ประวัติศาสตร์(ไม่)ต้องเปลี่ยน - ประวัติศาสตร์(ไม่)ต้องเปลี่ยน นิยาย ประวัติศาสตร์(ไม่)ต้องเปลี่ยน : Dek-D.com - Writer

    ประวัติศาสตร์(ไม่)ต้องเปลี่ยน

    โดย The Explorer

    ประวัติศาสตร์(ไม่)ต้องเปลี่ยน

    ผู้เข้าชมรวม

    119

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    119

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ธ.ค. 55 / 11:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      การแข่งขันฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2012 เพิ่งจบไปเมื่อคืนก่อน เป็นที่ทราบกันว่าทีมชาติไทยชนะทีมชาติสิงค์โปร์ 1 - 0 แต่ด้วยประตูได้เสียรวมแล้วทีมชาติไทยแพ้ไปด้วยสกอร์รวม 2-3

      แต่ถึงอย่างไรน้ำใจคนไทยไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก พวกเรายังคงชื่นชมการเล่นอย่างมีสปิริตของทีมชาติไทยในเวลา 98 นาทีอย่างน่ายินดี

      ผมว่าการแข่งขันครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของฟุตบอลไทยได้อย่างดี เมื่อปีก่อนยังจำได้ดีผมดูการแข่งขันของทีมชาติไทยแล้วรู้สึกว่าความแม่นยำในการส่งบอล เทคนิคการเลี้ยงบอล สไตล์การเล่นเฉพาะตัวของเรายังสู้ทีมสโมสรในลีคดังๆไม่ได้เลย แต่เมื่อวานนี้ผมกลับชื่มชมนักเตะทุกคนที่มีลีลาการเลี้ยงหลบที่แปลกตา อย่างที่กล้องตัวหลักยังจับโฟกัสหลุดจากลูกฟุตบอลไปหลายครั้งเหมือนกัน

      โอกาสก็เหมือนอากาศที่พี่หนุ่มเมืองจันท์เคยบอกเอาไว้ ทีมชาติไทยมีโอกาสดีๆหลายครั้งในครึ่งแรกที่รวมกำลังกันพับสนามบุก และอาจจะเป็นประตูได้หลายต่อหลายลูก

      การต่อบอลเป็นทีม การให้สัญญาณเสียงช่วยเหลือกัน การยกมือให้สัญญาณแสดงความพร้อม สปิริตจากเพื่อนร่วมทีมนี่แหละครับที่จะทำให้ลูกฟุตบอลที่ลอยอยู่ในอากาศกลายเป็นโอกาสที่จะเข้าไปสู่ตาข่าย

      แต่จนแล้วจนเล่าโอกาสนั้นกลับพลันหายไปในอากาศ

      หลายคนที่รับชมอยู่หน้าจอคงจะรู้สึกเสียดายในแต่ละโอกาสที่เกิดขึ้น หากนักเตะคนนั้นเืลือกที่จะส่งบอลเข้าไปด้านในที่มีนักเตะอีกคนที่ยืนรออยู่ ณ จุดนัดพบ หากนักเตะคนนั้นรอจังหวะให้ลูกนิ่งก่อนยิง หากนักเตะคนนั้นโหม่งบอลให้ต่ำกว่าีนี้ ชัยชนะเมื่อวานอาจจะกลับมาเป็นของทีมชาติไทยก็ได้

      เมื่อโอกาสเหล่านั้นผ่านไป ไม่ง่ายนักที่นักเตะเองจะหยิบรีโมทมากดรีเพลย์กลับไปแก้ไขให้ลูกฟุตบอลกลมๆพุ่งเข้าประตู ฉะนั้นลูกฟุตบอลกลมๆจึงยังต้องหมุนวนอยู่ในสนามหญ้าต่อไป

      และถ้าหากมีพรวิเศษหนึ่งข้อ พวกเราจะกลับไปแก้ไขจุดผิดพลาดนั้นไหม



      Toki wo Kakeru Shoujo (โตคิ โว คาเครุ โชโจ) เป็นการ์ตูนอนิเมะสัญชาติญี่ปุ่นที่ชื่อดังเรื่องหนึ่ง วันก่อนผมได้มีโอกาสได้รับชมผ่านรูปแบบของภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงจริงทางจอแก้ว  บทภาพยนตร์นี้ถูกดัดแปลงให้ดูสั้นกระทัดรัดในความยาว 2 ชั่วโมง และถูกเพิ่มความเข้มข้นด้วยตัวละครที่เป็นคนแสดง จึงทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

      เรื่องราวกล่าวถึง โยชิยาม่า อาคาริ เด็กสาวน้อยน่ารักซุ่มซ่ามคนหนึ่ง ที่พบว่าเธอสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตได้จากการทานยาวิเศษที่แม่ของเธอประดิษฐ์คิดค้นขึ้น การย้อนเวลากลับไปในครั้งนี้ จุดประสงค์แรกก็เพื่อกลับไปตามหาประวัติศาสตร์ที่หายไปของคุณแม่ของเธอกับชายผู้ที่มาจากโลกอนาคต  ข้อมุลที่ได้รับก็มีเพียงรูปถ่ายคู่ของแม่เธอกับชายหนุ่มนิรนามใบเดียว แน่นอนว่าการค้นหาครั้งนี้คงจะยากเกินไปสำหรับเด็กสาวตัวเล็กๆอย่างเธอ

      การเดินทางย้อนเวลากลับไปในครั้งนี้ทำให้อาคาริได้รู้จักกับเรียวตะ ชายหนุ่มผู้เป็นเสมือนเพื่อนคนแรกในยุคโชวะ เรียวตะคอยเป็นผู้ช่วยในการสืบค้นหาบุคคลในภาพถ่าย และเพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงได้ทั้งคู่จึงมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

      การดำเนินเรื่องของสองตัวละครกลับก่อเกิดเป็นความรู้สึกดีๆและลึกซึ้งมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อคนที่มาจากโลกอนาคตมิอาจจะดำเนินชีวิตกับผู้คนในอดีตได้อย่างนิรันดร์ จึงทำให้อาคาริพยายามเปลี่ยนประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว จะทำให้เขาจะไม่สามารถกลับมาพบกับเรียวตะได้อีกเลย แม้ว่ากลับไปในโลกยุคปัจจุบันแล้วก็ตาม



      แต่ท้ายสุดแล้วการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เป็นเรื่องต้องห้าม อาคาริถูกชายหนุ่มจากโลกอนาคตที่อ้างตัวว่าเป็นชายหนุ่มนิรนามในรูปถ่ายกับคุณแม่เธอ  ชายหนุ่มลบความทรงจำที่มีอยู่ทั้งหมดก่อนที่จะส่งอาคาริเดินทางกลับมาสู่โลกในยุคปัจจุบัน

      ประวัติศาสตร์ก็เหมือนเรื่องราวที่ถูกบันทึกลงไปในอดีต ยิ่งเราเรียนรู้ประวัติศาสตร์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้กับโลกปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น

      จุดผิดพลาดของการแข่งขันเพียงเล็กน้อยไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้ แต่กลับกันจุดเล็กๆจุดนั้นกลับทำให้ทีมชาติไทยในวันนี้แกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผมคิดว่าตอนนี้ทีมชาติไทยได้ใช้กำลังใจจากความผิดหวังในอดีต ความพ่ายแพ้ในปัจจุบัน ผลักดันให้เกิดเป็นความแข็งแกร่งในอนาคต

      ไม่ว่าวันนี้ทีมชาติไทยจะแพ้ด้วยสกอร์รวมเท่าไหร่ก็ตาม ในความเป็นชาติไทยด้วยกันแล้ว พวกเราชนะเสมอ พวกเราชนะแบบไม่เคยยอมแพ้ ชนะแบบไม่เคยล้มเลิก ชนะแบบไม่ต้องมีสกอร์นับ และพวกเราจะชนะด้วยความสามัคคีนี้ตลอดไป

      แม้โลกในยุคอดีตอาจจะถูกทำให้เปลี่ยนไป หรือจะมีใครบางคนพยายามทำให้ประวัติศาสตร์มันเปลี่ยนแปลง

      กลับมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่ามันไม่เคยเปลี่ยนแปลง

      สิ่งนั้นคือ "คำมั่นสัญญา"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×