คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : CHAPTER 13
คริสรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อตอนสายของวันใหม่ ดวงตาคมกระพริบถี่พยายามปรับสายตาให้เข้ากับแสง ไหล่ด้านขวาของเขารู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆทับอยู่ เมื่อลืมตาขึ้นจึงรู้ถึงสาเหตุของอาการนั้น
ดวงตากลมที่ยังคงแดงช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักจ้องมองหน้าของคนที่เพิ่งรู้สึกตัว ร่างของเขายังคงอยู่ในอ้อมแขนของคุณคริส เขาตื่นขึ้นมาได้นานพอสมควร แต่ไม่กล้าที่จะปลุกอีกคนให้ตื่นขึ้น เพราะวันนี้เป้นวันหยุด คุณคริสอาจจะอยากพักผ่อน
“อื้ออ ตื่นนานแล้วเหรอ”
คริสขยับกายกระชับแขนให้แน่นขึ้น ส่งเสียงครางออกมา ก่อนจะเอ่ยปากถามคนที่เอาแต่นอนจ้องหน้าเขานานสองนานแต่ไม่ยอมพูดอะไรเขารู้สึกปวดไปทั้งตัว ร่างกายทั้งสองเปลือยเปล่า
“สักพักแล้วครับ”
“อื้อ ไปอาบน้ำไป แล้วเตรียมน้ำให้ฉันด้วย”
“เอ่อ ครับ”
เหยียดกายลุกขึ้นตามคำบอกกล่าว แต่ยังไม่ยอมขยับลุกขึ้นจากเตียง ดวงตากลมยังคงจ้องมองคนที่บิดนอนบิดกายไปมาเพื่อคลายความเมื่อยล้า ‘หรือว่าคุณคริสจะลืมไปแล้ว’
“มีอะไร”
“…………”
คริสเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งตัวเปลือยอยู่ข้างๆยังไม่ยอมขยับไปไหน และไม่ยอมพูดอะไรออกมา เอาแต่จ้องหน้าเขาตั้งแต่ตื่น สมองกำลังประมวลหาสาเหตุของท่าทางนั้น ริมฝีปากหยักเยียดยิ้มออกมา
“อี๋เหอหยวน”
ชานยอลอ้าปากหวอเมื่อได้ยินชื่อแปลกๆ เขาไม่เคยรู้จัก คุณคริสต้องการจะไร ใบหน้าหวานงอง้ำไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายบอก
“ห๊ะ ? อะไรนะครับ”
“ไปอี๋เหอหยวน ไม่รู้จักเหรอ”
“มะ..ไม่ครับ”
เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากัน ตอบไปอย่างประหม่า พยายามนึกว่าชื่อนั้นหมายถึงอะไร คงจะเป็นสถานที่อะไรสักอย่าง แต่นึกเท่าไหร่เขาก็นึกไม่ออก
“จะไปมั้ย?”
“ไปครับ”
ริมฝีปากอิ่มเอ่ยขึ้นเสียงดังฟังชัด ถึงแม้ไม่รู้ว่าสถานที่ที่จะไปคือที่ไหนแต่เขาก็อยากไป จะเป็นอะไรก้ช่าง ไม่สนแล้ว ขอให้ได้ออกจากบ้านก็พอ
“จะไปก็ไปอาบน้ำ สายมากแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทัน”
“ครับ”
พูดจบก็ลุกขึ้นทันที โดยที่ไม่ทันระวัง ร่างกายซวนเซไปตามแรงโน้มถ่วง ดวงหน้าหวานเบ้ออกเมื่อความเจ็บแล่นลงไปตามขา
“ระวังหน่อยสิ”
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะจากคนบนเตียงยิ่งทำให้ใบหน้าหวานั้นบู้บี้ยิ่งกว่าเดิม เดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆพลางคิดบ่นคนในห้องอย่างหัวเสีย
‘แล้วเวลาทำ ทำไมไม่ทำเบาๆล่ะ’
ร่างโปร่งเตรียมน้ำในห้องน้ำเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาในเสื้อชุดใหม่สำหรับการออกเดินทางครั้งนี้เขาเลือกเสื้อเชิตร์สีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์รัดรูปธรรมดา เมื่อเดินมาถึงเตียงก็ต้องออกแรงปลุกคุณคริสที่นอนหลับไปแล้วให้ตื่นขึ้นมา ก่อนที่ตัวเองจะลงไปเตรียมอาหารเช้า วันนี้คุณคริสจะรับกาแฟและขนมปังในคาบแรกของวัน
“อ้าว คุณชานยอล ตื่นแล้วเหรอคะ”
“อื้อ เพ่ยฟาง กาแฟอยู่ที่ไหนเหรอ ในห้องครัวใช่มั้ย?”
ชานยอลยิ้มรับคำทักนั้น ใบหน้าน่ารักผ่องใสกว่าทุกวัน อยากจะไปเตรียมอาหารเช้าให้คนบนห้องด้วยตัวของตัวเอง
“อยู่ในห้องครัวค่ะ จะชงเองเหรอคะ?”
เพ่ยฟางอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้น คุณชานยอลสดใสกว่าทุกวัน เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว..
“อื้อ เพ่ยฟางสอนเราหน่อยสิ เราทำไม่เป็น”
ชานยอลขอร้องหญิงสาวที่เขาเริ่มสนิทด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไป เพ่ยฟางเป็นเพื่อนคนแรกของเขาที่ประเทศจีนนี้ และยังดีกับเขามากๆด้วย เขาอยากจะสนิทด้วยมากกว่านี้
“ได้สิคะ ทางนี้เลยค่ะ”
หญิงสาวยิ้มรับกับสรรพนามใหม่ของอีกคน คุณชานยอลน่ารักอย่างที่เธอคิดจริงๆด้วย ดีแล้วที่พี่อู๋ฟานได้คุณชานยอลมาเป้นคู่ชีวิต
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องครัวที่มีหลายชีวิตอยู่ในนั้นก่อนแล้ว ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขะมักเขม่น เหวินฉีเอ่ยทักเขาเสียงใส พร้อมกับคุณยายหลีที่ส่งเสียงดุตามมาเลยต้องก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อไป เรียวปากอิ่มอมยิ้มอย่างนึกขำ
“เตรียมกาแฟให้พี่อู๋ฟานไม่ยากหรอกค่ะ แค่ใส่กาแฟลงไปในแก้วสามช้อน แล้วก็กดน้ำลง ไม่ต้องมากนะ
คะ แล้วก็คนให้เข้ากัน แค่นี้ก็เสร็จค่ะ”
ชานยอลหันหน้ากลับมามองหญิงสาวข้างกาย มองดูวิธีการชงกาแฟอย่างตั้งใจ ครั้งนี้ให้เพ่ยฟางทำไปแล้วกัน ครั้งหน้าเขาจะขอทำเอง ไม่รู้ว่าจะถูกใจคุณคริสหรือเปล่า
“ทุกวันใครเป็นคนชงกาแฟให้คุณคริสเหรอเพ่ยฟาง” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย
“เพ่ยฟางเอง.. เอ่อ กับคุณยายหลีค่ะ”
หญิงสาวตอบออกไปพร้อมส่งรอยยิ้มกว้าง รีบถือถาดกาแฟยื่นให้คนที่พยักหน้าว่าเข้าใจอยู่ข้างๆ ชานยอลยิ้มรับพลางเอ่ยขอบคุณแล้วรับสิ่งนั้นมาถือไว้ในมือ เดินไปหยิบขนมปังมาสองสามแผ่น เขายังไม่หิวเลยไม่ได้เตรียมอาหารสำหรับตัวเอง
เมื่อมาถึงโต๊ะอาหารคุณคริสก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์รออยู่แล้ว ชานยอลรีบเดินเข้าไปวางแก้วกาแฟไว้ตรงหน้าพร้อมกับขนมปัง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆที่ว่างอยู่ เพ่ยฟางยังอยู่ในครัว
“คุณคริสหาอะไรเหรอครับ?”
เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเข้มหันไปมองรอบกาย คริสตวัดสายตากลับมามอง ดวงตาเข้มมีแววไม่พอใจวูบหนึ่งก่อนที่จะจางหายไป ชานยอลนิ้วหน้าอย่างไม่เข้าใจ เขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่า คริสไหวไหล่ พับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ ยกกาแฟขึ้นดื่ม ไม่มีบทสนทานาเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร
เมื่อทานกาแฟหมดแก้วคุณคริสก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกไปหน้าบ้านทันที เขาต้องรีบลุกขึ้นเดินตามออกไปขึ้นรถที่มีอี้ชิงนั่งอยู่ประจำตำแหน่งอยู่ก่อนแล้ว ในใจก็เอาแต่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำไมคุณคริสถึงบึ้งตึงกับเขา ทั้งที่เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย หรือเขาทำอะไรผิด
บรรยากาศในรถเหมือนทุกครั้งที่พวกเขาต้องเดินทางด้วยกัน คุณคริสหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง เขาเองก็ได้แต่นั่งมองสองข้างทางหันมามองคนข้างกายเป็นพักๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น ตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดของพวกเขาทั้งสองคน
“คุณคริสกลับไปพักผ่อนที่บ้านก็ได้นะครับ ผมไม่ไปแล้วก็ได้”
เพราะถึงไปเที่ยวจริงๆ แต่คนที่พาไปไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะเที่ยว มันก็ไม่สนุกอยู่ดี และเขาก็ไม่อยากโดนทิ้งให้ต้องเที่ยวคนเดียวเหมือนครั้งที่แล้ว
“ทำไมล่ะ ไม่อยากไปเที่ยวแล้วเหรอ”
“เปล่าครับ แต่คุณคริสทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์แล้ว คงจะอยากนอนพักอยู่ที่บ้านมากกว่า”
“คิดแบบนั้นจริงๆเหรอ” คริสแค่นเสียงออกมาจากลำคอ เรียวปากหยักเหยียดยิ้ม
“คะ..ครับ?”
ชานยอลนิ้วหน้าอย่างสงสัย คุณคริสพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน
“ช่างมันเถอะ มานี่”
คริสถอนหายใจออกมา กวักมือเรียกคนที่กำลังทำหน้างงให้ขยับเข้ามาหา ชานยอลมองกิริยาของคนเจ้าอารมณ์อย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมขยับร่างเข้าไปหาตามคำสั่ง
คริสวาดเรียวแขนรัดร่างโปร่งที่ขยับเข้ามาใกล้เขาอย่างกล้าๆกลัวๆไว้ในอ้อมกอด กดปลายจมูกลงบนแก้มยุ้ยเนียนใส สูดดมความหอมของผิวแก้มเข้าเต็มปอดกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม
ชานยอลซบหน้าลงกับอกอุ่นเขินอายกับสิ่งที่เพิ่งโดนกระทำ คุณคริสเข้าใจยากเหลือเกิน ชานยอลคิดทั้งที่ร่างยังถูกโอบกอด ทั้งที่ทำเหมือนไม่พอใจเขาอยู่แท้ๆ กลับ..คิดแล้วก็ได้แต่ถอนใจออกมา
“อี๋เหอหยวน อยู่ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปไม่ไกลนัก”
อยู่ๆคุณคริสที่เอาแต่นั่งเงียบตลอดทางก็พูดขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นจากอกรับฟังสิ่งที่อีกคนกำลังจะเล่าเงียบๆ
“เคยไปพระราชวังต้องห้ามหรือยัง?”
“เคยแล้วครับ คุณแม่เคยพาผมกับพี่ซูโฮมาเที่ยวตอนเด็กๆ”
“ดีแล้ว เพราะถึงนายอยากไปฉันก็ไม่พาไปหรอกนะ มันร้อน คนเยอะ ฉันไม่ชอบ เข้าใจใช่มั้ย?”
“ครับ”
เข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยล่ะครับ ใบหน้าหวานซุกลงกับอกหนาอีกครั้ง คุณคริสไม่ชอบอากาศร้อน ไม่ชอบคนเยอะ อ้อ และที่สำคัญไม่ชอบคนดื้อ คงยังมีอะไรอีกมากที่เขาจะต้องจำสำหรับการทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดี
บรรยากาศในรถกลับมาเงียบอีกครั้งเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเอง ร่างของเขายังคงถูกโอบกอดจากคุณคริสจนพวกเขามาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่มีบรรยากาศงดงามด้วยธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างที่ปรากฎอยู่ในสายตา
“ที่นี้เรียกว่าอะไรนะครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆเมื่อลงมาจากรถ พวกเขามาถึงที่นี่ในตอนบ่าย เขาเดินเคียงข้างมากับคุณคริส โดยที่มีอี้ชิงเดินตามอยู่ข้างหลัง โชคดีที่สถานที่แห่งนี้มีคนมาเที่ยวไม่มากนักทำให้สีหน้าของคุณคริสยังเป็นปกติไม่บูดบึ้งอย่างที่ชอบทำ
“อี๋เหอหยวนครับคุณชานยอล เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงมากของจีนและยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมาก และพระราชวังแห่งนี้ยังมีทะเลสาบแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและสวยมากเหมือนกัน ทะเลสาบคุนหมิง คุณชานยอลเคยได้ยินใช่มั้ยครับ”
“รู้จักครับอี้ชิง”
อี้ชิงตอบคำถามด้วยความรู้ทั้งหมดที่มีอยู่ แทนคุณคริสที่เอาแต่เดินเงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมา ชานยอลหันไปตอบพลางส่งยิ้มแทนคำขอบคุณ
ดวงตากลมมองทิวทัศน์รอบกายอย่างสนใจ พวกเขาเดินจนมาถึงทะเลสาบคุนหมิงที่อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังนัก เรือหินอ่อน สร้างด้วยหินอ่อนทั้งลำที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบทำให้เขาต้องอ้าปากค้างมันดูสมบูรณ์แบบเหลือเกิน ภูเขาอวี่เฉวียน และเจดีย์อวี่เฝิงที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาคลี่ยิ้มออกมา ดีใจที่ได้มาเที่ยวที่นี้
“สวยจังเลยนะครับ คุณคริส”
ชานยอลหันมาพูดกับคนที่เอาแต่เดินเงียบ คีบบุหรี่ไว้ในมือยกมันขึ้นสูบบ้างตลอดทาง ถึงจะไม่ชอบกลิ่นของมันนักแต่เขาก็ต้องทน
“อื้อ ถ้าได้มากับคนที่รักคง....”
“อะไรนะครับ?”
ประโยคหลังที่ค่อนข้างเบาทำให้เขาไม่ค่อยได้ยินนัก คงเพราะลมที่นี้ค่อนข้างแรงทำให้คำพูดที่เปร่งออกมาถูกพัดหายไปกับสายลม
“ไม่มีอะไร หนาวหรือไง?”
คริสเอ่ยปัด ก่อนจะสังเกตุว่าคนที่มาด้วยไม่ได้สวมเสื้อคลุม แขนเรียวกระชับอยู่แนบอกของตัวเอง ชานยอลยิ้มแหะพลางส่ายหัวว่าไม่เป็นไร
ร่างสูงถอนหายใจออกมาดึงร่างที่กำลังสั่นหน่อยๆเข้ามากอดซ้อนไว้ด้านหลัง แก้มใสแดงระเรื่อเมื่อร่างกายของตนถูกกอดในที่สาธารณะ โชคดีที่อี้ชิงไม่ได้อยู่แถวนี้แล้วไม่งั้นเขาคงอายไปมากกว่านี้
คุณคริสกอดเขาไว้เงียบๆในขณะที่ยืนอยู่บนสะพานของทะเลสาบดวงตาคมมองออกไปข้างหน้าไม่มีจุดหมาย ต่างกับอีกคนที่มองดูทิวทัศน์สวยงามรอบกายอย่างอิ่มใจ ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงแสงสว่างของดวงอาทิตย์กำลังจะหมดไป พวกเขายืนอยู่ในที่นี้นานเท่าไหร่เขาก็ไม่อาจทราบได้
“พอหรือยัง”
“ครับ”
ชานยอลหันกายกลับมามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่วางไว้บนไหล่ของเขา ไม่เข้าใจกับคำถามนัก
“ดูพอหรือยัง ฉันปวดขาแล้วนะ”
“อะ ขอโทษครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษ รีบผละตัวออกจากอ้อมกอด กลัวว่าคุณคริสจะเมื่อยแขนมากไปกว่านี้ แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่ต้องการ เมื่อมือหนาดึงร่างของเขาให้กลับเข้าไปในอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม
“อะ คุณคริสครับ”
ใบหน้าหวานแดงซ่านด้วยความเขิลอายเมื่อเงยหน้าขึ้นมาจากอกหนาแล้วต้องเจอกับสายตาหวานช่ำของเจ้าของอ้อมกอด
“วันนี้ฉันจูบนายหรือยัง”
คริสถามออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ แตกต่างจากคนถูกถาม ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วยิ่งขึ้นสีมากกว่าเดิม ก้มหน้างุดจนแทบชิดกับอก เอ่ยออกมาตะกุกตะกัก
“ยังครับ”
“งั้นเหรอ”
“ตะ..แต่ตรงนี้ไม่ได้นะครับ”
เสียงทุ้มรีบพูดขัด พลางยันกายออกจากอ้อมกอด ดวงตากลมมองไปรอบด้านถึงแม้จะเป็นเวลาเย้นแล้วแต่คนที่พระราชวังก็ยังเยอะอยู่ดี แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจนึก เมื่อแขนเรียวของคุณคริสออกแรงกอดรัดเขามากขึ้น
“ทำไม?”
“คนเยอะครับ อายเขา”
“เย็นแล้ว ไม่มีใครเห็นหรอก”
“ตะ...แต่ว่า”
“อย่าดื้อสิ”
พูดจบริมฝีปากร้อนก็ทาบทับลงมาทันที ร่างโปร่งเกร็งตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ ริมฝีปากอิ่มถูกขบเม้มช้าๆนิ่มนวล ก่อนริมฝีปากหนาจะดูดดันมันจนเขารู้สึกเจ็บ คริสใช้ฟันกัดลงไปบนริมฝีปากแสนหวานนั้นไม่เบานักเมื่ออีกคนไม่ยอมเปิดปากให้เขาส่งลิ้นเข้าไปสำรวจง่ายๆ
ชานยอลครางฮือออกมาเมื่อปลายลิ้นถูกรุกราน ขาเรียวอ่อนยวบไม่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้อีกต่อไป แขนเรียวโอบรัดกายหนาไว้ยึดเป็นหลัก ปลายลิ้นเล็กถูกเรียวลิ้นหนาหลอกล่อให้ส่งลิ้นเข้าไปในโพลงปากของอีกฝ่าย
ลมหายใจเขากำลังจะหมดลงคุณคริสจึงยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระ ร่างโปร่งแทบทรุดลงกับพื้นหายใจหอบ ใบหน้าแดงก่ำ ซุกหน้าลงกับอกของอีกฝ่ายซ่อนความเขินอายไว้
“หิวหรือยัง”
ยืนอยู่สักพักคุณคริสจึงยอมปล่อยร่างเขาให้เป็นอิสระ ถามออกมาเมื่อพวกเขากำลังเดินย้อนกลับไปทางที่เดินมา อี้ชิงโทรมาบอกว่าเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว
“นิดหน่อยครับ คุณคริสหิวแล้วเหรอครับ” ความจริงเขาค่อนข้างหิวมากเลยทีเดียว เพราะตลอดวันเพิ่งได้กินขนมปังที่อี้ชิงซื้อมาให้อย่างเดียวเท่านั้น
“อื้อ”
คริสตอบรับในลำคอ พวกเขาเดินไปเงียบๆจนถึงรถ คุณคริสบอกชื่อสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาไม่รู้จักกับอี้ชิง ก่อนรถจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ร่างของเขาถูกโอบกอดอีกครั้ง
สถานที่ที่คุณคริสพาเขามาเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ภายในร้านถูกประดับอย่างมีระดับ เขากับคุณคริสเดินเข้ามาในร้าน ชายคนหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นผู้จัดการที่นี้ก็เดินเข้ามาทัก และพาไปยังห้องแห่งหนึ่ง เขาเดินตามหลังคุณคริสเข้าไปในห้องเห็นโต๊ะที่ถูกจัดอย่างสวยงามอยู่นอกระเบียงที่มีสระเล็กๆอยู่ข้างหน้า
“นั่งสิ”
คริสนั่งลงกับเก้าอี้รับรายการอาหารมาจากพนักงานสั่งอาหาราสองสามอย่างก่อนที่เขาจะสั่งตามบ้าง พนักงานเดินออกไปพร้อมกับอี้ชิง ทิ้งเขาไว้ในห้องกับคุณคริสเพียงลำพัง
“ที่นี้สวยจังเลยครับ”
“อื้อ ร้านในเครือบริษัทน่ะ ตอนดึกๆจะเป็นผับ”
ชานยอลพยักหน้ารับฟังคำอธิบายพอสังเขป แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว เพราะว่าวันนี้คุณคริสพูดกับเขามากกว่าทุกวัน
“ไวน์มั้ย?”
“ไม่ครับ”
ริมฝีปากอิ่มเอ่ยคำปฏิเสธ เขาไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด น้ำสีแดงถูกเทลงแก้วทรงสูงก่อนจะถูกมือหนายกมันขึ้นดื่ม ชานยอลมองภาพนั้นก่อนจะระบายยิ้มออกมา วันนี้คุณคริสไม่หงุดหงิดอย่างที่เคยเป็นแถมยังพาเขามาทานข้าวข้างนอกด้วย
“ยิ้มอะไร?”
“เปล่าครับ”
คริสเอ่ยถามเมื่ออยู่ๆคนตรงหน้าก็ยิ้มขึ้นมา มือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่เขาวางไว้ขึ้นมาจากโต๊ะสนใจมันอยู่สักพักก่อนจะวางลง เงยหน้าขึ้นสบตากลมที่มองมาทางเขา
“ฉันพามาเที่ยว ชอบมั้ย?”
“ชอบครับ”
ชานยอลตอบออกไปโดยไม่เสียเวลาคิด ถึงแม้จะเป็นแค่การเดินเที่ยวธรรมดาแต่พระราชวังที่เขาได้เห็นวันนี้ก็สวยมากคุ้มค่ากับการได้เห็น
“ก็ดี ที่เป็นอย่างนั้น”
จบคำพูดของคุณคริสที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก อาหารที่สั่งไปก็ถูกพนักงานนำมาเสริฟ พวกเขาทานข้าวเงียบๆสักพักอี้ชิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ
“คุณคริสครับ โทรศัพท์จากมาเก๊าครับ”
คริสรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ ลุกขึ้นเดินไปคุยด้านนอก อี้ชิงส่งยิ้มบางให้กับเจ้านายอีกคน เขาได้รับยิ้มหวานส่งกลับมาเช่นเคย ชายหนุ่มก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป
สักพักคุณคริสก็เดินกลับมา วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ใบหน้าระบายยิ้มอ่อนที่เขาไม่ค่อยได้เห็นนัก
“อาทิตย์หน้าฉันต้องไปมาเก๊า”
TBC.
ลงจนได้อีก1ตอน เป็นการอัพที่ฤกษ์ไม่ดีสุดๆ กดอัพแล้วมันเด้ง ฮื่ออออ
จะบอกว่าตอนนี้คนแต่งรู้สึกหดหู่ อึดอัด ไม่สบายใจ รู้สึกแย่ ภาษาบ้านๆก็นอยส์แดรกอ่ะ เรื่องอะไร? ไม่บอกหรอก -*-(พูดยังกะมีคนอยากจะรู้)
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรกับฟิคหรอก เพราะมันเป็นฟิคสต๊อก (แล้วจะบอกทำไม)
เฮ้อออ ไปก่อนนะคะ ไปคิดหาชื่อทวิตใหม่ก่อน ต้องแก้ มันต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแล้วจะมาแจ้งคนที่ต้องการอ่านฉาก...ทีหลัวนะคะ
สุดท้าย ....อยากเตะตัดขาพี่คริส จบค่ะ...บะบาย
ความคิดเห็น