Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่
เด็กล้างจานผู้ต่ำต้อย ผู้สร้างวีรกรรมการสอบเข้าเฮอร์เซนที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชนชั้นสูง เธอมีเพียงความพยายามอย่างเป็นพิเศษเท่านั้นที่จะพิสูจน์ "ว่าสิ่งที่ทำให้คนนั้นยิ่งใหญ่อยู่ที่หัวใจไม่ใช่ชนชั้น"
ผู้เข้าชมรวม
15,408
ผู้เข้าชมเดือนนี้
68
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ใต้เงาพระจันทร์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ใต้เงาพระจันทร์
"เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ!!"
(แจ้งลบ)1.เนื้อเรื่อง -- นวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้ของลูกผู้หญิงที่หัวใจไม่ยอมแพ้ เฝ้าทนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงในยุคใหม่ที่ใจเด็ดเดี่ยวไม่เกรงกลัวอันตราย พลอตเรื่องก็วางมาได้ดีเลยทีเดียว สามารถอ่านเข้าใจได้ในครั้งเดียวเลย (แต่มีบ้างที่ตั้งจำว่าใครเป็ ... อ่านเพิ่มเติม
1.เนื้อเรื่อง -- นวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้ของลูกผู้หญิงที่หัวใจไม่ยอมแพ้ เฝ้าทนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงในยุคใหม่ที่ใจเด็ดเดี่ยวไม่เกรงกลัวอันตราย พลอตเรื่องก็วางมาได้ดีเลยทีเดียว สามารถอ่านเข้าใจได้ในครั้งเดียวเลย (แต่มีบ้างที่ตั้งจำว่าใครเป็นใคร อาจจะต้องเปิดกลับไปกลับมาว่าใครเป็นใคร อิอิ) 2.การเล่าเรื่อง ดำเนินเรื่อง -- ใช้การดำเนินที่ฉับไว แต่ไม่ฉาบฉวยในรายละเอียด รายละเอียดต่างๆ ใส่ลงไปด้วยความเป็นจริง (สามารถคิดตามได้ทันที) ทุกๆอย่างดำเนินเรื่องไปด้วยเหตุผลของๆตัวมัน แต่อย่างหนึ่งคือ ปริศนาที่เกี่ยวข้องกับตัวเขานั้นเองที่หาเหตุผลไม่ได้ 3.การที่จะคำนวนคะแนนต้องคำนวนจากหลายๆสิ่งทั้ง เนื้อเรื่อง พลอตเรื่อง การดำเนินเรื่อง ปริศนา อิริยาบถของการต่อสู้ ภาพประกอบสวยงามทั้งหมด นวนิยายเรื่อง เอดิท โบล เด็กล้างจานผู้หญิง สามารถดำเนินความสนุกได้ผ่านฉลุยทั้งหมด ถ้าคิดเป็นคะแนนเต็ม 10 ผมให้ 9.5 ครับ ^^" อาจจะขาดส่วนเล็กๆน้อยๆเช่นการสลับฉากที่ยังทำเอาให้งงได้ง่ายๆอยู่นิดหนึ่งครับ 4.สู้ๆ ไปพร้อมกันนะครับมิ้น การตีพิมพ์รอเราอยู่ ^^" อ่านน้อยลง
Elizarah | 25 พ.ย. 53
13
0
"บทวิจารณ์ Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่"
(แจ้งลบ)ความรู้สึกแรกเมื่อได้อ่านชื่อเรื่อง Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่ นิยายของ ~นางฟ้าซาตาน~ คือ นิยายเรื่องนี้น่าจะมีความแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ในเด็กดี ที่มักจะวางตัวละครเอกในนิยายให้เป็นคนที่มีความสามารถมาตั้งแต่ต้น ในแบนเนอร์ของนิยายเรื่องนี้ที่นักเขียนนำมาฝากไว้ ระบุเพียงว่า “คนที่ต่ำต้อยในสายตาใครๆอย่างเธอ จะต่อสู้เพื ... อ่านเพิ่มเติม
ความรู้สึกแรกเมื่อได้อ่านชื่อเรื่อง Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่ นิยายของ ~นางฟ้าซาตาน~ คือ นิยายเรื่องนี้น่าจะมีความแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ในเด็กดี ที่มักจะวางตัวละครเอกในนิยายให้เป็นคนที่มีความสามารถมาตั้งแต่ต้น ในแบนเนอร์ของนิยายเรื่องนี้ที่นักเขียนนำมาฝากไว้ ระบุเพียงว่า “คนที่ต่ำต้อยในสายตาใครๆอย่างเธอ จะต่อสู้เพื่อฝันและการยอมรับได้มั้ย..” จึงเข้าใจว่า จะได้อ่านเรื่องราวชีวิตของเด็กล้างจานที่ไต่เต้าขึ้นมาจนได้รับการยอมรับในสังคม ทว่าเมื่อได้เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้จริงๆ ก็ปรากฏว่าเนื้อเรื่องของนิยายผิดไปจากความคาดหวังประมาณครึ่งหนึ่ง ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่านักเขียนแต่งได้ไม่ดี แต่ข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นไม่ชวนให้คิดว่าจะได้อ่านนิยายแนว “แฟนตาซีโรงเรียน” ผมกลับจินตนาการว่าจะได้อ่านเรื่องราวของเด็กล้างจานในร้านอาหารที่ไต่เต้าจนได้เป็นเจ้าของภัตตาคารอะไรทำนองนั้น แต่ก็ปรากฏว่านิยายเรื่อง เอดิท โบล คือนิยายแนวแฟนตาซีโรงเรียนเต็มตัว หากจะต้องแนะนำการประชาสัมพันธ์นิยายออนไลน์แล้วล่ะก็ ผมคิดว่าผู้เขียนน่าจะต้องระบุแนวเรื่องให้ชัดเจนกว่านี้ เพื่อป้องกันความผิดหวังของผู้ที่อยากอ่านนิยายแนวอื่นมากกว่าแนวแฟนตาซี อย่างไรก็ตาม เนื้อหาโดยรวมของ Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังคงเป็นไปตามคำแนะนำเรื่องในแบนเนอร์ คือเป็นเรื่องราวของสาวน้อยชื่อ เอดิท โบล เธอเป็นเด็กล้างจาน ที่ต้องการการยอมรับ ด้วยการสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ที่ชื่อเฮอร์เซโกวีน่า ซึ่งเป็นโรงเรียนของชนชั้นสูง เธอจึงได้รับการดูถูกเหยียดหยาม อีกทั้งยังสอบตก ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าโรงเรียนถึงสามครั้งกว่าจะผ่านในครั้งที่สี่ สิ่งที่เอดิท โบล ทำให้ผมแปลกใจ คือ ถึงแม้เธอจะมีนิสัยและท่าทางที่แข็งกร้าว และไม่ยอมลดละความพยายาม แต่การที่นักเขียนบอกว่า การเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้เป็นความฝันของเธอ ก็ยังไม่รู้สึกว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะการสอบครั้งแรกถึงครั้งที่สาม เกิดจากความต้องการของมารดา (เอ็มม่า โบล) ที่จะใช้ข่าวของเธอในการประชาสัมพันธ์โรงแรม ที่ในนิยายเรียกว่าโรงเตี๊ยม (คำเรียกดังกล่าวก็เป็นอีกอย่างที่แปลกใจ เพราะเป็นแนวแฟนตาซีตะวันตกเต็มตัว ไม่ใช่นิยายจีน) ความต้องการของเอดิทที่จะสอบเข้าเฮอร์เซโกวีน่าหรือเฮอร์เซนด้วยตนเองเพิ่งจะมีในการสอบครั้งที่สี่ ซึ่งเท่าที่อ่านทำให้เข้าใจว่า การสอบครั้งที่สี่เป็นความไม่ยอมแพ้ของเอดิท มากกว่าจะเป็นความฝันของเธอ หากผู้เขียนต้องการให้การเข้าเรียนที่นี่เป็นความฝันของเธอ ก็น่าจะให้เหตุผลในการสอบเข้าทั้งสี่ครั้ง (หรือสามครั้งหลัง) มาจากความต้องการของเธอเองมากกว่าที่จะเป็นของมารดา นอกจากนี้ ความเป็นเด็กล้างจานของเธอก็ยังมีข้อกังขาอยู่ เพราะเป็นถึงลูกสาวเจ้าของโรงแรม จะมีหน้าที่เป็นเด็กล้างจานเท่านั้นหรือ หากผมเป็นเอ็มม่า คงจะให้เอดิทต้องฝึกงานหลายอย่างมากในโรงแรมเพื่อจะรับช่วงต่อจากตนเอง และคงจะให้เอดิทได้ออกหน้าในสังคมด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะให้ลูกสาวของตนเองต้องเป็นที่ดูถูกเหยียดหยาม ทั้งในเหตุผลทางธุรกิจและความเป็นแม่ (ที่ไม่มีพ่อช่วยเลี้ยงอีกด้วย) จึงมองไม่เห็นเหตุผลที่ทำให้เอ็มม่าอยากให้ลูกสาวของตนเป็นเด็กล้างจาน และไปสมัครสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ หากจะให้เอดิทไปสอบเข้าจริงๆ ก็น่าจะเป็นเพราะอยากให้ลูกสาวของตนได้ดี มากกว่าที่จะเป็นแผนการตลาด ดังที่นักเขียนกล่าวอ้าง ด้วยความที่นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของชนชั้นล่างที่ไปสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ชั้นสูง จึงอดเปรียบเทียบกับ “หัวขโมยแห่งบารามอส” ไม่ได้ เรียกได้ว่านิยายเรื่องนี้มีกลิ่นของ “หัวขโมยแห่งบารามอส” อยู่ค่อนข้างมากทีเดียว ทั้งในด้านของความเป็นชนชั้นล่างที่ต้องไปอยู่ในโลกของชนชั้นสูง ความรู้สึกเวลาอ่านที่รื่นไหล และมีลักษณะเหมือนกับอ่านนิยายแปล แต่เอดิท โบล เองก็มีความแตกต่างจากหัวขโมยแห่งบารามอสอยู่ที่ลักษณะของโรงเรียนที่ไม่ได้มีการแบ่งแยกเป็นบ้านหรือหอ และดูเหมือนว่านักเขียนจะเน้นให้เอดิทต้องเจ็บตัวในการเรียนแทบจะทุกวิชา นอกจากวิชาปรัชญา ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่แตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ที่จะให้ตัวละครเอกมีฝีมือมาตั้งแต่ต้น การที่ผู้อ่านได้พยายามร่วมไปกับเอดิท ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ทีเดียว นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่มาเพิ่มเสน่ห์ให้กับเรื่องคือ มหาดเล็กของเอดิทที่มีชื่อว่าลิตเติลสปูน ซึ่งเหมือนกับเธอคือเป็นชนชั้นล่างที่ต้องดิ้นรนเช่นกัน และเป็นคนที่มีความสามารถด้านการเย็บปักถักร้อย นักเขียนสามารถแต่งให้เห็นถึงบุคลิกของลิตเติลสปูน หนุ่มน้อยที่ทำงานในหน้าที่อย่างตั้งใจ และมีความน่าเอ็นดู ได้อย่างเห็นภาพ ถือได้ว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ รายละเอียดเรื่องเรียนแต่ละวิชาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นักเขียนใส่ใจ ในวิชาเวทมนตร์ นักเขียนได้ให้ภาพของการเริ่มต้นศึกษาเวทมนตร์ที่น่าสนใจและแปลกใหม่สำหรับเวทมนตร์ที่มีพื้นฐานจากธาตุ ที่ให้ไปเริ่มต้นจากธาตุที่ถูกเก็บไว้ในขวดแก้ว ธาตุเหล่านั้นมีสีสันและความเคลื่อนไหวไปตามเอกลักษณ์ของตนเอง ต้องขอยอมรับว่าผมไม่เคยอ่านพบการเรียนเวทมนตร์เช่นนี้ที่ใดเลย และต้องการที่จะอ่านวิธีการเรียนเวทมนตร์ในเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ น่าเสียดายว่าเมื่อเอดิทเกือบจะถูกธาตุไฟฆ่า ทำให้การเรียนเวทมนตร์ต้องหยุดชะงักไป ขณะที่วิชาต่อสู้ป้องกันตัว ก็ให้รายละเอียดของการที่ต้องฝึกฟันหุ่นไม้ได้อย่างน่าสนใจ มีการอธิบายสาเหตุที่ผู้ฝึกการต่อสู้ต้องฝึกฟันหุ่นไม้ซ้ำๆ ว่ามีความจำเป็นอย่างไร ในขณะที่อาจารย์ผู้สอนไม่ยอมบอกสาเหตุนั้น กลับต้องเป็นเพื่อนในชั้นเรียนที่มาอธิบายแทน ก็ทำให้รู้สึกเหมือนชมภาพยนตร์กำลังภายในแบบคลาสสิกที่อาจารย์เอาแต่สั่งโดยไม่เคยอธิบายเหตุผล อีกเรื่องหนึ่งคือการเลี้ยงและควบคุมม้า นักเขียนได้ให้ภาพที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของม้าแต่ละตัว โดยเฉพาะตัวเด่นคืออัสลานและแบล็คไฟร์นั้นเห็นภาพชัดเจนมาก ตลอดจนสภาพของคอกม้าและตลาดขายม้า และวิธีการดูแลรักษาม้า ก็ทำให้รู้สึกว่าผู้เขียนเรื่องนี้ “ทำการบ้าน” มาดีมาก นอกจากนี้ยังมีการบรรยายการแต่งกายของตัวละครแบบต่างๆ ที่มีรายละเอียดของเสื้อผ้าชิ้นต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดีเช่นกัน อีกประเด็นหนึ่งที่อยากกล่าวถึงคือชื่อสถานที่ในเรื่องนี้เป็นชื่อที่มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น เฮอร์เซโกวีน่า (อดีตหนึ่งในหกสาธารณรัฐของยูโกสลาเวีย มีชื่อเต็มว่าบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา) และไฮเดนเบิร์ก (เมืองหนึ่งในเยอรมนี) ผมมีความเห็นว่าหากไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้เป็นเรื่องอิงประวัติศาสตร์ก็น่าจะตั้งชื่อเมืองใหม่เลย แต่อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวว่าโลกของเอดิท โบล คือโลกสมมติที่สถานที่ต่างๆ เหล่านั้น “บังเอิญชื่อเหมือน” ผมก็คงจะโต้แย้งอะไรไม่ได้ สิ่งที่อยากชื่นชมนิยายเรื่องนี้อีกประการหนึ่งคือความน่าติดตาม เพราะนักเขียนได้ทิ้งปมให้ผู้อ่านใคร่รู้อยู่หลายปม ตั้งแต่ ใครคือบิดาของเอดิท เพราะเหตุใดธาตุไฟจึงพยายามฆ่าเธอ ความฝันเมื่อหลับของเอดิทที่เห็นแสงสีแดง และเวทมนตร์ครันทาราคืออะไร มีความพิเศษอย่างไร เป็นต้น ผมหวังว่านักเขียนคงจะคลี่คลายปมเหล่านี้ได้อย่างสมเหตุสมผล และน่าจะค่อยๆ สางปมเหล่านี้ไประหว่างทาง มากกว่าที่จะเป็นการเฉลยรวดเดียวตอนจบ เพราะผู้อ่านก็จะมีความสนุกจากการร่วมไขปริศนาในเรื่องไปด้วย ด้านคำผิดที่ปรากฏในเรื่องนี้มีไม่มากนัก เช่น ฉัน เขียนเป็น ชั้น จอมเวท เขียนเป็น จอมเวทย์ เป็นต้น สำนวนแปลกๆ เช่น เคาะประตูจนมือจะเป็นม่าย น่าจะเป็น เคาะประตูจนมือจะเป็นง่อย มากกว่า นอกจากนั้นเป็นคำที่ไม่ตั้งใจพิมพ์ผิด เช่น เปลื้อน ที่ถูกคือ เปื้อน เป็นต้น จึงขอให้นักเขียนแก้ไขและตรวจทานให้ถูกต้อง ก็จะทำให้นิยายเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีก ------------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 3 ก.พ. 54
13
1
ดูทั้งหมด
"เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่"
(แจ้งลบ)เนื้อเรื่อง-ไม่ซ้ำกับนิยายเรื่องอื่นๆในเด็กดี โดยทั่วไปจะเปิดตัวพระเอก นางเอกสวยหรู เพรียบพร้อม แต่เรื่องนี้มีการวางบทบาทที่แตกต่างในตอนต้นเรื่อง ใช้ภาษาเข้าใจง่าย- แต่แอบมีบางตอนที่ไม่ค่อยประติดประต่อเรื่องราว เท่าที่อ่านมา แอบรู้สึกว่าจุดเด่นของเอดิทคือ ความต้ังใจ พยายามของตัวเอง แม้ไม่มีอะไรเทียบเท่าหรือดีเลิศคนอื่นๆ แต่ด้วยความพยายามที่มี ท ... อ่านเพิ่มเติม
เนื้อเรื่อง-ไม่ซ้ำกับนิยายเรื่องอื่นๆในเด็กดี โดยทั่วไปจะเปิดตัวพระเอก นางเอกสวยหรู เพรียบพร้อม แต่เรื่องนี้มีการวางบทบาทที่แตกต่างในตอนต้นเรื่อง ใช้ภาษาเข้าใจง่าย- แต่แอบมีบางตอนที่ไม่ค่อยประติดประต่อเรื่องราว เท่าที่อ่านมา แอบรู้สึกว่าจุดเด่นของเอดิทคือ ความต้ังใจ พยายามของตัวเอง แม้ไม่มีอะไรเทียบเท่าหรือดีเลิศคนอื่นๆ แต่ด้วยความพยายามที่มี ทำให้ประสบความสำเร็จ จุดเด่นข้อนี้ยังสามารถเอามาเป็นข้อคิดได้อีกด้วย **ปล.รักนิยายเรื่องนี้แล้วสิ ^^ ปล2. เพลงทำให้อินไปกับเรื่องมากค่ะ > อ่านน้อยลง
Lily of the Valley | 26 ส.ค. 54
4
0
"บทวิจารณ์ Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่"
(แจ้งลบ)ความรู้สึกแรกเมื่อได้อ่านชื่อเรื่อง Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่ นิยายของ ~นางฟ้าซาตาน~ คือ นิยายเรื่องนี้น่าจะมีความแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ในเด็กดี ที่มักจะวางตัวละครเอกในนิยายให้เป็นคนที่มีความสามารถมาตั้งแต่ต้น ในแบนเนอร์ของนิยายเรื่องนี้ที่นักเขียนนำมาฝากไว้ ระบุเพียงว่า “คนที่ต่ำต้อยในสายตาใครๆอย่างเธอ จะต่อสู้เพื ... อ่านเพิ่มเติม
ความรู้สึกแรกเมื่อได้อ่านชื่อเรื่อง Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่ นิยายของ ~นางฟ้าซาตาน~ คือ นิยายเรื่องนี้น่าจะมีความแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ในเด็กดี ที่มักจะวางตัวละครเอกในนิยายให้เป็นคนที่มีความสามารถมาตั้งแต่ต้น ในแบนเนอร์ของนิยายเรื่องนี้ที่นักเขียนนำมาฝากไว้ ระบุเพียงว่า “คนที่ต่ำต้อยในสายตาใครๆอย่างเธอ จะต่อสู้เพื่อฝันและการยอมรับได้มั้ย..” จึงเข้าใจว่า จะได้อ่านเรื่องราวชีวิตของเด็กล้างจานที่ไต่เต้าขึ้นมาจนได้รับการยอมรับในสังคม ทว่าเมื่อได้เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้จริงๆ ก็ปรากฏว่าเนื้อเรื่องของนิยายผิดไปจากความคาดหวังประมาณครึ่งหนึ่ง ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่านักเขียนแต่งได้ไม่ดี แต่ข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้นไม่ชวนให้คิดว่าจะได้อ่านนิยายแนว “แฟนตาซีโรงเรียน” ผมกลับจินตนาการว่าจะได้อ่านเรื่องราวของเด็กล้างจานในร้านอาหารที่ไต่เต้าจนได้เป็นเจ้าของภัตตาคารอะไรทำนองนั้น แต่ก็ปรากฏว่านิยายเรื่อง เอดิท โบล คือนิยายแนวแฟนตาซีโรงเรียนเต็มตัว หากจะต้องแนะนำการประชาสัมพันธ์นิยายออนไลน์แล้วล่ะก็ ผมคิดว่าผู้เขียนน่าจะต้องระบุแนวเรื่องให้ชัดเจนกว่านี้ เพื่อป้องกันความผิดหวังของผู้ที่อยากอ่านนิยายแนวอื่นมากกว่าแนวแฟนตาซี อย่างไรก็ตาม เนื้อหาโดยรวมของ Adit Bow [เอดิท โบล] ; เด็กล้างจานผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังคงเป็นไปตามคำแนะนำเรื่องในแบนเนอร์ คือเป็นเรื่องราวของสาวน้อยชื่อ เอดิท โบล เธอเป็นเด็กล้างจาน ที่ต้องการการยอมรับ ด้วยการสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ที่ชื่อเฮอร์เซโกวีน่า ซึ่งเป็นโรงเรียนของชนชั้นสูง เธอจึงได้รับการดูถูกเหยียดหยาม อีกทั้งยังสอบตก ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าโรงเรียนถึงสามครั้งกว่าจะผ่านในครั้งที่สี่ สิ่งที่เอดิท โบล ทำให้ผมแปลกใจ คือ ถึงแม้เธอจะมีนิสัยและท่าทางที่แข็งกร้าว และไม่ยอมลดละความพยายาม แต่การที่นักเขียนบอกว่า การเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้เป็นความฝันของเธอ ก็ยังไม่รู้สึกว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะการสอบครั้งแรกถึงครั้งที่สาม เกิดจากความต้องการของมารดา (เอ็มม่า โบล) ที่จะใช้ข่าวของเธอในการประชาสัมพันธ์โรงแรม ที่ในนิยายเรียกว่าโรงเตี๊ยม (คำเรียกดังกล่าวก็เป็นอีกอย่างที่แปลกใจ เพราะเป็นแนวแฟนตาซีตะวันตกเต็มตัว ไม่ใช่นิยายจีน) ความต้องการของเอดิทที่จะสอบเข้าเฮอร์เซโกวีน่าหรือเฮอร์เซนด้วยตนเองเพิ่งจะมีในการสอบครั้งที่สี่ ซึ่งเท่าที่อ่านทำให้เข้าใจว่า การสอบครั้งที่สี่เป็นความไม่ยอมแพ้ของเอดิท มากกว่าจะเป็นความฝันของเธอ หากผู้เขียนต้องการให้การเข้าเรียนที่นี่เป็นความฝันของเธอ ก็น่าจะให้เหตุผลในการสอบเข้าทั้งสี่ครั้ง (หรือสามครั้งหลัง) มาจากความต้องการของเธอเองมากกว่าที่จะเป็นของมารดา นอกจากนี้ ความเป็นเด็กล้างจานของเธอก็ยังมีข้อกังขาอยู่ เพราะเป็นถึงลูกสาวเจ้าของโรงแรม จะมีหน้าที่เป็นเด็กล้างจานเท่านั้นหรือ หากผมเป็นเอ็มม่า คงจะให้เอดิทต้องฝึกงานหลายอย่างมากในโรงแรมเพื่อจะรับช่วงต่อจากตนเอง และคงจะให้เอดิทได้ออกหน้าในสังคมด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะให้ลูกสาวของตนเองต้องเป็นที่ดูถูกเหยียดหยาม ทั้งในเหตุผลทางธุรกิจและความเป็นแม่ (ที่ไม่มีพ่อช่วยเลี้ยงอีกด้วย) จึงมองไม่เห็นเหตุผลที่ทำให้เอ็มม่าอยากให้ลูกสาวของตนเป็นเด็กล้างจาน และไปสมัครสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ หากจะให้เอดิทไปสอบเข้าจริงๆ ก็น่าจะเป็นเพราะอยากให้ลูกสาวของตนได้ดี มากกว่าที่จะเป็นแผนการตลาด ดังที่นักเขียนกล่าวอ้าง ด้วยความที่นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของชนชั้นล่างที่ไปสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ชั้นสูง จึงอดเปรียบเทียบกับ “หัวขโมยแห่งบารามอส” ไม่ได้ เรียกได้ว่านิยายเรื่องนี้มีกลิ่นของ “หัวขโมยแห่งบารามอส” อยู่ค่อนข้างมากทีเดียว ทั้งในด้านของความเป็นชนชั้นล่างที่ต้องไปอยู่ในโลกของชนชั้นสูง ความรู้สึกเวลาอ่านที่รื่นไหล และมีลักษณะเหมือนกับอ่านนิยายแปล แต่เอดิท โบล เองก็มีความแตกต่างจากหัวขโมยแห่งบารามอสอยู่ที่ลักษณะของโรงเรียนที่ไม่ได้มีการแบ่งแยกเป็นบ้านหรือหอ และดูเหมือนว่านักเขียนจะเน้นให้เอดิทต้องเจ็บตัวในการเรียนแทบจะทุกวิชา นอกจากวิชาปรัชญา ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่แตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ที่จะให้ตัวละครเอกมีฝีมือมาตั้งแต่ต้น การที่ผู้อ่านได้พยายามร่วมไปกับเอดิท ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ทีเดียว นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่มาเพิ่มเสน่ห์ให้กับเรื่องคือ มหาดเล็กของเอดิทที่มีชื่อว่าลิตเติลสปูน ซึ่งเหมือนกับเธอคือเป็นชนชั้นล่างที่ต้องดิ้นรนเช่นกัน และเป็นคนที่มีความสามารถด้านการเย็บปักถักร้อย นักเขียนสามารถแต่งให้เห็นถึงบุคลิกของลิตเติลสปูน หนุ่มน้อยที่ทำงานในหน้าที่อย่างตั้งใจ และมีความน่าเอ็นดู ได้อย่างเห็นภาพ ถือได้ว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ รายละเอียดเรื่องเรียนแต่ละวิชาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นักเขียนใส่ใจ ในวิชาเวทมนตร์ นักเขียนได้ให้ภาพของการเริ่มต้นศึกษาเวทมนตร์ที่น่าสนใจและแปลกใหม่สำหรับเวทมนตร์ที่มีพื้นฐานจากธาตุ ที่ให้ไปเริ่มต้นจากธาตุที่ถูกเก็บไว้ในขวดแก้ว ธาตุเหล่านั้นมีสีสันและความเคลื่อนไหวไปตามเอกลักษณ์ของตนเอง ต้องขอยอมรับว่าผมไม่เคยอ่านพบการเรียนเวทมนตร์เช่นนี้ที่ใดเลย และต้องการที่จะอ่านวิธีการเรียนเวทมนตร์ในเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ น่าเสียดายว่าเมื่อเอดิทเกือบจะถูกธาตุไฟฆ่า ทำให้การเรียนเวทมนตร์ต้องหยุดชะงักไป ขณะที่วิชาต่อสู้ป้องกันตัว ก็ให้รายละเอียดของการที่ต้องฝึกฟันหุ่นไม้ได้อย่างน่าสนใจ มีการอธิบายสาเหตุที่ผู้ฝึกการต่อสู้ต้องฝึกฟันหุ่นไม้ซ้ำๆ ว่ามีความจำเป็นอย่างไร ในขณะที่อาจารย์ผู้สอนไม่ยอมบอกสาเหตุนั้น กลับต้องเป็นเพื่อนในชั้นเรียนที่มาอธิบายแทน ก็ทำให้รู้สึกเหมือนชมภาพยนตร์กำลังภายในแบบคลาสสิกที่อาจารย์เอาแต่สั่งโดยไม่เคยอธิบายเหตุผล อีกเรื่องหนึ่งคือการเลี้ยงและควบคุมม้า นักเขียนได้ให้ภาพที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของม้าแต่ละตัว โดยเฉพาะตัวเด่นคืออัสลานและแบล็คไฟร์นั้นเห็นภาพชัดเจนมาก ตลอดจนสภาพของคอกม้าและตลาดขายม้า และวิธีการดูแลรักษาม้า ก็ทำให้รู้สึกว่าผู้เขียนเรื่องนี้ “ทำการบ้าน” มาดีมาก นอกจากนี้ยังมีการบรรยายการแต่งกายของตัวละครแบบต่างๆ ที่มีรายละเอียดของเสื้อผ้าชิ้นต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดีเช่นกัน อีกประเด็นหนึ่งที่อยากกล่าวถึงคือชื่อสถานที่ในเรื่องนี้เป็นชื่อที่มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น เฮอร์เซโกวีน่า (อดีตหนึ่งในหกสาธารณรัฐของยูโกสลาเวีย มีชื่อเต็มว่าบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา) และไฮเดนเบิร์ก (เมืองหนึ่งในเยอรมนี) ผมมีความเห็นว่าหากไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้เป็นเรื่องอิงประวัติศาสตร์ก็น่าจะตั้งชื่อเมืองใหม่เลย แต่อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวว่าโลกของเอดิท โบล คือโลกสมมติที่สถานที่ต่างๆ เหล่านั้น “บังเอิญชื่อเหมือน” ผมก็คงจะโต้แย้งอะไรไม่ได้ สิ่งที่อยากชื่นชมนิยายเรื่องนี้อีกประการหนึ่งคือความน่าติดตาม เพราะนักเขียนได้ทิ้งปมให้ผู้อ่านใคร่รู้อยู่หลายปม ตั้งแต่ ใครคือบิดาของเอดิท เพราะเหตุใดธาตุไฟจึงพยายามฆ่าเธอ ความฝันเมื่อหลับของเอดิทที่เห็นแสงสีแดง และเวทมนตร์ครันทาราคืออะไร มีความพิเศษอย่างไร เป็นต้น ผมหวังว่านักเขียนคงจะคลี่คลายปมเหล่านี้ได้อย่างสมเหตุสมผล และน่าจะค่อยๆ สางปมเหล่านี้ไประหว่างทาง มากกว่าที่จะเป็นการเฉลยรวดเดียวตอนจบ เพราะผู้อ่านก็จะมีความสนุกจากการร่วมไขปริศนาในเรื่องไปด้วย ด้านคำผิดที่ปรากฏในเรื่องนี้มีไม่มากนัก เช่น ฉัน เขียนเป็น ชั้น จอมเวท เขียนเป็น จอมเวทย์ เป็นต้น สำนวนแปลกๆ เช่น เคาะประตูจนมือจะเป็นม่าย น่าจะเป็น เคาะประตูจนมือจะเป็นง่อย มากกว่า นอกจากนั้นเป็นคำที่ไม่ตั้งใจพิมพ์ผิด เช่น เปลื้อน ที่ถูกคือ เปื้อน เป็นต้น จึงขอให้นักเขียนแก้ไขและตรวจทานให้ถูกต้อง ก็จะทำให้นิยายเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีก ------------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 3 ก.พ. 54
13
1
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น