Memory of Love - Memory of Love นิยาย Memory of Love : Dek-D.com - Writer

    Memory of Love

    น้ำที่กำลังมีความสุขกับตะวันสามีของเธอ และก็มีหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไป ลองอ่านดูเยอะๆนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    221

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    221

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ต.ค. 48 / 08:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เสียงเปียโนดังเบาๆออกมาจากบานหน้าต่างคลอไปกับสายลม เพลงหวานที่ดังมาจากปลายนิ้วของชายหนุ่ม เค้าบรรจงพรมนิ้วลงบนลิ้นเปียโนอย่างแผ่วเบาพาให้หญิงสาวที่ยืนข้างกายพลอยปล่อยอารมณ์ได้สบายใจ
          
      “เก่งเหมือนเดิมเลยนะตะวัน” หญิงสาวร่างบางเอ่ยชม มารอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
          
      “น้ำอยากเล่นไหม ผมจะสอนให้” ตะวันเอื้อมมือมาจับไหล่ร่างบางไว้
          
      “ไม่ล่ะ น้ำชอบฟังถ้าเล่นเพลงคงออกมาแย่พอดู” เธอปรายมือมาที่แก้มของแฟนหนุ่มเบาๆ
          
      “งั้นผมจะเล่นให้น้ำฟังตลอดไปเลยนะ น้ำจะเบื่อไหมนะ” ประทับรอยจูบบนริมฝีปากสีแดงระเรื่อ ดื่มด่ำกับรสชาติของกันและกัน
          
      “เราไม่เบื่อหรอก ถ้าเป็นตะวัน” ถอนริมฝีปากออกมา เลื่อนมือมาสัมผัสแก้มคนรัก
      ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
          
      “น้ำแต่งงานกันนะ ผมรักน้ำเหลือเกินกลัวว่าถ้านานกว่านี้น้ำจะเปลี่ยนใจ” ส่งสายตาวิงวอนมาให้ ร่างบางจับจ้องที่สายตาคมคู่นั้น สายตาที่มีแต่เธอมาตลอด
          
      “ค่ะ” เธอตอบออกมาในที่สุด แค่เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้ชายตรงหน้ายิ้มดีใจอย่างที่สุด
          
      “ผมดีใจจังน้ำที่คุณตกลง” โอบกอดร่างบางไว้แนบอก
          
      “แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธล่ะคะ ในเมื่อ” ริมฝีปากอบอุ่นประทับลงไปที่เดิมที่ๆเป็นของเขาตลอดมาและจะเป็นของเขาตลอดไป
          
      “ผมรักคุณ น้ำ” กระซิบเบาๆที่ข้างหู ทำให้ร่างบางเขินจนอดยิ้มไม่ได้
      ฉันก็รักคุณค่ะตะวัน และก็จะรักคุณตลอดไป


      เสียงระฆังวิวาห์ดังแผ่ออกไปบ่งบอกว่าคู่บ่าวสาวคู่นี้รักกันเหลือเกิน หญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ยืนเคียงคู่ชายหนุ่มคนรัก
          
      “น้ำ ผมสัญญาว่าผมจะอยู่เคียงข้างคอยดูแลคุณตลอดไป” ตะวันกระซิบบอกแฟนสาว เขาสวมแหวนทองคำขาวมีเพชรน้ำงามเจียระไนเป็นรูปหัวใจที่นิ้วนางของเธอ
          
      “ค่ะ” น้ำตาเอ่อล้นด้วยความดีใจ มองดูแหวนบนนิ้วมือ
          
      ตะวันต้องขอโทษจริงๆที่ฉันไม่พูดอะไรให้มากกว่านี้ ฉันดีใจเกินกว่าจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ฉันพูดไม่ออกจริงๆ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคำพูดคือความรู้สึก ฉันรักคุณ ตะวัน


      รถคันสวยวิ่งไปตามถนน ตอนนี้รถกำลังจะออกนอกตัวเมืองแล้ว ชายหนุ่มคนขับหันมามองภรรยาที่นั่งข้างๆบ่อยครั้งจนบางทีก็ลืมมองทาง
          
      “ตะวันมองเราทำไมเราอายนะ” ร่างบางกล่าวเขินๆ
          
      “มองคนสวย” ตะวันพูดเชิงเล่น แต่มันทำให้คนนั่งข้างๆแก้มแดงไปจนถึงใบหู
          
      “บ้า ขับไปเร็วๆเลย” เธอหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างชมวิวทิวทัศน์ของชนบท
          
          
      รถมาจอดข้างชายหาด เธอและสามีลงจากรถกุมมือกันเดินไปตามชายหาด สายลงพัดพากลิ่นของทะเล เธอยิ้มให้กับสามีของเธอ
          
      “ชอบไหม” ชายหนุ่มกระชับมือภรรยาให้แน่นราวกับว่าสายลมจะพัดพาเธอแยกไปจากเขา
      เธอพยักหน้าและยิ้มให้กับสายลม

          
      ตกเย็นทั้งเธอและตะวันกลับมาที่โรงแรมที่จองไว้ก่อนแล้ว หัวใจเธออิ่มเอมไปด้วยรสรักที่ตะวันมอบให้
          
      “สนุกนะตะวัน” เธอจับมือของคนข้างกายเอียงคอซบกับไหล่กว้างนั่น
          
      “สนุกซิ ผมมากับน้ำนี่”
          
      “ไม่เห็นเกี่ยวเลย” ร่างบางอายจนต้องหันหน้าไปเสียอีกทาง
      ตะวันยิ้มอย่างชอบใจ เขาเขยิบเข้ามาโอบกอดร่างบางจากข้างหลัง หอมแก้มแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว
          
      “ผมพูดจริงนะ”
          
      “......”
          
      “ก็มันเป็นอย่างนั้นจริงๆผมเลยกล้าพูด”
          
      “......”
          
      “ผมรักน้ำมาก รักจนไม่กล้าแยกจากน้ำแม้ซักวินาทีเดียว” ซบไหล่คนรักจากด้านหลัง
          
      “......” เธอยังคงเงียบ
          
      “น้ำรักผมบ้างไหม”
          
      “......”
          
      “ผมไม่รู้ว่าน้ำจะเปลี่ยนไปไหม แต่ผมรักน้ำเสมอและไม่มีวันที่มันจะน้อยลง ผมรักรักจนยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้ได้น้ำมาผมจะเป็นยังไงก็ได้แค่น้ำสุขผมก็สุขด้วย”    
      หญิงสาวหันมาเธอสะอื้นจนคนตรงหน้าทำอะไรไม่ถูก

      “คน..คนบ้าพูดมาได้..ได้ยังไงว่าฉัน..ฉันไม่รัก ฉัน..ฉันคงไม่แต่ง” ริมฝีปากอุ่นถูกประทับไว้อีกครั้ง น้ำตาเอ่อล้นด้วยความตื้นตัน
          
      เธอคงไม่อาจรักใครได้มากมายเท่ากับที่เธอรักตะวันอีกแล้ว รัก รัก รัก อยากจะตะโกนให้ก้องฟ้าว่ารักตะวันมากแค่ไหน รักมากกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ
          
      “ฉัน..ฉันไม่เห็นแก่ตัวขะขนาดนั้นหรอกที่ ที่จะให้ตะวันมีความทุกข์คนเดียว” เธอพูดอย่างสะอึกสะอื้น
          
      “ไม่มีมีทุกข์หรอกตราบใดที่น้ำยังมีความสุขตราบนั้นผมก็มีความสุข” ตะวันเช็ดคราบน้ำตาให้กับคนรักเบาๆอย่างรักใคร่
          
      “ฉันรักคุณตะวัน”
          
      “อืม ผมรู้แล้ว” ยิ้มบางๆอย่างเคย สายตายังคงจับจ้องที่คนรักแววตาดุดันราวกับจะละลายคนตรงหน้าให้แหลกเหลวไป
      “ฉันอยากยืนยัน”
          
      “ไม่จำเป็นหรอกแค่รักผม สิ่งที่อยู่ในใจมันเผยออกทางดวงตา”
          
      โอบกอดกันอย่างอ่อนโยน มอบจูบให้กันและกัน ไม่ว่าจะกี่ครั้งมันก็คงยังหอมหวานราวกับครั้งแรก กระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม จดจำความรู้สึกไว้ จำไว้ให้นานเท่าที่ยังมีลมหายใจ บางครั้งความรักอาจสูญหายไปกับกาลเวลา แต่ความทรงจำยังติดแน่นใจความรู้สึกตลอดไป
          
      ตะวัน ฉันไม่อาจสัญญาว่าฉันจะรักคุณได้ตลอดไปแต่ฉันสัญญาว่าฉันจะคุณให้ได้มากที่สุดเท่าที่หัวใจฉันจะรักได้ แม้จะเป็นวันพรุ่งนี้ วันนี้ฉันก็จะรักคุณให้มากยิ่งขึ้นไป บางทีตัวเราไกลกันเราจะได้มีความทรงจำให้เราหวนมาคิดถึงอีกครั้ง
          
      ร่างบางอิงแอบซบลงบนไหล่กว้างของชายหนุ่มข้างกาย แขนแกร่งโอบรอบไหล่บอบบางอย่างแผ่วเบา เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ถูกส่งผ่านวงแขนนั้น กี่ครั้ง กี่ครั้งเธอก็ยังคงรับรู้และรู้สึกถึงมัน

          
      รถคันสวยวิ่งด้วยความเร็วสูงหวังจะให้ถึงที่หมากเร็ว ชายหนุ่มในที่นั่งคนขับเหลือบสายตามาดูร่างบางบ่อยๆ เหมือนเธอจะรู้ตัวหันหน้าเสียไปอีกทางด้วยความเอียงอาย
          
      “หันมาหน่อยซิ น้ำ” ตะวันพูดขณะมองไปข้างหน้า
          
      “อะไร” ร่างบางหันกลับมาแต่ว่าไม่ได้มองหน้าคนข้างๆ หากสายตาจับจ้องที่ช่องแอร์แทน
          
      “มองหน้าผมซิ ผมไม่ได้อยู่ในช่องแอร์นะ” พูดติดตลก
          
      “บ้า ตะวันเป็นผีช่องแอร์หรอ” ร่างบางขำเล็กๆในลำคอ
          
      “ก็ผมเห็นน้ำมองช่องแอร์นี่ ผมเลยบอกว่าผมอยู่ตรงนี้ไม่ได้อยู่ตรงนั้น”
          
      “ก็น้ำไม่รู้จะมองอะไรนี่”
          
      “มองผมซิ” ชายหนุ่มข้างกายหันมาส่งสายตาคมเข้ม ทำเอาร่างบางอายจนหลบหน้าไปมองช่องแอร์อีกครั้ง
          
      “ไม่อยากมอง” พูดอย่างเขินอาย
          
      ชายหนุ่มนิ่งอึ้งกับคำพูดนั้นแต่ก็รู้ว่าร่างบางนั้นแค่พูดเล่นๆ
      “ผมไม่หล่อหรอเลยไม่อยากมอง” พูดขำๆกับตัวเอง
          
      “ก็เพราะว่าตะวันหล่อมากน่ะซิน้ำเลยไม่อยากมอง” ใบหน้าแดงจนไปถึงใบหู
          
      “ทำไมล่ะ น้ำเขินเหรอ” หันมามองร่างบางอีกครั้ง
          
      “บ้า” ตอนนี้หญิงสาวอายเกินกว่าจะพูดคำใดๆ ตะวันยิ้มให้กับท่าทีของคนรัก
          
      “ผมรักน้ำ” หยอดคำรักให้คนข้างๆอายหนักกว่าเดิม
          
      “อืมน้ำก็รักตะวัน”
          
      สิ้นคำนั้นทั้งสองไม่ได้พูดจากันเลย มีแต่หัวใจเท่านั้นที่สื่อสารกันด้วย “ภาษารัก”
          
          
      “นอนไปก่อนก็ได้” ตะวันพูดหลังจากที่เห็นท่าทีของร่างบาง
          
      “ไม่ล่ะ ตะวันนั่งคนเดียว หาววว”
          
      “นอนไปเถอะถึงเมื่อไหร่จะปลุก เราไม่ได้อยู่คนเดียวนะ น้ำนั่งอยู่ข้างๆเรานี่ไง”
          
      “บ้า” น้ำพูดยิ้มๆก่อนจะหลับตาลง
      ตะวันหันมามองแฟนสาวอย่างรักใคร่ ลูบผมร่างบางอย่างรักใคร่
          
          
      เอี้ยดดด !!!

      น้ำได้ยินเสียงเบรกรถ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่าง อ้อมกอดที่จำไดได้อย่างดี ตะวัน
          
      ฝันดีจัง ฝันถึงอ้อมกอดของคนรักฉันจำได้เสมอ อ้อมกอดที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย อยากอยู่อย่างนี้ต่อไปนานๆ ตลอดไป

          
      ร่างบางลืมตาตื่นมาอีกครั้งรู้สึกว่าจะหลับนานเกินไป เพดานสีขาวไม่คุ้นตา    
      “ตะวัน โอ๊ย!” เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง เธอสัมผัสถูกผ้าพันแผล เตียงสีขาว ห้องสีขาว

      “ตื่นแล้วหรอคะ” นางพยาบาลในชุดสีขาวเอ่ยถามเธอ
          
      “ที่นี่”
          
      “โรงพยาบาลค่ะ”
          
      “แล้ว..”
          
      “เออ สามีคุณใช่ไหมคะ”
          
      “ค่ะๆ ใช่ค่ะ ตะวันล่ะคะ” ร่างบางกระตือรือร้นทันที
          
      “สามีคุณ เสียชีวิตตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุแล้วค่ะ”
      ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆแล้ว
          
          
      “น้ำแต่งงานกันนะ ผมรักน้ำเหลือเกินกลัวว่าถ้านานกว่านี้น้ำจะเปลี่ยนใจ” ส่งสายตาวิงวอนมาให้ ร่างบางจับจ้องที่สายตาคมคู่นั้น สายตาที่มีแต่เธอมาตลอด

          
      “ตอนมาที่นี่ สามีคุณก็จากไปแล้วทางโรงพยาบาลช่วยไม่ได้จริงๆ”
      น้ำตารื้อขึ้นทันทีกับคำพูดนั้น
          
          
      เสียงระฆังวิวาห์ดังแผ่ออกไปบ่งบอกว่าคู่บ่าวสาวคู่นี้รักกันเหลือเกิน หญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ยืนเคียงคู่ชายหนุ่มคนรัก

          
      “คุณโชคดีนะคะที่ไม่เป็นอะไรมาก” นางพยาบาลพูดต่อ

          
      “สนุกนะตะวัน” เธอจับมือของคนข้างกายเอียงคอซบกับไหล่กว้างนั่น
      “สนุกซิ ผมมากับน้ำนี่”
          

      “มีแค่แผลถลอกเล็กน้อย แต่ที่ใหญ่ที่สุดก็ที่แขนนั่นแหละค่ะ”
      น้ำตาไหลรินโดยไม่รู้ตัว
          
          
      “ผมรักน้ำมาก รักจนไม่กล้าแยกจากน้ำแม้ซักวินาทีเดียว”
      “......”
      “น้ำรักผมบ้างไหม”

      “เห็นมีคนบอกว่าแฟนคุณดึงเข็มขัดออกมาแล้วเอาตัวไปบังคุณไว้”

      ได้ยินเพียงเท่านั้นน้ำตาที่มากมายไหลไปตามแก้มนวล เธอไม่สามารถพูดอะไรได้เลยกับสิ่งที่พึ่งได้ยิน มันเร็วเกินไป ทุกๆอย่างเธอยังไม่ได้เตรียมใจเลยไม่นานคนที่เธอรักที่สุดก็จากเธอไปแล้ว


      “ผมรักน้ำ” หยอดคำรักให้คนข้างๆอายหนักกว่าเดิม
          
          
      เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่าง อ้อมกอดที่จำไดได้อย่างดี ตะวัน
          
          
      ฝันดีจัง ฝันถึงอ้อมกอดของคนรักฉันจำได้เสมอ อ้อมกอดที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย อยากอยู่อย่างนี้ต่อไปนานๆ ตลอดไป
          
          
      ร่างบางสะอื้นหนักกว่าเดิม น้ำตาหลั่งรินมากมาย มากที่สุดตั้งแต่เธอเคยมีมา
          

      ความรัก..กับตะวัน
          
      จบง่ายดาย..เหมือนความฝัน
          
      รัก..แต่รั้งไว้ไม่ได้

      จากกัน..ไม่หวนคืน

      ตะวันไหนว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
          
      ไหนว่าจะปกป้องดูแล
          
      ไหนว่าจะรักกันตลอดไป
          
      ไหนว่าจะไม่จากไป

          
      น้ำลูบคลำแหวนวงสวยบนนิ้วเรียวยาว

      “น้ำ ผมสัญญาว่าผมจะอยู่เคียงข้างคอยดูแลคุณตลอดไป” ตะวันกระซิบบอกแฟนสาว เขาสวมแหวนทองคำขาวมีเพชรน้ำงามเจียระไนเป็นรูปหัวใจที่นิ้วนางของเธอ

      แหวนที่ตะวันเป็นคนสวมให้ แต่ตอนนี้เขาจากไปแล้วจากไปไม่มีวันกลับ
          
          
      ไม่มีอีกแล้วอ้อมกอดละมุน...
          
      ไม่มีอีกแล้วคำซึ้งๆจากปากคนรัก...
          
      ไม่มีอีกแล้วรอยจูบหวานที่ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ยังคงเหมือนเดิม...


      ลาก่อนตะวัน ขอบคุณที่ทำตามคำสัญญาจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
          
      ฉันจะจดจำและจะรักเธอตลอดไป จนกว่าร่างกายของฉันจะมอดไหม้ไปตามคุณ

      น้ำตาไหลมามากมายแต่มันไม่ได้ช่วยให้เธอลืมความโศกเศร้าได้เลยแม้วินาทีเดียว
          
      “ฉันไม่เสียใจเลยที่ฉันเกิดมาได้รักกับคุณ” น้ำยิ้มบางๆภายใต้น้ำตาที่เอ่อล้น
          
      ลูบแหวนวงสวยเบาๆ เอียงคอคล้ายกำลังอิงแอบใครซักคน ซึ่งคนๆนั้นคือ

      “ตะวัน”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×