ยคะ”
เหม่ยหลิงเอ่ยถามขึ้นเมื่อตนได้ขอสรุปที่หน้าพอใจ ซอนยอลเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่ออีกฝ่ายพูดจบเอ่ยปากขอในสิ่งที่ลูกชายของตนต้องการ
“ค่ะ ชานยอลลูกชายของดิฉันอยากจะเจอคุณคริสสักครั้งก่อนแต่งงานพอจะเป็นไปได้มั้ยคะ”
“ได้สิคะ ถึงคริสเขาจะมีงานยุ่งมากแค่ไหน แต่เขาคงจะอยากเจอกับหนูชานยอลเหมือนกัน เอาเป็นว่าดิฉันจะบอกให้เขารีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วรีบมาเจอหนูชานยอลให้เร็วที่สุด”
“แล้วคุณคริสเขาไม่ว่าอะไรเหรอคะ ที่ต้องมาแต่งงานกับลูกชายของดิฉัน”
อู๋ เหม่ยหลิงส่งยิ้มหวานที่ซอนยอลเห็นแล้วต้องขนลุกอย่างไม่รู้สาเหตุ
“คริสเขาตามใจแม่ เขาไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ”
อู๋ อี้ ฟานก้าวเท้าไปตามทางเดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของมารดาที่เพิ่งกลับมาจากติดต่องานที่ประเทศเกาหลี ชายหนุ่มใช้มือลูบที่ริมฝีปากตัวเองเหมือนทุกครั้งเวลาที่ต้องใช้ความคิด
ตลอดเวลาสองวันที่ผ่านมาในสมองของเขาเอาแต่คิดเรื่องที่แม่ของเขาบอกมาตามสายโทรศัพท์ เขาต้องแต่งงาน อู๋ อี้ ฟาน คนนี้จะต้องแต่งงานกับลูกชายคนเล็กของตระกูลปาร์ค เจ้าของบริษัท PK Group ที่มารดาของตนอยากได้มาไว้ในครอบครองหนักหนา
ความคิดทั้งหมดต้องหยุดชะงักลงเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงเป้าหมายประตูห้องทำงานสีดำเข้มอยู่ตรงหน้า เลขาส่วนตัวของมารดารีบเปิดประตูให้เขาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาเยือน
“มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ”
ชายหนุ่มย่อกายลงนั่งตามคำสั่งของมารดา ดวงตาสีเข้มจ้องมองคนที่ยังคงก้มหน้าก้มตาสนใจกับเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“การประชุมเป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีมั้ย?”
“เรียบร้อยครับ”
“แล้วเรื่องการเปิดสาขาจิวเวอร์รี่ที่เซินเจิ้นล่ะ?”
“เรียบร้อยครับ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี”
อู๋ เหม่ยหลิงเอ่ยถามเรื่องความคืบหน้าของบริษัทด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทั้งที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังเซ็นอยู่ หล่อนรู้ว่าทุกอย่างที่มอบหมายให้ลูกชายต้องเรียบร้อยด้วยดี งานของหล่อนก็เช่นกัน
“แม่ก็เหมือนกัน ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
“แม่คิดดีแล้วเหรอครับ ที่จะให้ผมแต่งงานกับลูกชายของตระกูลปาร์ค”
ชายหนุ่มถามออกไปในสิ่งที่ตัวเองคิด เหม่ยหลิงเงยหน้าขึ้นจากเอกสารเมื่อได้ยินคำถามจากลูกชาย
“อู๋ฟาน ลูกก็รู้ดีว่าคนอย่างแม่ก่อนที่คิดจะทำอะไรต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเราเป็นหลัก”
“ครับ ข้อนั้นผมทราบดี แต่อะไรที่ทำให้แม่ถึงกับต้องยอมลงทุนให้ผมแต่งงานกับลูกชายเจ้าของบริษัทที่กำลังจะโดนฟ้องล้มละลายแบบนั้น”
“ลูกเป็นคนพูดกับแม่เองไม่ใช่เหรออู๋ฟาน ว่าถ้าเราได้บริษัทนั้นมาอยู่ในมือมันจะสร้างกำไรให้บริษัทของเราได้อย่างมหาศาล”
“………………….”
อู๋ฟานนั่งมองปากกาด้ามสวยที่อยู่ในมือควงมันเล่นไปมา สมองกำลังประมวลในสิ่งที่มารดาของตนกำลังพูด
“ลูกคงยังไม่รู้เงื่อนไขการแต่งงานทั้งหมดที่แม่กับคุณซอนยอลตกลงกัน ฟังให้ดีนะอู๋ฟาน เมื่อลูกแต่งงานและจดทะเบียนสมรส........”
“อะไรนะครับ จดทะเบียนสมรส ฮ่าๆๆ นั้นแม่จริงจังขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
ชายหนุ่มโยนปากกกาในมือทิ้งทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น จดทะเบียน งั้นเหรอ? คนอย่างอู๋ อี้ฟาน ต้องแต่งงานแถมยังต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายที่ตนไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้า โอเค เขายอมรับว่าเขาสามารถมีอะไรกับผู้ชายได้และออกจะชื่นชอบมันมากด้วยซ้ำแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงเลย เขาหวังว่าชีวิตของเขาจะได้แต่งงานกับคนที่รัก ผู้หญิงที่รัก...
“แม่บอกให้ลูกฟังให้จบก่อน อู๋ฟาน”
“……….”
ชื่อของตนที่มารดาเอ่ยออกมาเป็นประโยคสุดท้าย ทำให้ชายหนุ่มต้องเรียกอารมณ์ที่กำลังเตลิดให้กับเข้าที่ อู๋ฟานไหวไหล่ เอนกายลงกับเก้าอี้ตามเดิม
“เมื่อลูกจดทะเบียนสมรสกับลูกชายของตระกูลปาร์คเสร็จ หุ้นทั้งหมดในบริษัทจะเป็นชื่อของลูกชายคนเล็กของตระกูลปาร์คทันที และลูกที่เป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะมีสิทธิในการดูแลผลประโยชน์ของบริษัททั้งหมดแทนคู่สมรสของลูกด้วย ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะลูกชายคนเล็กของตระกูลปาร์ค ไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานบริหาอะไรเลย”
“………………”
“คนที่ลูกต้องแต่งงานด้วยเขาจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ไม่ใช่คณะบริหารธุระกิจอย่างลูก ไม่ได้เก่งเหมือนลูก คิดดูสิว่ามันง่ายต่อการควบคุมแค่ไหน”
“……………”
“ลูกมีอะไรจะพูดอีกมั้ย”
เหม่ยหลิงเอ่ยถามลูกชายเมื่อตนเองพูดจบ ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งประจำ ก้าวเท้าเดินไปยังกระจกบานใส มองทิวทัศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่วุ่นวาย หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเดียวของหล่อนไม่ยอมพูดอะไรออกมา
“อู๋ฟาน เรื่องราวที่ลูกเคยทำมาแม่ไม่เคยว่า ไม่ว่าลูกจะควงผู้หญิงหรือผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเข้าโรงแรมจนมีข่าวในหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ เพราะแม่คิดว่ามันคือเรื่องส่วนตัวของลูกตราบใดที่บริษัทไม่เสียหายเพราะการกระทำของลูกแม่ก็ไม่เคยว่าอะไร”
“……………….”
“แต่เมื่อลูกต้องแต่งงาน แม่ก็ควรจะต้องเลือกคนที่ดีที่สุดให้ลูก ไม่ใช่ให้ลูกไปคว้าผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นภรรยา และที่สำคัญบริษัทต้องได้ผลประโยชน์จากการแต่งงานของลูกด้วย”
“แล้วแม่รับได้เหรอครับ ที่ผมต้องแต่งงานกับผู้ชาย”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างนึกสงสัย เขาเข้าใจและสามารถทำใจให้ยอมรับได้อย่างรวดเร็วเมื่อได้ฟังเหตุผลจากมารดาและเมื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ที่บริษัทของตนจะได้รับ แต่เรื่องการแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันใช่ว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคมมากนัก
“แม่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ใครจะว่ายังไงก็ตาม ขอแค่บริษัทของเราได้รับผลประโยชน์และยิ่งใหญ่ขึ้นก็พอ แค่นี้แหละคือสิ่งที่แม่ต้องการ”
อู๋ฟานพยักหน้ากับคำพูดของมารดา ชายหนุ่มใช้มือจับริมฝีปากของตัวเอง กำลังนึกถึงเรื่องที่จะเกิดในภายภาคหน้า ห้องทำงานสไตล์จีนโอเรียนทัลตกอยู่ในความเงียบ สองแม่ลูกต่างกำลังตกอยู่ในความคิดของตัวเอง
“ครับแม่ ผมเห็นด้วยกับงานแต่งงานครั้งนี้”
ร่างของอู๋ เหม่ยหลิงหันกลับมามองบุตรชายของตนทันทีเมื่อได้ฟังประโยคนั้นจบ ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มพึงพอใจประดับอยู่ ขาเล็กก้าวไปข้างหน้า ใช้มือทั้งสองข้างดึงไหล่ของลูกชายให้ยืนขึ้น
“ดีมาก อู๋ฟาน จะผ่านไปกี่ปี ลูกก็ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง ลูกยังคงเป็นคนเก่งของแม่และแม่หวังว่าลูกจะเก่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ยิ่งใหญ่กว่าใครในโลกธุระกิจนี้”
“หึ.................”
อู๋ฟานหัวเราะในลำคอ ยิ้มรับคำชมของผู้เป็นมารดา ที่เขาเคยได้ฟังอยู่เป็นประจำ
เหม่ยหลิงจ้องมองใบหน้าหล่อร้ายกาจของบุตรชายคนเดียวอย่างรักใคร่ อู๋ฟานเหมือนพ่อของเขาแต่ได้เค้าโครงหน้ารวมถึงดวงตาสีดำเข้มที่ใครๆต่างบอกว่าช่างดูดุดันเหลือเกินมาจากหล่อน คิ้วดกดำเรียงตัวสวย จมูกโด่งคมเป็นสัน ริมฝีปากสีแดงสดอย่างคนสุขภาพดีเพราะเจ้าของออกกำลังกายเป็นประจำ ดูดีเสียจนใครที่ได้พบเจอต้องใจสั่น
หล่อนไม่แปลกใจเลยที่ลูกชายของตนเป็นที่หมายปองของเพศตรงข้ามรวมถึงเพศเดียวกัน
“ผมต้องแต่งงานตอนไหนครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามถึงเรื่องที่ตนต้องปฎิบัติ แต่เขาคาดว่าคงอีกไม่นานเพราะแม่ของตนคงไม่ใจเย็นขนาดนั้น ยังไงก็คงต้องรีบแต่งงานเพื่อให้ได้บริษัทการส่งออกอาหารมาให้เร็วที่สุด
“ลูกชายคนเล็กของคุณซอนยอล จะเรียนจบเดือนหน้านี้ หลังจากที่เรียนจบแล้วพิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้นทันทีที่จีน”
“ยังเรียนอยู่เหรอครับ?” ชายหนุ่มไม่แปลกใจเลยกับหมายกำหนดการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ
“ใช่จ๊ะ น้องยังเรียนอยู่”
เหม่ยหลิงตอบคำถามของบุตรชายด้วยรอยยิ้มต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“ครับ”
“งานแต่งงานจะจัดขึ้นแบบง่ายๆเป็นงานเล็กๆในครอบครัวเชิญแต่ญาติและคนที่สนิทตามความต้องการของคุณซอลยอนและแม่ก็เห็นด้วย”
“……………..”
“เมื่องานแต่งงานเรียบร้อยลูกจะต้องบินไปจดทะเบียนสมรสที่แคนนาดาทันทีและทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ ลูกเข้าใจใช่มั้ย”
“ครับ”
“ดีมาก”
เหม่ยหลิงเอ่ยขึ้นรอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากใบหน้า อู๋ฟานได้แต่มองใบหน้าของมารดา สายตาคมจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเข้ม ใบหน้าเรียบเฉย
“อู๋ฟาน ถ้างานครั้งนี้สำเร็จบริษัทเราจะได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล และที่สำคัญแม่สัญญาว่าแม่จะไม่บังคับอะไรลูกอีก ลูกอยากจะทำอะไรก็ตามใจ ขอแค่บริษัทเราไม่ต้องเดือดร้อนเพราะการกระทำของลูกก็พอ”
“ขอบคุณครับแม่”
อู๋ฟานส่งยิ้มขอบคุณให้ผู้เป็นมารดา เมื่อเห็นว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี หญิงสาวจึงเดินไปยังโต๊ะทำงานดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากลิ้นชักแล้วยื่นมันให้กับลูกชาย ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งเตรียมสะสางงานที่ยังค้างคาอยู่
“ตั๋วเครื่องบินไปเกาหลี อาทิตย์หน้า แม่เตรียมไว้ให้แล้ว รีบเคลียร์งานให้เสร็จซะ ลูกชายของคุณซอลยอนต้องการเจอลูกก่อนงานแต่งงานจะเกิดขึ้น และแม่ก็เห็นด้วยว่าทั้งสองควรจะได้เจอหน้ากันเสียก่อน ไม่ใช่ว่าเจอหน้ากันตอนงานพิธีเลย”
“ครับ ผมจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จ ขอตัวนะครับ”
พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนหันหลังก้าวออกไปจากห้องทันที แต่เสียงเรียกของผู้เป็นมารดาก็ทำให้ขาทั้งสองข้างต้องหยุดชะงัก
“อ้อ อู๋ฟาน แม่บอกลูกหรือยังว่าลูกชายคนเล็กของคุณซอนยอลคนที่ลูกต้องแต่งงานด้วย ชื่อปาร์ค ชานยอล”
“……………”
“ปาร์ค ชานยอล หน้าตาน่ารักใช่เล่น ไม่สิ ต้องเรียกว่าหน้าตาน่ารักมากเลยทีเดียว ”
เหม่ยหลิงพูดอย่างมีความนัย หล่อนรู้จักลูกชายของตนดีว่าเป็นอย่างไร
“ครับแม่ ผมจะจำไว้”
‘ปาร์ค ชานยอล’
TBC....
ความคิดเห็น